แชร์

บทที่ 45

ผู้เขียน: เทียนธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-15 15:24:59

บทที่ 45

“เธอนอนหรือยัง” ถามทั้งๆ ที่รู้ว่าดึกดื่นขนาดนี้ จันทริกาต้องนอนแล้ว เพราะปกติถ้าคืนไหนที่เขาไม่ได้ให้เธอขึ้นไปหา หรือเป็นฝ่ายลงมาหาเธอ เด็กคนนั้นจะหลับเร็วเป็นพิเศษ

“นอนแล้วค่ะ คุณโทร.มามีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ฉันแค่โทร.มาถามว่าเมสซี่เป็นยังไงบ้าง” ปากพูดไปตามที่สมองเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า หากแต่เสียงในใจเสียงหนึ่งกลับตะโกนก้องขึ้นมาว่า เพราะอยากได้ยินเสียงนุ่มๆ เรียบๆ ของเธอต่างหาก

“เมสซี่อยู่กับจันทร์ค่ะ ตอนนี้หลับไปแล้ว”

“ก็ดี ฉันแค่เป็นห่วงมัน”

“ไม่ต้องห่วงนะคะจันทร์จะดูแลเมสซี่อย่างดี และสมบัติทุกชิ้นของคุณในบ้านหลังนี้ยังอยู่ครบค่ะ” จันทริกาพูดกับคนโทร.มาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะเป็นการบอกกล่าวตามปกติ ทว่าหัวใจกลับปวดแปลบ เมื่อตระหนักถึงความจริงที่ว่า คุณตะวันเป็นห่วงแค่เมสซี่เท่านั้น ไม่ได้ห่วงเธอแม้แต่นิด หากจะห่วงก็คงห่วงว่าเธอจะพาใครมาขโมยของในบ้านอย่างที่เขาพูดไว้ก่อนไปมากกว่า เพราะเธอเป็นผู้ร้ายในสายตาเขามาตลอดตั้งแต่ศศิประภาตายไป จันทริกาจึงต้องบอกเขาไปเช่นนั้น หากแต่คนฟังกลับรู้สึกว่าเธอกำลังประชด

“สมบัติของฉันที่เธอว่าอยู่ครบทุกชิ้น รวมถึงเธอด้วยหรือเปล่า”

จันทริกาหน้าแดงเถือกในความมืด เมื่อถูกย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะนุ่มลง แต่จงใจทำให้เธออับอายพร้อมกับตอกย้ำความจริงว่าเธอเป็นสมบัติอีกชิ้นหนึ่งของเขา

“จันทร์ไม่ใช่สมบัติค่ะ จันทร์เป็นแค่จำเลยแค้นของคุณ”

“แล้วจำได้หรือเปล่าว่าจำเลยแค้นอย่างเธอมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง ถ้าจำไม่ได้กลับไปฉันจะได้ย้ำหนักๆ”

“จันทร์จำได้ดีค่ะ และไม่ต้องการให้คุณย้ำ คุณโทร.มาถามจันทร์แค่นี้ใช่ไหมคะ ถ้าคุณสบายใจแล้วจันทร์ขออนุญาตวางนะคะ”

จันทริกาไม่รอคำอนุญาต หลังจากพูดจบนิ้วเรียวก็กดปุ่มวางสายทันที คนถูกวางสายใส่ชักสีหน้าอยู่ครู่หนึ่งสั้นๆ พร้อมพึมพำคาดโทษเด็กอวดดีออกมาเบาๆ

“เธอกล้าวางสายใส่ฉันเหรอจันทริกา กลับไปเห็นทีจะต้องอบรมมารยาทกันแบบตัวต่อตัวสักหน่อยแล้ว”

เรียวปากหยักได้รูปเผลอคลี่ยิ้มออกมาจนได้ พร้อมกันนั้นเสียงของหัวใจก็ร่ำร้องว่าให้รีบกลับบ้านไวๆ เมื่อนึกถึงวิธีอบรมมารยาทแบบตัวต่อตัวกับจันทริกาที่ผุดพรายขึ้นมาในหัว

รังสิมันต์พาตัวเองเข้าไปอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลอง ก่อนจะขึ้นไปครอบครองเตียงนอนอันนุ่มสบายของปรัชญ์ ทว่าเขากลับไม่สามารถหลับลงได้ง่ายๆ อย่างที่คิด เมื่อเสียงที่เรียบแต่นุ่มหูกับใบหน้าหวานปนเศร้ารวมถึงความนุ่มเนียนของผิวกายของผู้หญิงซึ่งเป็น ‘สมบัติส่วนตัว’ ที่เพิ่งคุยกับเขาตอนก่อนเข้าไปอาบน้ำ ตามมารบกวนจิตใจจนว้าวุ่น

