แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: เม็ดขนุน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-15 22:51:06

"ใคร!! ผู้หญิงเห็นแก่เงินคนนั้นคือใคร" ภาคินอยากจะหัวเราะให้ฟันหลุดออกจากปาก...แต่จะว่าไปผู้หญิงคนนั้นที่คุณพ่อหมายถึงก็เห็นแก่เงินจริงๆนั่นแหละ...ยอมแม้นลดศักดิ์ศรีของตนเอง เปลืองตัวนิดๆหน่อยๆแล้วหลอกคนแก่ตัณหากลับที่มักมากในกามสอยได้แม้กระทั่งเด็กสาวอายุอ่อนกว่าลูกชาย

ตอนแรกภาคินเองก็ไม่นึกเหมือนกันว่ามินตราจะเป็นผู้หญิงพรรค์นั้นเพราะเห็นหน้าตาใสซื่อ ไร้เดียงสา ไม่ค่อยทันคน ค่อนข้างรักนวลสงวนตัวหากสังเกตจากการแต่งกายมิดชิด...แต่ทว่าผลการทดลองกลับผิดคาด ผู้หญิงดีๆที่ไหนจะยอมนอนกับผู้ชายที่รู้จักกันได้ไม่ถึงสามเดือน และเขาสามารถปิดจ๊อบได้เร็วกว่าที่คิดเป็นไหนๆ!

เธอทำให้เขาได้เห็นว่าสุดท้ายผู้หญิงแม่งก็เห็นแก่เงินก็ทั้งหมด! แม่นั่นไม่ได้วิเศษวิโส ดีแค่เปลือกนอก แต่ด้านในเน่าเละ เหม็นโฉ่ จนกลืนไม่ลง..และชักจะไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าเขากับพ่อกำลังใช้เมียคนเดียวกันหรือเปล่า?

"ไม่รู้สิครับ" ภาคินไหวไหล่แล้วยักคิ้วหลิ่วตากวนประสาทคุณดำเกิง "แต่พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะครับว่าผมจะเอาผู้หญิงพรรค์นั้นมาเชิดหน้าชูตาเป็นเมียให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล เพราะผมเองก็ขยาดและรูัสึกอับอายขายขี้หน้าคนอื่นจนแทบซุกแผ่นดินหนีหากต้องไปบอกใครต่อใครว่านี่คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมก็แค่เอาไว้ใช้ควงเล่น บำเรอ ปรนเปรอ อีกสักแป๊บถ้าเบื่อเฉดหัวทิ้ง"

ภาคินทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะลุกขึ้นพรวดพราดแล้วเดินออกไปจากห้องรับรองแขกที่สันนิษฐานว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้ามันคงได้ระเบิดแตกกระจุยเพราะอารมณ์โมโหที่สะสมอยู่ในอกคุณดำเกิงเป็นแน่

...

@บ้านจัดสรรค์

ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านจัดสรรค์ซึ่งเป็นส่วนบริเวณห้องนอน ทอดแลเห็นเรือนร่างบอบบางสวมใส่ชุดผ้าแพรชนิดลื่นๆขดตัวคลุมโปงหลับสนิทอยู่ในผ้านวมผืนโต ตามใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอยังมีคราบน้ำตาแปดเปื้อนชะโลมให้เห็นอยู่เป็นเนืองๆว่าเมื่อครู่คงเพิ่งร้องไห้เสร็จไปหมาดๆ

ร้องไห้นานขนาดนั้นเลยเหรอวะ? แค่เขาดุนิดๆหน่อยๆว่าอย่ามายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวถึงกับต้องบีบน้ำตาเรียกร้องคะแนนสงสารงั้นเรอะ...ช่างเป็นการกระทำที่โง่เขลาเสียจริง

ภาคินไม่ได้สนใจใยดี เดินอ้อมผ่านเข้าไปแช่ตัวในห้องน้ำอย่างไร้เยื่อใย...คืนนี้เขากะว่าจะหลับนอนที่นี่เสียหน่อย หากให้โผล่หน้ากลับไปบ้านใหญ่มีหวังโดนคุณดำเกิงซักไซ้ถามจนหมดวันแน่ๆ

และหากกลับบ้านของมารดา...รายนั้นก็เหลือเกิน รู้แม้กระทั่งน้ำเสียงและแววตาของเขาว่า ณ เวลา นั้นๆกำลังรู้สึกเป็นเช่นไร ภาคินไม่อยากให้แม่ต้องไม่สบายใจ ไม่อยากให้อาการป่วยของท่านต้องทรุดตัวลง อยากให้ท่านอยู่แบบสุขสบายใจอุดมด้วยความสงบเช่นคนปกติเขาเสียที

"ฮึก..." เสียงสะอึกสะอื้นเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางที่พยายามข่มตาหลับ...หลังได้รับคลิปเสียงจากบุคคลปริศนาที่ส่งเข้ามาเพื่อเปิดทางสว่างให้แก่เธอว่าควรเตรียมตัวเสียโลกทั้งใบก็คล้ายหยุดหมุน

"แต่พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะครับว่าผมจะเอาผู้หญิงพรรค์นั้นไม่เชิดหน้าชูตาเป็นเมียให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล เพราะผมเองก็ขยาดและอับอายขายขี้หน้าคนอื่นจนแทบซุกแผ่นดินหนีหากต้องไปบอกใครต่อใครว่านี่คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมก็แค่เอาไว้ใช้ควงเล่น บำเรอ ปรนเปรอ อีกสักแป๊บถ้าเบื่อก็แค่เฉดหัวทิ้ง"

มินตราจำได้ดีว่าเสียงแบบนี้คือเสียงของใคร...เธอที่พยายามทำทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางและทำตามคำสั่งของเขาโดยไม่มีขัดข้อง...ยอมแม้กระทั่งแลกศักดิ์ศรีของตัวเองแล้วอยู่กินฉันผัวเมียในฐานะคู่นอน กับเขา

ภายนอกนั้นไซร้เขาพยายามสร้างภาพให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อไม่ต้องอับอายขายขี้หน้าผู้ใดหากถามว่าเธอคือเลขานุการของรองประธานหรือไม่?

แต่ดูสิ่งที่เขาพูดออกมาสิ...ประกาศโปงกับใครต่อใครว่า...เธอมันเป็นแค่ผู้หญิงพรรค์อย่างว่า แสนขยะแขยงและอับอายขายขี้หน้าเต็มทีหากวันนึงต้องบอกใครต่อใครว่านี่คือเมีย เขาแค่เอาเธอไว้ใช้ควงเล่นบำเรอปรนเปรอและอีกประเดี๋ยวเดียวก็คงจะถูกเฉดหัวทิ้ง...

นี่นะหรือคือคำพูดของคนที่นอนเอาอยู่ด้วยกันเกือบทุกวัน...ในสายตาของภาคินมินตราคงเป็นแค่ผู้หญิงชั้นต่ำไม่มีอะไรเทียบเท่า นี่เธอต้องดีใจแล้วรู้สึกปลาบปลื้มใช่ไหมถึงขั้นเอาดอกไม้ไปขอบคุณเขายกใหญ่ที่ยอมลดตัวลงมาคั่วผู้หญิงประเภทเธอหรือเปล่านะ...

Jarave : คราวนี้ตาสว่างได้ยัง ว่าเธออยู่จุดไหนในชีวิตของตาภาคิน

mintra.ra : เพื่ออะไรคะ คุณหญิงจารวีทำแบบนี้เพื่ออะไร

วินาทีนั้นใจของเธอแตกเป็นเสี่ยงเสี่ยง ก้อนตีบตันแล่นขึ้นมาจุกอก...คาดแลจากน้ำเสียงเขาไม่ได้พูดเล่นแต่ล้วนเป็นความรู้สึกที่แท้จริงซึ่งถูกกลั่นลึกอยู่ในใจ

