“เราทานกันที่โรงอาหารก็ได้นะคะ พี่เพิร์ชจะได้กลับไปพักผ่อน”
“เธอเลือกเลย”
“ร้านนี้น่าอร่อย หนูเลือกร้านนี้ค่ะ” น้ำมนต์ชี้ไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นตรงหน้าก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สดใสอย่างเช่นทุกครั้ง
“ร้านนี้น่าจะแพง เด็กที่พึ่งจบมัธยมปลายอย่างเธอจะเลี้ยงฉันไหวเหรอ?”
“เลี้ยงไหวค่ะ หุ่นดีๆ อย่างพี่เพิร์ชเนี่ยน่าจะทานไม่เยอะหรอกมั้งคะ” น้ำมนต์เอ่ยตอบคำถามของร่างสูงตรงหน้า พร้อมกับสำรวจร่างกายแกร่งกำยำของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ สายตาของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าทำตัวไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครทำกับเขาแบบนี้มาก่อน...
“รีบเข้าไปสิ” เพิร์ชหันหน้าหนีไปอีกทางก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับเธอเสียงเรียบ
“สั่งเลยนะคะ เดี๋ยวหนูเลี้ยงเอง”
“รวยนักรึไง?”
“หนูรวยสู้พี่เพิร์ชไม่ได้หรอกค่ะ แต่ก็พอมีเงินบ้าง”
“เอามาจากไหนล่ะ?” เพิร์ชเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าออกมาก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้น
“ทำงานไงคะ”
“ทำงาน?”
“หนูรับวาดภาพนะคะ ถ้าพี่เพิร์ชสนใจภาพวาดสวยๆ สามารถติดต่อหนูได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้า ก่อนที่เธอจะก้มหน้าก้มตาดูเมนูตรงหน้าต่อ
“...” เพิร์ชนั่งมองดูเด็กสาวตรงหน้าเงียบๆ ก่อนที่มุมปากของเขาจะยกยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
“พี่เพิร์ชไม่ทานเหรอคะ?”
“เอาเหมือนเดิมครับ”
“ได้เลยค่ะอาจารย์หมอ...รออาหารสักครู่นะคะ”
“เธออายุเท่าไหร่แล้ว?” เพิร์ชเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกมาเสียงเรียบ ตาคมจ้องมองไปยังใบหน้าสวยหวานได้รูปของร่างบางตรงหน้านิ่งๆ อย่างรอคำตอบ
“ถามหนูเหรอคะ?”
“ฉันนั่งอยู่กับเธอ เธอจะให้ฉันถามจิ้งจกบนเพดานรึไง?”
“ประชดประชันเก่ง...”
“...”
“หนูอายุ 19 ปีแล้วค่ะ”
“อายุเธอยังน้อย คิดยังไงถึงอยากจะแต่งงานกับฉัน”
“หนูไม่ได้อยากจะแต่งงานกับพี่เพิร์ชหรอกค่ะ และก็ไม่รู้ด้วยว่าจะทำอย่างไรให้พี่เพิร์ชปลอดภัย แต่ที่ตอบตกลงก็เพื่อความสบายใจของคุณป้าค่ะ” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าไปตามตรง
ส่วนเรื่องเรียนต่อเธอคิดไว้อยู่แล้วว่าอยากเรียนต่อที่มหาลัยที่ป้าแมรี่เสนอมาให้ ถึงแม้ว่าภายในใจลึกๆ ของน้ำมนต์ก็ไม่ได้อยากอยู่ห่างจากยายและแม่ของเธอ แต่พวกท่านก็ยืนยันว่าอยากจะให้น้ำมนต์ทำตามความฝันของตัวเอง
“...” คำตอบของเด็กสาวตรงหน้าทำให้หมอหนุ่มหน้าชาไปในทันที ตั้งแต่เขาจำความได้มีแต่สาวๆ วิ่งเข้าหา แต่คำตอบของเธอคนนี้ทำให้เขารู้สึกเสียความมั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“พี่เพิร์ชคะ?”
“อะ อ่อ ว่าไง?”
“พี่เพิร์ชมองอะไรเหรอคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย ดวงตาใสซื่อของเธอจับจ้องไปยังเขาอย่างรอคำตอบ พร้อมกับมุมปากสวยได้รูปยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยให้กับท่าทางของเขา
“ไม่เห็นจะเหมือนกับที่พี่ใบเงินกับพี่ใบทองบอกเลย” น้ำมนต์พึมพำออกมาเบาๆ พร้อมกับหรี่ตามองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าเล็กน้อย
“พึมพำอะไรของเธอ”
“เปล่าค่ะ เราทานอาหารกันดีกว่านะคะ”
“เชิญ” เพิร์ชเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนที่เขาจะทานอาหารตรงหน้าเงียบๆ โดยที่ไม่ได้มีใครเอ่ยคำใดออกมาอีกเลย จนกระทั่ง...
