ทะลุมิติมาเป็นแม่หัวใจแกร่ง (ยุค 80 )

ทะลุมิติมาเป็นแม่หัวใจแกร่ง (ยุค 80 )

last updateDernière mise à jour : 2025-08-25
Par:  sanvittayamEn cours
Langue: Thai
goodnovel16goodnovel
Notes insuffisantes
74Chapitres
2.7KVues
Lire
Ajouter dans ma bibliothèque

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scanner le code pour lire sur l'application

จากความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เธออยากจะลืม กลายเป็นว่าชายคนนั้นทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาไว้ให้ดูต่างหน้า หกปีผ่านไปใครจะคิดว่าเธอจะได้เจอกับเขาคนนั้นอีกครั้ง และความลับของเธอจะถูกเขาล่วงรู้หรือไม่

Voir plus

Chapitre 1

บทที่ 1 นภัสสร

บทที่ 1

นภัสสร

ไร่นภัสสร เจ้าของไร่แห่งนี้คือสาวสวยมากความสามารถคล้ายกับเบื่อเมืองกรุงจึงกลับมาที่ไร่แห่งนี้ และฟื้นฟูทุกอย่างให้กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนสมัยปู่กับย่าเธอยังอยู่ นับเวลานี้ก็เกือบห้าปีแล้วที่เธอมาฟื้นฟูสมบัติของปู่กับย่าได้ทิ้งไว้ให้

นภัสสรทำสวนผลไม้และแปลงเกษตร เธอไม่มองว่าการเป็นชาวไร่ชาวสวนนั้นน่าอาย แต่เธอกลับมองว่านี่คือสิ่งที่ทำให้เธอมีกินมีใช้ มีเงินเก็บและมีเงินจ่ายลูกน้อยอีกเกือบร้อยชีวิต และยังเลี้ยงน้องชายอีกคนจนจบมหาวิทยาลัยได้ด้วยเกียรตินิยมความภาคภูมิใจของนภัสสรคือตรงนี้

“เหนื่อยจังเลย”

นภัสสรถอดหมวกปีกกว้างออกมานั่งหลบแดดใต้ต้นไม้ใหญ่ เธอกวาดสายตามองไปยังคนงานที่ต่างก็ช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตเตรียมจะส่งขายด้วยรอยยิ้ม แม้จะเหนื่อยแค่ไหน แต่พอเห็นผลตอบรับและรอยยิ้มของทุกคนแค่นี้ก็ทำให้หญิงสาววัยสามสิบกว่าเช่นเธอก็แทบจะหายเหนื่อยเช่นกัน

“แม่เลี้ยงจะทานมื้อเที่ยงเลยไหม ป้าจะให้แจ๋วไปเตรียมให้ คุณนุกูลก็น่าจะกลับมาแล้ว”

แม่บ้านคนสนิทรีบเดินมาแจ้งนายสาวหรือแม่เลี้ยงนภัสสรที่เหล่าคนงานเรียกกัน ส่วนนุกูลคือน้องชายเพียงคนเดียวของแม่เลี้ยงนั่นเอง

“รอตากูลกลับมาก่อนดีกว่าค่ะป้า สรทานข้าวคนเดียวมานานแล้ว อยากกกินกับน้องชายบ้าง”

ไม่รู้เพราะอะไรนภัสสรจึงอยากใช้ชีวิตกับน้องชายให้มากที่สุด ในใจของเธอนั้นรู้สึกโหวงเหวง คล้ายกับจะมีเวลาอยู่กับน้องชายอีกไม่นาน

“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ คุณสรอย่าหักโหมมากจนเกินไปนะคะป้าเป็นห่วงสุขภาพคุณสรเหลือเกิน ตั้งแต่คุณกลับมาและพัฒนาไร่แห่งนี้ ป้าไม่เห็นคุณจะมีเวลาพักหรือหาเวลาไปเที่ยวที่ไหนเลย ตอนนี้คุณนุกูลก็เรียนจบกลับมาช่วยพัฒนาไร่นี้แล้ว หากคุณท่านทั้งสองยังอยู่คงภูมิใจในตัวหลานทั้งสองคนมากนะคะ”

แม่บ้านคนนี้อยู่มาตั้งแต่ปู่กับย่าของนภัสสรยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ป้านาจึงกล้าพูดคุยและตักเตือนเจ้านายสาวเรื่องสุขภาพมากกว่าคนงานคนอื่น

“สรเข้าใจค่ะป้านา ต่อไปนี้สรสัญญาว่าจะไม่โหมงานเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว อย่าลืมสิสรยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีลูกหรือมีสามีเลยนะคะ ตากูลเรียนจบมาช่วยงานในไร่ สรจะได้มีเวลาเสาะหาสามีเสียที”

นภัสสรพูดหยอกล้อ ในสมองของเธอไม่เคยคิดถึงการมีสามีมาก่อน เพราะในอดีตสมัยที่ยังเรียนเธอเคยมีคนรัก และคิดว่าหลังเรียนจบคงได้แต่งงานกับเขา

แต่ใครจะคิดว่าหลังจากคบหากันเพียงสองปี แฟนหนุ่มที่เธอรักกลับทรยศหักหลังเธอโดยการมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทของเธอเอง ตั้งแต่นั้นมา นภัสสรจึงไม่เคยเปิดใจให้กับใครอีกเลย

“สามีนะคะ ไม่ใช่ปลาทู คุณสรคิดว่าผู้ชายดี ๆ จะหาง่ายปานนั้นเชียวเหรอคะ ป้าคนหนึ่งล่ะไม่เชื่อ แต่เท่าที่ป้ารู้มีคนหนึ่งที่พอจะเข้าตา”

“ใครเหรอคะ คนที่ป้าคิดว่าเข้าตา”

นภัสสรเลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจ ตั้งแต่ป้านาจับได้ว่าสามีนอกใจเล่นชู้กับหลานสาว ตั้งแต่นั้นมาป้านาไม่เคยมองผู้ชายคนไหนดีอีกเลย

“ก็พ่อเลี้ยงจักรยังไงล่ะคะ รายนั้นทั้งหล่อทั้งรวย เสียอย่างเดียวคือเย็นชา โหดเหี้ยมไปหน่อย”

เมื่อป้านาเอ่ยชื่อทำให้นภัสสรนึกถึงชายหนุ่มวัยสี่สิบต้น ๆ ที่ใบหน้ามีแต่ความเย็นชาคนนั้นขึ้นมา หากเธอต้องมีสามีแล้วเป็นคนเย็นชาไม่พูดไม่จา เธอคงอกแตกตาย

“ถ้าเป็นพ่อเลี้ยงจักร สรขอบายนะคะ คนอะไรหน้าตาเหมือนคนที่โกรธอยู่ตลอดเวลา แบบนี้สรไม่เอาด้วยหรอก สามีสรไม่มีก็ไม่ตายค่ะ รอเลี้ยงลูกของตากูลแทน”

เมื่อพูดถึงน้องชายเพียงคนเดียวใบหน้าของนภัสสรกลับมีรอยยิ้มแห่งความอบอุ่นอย่างห้ามไม่อยู่

ป้านามองด้วยสายตาที่เอ็นดู แม่เลี้ยงนภัสสรคงขยาดผู้ชายเหมือนกับเธอ ไม่นานทั้งสองคนได้ยินเสียงรถกระบะของน้องชายขับเข้ามาในไร่พอดี นภัสสรจึงรีบเดินเข้าไปหยิบกระติกน้ำเย็น ๆ มายื่นให้น้องชายดับกระหาย เพราะงานในไร่นั้นไม่เหมือนกับงานบริษัทในกรุงเทพฯ

“กลับมาแล้วเหรอตากูล เป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหม นี่น้ำหวานเย็น ๆ พี่เตรียมไว้ให้”

“ขอบคุณครับพี่สร พี่เองก็เหนื่อยเหมือนกันพักผ่อนบ้าง ผมโตแล้วครับ ต่อไปนี้ผมจะช่วยพี่พัฒนาไร่ของคุณปู่คุณย่าให้ดีขึ้นกว่าเดิม และจะเป็นคนดูแลพี่เอง”

นุกูลบอกพี่สาวด้วยสายตามุ่งมั่น พื้นที่ด้านหลังติดเขาเป็นมรดกของปู่กับย่าที่ทิ้งไว้ให้ เขาตั้งใจจะทำฟาร์มม้าและรีสอร์ตเพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอำเภอที่เขาอยู่ ทว่าเรื่องนี้ต้องขอคำปรึกษาจากพี่สาวคนสวยเสียก่อน

“จ้า ฉันเป็นพี่สาวนะยะ ไม่ใช่ลูกสาวหรือน้องสาวนาย พูดยังกับพี่สาวคนนี้ยังเป็นเด็ก พี่ยอมเหนื่อยเพื่อให้เราทั้งสองคนมีสิ่งดี ๆ ตอนนี้ตากูลของพี่เรียนจบแล้ว พี่จะค่อย ๆ วางมือก็แล้วกัน ว่าแต่ตอนนี้เราไปกินอาหารกันก่อนดีกว่าไหม หิวจนไส้จะขาดแล้ว”

          เมื่อโดนน้องชายบ่นเรื่องที่เธอทำงานเหนื่อยเกินไป นภัสสรจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

สองพี่น้องต่างก็เดินคล้องแขนกันอย่างมีความสุขเพื่อไปที่โรงอาหารของไร่ นภัสสรและนุกูลไม่เคยแบ่งชนชั้นกับคนงาน ไม่ว่าโรงอาหารจะทำสิ่งใดสองพี่น้องมักจะกินเช่นเดียวกัน แม้บางครั้งเพื่อน ๆ ของทั้งสองคนมาที่ไร่นี้ยังต้องมากินรวมกันที่โรงอาหารเช่นกัน

นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลทำไมคนงานจึงรักและเคารพแม่เลี้ยงนภัสสรและพ่อเลี้ยงนุกูลนัก

จากวันนั้นจนถึงวันนี้เวลาผ่านมาร่วมเดือน สองพี่น้องยังคงช่วยกันทำงานเหมือนเดิม ในเวลานี้นุกูลเริ่มวางแผนงานเกี่ยวกับรีสอร์ตแล้วเช่นกัน

“พี่สร ช่วงนี้เหมือนพี่จะไม่สบายเลยไปหาหมอดีหรือเปล่า”

นุกูลมองดูว่าพี่สาวนั้นดูอ่อนเพลีย จึงอยากให้ไปตรวจร่างกายบ้าง

“พี่ไม่เป็นอะไรหรอก ช่วงนี้อาจจะนอนน้อยไปหน่อย นายเองก็เถอะ อย่าทำงานให้มากนัก พี่ได้ข่าวว่าพ่อเลี้ยงขวัญเมืองอยากได้ที่ดินติดเขาของเรา ตอนนี้จึงกลั่นแกล้งเรื่องที่นายยื่นแบบกับอำเภอไม่ผ่านไม่ใช่เหรอ หากมันยุ่งยากและเสี่ยงอันตราย พี่ว่านายพับเก็บโครงการไปก่อนดีหรือเปล่า”

นภัสสรไม่ได้ห่วงตัวเองแต่ห่วงความปลอดภัยมากกว่า วันก่อนเธอได้พบกับพ่อเลี้ยงจักร ไม่รู้ว่าทำไมพ่อเลี้ยงจึงส่งคนมาพูดคุยเรื่องนี้

“ผมระวังตัวอยู่ พี่สรไม่ต้องเป็นห่วง จริงสิ ยายส้มจี๊ดใกล้จะเรียนจบแล้ว บอกกับผมว่าจะมาช่วยงานที่นี่ ยายนั่นจะมาอยู่กับเราได้เหรอพี่ ผมละไม่ค่อยอยากจะเชื่อ”

นุกูลนึกถึงลูกพี่ลูกน้องที่เปรี้ยวจี๊ดสมชื่อด้วยความระอา ส้มจี๊ดนั้นอายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี แต่ทำตัวยิ่งกว่าแม่เขาอีก

“เอาเถอะ ยายส้มจี๊ดมาอยู่ไร่ของเราจะได้มีสีสันไง อีกอย่างนายกับพี่ก็รู้ว่ายายส้มจี๊ดเข้ากับแม่เลี้ยงได้ที่ไหน น้าภูมิเองใช่ว่าจะสนใจลูกสาวคนนี้ มัวแต่หลงเมียใหม่กับใส่ใจลูกเลี้ยงยิ่งกว่าลูกตนเอง”

นภัสสรยิ้มให้น้องชายอย่างระอา หากนับญาติกัน ยายส้มจี๊ดก็มีศักดิ์เป็นน้องสาวเธอและน้องสาวตากูล ชีวิตของส้มจี๊ดน่าสงสารไม่น้อย พ่อแม่แยกทาง ดีที่ตากูลเรียนที่กรุงเทพฯ เธอจึงเช่าคอนโดให้สองคนนี้อยู่ด้วยกัน แม้ว่าน้องชายจะบ่นเป็นหมีกินผึ้ง แต่เขาก็รักยายส้มจี๊ดไม่น้อยไปกว่าเธอเลย

ในขณะที่สองพี่น้องคุยกันถึงตัวป่วน อยู่ ๆ ก็มีเสียงรถเข้ามาในไร่พร้อมกับสาวน้อยหุ่นนาฬิกาทราย แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดแต่ไม่โป๊ ลงจากรถกระบะของไร่จักรพงษ์

“ฮัลโหล พี่สร พี่กูล น้องสาวสุดสวยมาหาแล้วค่ะ”

ส้มจี๊ดสาวน้อยวัยยี่สิบปีรีบวิ่งเข้ามาหาคนทั้งคู่ด้วยความคิดถึง ทำให้นภัสสรส่ายหน้าอย่างระอาในความรวดเร็วทันใจของน้องสาวคนนี้

“หยุดเลยยายส้มเน่า เราโทรบอกพี่ว่าจะมาแต่ไม่ใช่มาวันนี้ แล้วนี่ไปรบกวนพ่อเลี้ยงจักรได้ยังไงกัน ทำไมไม่โทรบอกพี่ พี่จะได้ไปรับ”

นุกูลเดินหน้าบอกบุญไม่รับเข้ามาเขกหัวน้องสาว ดูเถอะเช้าโทรมาบอกว่าเรียนจบจะมาช่วยงาน บ่ายดันมาถึงเสียแล้ว

“พี่กูล ฉันว่าพี่ถนอมน้องสาวหน่อยเถอะ ใช่ ฉันพูดว่าเรียนจบแล้วจะมาช่วยงาน แต่ตอนนี้ฉันต้องมาฝึกงาน เลยส่งใบสมัครมาที่ไร่จักรพงษ์ ฉันเห็นว่าอยู่ไม่ไกลกับไร่ของพวกพี่ น้องสาวคิดถึงไม่ได้หรือไง”

ส้มจี๊ดลูบหน้าผากปอย ๆ พร้อมทำหน้าทะเล้นใส่ ก่อนจะอธิบายถึงเหตุผลให้ฟัง

“ส้มจี๊ดทำไมไม่โทรบอกพี่หรือตากูลให้ไปรับ แม้จะฝึกงานที่ไร่จักรพงษ์แต่เรื่องไปรับพี่คิดว่าเรารบกวนเกินไปหรือเปล่า แล้วสาเหตุที่วิ่งแจ้นมาฝึกงานถึงจังหวัดน่านไม่ใช่เพราะอยากหนีคนบ้านนู้นมาเหรอ”

“ไม่ใช่อยากหนีหรอกพี่สร แต่โดนไล่ออกมาเลยต่างหาก พอดีฉันมีเรื่องกับลูกเลี้ยงสุดที่รักของเขามา แล้วก็ไม่อยากอยู่คอนโดคนเดียวเสียดายเงินอะพี่สร พี่จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยไง

ตอนนี้พี่กูลเรียนจบแล้ว ฉันก็ฝึกงานปีสุดท้าย เลยทำเรื่องมาฝึกงานที่จังหวัดน่านประจวบเหมาะกับไร่จักรพงษ์รับเลขาฝึกงานพอดี ทุกอย่างเหมาะเหม็งพอดีไง”

“เอ่อ ผมขอขัดจังหวะพวกคุณหน่อยนะ เมื่อกี้นี้ก่อนจะเข้ามาในบริเวณไร่นภัสสร ผมเห็นชายแปลกหน้าป้วนเปี้ยนอยู่หลายคน ผมเลยให้โทรให้ลูกน้องตามไปดูแล้ว ช่วงนี้คุณนุกูลและคุณสรระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะ สายข่าวคนของผมแจ้งมาว่าพ่อเลี้ยงขวัญเมือง…”

“ขอบคุณมากนะคะพ่อเลี้ยงจักร จากนี้สรและน้องจะระวังตัวมากขึ้น”

นภัสสรไม่ทันพูดจบประโยค กลับมีเสียงปืนดังเข้ามาหลายนัด ทำให้ทั้งสี่คนต่างพุ่งตัวหลบโดยที่พ่อเลี้ยงจักรคว้าตัวของส้มจี๊ดไว้ ส่วนนุกูลคว้าตัวพี่สาวเข้าอ้อมกอด

ทว่านภัสสรเห็นมือปืนที่แอบซุ่มอยู่อีกคนเล็งปืนมาทางน้องชายของเธอ ด้วยสัญชาตญาณเธอจึงหมุนตัวเอาร่างตนเองมารับกระสุนแทนก่อนจะผลักร่างน้องชายให้ล้มลง

ปัง! ปัง! ปัง!

สิ้นเสียงปืนร่างนภัสสรล้มลงนอนกับพื้นทันที พ่อเลี้ยงจักรที่กำลังจัดการมือปืนอีกคนจนล้มลง ได้หันมาลั่นไกใส่แบบไม่ยั้งทันที

“พี่สร! /พี่สร! /คุณสร!”

นุกูลเข้ามาช้อนร่างอาบเลือดของพี่สาวไว้พร้อมน้ำตาที่ไหลไม่หยุด โดยมีร่างเล็กของส้มจี๊ดที่สะบัดหลุดออกจากอ้อมกอดของพ่อเลี้ยงจักรรีบวิ่งเข้ามาเช่นกัน

“พี่กูล รีบพาพี่สรไปโรงพยาบาลสิ เร็วสิ!”

“ไม่ต้อง พี่…พี่รู้ตัวดีพี่ไม่ไหวแล้ว ทั้งสองสัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะปกป้องดูแลกันและกัน แม้ว่าตากูลกับส้มจี๊ดจะเป็นเพียงลูกพี่ลูกน้อง แต่พี่อยากให้ทั้งสองดูแลกันและกันเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา”

น้ำเสียงของนภัสสรอ่อนแรงเต็มที เธอรู้ดีว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว เพียงแค่อยากจะฝืนเพื่อขอคำมั่นสัญญาว่าทั้งสองคนจะไม่ทิ้งกันเมื่อเธอจากไปแล้ว

“ผมสัญญาครับ ส้มจี๊ดเปรียบเสมือนน้องสาวผมคนหนึ่ง ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องตลอดไปครับ ผมรู้ว่าพี่เหนื่อยแล้ว พี่พักเถอะนะครับ ทุกอย่างในไร่แห่งนี้ผมกับส้มจี๊ดจะสานต่อให้เอง”

นุกูลไม่อายที่น้ำตาของลูกผู้ชายไหลไม่หยุด นี่คือคำสัญญาที่เขาให้กับพี่สาวเพียงคนเดียวที่กำลังจะจากไป

“หนูสัญญาค่ะ หนูจะช่วยพี่กูลดูแลไร่แห่งนี้ต่อไป หนูขอบคุณพี่สรที่ดูแลหนูมาตลอดในหลายปีที่ผ่านมา พี่ส่งหนูเรียนพี่ไม่ใช่เป็นเพียงพี่สาว แต่พี่เปรียบเสมือนแม่ของหนู พี่สรเหนื่อยแล้ว พี่สรพักเถอะนะคะ”

ส้มจี๊ดน้ำเสียงสะอื้นไม่หยุด เธอให้คำมั่นสัญญาเช่นกัน

นภัสสรยิ้มอย่างอ่อนแรง เมื่อน้องทั้งสองสัญญาว่าจะดูแลกันและกัน เพียงชั่วอึดใจร่างนภัสสรกระตุกสองสามครั้งก่อนจะหมดลมหายใจ

เสียงร้องไห้เสียใจกับการจากไปของแม่เลี้ยงนภัสสรดังไปทั่วไร่ นุกูลพอตั้งสติได้ว่าพี่สาวจากไปแล้วจึงคว้าร่างน้องสาวอย่างส้มจี๊ดมาด้านข้าง ทั้งสองกอดร่างไร้วิญญาณของพี่สาวด้วยใจที่แตกสลาย

นุกูลและส้มจี๊ดรวมถึงเหล่าคนงานจัดการพิธีศพของนภัสสรด้วยความเรียบง่ายตามความชอบของพี่สาว

หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของนภัสสร นุกูลเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นิ่งขรึม เย็นชา และเหี้ยมโหด อีกทั้งยังหวงน้องสาวเพียงคนเดียวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่

ส่วนส้มจี๊ดหลังจากฝึกงานเสร็จสิ้นและทำเรื่องจบ เธอจึงกลับมาอยู่กับพี่ชาย ทั้งสองต่างช่วยกันดูแลและสานต่อความต้องการของพี่สาวเพียงคนเดียวจนบรรลุเป้าหมาย แม้ทั้งสองจะมีครอบครัวของตนเองแต่ก็ยังดูแลกันและกันเสมอมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

Déplier
Chapitre suivant
Télécharger

Latest chapter

Plus de chapitres

Commentaires

Pas de commentaire
74
บทที่ 1 นภัสสร
บทที่ 1 นภัสสรไร่นภัสสร เจ้าของไร่แห่งนี้คือสาวสวยมากความสามารถคล้ายกับเบื่อเมืองกรุงจึงกลับมาที่ไร่แห่งนี้ และฟื้นฟูทุกอย่างให้กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนสมัยปู่กับย่าเธอยังอยู่ นับเวลานี้ก็เกือบห้าปีแล้วที่เธอมาฟื้นฟูสมบัติของปู่กับย่าได้ทิ้งไว้ให้นภัสสรทำสวนผลไม้และแปลงเกษตร เธอไม่มองว่าการเป็นชาวไร่ชาวสวนนั้นน่าอาย แต่เธอกลับมองว่านี่คือสิ่งที่ทำให้เธอมีกินมีใช้ มีเงินเก็บและมีเงินจ่ายลูกน้อยอีกเกือบร้อยชีวิต และยังเลี้ยงน้องชายอีกคนจนจบมหาวิทยาลัยได้ด้วยเกียรตินิยมความภาคภูมิใจของนภัสสรคือตรงนี้“เหนื่อยจังเลย”นภัสสรถอดหมวกปีกกว้างออกมานั่งหลบแดดใต้ต้นไม้ใหญ่ เธอกวาดสายตามองไปยังคนงานที่ต่างก็ช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตเตรียมจะส่งขายด้วยรอยยิ้ม แม้จะเหนื่อยแค่ไหน แต่พอเห็นผลตอบรับและรอยยิ้มของทุกคนแค่นี้ก็ทำให้หญิงสาววัยสามสิบกว่าเช่นเธอก็แทบจะหายเหนื่อยเช่นกัน“แม่เลี้ยงจะทานมื้อเที่ยงเลยไหม ป้าจะให้แจ๋วไปเตรียมให้ คุณนุกูลก็น่าจะกลับมาแล้ว”แม่บ้านคนสนิทรีบเดินมาแจ้งนายสาวหรือแม่เลี้ยงนภัสสรที่เหล่าคนงานเรียกกัน ส่วนนุกูลคือน้องชายเพียงคนเดียวของแม่เลี้ยงนั่นเอง“รอตากูลกลับมาก่อนดีกว
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 2 กุ้ยหนิงอัน
บทที่ 2กุ้ยหนิงอันเมืองกุ้ยโจว มณฑลเจียงซี หมู่บ้านอิงซูหมู่บ้านแห่งนี้มีหลายร้อยครอบครัว ทว่าส่วนมากจะมีแต่ครอบครัวที่พออยู่พอกิน ไม่ได้ร่ำรวยมากนัก ชาวบ้านต่างก็ทำเกษตรกร บ้างก็รับจ้างทำงานใช้แรงงานให้กับครอบครัวที่พอจะมีฐานะ แม้ว่าจะมีการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชาวบ้านเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม ทว่าชาวบ้านที่พอจะมีเงินหน่อยก็ทำการเช่าซื้อที่ดินของรัฐ ที่รัฐเปิดให้เช่าซื้อ แต่คงไม่ใช่บ้านรองกุ้ยครอบครัวนี้มีลูกทั้งหมดสามคน คนโตชื่อว่ากุ้ยหนิงอัน อายุสิบเจ็ดปี คนที่อสองและสามเป็นชาย และเป็นฝาแฝดกัน ทว่าคล้ายจะเป็นลูกหลง เพราะอายุเพิ่งจะสิบขวบเท่านั้นเองพ่อกุ้ยเป็นคนที่รักครอบครัวมาก ยอมแยกบ้านเมื่อลูกและเมียโดนกระทำโดยบ้านใหญ่ซึ่งเจ้าบ้านคือพี่ชายของตนเองทว่าเมื่อแยกบ้านแล้วใช่ว่าทุกคนจะอยู่อย่างสงบสุข เพราะความยากจนที่ไม่หนีหายไปไหน เนื่องจากเมื่อแยกบ้านมาแล้วทางบ้านใหญ่ไม่คิดที่จะแบ่งที่ดินทำกินมาให้ ทำให้สองคนผัวเมียต้องรับจ้างเพื่อส่งลูกที่ยังเรียนส่วนกุ้ยหนิงอันเรียนจบมัธยมปลายแล้วจึงไม่ยอมเรียนต่อ และออกมาหางานทำในตำบล ทว่าเงินที่หามาได้นั้นช่างน้อยนิด ทำให้หญิงสาวคิดอยากจะ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 3 ทะลุมิติแล้วสินะ
บทที่ 3ทะลุมิติแล้วสินะฟ้ายังไม่ทันสาง กุ้ยจื่อหลงรีบไปยืมจักรยานของบ้านหม่าเพื่อไปส่งลูกสาวที่สถานีรถไฟ ไม่นานกุ้ยจื่อหลงก็มาถึงบ้าน“เรียบร้อยหรือยังอันอัน”“เรียบร้อยแล้วค่ะพ่อ” กุ้ยหนิงอันหันมาตอบพ่อของตนก่อนจะกล่าวลาแม่และน้องทั้งสองคน“แม่ต้องดูแลตัวเองนะ ฉันไปถึงปักกิ่งแล้วจะรีบหางานทำ ฉันจะส่งเงินกลับมาให้ทุกเดือน เราสองคนก็เหมือนกัน พี่ไม่อยู่ต้องช่วยกันดูแลพ่อกับแม่ ขยันเรียนและอย่าเกเรรู้ไหม”กุ้ยหนิงอันเอ่ยกับแม่จบจึงหันกลับมาคุยกับน้องชายทั้งสองคน“ครับพี่ใหญ่ เราสองคนสัญญาครับ และจะไม่ทำตัวเกเร จะตั้งใจเรียนไม่ให้พี่ใหญ่ต้องผิดหวัง” กุ้ยหมิงเล่อให้สัญญากับพี่สาวคนโตที่ยอมเสียสละเพื่อเขากับน้องชายฝาแฝด“ผมก็เช่นกัน จะช่วยงานและดูแลพ่อแม่ รวมถึงจะไม่เกเรและจะขยันเรียน พี่ใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หากไม่ไหวก็กลับมา”น้องเล็กของบ้านอย่างกุ้ยหมิงเฮ่อกล่าวตบท้าย แฝดน้องคนนี้เป็นคนเงียบขรึม แต่ทุกประโยคที่หลุดออกมานั้นล้วนมาจากใจทั้งสิ้นหลังจากที่ร่ำลากันแล้ว กุ้ยจื่อหลงจึงรีบพาลูกสาวอย่างกุ้ยหนิงอันออกมาจากหมู่บ้าน เพราะไม่ต้องการให้บ้านใหญ่เห็น หลังจากนี้เกิดอะไรขึ้นเขาจะรับหน
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 4 ได้งานทำแล้ว
บทที่ 4 ได้งานทำแล้วฟ้ายังไม่ทันสางกุ้ยหนิงอันที่หลับไปด้วยความอ่อนเพลียตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าสดใส เนื่องจากได้นอนเต็มอิ่ม และวันนี้เธอหวังว่าจะเป็นวันที่ดีของเธอเมื่อลุกขึ้นจากเตียง กุ้ยหนิงอันจึงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย หลังจากออกมาจากห้องน้ำ เธอจึงเลือกเสื้อผ้าที่ดูดีที่สุดสำหรับการสมัครงานในวันนี้ และเตรียมเอกสารส่วนตัวให้พร้อม ก่อนจะลงมาจากห้องเพื่อมาหาป้าจิงซือที่ชั้นล่างของอะพาร์ตเมนต์“อ้าวมาแล้วเหรอ กินอะไรมาหรือยัง วันนี้ป้าทำซาลาเปามากินด้วยกันสิ”จิงซือเห็นว่ากุ้ยหนิงอันเดินลงมาแล้ว เธอและสามีกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่ เพราะสามีของเธอนั้นเป็นยามของที่นี่“นั่นสิ มากินด้วยกันเถิดยายแก่ของลุงทำไว้เยอะเลย เราสองคนกินไม่หมดหรอก”ลุงหม่าเอ่ยด้วยความเป็นกันเอง เมื่อคืนภรรยาเขาเล่าเรื่องเด็กสาวคนนี้ให้ฟังแล้ว และหวังว่าเธอจะได้งานที่โรงแรมของตระกูลหลันกุ้ยหนิงอันรู้สึกเกรงใจ แม้ว่าบ้านเมืองจะเริ่มพัฒนาแล้ว ทว่าเรื่องการอยู่การกินเธอไม่อยากรบกวนทั้งสองคน“มาเถิด เมื่อไหร่ที่ได้งานและได้เงินเดือน อันอันค่อยซื้อขนมมาให้ลุงกับป้าก็แล้วกัน ถ้ายังลังเลไม่แน่ว่าจะไปสายนะ”“เช่นนั
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 5 อยากได้ของคนอื่น
บทที่ 5 อยากได้ของคนอื่นเมืองกุ้ยโจว มณฑลเจียงซี หมู่บ้านอิงซูพนักงานไปรษณีย์ขี่รถมาจอดหน้าบ้าน ร้องเรียกให้คนในบ้านออกมารับจดหมาย“มีใครอยู่ไหม มีจดหมายมาส่งครับ”กุ้ยจื่อหลงอยู่บริเวณบ้านพอดีจึงเดินออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นไปรษณีย์จึงคิดว่านี่คงเป็นจดหมายของลูกสาว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีจดหมายของกุ้ยหนิงอันส่งมาบอกว่าได้งานทำแล้วก็ตามตัวเขาและภรรยายังคงเฝ้ารอจดหมายของลูกอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงของอันอันนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง จะอยู่จะกินอย่างไร มีคนรังแกลูกสาวเขาหรือเปล่า ความกังวลของพ่อแม่นั้นย่อมมีเวลาลูกห่างไกลจากอกทว่าพอเห็นว่าไปรษณีย์มาส่งจดหมาย เขากลับไม่คิดถึงเรื่องเงินที่ลูกสาวส่งกลับมา หวังเพียงว่าจะรับรู้ความเป็นอยู่ของเธอก็พอ“ผมกุ้ยจื่อหลงครับ ไม่ทราบว่าจดหมายมาส่งถึงใครครับ”“เช่นนั้นไม่ผิดครับ หน้าซองจ่าถึงคุณกุ้ยจื่อหลง ในนี้มีธนาณัติอยู่ด้วยนะครับ การไปรับเงินไม่ทราบว่ารู้แล้วใช่หรือไม่ว่าต้องเอาเอกสารไปด้วย”ไปรษณีย์คิดว่านี่คงเป็นธนาณัติที่ลูกของชายตรงหน้าส่งมาให้ เขาจึงอธิบายเรื่องการไปรับเงินให้อีกครั้งจะได้ไม่มีความผิดพลาด“ใช่ครับ นี่จดหมายของ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 6 งานเลี้ยงของโรงแรม
บทที่ 6 งานเลี้ยงของโรงแรมเมื่อได้ยินคำพูดนี้หลุดออกจากสะใภ้รองของตน แม่เฒ่ากุ้ยได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ อีกทั้งชาวบ้านเริ่มมุงดูมากมายจึงไม่อยากให้เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก ต่อให้อยากได้เงินขนาดไหนแต่นี่ไม่ใช่เวลาของเธอจากนั้นแม่เฒ่ากุ้ยจึงรีบเดินออกมาจากบ้านรองโดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมแม่สามีถึงยอมบ้านรองง่ายดายขนาดนี้สองสามีภรรยาสบตากันด้วยความโล่งใจก่อนจะรีบจูงมือกันเข้าบ้านและคิดว่าพรุ่งนี้เช้าต้องรีบไปไปรษณีย์เพื่อเบิกเงินออกมา และต้องเก็บซ่อนไว้ให้ดีหรือไม่ต้องเข้าในเมืองเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร ครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องวุ่นวายเช่นนี้อีกทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างราบเรียบ ชีวิตของกุ้ยหนิงอันไม่มีอะไรมาก ตื่นเช้ามาทำงาน ตกเย็นมาก็มานั่งทำอาหารกินร่วมกันกับป้าจิง ทำให้สองสามีภรรยาต่างก็เอ็นดูกุ้ยหนิงอันไม่ต่างกับลูกและหลานของตนเองจนวันเวลาผ่านล่วงเลยมาครึ่งปี กุ้ยหนิงอันต่างก็เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะแผนกไหนก็ตามเพราะความมีน้ำใจของเธอ อีกทั้งความสามารถของทั้งสองมีไม่น้อยเลยทีเดียวใครจะไปรู้ว่ากุ้ยหนิงอันและซีซวนจะมีความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ ทำให้
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 7 ผิดแผน
บทที่ 7 ผิดแผนเวลาผ่านไปไม่นาน กุ้ยหนิงอันรู้สึกมึนงงและง่วงนอนอย่างช่วยไม่ได้ จึงคิดว่าควรจะเข้าไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย จากนั้นจึงเดินโซเซเล็กน้อยไปเข้าห้องน้ำพนักงานโดยมีพนักงานหญิงคนนั้นเดินตามมาด้วยเมื่อเดินตามเข้ามาในห้องน้ำกลับพบกุ้ยหนิงอันล้มลงไปนอนเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น สุดท้ายจึงเรียกคนรักที่เป็นพนักงานด้วยกันมาพยุงร่างของกุ้ยหนิงอันไปที่ห้องพักของแขกที่ได้รับมอบหมายมา“จำได้ไหมว่าห้องหมายเลขอะไร”“ฉันขอนึกก่อน แล้วคนคนนั้นให้กุญแจมากับพี่หรือเปล่า”“ท่านลืมให้กุญแจ เธอเป็นพนักงานต้อนรับรีบไปหยิบกุญแจมาสิ ห้องสามหนึ่งสอง” ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น เขาไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นได้บอกชั้นผิดไป ซึ่งห้องที่เขาต้องไปคือสี่หนึ่งสองพนักงานหญิงมองซ้ายมองขวา ดีที่วันนี้แต่ละคนวุ่นวายกับงานเลี้ยงและมีแขกเข้าพักที่โรงแรมจนเต็มทุกห้อง จึงไม่เป็นที่สงสัยหากมีใครถามจะบอกว่าเป็นลูกค้าในงานเลี้ยงเกิดเมาขึ้นมาจึงพาไปส่งที่ห้องพัก โดยใช้เสื้อคลุมปิดหน้าของกุ้ยหนิงอันไว้เมื่อได้กุญแจมาจึงรีบพาร่างที่หมดสติของกุ้ยหนิงอันไปยังห้องพักทันทีด้านซีซวนเห็นถึงความผิดปกติบางอย่างจึงแกล้งมายืนเก็บโต๊ะอยู่ไม่ไกล
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 8 ลาออกจากงาน
บทที่ 8 ลาออกจากงานกลับมาทางด้านจิ้งเจี้ยนซา หลังจากที่ดื่มเข้าไปมากมายจนครองสติแทบไม่อยู่ เมื่อเห็นว่าหลันอี้ข่ายหายไปไหนแล้วไม่รู้ เขาจึงขอตัวจากทุกคนกลับห้องพักวันนี้เขาไม่ได้กลับบ้านเพราะรู้ว่าวันนี้ต้องเมาแน่นอน อีกทั้งร่างกายยังรู้สึกร้อนรุ่มและต้องการเรื่องนั้น เขาจึงคิดว่าคงจะเกิดจากความเมาที่ดื่มเข้าไปเยอะนั่นเองเมื่อเข้ามาในห้อง เขาไม่คิดที่จะอาบน้ำเพื่อให้สร่างเมา คิดว่าตื่นเช้ามาค่อยอาบทีเดียว ทว่าเมื่อล้มตัวลงนอนกลับพบกับร่างนุ่มนิ่มของใครบางคนนอนอยู่อีกคนแต่เพราะสติสัมปชัญญะแทบจะไม่มี ดื่มไปมากความต้องการเรื่องนั้นย่อมต้องมีโดยไม่รู้เลยว่าที่เขาร้อนรุ่มเพราะเกิดจากยาที่คังปี่เจียววางยาหลันอี้ข่ายและเขาเผลอกินเข้าไปด้วยความขาดสติทำให้เขาลืมความผิดชอบชั่วดีโดยปริยายกุ้ยหนิงอันหลับสนิท โดยไม่รู้เลยว่าร่างกายของเธอกำลังโดยใครบางคนแตะต้อง และความบริสุทธิ์ที่เธอเก็บรักษามาตลอด กลับโดนพรากไปจากชายที่เธอไม่รู้จักเมื่อพายุสงบลง จิ้งเจี้ยนซาจึงล้มตัวนอน สติในตอนนี้ทำได้เพียงจำกลิ่นกายของเธอไว้และเสี้ยวใบหน้าที่มีผมปิดไปครึ่งหนึ่ง ก่อนจะคว้าร่างบางมากอดโดยสัญชาตญาณฟ้ายังไม
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 9 กลับบ้าน
บทที่ 9 กลับบ้านกลับมาทางด้านกุ้ยหนิงอันและซีซวน กุ้ยหนิงอันตกใจเมื่อเพื่อสนิทหยิบยื่นเงินให้ จึงร้องถามเสียงหลง“เธอให้เงินฉันทำไมเสี่ยวซวน”“รับไว้เถอะ ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาเธอส่งเงินให้กับครอบครัวนั้นแทบจะเป็นเงินเดือนทั้งหมดของเธอ กลับบ้านครั้งนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหางานได้ หากเธอเกรงใจคิดเสียว่าฉันให้ยืม เมื่อไหร่ที่มีเธอค่อยคืนฉัน เชื่อเถอะวันหนึ่งเราทั้งสองต้องได้เจอกันอีก”สำหรับซีซวนเธอไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เงินแค่นี้ไม่ทำให้เธอลำบากหรอกกุ้ยหนิงอันเกรงใจ แต่ก็จริงอย่างที่ซีซวนพูด กลับไปใช่ว่าเธอจะหางานทำได้เลย จึงตัดสินใจว่าเอามาแค่สามร้อยหยวนก็พอ“เธอเอาไปห้าร้อยหยวนก็แล้วกัน ความจริงเงินหนึ่งพันหยวนมันไม่มากเลยนะอันอัน”“ไม่มากสำหรับเธอ แต่มากสำหรับฉัน”“เอาเถอะ เรื่องซวงฟางฉันให้คนจัดการแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะส่งเธอขึ้นรถไฟ และจะสั่งให้คนกลบรอยของเธอให้เอง หากเธอไม่อยากให้ผู้พันจิ้งพบเจอ ฉันเชื่อว่าด้วยความสามารถของฉันย่อมต้องทำได้ หากฉันยังอยู่เซี่ยงไฮ้”“แล้วเธอไม่คิดว่าคุณชายรองหลันจะตามหาเธอพบเหรอ ตระกูลหลันยิ่งใหญ่แค่ไหน เธอก็น่าจะรู้”“ฉันรู้ แต่นักธุรกิจบางประเภทจะไ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
บทที่ 10 อ้อมกอดของครอบครัว
บทที่ 10 อ้อมกอดของครอบครัวนี่คือความคิดระหว่างทางที่กลับมา แม้เสี่ยวซวนจะให้ยืมเงินมาห้าร้อยหยวนแล้วก็ตาม ทว่าถ้าหากเธอเปิดร้านหรือลงมือค้าขายเลยมิวายเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก ไม่สู้หางานทำสักพักแล้วค่อยขยับขยายดีกว่า“อันอันว่ายังไงพ่อเห็นด้วยทั้งนั้น” กุ้ยจื่อหลงยื่นมือหนาไปขยี้ศีรษะลูกสาวด้วยความเอ็นดู ไม่เจอกันเกือบปีอันอันของเขาคล้ายจะมีความคิดที่โตขึ้น“แม่ก็เหมือนกัน ว่าแต่พี่หลงไปอาบน้ำก่อนดีหรือไม่ สองแฝดน่าจะใกล้ถึงแล้ว มาเห็นพี่สาวที่ทั้งสองบ่นคิดถึงทุกวันคงดีใจไม่น้อย อาหารใกล้จะเสร็จแล้วที่เหลือฉันกับลูกจัดการต่อเอง”จางหานรีบไล่สามีให้ไปจัดการกับร่างกายตนเอง เพิ่งกลับจากแปลงนาน่าจะเหนียวตัวไม่น้อยกุ้ยจื่อหลงก้มมองสภาพตนเองก็เห็นด้วยกับความคิดภรรยา จากนั้นจึงรีบเดินไปหยิบเสื้อผ้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทันที“จริงสิแม่ หากจะปรับปรุงหรือสร้างบ้านใหม่ใช้เงินเยอะหรือเปล่า”หลังจากที่เห็นพ่อเดินจากไปแล้ว กุ้ยหนิงอันคล้ายจะคิดอะไรได้ ครั้งแรกที่เธอก้าวขาลงจากเกวียนแล้วมองสภาพบ้านในใจนั้นคิดว่าบ้านหลังนี้จะอยู่ได้อีกกี่ปี“ลูกถามทำไม สร้างบ้านใหม่ครั้งหนึ่งก็หลายร้อยหยวนอยู่นะ ย
last updateDernière mise à jour : 2025-08-21
Read More
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status