“...” น้ำมนต์ยืนหลบมุมพร้อมกับแอบมองร่างสูงยืนคุยกับหมอหนุ่มอีกคนอย่างหวาดกลัว ก่อนที่เธอจะหันหน้าไปทางซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวง น้ำมนต์เห็นเงาดำเต็มไปหมดจนไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไรดี
“อะ!!”
น้ำมนต์ชะงักไปเล็กน้อยทันทีที่เธอเผลอหันกลับไปสบตาเข้ากับชายหนุ่มที่เธอพึ่งเดินชนเขา
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า?”
“ญาติคนไข้น่ะไม่มีอะไรหรอก”
“แต่เธอดูกลัวอาจารย์หมอนะครับ”
“นั่นสิ...หน้าผมดูหน้ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?” เพิร์ชพึมพำออกมาในขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังลูกสาวของน้าน้ำหนึ่งอย่างไม่เข้าใจในท่าทางของเธอ
“เราไปกันเลยไหมครับอาจารย์”
“ครับ”
“ฟู่!!! ไปได้สักที” น้ำมนต์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนที่เธอจะเดินกลับไปยังห้องรับรองเดิมที่มีแม่น้ำหนึ่งและป้าแมรี่นั่งรออยู่
“น่าแปลกจริงๆ นะเนี่ย” ริมฝีปากบางพึมพำออกมาอย่างไม่เข้าใจ เพียงแค่หมอเพิร์ชลูกชายของป้าแมรี่เดินห่างออกไปเธอก็ไม่เห็นอะไรอีกแล้ว ‘อยู่ให้ห่างจากเขาเลยนะน้ำมนต์’ น้ำมนต์เอ่ยบอกกับตัวเองอยู่ภายในใจ
เช้าวันต่อมา...
“ทำไมยายยังไม่ฟื้นอีกล่ะจ้ะแม่?”
“ให้ยายพักผ่อนอีกหน่อยนะลูก”
“แต่ยายนอนเยอะแล้วนะจ๊ะ”
“คิดถึงยายรึไง หึหึ” เสียงของหญิงชราที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้นมา ก่อนที่เธอจะลืมตาตื่นขึ้นมามองหลานสาวเพียงคนเดียวก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับความน่าเอ็นดูของน้ำมนต์
“ยาย!! / แม่!!”
น้ำหนึ่งกับน้ำมนต์รีบวิ่งเข้ามาหาคนป่วยที่นอนอยู่ตรงหน้าในทันที ใบหน้าสวยหวานของเด็กสาวยกยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่เธอจะพุ่งตัวเข้าไปกระโดดกอดหญิงชราตรงหน้าอย่างลืมตัว
“อะ โอ้ย ลูก!!”
“มนต์เบาๆ สิลูก”
“ขอโทษจ้ะยาย” น้ำมนต์รีบขยับถอยห่างออกไปทันที ใบหน้าของเด็กสาวที่บ่งบอกถึงความรู้สึกผิด
หญิงชราลูบแขนเรียวของหลานสาวเพียงคนเดียวของเธออย่างเอ็นดู แม้นเลี้ยงน้ำมนต์มาเองกับมือเธอรู้ดีว่าหลานสาวคนนี้ของเธอมีนิสัยอย่างไร ถึงภายนอกน้ำมนต์จะดูสดใส ร่าเริง เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย แต่ความเป็นจริงแล้วใครจะรู้ว่าหลานสาวคนนี้ของเธอเป็นเด็กที่ดื้อเงียบ ฉลาดหลักแหลม และเด็ดเดี่ยวเป็นที่สุด
“หึหึ ยายไม่เจ็บหรอกลูก”
“ผ่าตัดหัวใจเลยนะจ๊ะ ยังจะบอกว่าไม่เจ็บอีกเหรอ?”
“หึหึ”
“ยังจะหัวเราะอีก”
“พอแล้วน้ำมนต์ไม่ต้องแกล้งยายแล้ว”
ก๊อก ก๊อก!!!
“ป้าแมรี่มาแน่ๆ เลยเดี๋ยวน้ำมนต์ไปเปิดประตูให้เองจ้ะ” น้ำมนต์เอ่ยขึ้นมาเสียงดังฟังชัด ก่อนที่ร่างบางจะวิ่งตรงไปยังประตูบานใหญ่ตรงหน้า
“คุณป้าสวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะลูก”
“คุณลุงสวัสดีค่ะ เชิญด้านในค่ะ”
“คุณ...!!” น้ำมนต์ชะงักนิ่งงันไปทันทีที่เห็นร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มอีกคนเดินตามคุณลุงกับคุณป้ามาด้วย น้ำมนต์ยกมือขึ้นไหว้เขาอย่างนอบน้อมก่อนจะถอยให้ห่างเขามากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ซึ่งการกระทำทุกอย่างของเด็กสาวอยู่ในสายของหญิงชราทั้งหมด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอย และความเหี่ยวย่นกระตุกยิ้มออกมาราวกับว่าเธอรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง...
“สวัสดีครับคุณยาย เช้านี้รู้สึกเป็นอย่างไงบ้างครับ?” เพิร์ชยกมือไหว้ผู้หญิงทั้งสองคนอย่างนอบน้อม ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามหญิงชราที่นอนอยู่ตรงหน้าเสียงอ่อน ลิ้มฝีปากบางยกยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างอ่อนโยน
“ยายรู้สึกเจ็บแผนนิดหน่อย”
“เดี๋ยวผมฉีดยาแก้ปวดให้นะครับ”
“ขอบคุณมากนะหนุ่ม...ไม่ได้เจอกันนานโตขึ้นเยอะจนยายจำแทบไม่ได้”
“ครับ”
“หึหึ”
“เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการเลยนะคะ...หนูน้ำมนต์” แมรี่เอ่ยขึ้นมาทามกลางความเงียบ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่ข้างกายของเด็กสาวด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
“อะ อ่อคะ?”
“หมอคนนี้คือพี่เพิร์ชลูกชายของป้าเองค่ะ”
“อ่อ สวัสดีค่ะ หนูชื่อน้ำมนต์นะคะ” น้ำมนต์ยกมือไหว้ร่างสูงตรงหน้าอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยแนะนำตัวออกไปเสียงสั่น ก่อนที่ดวงตากลมโตค่อยเบิกโพลงขึ้นมาอย่างลืมตัวทันทีที่เธอเห็นเงาดำของผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังของเขา
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องน้ำมนต์”
“ชะ เช่นกันค่ะ”
“หนูน้ำมนต์น่ารักเนอะเพิร์ชเนอะ”
“ครับ?” หมอเพิร์ชหันไปมองคุณแม่คนสวยของเขา ก่อนที่มุมปากของเขาจะกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้ทันในความคิดของกันและกัน
หมอเพิร์ชได้แต่แปลกใจก็ตรงที่เขาอายุเกือบจะ 37 ปีอยู่แม่ของเขาไม่เคยจับคู่เขากับผู้หญิงคนไหนเลยสักคน แต่ทำไมกับเด็กผู้หญิงคนนี้คุณแม่ของเขาถึงได้ออกตัวแรงแบบนี้
“...?...”
“ผมขอตัวไปตรวจคนไข้ก่อนนะครับ”
หลังจากที่หมอเพิร์ชและพ่อของเขาเดินออกไปจากห้องพัก แมรี่ก็ขยับเข้ามายืนอยู่ที่ข้างเตียงของยายแม้น มือบางเอื้อมมากุมมือเหี่ยวย่นของหญิงชราตรงหน้าเอาไว้ ก่อนที่เธอจะเอ่ยถาม
“มีอะไรรึเปล่า?” ยายแม้นเห็นสีหน้าของหญิงสาวตรงหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลจึงเอ่ยถามเธอออกมาด้วยความเป็นห่วง
“พี่แม้นจำที่เคยบอกกับแมรี่เมื่อ 30 ปีก่อนได้ไหมคะ?”
“เรื่องของคุณหมอน่ะเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
“พี่แม้นบอกว่าก่อนเพิร์ชอายุคบ 37 ปี เขาจะเจอกับเคราะห์ใหญ่จนอาจจะถึงแก่ชีวิต พี่แม้นรู้ไหมคะหลังจากวันเกิดอายุคบ 36 ของลูก...เขาก็เกิดอุบัติเหตุแทบจะทุกเดือนเลยค่ะ”
“.../...”
