Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาพบรักกับเมน / บทที่ 27 ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่

Share

บทที่ 27 ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่

last update Last Updated: 2025-10-12 20:00:37

บทที่ 27

ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่

         ฟางหนิงฮวาเอาซาลาเปามาส่งทุกวัน ทุกครั้งทั้งสองก็จะพูดคุยกันและสนิทกันมากขึ้น สำหรับเซียวป๋อเหวินนอกจากหมอหลิวแล้วก็แทบจะไม่มีสหายที่สามารถพูดคุยยกันเรื่องทั่วไปได้เลย ส่วนมากก็จะพูดแต่เรื่องที่เป็นทางการกับองครักษ์แล้วก็ทหารเท่านั้น แต่กับฟางหนิงฮวาเขากลับรู้สึกว่าทั้งเขาและนางมีอะไรที่คล้าย ๆ กัน ทั้งความคิดความสนใจในสิ่งต่าง ๆ จึงได้สนิทกันอย่างรวดเร็ว

         ฟางหนิงฮวาเองเมื่อได้พูดคุยกับเซียวป๋อเหวินก็เหมือนกับได้พูดคุยกับหยางจื้อเจ๋อ จึงมีความสุขทุกครั้ง

         “ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งจะมาถามความเห็นจากท่าน” ฟางหนิงฮวาพูดขณะที่เอากล่องใส่ซาลาเปาวางลงบนโต๊ะอาหารของเซียวป๋อเหวิน

         “อะไรหรือ น่าสนใจหรือไม่” เซียวป๋อเหวินถามกลับ

         “ย่อมน่าสนใจอยู่แล้ว แต่ว่าจะได้ทำหรือไม่นั้นต้องพิจารณาดูก่อน” หญิงสาวพูด

         “ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็พูดมา อ้อ...นั่งลงกินข้าวด้วยกันสิ” เซียวป๋อเหวินกวักมือให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้านั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

         “ได้อย่างไรกันเล่า” หญิงสาวปฏิเสธ “ข้าเป็นเจ้าของร้าน ท่านเป็นลูกค้า หากว่าข้านั่งร่วมโต๊ะกับท่านย่อมเป็นการไม่ให้เกียรติท่าน อีกอย่างท่านเองก็เป็นถึงเจ้าเมือง ข้าเกรงว่ามันจะไม่งาม เดี๋ยวผู้คนจะเอาไปนินทาได้เจ้าค่ะ”

         “ก็จริงของเจ้า ขอโทษทีข้าลืมตัวไปหน่อย” เซียวป๋อเหวินพยักหน้า

         “พูดความคิดของเจ้ามาเถอะ เจ้าคิดจะกระทำการอันใด ยิ่งใหญ่หรือไม่” เจ้าเมืองหนุ่มถามอีก

         “ข้าจะถามท่านว่าหากข้าคิดจะเปิดร้านอาหารในเมืองนี้ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร” หญิงสาวถาม ความคาดหวังเล็ก ๆ บังเกิดขึ้นในหัวใจ นางอยากให้เจ้าเมืองหนุ่มคิดเช่นเดียวกับที่นางคิดเอาไว้

         “อืม...” เซียวป๋อเหวินทำท่าทางครุ่นคิด “การเปิดร้านอาหารเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ว่าเปิดที่เมืองนี้ไม่ค่อยจะดีเท่าไร”

         “เหตุใดหรือเจ้าคะ” ฟางหนิงฮวาถามอย่างงุนงง เท่าที่นางดูมาก็เห็นว่าที่เมืองถู่หยางนี้ยังไม่มีร้านอาหารมากนัก คำนวณส่วนแบ่งทางการตลาดแล้วค่อนข้างใหญ่ หากจะเปิดร้านแล้วละก็นางจะต้องสู้พวกเขาได้อย่างแน่นอน

         “เป็นเพราะว่าชาวเมืองถู่หยางส่วนมากไม่ได้ร่ำรวยน่ะสิ อาชีพของพวกเขาส่วนใหญ่ก็คือการเพาะปลูกแล้วก็งานฝีมือเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้ออกมากินอาหารที่นอกบ้านบ่อยนัก ที่ร้านซาลาเปาของเจ้าขายดีก็เป็นเพราะว่าเป็นอาหารที่กินง่ายและราคาไม่แพง แต่ถ้าเป็นร้านอาหารที่ขายอาหารเป็นอาหารดี ๆ แล้วละก็คงไปได้ยากหน่อย” เซียวป๋อเหวินอธิบาย