Jarave : เพื่อทำให้เธอตาสว่างแล้วรู้จุดยืนของตัวเองยังไงล่ะ

Jarave : ภาคินเห็นเธอเป็นแค่คู่นอน เป็นแค่ผู้หญิงที่ใช้บำเรอบำบัดความใคร่ หาได้ต้องการนำมาเชิดหน้าชูตา

Jarave : ตื่นจากความฝันได้แล้วมินตรา นี่ไม่ใช่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เธอจะมาวิ่งเล่นได้ตามสุขสบาย เพราะลูกชายฉันคือขุมนรกที่พร้อมจะแผดเผาหัวใจเธอให้มอดไหม้ได้ทุกเมื่อ

Jarave : และที่สำคัญผู้หญิงที่ภาคินจะแต่งงานด้วยก็คือหนูพิรญาณ์ คนที่เพียบพร้อมทั้งฐานะ ชาติสกุลหน้าที่การงาน ความรู้ความสามารถและหน้าตา

Jarave : ลองคิดเอาดูนะมินตรา เขาพูดถึงเธอขนาดนั้นแล้วน่ะ ฉันไม่ได้มู่มี่นะแต่ระหว่างเธอกับหนูพิรญาณ์ที่แตกต่างกันดังฟ้ากับเหว เธอคิดว่าลูกชายฉันจะเลือกใคร

mintra.ra : คุณจารวีจะซ้ำเติมฉันทำไมคะ

Jarave : ฉันไม่ซ้ำเติม ฉันจะทำให้เธอได้รู้ว่าที่ผ่านมาที่เธอไม่เคยมีความสุขเพราะเธอยืนอยู่ผิดที่ผิดทางยังไงล่ะ

Jarave : สิ่งไหนที่กอบโกยได้ก็รีบกอบโกยไป มันใกล้หมดเวลาสำหรับผู้หญิงอย่างเธอแล้วมินตรา เพราะถ้าถึงวันนั้นจริงๆ...เธอจะไม่เหลือคุณค่าให้ภาคินเสียดายอีกเลย

ทันใดที่มินตราอ่านประโยคนี้จบเธอก็ปล่อยโฮออกมาราวกับพ่อเสียชีวิต

มันเจ็บ...เจ็บเหลือเกิน...เจ็บเพราะคำพูดของคุณหญิงจารวีที่กล่าวออกมาล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น ตอนนี้เวลาของเธอใกล้จะหมดลงทุกทีทุกที ฉะนั้นเธอจะใช้ทุกๆช่วงที่หลงเหลืออยู่นับจากนี้เป็นต้นไปให้คุ้มค่ามากที่สุด! ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีกเลย

...

...

ตอนนี้มินตรากำลังนอนหลับอยู่บนเตียงเดียวกันกับผู้ชายที่เพิ่งพูดจาถากถางน้ำใจเธอสารพัด...เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แยแส ไม่สนโลกและไม่แคร์กับทุกสรรพสิ่งเช่นภาคินคนเดิม แต่หารู้เลยไม่ว่าก้อนเนื้อที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอมันบอบช้ำแหลกสลายเพราะน้ำมือของเขาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่...

@รุ่งเช้าวันถัดมา...

มินตราลุกขึ้นตั้งแต่ไก่ไม่โห่เพราะต้องรีบลงมาเตรียมอาหารเช้าให้แก่ภาคินรับประทานก่อนไปทำงาน รวมถึงจัดการรีดเสื้อสูทและกางเกงของเขาให้เรียบร้อย เป๊ะ เวอร์ เฟิร์ม ไม่ให้มีรอยยับแม้แต่นิดเดียวตามสไตล์ของคนค่อนข้างจุกจิกและเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า

"เมื่อคืนคุณภาคินกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะ?"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 45

    @2 เดือนผ่านไป พิธีวิวาห์สมรสของทั้งคู่ถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางความตื่นตะลึงและเสียงเห่ร้องตกใจจากพนักงานในบริษัทญาติสนิทมิตรสหายเพื่อนฝูงและคู่ค้าทางธุรกิจต่างๆ แต่รับรองได้เลยว่าไม่น้อยหน้าผู้ใด ระดับออแกไนซ์มืออาชีพอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเนรมิตเองตั้งแต่ประตูงานยันอาหารการกิน ทรงผม ชุดเจ้าสาวเอย รองเท้าเอย แก้วเอย ผ้าปูโต๊ะเอยหรือแม้กระทั่งทิชชู่ที่หยิบใช้ก็เป็นของแบรนด์ของมีคุณภาพทั้งนั้น...ทำให้มินตราตกเป็นเป้าสนใจและเป็นที่อิจฉาของเหล่าสาวๆ ทั้งน้อยทั้งใหญ่ที่หมายปองปรารถนาอยากจะเข้ามาเป็นสะใภ้เศรษฐีหมื่นล้านตระกูลเดชาบวรสกุล...ตอนนี้คงเหลือแต่พี่คนโตไว้ให้เป็นเป้าหมายใหม่สำหรับใช้ยิงธนูแล้วเล็งไปยังจุดกึ่งกลางเขา ทว่าความเป็นไปได้ช่างน้อยแสนน้อยเหลือเกินเพราะแอบมีข่าวลือหลุดมาว่ากำลังกิ๊กกั๊กอยู่กับลูกนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังคนหนึ่ง......แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ค่อนข้างสำคัญเป็นอย่างมากนั่นก็คือมินตราและภาคินจะได้รู้เพศลูกตัวเอง ซึ่งถูกจัดขึ้นตามสไตล์ของพวกชนชาติทางฝั่งตะวันตกฝั่งตะวันออกที่นิยมให้พ่อแม่มาลุ้นเพศลูกโดยจะมีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่รับรู้นั่น

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 44

    ผ่านไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ประตูที่เคยถูกล็อคก็เปิดง้างออกเผยให้เห็นเรือนร่างแกร่งกำยำของชายหนุ่มที่มีชื่อว่าภาคินัย เดชาบวรสกุล สายตาของเขาซึ่งฉายมองทีเดิมช่างคลับคล้ายคับคลาเป็นดั่งพญาราชสีห์ สิงห์ เสือที่มีพละกำลังมาก ดูดุ ดูน่าเกรงขาม มิหวาดกลัวต่อใคร ทว่าตอนนี้กลับมีแต่แววรักฝังลึกอยู่เต็มเปี่ยม ความหวานเยิ้มดุจน้ำผึ้งเดือนห้าปรากฏชัด ค่อยๆ เดินเรียบแล้วหย่อนสะโพกนั่งท่าเทพบุตรลงบนพื้นตรงหน้าหญิงสาวที่เขาพึงใจรัก "ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ผมทำแย่ๆ กับมินมาโดยตลอด ผมรู้ว่าคำขอโทษของผมมันไม่ได้ผล และมันไม่สามารถชดเชยชดใช้กับสิ่งที่ผมทำกับมินได้ แต่ผมอยากจะให้มินรู้ว่าผู้ชายคนนี้มันสำนึกผิดแล้วจริงๆ มันพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษให้กับมิน" ภาคินก้มหน้างุดก่อนที่หยดน้ำจะเริ่มเอ่อล้นอาบสองพวงแก้วจรดบนพื้นกระเบื้องจนกลายเป็นคราบกว้าง "..." "ผมรู้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยดีกับมินเลย ผมเป็นผู้ชายร้ายๆ เป็นผู้ชายห่วยแตกที่ปากจัด อารมณ์ร้าย หัวร้อนไม่ฟังใคร รุนแรงในสายตาของมิน แต่ผมอยากจะขอโอกาสมินสักครั้งได้ไหม ขอโอกาสให้ผมได้ดูแลลูก ให้ผมได้ดูแลมิน ให้ผมได้ทำหน้าที่ของพ่อและหน้า

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 43

    แล้วจะให้เธอทำเช่นไรล่ะ ในเมื่อนี่คือความสัตย์จริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เธอพูดถึงหลักความเป็นจริง หลักความเป็นไปของชีวิตที่คนทุกคนล้วนได้พบเจอเธอเห็นมานัดต่อนัดแล้วล่ะ ทั้งคนรอบตัว รอบกาย ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนฝูงหลายต่อหลายเหล่า ยามที่คนรู้จักกลับไปกินของเก่า กลับไปกินขี้ที่ตัวเองพยายามตะเกียกตะกายฉุดรั้งขึ้นมาเพื่อให้หลุดพ้นก็มักจะถูกหัวเราะเยาะถูกว่ากล่าวซ้ำเติมสารพัดสาระเพ"แต่นี่แม่ แม่ไม่ใช่คนพันนั้น แม่ไม่ใช่พวกที่จะมานั่งหัวเราะเยาะลูก มินไม่จำเป็นต้องอาย แม่บอกมินเสมอว่าเวลาที่มินมีอะไรมินสามารถพูดคุย มินสามารถบอกแม่ได้ ถึงแม่จะให้ความปรึกษา ให้ความช่วยเหลือมิได้ไม่มากพอแต่แม่คนนี้ก็พร้อมรับฟังลูกเสมอ" คุณกลิ่นแก้วเลื่อนแขนเรียวบางขึ้นไปจับบ่าของลูกสาว "มินไม่ผิดเลยลูกที่มินจะยังรักคุณภาคินและมินอยากตัดสินใจให้โอกาสคุณภาคินอีกครั้ง มินไม่ได้เป็นคนโง่แต่เพราะมินรักเขา เพราะเขาคือผู้ชายที่มินรักต่างหากล่ะ ข้อนี้ที่มินควรจะสนใจมากที่สุด แม่ขอถามหน่อยคนพวกนั้นที่มินคิดว่าเขาจะมาหัวเราะเยาะมิน เขาได้หากับข้าวหุงข้าวหุงปลา หาเงินทำให้มินมีความสุขเหมือนตอนนี้ได้หรือเปล่า คนที่

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 42

    โคร้ม!!"คุณ!!!" วินาทีแรกที่ภาพเขากำลังหล่นร่วงจากต้นไม้ฉายเข้ามาในแววตา โสตประสาทการรับรู้ของมินตราเธอก็รีบลุกขึ้นพรวดพราดเข้าไปประคองเขาอย่างอัตโนมัติราวกับหัวใจกดรีโมทคอนโทรลสั่งมาเสียกระนั้น"โอ๊ย!! ผมเจ็บมากเลยครับมิน" ใจหนึ่งก็เจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งเรือนร่างจริงๆ นั่นแหละ แต่ก็อาจใส่จริตใส่มารยาสาไถของเพศหญิงที่มักจะชอบใช้กับพวกผู้ชายด้วยหน่อยเพื่อออดอ้อนออเซาะเรียกร้องความเห็นใจจะได้อยู่ใกล้ชิดกับมินตรามากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก"เจ็บมากไหม" สีหน้าของหญิงสาวดูเป็นกังวลและแสดงออกถึงความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งจนรู้สึกว่ามันค่อนข้างตรงข้ามกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยพยายามปฏิเสธเขาสารพัด ทว่าแท้จริงแล้วในใจไม่ได้คิดหรือไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลยด้วยซ้ำ "เจ็บมากเลยครับ..." ชายหนุ่มซบลงบนเนินหน้าอกของมินตราแล้วโอบกอดเรือนร่างเธอเอาไว้ "กล้าไปเอารถออกแล้วก็ช่วยตามคนงานมาซัก 2-3 คนด้วย ฉันจะพาคุณภาคินไปโรงพยาบาล" "ครับ""มินเป็นห่วงผมเหรอครับ ดีใจจังเลยมีคนเป็นห่วงด้วย" เขาแอบยิ้มเล็กยิ้มน้อย"อย่าสำคัญตัวเองผิดไปหน่อยเลย ฉันไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยอะไรคุณสักนิด แต่ที่ฉันทำลงไปทั้งหมดก็เพร

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 41

    รุ่งเช้าวันถัดมา...ยามนี้พระอาทิตย์ทอแสงจ้าสว่างไสวมีสายลมพัดปลิวให้ความร่มเย็นใต้โคนต้นทุเรียนหมอนทองของจังหวัดจันทบุรี ซ้ำเห็นคนงานชาวสวนทั้งลูกเด็กเล็กแดง เพศสตรีและเพศบุรุษมาทำงานกันอย่างขะมักเขม้นไม่ให้แคล้วคลาดหรือเสียเวลาสักนาทีเดียว...ภาคินยังคงลุกขึ้นทำอาหารตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อคอยเอาอกเอาใจดูแลปรนนิบัติพัดวีมินตราและเจ้าตัวเล็กที่กำลังต้องการสารอาหารอย่างครบถ้วนอยู่ในครรภ์...เขาแทบจะกลายเป็นลูกเขย กลายเป็นคนรับใช้และกลายเป็นแม่ครัวคนหนึ่งของบ้านหลังนี้ไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่ปกติไม่เคยแม้กระทั่งเหยียบย่างเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมแล้วลงมือหั่นผัก หั่นหมู หั่นเนื้อ หั่นไก่ด้วยตนเองสักครั้ง"ข้าวต้มไก่ไข่พร้อมกับตับครับ อาหารพวกนี้จะช่วยบำรุงมินและลูกให้แข็งแรง" "เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ มีธุระอะไรทำก็ไปทำเสีย อย่ามายืนหัวโด่เกะกะรกหูรกตาอยู่ตรงนี้ สุขภาพทัศนวิสัยการมองเห็นฉันจะเสียเอาเปล่าๆ" แม้นพูดจาถากถางน้ำใจแต่ก็ไม่กล้าสบหน้ากับเขาเพราะกลัวใจตัวเองหวั่นไหวจึงจำเป็นต้องเบี่ยงเบนศีรษะเอนเอียงไปทางอื่นหลบหลีกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"ครับ" ภาคินทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนยอมรับกับชะตา

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 40

    ภาคินไม่รู้จะทำเช่นไรจึงนำอาหารที่ตนเองปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ววางไว้ด้านหน้าห้องพร้อมกับเขียนโปสการ์ดบนกระดาษโพสอิทแผ่นเล็กๆ ไว้ว่า'กินข้าวเย็นเยอะๆ นะครับ สุขภาพร่างกายจะได้แข็งแรง ผมไม่ได้เป็นห่วงแค่ลูกแต่ผมเป็นห่วงมินด้วย' แต่ก็ไม่รู้เลยว่าเธอจะกินหรือเอาไปเททิ้งให้หมา...มินตราใจแข็งชะมัดยาก หากตามงอนง้อขอคืนดีเห็นทีคงใช้เวลานานพอสมควร ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงต้องรีบเร่งรวบรัดจับหัวจับท้ายกินกลางตลอดตัว ไม่ให้ดิ้นหลุดด้วยวิธีการของตนเอง!บรรยากาศแห่งค่ำคืนนี้ค่อนข้างเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงจั๊กจั่นเรไรร้องแซ่ซ้องก้องกังวาลเมื่ออาศัยช่วงจังหวะดีแท้แลแล้วว่ามิมีผู้ใดพลุกพล่าน ภาคินลุกย่องออกจากเต็นท์ซึ่งกางอยู่บริเวณชานระเบียงหน้าบ้านค่อยๆ ย่องเลียบผ่านด้านข้าง ก่อนใช้ราวบันไดที่ตนเองเสาะเล็งเอาไว้พาดลงบนระเบียงด้านบนตรงกับห้องของมินตรา ชายหนุ่มรูปร่างแกร่งกำยำก้าวขาฉับ ส่วนสองมือนั้นไซร้กำลังจับราวบันไดปีนป่ายขึ้นไปคล้ายกับพวกโจร 500 อย่างมุ่งมั่นและมีจิตใจแน่วแน่ในการกระทำเรื่องสิ้นคิดเช่นนี้... มินตราคงชะล่าใจ บวกกับนี่เป็นชนบทแถวจังหวัดจันทบุรีเหตุไม่ค่อยพลุกพล่าน ชาวบ้านส่วนใหญ่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status