Share

ชายาแพทย์พลิกชะตา
ชายาแพทย์พลิกชะตา
Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล

บทที่ 1

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ร่างกายร้อนผ่าวอยู่บ้าง

กู้หว่านเยว่ลืมตาขึ้นมา พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงแกะสลักขนาดใหญ่ มีกลิ่นอายโบราณหลังหนึ่ง ข้างเตียงมีชายสวมชุดแต่งงานนั่งอยู่หนึ่งคน

นี่คงฝันไปใช่ไหม แต่เหตุใดเหมือนจริงถึงเพียงนี้?

นางเบือนหน้ามองฝ่ายชาย

ฝ่ายชายผิวพรรณขาวดุจหยก ใบหน้าหล่อเหลางดงาม มองแวบเดียวก็ทำให้คนจมดิ่งสู่ภวังค์อย่างยากจะหักห้ามใจ เพียงแต่สีหน้าของเขาเย็นชาเกินไป สุ้มเสียงเองก็ไร้อารมณ์เสียนี่กระไร

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากแต่งกับข้า พระบรมราชโองการยากจะฝ่าฝืน หากเจ้าไม่ยินยอม...”

“ข้ายินยอม ข้ายินยอม!”

ชายหนุ่มรูปงามหาใครเทียบได้เช่นนี้ นางครองโสดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยได้พบพานมาก่อน ไฉนเลยจะไม่ยินยอมกันเล่า!

กู้หว่านเยว่พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจสีหน้าตกตะลึงของฝ่ายชาย ยื่นมือออกไปเกี่ยวเข็มขัดโผเข้าหาอ้อมอกของเขา

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง อ้า หอมยิ่งนัก กลิ่นหอมเย็นของชายหนุ่มรูปงาม

เห็นได้ชัดว่านี่คือครั้งแรกของฝ่ายชาย ทีแรกยังคิดปฏิเสธ แต่กลับไม่อาจต้านทานเสียงที่ดังออดอ้อนออเซาะขึ้นมาของนางได้ สติค่อยๆ เลือนรางไป ทว่า ครู่เดียวก็ทำเอากู้หว่านเยว่วิญญาณหลุดลอย

ทั้งสองเกี่ยวกระหวัดรัดรึงตลอดคืน จนกระทั่งใช้แรงกายที่มีจนหมด ถึงโอบกอดกันนอนหลับไป

.....

วันต่อมา กู้หว่านเยว่ถูกความเจ็บปวดระลอกหนึ่งปลุกจนตื่น

ตื่นขึ้นมานางก็งุนงงไป

นางข้ามภพแล้ว

ชายหนุ่มรูปงามเมื่อคืน ก็คือของขวัญจากการข้ามภพ เป็นสามีให้นางรังแก

เพียงแต่อีกครึ่งวัน เขาก็จะตายแล้ว

นี่คือนิยายทำไร่ไถนาเรื่องหนึ่งที่กู้หว่านเยว่เคยอ่าน ซูจิ่งสิงคือตัวร้ายที่น่าเศร้าที่สุดในนิยายเรื่องนี้

เขาฉลาดปราดเปรื่อง มีความสามารถทางทหาร อายุเพียงยี่สิบ ก็โจมตีพวกทูเจวี๋ยจนพ่ายแพ้ราบคาบ ไม่เพียงทวงคืนดินแดนได้ ยังสามารถบีบคั้นให้พวกทูเจวี๋ยลงนามในสัญญาได้อีกด้วย

เพราะสาเหตุนี้ เขาจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจิ้นเป่ยอ๋อง ทั้งครอบครัวพลอยได้ดิบได้ดีมีวาสนาไปกับเขาด้วย

ทว่าหลังฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์แล้ว กลับกริ่งเกรงในอำนาจบารมีของเขา แสร้งพระราชทานสมรส แต่แท้จริงแล้วคือหาโอกาสลอบสังหาร

อีกเดี๋ยว เขาจะถูกเรียกตัวเข้าวัง ถูกยึดทรัพย์เนรเทศไปยังหนิงกู่ถ่าข้อหากบฏ สุดท้าย ร่างกายได้รับพิษ พิษกำเริบจนตายกลางทาง

ชายาของเขาก็คือตนเอง ทุกวันลำบากยากเข็ญ เดินขาแทบหักไปถึงสถานที่เนรเทศอย่างยากลำบาก กลับหนาวตายเพราะหิมะตกหนัก

กู้หว่านเยว่ : …นิยายข้ามภพ X นี่ นางร้ายตัวประกอบ X นี่!

“ท่านอ๋อง ฝ่าบาทมีรับสั่งเชิญท่านเข้าวังในทันที”

มาแล้วมาแล้ว ฮ่องเต้ชั่วต้องการลงมือกับซูจิ่งสิงจนแทบรอไม่ไหวแล้ว!

กู้หว่านเยว่เผยสีหน้าโศกเศร้า อิงตามกฎของนิยายข้ามภพทั่วไปแล้ว นางต้องข้ามภพกลับไปไม่ได้เป็นแน่

หนีก็หนีไม่ได้ ต้าฉีมีระบบสำมะโนครัว นางหนีไปแล้วก็กลายเป็นคนไม่มีสำมะโนครัว ต้องหลบซ่อนภายในป่าชั่วชีวิต

นั่นก็หมายความว่า เว้นเสียแต่หย่าร้าง ชาตินี้นางก็ต้องผูกติดกับซูจิ่งสิงไปจนตาย

หากซูจิ่งสิงตายแล้วนางก็ต้องกลายเป็นม่าย นางไม่อยากเป็นแม่ม่ายฮือฮือฮือ...

ช้าก่อน! มิติวิเศษของนางคล้ายมียาถอนพิษหนึ่งเม็ด

“ท่านอ๋องช้าก่อน ข้ามีของมอบให้ท่าน”

“สิ่งใด?” ซูจิ่งสิงเปลี่ยนสวมชุดยาวสีดำปักลายหม่าง เนตรขนงเยียบเย็น เทียบกับความเร่าร้อนเมื่อคืนแล้วกลับกลายเป็นคนละคน

แสร้งสุขุม!

กู้หว่านเยว่เงียบลง แต่นางยังไม่ลืมธุระสำคัญ หยิบยาถอนพิษออกจากมิติวิเศษ

“นี่คือยาถอนพิษร้อยพิษมิกล้ำกลายที่ท่านแม่ข้าทิ้งไว้ให้ ยกให้ท่านแล้ว ท่านกินมันก่อนเข้าวังเถอะ”

“เจ้าคิดว่าข้าเข้าวังแล้วจะเกิดเรื่องใด?”

แหม ชายคนนี้ไม่โง่นี่

กู้หว่านเยว่ผายมือ “ข้ามิได้พูดเช่นนี้เสียหน่อย อย่างไรเสียนี่ก็คือของดี ท่านรีบกินมันเข้าไปเถอะ”

ซูจิ่งสิงมองนางสายตาซับซ้อนแวบหนึ่ง คล้ายอยากมองให้ออกว่ากู้หว่านเยว่รู้เรื่องใด แต่อีกฝ่ายมีไหวพริบจนน่าประหลาดทำให้เขาอ่านไม่ออก

สุดท้ายเขารับยาและกินลงไป ก่อนจากไปยังเอ่ย “...ขอบคุณมาก”

“ไม่ต้องขอบคุณ!”

กู้หว่านเยว่รับคำอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งยังอดทนไม่มากพอจะพูดไร้สาระกับเขามากเกินไปนัก นางยังต้องย่อยความทรงจำในหนังสือเพียงลำพัง ส่วนซูจิ่งสิง นางมิได้ห้ามเขาเข้าวัง

สำคัญคือห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์ ภายในวังล้วนจัดการทุกอย่างไว้ดีแล้ว มิหนำซ้ำสามีนางก็กล้าหาญภักดี ต้องยังไม่เตรียมการก่อกบฏเป็นแน่ ถูกยึดทรัพย์เนรเทศเป็นเรื่องแน่นอนดุจตะปูตอกบนแผ่นเหล็ก

ต้องคิดๆ ดูว่าระหว่างถูกเนรเทศต้องทำเยี่ยงไร

นึกออกแล้ว เนรเทศมิใช่ต้องการทรัพยากรหรือ เช่นนั้นนางก็ยกเค้าคลังเก็บของของศัตรูให้หมดเลยแล้วกัน!

ชาติก่อน นางเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มที่มีมิติกักตุนสิ่งของอยู่กับตัว ขอเพียงนึกคิด วัตถุก็จะหลั่งไหลเข้ามิติของนาง ชนิดที่ว่าไม่ต้องยื่นมือออกไปจับ เทียบกับโจรยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าโจร

ใช้มิติวิเศษเคลื่อนย้ายตนในพริบตา เพียงเบี่ยงกายก็เข้าวังแล้ว

ภายในพระราชวังมีท้องพระคลังสองแห่ง แบ่งออกเป็นท้องพระคลังฝ่ายในและท้องพระคลังหลวง ท้องพระคลังฝ่ายในคือคลังเก็บทรัพย์สินของฮ่องเต้และราชวงศ์ ใส่ทรัพย์สินส่วนตนของพวกเขา เพื่อสร้างความหฤหรรษ์ใช้ชีวิตอย่างหรูหราให้ราชวงศ์

กู้หว่านเยว่ตรงไปยังท้องพระคลังฝ่ายในโดยตรง

เพียงผ่านเข้าประตู นางก็เหม่อลอย

ฮ่องเต้พระองค์นี้ช่างละโมบเสียจริง ขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน ความสามารถในการเก็บเงินยอดเยี่ยม ภายในคลังล้วนเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าหาได้ยาก ทองอร่ามเงินขาวหลายสิบหีบนับหลายร้อยล้านตำลึง ผ้าไหมผ้าแพรกองเป็นภูเขาลูกเล็ก ไข่มุกราตรีทะเลทิศบูรพาใหญ่โตเท่าไข่นกพิราบ ยังมีเกี้ยวงดงามหลากหลายแบบ

ให้ตายเถอะ รวยแล้ว!

สมบัติเหล่านี้ล้วนเป็นของนางแล้ว!

เก็บๆ เก็บเข้ามิติ!

เหล็กแผ่นเดียวก็ไม่เหลือทิ้งไว้ให้เขา!

ยังมีอาหารป่าอาหารทะเลหายากของห้องเครื่อง ยาล้ำค่าของสำนักหมอหลวง ข้าวแป้งธัญญาหารน้ำมันในคลังเสบียง กู้หว่านเยว่ทางหนึ่งวิ่งวุ่นทั่วสารทิศ ทางหนึ่งวัตถุที่มองเห็นก็คล้ายตั๊กแตนถูกกวาดพาไปจนเกลี้ยง

ก่อนจากไป นางยังนำราชลัญจกรหยกและบัลลังก์มังกรทำจากทองไปด้วย

รอจนกระทั่งออกจากวัง ร้อยล้านตำลึงเงินและวัตถุแน่นเอียดก็ถูกเก็บภายในมิติแล้ว

กู้หว่านเยว่หวนคิดถึงโครงเรื่องภายในนิยาย

ซูจิ่งสิงมีกองทัพใหญ่อยู่ในมือ อาศัยเพียงฮ่องเต้ชั่วย่อมไม่สามารถล้มเขาได้ ยังต้องร่วมมือกับเสนาบดีฝ่ายขวาหลี่กวงถิงและหัวหน้าทหารคุ้มครองเมืองเจียงเต๋อจื้อ รวมถึงขุนนางฝ่ายบุ๋นทั้งหมด

คนเหล่านี้ไม่อาจปล่อยไปแม้คนเดียว!

นางทำซ้ำแบบเดิมลอบเข้าจวนของคนกลุ่มนี้ เก็บของทั้งหมดที่สามารถเก็บได้เข้ามิติ

หลังออกมาแล้ว สุดท้ายกู้หว่านเยว่กลับมายังบ้านมารดา จวนจงฉินโหว

ภายในห้องหนังสือ เพราะบิดาชั่วของร่างเดิมจงฉินโหวขาดทุนในบัญชีหลายหมื่นตำลึง ตบแต่งมารดานางลูกสาวพ่อค้าเกลือ ผลปรากฏว่าหลังใช้สินเดิมของมารดานางจนหมดแล้ว กลับหลงอนุฆ่าภรรยา ทำให้มารดานางโมโหจนตาย

บ้านมารดาเช่นนี้ กู้หว่านเยว่ย่อมไม่ปล่อยไป

ยามเข้าประตู บังเอิญพบบิดาชั่วและอนุอวี๋กำลังสนทนาส่วนตัว

“มองความนัยของฝ่าบาทดูแล้ว คือต้องการจัดการเจิ้นเป่ยอ๋องแล้ว ก็สงสารหว่านเยว่เด็กคนนั้นเพิ่งแต่งงานเข้าไปก็...”

“ฮึ นั่นคือชะตานางอาภัพ เดิมทีต้องการให้นางแต่งเข้าไปเพื่อหาโอกาสหว่านล้อมเจิ้นเป่ยอ๋อง ใครรู้ไม่มีประโยชน์แล้ว! ใครก็ห้ามมิให้ช่วยเหลือนาง ประเดี๋ยวหายนะจะมาถึงตัว...”

“ใช่ๆ ยังดีอีกสองสามวันหว่านหรูใกล้เข้าวังเป็นพระสนมแล้ว ขอเพียงนางเป่าหูฝ่าบาท จวนโหวก็ไม่มีวันเดือดร้อนแล้ว”

“เฮ้อ หว่านหรูของพวกเรามีประโยชน์กว่าเด็กที่นางแพศยาคนนั้นคลอดมากนัก...”

กู้หว่านเยว่ที่นอกประตูกลอกตาขาว บิดาชั่วชั่วช้าอย่างที่คิดไว้ ดีมาก ท่านไม่มีจริยธรรมต่อสู้ เช่นนั้นข้าก็ไม่มีคุณธรรมแล้ว เก็บๆ ทั้งเงินทั้งสมบัติ โฉนดที่ดิน ผ้าห่มเตาไฟถ่านล้วนเก็บไปทั้งหมด

กระดาษชำระก็ไม่เหลือทิ้งไว้ให้เขาแม้แผ่นเดียว

ยังคิดเข้าวังเป็นพระสนม?

คิกๆ...ต้องดูก่อนว่าฮ่องเต้ชั่วยังมีเงินเลี้ยงสนมอยู่หรือไม่!

กวาดของในจวนโหวจนเกลี้ยงคล้ายโจรก็มิปาน กู้หว่านเยว่รีบนำเงินไปซื้อขาหมูจากร้านอาหารรสเลิศในเมืองหลวง ยังมีไก่ย่างเป็ดย่าง คิดได้ว่ายังมิได้เก็บของในจวนอ๋อง ก็รีบเดินทางกลับจวนอ๋องแล้ว

บัดนี้จวนอ๋องมีคนใช้งานอยู่ห้าห้อง ห้องของทุกคนล้วนไม่สามารถปล่อยผ่านได้ กู้หว่านเยว่รีบเก็บของมีค่าและสินเดิมทั้งหมดของตน

ขณะกำลังหอบหายใจอยู่นั้น เสียงเอะอะโวยวายระลอกหนึ่งก็ดังขึ้น ยังมีเสียงทุบข้าวของอีกด้วย

กู้หว่านเยว่เช็ดเหงื่อ

มาแล้ว!

พระบรมราชโองการยึดทรัพย์เนรเทศมาแล้ว!
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (9)
goodnovel comment avatar
ອິດ ພັນນະວົງ
ไม่สนุกเลย,เรี่มเรื่องมาบรรยายก่อนมันทำให้เสียเรื่อง
goodnovel comment avatar
ประไพ บุญเลิศ
ชอบๆนางเอก
goodnovel comment avatar
เกตน์ เกตน์สิรี
5555 นางเอกแสบมากๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2

    “ฝ่าบาทมีรับสั่ง เจิ้นเป่ยอ๋องซูจิ่งสิงคิดก่อกบฏ หลักฐานชัดเจน!”“นับแต่นี้ไปปลดออกจากตำแหน่ง เป็นสามัญชน ยึดทรัพย์เนรเทศไปยังหนิงกู่ถ่า ผู้ใดกล้าฝ่าฝืน ฆ่าได้ไม่ละเว้น!”ฮูหยินผู้เฒ่าทุบอกกระทืบเท้า “สกุลซูของข้าซื่อสัตย์ภักดี ไฉนเลยจะก่อกบฏได้?”หัวหน้าหน่วยยึดทรัพย์เจียงเต๋อจื้อสบถเสียงเย็น “ฝ่าบาทมีพระกระแสรับสั่งออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง เจ้ากำลังกล่าวหาว่าฝ่าบาท ทรงวินิจฉัยผิดพลาดงั้นหรือ?”ทุกคนไม่กล้าโวยวายอีก กอดกันร่ำไห้โอดครวญทหารหลวงหลั่งไหลเข้ามา ถีบเปิดประตูเรือน ทุบทำลายข้าวของทั่วทุกสารทิศคล้ายโจรก็มิปาน ไม่ว่าที่ผ่านมาเจ้ามีตำแหน่งสูงส่งเยี่ยงไร หากถูกลงโทษยึดทรัพย์ นั่นก็คือคนต่ำต้อยมองภาพวุ่นวายภายในจวนอ๋อง ฮูหยินผู้เฒ่าคิดห้าม แต่กลับถูกเจียงเต๋อจื้อผลักล้มลงกับพื้น กระดูกของหญิงชราเกือบหักถัดมา เจียงเต๋อจื้อหรี่ตามองทางญาติฝ่ายหญิงของจวนอ๋อง“เพื่อป้องกันมิให้พวกเจ้านำทรัพย์สินส่วนตัวออกไป ญาติฝ่ายหญิงทั้งหมดต้องเปลื้องผ้าตั้งแต่ใต้สะดือลงมาเพื่อตรวจสอบหนึ่งรอบ!”“ไม่ได้!”สีหน้าเหล่าญาติฝ่ายหญิงทั้งโกรธทั้งอายฮูหยินผู้เฒ่าก่นด่าออกมา “เจียงเต๋อจื

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 3

    “กบฏ ไม่ตายดี!”“สมรู้ร่วมคิดกับทูเจวี๋ย คลอดลูกชายไม่สมประกอบ!”ซูจิ่งสิงนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนกระดานเกวียน รับก้อนหิน มูลแพะและผักเน่าที่โยนเข้ามาทุกทิศทาง...ยามรบชนะกลับมา เขาคือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ปกป้องแคว้น ราษฎรล้วนโห่ร้องแสดงความยินดีบัดนี้เขาถูกใส่ร้ายข้อหากบฏ ไม่เพียงไม่มีคนขอความเป็นธรรมแทนเขา ทุกคนยังร้องตะโกนใส่ กลายเป็นคนบาปที่ทุกคนตราหน้าหันมองไปที่คนอื่น ๆ ของสกุลซู แต่ละคนเกือบซุกหน้าลงบนบ่าแล้วฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง “เวรกรรม สกุลซูของข้าตกต่ำถึงขั้นนี้เชียวหรือ...”นายท่านบ้านรองซูหัวหลินอดตำหนิไม่ได้ “ล้วนต้องตำหนิจิ่งสิง อยู่ดีๆ ก็คิดไม่ตก ไปสมรู้ร่วมคิดกับกบฏขายบ้านเมือง ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ทั้งครอบครัวล้วนต้องเดือนร้อนเพราะเขา ข้าเป็นคนรักศักดิ์ศรีที่สุด ถูกราษฎรกลุ่มนี้สบถด่า หน้าก็ไม่กล้าเงยขึ้นมาแล้ว ภายภาคหน้าจะใช้ชีวิตเยี่ยงไร!”นับตั้งแต่ยึดทรัพย์จนถึงตอนนี้ เริ่มแรกทุกคนยังงุนงง จนถึงตอนนี้แต่ละคนก็เกิดความคิดขึ้นมาแล้ว มีทั้งคนเชื่อว่าซูจิ่งสิงมิได้ก่อกบฏ และมีคนที่ไม่เชื่อ นายท่านรองเป็นคนแรกที่มิอาจอดกลั้นบ้านอื่นสบตากันแวบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 4

    เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นภายในสมอง ทำให้กู้หว่านเยว่ตกใจแทบแย่“เจ้าเป็นใคร?”“สวัสดีเจ้านาย ข้าเป็นผู้ดูแลระบบมิติ รับผิดชอบตอบปัญหาที่ท่านสงสัยโดยเฉพาะ”มิติคือพลังวิเศษที่นางมีตั้งแต่ชาติก่อน ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ดูแลระบบอันใด“ก่อนนี้เจ้านายอยู่ในขั้นเริ่มต้น จึงไม่ได้เปิดใช้งานฟังก์ชันของระบบ แต่อิงตามการกักตุนสินค้าเต็มพื้นที่ของท่านในวันนี้ มิติได้เปิดใช้งานผู้ดูแลระบบและอาคารทางการแพทย์ให้ท่านแล้ว”กู้หว่านเยว่หลับตาลง เพียงนึกคิดก็เข้าสู่มิติได้แล้ว ดังคาด ภายในพื้นที่กักตุนสินค้า นอกจากสิ่งของที่นางเก็บมา ก็มีอาคารทางการแพทย์เครื่องมือล้ำสมัยหลังหนึ่งทว่า เหตุใดเป็นอาคารทางการแพทย์เล่า?“ซูจิ่งสิงต้องการอาคารทางการแพทย์ เจ้าก็เปิดการใช้งานอาคารทางการแพทย์ ตกลงเจ้าของร่างคือข้าหรือซูจิ่งสิงกันแน่?”กู้หว่านเยว่ไม่สบอารมณ์อย่างมากในใจ“...” ผู้ดูแลระบบแกล้งตายไปแล้วกู้หว่านเยว่ทำเพียงสำรวจการเปลี่ยนแปลงภายในมิติ นอกจากอาคารทางการแพทย์ นางยังพบหน้าจอคล้ายศูนย์ควบคุมทำนองนั้นเพิ่มขึ้นมาในระบบอย่างหนึ่ง ข้างบนเขียนการเปิดใช้งานอาคารใหม่หลากหลายแบบอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 5

    มีนางเป็นตัวอย่าง ทุกคนล้มเลิกความคิดแล้ว แต่ละคนกัดฟันเดินไปข้างหน้าเดินออกมาอีกราวห้าลี้ กู้หว่านเยว่เห็นนางหยางเหนื่อยจนคล้ายลาแก่ ต้องการขยับขึ้นไปช่วย แต่กลับถูกนางปฏิเสธ “หว่านเยว่ เจ้า เจ้าเหนื่อย ข้าเข็น...”“ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเพิ่งแต่งเข้ามาก็ต้องถูกเนรเทศไปกับพวกเรา จะยังให้ท่านลำบากอีกได้เยี่ยงไร” ซูจื่อชิงรู้ความ เรียกซูจิ่นเอ๋อร์น้องสาวมาช่วยเข็นด้วยกันใครรู้ซูจิ่นเอ๋อร์ตัวเล็กแต่อารมณ์ร้าย ใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ไม่พอใจ “ข้าเหนื่อยจะตายแล้ว เข็นไม่ไหว ก็ควรให้กู้หว่านเยว่เข็น ใครให้นางเป็นดาวหายนะทำให้พวกเราต้องถูกเนรเทศกันเล่า”“น้องหญิง เจ้าพูดส่งเดชอันใด เรื่องนี้ตำหนิพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้”ซูจื่อชิงโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เหตุใดน้องหญิงคิดเห็นเฉกเดียวกันกับบ้านเหล่านั้นได้เล่า?สีหน้าซูจิ่นเอ๋อร์กลับเปลี่ยนไปแล้ว รู้สึกเกลียดกู้หว่านเยว่เพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งส่วนอยู่ภายในใจกู้หว่านเยว่คร้านจะตามใจอารมณ์ของคุณหนูใหญ่ “เจ้าเองก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเอ็นดูเจ้าที่สุด บัดนี้เขาหมดสติยังไม่ฟื้น ปรากฏว่าแม้แต่เข็นเกวียนของเขาสักเล็กน้อยเจ้าก็ไม่ยินดี ช่างเอ็นดูอย่างเสียเปล่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 6

    ซูจิ่งสิงไม่รู้ว่าตนตื่นตั้งแต่เมื่อไร“ดีเหลือเกิน พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้ว”ซูจื่อชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกพี่ใหญ่ตื่นแล้ว ในที่สุดเรื่องพี่สะใภ้ใหญ่ก็มีกำลังหนุนแล้ว“พยุงข้าหน่อย” ซูจิ่งสิงยื่นมือออกมาอย่างอ่อนแรง พอนั่งพิงหัวเตียงได้แล้ว เขาก็มองดูกู้หว่านเยว่ที่ยืนอยู่คนเดียวด้วยสายตารู้สึกผิด“ขอโทษนะ”ไม่เพียงแต่ทำให้นางเดือดร้อน แต่ยังทำให้นางถูกตระกูลซูหยามเหยียดกู้หว่านเยว่สบตาเขา ตกตะลึงไปเล็กน้อยแล้วรีบร้อนพูดว่า “ไม่ต้องขอโทษข้าหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”ยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็ไม่สนใจวาจาของพวกคนขยะแต่นางไม่คิดว่า ซูจิ่งสิงจะปกป้องนางทว่ากลับเป็นคนอื่นๆ ในห้องที่อดกลั้นไว้ไม่ไหว และไม่สนว่าบาดแผลของซูจิ่งสิงเป็นอย่างไร กระโจนเข้ามาถามว่า“จิ่งสิง เจ้าขอโทษนางมันหมายความว่าอย่างไร? เจ้าคิดว่าพวกเราเหล่าผู้เฒ่าทำผิดหรือ?”หากไม่หย่าภรรยา หรืออยากเห็นนางทำลายตระกูลหรือ?!“รีบหย่ากับนางเสีย ขอเพียงเจ้าหย่ากับนาง พวกเรายังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน”“...”ครอบครัวเดียวกัน?ฮะๆ... ช่างเป็นครอบครัวเดียวกันที่แสนประเสริฐยามเขายังเป็นเจิ้นเป่ยอ๋อง ไม่เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 7

    เมื่อซูจิ่นเอ๋อกลับมา น้ำตาบนใบหน้าของนางก็เริ่มแห้ง มุมปากยังขดเม้มอย่างไม่ชอบใจอยู่เมื่อเดินผ่านกู้หว่านเยว่ นางจงใจแค่นเสียงตะคอก ก่นด่าไปหลายคำ“ดาวไม้กวาด[footnoteRef:1] บ่างช่างยุ สุนัขจิ้งจอก!” [1: หรือดาวหาง คติชนจีนบอกว่าดาวหางจะกวาดล้างผู้คน หากพบเห็น จะเกิดสงครามหรือภัยธรรมชาติ ส่วนความหมายของสมัยใหม่คือ เป็นคำสาปแช่งบุคคลที่จะนำภัยพิบัติหรือโชคร้ายมาสู่ตน มักใช้กับผู้หญิงเป็นหลัก] สุนัขจิ้งจอกนางยอมรับ แต่อีกสองคำนั้นนางไม่ยอมรับกู้หว่านเยว่เหลือบมองหญิงสาว ได้กลิ่นซาลาเปาเนื้อบนตัวของนางโชยมา พลันพูดเสียงดังว่า “ซูจิ่นเอ๋อ เหตุใดปากเจ้าจึงมันเยิ้มเช่นนั้น? เศษเนื้อเองก็ติดอยู่ที่ปาก เจ้าแอบไปกินซาลาเปาเนื้อลับหลังพวกเราหรือ?”“ไม่ ไม่ใช่เสียหน่อย!”ซูจินเอ๋อรู้สึกผิด รีบเช็ดมุมปากทันที สายตามองไปที่ซูจิ่งสิงและคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะได้ยินกู่หว่านเยว่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“เจ้าหลอกข้า?”ใบหน้าของซูจิ่นเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ นางกัดฟันแล้วพูดว่า“เจ้าบ่างช่างยุ รอก่อนเถอะ เจ้าจะได้มีความสุขเช่นนี้อีกไม่กี่วันแล้ว!”พี่หญิงซือซือรับปากกับนางแล้ว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 8

    “นั่นน่ะสิ หัวหน้าใกล้จะหมดลมแล้ว นางยังพิรี้พิไรอยู่อีก”“รู้วิชาแพทย์อันใดกัน? ข้าว่านางเสแสร้งเสียมากกว่า” ชายคางแหลมคนหนึ่งกะพริบตาเล็กน้อย หยิบแส้ออกมา ตั้งใจฟาดไปที่กู้หว่านเยว่ทว่าจางเอ้อคว้าแส้ไว้ได้อย่างรวดเร็ว“เหล่าหลี ให้นางดูก่อนเถิด”เขารู้สึกว่ากู้หว่านเยว่ทำได้“นางยังเยาว์ถึงเพียงนี้ ทั้งยังเป็นอิสตรี จะรู้วิชาแพทย์ได้อย่างไร?” เหล่าหลี่ยังคงไม่ปล่อยมือกู้หว่านเยว่เลือกเซรุ่มที่ต้องการมาจากหอแห่งโอสถแล้ว เมื่อได้ยินคำเมื่อครู่ จึงมองไปหาและแดกดันว่า“เจ้ารีบห้ามข้าเช่นนี้ หรือว่าไม่อยากให้ข้ารักษาหัวหน้าของพวกเจ้าให้หายหรือ?”“เจ้า เจ้าเหลวไหล ข้าเปล่าเสียหน่อย!”เหล่าหลี่ที่ถูกคำพูดแทงก็โกรธมากเขาอายุมากกว่าซุนอู่ มีคุณสมบัติสูงกว่าซุนอู่ การคุ้มกันครั้งนี้ควรเป็นเขาที่เป็นหัวหน้า แต่เบื้องบนกลับมอบหมายงานนี้ไปให้ซุนอู่แทน...กู้หว่านเยว่มองเขาอย่างหยอกล้อ ไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับเขา ก่อนจะหยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุเซรุ่มออกมาจากกระเป๋าสะพายหลังแล้วปักลงไปที่แขนของซุนอู่โดยไม่ลังเลการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เป็นวิธีล้างพิษที่มีประสิทธิภาพที่สุดจางเอ้อไม่เคยเห็

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 9

    “ทำไมเจ้ายังไม่นอน?” “เหตุใดท่านยังไม่นอน?”ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันกู้หว่านเยว่เขย่างานเย็บปักในมือ “ข้าเอาผ้าขี้ริ้วมาเย็บเป็นถุงหอมเล็กๆ สักสองสามถุง แล้วจะใส่สมุนไพรป้องกันแมลงลงไปเจ้าค่ะ”ระหว่างทางเนรเทศ ผู้คนกินนอนในที่โล่ง งูเงี้ยวเขี้ยวขอมีให้ได้เห็นอยู่เรื่อยๆแมงป่องพิษวันนี้มันด้วยมิใช่หรือ?พกถุงหอมป้องกันแมลงไว้สักหน่อย จะได้ไม่โดนแมลงพิษกัดเอาพูดจบ กู้หว่านเยว่ก็ก้มหน้าเย็บถุงหอมต่อทว่าฝีมือการเรือนของนางไม่ค่อยดีนัก นางพลางเย็บพลางมุ่ยหน้า ราวกับว่ากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ไร้ทางแก้ซูจิ่งสิงมองแล้วก็อยากจะช่วยขึ้นมา“ข้าช่วยเจ้าเย็บดีกว่า”กู้หว่านเยว่ถามเขาด้วยรอยยิ้มจางๆ “ท่านไม่กลัวอับอายหรือ?”นางคิดว่าหากเขากล้าแสดงสีหน้ารังเกียจ นางจะหันหลังจากไปแน่นอน“สิ่งนี้มีอะไรน่าอับอายกัน?” ซูจิ่งสิงพูดอย่างเถรตรง “ข้าได้แต่นอนอยู่บนรถเข็น ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ หากเรื่องเย็บปักเล็กน้อยเช่นนี้ยังรังเกียจ เช่นนั้นถึงจะเรียกว่าน่าอับอาย”อื้ม เป็นคำตอบที่สุภาพบุรุษมาก!เจอปัญหาไม่คิดกลัว กลัวเพียงยามบุรุษเจอปัญหาแล้วยังนอนอยู่บนเตียงทำตัวเป็นนายท่าน รังเกียจนั่น รั

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1692

    หากกู้หว่านเยว่ไม่ได้คำนึงถึงขบวนที่อยู่ข้างหลัง นางถึงขั้นอยากเอาเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ในมิติออกมา และนั่งเฮลิคอปเตอร์กลับไปพบซูจิ่งสิงที่เมืองหลวงโดยตรง“ใช่ อีกสองวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว”เกาเจี้ยนร่วมวงสนทนากับกู้หว่านเยว่อย่างมีไม่บ่อยนักเขาก็ไม่ได้เจอลั่วยางมาสักพักแล้ว ไม่รู้ว่าช่วงนี้ลั่วยางทำงานในกองหมอหลวงเป็นอย่างไรบ้าง มีหนุ่มหล่อตาบอดคนไหน ฉวยโอกาสตอนที่เขาไม่อยู่ไปจีบนางหรือไม่แต่ว่าเขาค่อนข้างเชื่อใจลั่วยางจู่ๆ เวลานี้เขาก็รู้สึกว่าการมีคนรักที่มุ่งมั่นในหน้าที่การงานเป็นเรื่องที่ดีอย่างไรอย่างเช่นเขาไม่อยู่เป็นเวลานาน แต่เขากลับไม่กังวลว่าข้างกายลั่วยางจะมีคนอื่นรายล้อม แค่คิดก็รู้ว่าด้วยนิสัยของลั่วยาง ช่วงนี้ถ้าไม่เอาแต่หมกตัวอ่านตำราแพทย์อยู่ในสำนักหมอหลวง ก็ไปศึกษาอาการป่วยไม่มีเวลาไปเที่ยวสนุกแน่นอนเกาเจี้ยนหัวเราะคนเดียวระหว่างที่พวกเขากำลังเร่งเดินทาง ตอนนี้เองที่ทุกคนพบว่าฝั่งตรงข้ามของถนนมีหนึ่งคนหนึ่งม้ากำลังวิ่งเข้ามา“ใครกันที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ วิ่งสวนทางกับพวกเรา ไม่รู้หรือว่าเห็นทัพใหญ่ต้องหลบ?”เกาเจี้ยนขมวดคิ้วพึมพำเมื่อเห็นหนึ่งคนหนึ่งม้าเข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1691

    กู้หว่านเยว่มองดูมงกุฎดอกไม้ในมือ มีรอยยิ้มที่งดงามปรากฏบนใบหน้านางสวมมงกุฎดอกไม้บนศีรษะ ดวงตาโค้งงอ“ขอบคุณ”“ไม่ต้องเกรงใจ” ชวีอวี้ส่ายศีรษะนางรู้ว่ากู้หว่านเยว่ต้องไปวันนี้แล้ว ดังนั้นหลังจากมอบมงกุฎดอกไม้ให้นาง ก็หลบไปยืนที่ข้างถนนอย่างรู้ตัวแล้ว“ขอให้ท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ เทพธิดาไหมจะคุ้มครองท่านแน่นอน”“ได้”นี่คือเจตนาดีที่กู้หว่านเยว่รู้สึกได้ไม่บ่อยในหนานเจียงนางถอดมงกุฎดอกไม้ที่อยู่เหนือศีรษะลงมาดูอย่างละเอียด จากนั้นฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีคนสนใจ นำมงกุฎดอกไม้เข้าไปเก็บรักษาในมิติ เวลานี้ ภายในเมืองหลวงร่างเงาที่สวมเพ้ามังกรสีเหลืองสดกำลังเดินไปเดินมาในตำหนักอย่างร้อนใจ“ทัพใหญ่ถึงไหนแล้ว ใกล้จะถึงเมืองหลวงหรือยัง?”ซูจื่อชิงที่เพิ่งแต่งงานเสร็จร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก“พี่ใหญ่ จะเร็วเช่นนั้นที่ไหนล่ะ ทัพใหญ่มาจากหนานเจียงต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน ลองคำนวณเวลาดู นี่เพิ่งจะผ่านไปสิบวันเอง อย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกห้าวัน พี่สะใภ้ใหญ่จึงจะมาถึง”เขาส่ายศีรษะปกติพี่ใหญ่สุขุมใจเย็น ไม่ว่าเรื่องการปกครองจะยากแค่ไหน เขาก็สามารถสงบไม่แสดงอารมณ์ใดๆแต่หลังจากไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1690  

    ทันใดนั้นนางก็กระอักเลือดออกมา ก่อนจะล้มลงไปบนพื้น เพียงเสี้ยววินาทีก็สิ้นลมหายใจ เกาเจี้ยนรุดหน้าเข้าไปตรวจสอบ หลังจากนั้นก็หันไปพยักหน้าให้กับกู้หว่านเยว่ “นางตายแล้ว” “เผาเถอะ” กู้หว่านเยว่กล่าวน้ำเสียงราบเรียบ ตอนอยู่ไม่ทำความดี ตายไปก็คงกลายเป็นเพียงกองปุ๋ย “ขอรับ” เกาเจี้ยนชำเลืองมองเฟิ่งอู๋ชีแวบหนึ่ง ดูเหมือนเฟิ่งอู๋ชีจะไม่สนใจจริง ๆ สายตาไร้เยื่อใย เงียบตลอดจนถึงตอนนี้ กู้หว่านเยว่มองไปยังรูปปั้นเทพธิดาไหมอ้วนฉุองค์นั้น “นี่คือเทพธิดาไหมที่ชาวหนานเจียงอย่างพวกเจ้าเอ่ยถึงสินะ?” “ถูกต้อง” เฟิ่งอู๋ชีพยักหน้าเล็กน้อย สายตาที่มองรูปปั้นของเทพธิดาไหมนั้นแฝงไปด้วยความหวาดกลัว “พวกเราจะจัดเทศกาลไหว้เทพธิดาไหมทุกปี ขอให้เทพธิดาไหมคุ้มครองพวกเรา ให้ฟ้าฝนตกตามฤดูกาล ธรรมเนียมนี้ได้รับการปฏิบัติสืบทอดมาหลายพันปีแล้ว” กู้หว่านเยว่พยักหน้า แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมหนานเจียงจะต้องเชื่อเทพธิดาไหม แต่ด้วยความเคารพ นางยังกราบไหว้รูปปั้นเทพธิดาไหมก่อนออกเดินทาง ฮองเฮาหนานเจียงสิ้นพระชนม์แล้ว ราชวงศ์ที่เหลือยู่ก็เป็นเพียงกองทราย เวลาสั้น ๆ เพียงสองวัน ทุกอย่างก็กระจ่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1689  

    น้ำเสียงของเฟิ่งอู๋ชีปนสะอื้นเล็กน้อย เขาพยายามควบคุมอารมณ์อย่างมาก นี่คือเรื่องที่ซ่อนอยู่ภายในใจและไม่มีใครรู้ ตั้งแต่ที่เขาจำความได้ ก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่เลยสักวัน ยามที่เขาร้องไห้ ฮองเฮาหนานเจียงทำได้แค่ผลักไสเขาอย่างเบื่อหน่าย ยามเขาบาดเจ็บ สิ่งที่ได้รับมีเพียงแค่ความเย็นชา เขาเคยคิดว่า เป็นเพราะท่านแม่ครองตำแหน่งฮองเฮาอยู่ จึงทำได้เพียงหักห้ามความรู้สึก กระทั่งเห็นนางแสดงออกที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับเฟิ่งหมิงกวง แต่เฟิ่งหมิงกวงไม่เคยเห็นเขาเป็นน้องชาย การมีอยู่ของเขา สำหรับฮองเฮาหนานเจียงแล้ว ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ไม่อยากเอ่ยถึง สู้องค์ชายที่ไม่ใช่บุตรชายของนางแท้ ๆ ก็ไม่ได้ ภายใต้คำถามของเฟิ่งอู๋ชี เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของฮองเฮาหนานเจียงเปลี่ยนไป แสดงออกถึงความรู้สึกผิดที่ถูกปลดปล่อยออกมา “หากเลือกได้ ข้าไม่ให้เจ้าเกิดมาเสียดีกว่า” นางโพล่งออกไป ราวกับรู้ว่าจะไม่มีชีวิตยืนยาว จึงอยากพูดความในใจ “เจ้ารู้หรือไหมว่าข้าเกลียดเจ้ามากเพียงใด?” “ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าของเจ้า ก็มักจะนึกถึงผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยสนใจเจ้า” นัยน์ตาของนางเย็นยะเยือก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1688  

    “ลูกทรพี คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าพาคนอื่นมาถึงที่นี่ เทพธิดาไหมลงโทษเจ้าอย่างแน่นอน” เกาเจี้ยนที่กำลังร้อนใจโฉบบินมาตรงหน้า “หยุดพูดจาเหลวไหลได้แล้ว ท่านหมดหนทางหนีแล้ว เหตุใดยังไม่ยอมแพ้อีก” นัยน์ตาของฮองเฮาหนานเจียงเลื่อนมาหยุดตรงหน้าของกู้หว่านเยว่ “เจ้าคือพระมเหสีแห่งต้าฉีสินะ เจ้าไม่เหมือนสักนิด” กู้หหว่านเยว่เลิกคิ้วสูง ฮองเฮาหนานเจียงมองพิจารณานาง ในขณะเดียวกันนางเองก็มองพิจารณาคนที่อยู่ตรงข้ามด้วย “ท่านไม่เหมือนกับที่ข้าคิดไว้เช่นกัน” นางคิดว่าฮองเฮาหนานเจียงจะเป็นสตรีที่มักใหญ่ใฝ่สูง ใบหน้าคงเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดและเจ้าแผนการ แต่เวลานี้กลับพบว่ารูปร่างของฮองเฮาหนานเจียงดูอ่อนแอมาก หากไม่ใช่เพราะเห็นสายตาที่เฉลียวฉลาดคู่นั้น ก็คงคิดไม่ถึงว่านางจะเป็นคนทะเยอทะยานเช่นนี้ “หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร คำกล่าวนี้ฮองเฮาทรงเข้าใจเป็นอย่างดี บัดนี้หนานเจียงพ่ายแพ้ ข้าเองก็ตกอยู่ในมือของพวกเจ้าแล้ว จะฆ่าจะแกงยังไงก็แล้วแต่พวกเจ้าเถอะ” ฮองเฮาหนานเจียงหลับตาก่อนหมุนตัวกลับไปคุกเข่าตรงหน้าของเทพธิดาไหม ปากขยับบ่นพึมพำ กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟัง ซึ่งโดยส่วนใ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1687  

    “แย่แล้ว นางคงไม่ได้หนีไปแล้วหรอกนะ?” เกาเจี้ยนตบหน้าตักของตัวเอง ฮองเฮาหนานเจียงผู้นี้เป็นบุคคลสำคัญ ทางที่ดีควรจับนางให้ได้ ถึงจะสามารถยุติสงครามได้ หากปล่อยให้นางหนีไป ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่านางจะไม่มีวันย้อนกลับมาอีกในสักวันหนึ่ง ถึงอย่างไรฮองเฮาหนานเจียงก็เป็นฮองเฮาของหนานเจียงมายี่สิบกว่าปีแล้ว ในหนานเจียงนางยังพอมีอำนาจอยู่บ้าง แค่นางปรากฏตัวและเอื้อนเอ่ย ถึงตอนนั้นอาจจะมีคนในความลับที่ซื่อสัตย์ต่อนางกลับไปหานาง ทำให้นางกลับมาชีวิตชีวาอีกครั้งก็เป็นได้ กู้หว่านเยว่เกิดความกังวลขึ้นมาเล็กน้อย นางอยากให้ระบบค้นหาว่าฮองเฮาหนานเจียงอยู่ที่ใด แต่นางไม่เคยเจอฮองเฮาหนานเจียงมาก่อน ดังนั้นระบบจึงค้นหาไม่ได้ “นางหนีไปไม่ได้หรอก” เฟิ่งอู๋ชีโพล่งออกไปทันที แววตาของทั้งสองคนเลื่อนมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเขา เขาหัวเราะอย่างข่มขืนหนึ่งเสียง แล้วเดินมาตรงหน้าของกู้หว่านเยว่ “พระมเหสี หากท่านเชื่อข้า โปรดตามข้าไปยังที่ที่หนึ่ง ข้ารับรองว่านางอยู่ที่นั่น” “ที่ไหน?” กู้หว่านเยว่กล่าวถาม อธิษฐานชีกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตามข้ามาเดี๋ยวก็รู้เอง แต่ที่แห่งนี้เป็นดินแ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1686

    เฟิ่งอู๋ชีดูซีดเซียวลงมาก ในช่วงแรก ๆ เขามีจิตใจฮึกเหิมและมีชีวิตชีวา แววตาคู่นั้นเจือไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ บัดนี้กลับปล่อยให้หนวดเครารกรุงรัง ซึ่งพอจะคาดเดาได้ว่าที่ผ่านมาในใจของเขาต้องดิ้นรนมากเพียงใด “ข้าคิดดีแล้ว” นัยน์ตาของเฟิ่งอู๋ชีฉายแววเคร่งขรึม “ในช่วงที่ข้าอยู่ต้าฉี มีคนเคยถามถึงความเป็นอยู่ของข้างบ้างหรือไม่? เคยมีคนสนใจว่าข้าจะเป็นหรือจะตายบ้างหรือไม่ ท่านแม่ผู้สูงศักดิ์ของข้าผู้นั้นไม่เคยเห็นข้าเป็นบุตรชายของนาง นัยน์ตาของพวกเขามีเพียงพี่หญิงใหญ่ของข้าเพียงผู้เดียว” ในขณะเดียวกัน เฟิ่งหมิงกวงก็ไม่เคยเห็นเขาเป็นน้องชาย เฟิ่งอู๋ชีถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าขอเพียงเรื่องเดียว หวังว่าท่านจะตอบรับข้า” กู้หว่านเยว่พยักหน้า “ว่ามาสิ” เฟิ่งอู๋ชีกล่าวอย่างจริงใจ “ราษฎรแห่งหนานเจียงล้วนแต่เป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ข้าหวังว่าท่านจะปล่อยพวกเขาไป อย่าให้พวกเขาต้องไร้บ้าน และอย่าให้หนานเจียงต้องเจอกับการสูญเสียนับไม่ถ้วนอีกเลย” หนานเจียงคือบ้านเกิดเมืองนอนของเขา และเป็นสถานที่ที่งดงามมากแห่งหนึ่ง เขาไม่อยากเห็นบ้านเกิดของตัวเองกลายเป็นร่องรอยแห่งความเจ็บปวดจากสงคราม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1685

    ระหว่างเดินทางกลับ ภายในใจกู้หว่านเยว่เกิดความคิดมากมายได้เห็นจดหมายของซูจิ่งสิง จู่ๆ นางก็ไม่ร้อนใจแล้วถือกล่องกลับเข้ากระโจมของตน อีกทั้งยังเข้าไปอาบน้ำภายในมิติ ถึงออกมาเปิดจดหมายอ่านอย่างละเอียด“เห็นอักษรดุจได้พบหน้า น้องหญิง ราชสำนักสงบเรียบร้อยดี”“เรื่องแต่งงานของจื่อชิง กำหนดไว้วันที่ห้าเดือนหน้า”“หนานเจียงเป็นเช่นไร ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้หรือไม่?”“หวังว่าจะกลับมาในเร็ววัน ข้ามีเรื่องสำคัญต้องการปรึกษากับน้องหญิง บางทีอาจเกี่ยวข้องกับพี่ใหญ่”เดิมทีมุมปากกู้หว่านเยว่ผลิยิ้มอ่อนหวาน จู่ๆ ก็นิ่งเงียบไป นางอ่านจดหมายอย่างละเอียดหนึ่งรอบสุดท้ายแน่ใจว่าเนื้อความในจดหมายไม่ผิดไป อาจเกิดเรื่องกับพี่ใหญ่ของนางแล้ว“ครั้งก่อนตอนแยกจากกัน แม้พี่ใหญ่ไม่พูดออกมาให้ชัดเจน แต่ข้าเองก็ฟังออกว่าพี่ใหญ่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาบางอย่าง”กู้หว่านเยว่เก็บจดหมาย ขมวดคิ้วแน่น หรือว่าจะเกิดเรื่องกับพี่ใหญ่แล้ว?จงลี่วิชายุทธ์สูง องค์รักษ์ข้างกายล้วนเป็นปรมาจารย์ทั้งสิ้น มีเรื่องอะไรทำให้เขารับมือยากกันนะกู้หว่านเยว่ใคร่ครวญครู่หนึ่ง หยิบพู่กันขึ้นมาเขียนจดหมายหนึ่งฉบับ“ข้าจะรีบย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1684

    ทันทีที่เข้ามา เกาเจี้ยนก็เอ่ยถามอย่างทนรอแทบไม่ไหวกู้หว่านเยว่ดื่มน้ำก่อนหนึ่งแก้ว กระแอมไล่เสียง“อย่าเพิ่งรีบ ข้าจะเล่าให้พวกเจ้าช้าๆ เรื่องนี้ยาวยิ่งนัก”จากนั้นนางให้ทั้งสองคนขยับขึ้นมาข้างหน้า เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอุโมงค์เหมืองให้พวกเขาทั้งคู่ฟัง แน่นอนว่าส่วนของมิตินั้น นางหลีกเลี่ยงไปได้อย่างแนบเนียน“ศาสตร์ความเป็นอมตะ?”เกาเจี้ยนได้ยินมุมปากก็กระตุกริกกู้หว่านเยว่มองเขาอยากแปลกใจ “ท่านยิ้มอันใด?”“ข้าแค่ยิ้มที่คนเหล่านี้คิดเพ้อฝัน พวกเราเป็นคนมีกายเนื้อ ไฉนเลยจะมีความเป็นอมตะ? มากที่สุดก็อายุยืนมากหน่อยเท่านั้น”“ยิ่งไปกว่านั้นทางที่พวกเขาเลือกเดิน เพียงได้ยินก็รู้ว่าชั่วร้าย เพียงแค่ไม่ได้รับผลกระทบก็ดีมากแล้ว”เขาส่ายหน้า สีหน้าหมิ่นแคลนกู้หว่านเยว่ลอบถอนหายใจ คนผู้นี้สมเป็นสหายที่ดีของซูจิ่งสิงคนทั่วไปได้ยินศาสตร์ความเป็นอมตะ ใบหน้าล้วนเผยแววกระตือรือร้นอย่างบ้าคลั่งแม้แต่ตอนที่ชวีเฟิงได้ยินเจ้าสิ่งนี้ ชั่วขณะนั้นก็เผยความละโมบออกมาจนนางจับได้ทว่าตั้งแต่เริ่มจนจบสายตาเกาเจี้ยนแหลมคม ไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ ส่วนทางด้านอวิ๋นมู่เองก็ไม่ใส่ใจในเรื่อง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status