ซินซิน หญิงสาวเจ้าของร้านกาแฟ เธอใช้ชีวิตราบเรียบมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีชายหนุ่มร่างสูงเข้ามาในร้านของเธอ และโดยไม่คาดคิด เขาคือศิลปินดังที่เธอชื่นชอบ หญิงสาวจะทำอย่างไรต่อไปดี เมื่อเขาคนนั้นขอมาอาศัยอยู่ที่บ้านของเธอ
View Moreณ สนามบิน
ชายหนุ่มคนหนึ่ง สูงราว 185 เซนติเมตร ใส่หมวกสีดำ ใส่แมสสีดำรวมทั้งแว่นตาปิดบังใบหน้าจนมิดชิด กำลังนั่งกดส่งข้อความอยู่ตรงที่นั่งใกล้กับประตูทางออก
‘ฉันอยู่ประเทศไทย ถ้ามีอะไรด่วนหรือจำเป็นค่อยติดต่อมา’
หลังจากเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงก็หันไปคว้ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินออกจากประตูไป ไม่กี่นาทีก็ขึ้นรถแท็กซี่แล้วหายลับไป
“ขอเค้กมะพร้าว 2 ชิ้น กับคาปูชิโน่เย็น 2 แก้วค่ะ”
“ได้ค่ะ สักครู่นะคะ”
หญิงสาวส่งยิ้มก่อนจะจัดการชงกาแฟตามออเดอร์ กลิ่นหอมของกาแฟสดอบอวลไปทั่วทั้งร้าน เมื่อชงเสร็จหญิงสาวก็หันไปหยิบจานใบสวย 2 ใบมาใส่เค้กมะพร้าว ก่อนจะส่งให้ลูกค้าสาวที่ยืนรออยู่ พร้อมกับคิดเงิน
“เพลงอะไรเหรอคะ เสียงคนร้องเพราะจัง”
“นักร้องชื่อเฉินซื่อซีน่ะค่ะ ฉันก็ชอบเพราะเสียงเขาแหบแต่นุ่ม ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นดีค่ะ” รอยยิ้มหวานถูกส่งให้คู่สนทนาอย่างคนที่คุยกันถูกคอ
“เอาไว้ฉันแอดไลน์แล้วคุยกันนะคะ ฉันก็สายซีรี่ย์จีนค่ะ”
“ยินดีค่ะ”
หลังจากส่งยิ้มให้กัน ลูกค้าของเธอก็เดินออกไปนั่งที่โต๊ะในสวนด้านนอก หญิงสาวจึงนั่งลงและฟังเพลงต่อเงียบๆ
ซินซิน (ซิน = คำเรียกบุคคลที่รักหรือหวงแหน) หญิงสาวร่างเล็ก สูง 160 เซนติเมตร ใบหน้าได้รูปสวย ผมยาวถึงบั้นเอว ดวงตาเธอกลมโต ปากเล็กได้รูปบางเป็นกระจับ จมูกโด่งปลายเชิดบ่งบอกความดื้อรั้น ผิวเธอขาวจัดราวหยวกกล้วย
ร้านกาแฟแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ จริงๆแล้วที่นี่เป็นเพียงที่ดินเปล่าเท่านั้น ตอนที่หญิงสาวเห็นที่นี่ครั้งแรกเธอก็ตัดสินใจขอซื้อทันที เธอเปลี่ยนให้ที่นี่กลายเป็นร้านกาแฟสดท่ามกลางสวนดอกไม้ มีทั้งห้องแอร์สำหรับลูกค้าที่ต้องการนั่งด้านในและสวนที่จัดอย่างสวยงามที่ซินซินเป็นคนออกแบบเองสำหรับลูกค้าที่ต้องการถ่ายรูปหรือนั่งท่ามกลางบรรยากาศสวยงาม