“ครั้งล่าสุดเขาก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด รถพังยับโชคดีที่คนไม่เป็นอะไรมาก”
“แมรี่ไม่สบายใจเลยค่ะ ต่อให้ลูกบอกว่าไม่เป็นอะไรก็เถอะ...”
“พี่เข้าใจ...”
“ที่พี่แม้นเคยบอก ...ก่อนหน้านี้แมรี่ก็ไม่เข้าใจจนกระทั่งแมรี่เจอหนูน้ำมนต์”
“.../...”
“พี่แม้น น้ำหนึ่ง เพิร์ชเป็นคนไม่พูด ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา แมรี่ก็ไม่รู้ว่าลูกกำลังเผชิญอยู่กับอะไร ถ้าหนูน้ำมนต์เป็นคนเดียวที่จะช่วยเหลือตาเพิร์ชได้จริง...”
“0.0”
“พี่แม้นกับน้ำหนึ่งจะว่าอะไรไหมถ้า...?”
“พี่กับหนึ่งไม่ว่าอะไรหรอก รองถามเจ้าตัวเขาเองเถอะจ้ะ” หญิงชรายกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับหญิงสาวตรงหน้าเสียงอ่อน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ในสายตาของแม้น แมรี่ก็ยังคงเป็นคนที่น่าเอ็นดูเสมอ
“หนูน้ำมนต์จ๊ะ”
“คะ ค่ะ...?”
แมรี่หันกลับมามองหน้าเด็กหญิงอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินเข้ามากุมมือบางของร่างบางตรงหน้าเอาไว้
“ถ้าหนูน้ำมนต์จะไม่ว่าอะไร ป้าอยากจะขอร้องหนู ป้าขอให้หนูช่วยลูกชายของป้าสักครั้ง...”
“...?...” หนูชี้มาที่ตัวเองอย่างไม่เข้าใจในสิ่งหญิงสาวตรงหน้าเอ่ยออกมา เธอคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเด็กผู้หญิงบ้านนอกอย่างเธอจะสามารถช่วยอาจารย์หมออย่างเขาได้
“ไม่ว่าหนูอยากได้อะไรป้า...”
“อะ เอ่อ คือว่าหนูไม่ได้อยากได้อะไรหรอกค่ะ”
“หนูหมายความว่า...?”
“ถ้าพอมีอะไรที่หนูช่วยได้ หนูก็ยินดีช่วยค่ะ” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับหญิงสาวตรงหน้าเสียงอ่อน พร้อมกับยกยิ้มหวานออกมา ถึงเธอจะไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถช่วยเหลือเขาได้อย่างไรก็ตาม
‘ในเมื่อป้าแมรี่เป็นคนเอ่ยปากขอร้องเองแบบนี้คงจะมีอะไรที่น้ำมนต์พอจะทำได้บ้างไม่มากก็น้อย’ น้ำมนต์ได้แต่บอกกับตัวเองอยู่ภายในใจ
“จริงเหรอจ๊ะ? หนูจะไม่เปลี่ยนใจที่หลังใช่ไหมลูก?”
“ค่ะ ไม่เปลี่ยนใจค่ะ”
“ป้าดีใจมากนะลูก ลูกชายเพียงคนเดียวของป้าจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที”
‘เป็นฝั่งเป็นฝา?’
‘ทำไมฟังดูแปลกๆ’
น้ำมนต์ถามตัวเองอยู่ภายในใจพร้อมกับเกาหัวเบาๆ อย่างไม่ค่อยจะแน่ใจในสิ่งที่ป้าแมรี่เอ่ยออกมา ‘คงจะไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดหรอกนะ’
“ป้าแมรี่หมายความว่ายังไงเหรอคะ?” น้ำมนต์เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ไหวเธอจึงเลือกที่จะหญิงวัยกลางคนออกไป พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเธออย่างรอคำตอบ
“หนูตกลงแต่งงานกับพี่เพิร์ชไงลูก”
“แต่งงาน...!!!” น้ำมนต์อุทานออกมาเสียงดังลั่นห้องด้วยความตกใจ หญิงสาวอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้นอย่างลืมตัวจนกระทั่ง
“หนูน้ำมนต์”
“อะ เอ่อคุณป้าค่ะ หนูคิดว่าหนูกับพี่เพิร์ชแต่งงานกันไม่ได้หรอกค่ะ”
“...”