หากแต่คนที่อยู่กรุงเทพฯ ไม่รู้เลยว่า คนที่อยู่เชียงใหม่เองหลังจากวางสายไปแล้วก็ไม่สามารถหลับลงได้เช่นกัน เพียงแต่ความคิดของเธอไปในคนละทิศทางกับเขา แม้จะพยายามหักห้ามตัวเองไม่ให้คิดเพียงใด แต่ใจก็ยังดื้อ ดื้อคิดถึงคำพูดของคุณตะวันที่บอกว่า เขาจะไปหาผู้หญิงที่ดีพร้อมคนหนึ่งที่กรุงเทพฯ ถ้าเป็นเช่นนั้นตอนนี้เขาก็อาจจะอยู่กับใครคนนั้น แล้วสะบันงาเล่า เขาเอาสะบันงาไปไว้ที่ไหน ทั้งๆ ที่เขาเคยพาสะบันงามาค้างคืนที่นี่ด้วยกัน และสุดท้ายแล้วเขาจะเลือกใครมาเป็นภรรยาตัวจริงแทนศศิประภากันแน่

ขอบตาบอบบางเริ่มร้อนผ่าว ก่อนที่น้ำตาหยดใสๆ จะไหลอาบลงสองแก้ม ไม่ว่ารังสิมันต์จะเลือกใคร มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา แล้วถ้าวันนั้นมาถึงเขาจะยอมละวางความเกลียดชังที่มีต่อเธอหรือไม่ และชีวิตของเธอหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเมียลับๆ ที่รอวันให้ภรรยาของเขาจับได้ หรือเป็นเพียงคนรับใช้ซึ่งมีหน้าที่ทำงานบ้านและเลี้ยงแมวให้เขาเท่านั้น

ปรัชญ์กลับมาที่คอนโดมิเนียมในตอนบ่ายด้วยสีหน้าเคร่งขรึม รังสิมันต์ซึ่งรออยู่เห็นเพื่อนกลับมาด้วยสภาพเช่นนั้นก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นวะปรัชญ์ น้องเล็กไม่ยอมดีด้วยหรือไง”

“ยอม...”

“ยอมแบบไหน หน้าตาแกถึงได้ดูเคร่งเครียดแบบนี้” รังสิมันต์ไม่มั่นใจในคำตอบของปรัชญ์นัก เพราะมันตรงข้ามกับสีหน้าแววตาที่เหมือนมีเรื่องให้ครุ่นคิดอย่างหนักนั่นเอง

“ก็แม่เลี้ยงลักษิกาโทร.มาบอกธรินดา เรื่องฤกษ์แต่งงานของฉันกับนัสรินน่ะสิ จากที่เพิ่งจะดีกันหยกๆ ก็เลยกลายเป็นไล่ฉันกลับ แถมยังบอกอย่างเด็ดขาดว่าไม่ให้ฉันไปยุ่งด้วยอีก”

“ก็สมควร แกมันทำอะไรไม่ชัดเจนนี่หว่า ผู้หญิงที่ไหนจะรับได้” รังสิมันต์ไม่ได้ปลอบแต่ซ้ำทันที

“แกนี่มันนิสัยดีมากเลยนะ คนล้มนี่ง้างตีนขึ้นเหยียบซ้ำตลอด”

“แน่สิ โดยเฉพาะได้เหยียบคนอย่างแก รู้สึกดีเป็นบ้า” รังสิมันต์หัวเราะอย่างถูกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเข้าสู่โหมดจริงจังอีกครั้ง เมื่อเห็นสีหน้าของปรัชญ์ยังคงเคร่งเครียด “แล้วนี่แกจะเอายังไงต่อ”

“ก็ไม่เอายังไง ในเมื่อทั้งแม่ทั้งเมียอยากให้แต่งนัก ฉันก็จะแต่งให้มันจบๆ เรื่อง”

“แน่ใจเหรอว่าแกไม่มีแผนอะไรในใจ” ตาคมหรี่มองอย่างคนที่รู้นิสัยใจคอกันมานาน จึงพอจะอ่านออกว่าคนอย่างปรัชญ์ไม่มีทางยอมให้ใครบังคับให้ทำอะไรโดยที่ตัวเองไม่เต็มใจแน่นอน