         ตั้งแต่เขาทะลุมิติมา ด้วยความที่มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นถึงเจ้าเมืองจึงต้องศึกษาสภาพแวดล้อมของเมืองถู่หยางอย่างละเอียด ดังนั้นเรื่องพวกนี้ก็จำเป็นต้องรู้

         ฟางหนิงฮวาไม่ได้รู้เรื่องความเป็นอยู่ของชาวเมืองมากนักจึงได้แต่พยักหน้าเข้าใจ ถามกลับไปว่า “แล้วจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ”

         “ถ้าหากว่าเจ้าสนใจก็อาจจะไปเปิดที่เมืองอื่นได้ เมืองที่ใหญ่กว่านี้ มีคนอยู่มากว่านี้และผู้คนมีฐานะมากกว่านี้”

         “ถ้าเช่นนั้นคงต้องวางแผนกันอีกไกลเลยเจ้าค่ะ ไหนจะท่านพ่อท่านแม่อีก จะยอมให้ข้าไปหรือไม่ยังไม่รู้เลย” ฟางหนิงฮวาว่า

         “ว่าแต่อยากเปิดร้านอาหาร เจ้ามีทุนสักเท่าใด” เซียวเหวินหยางถามอย่างจริงจัง เพราะการเปิดร้านอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และจำเป็นต้องมีเงินมากพอสมควร

         ทว่าคำตอบนั้นก็เหมือนจะต้องทำให้เขาผิดหวัง เมื่อหญิงสาวตอบกลับมาว่า “ยังไม่มีเลยเจ้าค่ะ”

         “หากเป็นเช่นนั้นก็อย่าได้รีบร้อน เปิดร้านอาหารต้องใช้เงินหลายร้อยตำลึง ตอนนี้เจ้าต้องหาทางเก็บเงินให้ได้มากกว่านี้ก่อน” เซียวป๋อเหวินบอก เขาถึงกับกุมขมับ

         “เจ้าค่ะ ข้าจะขายซาลาเปาให้ได้เยอะ ๆ พอได้ส่วนแบ่งแล้วก็จะเก็บเอาไว้” ฟางหนิงฮวาพูดอย่างมุ่งมั่นพลางถองข้อศอกลงคราหนึ่งเป็นท่าของคนมุ่งมั่นตั้งใจในยุคสมัยที่นางจากมา

         เซียวป๋อเหวินเองก็ทำท่านี้เช่นกัน “ดี ข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่”

         เซียวป๋อเหวินวางตะเกียบลงก่อนจะยกน้ำชาขึ้นจิบ ฟางหนิงฮวาเห็นดังนั้นก็กล่าวขึ้นว่า "ถ้าเช่นนั้น ข้าขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ ที่ร้านยังมีงานต้องจัดการอีกมาก"

เซียวป๋อเหวินมองนางพลางพยักหน้าเล็กน้อย "อืม เจ้ามีงานก็ไปเถอะ ขอบคุณสำหรับอาหารเช้า"

ฟางหนิงฮวายิ้มบางๆ "เจ้าค่ะ พรุ่งนี้พบกัน"

กล่าวจบ นางลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป เซียวป๋อเหวินมองตามแผ่นหลังของนางจนลับตา รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว

        

เมื่อเซียวป๋อเหวินไปถึงจวนว่าการก็ต้องมีเรื่องให้ประหลาดใจ เนื่องขบวนของทหารจากในวังพร้อมกับเหยากงกงขันทีคนสนิทของฝ่าบาทอยู่ ๆ ก็มาปรากฏตัวขึ้นที่จวนว่าการของเมืองถู่หยางอย่างไม่ได้บอกกล่าวมาก่อน ที่พวกเขามาก็มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นซึ่งก็คือ “พระราชโองการ”

         เนื่องจากรายงานการปราบโจรภูเขาของเซียวป๋อเหวินถูกส่งไปยังเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว เมื่อฮ่องเต้ได้อ่านรายงั้นนั้นก็ทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก ครั้งนี้จึงให้เหยากงกงเดินทางนำพระราชโองการมาส่งให้ถึงมือเขาด้วยตัวเอง

         “เจ้าเมืองถู่หยาง เซียวป๋อเหวินรับราชโองการ” เสียงแหลมเล็กของเหยากงกงดังไปทั่วบริเวณ