ด้านหลังหญิงสาวปลูกเป็นบ้านขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป แต่ก็มีทุกอย่างครบครัน ทั้งห้องนอนที่มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องครัวที่แบ่งสัดส่วนสำหรับทำขนมและของคาว ห้องหนังสือ หรือแม้แต่ห้องนอนเล็กที่เธอตกแต่งสำรองเอาไว้เผื่อยามมีใครมาหาเธอ
ด้านนอกของบ้านมีระเบียงโล่งขนาดใหญ่ มีชุดโซฟาเอาไว้อำนวยความสะดวกหากต้องการพักผ่อน หญิงสาวอาศัยอยู่ที่นี่คนเดียว เธอจึงจัดการออกแบบให้รั้วมีขนาดสูงที่ปกปิดมิดชิดมองไม่เห็นด้านในล้อมรอบพื้นที่ไว้ทั้งหมด มีเพียงรั้วระตูเหล็กกั้นระหว่างตัวบ้านกับส่วนพื้นที่ของร้านกาแฟ
รวมทั้งรั้วที่กั้นพื้นที่ของบริเวณร้าน หญิงสาวใช้เป็นรั้วต้นไม้เพื่อให้ดูสวยงามและเป็นสัดเป็นส่วน เธอออกแบบทุกอย่างด้วยตัวเธอเองตามที่เธอชอบและต้องการ
หลังจากเห็นว่าเย็นมากแล้ว หญิงสาวจึงลุกขึ้นเก็บข้าวของให้เข้าที่เตรียมตัวปิดร้าน แต่เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่หญิงสาวจะล็อกประตูกระจก ได้มีรถแท็กซี่ขับเข้ามาจอดบริเวณที่จอดรถของร้านก่อนจะมีชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาภายในร้านพร้อมกระเป๋าเดินทางด้วยอาการเร่งรีบ เขาหันกลับไปมองตรงทางเข้า หญิงสาวมองตามสายตาเขาอย่างสงสัยก็เห็นว่ามีรถอีกคันขับตามเข้ามา
“ขอโทษนะครับ ผมขอความช่วยเหลือคุณหน่อยได้ไหม ตอนนี้ผมต้องการที่แอบจากคนในรถคันนั้นครับ” เสียงแหบทุ้มแต่แฝงด้วยความนุ่มคุ้นหูอย่างบอกไม่ถูก กล่าวกับซินซินเป็นภาษาอังกฤษด้วยความเร่งรีบ
“คะ?”
หญิงสาวอยู่ในอาการมึนงง เธอไม่แน่ใจนักว่าควรช่วยเหลือคนแปลกหน้าหรือไม่ แต่เสียงของเขามันฟังคุ้นหูเธอราวกับเธอได้ยินที่ไหนมาก่อน
ชายหนุ่มมองซ้ายมองขวาเห็นไม่มีคนอื่นอยู่นอกจากหญิงสาวตัวเล็กเขาจึงถอดแมสกับแว่นตาออก เปิดเผยให้เห็นใบหน้าของเขาภายใต้หมวกแบรนด์เนมที่เขาใส่
“ผมชื่อเฉินซื่อซี”
ซินซินมองใบหน้าชายหนุ่มก่อนจะสะดุ้งสุดตัว เมื่อเธอเห็นใบหน้าเขาเต็มตา เธอยกมือปิดปากสีหน้าตกใจ มิน่าเธอถึงคุ้นเสียงเขา
“เอ่อ คุณเข้าไปหลบในบ้านฉันก่อนก็ได้นะคะ เผื่อพวกเขาต้องการเข้ามาค้นหาคุณด้านในร้าน” หญิงสาวรวบรวมสติ บอกเขาด้วยสีหน้ามึนงง ผายมือเล็กของเธอไปด้านหลังร้านที่มีประตูเล็กให้เปิดเข้าไปภายในบริเวณส่วนของบ้าน
ชายหนุ่มชั่งใจอยู่เพียงเสี้ยวนาทีก่อนจะพยักหน้ารับ หญิงสาวจึงหยิบกุญแจบ้านแล้วเลือกดอกที่ใช้เปิดประตูเล็กขึ้นมาส่งให้เขา
