หน้าหลัก / โรแมนติก / บ้านไร่ในฝัน / ตอนที่ 5 เจ็ดปีที่รอคอย

แชร์

ตอนที่ 5 เจ็ดปีที่รอคอย

ผู้เขียน: ลินญาร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-08 06:24:14

หลังจากคืนที่แม่จากไป ขุนก็กลับไปใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ อีกครั้ง เขากลายเป็นคนเงียบขรึม เก็บตัว และทำงานหนักยิ่งกว่าเดิม เพื่อกลบฝังความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดที่กัดกินอยู่ในใจ ไร่ลำไยถูกทิ้งไว้เบื้องหลังพร้อมกับความทรงจำที่เจ็บปวด และคำสัญญาที่ยังคงค้างคา

เจ็ดปีผ่านไป…

เดือน เติบโตจากเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความสดใส กลายเป็นหญิงสาววัยสิบเก้าปีบริบูรณ์ที่งดงาม เธอเรียนจบ ม.ปลาย และกลับมาช่วยคุณพ่อคุณแม่ดูแล บ้านที่อยู่ติดกับไร่ลำไย ของครอบครัวเธอเอง

ในแต่ละวัน เดือนยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายภายในบ้านและบริเวณรอบ ๆ เธอยังคงรดน้ำต้นไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ปลูกไว้รอบบ้าน และช่วยงานบ้านคุณแม่ แต่ไม่ว่าเธอจะยุ่งแค่ไหน ไม่ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าจะสดใสเพียงใด ลึก ๆ ในใจของเดือนยังคงมีเงาของใครบางคนอยู่เสมอ

ทุกเช้าและเย็น เดือนจะมองไปยังบ้านของขุนที่อยู่ไม่ไกล ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความคิดถึงและความหวังที่ไม่เคยจางหาย เธอไม่เคยลืมคำสัญญาที่เคยให้ไว้ใต้ต้นลำไยเมื่อครั้งยังเด็ก “โตขึ้นหนูจะแต่งงานกับพี่ขุน!” คำพูดนั้นยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเธอ เป็นเหมือนแสงนำทางเล็ก ๆ ที่คอยบอกว่าการรอคอยนั้นคุ้มค่า

ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา เดือนได้ยินข่าวคราวของขุนบ้างประปรายจากพี่เข้มที่แวะเวียนมาที่บ้านเดือนเป็นครั้งคราว หรือเวลาที่พี่เข้มมาเดินดูแนวรั้วไร่ที่ติดกับบ้านเธอ แต่พี่เข้มก็ไม่เคยเล่ารายละเอียดอะไรมากนัก เพียงแค่บอกว่าขุนสบายดี และทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ

เดือนรู้ว่าพี่เข้มก็คงคิดถึงขุนไม่ต่างจากเธอ แต่ทั้งสองคนต่างก็เก็บความรู้สึกไว้ในใจเงียบ ๆ

เธอเคยแอบไปยืนอยู่ริมรั้วใกล้บ้านของขุนในบางวัน มองเข้าไปในความเงียบงันของบ้านที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เธอมักจะจินตนาการว่าถ้าขุนกลับมา จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาจะจำเธอได้ไหม เขาจะยังอยากทำไร่ลำไยอยู่หรือเปล่า และเขาจะยังจำคำสัญญาในวัยเด็กของพวกเขาได้ไหม

สำหรับเดือน เจ็ดปีที่ผ่านมาคือการเติบโต การเรียนรู้ และการรอคอย การรอคอยที่เปี่ยมด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่ง “พี่ขุน” ของเธอจะกลับมา และสานต่อเรื่องราวที่ยังค้างคาให้จบลงด้วยความสุข

และแล้ว…ในบ่ายคล้อยของวันหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังช่วยคุณแม่รดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเงาร่างคุ้นตาที่เดินเข้ามาจากทางหน้าไร่

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผิวคล้ำแดด ใบหน้าคมสัน ดวงตาที่เคยเป็นประกายในวัยเด็ก ตอนนี้กลับดูสุขุมและลึกซึ้งกว่าเดิม เขากำลังเดินตรงมายังบ้านของพี่เข้ม

หัวใจของเดือนเต้นรัวราวกับกลองศึก มือไม้สั่นไปหมด เธอไม่แน่ใจว่านี่คือความฝันหรือความจริง

“เดือน…” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกชื่อเธอขณะที่เขาเดินผ่านรั้วบ้านของเธอ

เดือนเงยหน้าขึ้นมองเขาช้า ๆ ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจระคนดีใจ น้ำตาคลอเบ้า

“พี่… พี่ขุน…”

ใช่แล้ว… ขุนกลับมาแล้ว

หัวใจของเดือนเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าคนที่เดินเข้ามาคือ พี่ขุน คนที่เธอเฝ้ารอคอยมาตลอดเจ็ดปี ดวงตาของเดือนเบิกกว้าง น้ำตาที่คลออยู่เมื่อครู่ไหลเอ่อออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“พี่…พี่ขุนจริง ๆ ด้วย” เดือนพึมพำเสียงสั่นเครือ เธออยากจะวิ่งเข้าไปหา อยากจะโผกอดเขาเหมือนวันเก่า ๆ แต่ร่างกายกลับแข็งทื่อไปหมด

ขุนมองเดือนด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา เขายืนนิ่งอยู่ตรงรั้ว มองไปยังเด็กสาวตรงหน้าที่ไม่ได้เป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนเดิมอีกแล้ว เดือนเติบโตเป็นสาวสะพรั่ง งดงามกว่าที่เขาจำได้มากนัก

“เดือน…” ขุนเอ่ยเรียกชื่อเธออีกครั้ง เสียงของเขาทุ้มต่ำและนุ่มนวลกว่าที่เธอจำได้ “โตขึ้นเยอะเลยนะ”

คำพูดสั้น ๆ ของเขาทำให้เดือนรู้สึกเหมือนเวลาได้ย้อนกลับไปในอดีต เธอปาดน้ำตาเบา ๆ แล้วพยายามจะยิ้มตอบ แต่รอยยิ้มนั้นกลับสั่นคลอน

“พี่ขุนหายไปไหนมาคะ…หนูคิดถึงพี่ขุนมาก” เดือนถามออกไปในที่สุด คำถามที่เก็บงำมานานหลายปี

ขุนหลบสายตาไปเล็กน้อย เขามองไปยังบ้านของพี่เข้มที่อยู่ถัดไป “พี่…พี่เพิ่งกลับมาถึงครับ” เขาตอบเพียงสั้น ๆ ยังไม่พร้อมจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา

ในขณะนั้นเอง พี่เข้ม ก็เดินออกมาจากบ้าน เขาเห็นขุนยืนคุยอยู่กับเดือนที่รั้ว ก็เดินเข้ามาหา

“อ้าว เดือน มายืนคุยอะไรตรงนี้ลูก” พี่เข้มเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เดือนรีบปาดน้ำตา แล้วหันไปพยักหน้าให้พี่เข้ม “สวัสดีค่ะพี่เข้ม”

พี่เข้มพยักหน้ารับ แล้วหันมามองขุน ดวงตาของเขาสื่อความหมายที่ลึกซึ้งกว่าคำพูด เขาคงอยากถามมากมาย แต่ก็เลือกที่จะเก็บงำไว้ เขาวางมือบนไหล่น้องชายเบา ๆ “เข้าไปในบ้านเถอะขุน”

ขุนพยักหน้า เขามองเดือนอีกครั้ง ดวงตาของเขาสื่อความหมายบางอย่างที่เดือนยังจับต้องไม่ได้ ก่อนที่เขาจะเดินตามพี่เข้มเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้เดือนยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง

เดือนมองตามแผ่นหลังของขุนที่เดินลับหายเข้าไปในบ้าน เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในความฝันที่กลายเป็นจริง แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกใจหายกับท่าทีที่ดูแปลกไปของเขา ขุนเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา แต่เป็นแววตาที่ดูสุขุมและลึกซึ้งกว่าเดิม

หลังจากที่ขุนก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน ความเงียบก็เข้าปกคลุมบ้านหลังใหญ่ที่เคยอบอุ่น

ขุนเดินเข้าไปในห้องโถง มองไปที่เก้าอี้ตัวโปรดของแม่ที่ว่างเปล่า ความทรงจำถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแม่ยังคงชัดเจนในใจ เขารับรู้ถึงการไม่มีอยู่ของแม่ด้วยความเจ็บปวดที่บาดลึกกว่าเดิม