“พี่เพิร์ชเคยมีแฟนไหมคะ?” น้ำมนต์เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ไหวเธอจึงเอ่ยถามเขาออกไปเสียงดังฟังชัด
“...” เพิร์ชชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คิ้วหนาของเขาจะขมวดเข้าหากัน ในขณะที่ตาคมยังคงจ้องมองมายังเด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่ยอมลดละ
“ทำไมเธอถึงถามฉันแบบนี้ล่ะ?”
“หนูก็แค่อยากรู้เฉยๆ” น้ำมนต์แกล้งตอบเขาออกมา ก่อนที่เธอจะหันหน้าหนีหลบตาเขาไปอีกทาง ไม่ใช่ว่าเธอกลัวเขาจะจับได้ แต่น้ำมนต์สังเกตุเห็นดวงวิญญาณของผู้หญิงคนเดิมกำลังยืนจ้องมองมาที่เธออยู่ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา
“เธอแน่ใจเหรอ?” เพิร์ชเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าอย่างรู้ทัน
“แน่ใจค่ะ” น้ำมนต์สูดลมเข้าปอดลึกๆ ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะยกยิ้มกว้างออกมา โดยที่น้ำมนต์พยายามไม่หันไปสนใจหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา
“ถ้าอย่างนั้นเธอล่ะ...คิดจะแต่งงานกับฉันไม่กลัวแฟนเธอจะว่ารึไง?”
“ไม่กลัวค่ะ เพราะหนูไม่มีแฟน”
“...”
“ถึงคิวพี่เพิร์ชตอบคำถามของหนูแล้วค่ะ”
“ฉันก็ไม่มี ฉันไม่เคยรักใครและไม่มีวันที่คนอย่างฉันจะรักใคร...”
‘ฮือออออออ~~’
หลังจากที่เพิร์ชเอ่ยตอบคำหญิงสาวตรงหน้าจบ ดวงวิญญาณที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก แต่เสียงที่ดังออกมามันช่างโหยหวนจนน้ำมนต์ทั้งรู้สึกกลัวและรู้สึกสงสารไปพร้อมๆ กัน
‘กรี๊ดดดดดดด~~’
“พี่เพิร์ช” น้ำมนต์เอ่ยเรียกร่างสูงตรงหน้าเสียงดังด้วยความตกใจ พร้อมกับคว้ามือหนาของเขาที่วางอยู่ตรงหน้ามากุมเอาไว้แน่น
“หายไปจริงๆ ด้วย” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เธอคืดเอาเองว่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขาเธอก็จะเห็นดวงวิญญาณ และในขณะเดียวกันถ้าเธอสัมผัสโดยตัวของเขาดวงวิญญาณพวกนั้นก็จะหายไป
เพิร์ชพยายามจะดึงมือของตัวเองกลับ แต่เด็กสาวตรงหน้าก็ไม่ยอมปล่อยมือของเขาออกง่ายๆ ภาพที่โดยรอบเห็นจึงเป็นภาพที่ทั้งคู่พยายามฉุดกระชากมือของกันและกันอยู่อย่างนั้น
“ทำอะไรของเธอ ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้...”
“ไม่ปล่อยค่ะ”
“น้ำมนต์” เพิร์ชเอ่ยเรียกชื่อของเด็กสาวตรงหน้าเสียงดุ พร้อมกับตาคมจ้องเขม็งไปที่เธออย่างเอาเรื่อง
“ขอจับมือนิดเดียวเองค่ะ อย่าพึ่งรีบดุสิคะ” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับชายหนุ่มตรงหน้าเสียงอ่อน เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจับมือเขาเอาไว้แบบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
ดวงวิญญาณของผู้หญิงคนนั้นดูเจ็บปวดกับคำพูดของพี่เพิร์ชมาก น้ำมนต์จะต้องรู้ให้ได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าไปทำอะไรเอาไว้ให้เธอต้องเจ็บปวดขนาดนี้ เพราะถ้าเธอไม่รู้ถึงสาเหตุเธอก็จะไม่สามารถช่วยเหลือใครได้เลย...