         เซียวป๋อเหวินและเหล่าทหารต่างก็คุกเข่าลงพร้อมกันอย่างพร้อมเพียงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อฮ่องเต้และพระราชโองการที่อยู่ในมือของเหยากงกงในขณะนี้

         “ใต้หล้าแห่งนี้เป็นของฮ่องเต้ บัดนี้เจ้าเมืองถู่หยางได้อุทิศตนปกป้องราษฎร ทุ่มเทกำลังปราบปรามโจรร้ายจนหมดสิ้น สมควรแก่การยกย่อง จึงพระราชทานเงินรางวัลหนึ่งหมื่นตำลึง ตอบแทนความกล้าหาญ และเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพรักษาดินแดนเหนือ ให้ย้ายไปประจำการ ณ ฐานทัพเมืองเสวี่ยคัง”

         เหยากงกงพูดจบก็ยื่นพระราชโองการในมือให้กับเซี่ยป๋อเหวิน เซียวป๋อเหวินเองก็น้อมรับมาด้วยความยินดี

         ตั้งแต่ที่เขามาอยู่ในร่างของเซียวป๋อเหวินได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะต่อสู้ปกป้องแผ่นดินและราษฎรโดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน และก่อนหน้านี่เจ้าของร่างเองก็ทุ่มเทจนเลือดหยดสุดท้าย วันนี้ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรเห็นความทุ่มเทของพวกเขาแล้ว ราชโองการฉบับนี้ไม่ใช่เพียงรางวัลเงินตำลึงหรือยศศักดิ์หากแต่เป็นเกียรติยศสูงสุดที่นักรบพึงได้รับ

ดวงตาคมของเซียวป๋อเหวินฉายแววแน่วแน่ ฐานทัพเสวี่ยคังเป็นหัวใจสำคัญของดินแดนเหนือ ที่นั่นเต็มไปด้วยพายุหิมะและภัยคุกคามจากศัตรูต่างแคว้น เขารู้ดีว่าหน้าที่ใหม่จะหนักหนายิ่งกว่าเดิมแต่เขากลับไม่หวาดหวั่น

เขาประสานมือคำนับขันทีผู้ส่งราชโองการ เสียงของเขาหนักแน่นและเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ

"ขอบพระทัยฝ่าบาท ข้าภักดีต่อแผ่นดินและจักทำหน้าที่ให้สมกับที่ฝ่าบาททรงไว้วางพระทัย”

ข่าวการเลื่อนตำแหน่งของเจ้าเมืองถู่หยางแพร่สะพัดไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ตลาดทางทิศตะวันออกจรดเขตชานเมืองทางทิศตะวันตก ทุกตรอกซอกซอยล้วนเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยถึงเรื่องนี้ บ้างก็แสดงความยินดี บ้างก็เสียดายที่ต้องสูญเสียเจ้าเมืองผู้เปี่ยมด้วยความสามารถไป

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาภายใต้การปกครองของเขา เมืองถู่หยางรุ่งเรืองขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถนนหนทางได้รับการซ่อมแซม ตลาดคึกคักมากขึ้น คดีความได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรม ผู้คนต่างใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ด้วยเหตุนี้เมื่อข่าวการเลื่อนตำแหน่งแพร่ออกไปความปีติยินดีจึงปะปนกับความอาลัย

พ่อค้าแม่ค้าในตลาดเอ่ยถึงบุญคุณของเจ้าเมืองที่ช่วยผลักดันให้การค้าภายในเมืองเจริญรุ่งเรือง ชาวไร่ชาวนารำลึกถึงวันที่เขาสั่งการให้ขุดลำคลองเพื่อนำน้ำมาหล่อเลี้ยงผืนดิน ลดความแห้งแล้งในช่วงฤดูแล้ง แม้แต่เหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ก็ยังพูดถึงความเมตตาของเขาที่มักออกตรวจเยี่ยมประชาชนโดยไม่ถือยศถาบรรดาศักดิ์

แม้ว่าการเลื่อนตำแหน่งจะเป็นเกียรติและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่สำหรับชาวเมืองถู่หยางมันกลับเป็นเหมือนสายลมฤดูใบไม้ร่วงที่พัดพาความอบอุ่นจากไป แม่น้ำยังคงไหล ท้องฟ้ายังคงกว้างใหญ่ แต่หัวใจของผู้คนล้วนรู้สึกว่างเปล่า เมื่อคิดว่าจากนี้ไปพวกเขาจะไม่ได้เห็นเจ้าเมืองที่เคารพรักเดินตรวจตราตามถนนเช่นเคยอีกแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 30 วุ่นอยู่กับการทำศึกแต่ในใจก็คิดถึงเช่นกัน