“เราสองคนต่างกันเกินไปค่ะ และอีกอย่างนะคะน้ำมนต์พึ่งจะอายุ 19 เองนะที่เรียนต่อก็ยังไม่มีจะแต่งงานกับอาจารย์หมออนาคตไกลอย่างพี่เพิร์ชไม่ได้หรอกค่ะ”
“ทำไมหนูดูถูกตัวเองอย่างนั้นล่ะจ๊ะหนูน้ำมนต์”
“...”
“เอาเข้าจริงเรื่องแต่งงานไม่มีใครบังคับใครได้ทั้งนั้นแหละลูก ป้าแค่หวังว่าอย่างน้อยให้หนูกับพี่เขาได้มีโอกาสทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ ส่วนจะลงเอยอย่างไรก็ให้เป็นเรื่องของหนูกับพี่เพิร์ชตัดสินใจกันเอาเอง”
“...”
“จำคำป้าไว้นะลูก...หนูมีค่าไม่ว่าหนูจะเป็นใครมาจากไหนหนูก็เป็นคนที่มีคุณค่าเสมอ คุณค่าของหนูอยู่ที่หนูปฏิบัติตัวกับตัวเองอย่างไร เข้าใจที่ป้าพูดไหมลูก?”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“เด็กดีของป้า อุ๊ย! ไม่สิ เด็กดีของแม่”
“...!!...”
“แมรี่ขอตัวไปบอกข่าวดีกับพี่พอลก่อนนะคะ”
“จ้ะ...”
ทั้งสามคนมองตามแผ่นหลังบางที่กำลังเดินออกจากห้องไปจนลับตา ก่อนที่น้ำมนต์จะหันกลับมามองหน้าของยายและแม่ของเธออย่างต้องการคำอธิบาย
“รับปากเขาแล้วต้องรักษาคำพูดนะลูก”
“เรื่องจริงเหรอคะ? หนูต้องแต่งงานกับเขาจริงๆ เหรอคะ?”
“อย่างที่ป้าเขาบอกนั่นแหละลูก เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน” น้ำหนึ่งเอ่ยบอกกับลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอเสียงอ่อน พร้อมกับลูบลงที่หัวของเด็กสาวอย่างเอ็นดู
“หึหึ แต่ยายคิดว่าคู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกันหรอก”
“เฮ้อ!! หนูจะช่วยเขาได้จริงๆ เหรอจ๊ะยาย? เขาดูน่ากลัว...สิ่งที่อยู่รอบตัวของเขาก็น่ากลัว” น้ำมนต์ทั้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงก่อนที่เธอจะเอ่ยถามหญิงชราตรงหน้าออกมาอย่างหนักใจ สิ่งที่ติดตามอยู่รอบตัวของเขาไม่ใช่ดวงวิญญาณที่เข้ามาเกาะใบบุญของเขาอย่างแน่นอน แต่น้ำมนต์สัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตและก็ความรู้สึกโหยหาไปพร้อมๆ กัน
“ข้างบนเขาลิขิตมาแล้วไม่ว่าหนูอยากจะหนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอกลูก”
“...”
“หนูแค่ทำตามสัญชาตญาณของหนูก็พอลูก”
“แต่ว่าแม่กับยายอนุญาตให้หนูอยู่ใกล้กับผู้ชายได้เหรอจ๊ะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามหญิงชราและแม่ของเธอออกไปด้วยความสงสัย ตั้งแต่เล็กจนโตเท่าที่เธอจำความได้เธอแทบจะไม่ได้ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ เลย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเธอไม่ชอบที่เด็กพวกนั้นล่อเรื่องพ่อของเธอที่จากไปแล้ว
“ลูกโตเป็นสาวแล้วน้ำมนต์ หนูคิดเองได้ว่าอะไรควรไม่ควร”
“จ้ะแม่”
“และการที่หนูอยู่ใกล้ และต้องคอยเชื่อเหลือพี่เขาก็ไม่ได้หมายความว่าหนูจะต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง หรือทำให้ตัวเองเสียชื่อ เราคอยช่วยเหลือเขาอยู่ห่างก็ได้ลูก”
“หึหึ นึกหวงลูกสาวขึ้นมารึไง?” หญิงชราหันไปมองลูกสาวของตัวเอง ก่อนที่เธอจะแกล้งถามออกมาเสียงใส
“หวงจ้ะ แต่ถ้าเป็นหมอเพิร์ชหนึ่งก็พอวางใจได้บ้าง”
“เข้าใจหัวอกของแม่แล้วใช่ไหม?” ยายแม้นเอ่ยถามลูกสาวออกไปอีกครั้ง
“เข้าใจแล้วจ้ะ”
“เรื่องหวงหนูเอาไว้ก่อนเถอะนะจ๊ะ หนูมีเรื่องที่ใหญ่กว่าจะบอก...”
