ในหมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมืองที่ดูเงียบสงบที่ศิลา ชายหนุ่มวัย 36 ปี ยืนอยู่กลางสนามหญ้าหน้าบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์น
บ้านหลังนี้อยู่ค่อนข้างไกลจากย่านธุรกิจเพราะเขาต้องการ ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายมานาน ศิลาทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังรวมทั้งเรื่องข่าวลือเกี่ยวกับเขาและอดีตภรรยาที่มีมาไม่หยุดแม้จะหย่าขาดจากกันมาสองปีแล้วก็ตาม
เสียงรถบรรทุกคันใหญ่จอดที่หน้าบ้าน ตามมาด้วยเสียงผู้คนกำลังขนย้ายเฟอร์นิเจอร์และกล่องใบใหญ่ลงจากรถ ศิลายืนกอดอกมองการทำงานของพนักงานขนส่งด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยและแววตาที่เย็นชาจนน่าเกรงขาม ไม่มีรอยยิ้มปรากฏบนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ หลายคนมักจะมองว่าเขาเป็นคนเย็นชาและหยิ่งยโส แต่คนที่รู้จักจริงๆ เท่านั้นจะรู้ว่านั่นก็แค่กำแพงที่เขาสร้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวดในอดีต
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชีวิตของเขาผูกติดอยู่กับคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีและความวุ่นวาย แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจที่จะซื้อบ้านที่นี่ หมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ ไม่มีเสียงรถราดังรบกวน ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ศิลาคิดว่านี่แหละคือชีวิตที่เขาตามหามาตลอด ชีวิตที่เรียบง่ายและไม่ต้องแข่งขันกับใครอีกแล้ว
ศิลาคือเจ้าของธุรกิจนำเข้าสินค้าไอทีรายใหญ่ที่กำลังไปได้สวยในตลาดเมืองไทย ชายหนุ่มไม่เคยสนใจเรื่องความรักอีกเลยหลังจากความผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิตคู่ที่ผ่านมา เขาเชื่อว่าความรักก็เป็นแค่เกมที่ต้องรู้จักเล่นให้ฉลาดก็พอ ถ้าอยากได้ใครเขาก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มา และไม่เคยปล่อยเหยื่อให้หลุดมือไปได้ง่ายๆ
มีข่าวลือว่าเขากับอดีตภรรยาเลิกกันเพราะเรื่องบนเตียง หลายคนมองว่าหน้าตาเย็นชาแบบเขา บนเตียงก็คงไม่ต่างกัน แต่ความจริงมันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขาตัดสินใจหย่าคือการที่ภรรยามีชู้กับรุ่นน้องของเธอในบริษัทเอง และความเจ็บปวดในครั้งนั้นก็ทำให้เขามองความรักเป็นแค่เรื่องไร้สาระ แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลึกๆ แล้วเขาก็ยังโหยหาอยู่
“สวัสดีครับ เพิ่งย้ายมาเหรอครับ”
เสียงทักทายสดใสจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นจากรั้วบ้านข้างๆ ทำให้ศิลาละสายตาจากกล่องใบโต หันไปมองตามเสียงนั้น เด็กหนุ่มหน้าตาดีผิวขาวสะอาดที่มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างกำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาเป็นมิตร
“สวัสดี” ศิลาตอบรับสั้นๆ
“ผมชื่อปณวัฒน์ครับ เรียกปัณก็ได้แล้วคุณอาล่ะครับ”
“อาชื่อศิลา ย้ายมาอยู่ใหม่” ศิลาตอบเรียบๆ โดยเลือกใช้สรรพนามว่าอาตามที่ถูกเรียก
“ดีใจจังเลยครับที่ได้เพื่อนบ้านใหม่ อามีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ผมแข็งแรงนะ” ปณวัฒน์พูดพร้อมกับเบ่งกล้ามแขนให้ดูอย่างอารมณ์ดี
ศิลามองการกระทำของเด็กหนุ่มก็เผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น แต่มันก็ปรากฏขึ้นเพราะท่าทางไร้เดียงสาของเด็กหนุ่มคนนี้
“ไม่เป็นไร อาให้บริษัทขนย้ายจัดการแล้ว ขอบใจนะ” ศิลาตอบปฏิเสธ แต่ก็รู้สึกเอ็นดูเด็กหนุ่มคนนี้ไม่น้อย
“อาศิลาย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ดีเลยครับ ผมจะได้มีเพื่อนคุยเพิ่มอีกคนปกติก็เหงาจะแย่” ปณวัฒน์พูดพลางพยักหน้าไปทางบ้านของตัวเองเซ็งๆ
“อยู่บ้านคนเดียวเหรอปัณ” ศิลาถามอยากแปลกใจเพราะบ้านหลังที่เขาเห็นถึงแม้จะหลังไม่ใหญ่มากแต่ถ้าอยู่คนเดียวก็คงจะเหงาเพราะยังเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่ต่างจากเขาที่ต้องการความเงียบ
“ผมอยู่กับพี่สาวครับแต่คุยกับผู้หญิงไม่เหมือนคุยกับผู้ชายนะครับอาศิลา บางที่พี่สาวก็ไม่เข้าใจว่าผมพูดเรื่องอะไร” ปณวัฒน์ส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงเวลาที่ตัวเองกับพี่สาวคุยกัน
“อายุห่างกันมากเหรอถึงไม่เข้าใจกันน่ะ”
“พี่ผมอายุ 24 ครับ ผมชอบคุยเรื่องเกม เรื่องคอมพิวเตอร์แต่พี่สาวผมชอบพูดเรื่องตัวเลข เลยคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง” ปณวัฒน์ส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ เมื่อถึงเวลาที่ตัวเองกับพี่สาวคุยกัน
“ชอบคอมพิวเตอร์เหรอ”
“ชอบครับ เปิดเทอมนี้ผมก็จะเข้าปีมหาลัยปีหนึ่งคอมพิวเตอร์กราฟิก ผมชอบงานออกแบบ งาน 3D ครับ ผมกับเพื่อนรับงานออกแบบด้วยนะครับ ทำได้หมดเลย พวกโลโก้สินค้า ใบปลิวโฆษณาและออกแบบเว็บไซต์ผมก็ทำนะครับ บอกไว้ก่อนเผื่อว่าอาศิลาอยากหาคนทำงานด้านนี้”
“ถ้าอามีงานอาจะบอกนะ”
“ได้เลยครับ อาศิลาถือเป็นเพื่อนบ้านผมทำให้ฟรีก็ได้นะครับ แต่แค่ครั้งแรกนะครับ
“อาก็นึกว่าฟรีตลอด” ศิลาหัวเราะเบาๆ ซึ่งทำให้ปณวัฒน์ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก
“แหมเด็กอย่างผมถ้าทำให้ฟรีแล้วจะเอาตังที่ไหนกินขนมละครับ” ปณวัฒน์ตอบอย่างอารมณ์ดี
“อาจะหาลูกค้าให้นะ” เขาเห็นปณวัฒน์แล้วนึกถึงตอนเองสมัยที่ยังเรียนที่รับทำงานทุกอย่างที่ได้เงิน
“อาศิลาครับ ถ้าจัดบ้านเสร็จแล้ว มาทานข้าวที่บ้านผมนะ ผมจะเลี้ยงต้อนรับเพื่อนบ้านคนใหม่”
“ไม่เป็นไรอาเกรงใจ” ศิลาตอบปฏิเสธ เพราะไม่อยากไปรบกวน
“อย่าเกรงใจเลยครับ พี่าสาวผมทำกับข้าวอร่อยมากที่สุดเลยนะครับ” ปณวัฒน์รับรองด้วยท่าทางจริงจัง
“แล้วบ้านเรากินข้าวกันกี่โมงล่ะ” เขาถามอย่างสนใจ
“ประมาณหกโมงครึ่งครับ มานะครับผมจะบอกพี่สาวทำอาหารสุดฝีมือเลย”
“งั้นก็ได้ เดี๋ยวหกโมงครึ่งเจอกันนะ”
“ครับ ผมไปบอกพี่สาวก่อนนะครับ” ปณวัฒน์ยิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าบ้านของตัวเอง
ปณาลีและศิลาไม่สามารถเก็บความลับไว้ได้นานพวกเขาตัดสินใจบอกปณวัฒน์ว่าตอนนี้กำลังคบหากันอยู่ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปณวัฒน์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นว่าพี่สาวตนเองมีคนดีๆ อย่างศิลาคอยดูแลและศิลาก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่เข้ามาในชีวิตของปณาลีแล้วปณวัฒน์ยอมรับเขาอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่เพราะเขามีอาชีพการงานดีมั่นคงแต่เพราะปณวัฒน์เห็นว่าคุณอาหนุ่มข้างบ้านคนนี้รักพี่สาวของเขาจริงๆ สายตาที่ศิลามองปณาลีนั้นปณวัฒน์รู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยความรักความห่วงใยจนปิดเอาไว้ไม่มิดแม้ว่าตกลงคบหาและบอกน้องชายให้รับรู้แล้วแต่ทั้งสองก็ยังคงอยู่กันคนละบ้านแต่จะเปลี่ยนไปนอนบ้านหลังนั้นทีหลังนี้ทีทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองวันแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นพรุ่งนี้ก็เป็นวันวันอาทิตย์ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ศิลาวางแผนเอาไว้แล้วว่าคืนวันเสาร์เขาจะไปหาเธอที่ห้องแล้วจะเป็นคนแรกที่มอบดอกกุหลาบให้เธอในวันวาเลนไทน์ เขาชอบที่ทำเซอร์ไพรส์ให้ปณาลีเพราะชอบที่เห็นสีหน้าดีใจตื่นเต้นแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ เธอก็ทำให้เขายิ้มได้อยู่ตลอดบ่ายวันเสาร์ทั้งสองช่วยกันทำอาหารก่อนจะทานด้วยกันจากนั้นก็นั่งดูทีวีด้วยกันจนถึงสี่ทุ่มศิลาก็ขอต
“อาศิลาคิดว่าพี่สาวผมเป็นยังไงบ้างครับ” ปณวัฒน์ถามขณะทั้งสองมานั่งดูฟุตบอลด้วยกันบริเวณห้องรับแขก“ก็ดีนะ ยี่หวาเป็นคนจิตใจดีทำอาหารอร่อยมากๆ ด้วย”“ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น”“แล้วปัณหมายถึงแบบไหน” ศิลาแกล้งถาม“ผมหมายถึงว่าในมุมมองของอาศิลาพี่สาวผมพอจะเป็นแฟนอาศิลาได้ไหม”“นี่อานึกว่าปัณพูดเล่นนะ”“ผมไม่ได้พูดเล่นครับ ผมรู้สึกสบายใจมากๆ ที่อาศิลาย้ายมาอยู่ข้างบ้าน ได้ช่วยดูแลพี่สาวของผม” เขาพูดออกมาจากใจจริง ปณวัฒน์เป็นห่วงพี่สาวมากแต่เมื่อมีศิลาอยู่ข้างบ้านเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น“แต่ไม่มีใครดูแลพี่สาวปัณได้ดีเท่าปัณหรอกนะ”“ไม่เลยครับ ผมยังเด็กดูแลพี่สาวได้แค่เล็กน้อยแต่ผมอยากให้อาศิลาช่วยดูแลพี่ยี่หวา”“ทำไมปัณพูดเหมือนจะไม่อยู่ที่นี่แล้วล่ะ”“ผมพูดเผื่อไว้ครับพี่ ผมเป็นผู้ชายนะอนาคตต้องออกไปเผชิญโลกจะให้ผมอยู่บ้านกับพี่สาวตลอดก็คงเป็นไปไม่ได้”“แล้วปัณไว้ใจอาเหรอถึงได้ฝากพี่สาวไว้กับอาแบบนี้”“ผมไว้ใจอาศิลาครับ อาเป็นผู้ใหญ่ผ่านอะไรมาเยอะผิดหวังกับความรักมาแล้ว ผมว่าอาศิลาเข้าใจความรู้สึกนั้นดีและคงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับใครใช่ไหม” เขาจ้องศิลาอย่างต้องการคำตอบ“ปัณรู้ไหม ปัณดูเป็นผู
ความสัมพันธ์ระหว่างศิลาและปณาลีพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นผ่านมาสามเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากันแบบไม่มีสถานะ แต่ความสุขกับเต็มเปี่ยม พวกเขาใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่เติมเต็มความรู้สึกดีๆ ให้กันในวันช่วงปิดเทอมเป็นช่วงที่ปณาลีกังวลมากที่สุดเพราะปณวัฒน์จะกลับมาอยู่บ้านและเธอกลัวเหลือเกินว่าน้องชายจะสังเกตเห็นว่าเธอกับคุณอาข้างบ้านไม่ได้เป็นแค่เพื่อนบ้านกันอีกต่อไปแล้วเย็นนี้ปณวัฒน์กลับจากหอพักโดยมีศิลาเป็นคนอาสาไปรับทั้งสองคนช่วยกันทำอาหารเย็นก่อนจะถึงเวลาที่ปณาลีจะกลับมาจากที่ทำงานหญิงสาวยิ้มเมื่อเห็นศิลาและปณวัฒน์กำลังช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัวด้วยความตั้งใจ“พี่ยี่หวากลับมาแล้วเหรอ”“ทำอะไรกันอยู่เหรอ”“วันนี้ผมกับอาศิลาช่วยกันทำกับข้าว พี่มาดูสิว่ามันน่ากินขนาดไหน”ปณาลีวางกระเป๋าถึงลงบนโซฟาจากนั้นก็เดินมาในห้องครัวและมองบนโต๊ะที่มีผัดวุ้นเส้น น้ำพริกกะปิปลาทูทอดผักทอดและต้มยำรวมมิตรอีกหนึ่งอย่าง“น่ากินทั้งนั้นเลยช่วยกันทำสองคนเหรอ”“เปล่าหรอกยี่หวาส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือปัณนะ อาก็แค่ช่วยหยิบจับแล้วก็หั่นพักบ้าง อาทำกับข้าวไม่เก่ง”“อาศิลาไม่ต้องทำกับข้าวเป็นหรอกครับ ให้พี่ยี่หวาเป็นคนทำให้กิ
“คนเก่งของอาเหนื่อยไหม” เขากระชับร่างหญิงสาวไว้แน่น แม้จะปลดปล่อยไปแล้วแต่เขายังไม่อิ่มเลยสักนิด ยิ่งสุขสมก็ยิ่งอยากได้เพิ่ม เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะกลายเป็นคนเซ็กซ์จัดมากขนาดนี้“อาศิลาล่ะคะ” ปณาลีเลือกที่จะถามกลับเพราะคนที่ออกแรงคือเขาไม่ใช่เธอ“ไม่เลย ถึงอาจะอายุเยอะแต่อาคิดว่าเรื่องนี้อาไม่มีทางแพ้ใครแน่ ยี่หวาเชื่ออาไหมล่ะ” ศิลาถามขณะไล้ปลายนิ้วไปตามผิวเนียนกระตุ้นอารมณ์ของหญิงสาวอย่างช้าๆ“ยี่หวาเชื่อว่าอาศิลาแรงดี”“ไม่ใช่แค่แรงดีนะยี่หวาเอวอาก็ยังดีด้วย ยี่หว่าทำให้อากลับมาเป็นหนุ่มและเสียวจนแทบขาดใจทุกครั้งอาไม่เสียน้ำให้ใครมากเท่านี้มาก่อน จากนี้อาคงขาดยี่หวาไม่ได้”“อาศิลาก็ทำให้ยี่หวามีความสุขทำให้ยี่หวาก็จะขาดอาไม่ได้เหมือนกันแต่คืนนี้.....” หญิงสาวตอบออกมาจากความรู้สึกใจเธอตอนนี้มันมีเขาเข้ามาแล้วแต่ยังไม่อยากยอมรับเพราะกลัวความผิดหวัง“อย่าห้ามอาเลย แรงอายังเหลือ ยี่หวาก็หายเหนื่อยแล้วใช่ไหมล่ะ”ศิลาลูบไล้ไปตามผิวเนียนนุ่มอย่างหลงใหล สองมือเริ่มนวดเฟ้นอกอิ่มปลุกเร้าให้คนที่นอนพิงอยู่รู้สึกเสียวซ่านขึ้นมาอีกครั้ง ปณาลีรับรู้ได้ถึงความต้องการของชายหนุ่มเพราะท่อนเอ็นร้อนกำลั
ศิลาเพิ่มความเสียวซ่านให้กับปณาลีด้วยการขบเม้มลงบนเต้าอวบตรงหน้าก่อนจะดูดเข้าปากร้อนสลับไปมาจนหญิงสาวหูอื้อตาลายไปหมดเธอครางเรียกชื่อเขาแทบไม่ขาดปากเพราะความเสียวซ่านที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ“อื้อ...อาศิลา ยี่หวาเสียว”“อาก็เสียวมาก ยี่หวาของอาเก่งมาก...อ้า....ยี่หวาของอา”แรงบีบรัดของร่องสวาททำให้ศิลาครางแหบพร่าเมื่อหญิงสาวสะบัดสะโพกพลิ้วขึ้นลงไปตามอารมณ์ปรารถนา เสียงเนื้อกระทบกันไปทั่วรถ“อาศิลาขา....ไม่ไหว เสียวเกินไปแล้ว ยี่หวาใจจะขาด.....”“เสียวแล้วชอบไหม”“ยี่หวาชอบค่ะอาศิลา มันเสียว อื้อ....อาศิลาอ้า.....”ปณาลีกรีดร้องพร้อมเกร็งกระตุกรับท่อนเอ็นที่กระแทกเข้าหาอย่างหนักหน่วง ร่องสาวทตอดถี่กระตุ้นให้ศิลาส่งตัวตนเข้าออกอย่างไม่พักแล้วเขาก็สุขสมตามเธอไปติดๆ ทั้งสองหอบเหนื่อยจนตัวโยน“อาศิลายี่หวาหมดแรง”“แค่รอบเดียวเองนะยี่หวา”“แต่เมื่อกี้ยี่หวาเป็นคนทำ อาศิลาเอาเปรียบตัวเองไม่ได้ออกแรงเลย”“งั้นจากนี้ยี่หวาแค่นอนครางก็พอนะที่เหลืออาจัดการเองตกลงไหม”ศิลาดึงท่อนเอ็นออกแล้วอุ้มเธอกลับไปที่เดิมก่อนจะสวมกางเกงแล้วเดินอ้อมไปอุ้มหญิงสาวจากเบาะข้างคนขับ“เดี๋ยวสิคะอาศิลา ยี่หวาขอใส่เสื้
ปณาลีฉลองกับเพื่อนสนิทที่ร้านอาหารใจกลางเมือง เสียงหัวเราะและบทสนทนาสนุกสนานดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง“ยี่หวา ฉันว่าคุณศิลาเขาเป็นคนดีนะ ตกลงคบกับเขาเถอะ” วนรัตน์พูดขึ้นหลังจากปณาลีเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้สนิทกับเขามากขึ้น“แล้วเรื่องข่าวลือว่าเขาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศล่ะ ฉันกลัวว่ายี่หวาแต่งงานไปจะแห้งเหี่ยวเอานะ” ภัทรมนเป็นห่วง“เรื่องนั้นอาจจะแค่ข่าวลือก็ได้นะมน ฉันเองก็ฟังเขามาอีกที”คำพูดของเพื่อนทำให้คนฟังหน้าแดงเพราะศิลาไม่ได้เป็นแบบที่คนอื่นพูดถึงเลยเขาไม่ได้เสื่อมเลยสักนิดบางทีปณาลียังคิดว่ามันมากไปด้วยซ้ำและเธอก็ยอมเขาทุกครั้งเช่นกัน“ยี่หวาแกเมาแล้วเหรอหน้าแดงมาก”“เมาที่ไหนวันนี้ฉันแค่เบียร์ไปสองแก้วเองไม่มาหรอกน่า”“ไม่เมาก็ดีแล้ว วันนี้คุณศิลาเขาจะมารับใช่ไหมล่ะ เมามากๆ เขาลากขึ้นเตียงจะยุ่งเอานะ”“แกก็อย่าพูดแบบนี้สิมนเดี๋ยวยี่หวามันก็กลัวเจ้านายฉันหรอก ฉันอยากให้ยี่หวากับคุณศิลาคบกันนะ”“ไหนลองบอกมาสิว่าเจ้านายแกมีดีอะไรบ้างเผื่อว่าฉันจะลองเปิดใจ” ปณาลีอยากรู้มุมมองของวนรัตน์ที่มีต่อศิลาว่าเธอจะเห็นเหมือนกับที่ตนเองเห็นหรือเปล่า“ก็คุณศิลาเป็นเจ้านายที่ดี ไม่ถือตัว ขยันทำงานมาก