“แกคิดว่าฉันมีแผนอะไร” ปรัชญ์ยังคงปากแข็งและไม่ยอมปริปากรับง่ายๆ

“ถามตัวแกเองดีกว่า แต่ไม่ว่าแกจะทำอะไร ก็ให้คิดถึงความรู้สึกของผู้หญิงทั้งสองคนด้วยนะเว้ย แกอย่าเล่นเกมหัวใจกับใคร เพราะสุดท้ายมันก็มีแต่คนเจ็บทั้งนั้น”

“แล้วแกล่ะ ไม่ได้กำลังเล่นเกมหัวใจอยู่เหรอตอนนี้”

รังสิมันต์อึ้งไปชั่วขณะเมื่อถูกปรัชญ์ย้อนถามในคำถามแบบเดียวกัน เขาไม่ได้กำลังเล่นเกมหัวใจ แต่กำลังแก้แค้นให้กับศศิประภาและลูกต่างหาก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 50

    บทที่ 50“แต่คุณปรัชญ์ขอร้องนะคะ จันทร์ไม่อยากผิดคำพูดกับ...”จันทริกายังพูดไม่ทันจบ นิ้วแกร่งเรียวยาวก็แตะลงบนเรียวปากนุ่ม เพื่อห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ“ฉันไม่อนุญาตให้เธอเห็นคนอื่นสำคัญกว่าฉัน”พูดจบนิ้วที่แตะอยู่บนเรียวปากนุ่มก็เลื่อนออก แต่เรียวปากหยักร้อนกลับเคลื่อนเข้ามาแทนที่ ร่างบางเกร็งขึ้นเพราะกลัวว่ารังสิมันต์จะทำรุนแรงเช่นเดิมอีก หากแต่จูบครั้งนี้เป็นจูบที่แสนอ่อนโยน จูบที่คล้ายจะไถ่โทษ จูบที่เว้าวอน จนอาการเกร็งนั้นมลายหายไป และยืนนิ่งให้เขาจูบอยู่เนิ่นนาน“เมี้ยว...”เสียงร้องของเมสซี่ที่ดังขึ้น ทำให้อารมณ์ที่กำลังอ่อนไหวของทั้งคู่สะดุดลง จันทริกาได้สติจึงรีบผละออกห่างจากการโอบกอดของเขาอย่างรวดเร็ว แล้วย่อตัวลงไปอุ้มเมสซี่ขึ้นมาแนบอก คล้ายกับจะใช้มันเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เขาเข้าถึงตัวได้อีกรังสิมันต์ออกจะเขม่นแมวตัวโปรดเป็นครั้งแรก แต่ไหนแต่ไรมันรู้งาน และไม่เคยทำตัวเป็นก้างขวางคอ แต่ทำไมวันนี้มันถึงมาขัดจังหวะก็ไม่รู้“ฉันเพิ่งบอกเธอไปหยกๆ ว่าไม่ให้เห็นใครสำคัญกว่าฉัน”“แต่นี่เมสซี่แมวของคุณนะคะ คุณให้อาหารมันหรือยังคะ” จันทริกาถามอย่างพอจะเข้าใจอากัปกิริยาของเมสซี่ดีว่าที

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 49

    บทที่ 49ร่างสูงเดินดุ่มไปหาคนทั้งคู่อย่างไม่รีรอ สีหน้าบอกชัดว่าไม่สบอารมณ์และไม่พอใจเป็นอย่างมาก ปรัชญ์จึงพยักหน้าให้จันทริกาหลบไปก่อน ส่วนเขาเป็นฝ่ายอยู่รับหน้ารังสิมันต์ “แกมาทำอะไรที่บ้านฉัน” รังสิมันต์ถามเสียงห้วนกระด้างอย่างไม่คิดจะเก็บอารมณ์“มาหาจันทร์”“มาหาทำไม?”“มาจีบมั้ง” ปรัชญ์ตอบกวนๆ ยิ่งเห็นรังสิมันต์ทำหน้าถมึงทึงเช่นนั้นก็ยิ่งพอใจที่ได้ยั่วให้เพื่อนโกรธได้ แต่ดูแค่ตาเดียวก็รู้ว่าที่รังสิมันต์ทำหน้าแบบนั้นก็เพราะกำลังหึงหรือไม่ก็หวงก้าง“มันใช่เวลาไหม” รังสิมันต์ย้อนถามด้วยน้ำเสียงโทนเดิม“ทีแกยังเคยคิดจีบเมียฉัน ทำไมฉันจะจีบเมียแกบ้างไม่ได้” ปรัชญ์ยักไหล่และตอบกวนๆ เช่นเดิม ทั้งๆ ที่ในใจแอบหัวเราะคนออกอาการอยู่เงียบๆ “ฉันบอกแล้วไงว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่เมียฉัน” แม้จะออกอาการว่าหึงหวงปานใด แต่ปากก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง ซึ่งนั่นกลับยิ่งเข้าทางปรัชญ์“ไม่ใช่ก็ยิ่งดีใหญ่ ฉันจะได้ทำอะไรสะดวกๆ”“แกกำลังจะแต่งงานกับน้องเล็กนะเว้ย เลวให้มันน้อยๆ หน่อยได้ไหมไอ้เวร”“หวงก้างว่างั้น”“แกแม่งกวนตีนไม่เลิกว่ะ แล้วแต่แกเถอะไอ้เลวอยากทำอะไรก็ทำ” เมื่อถูกจี้แบบถูกจุดซ้ำแล้วซ้ำอีก รังสิ

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 48

    บทที่ 48วันนี้เป็นวันหยุดของรังสิมันต์ซึ่งเพิ่งจะกลับมาจากกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ อุ้ยคำจึงลากลับบ้านไปหาครอบครัว ส่วนหนานอินซึ่งเป็นรปภ.เฝ้าป้อมหน้าบ้านก็ขอลาหยุดเช่นกัน จึงกลายเป็นว่าวันนี้จันทริกาต้องอยู่บ้านหลังใหญ่นั้นกับเจ้าของบ้านตามลำพังรังสิมันต์อยู่กับเมสซี่ในห้องนั่งเล่น ส่วนจันทริกาตากผ้าอยู่หลังบ้าน มือเล็กที่กำลังจับผ้าขึ้นแขวนบนราวตากชะงักครู่หนึ่งพลางเงี่ยฟัง เมื่อได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน ปกติแล้วหน้าที่เปิดประตูรั้วจะเป็นของหนานอินซึ่งเป็นรปภ.เฝ้าหน้าป้อม แต่วันนี้หนานอินลางาน จันทริกาจึงต้องละมือจากการตากผ้า แล้วเร่งฝีเท้าไปยังประตูหน้าบ้านอย่างรู้ดีว่าเป็นหน้าที่ตัวเอง“มาหาใครคะ” เสียงหวานถามคนที่มากดกริ่งอย่างสุภาพ ก่อนที่ดวงตาสวยปนเศร้าจะเบิกกว้างและเปลี่ยนเป็นเปล่งประกายด้วยความดีใจ เมื่อเห็นหน้าคนที่มากดกริ่งในระยะใกล้“พี่เล็ก...”เจ้าของชื่อที่เธอเรียกคือรุ่นพี่ที่เธอเคยสนิทสนมมากในตอนเรียนมัธยม เพราะเคยอยู่ชมรมดนตรีด้วยกันนั่นเอง “จันทร์...” “ดีใจจังค่ะที่ได้เจอพี่เล็ก พี่เล็กสวยขึ้นจนจันทร์เกือบจะจำไม่ได้เลยค่ะ”

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 47

    บทที่ 47สำหรับคนที่จมอยู่ในห้วงของความทุกข์ใจ วันเวลามักผ่านไปช้าเสมอ คนในบ้านที่รังสิมันต์ส่งไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าของเขา ยังไม่มีใครได้กลับมา ดังนั้นจันทริกาจึงต้องทำงานบ้านทุกอย่างแทบจะคนเดียวเช่นเดิม และยังมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่าหน้าที่ของคนรับใช้ทั่วไป นั่นคือเธอต้องคอยรองรับไฟปรารถนาของรังสิมันต์ ไม่ว่าเขาต้องการยามใด เธอก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธได้สักครั้ง จันทริการู้ดีว่าเขาทำไปเพื่อระบายความแค้นเท่านั้น หากแต่ตอนนี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเริ่มจะผูกพันกับเขาอย่างลึกซึ้งมากขึ้นทุกวัน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทำให้เธอทุกข์ใจไม่น้อย หากจะมีสิ่งที่ทำให้เธออยู่บ้านหลังนี้ได้อย่างมีความสุข ก็คงจะเป็นความน่ารักของเมสซี่กับความเอ็นดูจากลุงหนานอินซึ่งเป็นรปภ.กับอุ้ยคำเท่านั้น ส่วนเจ้าของบ้าน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังคงใจร้ายและเย็นชาใส่เธอดังเดิม แม้บางครั้งเขาเหมือนจะอ่อนโยน แต่นั่นก็เป็นเพียงเพราะเขาลืมตัว ครั้นพอเขาคิดได้ว่าเกลียดชังเธอแค่ไหน จันทริกาก็มักจะได้รับผลจากความเคียดแค้นชิงชังของเขาดังเดิมเช้านี้จันทริกาไม่ได้ทำอาหาร รังสิมันต์บอกเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 46

    บทที่ 46“คำว่าเกมหัวใจ มันไว้สำหรับคนที่มีใจให้กัน”“แกไม่ได้คิดอะไรกับจันทร์ว่างั้น” จากที่ถูกไล่ต้อนตอนนี้ปรัชญ์เปลี่ยนเป็นฝ่ายไล่ต้อนรังสิมันต์บ้าง“คิด...คิดว่าเด็กคนนั้นทำให้เมียฉันตาย”“แน่ใจว่าคิดแค่นั้น แล้วนี่แต่งตัวจะไปไหน”“กลับเชียงใหม่สิวะ จะอยู่ทำไมล่ะ ก็ผู้หญิงที่ฉันตั้งใจจะมาจีบกลายเป็นเมียแกไปแล้วนี่ หรือแกจะให้ฉันแย่งเมียเพื่อนก็ได้นะฉันไม่ถือ”“ก่อนจะถามฉัน ถามตัวเองก่อนว่าคิดจะแย่งเมียฉันจริงๆ หรือแค่อยากให้เมียตัวเองหึง”คำพูดที่เหมือนกับมานั่งอยู่ในใจเช่นนั้น ทำให้รังสิมันต์ต้องทำหน้าตึงกลบเกลื่อน แม้สิ่งที่ปรัชญ์พูดมาจะไม่ตรงกับความจริงนักแต่ก็เฉียดสุดๆ เขาไม่ได้อยากให้จันทริกาหึง แค่อยากให้เธอเจ็บจริงหรือที่ว่าต้องการแค่นั้น?รังสิมันต์ถามตัวเอง...แล้วทำไมตอนที่เด็กคนนั้นทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเขา เขาถึงได้หงุดหงิดนัก“ต้องให้ย้ำกี่ครั้งว่าเมียฉันตายแล้ว แกความจำเสื่อมหรือไงไอ้เชี่ยปรัชญ์” คนถูกต้อนคืนทำเสียงฉุนๆ ใส่“ฉันไม่ได้หมายถึงคนที่ตายแล้วเว้ย แต่หมายถึงคนที่แกอยู่ด้วยตอนนี้”“จันทริกาไม่ใช่เมียฉัน”“แล้วเป็นอะไร แค่อดีตน้องเมียที่ตอนนี้ถูกลดฐานะล

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 45

    บทที่ 45“เธอนอนหรือยัง” ถามทั้งๆ ที่รู้ว่าดึกดื่นขนาดนี้ จันทริกาต้องนอนแล้ว เพราะปกติถ้าคืนไหนที่เขาไม่ได้ให้เธอขึ้นไปหา หรือเป็นฝ่ายลงมาหาเธอ เด็กคนนั้นจะหลับเร็วเป็นพิเศษ“นอนแล้วค่ะ คุณโทร.มามีอะไรหรือเปล่าคะ”“ฉันแค่โทร.มาถามว่าเมสซี่เป็นยังไงบ้าง” ปากพูดไปตามที่สมองเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า หากแต่เสียงในใจเสียงหนึ่งกลับตะโกนก้องขึ้นมาว่า เพราะอยากได้ยินเสียงนุ่มๆ เรียบๆ ของเธอต่างหาก“เมสซี่อยู่กับจันทร์ค่ะ ตอนนี้หลับไปแล้ว”“ก็ดี ฉันแค่เป็นห่วงมัน”“ไม่ต้องห่วงนะคะจันทร์จะดูแลเมสซี่อย่างดี และสมบัติทุกชิ้นของคุณในบ้านหลังนี้ยังอยู่ครบค่ะ” จันทริกาพูดกับคนโทร.มาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะเป็นการบอกกล่าวตามปกติ ทว่าหัวใจกลับปวดแปลบ เมื่อตระหนักถึงความจริงที่ว่า คุณตะวันเป็นห่วงแค่เมสซี่เท่านั้น ไม่ได้ห่วงเธอแม้แต่นิด หากจะห่วงก็คงห่วงว่าเธอจะพาใครมาขโมยของในบ้านอย่างที่เขาพูดไว้ก่อนไปมากกว่า เพราะเธอเป็นผู้ร้ายในสายตาเขามาตลอดตั้งแต่ศศิประภาตายไป จันทริกาจึงต้องบอกเขาไปเช่นนั้น หากแต่คนฟังกลับรู้สึกว่าเธอกำลังประชด“สมบัติของฉันที่เธอว่าอยู่ครบทุกชิ้น รวมถึงเธอด้วยหรือเปล่า”จันทริกาห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status