พี่เข้มเดินมาหยุดข้างน้องชาย เขาวางมือบนไหล่ขุนอีกครั้ง ครั้งนี้แน่นกว่าเดิม

“แกคงเหนื่อย…ไปพักเถอะ” พี่เข้มพูดเสียงแผ่ว

ขุนพยักหน้า เขาก้าวเข้าไปในห้องนอนเก่าของเขา ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่กลับรู้สึกอ้างว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

คืนนั้น ขุนนอนไม่หลับ เขามองเพดานห้องที่คุ้นเคย เสียงจิ้งหรีดเรไรดังแว่วมาจากนอกหน้าต่าง กลิ่นดินและกลิ่นลำไยลอยเข้ามาในห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิม…ยกเว้นเขา และการไม่มีอยู่ของแม่

เขาหลับตาลง พยายามไล่ภาพความโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ และความรู้สึกผิดที่ฝังอยู่ในใจออกไป เขาอยากจะเริ่มต้นใหม่ อยากจะแก้ไขทุกอย่าง แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน

ขุนลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปเห็นแสงจันทร์ที่สาดส่องลงบนไร่ลำไย และมองไปยังบ้านอีกหลังที่อยู่ไม่ไกลนัก บ้านของ เดือน

เขาจำคำพูดของเดือนในวัยเด็กได้ดี “โตขึ้นหนูจะแต่งงานกับพี่ขุน!”

และคำพูดนั้นเองที่ทำให้เขารู้สึกได้ว่า…เขายังมีบางสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าและรับผิดชอบ

ขุนหลับตาลงอีกครั้ง หัวใจเต้นช้าลง แต่หนักอึ้งกว่าเดิม ความรู้สึกผิดในอดีตไม่ได้จางไปตามเวลา กลับยิ่งหนาขึ้นเมื่อเขายืนอยู่ในสถานที่ที่เคยทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง

แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยคาดคิด คือการได้เห็น “เดือน” ในวันนี้ เด็กหญิงตัวน้อยที่เคยวิ่งตามเขาทุกเช้าเย็น บัดนี้กลายเป็นหญิงสาวผู้เปล่งประกาย เธอยังคงเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นไหว และมองเขาด้วยสายตาเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

...ขุนกลัว

กลัวว่าสายตานั้นจะเปลี่ยนไป เมื่อเธอรู้เรื่องทั้งหมด กลัวว่าเธอจะผิดหวังในตัวเขาเหมือนที่เขาผิดหวังในตัวเองมาตลอด

ณ อีกฟากของรั้วบ้าน

เดือนเองก็ยังยืนอยู่ที่เดิม มือยังกำลังรดน้ำต้นไม้ตรงโคนมะลิริมรั้ว แต่ดวงตานั้นลอยไกลเกินกว่าจะอยู่กับปัจจุบัน เสียงเรียกชื่อของเขายังคงก้องอยู่ในใจ...ทั้งเสียงในวันนี้ และเสียงในความทรงจำ

"พี่ขุนกลับมาแล้วจริง ๆ..."

เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะยิ้มทั้งน้ำตา

เธอไม่รู้หรอกว่าอะไรทำให้เขากลับมาในที่สุด เธอไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอบ้างในตอนนี้

แต่เธอรู้เพียงสิ่งเดียว

หัวใจของเธอไม่เคยเปลี่ยน

และหากเขาจะเริ่มต้นใหม่…เธอก็พร้อมจะยืนข้างเขา เหมือนวันเก่า ๆ ที่เธอเคยเดินตามเขาไปตามแนวไร่

คืนเดือนหงายคืนนั้น ผ่านไปอย่างช้า ๆ แต่กลับมีบางอย่างในอากาศที่แตกต่างจากทุกค่ำคืนที่ผ่านมาบางอย่างที่ชื่อว่า “ความหวัง”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนพิเศษ วันเกิดของปาฏิหาริย์เล็ก ๆ

    เสียงฝนพรำเบา ๆ ในวันนั้นถูกกลบด้วยเสียงฝีเท้าร้อนรนของขุน เขาวิ่งเข้าออกหน้าห้องคลอดด้วยใบหน้าเครียดจัด มือที่เคยมั่นคงสั่นน้อย ๆ อย่างห้ามไม่ได้ “ใจเย็นนะขุน…” พี่ลินดาวางมือบนไหล่ พยายามปลอบ แต่ดวงตาคมก็ยังจับจ้องประตูบานนั้นอย่างไม่กะพริบ ชั่วเวลาที่เหมือนเป็นนิรันดร์ ในที่สุดเสียงแผ่วเบาแต่ชัดเจนก็ดังลอดออกมา เสียงร้องแหลมเล็กของทารกแรกเกิด น้ำตาที่ขุนไม่เคยคิดว่าจะหลั่งง่าย ๆ กลับเอ่อคลอทันทีที่หมอเปิดประตูออกมา “ยินดีด้วยครับ… คุณพ่อ” เขาแทบไม่รอคำอธิบาย รีบก้าวเข้าไป เห็นเดือนนอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง ผมเปียกชื้นด้วยเหงื่อ แต่รอยยิ้มบาง ๆ ที่มอบให้เขากลับงดงามที่สุดในชีวิต “พี่ขุน… เรามีลูกแล้วนะคะ” เสียงเธอเบาจนแทบเป็นกระซิบ ชายหนุ่มก้าวเข้าไปจับมือเธอแน่น ก่อนจะก้มลงจุมพิตหน้าผากด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก “เก่งที่สุดแล้วเดือน… ขอบคุณนะที่ให้พี่ได้เป็นพ่อ” พยาบาลอุ้มก้อนน้อยห่อผ้าเข้ามา เด็กน้อยตัวแดงจิ๋วส่งเสียงร้องแผ่ว ๆ เมื่อถูกวางลงบนอกแม่ เดือนหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ขุนนั่งข้าง ๆ มองภาพนั้นด้วยแววตาสั่นระริก เหมือนได้เห็น ความฝันของทั้งชีวิต กลายเป็นจริง

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนพิเศษ เช้าที่ไม่เหมือนเดิม

    แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านไม้ไผ่เข้ามาในห้องพักเล็ก เดือนขยับตัวจะลุกขึ้นตามปกติ แต่ทันทีที่ยืนขึ้น ร่างบางก็เซไปเล็กน้อย ความเวียนศีรษะแล่นเข้ามาอย่างกะทันหัน“อ๊ะ…” เธอเผลอร้องเบา ๆ มือคว้าขอบเตียงไว้แน่นขุนที่เพิ่งสวมเสื้อเชิ้ตพอดี รีบเข้ามาประคองทันที “เดือน! เป็นอะไรครับ ทำไมหน้าซีดแบบนี้”หญิงสาวยิ้มจาง ๆ “ไม่เป็นไรค่ะ แค่เวียนหัวนิดหน่อย”ในครัว พี่ไหมกำลังตั้งหม้อข้าวต้มอ่อน ๆ ไว้สำหรับแขกที่เพิ่งตื่น เสียงน้ำเดือดเบา ๆ คลอไปกับกลิ่นหอมอบอวลของข้าวสุกใหม่ แต่สำหรับเดือน กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพียงแค่กลิ่นลอยมาแตะจมูก เธอรีบเอามือปิดปาก สีหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที“พี่ขุน… หนูเหม็นกลิ่นข้าวต้มจังเลย”ขุนตาเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ความตกใจแล่นวาบผ่านใบหน้าคม “หรือว่า…” เขาเอื้อมมากุมมือเธอแน่นขึ้น สายตาเต็มไปด้วยทั้งห่วงใยและความตื่นเต้นที่ยังไม่กล้าพูดออกมาเสียงพี่ไหมดังแทรกขึ้นจากครัว “หนูเดือน ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ เดี๋ยวพี่ตักข้าวต้มให้นะ กินอุ่น ๆ จะได้ไม่เวียนหัว”แต่เดือนเพียงส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปซบอกขุนด้วยความอ่อนแรง ขุนกอดร่างบางไว้แน่น พลางมองออกไปนอกหน้าต่

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนพิเศษ ช้าของครอบครัวใหม่

    หนึ่งเดือนหลังงานแต่ง บ้านไร่ในฝันโฮมสเตย์ยังคงอบอวลด้วยความสุข แขกที่แวะมาพักทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พี่ไหมกับพี่นิ่มก็ทำงานได้ดี รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของพวกเธอทำให้ไร่เล็ก ๆ แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นเช้าวันนั้น ขุนลืมตาตื่นขึ้นท่ามกลางอ้อมกอดอุ่น ร่างเล็กของเดือนซุกแนบอยู่ข้าง ๆ ราวกับยังไม่อยากลุกจากเตียงไม้ที่ทั้งคู่ช่วยกันจัดแต่งเมื่อคราวเริ่มเปิดบ้านพักใหม่ ขุนก้มลงหอมแก้มภรรยาเบา ๆ จนเธอสะดุ้งยิ้มเขิน ๆ“พี่ขุน แกล้งหนูแต่เช้าเลยนะคะ”“ก็เมียพี่น่ารักนี่นา” เขาตอบเรียบ ๆ แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความรักทั้งคู่ลุกขึ้นมาช่วยกันทำอาหารเช้าง่าย ๆ ข้าวต้มหม้อเล็กกับผักสดที่เด็ดมาจากสวนหลังบ้าน เสียงหัวเราะดังเบา ๆ เมื่อเดือนทำขิงหั่นบางเกินไป ขุนเลยแอบแซวว่า “นี่เมียพี่ตั้งใจหั่นให้พี่กินทั้งแปลงหรือเปล่า”หลังมื้อเช้า ขุนกับเดือนเดินเล่นรอบไร่ ลมเช้าพัดกลิ่นดอกไม้จากไร่เรือนกระจกของพี่ลินดามาแตะจมูก ขณะที่ด้านไกลเห็นแขกกลุ่มหนึ่งนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจ“พี่ขุน…” เดือนเอ่ยขึ้นเบา ๆ “ถ้าวันหนึ่งมีเสียงเด็กวิ่งเล่นในไร่ คงจะดีไม่น้อยนะคะ”ขุนหยุดเดิน หันมามองใบหน้าของภรรยาที่แดงระเ

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 57 เช้าวันใหม่ของคู่แต่งงาน

    แสงอรุณสาดลอดผ่านกิ่งไม้ใหญ่ ขุนลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมสัมผัสอุ่นจากร่างเล็กที่ยังซุกอยู่ในอ้อมกอด รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าคมเมื่อได้เห็นเดือนหลับตาพริ้ม แก้มแดงระเรื่อจากความเหน็ดเหนื่อยเมื่อคืน“ตื่นได้แล้วคนสวย…เช้านี้เราต้องรีบกลับบ้าน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะเอาใหญ่” ขุนก้มลงกระซิบเบา ๆ พลางกดจูบหน้าผากเธอเดือนขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงีย พอได้สติ สีหน้าก็แดงจัด รีบคว้าผ้าห่มมาคลุมกายพลางเบือนหน้าหนี“อายจังเลยพี่ขุน…เมื่อคืนเรา…”“เมื่อคืนเดือนชอบนี่นา” เขายิ้มอบอุ่น ก่อนจะช่วยประคองเธอลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยทั้งคู่รีบเก็บสิ่งของและเดินกลับบ้านด้วยหัวใจเต้นแรง ยิ่งใกล้ถึงเรือนหลังเล็กของแม่เดือน ความเขินก็ยิ่งทวีขึ้น เพราะรู้ดีว่าไม่นานนัก ทุกคนในไร่จะมาหาคู่แต่งงานหมาด ๆ ในเช้าวันนี้เดือนกระซิบเบา ๆ พลางจับมือเขาแน่น “พี่ขุน…อย่าปล่อยมือหนูนะ”ขุนหันมายิ้ม ดึงมือเธอมากุมแน่นกว่าเดิม “ไม่มีวันปล่อย…เราจะกลับไปเริ่มต้นบ้านของเรา…ด้วยกัน”ทั้งสองเดินเคียงกันไปใต้แสงเช้า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข แม้ยังมีความเขินอาย แต่ก็อบอุ่นเหลือเกินไม่นานหลังจากทั้งคู่กลั

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 56 คืนใต้ต้นไม้ของเรา

    ใต้แสงจันทร์นวล เสื่อผืนบางถูกปูลงบนพื้นหญ้านุ่ม ๆ ข้างลำต้นไม้ใหญ่ที่คุ้นตา ลมกลางคืนพัดเอื่อย เสียงจักจั่นดังเป็นจังหวะคล้ายเสียงขับกล่อม เดือนค่อย ๆ นั่งลงบนตักพี่ขุน แขนเล็กโอบรอบต้นคออย่างเคยชิน แก้มกลมซบอยู่ใกล้ใบหน้าคมที่ส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ “เหนื่อยมั้ยพี่ขุน…ทั้งวันเลยนะ” เดือนเอ่ยเบา ๆ พลางเอียงหน้ามองตาเขา ขุนส่ายหัวช้า ๆ แขนใหญ่โอบกอดร่างเล็กไว้แน่น “ไม่เหนื่อยเลย…แค่ได้กอดหนูแบบนี้ ทุกอย่างก็หายไปหมดแล้ว” คำพูดเรียบง่ายทำให้หัวใจเดือนเต้นแรงขึ้นทันที เธอหัวเราะเบา ๆ อย่างเขินอาย แต่ยังคงซุกตัวเข้าหาอ้อมแขนนั้นมากกว่าเดิม ขุนก้มลงหอมแก้มขาวเนียนอย่างแผ่วเบา กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากผิวและเส้นผมของเธอลอยแตะปลายจมูกจนหัวใจเขาอุ่นวาบ เดือนยกมือแตะอกเขาเบา ๆ สบตาพร้อมรอยยิ้มละมุน “คืนนี้…ดีจังเลยพี่ ข้างนอกอาจจะเงียบ แต่หนูรู้สึกว่าหัวใจมันเต็มไปด้วยเสียงเพลง” ขุนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ริมฝีปากแตะขมับเธออย่างแผ่วเบา เดือนเงยหน้าขึ้นสบตาพี่ขุน ดวงตากลมส่องประกายวาววับในเงาจันทร์ ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาประกบริมฝีปากกับเขาอย่างแผ่วเบา รสจูบอุ่นร้อนค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้น

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 55 พิธีแห่งความสุขกลางไร่ในฝัน

    เวลาล่วงเลยจนเกือบบ่าย แสงแดดอ่อนคล้อยลงสาดผ่านต้นไม้ใหญ่ ลานไร่ที่เมื่อเช้ายังเต็มไปด้วยเสียงกลองยาวและความคึกคัก บัดนี้กลับอบอวลด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบา ๆ หลังพิธีเสร็จสิ้นขุนกับเดือนนั่งเคียงกัน มือทั้งคู่ยังคงกุมไว้แน่นบนตั่งที่ปูผ้าพื้นเมือง ข้อมือขาวมีสายด้ายผูกข้อมือที่ญาติผู้ใหญ่และเพื่อนบ้านร่วมอวยพร กลิ่นน้ำอบคละคลุ้งผสมกลิ่นดอกไม้สดรอบกายเสียงแซว เสียงอวยพรยังดังไม่ขาดสาย แต่สำหรับคนสองคนตรงกลางพิธีนั้น ราวกับโลกหมุนช้าลง เหลือเพียงความสุขเรียบง่ายที่เอ่อท่วมในหัวใจลินดายืนมองภาพนั้นอยู่ด้านข้าง รอยยิ้มสวยค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เธอรีบยกมือเช็ด แต่ก็ไม่อาจหยุดได้ พอลที่ยืนข้าง ๆ เห็นเข้าก็เอื้อมมือมากุมไหล่ พลางเอ่ยเสียงนุ่ม “ร้องทำไมกัน…วันนี้มันเป็นวันดีนะ”ลินดาส่ายหน้าเบา ๆ หัวเราะทั้งน้ำตา “ก็เพราะมันดีไงพอล…ฉันเลยอดไม่ได้…เห็นเดือนกับขุนแล้วมันเหมือนฝันที่เป็นจริง เหมือนเราเองก็ได้ย้อนกลับมารู้ว่าความรักที่แท้จริงมันเป็นยังไง”แสงแดดบ่ายคล้อยลอดผ่านม่านใบไม้ลงมาส่องให้ภาพทั้งหมดเปล่งประกายราวกับถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่น งานวิวาห์กลางไร่ในฝัน ที่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status