“เธอเป็นผู้หญิงนะน้ำมนต์”
“น้ำมนต์ไม่ถือค่ะ”
“แต่ฉันถือ...”
“ปล่อยวางค่ะพี่เพิร์ช ปล่อยวาง...”
“น้ำมนต์” เพิร์ชเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงดุกว่าครั้งไหนๆ ทำให้เด็กสาวต้องหยุดดึงและยอมปล่อยให้เค้าเป็นอิสระ
“โดนนิดโดนหน่อยทำเป็นหวงตัวไปได้” น้ำมนต์พึมพำออกมาเสียงหงอย ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงตรงหน้าอีกครั้ง
“ถึงแม่ฉันจะให้ท้ายเธอ แต่เธอก็ไม่มีสิทธิมาถูกเนื้อต้องตัวฉัน”
“...”
“8 เดือนใช่ไหมที่ฉันต้องอดทนกับเธอ”
“...”
“ได้สิ ต่อไปนี้เธอห้ามมาโดนตัวของฉันอีกไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” เพิร์ชเอ่ยบอกกับหญิงสาวตรงหน้าของเขาอย่างเอาเรื่อง ร่างสูงจะวางเงินไว้บนโต๊ะจำนวนหนึ่งก่อนที่เขาจะลุกเดินออกไปนิ่งๆ โดยไม่หันกลับมาสนใจคนตัวเล็กอีกเลย
“ไม่โดนก็ไม่โดนสิ ใครเขาอยากโดนไม่ทราบ” น้ำมนต์พึมพำออกมาเสียงเบา พร้อมกับยู่หน้าให้กับแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่เดินออกไปอย่างหมั่นไส้ในท่าทางหยิ่งผยองของเขา
“ใครเขาอยากจะอยู่ใกล้ไม่ทราบ ชิ!!”
“พี่คะคิดเงินด้วยค่ะ” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับพี่พนักงานที่เดินผ่านมาพอดีเสียงอ่อน เธอหยิบเงินที่วางไว้ตรงหน้ายืนให้กับพี่พนักงานคนเดิม
“เงินทอนค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
น้ำมนต์เก็บเงินใส่กระเป๋าก่อนที่เธอจะเดินกลับไปยังห้องพักฟื้นของคุณยายของเธอในทันที ในเมื่อเขาวางเงินเอาไว้ให้แบบนี้เธอก็ไม่อยากจะไปขัดเขาช่วงนี้ข้าวยิ่งยากหมากยิ่งแพงอยู่ด้วย...
‘ยิ้มหน้าบานขนาดนี้ไม่โมโหเขารึไง’ เสียงของเด็กชายที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้นมาข้างหูของเธอ ทำให้น้ำมนต์รีบหันกลับไปดูในทันทีก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะยกยิ้มกว้างออกมาทันทีที่เห็นคนตรงหน้า
“พี่ใบทอง?”
“มาได้ไงจ๊ะเนี่ย? แล้วพี่ใบเงินล่ะไม่มาด้วยเหรอ?”
‘ไอ้เงินยายจ๋าให้มันอยู่เฝ้าบ้านกับพ่อนที’
‘ยายเรียกให้พี่มาเฝ้าหนู ยายบอกกับพี่ว่าทุกครั้งที่หนูอยู่ใกล้หมอหนุ่มนั่นหนูจะเห็นดวงวิญญาณ’
“ใช่จ้ะ แต่ถ้าหนูโดนตัวเขาดวงวิญญาณพวกนั้นก็จะหายไปจ้ะ”
‘น่าแปลกพี่ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วย’ เด็กชายเอ่ยออกมาพร้อมกับลอยตามร่างบางที่กำลังเดินไปตามทางเดินตรงหน้า
“เฮ้ออออ!!!”
‘ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่จะหาทางช่วย’
“ขอบคุณจ๊ะ”
‘ถึงพี่จะรู้ดีว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถขัดขวางโชคชะตาได้ แต่พี่ก็ต้องเตือนหนูไว้ก่อน’
“...”
‘รอบตัวของเขาคนนั้นมีแต่ภัยอันตราย พยายามอยู่ให้ห่างจากเขาเอาไว้ให้มาที่สุดเท่าที่หนูจะทำได้’
“จ๊ะหนูจะพยายาม”
‘เข้าไปข้างในกันเถอะ’
“จ้ะ...”
1 เดือนต่อมา...
“ไม่ต้องห่วงนะคะพี่ แมรี่กับเพิร์ชจะดูแลหนูน้ำมนต์อย่างดี” แมรี่เอ่ยบอกกับครอบครัวของน้ำมนต์เสียงอ่อนอย่างนอบน้อม
“พี่ฝากด้วยนะแมรี่ น้ำมนต์อาจจะดูดื้อไปบ้าง แต่ก็เป็นเด็กที่ดีมากๆ เลยคนหนึ่ง”
“ค่ะพี่แม้น”
“หนูร่ำลาครอบครัวก่อนนะลูก เดี๋ยวป้ากับพี่เพิร์ชไปรอที่รถ”
“ค่ะคุณป้า”
“สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ” แมรี่กับเพิร์ชร่ำลาผู้ใหญ่ตรงหน้าอย่างนอบน้อม ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปรอที่รถตู้คันหรูที่จอดรออยู่ไม่ไกลเพื่อปล่อยให้เด็กหญิงมีเวลาเป็นส่วนตัวกับครอบครัวของเธอ
“ไปถึงแล้วก็ตั้งใจเรียนนะลูก และอย่าลืมช่วยงานคุณป้าเท่าที่เราจะช่วยได้ ท่านเป็นผู้มีพระคุณส่งเสียลูกจนเรียนจบ”
“ไม่เห็นต้องให้เขาช่วยพี่ก็มีปัญญาส่งลูกเรียนจนจบ” นทีเอ่ยบอกกับภรรยาของเขาเสียงอ่อน เขาเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการจับลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาคลุมถุงชนแบบนี้
“พี่นทีจ๊ะ เราคุยกันแล้วนี่”
“พี่ก็แค่เป็นห่วงลูก”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนที น้ำมนต์จะปลอดภัยแม่สัญญา” ยายแม้นเอ่ยบอกกับลูกเขยด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม
“รับปากกับพ่อ โทรหาพ่อทันทีที่ลูกต้องการ” นทีเอ่ยบอกกับลูกสาวเสียงอ่อน พร้อมกับมือหนาลูบลงที่หัวของเธออย่างทะนุถนอม
“จ้ะพ่อ”
“พ่อรักลูกมากนะ”
“หนูก็รักพ่อจ้ะ”
“รักยาย รักแม่เหมือนกันนะจ๊ะ”
น้ำมนต์ร่ำลาครอบครัวอยู่สักพักก่อนที่เธอจะเดินมายังรถหรูที่จอดรอเธออยู่ไม่ไกล เด็กสาวหันกลับไปมองทั้งสามคนอีกครั้งก่อนที่เธอจะยกยิ้มออกมาพร้อมกับโบกมือลาพวกเขา
‘ทุกอย่างจะต้องโอเค’ น้ำมนต์ได้แต่บอกกับตัวเองอยู่ภายในใจ ในขณะที่สายตาของเธอยังคงเหม่อมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่าง
‘ไม่ต้องกลัวพวกพี่จะตามไปด้วย’
‘ใช่! จะไม่มีใครทำอะไรหนู’
เสียงของใบเงินและใบทองดังก้องเข้ามาในโสนประสาตของน้ำมนต์ ทำให้เด็กสาวเผลอยกยิ้มกว้างออกมา
9 ปีต่อมา... “น้ำฟ้าพร้อมนะ”“พร้อมค่ะ” น้ำฟ้าในวัย 8 ขวบเอ่ยบอกกับเพื่อนของเธอในวัยเดียวกันเสียงอ่อน ก่อนที่เด็กสาวทั้งสองคนจะพากันกระโดดลงมาจากชิงช้า ด้วยความเป็นเธอโตมากับพี่ๆ ที่เป็นผู้ชาย ทำให้เด็กหญิงน้ำฟ้าดูแก่นแก้วกว่าเด็กสาวในวัยเดี๋ยวกัน“อะ โอ้ยยยย!!!”“บันนี่!!!” น้ำฟ้าร้องเรียกเพื่อนของเธอออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อนรักในทันที“เราขอดูหน่อยนะ” มือบางนวดข้อเท้าของเพื่อนตัวเองเบาๆ ก่อนที่เด็กหญิงจะเปิดกระเป๋าและหยิบยาขึ้นมาทาให้กับคนตรงหน้าอย่างเบามือ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่น้ำฟ้าจะลุกวิ่งออกไปทางโรงอาหารที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล“น้ำฟ้า”“ไปไหนมาเหรอ?”“ไปทำที่ประคบเย็นมาน่ะ น่าจะช่วยแก้ปวดได้ดีกว่า”“เราประคบเย็นให้แล้วอาจจะช่วยบันนี่เบาปวดลงได้บ้าง กลับบ้านไปพยายามอย่าให้บริเวณที่เจ็บโดนความร้อนนะ”“ทำไมละ?” บันนี่เอ่ยถามน้ำฟ้าออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะมองไปที่เพื่อนรักอย่างรอคำตอบ“ถ้าเส้นเลือดบริเวณนี้ขยายตัวมันจะทำให้บันนี่ปวดและก็จะหายช้าลงด้วย” น้ำฟ้าอธิบายให้เพื่อนของเธอฟังอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าเป้ของตัว
“พี่เพิร์ชจะรีบไปไหนคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะวางร่างบางของเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“รีบตามไอ้ฮันเตอร์ครับ”“พี่ฮันเตอร์ทำไมคะ?”“ไอ้ฮันเตอร์มันลูก 4 แล้วนะครับเราต้องรีบตามไป” เพิร์ชยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะ กระโดดขึ้นไปคล่อมร่างบางของคนรักเอาไว้ในทันที ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าหล่อเหลาของเขาลงใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว...“เดี๋ยวค่ะ...”“ครับ?”“หนูขออาบน้ำก่อนได้ไหมคะ?”“หึหึ ได้สิครับ” เพิร์ชหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างรู้ทันในความคิดของของร่างบางตรงหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลบทางเพื่อให้เธอลุกขึ้นไปอาบน้ำได้สะดวกยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะ”“ต้องการผู้ช่วยถอดชุดไหมครับ?”“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ดีกว่าหนูไม่อยากรบกวนพี่เพิร์ช”น้ำมนต์ถอดชุดเดรสของตัวเองออกจากร่างบางของตัวเองต่อหน้าหมอเพิร์ช ก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องน้ำไปหญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่ม พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“หึหึ”“...” น้ำมนต์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่เธอจะหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกเงา หญิงสาวมองไปยังนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของตัวเองที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวานอีกครั้ง“ไม่อยา
ณ บ้านพักตากอากาศปราณบุรี“พวกเราจะใส่ได้จริงๆ เหรอ?” ตะวันที่นั่งเงียบดูน้ำมนต์กับชูใจลองชุดอยู่นานเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองชุดบิกินี่สีชมพูบานเย็นในมือของตัวเองอย่างหนักใจ ตะวันจำได้ดีว่าครั้งล่าสุดที่เธอใส่บิกินี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสามีของเธอมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ใส่ได้ค่ะ เชื่อชูใจสิพี่ตะวัน”“จริงด้วยค่ะ มีแต่พวกเราพี่ฮันเตอร์ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” ตะวันเอ่ยบอกกับน้องๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทันที“ถ้าไม่มีผ้าก๊อซปิดแผลคงจะสวยกว่านี้นะคะ” น้ำมนต์มองตัวเองในกระจกก่อนที่เธอจะยู่หน้าขึ้นมาเล็กน้อย ทันทีที่เห็นผ้าก๊อซแปะอยู่บนหน้าผากของเธอ“ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ” ชูใจเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของน้ำมนต์ ก่อนที่มือบางจะประคองปลายคางของหญิงสาวพร้อมกับหมุนไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อดูความเรียบร้อยให้กับคนตรงหน้า“เป็นไงบ้างค่ะ?”“ไม่ว่ามุมไหนน้ำมนต์ก็สวย เดี๋ยวตอนถ่ายรูปถ่ายมุมนี้นะพี่รับรองความปัง”“ค่ะ”“แล้วบิกินี่สีฟ้าแบบนี้เข้ากับหนูไหมคะพี่ชูใจ?”“สวยมากค่ะลูกสาว” ชูใจเอ่ยบอกกับน้ำมนต์เสียงหวาน พร้อมกับมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอย่างช่างใจ บิกินี่สีส้มแบบนี้ยิ
ณ โรงพยาบาลเอกชน“ไอ้เพิร์ช / ไอ้เพิร์ช” เสียงของฮันเตอร์กับสกายร้องเรียกเพิร์ชรักของเขาออกมาเสียงหลง ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างร้อนใจสกายจับตัวเพิร์ชหมุนไปมาเพื่อสำรวจความเรียบร้อย จนชายหนุ่มที่พึ่งประสบอุบัติเหตุมาได้ไม่นานเวียนหัวไปหมด แต่เพิร์ชก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามอะไรเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักเป็นห่วงเขามาก และที่สำคัญเขามีคนให้ต้องสนใจมากกว่า ‘น้ำมนต์’“น้ำมนต์ล่ะคะ?” ตะวันที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่ทุกคนรู้ว่าหมอเพิร์ชกับน้ำมนต์ประสบอุบัติเหตุก็รีบพากันมาที่โรงพยาบาลในทันที โดยมีชูใจคอยดูแลเด็กๆ อยู่ที่บ้านพัก...“อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ”“น้องเป็นยังไงบ้าง?” ฮันเตอร์เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปตบไหล่แกร่งของเพื่อนรักเพื่อปลอบใจเพิร์ช สกาย และฮันเตอร์เป็นเพื่อนกันมานานแค่มองตาก็รู้ใจแล้ว ถึงบุคลิกของเพิร์ชจะดูเป็นคนขรึมๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกกับใครทั้งนั้น แต่ครั้งนี้มันต่างไปเพิร์ชที่เก็บสีหน้าเก่งมาตลอดกลับแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ยังไม่ออกมาเลยว่ะ”“...”“กูเคยคิดว่าตัวเองเป็นหมอที่เก่งช่วยคนมาได้ไม่รู้
วันต่อมา...“แม่รักลูกนะ“หนูก็รักแม่ค่ะ”น้ำหนึ่งกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอไว้แน่น มือบางลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเด็กสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทั้งคู่จะคลายอ้อมกอดออกจากกัน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปกอดยายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ได้“อยู่กับพี่เขาก็อย่าดื้อ ตั้งใจเรียนนะลูก จุ๊บ~” ยายแม้นเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อนพร้อมกับจุ๊บลงที่หน้าผากหลานสาวอย่างอ่อนโยน“จ้ะยาย”“เดินทางปลอดภัยนะลูก” นทีกอดตอบลูกสาวตัวน้องของเขา มือหนาลูบลงที่หัวของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหนูของเธอเพื่อให้รู้กันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น“ถ้าหนูอยากจะหนีก็โทรบอกมาหาพ่อ พ่อจะรีบไปพาลูกหนีได้ทุกเวลาที่หนูต้องการ เข้าใจไหมยัยหนูน้อยของพ่อ...?”“เข้าใจแล้วค่ะ”“หรือถ้าหนูอยู่แล้วไม่มีความสุขก็กลับมาบ้านเรานะลูก พ่อจะรออยู่ที่บ้านเสมอ”“จ้ะพ่อ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับบิดาของเธอเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปยืนอยู่ข้างกายของหมอเพิร์ช“พวกเราลาครับ สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”น้ำมนต์โบกมือลาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับทุกคน ก่อนที่หญิงสาวจะหันไปร่ำลากุมารน้อยทั้งสองตนเสียงอ่อน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ตามกลับ
“ตรงนี้เงียบดีนะครับ” เพิร์ชเอ่ยขึ้นมาก่อนที่ชายหนุ่มจะจูงมือบางให้เดินตามเขาขึ้นไปยังศาลากลางน้ำ ดอกบัวชมพูที่บานสะพรั่งอยู่ในสระน้ำตรงหน้ายิ่งมองดูยิ่งน่าหลงไหล“ลมเย็นดีด้วยนะคะ” น้ำมนต์เดินไปนั่งลงบนม้านั่งพร้อมกับทอดสายตามองไปที่สระน้ำเบื้องหน้า“ครับ อากาศน่านอนจริงๆ” เพิร์ชเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของเธอ ชายหนุ่มดึงมือบางไปกุมเอาไว้ที่อกแกร่งของเขา พร้อมกับนิ้วเรียวลูบลงที่หลังมือบางของเธอเบาๆ“พี่เพิร์ชเก่งมากเลยนะคะเข้ากับที่บ้านของหนูได้เป็นอย่างดีเลย”“ก็พี่รักลูกสาวเขานี่ครับ พี่ก็ต้องทำให้พวกเขารักและไว้ใจพี่” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มหวานออกมาพร้อมกับเอ่ยบอกกับเธอออกไปเสียงอ่อน“หนูรักพี่เพิร์ชนะคะ”จุ๊บ!!!“พี่ก็รักหนูครับ” ริมฝีปากหนาจุ๊บลงที่หลังมือของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับคำรักกับเธอออกไป‘น่าอิจฉาคนมีความรักจริงๆ โวย’‘เออวะ กลางนาก็ยังไม่เว้น’เสียงของใบเงินกับใบทองดังขึ้นมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่ร่างของกุมารน้อยทั้งสองตนจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกจากตักของหญิงสา