เบอา ฤทธิ์ไกร เธอเป็นผลพ่วงของการนอกใจของพ่อ สาวลูกครึ่งโปรตุเกสที่แม่ไม่เลี้ยง เธอต้องเติบโตมากับพ่อและแม่เลี้ยงที่ดูแลราวกับเธอเป็นลูกในไส้ พ่อใช้เงินเก็บที่เก็บมาทั้งชีวิตและเงินบำเหน็จลงทุนกับสวนยางในอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของภาคใต้ และพาครอบครัวอพยพมาอยู่ตั้งต้นชีวิตใหม่ นาวินทร์ ผาสุก หรือนายหัวนาวินทร์ เจ้าของสวนยางและกิจการเกี่ยวข้องกับยาง ผู้มีอิทธิพลและร่ำรวยของเมือง ชายหนุ่มมากรักที่มีผู้หญิงเก็บมากมาย เขาพบเธอขณะที่เธอเป็นเพียงสาวน้อยวัยสิบแปดปีเพื่อนของน้องสาว แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปเด็ดขาด แต่แล้วในวันหนึ่ง เธอกลับพบว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเพียงคนเดียวของเขา นายหัวนาวินทร์มีผู้หญิงคนอื่นและมันทำให้เธอเจ็บปวด เธอยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ กรุ่นโกรธ ทั้งยังทิฐิ จึงทำให้เธอเดินทางไปเรียนต่อในเมืองหลวง ทิ้งเรื่องราวทุกอย่างไว้ที่อำเภอนั้นและไม่กลับไปอีกเลย จวบจนสวนยางเริ่มตกต่ำ เธอจึงต้องกลับบ้านเพื่อช่วยเหลือครอบครัวและพบว่า พ่อได้กู้เงินจากนายหัวจำนวนมากเกินกว่าที่จะชำระได้ทันตามกำหนด
View Moreบทที่ 1-1
คำก็เด็กบ้านๆ สองคำก็เด็กบ้านๆ
ไม่ชอบก็ผ่าน ไม่ต้องการก็ไป
มาว่าผมไม่ดี ผมไม่ว่าไหร
แต่อย่ามาเที่ยวดูถูกหัวใจ..ของเด็กเลี้ยงวัว
แว่วเสียงเพลงดังลอยมาไกล ๆ ขณะที่ร่างบอบบางในชุดนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปั่นจักรยานกลับบ้านผ่านทางขรุขระเข้ามาในสวนยางขนาดใหญ่ที่เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่
อากาศของที่นี่มักร้อนชื้นจนเหนอหนะตัว แม้ว่าเธอพยายามปรับตัวเท่าไหร่แต่ยังคงไม่ชินเสียที
ดวงตากลมโตมองแสงแดดลอดผ่านแมกไม้ พลางนึกถึงเมืองที่เธอจากมา ซึ่งแต่เดิมครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในเมืองหลวงหรือกรุงเทพมหานคร พ่อทำงานรับราชการและเพิ่งปลดเกษียณได้ไม่นาน ความฝันอันสูงสุดของพ่อคือการทำไร่ทำสวน พ่อจึงได้ตัดสินใจทำตามความฝัน ลงหลักปักฐานในที่แห่งใหม่หลังเกษียณอายุด้วยอาชีพการทำสวนยาง
เบอา ฤทธิ์ไกร หรือ เบย์ ชื่อที่คนสนิทใช้เรียก สาวน้อยผมสั้นเลยติ่งหูมาเล็กน้อยอย่างเด็กมัธยมปลาย หน้าตารูปร่างลูกครึ่งไทยโปรตุเกส สูงโปร่งบอบบางผิวขาวราวน้ำนมกำลังลดขาตั้งจักรยานลงบนพื้นลานที่โรงเก็บรถของบ้านสองชั้น
ด้วยพ่อของเธอ นายเดชา ฤทธิ์ไกร เกรงว่าพวกเธอจะไม่อาจทนรับสภาพความลำบากเหล่านี้ได้จึงเลือกสร้างบ้านหลังขนาดย่อมไม่ใหญ่มากนัก หากแต่ทันสมัยและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้ค่อนข้างมาก ผิดไปจากบ้านของชาวบ้านในแถบนี้ซึ่งยังปลูกแบบครึ่งปูนครึ่งไม้
“กลับมาแล้วค่า”
เบอาส่งเสียงตะโกนหวานใสอันเป็นเอกลักษณะดังเข้าไปในบ้านก่อนที่เจ้าตัวจะเข้าไป พร้อมก้มลงถอดรองเท้านักเรียนหน้าบันไดบ้าน เหวี่ยงถุงเท้าลงตะกร้าหน้าบ้านแกว่งกระเป๋านักเรียนสีดำเดินตัวปลิวไปยังห้องนั่งเล่น
วี้ดดดดวิ้ววววว
“หยุดผิวปากเดี๋ยวนี้เบอา!”
สาวน้อยวัยอ่อนเยาว์สะดุ้งเฮือกตกใจเมื่อได้ยินเสียงพี่สาวตะโกนออกมาจากในครัว เธอเหวี่ยงกระเป๋าไปบนโซฟาห้องนั่งเล่นแล้ววิ่งแกมกระโดดเข้าไปในห้องครัวทันที
“ทำอะไรกินน่ะ หอมจังเลยค่ะ”
เบอาปรี่เข้าหาพี่สาวที่กำลังยืนทอดอาหารบางอย่างอยู่ข้างเตาทันสมัย สาวน้อยรูปร่างสูงโปร่งกว่าพี่สาวเข้าสวมกอดทางด้านหลังพร้อมหอมแก้มเอาใจ
ฟอดดดดดดด!!
เพียะ!
“หยุดเลยนะ สกปรก ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย”
เบอายิ้มกว้างลูบข้อมือของตัวเองปรอย ๆ เมื่อถูกพี่สาวตีเข้าที่ข้อมือ
“งั้นเบย์ไปอาบน้ำก่อนแล้วจะลงมาหาอะไรทานนะคะ”
อัญาพร ส่ายหน้าระอาใจเมื่อเห็นน้องสาวเดินไปเต้นไปออกจากห้องครัว ปีนี้น้องสาวของเธอเรียนมัธยมศึกษาปีที่หกแล้ว ปีหน้าต้องไปเรียนต่อซึ่งยังไม่รู้ว่าเบอาตัดสินใจเข้าเรียนต่อที่ไหน
เธอค่อยตักปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมขึ้นพักสะเด็ดน้ำมันแล้วจึงหันมาเห็นมารดายืนรออยู่
“เจ้าตัวแสบกลับมาแล้วเหรอ”
“ค่ะแม่ พรไล่ขึ้นอาบน้ำแล้วค่ะ”
“ดีแล้ว พ่อกลับมาจะได้ทานข้าวเย็นกันเลย”
“แล้วนี่พร คิดจะเริ่มทำงานเลยหรือเปล่า”
ทิพย์ประภาเดินเข้ามาในห้องครัว หยิบจานเปลใหญ่ออกมจากตู้แล้วจึงเทปลาที่ลูกสาวคนโตพักสะเด็ดน้ำมันไว้ใส่จานนำวางบนโต๊ะพักกลางห้องครัว
“กำลังคิดค่ะแม่ ที่อำเภอนี้ค่อนข้างเล็ก พรเลยยังไม่แน่ใจว่าจะหางานที่เหมาะกับพรได้หรือเปล่า”
ทิพย์ประภานั่งลงที่เก้าอี้ลูบแขนลูกสาวคนโตปลอบใจเมื่อเห็นใบหน้าคมคล้ายกับเธอซึมลง
“ไม่เป็นไรหรอกลูก ค่อย ๆ หาไป แม่ว่าที่จริงลูกไม่ต้องทำงานก็ได้ มาช่วยงานพ่อทำพวกบัญชี ดูแลคนงาน งานก็ล้นมือแล้ว นอกเสียจากว่าลูกอยากทำงานที่ตัวเองเรียนจบมาเสียก่อน”
อัญาพรนั่งลงข้างแม่พร้อมจับมือของทิพย์ประภาขึ้นมา
“พรเองอยากช่วยพ่อนะคะแม่ แต่พรจบคหกรรมมา พรทำพวกบัญชีอะไรไม่เป็นหรอกค่ะ ถนัดแต่เรื่องกับข้าวสะมากกว่า”
“ถ้าอย่างงั้นก็ลองหาไปนะลูก ไม่ต้องรีบ”
อัญาพรไม่ตอบอะไรเพียงพยักหน้าถอนหายใจ พยายามคิดในแง่บวกว่าอาจเป็นเรื่องดีที่พวกเราได้ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ การเปลี่ยนแปลงย่อมนำมาซึ่งสิ่งดีดีแน่นอน
บทที่ 12-1** nc จบบริบูรณ์สาวน้อยหน้าหวานลูกครึ่งโปรตุเกสนอนหลับสนิทคว่ำหน้าบนหมอนใบนุ่มจนไม่รู้เลยว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนนอนกระสับกระส่ายอยู่ข้าง ๆนาวินทร์เพียรพยายามทั้งลูบตัว ทั้งกระซิบและพลิกร่าง แต่สาวสวยยังนอนพลิกร่างกลับไปคว่ำตามเดิม ลูบผ่านต้นแขนจนถึงข้อมือบางกระทั่งถึงแหวนหมั้นเพชรเม็ดเล็กพอเหมาะอย่างที่เธอชอบเขาหงายตัวลงใช้มือก่ายหน้าผากสะกดกลั้นความต้องการยามเช้าที่พุ่งทะยานแม้ว่ายามค่ำคืนจะสุขสมไปแล้วเปลือกตาของเบอายังหลับพริ้มไม่รับรู้สิ่งรอบข้างจากความเหนื่อยอ่อนจนเขาต้องลุกขึ้นจากเตียงหยิบบุหรี่ออกไปสูบมือควานหาไฟแช็กในลิ้นชักโต๊ะแต่ไม่เจอ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนตอนพาเบอาไปทานข้าวเขาได้ฝากไว้ที่เธอ จึงเดินกลับไปยังหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเดิมที่เธอชอบใช้ขึ้นมาเขาล้วงมือควานหาและพบว่ามันอยู่ที่ก้นกระเป๋าเพราะน้ำหนักของไฟแช็กแบบซิปโป ขณะที่กำลังหยิบพลันนิ้วไปโดนแผงยาบางอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันออกมานาวินทร์หรี่ดวงตาคมกริบลงเมื่อเห็นแผงยาชัด ๆ ท่ามกลางแสงยามเช้าที่เริ่มสาดเข้ามาในห้อง เม็ดสีชมพูสวยบนแผงมีลูกศรชี้ว่าควรเริ่มทานจากเม็ดไหนไปถึงเม็ดไหนยาคุม!
บทที่ 11-3เขาหันกลับไปมองเห็นสาวน้อยออกมายืนอยู่ด้านข้างตัวรถห่มด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวเหมือนเดิม สีของผ้าห่มขาวโพลนตัดกับสีของผืนป่ายามโพล้เพล้นายหัวนาวินทร์ยังเดินขึ้นบันไดบ้านต่อจนถึงร่างของไอ้สิงห์ จากนั้นเดินเลยไปยังครัวที่ทำใหม่ปลดถังแก๊สออกมาลากจนถึงกลางบ้านเทน้ำมันเบนซินโดยรอบตัวและเทเป็นทางจนเกือบถึงประตูบ้านก็หมดเสียก่อน ยืนมองร่างที่เริ่มเย็นชืดของไอ้สารเลวอีกครั้ง“ไม่ต้องกังวลไอ้สิงห์ เดี๋ยวตัวมึงก็ร้อนแล้ว”เขาหยิบซิบโปออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดใส่เศษกระดาษนิตยสารที่หยิบมาจากในบ้านแล้ววางให้ตรงกับคราบน้ำมันเบนซินที่เริ่มระเหยจากนั้นจึงปิดประตูบ้านแล้วลงมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุดวิ่งกลับไปที่รถบรึ้ม!!นาวินทร์สะดุ้งเมื่อเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังขึ้นพร้อมกับเสียงไม้บ้านแตกลั่นเขาหันไปมองบ้านหลังเล็กที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อไว้พักผ่อนกับสาวๆ แต่บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เกือบจะทำให้เขาเสียเบอาไป“พี่วินทร์”นาวินทร์เดินกลับมาที่รถสวมกอดเบอาไว้แน่น โน้มใบหน้าลงหอมศีรษะ“ขึ้นรถเถอะ พี่จะพาไปบ้านพี่”“แต่ว่า..”“อย่าเพิ่งดื้อนะคนดี ใจพี่จะไม่ไหวแล้ว”เบอาเงยหน้ามองชายร่าง
บทที่ 11-2เอี๊ยดดดด!!นาวินทร์หักหลบรถกระบะเก่าที่สวนกับเขากลางทางขณะที่กำลังออกจากถนนเข้าท้ายสวนเห็นลาง ๆ เป็นผู้ชายสองคนมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของคนนั่งฝั่งข้างคนขับอีกหนึ่งคนเขาขับรถต่อไปอีกสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าถนนสายนี้เป็นทางส่วนบุคคลเข้าท้ายสวนของเขาโดยเฉพาะ และมีไม่กี่คนที่รู้ทางนี้เอี๊ยด!!นาวินทร์เหยียบเบรกกะทันหันเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกขนาบข้าง หล่อนดูเหมือนจะนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมสีน้ำตาลอ่อนพระเจ้า!! ระยำ ไอ้ห่าเอ้ย!!เขาหักรถเลี้ยวกลับทันที ระยะทางที่เขาขับสวนกับรถคันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานแต่ใจเขากลัวเหลือเกินว่าจะไปไม่ทันนาวินทร์เหลือบตามองผู้ชายร่างสูงผอมเกร็งผิวคล้ำที่เดินสวนออกมาบนไหล่ทางเล็ก มันเดินออกมาจากบ้านท้ายสวน สบตาตื่นตระหนกของไอ้หมอนั่นด้วยตาแข็งกร้าว แต่เขาไม่หยุดรถเวลามันกระชั้นชิดเกินไป ถ้าเขาหยุดรถถามมันตอนนี้ เบอาอาจถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเขาจอดรถดับเครื่องก่อนที่จะถึงทางเข้าบ้าน ตั้งใจไม่ให้คนร้ายอีกคนรู้ตัว เปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบปืนสั้นออกมา เปิดดูกระสุนในรังปืนแล้วหมุนปิดขึ้นไกนกค้างไว้นาวินทร์ลงจากรถกระบะคันเก่าสีดำ เดินอาดไม่กลัวเกรงสิ่งใดตัด
บทที่ 11-1บ้านหลังเล็กหรือกระท่อมที่นาวินทร์มักเรียกดูเรียบร้อยดี กลิ่นสีทาไม้เปลี่ยนจากสีไม้แดงเป็นสีไม้โอ๊ก เตียงใหญ่เขาสั่งให้เปลี่ยนใหม่เช่นกันพร้อมกับฟูกที่นอนเขาเดินออกไปดูในห้องน้ำ ช่างขาประจำทำงานดีเหมือนเคย อ่างอาบน้ำสุดหรูติดตั้งถูกต้องและงานเนี้ยบจากนั้นจึงเดินออกมาทางห้องครัวที่ทำเพิ่ม ใจคิดไปว่าบางวันอาจชวนสาวน้อยทำบาร์บีคิวนั่งเล่นนอกบ้านบ้างรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มยามนึกไปถึงดวงหน้างามของเบอา เธอคงบ่นบ้างเวลาให้ทำกับข้าวเพราะเป็นงานที่เธอไม่ถนัด แต่เขาจะคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง ยิ่งถ้าให้สาวน้อยลองนั่งบนเคาน์เตอร์ครัวหลังใหม่ขนาดความสูงกำลังพอดีแล้วมีเขาที่อยู่ตรงกลางมั่นโยกคลึงบ่อย ๆ เบอาคงจะชอบงานครัวมากขึ้นนาวินทร์ปิดประตูบ้านใส่กุญแจแล้วเดินลงบันได เวลาเย็นของป่าสวนยางมืดเร็วขนาดยังไม่ทันห้าโมงครึ่งก็เกิดเงาแสงสีอ่อนทอดยาวผ่านใบไม้ของต้นยางมายังลานจอดรถบรื้น!ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขับรถออกจากลานจอดของบ้านหลังเล็กกลางป่าท้ายสวน กลับรถวนจนล้อสะบัดเข้าสู่เลนถนนลูกรังสีแดงฝ่าสวนยางออกไปยังถนนใหญ่เพื่อไปยังสวนข้างเคียง ไปหาสาวน้อยของเขา“ไอ้ห่า ไหนว่ะ”“อ
บทที่ 10-4ยามเย็นของอำเภอเล็ก ๆ ขอบชายแดนสุดของภาคใต้ เบอาขับรถกลับจากอำเภอไปยังทางที่คุ้นเคยโดยไม่คิดเอะใจอารมณ์ยังขุ่นมัวจากเรื่องเมื่อบ่ายจนไม่ต้องการเห็นหน้านายหัวตัวต้นเรื่อง เสียงเอะอะโวยวายเมื่อเธอโทรศัพท์ไปบอก นึกภาพใบหน้าคมเข้มของนายหัวอารมณ์ฉุนเฉียวให้ยิ้มกริ่มในหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มองไปยังเบาะด้านข้าง นอกจากเสียตัวเป็นดอกเบี้ย เธอยังต้องเอาใจซื้อของขวัญวันเกิดให้เขาอีกยายเบย์ เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆจากวันนั้นในบ้านริมทะเลเธอเริ่มรู้สึกแล้วว่านายหัวนาวินทร์มีใจให้เธอ เขาให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครอีกตลอดระยะสัญญาสัญญาที่ทำกันไว้หนึ่งปีแม้ดูเหมือนว่าจะนานเกินพอแต่เบอากลับไม่คิดเช่นนั้น หนึ่งปีมันช่างสั้นเหลือเกินและเธอเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุดเป็นความทรงจำไว้ในยามที่ต้องจากกันหน้าหวานคมลูกครึ่งอมยิ้ม เมื่อวันก่อนพาเธอไปทานข้าวร้านเดิมมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเจ๊ศศิคงจะเที่ยวเอาไปเป่าประกาศ และในที่สุดเธอก็ได้ทานอาหารรสจืดสมใจแต่นายหัวกลับทำหน้าปุเลี่ยนเพราะรสชาติชืดเกินไปเธอมองไปยังข้างทางที่มีแต่ป่าสวนยางสุดลูกหูลูกตาในแถบนี้ล้วนส่วนใหญ่เป็นของนายหัวที่แบ่งให้คน
บทที่ 10-3แพรวนภากำเช็คในมือแน่น จำนวนเงินสองล้านมากโขสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ เธอลงทุนกับนายหัวไว้มากเกินกว่าจำนวนที่นายหัวเซ็นเช็คมาให้ ทั้งแรงกายแรงใจ ร่างกายของเธอพร้อมสำหรับนายหัวคนเดียวสาวร่างอวบหยิบเช็คใส่กระเป๋าสะพาย หลังจากลุกขึ้นจากโต๊ะแผนกบัญชีของโรงแรมชื่อดัง แพรวนภาไม่แน่ใจว่าคนในแผนกนี้จะสงสัยที่มาของเช็คใบนี้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายหัวถึงสั่งจ่ายเงินเป็นจำนวนมากผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ที่เธอไม่พบกับนายหัวอีกเลย เขาเหมือนหายไปจากตัวเมืองหาดใหญ่จนน่าแปลกใจ เธอพาร่างเดินผ่านโถงทางเข้ากระทั่งพบกับคนรู้จักคุ้นเคย“อ้าว แพรว ไม่เจอกันนาน”ใบหน้าอย่างคนใต้ของแพรวนภาค่อนข้างตกใจเมื่อเจอกับแฟนเก่าสมัยช่วงที่เธอเลิกลากับนายหัว ผู้ชายเลวที่ตบตีเธอสารพัดและยังปอกลอกเงินที่นายหัวให้มาจนเกลี้ยงเธอจึงพยายามเดินเลี่ยงแต่มือแข็งสีเข้มดึงไว้ ใบหน้าหล่อแต่เหี้ยมโหดยิ้มกริ่ม“จะรีบไปไหน ทำเป็นคนไม่รู้จักกันไปได้”แพรวนภารู้สึกขยะแขยงเต็มทน เธอสลัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุม มองหน้าเหี้ยมที่แฝงความหื่นกาม“ต้องการอะไร!”“ไม่เห็นยาก ดูก็รู้ว่าต้องการอะไร”“ฉันไม่มีเงินให้แกหรอกไอ้สิงห์”“โอ๊ะโอ
Comments