“.../...”
“หนูเห็นวิญญาณทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา”
“ปกติหนูจะเห็นเฉพาะวันพระไม่ใช่เหรอลูก?”
“ใช่จ้ะแม่ หนูก็ไม่รู้ทำไม…?”
“แรงดึงดูด ทุกอย่างที่เกินขึ้นล้วนแล้วแต่มีที่มาที่ไปทั้งนั้นแหละลูก”
“มีวิธีทำให้หนูไม่เห็นไหมจ๊ะยาย?” น้ำมนต์ถามหญิงชราตรงหน้าอย่างมีความหวัง ก่อนที่ความหวังของเธอจะหมดลงทันทีที่ยายแม้นส่ายหัวไปมาเบาๆ
“เรื่องนี้ยายก็ไม่รู้เหมือนกันลูก”
ชีวิตที่เคยสงบสุขของน้ำมนต์เปลี่ยนไปตั้งแต่วินาทีที่เธอตบปากรับคำว่าจะช่วยหมอเพิร์ชลูกชายเพียงคนเดียวของป้าแมรี่ ท่านยื่นข้อเสนอให้ทุนเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยแก่น้ำมนต์ แมรี่พร้อมที่จะสนับสนุนทุกค่าใช้จ่ายโดยมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียว นั่นก็คือขอให้น้ำมนต์คอยดูแลหมอเพิร์ชอย่างใกล้ชิด
“เฮ้อออ!!!”
9 ปีต่อมา... “น้ำฟ้าพร้อมนะ”“พร้อมค่ะ” น้ำฟ้าในวัย 8 ขวบเอ่ยบอกกับเพื่อนของเธอในวัยเดียวกันเสียงอ่อน ก่อนที่เด็กสาวทั้งสองคนจะพากันกระโดดลงมาจากชิงช้า ด้วยความเป็นเธอโตมากับพี่ๆ ที่เป็นผู้ชาย ทำให้เด็กหญิงน้ำฟ้าดูแก่นแก้วกว่าเด็กสาวในวัยเดี๋ยวกัน“อะ โอ้ยยยย!!!”“บันนี่!!!” น้ำฟ้าร้องเรียกเพื่อนของเธอออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อนรักในทันที“เราขอดูหน่อยนะ” มือบางนวดข้อเท้าของเพื่อนตัวเองเบาๆ ก่อนที่เด็กหญิงจะเปิดกระเป๋าและหยิบยาขึ้นมาทาให้กับคนตรงหน้าอย่างเบามือ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่น้ำฟ้าจะลุกวิ่งออกไปทางโรงอาหารที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล“น้ำฟ้า”“ไปไหนมาเหรอ?”“ไปทำที่ประคบเย็นมาน่ะ น่าจะช่วยแก้ปวดได้ดีกว่า”“เราประคบเย็นให้แล้วอาจจะช่วยบันนี่เบาปวดลงได้บ้าง กลับบ้านไปพยายามอย่าให้บริเวณที่เจ็บโดนความร้อนนะ”“ทำไมละ?” บันนี่เอ่ยถามน้ำฟ้าออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะมองไปที่เพื่อนรักอย่างรอคำตอบ“ถ้าเส้นเลือดบริเวณนี้ขยายตัวมันจะทำให้บันนี่ปวดและก็จะหายช้าลงด้วย” น้ำฟ้าอธิบายให้เพื่อนของเธอฟังอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าเป้ของตัว
“พี่เพิร์ชจะรีบไปไหนคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะวางร่างบางของเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“รีบตามไอ้ฮันเตอร์ครับ”“พี่ฮันเตอร์ทำไมคะ?”“ไอ้ฮันเตอร์มันลูก 4 แล้วนะครับเราต้องรีบตามไป” เพิร์ชยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะ กระโดดขึ้นไปคล่อมร่างบางของคนรักเอาไว้ในทันที ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าหล่อเหลาของเขาลงใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว...“เดี๋ยวค่ะ...”“ครับ?”“หนูขออาบน้ำก่อนได้ไหมคะ?”“หึหึ ได้สิครับ” เพิร์ชหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างรู้ทันในความคิดของของร่างบางตรงหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลบทางเพื่อให้เธอลุกขึ้นไปอาบน้ำได้สะดวกยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะ”“ต้องการผู้ช่วยถอดชุดไหมครับ?”“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ดีกว่าหนูไม่อยากรบกวนพี่เพิร์ช”น้ำมนต์ถอดชุดเดรสของตัวเองออกจากร่างบางของตัวเองต่อหน้าหมอเพิร์ช ก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องน้ำไปหญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่ม พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“หึหึ”“...” น้ำมนต์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่เธอจะหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกเงา หญิงสาวมองไปยังนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของตัวเองที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวานอีกครั้ง“ไม่อยา
ณ บ้านพักตากอากาศปราณบุรี“พวกเราจะใส่ได้จริงๆ เหรอ?” ตะวันที่นั่งเงียบดูน้ำมนต์กับชูใจลองชุดอยู่นานเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองชุดบิกินี่สีชมพูบานเย็นในมือของตัวเองอย่างหนักใจ ตะวันจำได้ดีว่าครั้งล่าสุดที่เธอใส่บิกินี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสามีของเธอมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ใส่ได้ค่ะ เชื่อชูใจสิพี่ตะวัน”“จริงด้วยค่ะ มีแต่พวกเราพี่ฮันเตอร์ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” ตะวันเอ่ยบอกกับน้องๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทันที“ถ้าไม่มีผ้าก๊อซปิดแผลคงจะสวยกว่านี้นะคะ” น้ำมนต์มองตัวเองในกระจกก่อนที่เธอจะยู่หน้าขึ้นมาเล็กน้อย ทันทีที่เห็นผ้าก๊อซแปะอยู่บนหน้าผากของเธอ“ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ” ชูใจเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของน้ำมนต์ ก่อนที่มือบางจะประคองปลายคางของหญิงสาวพร้อมกับหมุนไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อดูความเรียบร้อยให้กับคนตรงหน้า“เป็นไงบ้างค่ะ?”“ไม่ว่ามุมไหนน้ำมนต์ก็สวย เดี๋ยวตอนถ่ายรูปถ่ายมุมนี้นะพี่รับรองความปัง”“ค่ะ”“แล้วบิกินี่สีฟ้าแบบนี้เข้ากับหนูไหมคะพี่ชูใจ?”“สวยมากค่ะลูกสาว” ชูใจเอ่ยบอกกับน้ำมนต์เสียงหวาน พร้อมกับมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอย่างช่างใจ บิกินี่สีส้มแบบนี้ยิ
ณ โรงพยาบาลเอกชน“ไอ้เพิร์ช / ไอ้เพิร์ช” เสียงของฮันเตอร์กับสกายร้องเรียกเพิร์ชรักของเขาออกมาเสียงหลง ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างร้อนใจสกายจับตัวเพิร์ชหมุนไปมาเพื่อสำรวจความเรียบร้อย จนชายหนุ่มที่พึ่งประสบอุบัติเหตุมาได้ไม่นานเวียนหัวไปหมด แต่เพิร์ชก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามอะไรเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักเป็นห่วงเขามาก และที่สำคัญเขามีคนให้ต้องสนใจมากกว่า ‘น้ำมนต์’“น้ำมนต์ล่ะคะ?” ตะวันที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่ทุกคนรู้ว่าหมอเพิร์ชกับน้ำมนต์ประสบอุบัติเหตุก็รีบพากันมาที่โรงพยาบาลในทันที โดยมีชูใจคอยดูแลเด็กๆ อยู่ที่บ้านพัก...“อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ”“น้องเป็นยังไงบ้าง?” ฮันเตอร์เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปตบไหล่แกร่งของเพื่อนรักเพื่อปลอบใจเพิร์ช สกาย และฮันเตอร์เป็นเพื่อนกันมานานแค่มองตาก็รู้ใจแล้ว ถึงบุคลิกของเพิร์ชจะดูเป็นคนขรึมๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกกับใครทั้งนั้น แต่ครั้งนี้มันต่างไปเพิร์ชที่เก็บสีหน้าเก่งมาตลอดกลับแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ยังไม่ออกมาเลยว่ะ”“...”“กูเคยคิดว่าตัวเองเป็นหมอที่เก่งช่วยคนมาได้ไม่รู้