“คุณเปิดเข้าไปก่อนเถอะค่ะ เสร็จแล้วล็อกได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันรับหน้าเอง ให้รถแท็กซี่ออกไปก่อนไหมคะ ตอนคุณกลับออกไปเดี๋ยวฉันออกไปส่งคุณเอง”
“ได้ครับ ขอบคุณนะครับ”
“คุณออกทางประตูข้างหลังนี้ได้เลยนะคะ”
ซินซินชี้ให้ชายหนุ่มเดินออกไปทางประตูหลังร้านจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่ตามเขามา ที่กำลังลงจากรถและจะเข้ามาทางประตูหน้าร้าน
ร่างสูงโค้งขอบคุณหญิงสาวก่อนจะรีบเปิดประตูออกไปตามที่หญิงสาวบอก ซินซินมองจนร่างสูงหายลับไปเธอจึงล็อกประตูด้านหลังร้านก่อนจะหยิบเอาแก้วชาดอกไม้ที่เธอเพิ่งจะชงตั้งใจว่าจะดื่ม เปิดประตูออกไปเพื่อไปจ่ายเงินแท็กซี่แล้วบอกให้เขากลับออกไปได้เลย
“ขอโทษนะคะ คุณเห็นคนที่มากับแท็กซี่ไหมคะ”
“ไม่มีใครมานะคะ”
“แล้วแท็กซี่เข้ามาจอดทำไมคะ”
“อ๋อ พี่เขาสั่งน้ำเอาไว้ค่ะ นี่ไงคะ ฉันกำลังเอาออกมาให้พี่เขา”
“ฉันขอเข้าไปดูในร้านได้ไหมคะ”
“เชิญค่ะ”
ซินซินยิ้มจางๆก่อนจะเปิดประตูรถแท็กซี่ ส่งแก้วเครื่องดื่มให้คนขับพร้อมทั้งบอกว่าชายหนุ่มขอลงตรงนี้เลย พร้อมทั้งจ่ายเงินให้เขาก่อนจะลงจากรถไป
ทางด้านหญิงสาวสองคนที่เปิดประตูเข้ามาในร้านก็ไม่เจอใคร หญิงสาวอีกคนจึงเดินออกมาดูตรงห้องน้ำด้านข้างของร้าน เมื่อไม่เจอใครจึงพากันกลับออกไป
ซินซินมองตามหลัง เธอแอบถอนหายใจโล่งอก หญิงสาวรีบปิดร้านล็อกกุญแจจนแน่นหนาก่อนจะหยิบกุญแจบ้านอีกชุดที่แขวนไว้รวมกับกุญแจร้านเปิดประตูเข้าบ้านไปโดยไม่ลืมล็อกเอาไว้ตามเดิม
ชายหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูง ก้มลงอุ้มอาเจิ้งขึ้น ก่อนจะโอบร่างบอบบางของซินซินเข้ามากอดเพียงเท่านั้นเสียงกรี้ดกร้าดก็ดังไปทั่วบริเวณ บรรดาแฟนคลับที่มาในงานต่างก็ยกโทรศัพท์และกล้องขึ้นมากดถ่ายภาพ เสียงพูดคุยดังไปทั่วเมื่อพวกเขาได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการขอแต่งงานของไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบ“เอาล่ะค่ะ พวกเรามาถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกดีกว่านะคะ” พิธีกรสาวทำหน้าที่ของตัวเองต่อหลังจากที่มาถึงคิวของหล่อนบรรดาแฟนคลับที่มาในงานมายืนรวมตัวกันอยู่ที่หน้าเวที เมื่อพวกเขาพร้อม เฉินซื่อซีก็พาซินซินกับอาเจิ้งลงไปยืนใกล้ๆ พวกเขาโดยมีแค่แถบกั้นคั่นกลางเท่านั้นหลังจากการถ่ายภาพที่ระลึกเสร็จก็เป็นอันจบงาน พวกเขาทยอยเดินออกจากพื้นที่จัดงานด้วยรอยยิ้ม วันนี้เป็นวันที่คุ้มที่สุดสำหรับพวกเขาซินซินกับเฉินซื่อซีเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว โดยมีเสี่ยวเหยาอุ้มอาเจิ้งเดินตามไป เมื่อเข้าในห้องแต่งตัว ทีมงานต่างก็ตบมือต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น“ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อยกันในวันนี้นะคะ”“ยินดีด้วยนะคะ” หนึ่งในทีมงานเป็นตัวแทนมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับซินซิน“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อยกันนะคะ อย่าลืมนะคะ เย็นนี้เร
กลางดึกคืนนั้นซินซินที่หลับๆ ตื่นๆ ตั้งแต่มีลูกเธอก็เคยชินกับการนอนหลับไม่สนิท หญิงสาวพลิกกายไปมาจนร่างสูงที่อยู่ข้างๆ รู้สึกตัว“นอนไม่หลับเหรอ”“ฉันทำให้คุณตื่นเหรอ ขอโทษนะคะ”“ไม่เป็นไรจ้ะ เป็นอะไรถึงนอนไม่หลับ หืม”“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยค่ะ”“บอกผมได้ไหม”“พอดีเดือนหน้าจะตีพิมพ์นิยายเรื่องใหม่ แล้วจะมีจัดงานแจกลายเซ็น ฉันกลัวทำอะไรผิดพลาด”“อย่าคิดมากสิ คุณเก่งจะตาย แล้วถึงจะมีอะไรผิดพลาดก็ไม่เห็นเป็นอะไร”“…..ค่ะ”“นอนพักเถอะจ้ะ”“ค่ะ”1 เดือนต่อมา“เตรียมเปิดงานหรือยัง เหล่าซือล่ะ”“กำลังจะออกมาค่ะ เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ”“ใกล้ได้เวลาแล้ว คนมารอหน้างานกันเต็มเลย เปิดให้เข้ามาก่อนเวลาได้เลย”“รับทราบค่ะ”หลังจากได้รับคำสั่ง ทีมงานก็สั่งการผ่านทางวิทยุสื่อสารให้เปิดประตูเข้างานได้เลย ผู้คนทยอยเข้ามาเดินดูงานกันอย่างต่อเนื่อง หนังสือที่วางขายหน้างานถูกเหมาเกือบหมดจนต้องให้ทางทีมงานนำมาวางเพิ่ม จนกระทั่งถึงเวลาเปิดตัวซินซิน หญิงสาวก็เดินออกมาขึ้นเวทีด้วยชุดเดรสสีชมพูสวยงาม“สวัสดีค่ะเหล่าซือ”“สวัสดีค่ะทุกคน”“ถือว่าเป็นการเปิดตัวนักเขียนคนสวยของเราอย่างเป็นทางการนะคะ วันนี้เราจ
2 ปีผ่านไป“ต้าเกอ ทางนั้นกำหนดวันเปิดกล้องมาแล้วนะ”“ลงคิวไว้เลย” ร่างสูงที่กำลังนั่งแต่งหน้าตอบผู้จัดการส่วนตัวโดยที่สายตายังมองกระจกอยู่“พรุ่งนี้มีถ่ายวาไรตี้ มะรืนมีอีเว้นท์”“อืม วันนี้ซ้อเข้ากองไหม”“ไม่ได้เข้าค่ะ วันนี้ซ้อเข้าบริษัทค่ะ”เมื่อแต่งหน้าเสร็จร่างสูงก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินเข้าสตูดิโอไปเตรียมตัว“ทางเราติดต่อสำนักพิมพ์แล้ว มีคิวว่างประมาณเดือนหน้า หลังจากตีพิมพ์จะจัดงานอีเว้นท์แจกลายเซ็นค่ะ”“จะมีคนมาเหรอคะ”“โห ระดับนักเขียนนิยายที่ได้รับการนำไปทำเป็นซีรี่ย์เลยนะคะ ไหนจะสถานะภรรยาคนสวยของดาราชื่อดังอย่างเฉินซื่อซีอีก มีคนอยากเจอคุณเยอะแยะ”“ค่ะ ว่าไงว่ากันค่ะ”“อ้อ มีข่าวดีด้วยนะคะ นิยายเรื่องใหม่ติดฮ็อตเสิร์ชยาวเลยค่ะ แฮชแท็กยังไม่หลุดจากอันดับต้นๆ เลยค่ะ”“เดี๋ยวเสร็จงานรอบนี้สงสัยต้องฉลองใหญ่กันแล้วนะคะ”“อย่าลืมพาพี่เขยมาด้วยนะคะ”“ถ้าเขาว่างก็น่าจะมาค่ะ”หลังจากการพูดคุยจบลงซินซินก็ออกจากบริษัทและกลับเข้าไปที่กองถ่าย ตอนนี้หน้าที่การงานของเธออยู่ตัวในระดับหนึ่ง เธอเป็นนักเขียนที่มีต้นสังกัดดูแลและตั้งแต่ที่เธอได้มีส่วนร่วมในการเขียนบทในซีรี่ย์เรื่อง บังเอิ
“ตื่นแล้วเหรอครับ เป็นยังไงบ้าง”“หนาวค่ะ”“เป็นเอฟเฟ็กยาน่ะครับ แต่เดี๋ยวพยาบาลจะเอาผ้าห่มอบร้อนมาให้นะ จะได้หายหนาว”“…..ค่ะ”หญิงสาวมีอาการหนาวจนร่างกายสั่น จนกระทั่งพยาบาลนำผ้าห่มอบร้อนมาให้เธอจึงค่อยๆดีขึ้น“ฉันคันหน้าคันตัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หายใจไม่ออก ตอนแรกคิดว่าจะตายเลยนะคะ”“คุณมีอาการแพ้ยาบล็อกหลังน่ะ ตอนคุณบอกว่าหายใจไม่ออก ผมตกใจแทบแย่”“แล้วลูกล่ะคะ”“ตรวจอยู่จ้ะ เดี๋ยวตรวจอะไรเสร็จแล้วพยาบาลจะพาเข้ามา”“ค่ะ”“คุณรู้ไหม ตอนแรกผมทำอะไรไม่ถูกเลย จนผมเห็นคุณที่ต้องมาเจ็บตัวคลอดลูก ผมสาบานกับตัวเองเลยว่าจะดูแลคุณกับลูกให้ดีที่สุด ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจเด็ดขาด”“ขอบคุณนะคะ”“ขอบคุณทำไม ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ”“…..”“ขอบคุณนะซินซิน ขอบคุณที่ตอนนั้นคุณยอมที่จะจับมือผม ยอมที่จะก้าวตามผมมา ขอบคุณที่คุณยอมให้มีคำว่าเรา ขอบคุณที่มอบสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับผม และที่สำคัญที่สุดคือขอบคุณที่คุณยอมเจ็บตัวเพื่อมีลูกของเรา”“ขอบคุณเยอะไปแล้วค่ะ”“เอาล่ะ คุณพักผ่อนเถอะนะ เอาไว้ลูกมาแล้วเดี๋ยวผมปลุก”“ค่ะ” เพียงไม่กี่นาที ดวงตากลมโตก็หลับพริ้มลงอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย“กลับ
“กลับมาแล้วครับ”“ไง พ่อตัวดี”“อ้าว แม่ยังไม่กลับอีกเหรอ มืดแล้วนะ”“แม่มาหาอาซิน ทำไมแม่จะอยู่นานไม่ได้”“กลับดึกมันอันตรายนะแม่”“ขี้บ่น”ร่างสูงส่งเสียงบอกภรรยาสาวเหมือนที่ทำเป็นประจำทุกวัน แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อมารดาของเขายังไม่กลับบ้านทั้งที่ข้างนอกก็เริ่มมืดแล้ว“แม่เป็นห่วงอาซิน แกกลับมาแม่ก็จะได้หมดห่วง”“หืม เสี่ยวเหยาไปไหน”“ไปธุระ”“อ้อ แล้วซินซินล่ะ”“หลับ อยู่ในห้อง”“งั้นแม่กลับเลยไหม เดี๋ยวจะดึก มันอันตรายนะ”“ก็คงต้องอย่างนั้น ดูแลอาซินดีๆล่ะ แม่ไปนะ”“ครับ ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกผมด้วยนะ”“อืมๆ”ร่างสูงเดินมาส่งมารดาที่ลิฟต์ก่อนจะกลับเข้าบ้าน เขาเข้าไปดูหญิงสาว เมื่อเห็นเธอยังหลับอยู่จึงกลับเข้าไปในห้องทำงานและเปิดไลฟ์สดต่อเป็นการจบการทำงานของวันนี้หลายเดือนต่อมา“คุณพยาบาลคะ เมื่อคืนน้องไม่ดิ้นค่ะ”“ไม่ดิ้นเลยเหรอคะ”“ไม่เชิงค่ะ ปกติน้องจะดิ้นประมาณเที่ยงคืนถึงตีสอง แต่เมื่อคืนไม่ดิ้นค่ะ”“เดี๋ยวติดเครื่องวัดหัวใจนะคะ”วันนี้หญิงสาวมีนัดตรวจครรภ์ตามปกติ อายุครรภ์เธอถึงกำหนดคลอดแล้ว เธอก็ยังไม่มีอาการเจ็บปวดใดใดเมื่อหญิงสาวมานอนที่เตียงและพยาบาลก็เข้ามาติดเครื่องวัดคลื
“ง่วงหรือยัง”“ยังค่ะ แต่อิ่มมากเลย”“แหมคุณ ถ้ากินขนาดนี้ไม่อิ่ม ผมว่าควรไปตรวจแล้วล่ะ”“ทำเป็นพูด ใครบอกให้ฉันกินเยอะๆล่ะ ถ้าคลอดแล้วน้ำหนักไม่ลดฉันจะโทษคุณ”“ทำอย่างกับคุณน้ำหนักขึ้นเยอะ คุณหมอบอกให้คุณเพิ่มน้ำหนักไม่ใช่เหรอ”“เพิ่มกว่านี้ฉันคงเดินไม่ไหวแล้วค่ะ รูปร่างฉันเล็ก ถ้าน้ำหนักขึ้นเยอะก็กลัวจะคลอดเองไม่ไหว”“ไม่เห็นเป็นอะไร ผมไม่ได้หัวโบราณถึงขนาดที่ว่าแม่ต้องคลอดลูกเองเท่านั้น ไม่ว่าคลอดเองหรือผ่า ยังไงก็ขอให้ปลอดภัยกันทั้งคุณทั้งลูกก็พอ”“…..”“…..อ้าว”ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองภรรยาสาวเมื่อไม่มีเสียงตอบรับ ก่อนจะต้องชะงักไปเมื่อคนที่พูดเจื้อยแจ้วอยู่เมื่อครู่ได้หลับไปเรียบร้อยแล้วรอยยิ้มเอ็นดูปรากฏขึ้น ก่อนที่ร่างเล็กจะถูกอุ้มลอยขึ้นราวกับว่าเธอไม่มีน้ำหนักทั้งที่ท้องของเธอเริ่มใหญ่มากขึ้นจนมองเห็นได้ชัดแล้วร่างสูงก้าวขายาวๆ ตรงเข้าไปในห้องนอน วางร่างบอบบางลงบนเตียงหลังใหญ่อย่างเบามือเพื่อไม่ให้หญิงสาวต้องตื่นจากนิทรา“ว่าไง” มือใหญ่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับเมื่อมีแจ้งเตือนสายเรียกเข้า“ต้าเกอ ทางบริษัทแจ้งด่วนเข้ามาว่ากระแสดีมาก อยากให้ทั้งคู่หาเวลาไลฟ์สดด้วยกัน”“ไว้ค่อยถา
Comments