    บทที่ 30 วุ่นอยู่กับการทำศึกแต่ในใจก็คิดถึงเช่นกัน อีกด้านเซียวป๋อเหวินตอนนี้กำลังทำศึกอยู่ที่ชายแดนเหนือบริเวณแม่น้ำฉางเป่ย การต่อสู้ครั้งนี้ใช้กองทัพเรือ เป็นการต่อสู้กับชนเผ่าเฮยจั้งที่พยายามจะตีเอาดินแดนเหนือของแคว้นรวมทั้งเมืองเสวี่ยคังด้วย เดิมทีชนเผ่าเฮยจั้งอยู่เหนือขึ้นไปหลายพันลี้ทว่าด้วยภัยความหนาวทำให้อากาศแห้งแล้ง ปลูกพืชผลก็ไม่ได้ เลี้ยงสัตว์ก็ไม่ได้ เลยทำให้พวกเขาต้องอพยพลงใต้มาตายเอาดาบหน้า หวังว่าจะมีที่ดินทำกินให้คนในเผ่าได้มีชีวิตรอด ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ชนเผ่าก็จริงทว่าชาวเฮยยจั้งนั้นรวม ๆ แล้วก็มีไม่ต่ำกว่าแสนคน ที่เป็นทหารได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็น่าจะราว ๆ สามหมื่น พื้นฐานของพวกเขาเป็นคนที่มีร่างกายที่ทรหดอดทนมาก ทั้งยังสามารถอดอาหารได้เป็นเวลานาน ทำให้ศึกครั้งนี้เซียวป๋อเหวินรับมือยากอยู่เล็กน้อย “ลูกธนู

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 29 และแล้วก็ต้องจากกัน

    บทที่ 29 และแล้วก็ต้องจากกัน ขบวนของท่านเจ้าเมืองเคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองไปแล้วท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องแสดงความยินดีและน้อมส่งท่านเจ้าเมืองไปยังเมืองเสวี่ยคัง ขบวนนั้นยาวเหยียดเต็มไปด้วยทหารที่มาจากมืองเสวี่ยคังและทหารบางส่วนที่ติดตามท่านเจ้าเมืองไปด้วย ความยิ่งใหญ่นี้ทำให้ชาวเมืองทั้งดีใจและรู้สึกเศร้าใจในเวลาเดียวกัน “พวกเราจะคิดถึงท่านเจ้าเมือง” “ท่านเจ้าเมืองอย่าได้ลืมพวกเรานะขอรับ ส่วนพวกเราจะไม่มาทางลืมท่านอย่างแน่นอน” “น้อมส่งท่านเจ้าเมือง” “ขอให้ท่านเจ้าเมืองโชคดีขอรับ” เสียงของชาวเมืองยังคงกล่า

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 28 เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย

    บทที่ 28 เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย เมื่อได้ยินข่าวว่าเซียวป่อเหวินได้เลื่อนตำแหน่งและต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองเสวี่ยคังฟางหนิงฮวาก็ทั้งดีและเศร้าใจ การที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสิ่งที่ดี อีกอย่างครั้งนี้เข้าได้เป็นถึงแม่ทัพรับรองว่าอนาคตของเขาจะต้องรุ่งเรื่องเป็นแน่ แต่เพราะเมืองเสวี่ยคังอยู่ไกล จะไปมาหาสู่กันก็ลำบาก จะพบหน้ากันเช่นทุกวันนี้ก็คงเป็นไปได้ยาก “หนิงฮวา เจ้าเองก็อยากให้เขาเจริญก้าวหน้ามิใช่หรือ แล้วจะมานั่งเศร้าทำไมกัน” ต้าเป่าเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วถามด้วยความเป็นห่วง “ที่จริงข้าก็ยินดีกับเขานั่นแหละ แต่ถ้าเขาไปอยู่ที่เมืองเสวี่ยคังข้าก็คงจะไม่ได้พบกับเขาอีก” ฟางหนิงฮวาพูดออกมาอย่างเศร้าใจ “ต่อให้ไม่ได้พบกันก็เขียนจดหมา

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 27 ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่

    บทที่ 27 ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่ ฟางหนิงฮวาเอาซาลาเปามาส่งทุกวัน ทุกครั้งทั้งสองก็จะพูดคุยกันและสนิทกันมากขึ้น สำหรับเซียวป๋อเหวินนอกจากหมอหลิวแล้วก็แทบจะไม่มีสหายที่สามารถพูดคุยยกันเรื่องทั่วไปได้เลย ส่วนมากก็จะพูดแต่เรื่องที่เป็นทางการกับองครักษ์แล้วก็ทหารเท่านั้น แต่กับฟางหนิงฮวาเขากลับรู้สึกว่าทั้งเขาและนางมีอะไรที่คล้าย ๆ กัน ทั้งความคิดความสนใจในสิ่งต่าง ๆ จึงได้สนิทกันอย่างรวดเร็ว ฟางหนิงฮวาเองเมื่อได้พูดคุยกับเซียวป๋อเหวินก็เหมือนกับได้พูดคุยกับหยางจื้อเจ๋อ จึงมีความสุขทุกครั้ง “ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งจะมาถามความเห็นจากท่าน” ฟางหนิงฮวาพูดขณะที่เอากล่องใส่ซาลาเปาวางลงบนโต๊ะอาหารของเซียวป๋อเหวิน “อะไรหรือ น่าสนใจหรือไม่&

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 26 กลับมาพร้อมชัยชนะ

    บทที่ 26 กลับมาพร้อมชัยชนะ ขบวนทัพเดินผ่านเข้าประตูเมืองมาด้วยความสง่าผ่าเผย เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เหล่าราษฎรมายืนเรียงแถวรอต้อนรับท่านเจ้าเมืองกับทหารของเขาเต็มสองข้างทาง พวกเขาต่างตั้งหน้าตั้งตาคอยวีระบุรุษผู้ปกป้องรักษาบ้านเมืองเอาไว้ รอที่จะกล่าวขอบคุณอย่างยิ่งใหญ่ เซียวป๋อเหวินขี้ม้าสีดำคู่กายเข้ามาในประตูเมืองตามด้วยทหารองรักษ์คนสนิทและเหล่าแม่ทัพนายกองอีกหลายคน เขาโบกมือและยิ้มทักทายให้กับทุกคนพร้อมประกาศชัยชนะในครั้งนี้ “ชาวเมืองถู่หยางทุกคน บัดนี้พวกโจรภูเขาทั้งหลายได้ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นแล้ว หลังจากนี้ต่อไปเมืองถู่หยางของพวกเราจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตตามปกติและทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป อย่าได้เป็นกังวล” “

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 25 กำจัดโจร

    บทที่ 25 กำจัดโจร ภายในกระโจมบัญชาการกลางค่ายทัพ ธงประจำเมืองถู่หยางปักอยู่เหนือศีรษะ ตะเกียงน้ำมันให้แสงสว่างสลัว เหล่าแม่ทัพนายกองกว่าสิบชีวิตนั่งล้อมวงรอบโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ซึ่งปูด้วยแผนที่ผืนใหญ่ที่แสดงแนวเขาและเส้นทางรอบบริเวณซ่อนตัวของพวกโจรภูเขาอย่างชัดเจนท่านเจ้าเมืองเซียวป๋อเหวินผู้มีรูปลักษณ์สง่างามในชุดเกราะสีเข้มประดับลวดลายเมฆายกมือขึ้นเรียกความสงบ "พวกเราต้องหาทางกำจัดพวกโจรโดยไม่ให้เสียเปรียบ นำกองทัพบุกโจมตีตรงๆ ย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ดี"แม่ทัพหวังเจี้ยนผู้ช่ำชองด้านการรบในพื้นที่ป่าเขากล่าวขึ้น "ท่านเจ้าเมืองกล่าวถูกต้อง ที่ซ่อนของพวกมันมีทั้งถ้ำลึกและหุบเขาคดเคี้ยว หากเราบุกเข้าไป โอกาสเสียเปรียบสูงมาก ทั้งยังมีกับดักซ่อนอยู่ทุกแห่งหน""พวกมันรู้พื้นที่ดีกว่าเรา อีกทั้งสามารถกระจายตัวซ่อนตามซอกหินและป่าได้ง่าย หากเราบุกเข้าไป ผลลัพธ์อาจกลายเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง" รองแม่ทัพหลี่ซงหยูเสริม"ดังน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status