วันต่อมา...“แม่รักลูกนะ“หนูก็รักแม่ค่ะ”น้ำหนึ่งกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอไว้แน่น มือบางลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเด็กสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทั้งคู่จะคลายอ้อมกอดออกจากกัน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปกอดยายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ได้“อยู่กับพี่เขาก็อย่าดื้อ ตั้งใจเรียนนะลูก จุ๊บ~” ยายแม้นเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อนพร้อมกับจุ๊บลงที่หน้าผากหลานสาวอย่างอ่อนโยน“จ้ะยาย”“เดินทางปลอดภัยนะลูก” นทีกอดตอบลูกสาวตัวน้องของเขา มือหนาลูบลงที่หัวของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหนูของเธอเพื่อให้รู้กันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น“ถ้าหนูอยากจะหนีก็โทรบอกมาหาพ่อ พ่อจะรีบไปพาลูกหนีได้ทุกเวลาที่หนูต้องการ เข้าใจไหมยัยหนูน้อยของพ่อ...?”“เข้าใจแล้วค่ะ”“หรือถ้าหนูอยู่แล้วไม่มีความสุขก็กลับมาบ้านเรานะลูก พ่อจะรออยู่ที่บ้านเสมอ”“จ้ะพ่อ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับบิดาของเธอเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปยืนอยู่ข้างกายของหมอเพิร์ช“พวกเราลาครับ สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”น้ำมนต์โบกมือลาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับทุกคน ก่อนที่หญิงสาวจะหันไปร่ำลากุมารน้อยทั้งสองตนเสียงอ่อน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ตามกลับ
“ตรงนี้เงียบดีนะครับ” เพิร์ชเอ่ยขึ้นมาก่อนที่ชายหนุ่มจะจูงมือบางให้เดินตามเขาขึ้นไปยังศาลากลางน้ำ ดอกบัวชมพูที่บานสะพรั่งอยู่ในสระน้ำตรงหน้ายิ่งมองดูยิ่งน่าหลงไหล“ลมเย็นดีด้วยนะคะ” น้ำมนต์เดินไปนั่งลงบนม้านั่งพร้อมกับทอดสายตามองไปที่สระน้ำเบื้องหน้า“ครับ อากาศน่านอนจริงๆ” เพิร์ชเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของเธอ ชายหนุ่มดึงมือบางไปกุมเอาไว้ที่อกแกร่งของเขา พร้อมกับนิ้วเรียวลูบลงที่หลังมือบางของเธอเบาๆ“พี่เพิร์ชเก่งมากเลยนะคะเข้ากับที่บ้านของหนูได้เป็นอย่างดีเลย”“ก็พี่รักลูกสาวเขานี่ครับ พี่ก็ต้องทำให้พวกเขารักและไว้ใจพี่” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มหวานออกมาพร้อมกับเอ่ยบอกกับเธอออกไปเสียงอ่อน“หนูรักพี่เพิร์ชนะคะ”จุ๊บ!!!“พี่ก็รักหนูครับ” ริมฝีปากหนาจุ๊บลงที่หลังมือของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับคำรักกับเธอออกไป‘น่าอิจฉาคนมีความรักจริงๆ โวย’‘เออวะ กลางนาก็ยังไม่เว้น’เสียงของใบเงินกับใบทองดังขึ้นมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่ร่างของกุมารน้อยทั้งสองตนจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกจากตักของหญิงสา