เข้าสู่ระบบบทที่ 6 ทำไมต้องอาบน้ำ....
พิมยืนอึ้งมองตามแผ่นหลังของธนินทร์ที่เดินจากไป คำพูดสั้นๆ "ไปอาบน้ำเสีย" ยังคงก้องอยู่ในหัว 'ทำไมต้องอาบน้ำตอนนี้ด้วยเล่า! งานฉันจบแล้วนี่นา' พิมคิดในใจอย่างไม่พอใจเล็กน้อย มองไปยังนาฬิกา... 7 โมงเช้าเท่านั้น เธอส่งน้องทีโอขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว หน้าที่ของเธอในตอนเช้าก็คือดูแลน้องจนกว่าจะไปโรงเรียน นั่นหมายความว่าตอนนี้เธอควรจะมีเวลาว่างที่จะได้ไปนอนต่ออีกหน่อย ‘ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้เหรอ... ทำไมต้องสั่งกันแบบนั้นด้วย!’ ความรู้สึกหงุดหงิดแล่นเข้ามา เธอรู้สึกเหมือนโดนจับผิดและโดนสั่งการทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนใช้ ยิ่งคิดถึงท่าทางนิ่งเฉยและสายตาที่มองมาของธนินทร์เมื่อเช้าแล้ว ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจ พิมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางความสงบของฟาร์มยามเช้า แต่ใจของเธอกลับว้าวุ่นไปด้วยความรู้สึกขัดแย้งกับเจ้าของบ้านผู้เย็นชา เธอยังคงยืนกอดอกแน่น ความไม่พอใจปนหงุดหงิดแล่นอยู่ในใจ เมื่อมองตามหลังคนสั่งการที่เดินหนีไปหลังพูดจบ ‘แล้วก็คือไม่อยู่ให้ถามด้วยไง! ว่าจะให้ไปทำอะไรต่อ!’ เธอคิดอย่างหัวเสีย คำสั่งสั้นๆ "ไปอาบน้ำเสีย" ของธนินทร์มันค้างคาอยู่ในหัว เธอรู้ว่าตัวเองควรจะไปอาบน้ำอยู่แล้ว แต่คำสั่งที่ทิ้งไว้แบบไร้การอธิบายใดๆ แถมยังเดินจากไปเลยแบบนั้น ทำให้พิมรู้สึกเหมือนโดนบังคับและไม่ได้รับเกียรติ ยิ่งไปกว่านั้น ธนินทร์ไม่ได้บอกเลยว่าหลังจากอาบน้ำแล้ว เธอควรจะทำอะไรต่อ มีงานอะไรที่ต้องรับผิดชอบไหม หรือแค่รอจนกว่าทีโอจะกลับมา เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองไปยังทิศทางที่ธนินทร์เดินจากไปแล้ว เขาหายลับไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่เงาให้เห็น ยิ่งทำให้พิมรู้สึกว่าสถานการณ์นี้มันช่างน่าอึดอัดและซับซ้อนกว่าที่คิดไว้มากนัก เธอตัดสินใจทันที เรื่องนอนเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอ การเป็นแอร์โฮสเตสทำให้เธอต้องปรับตารางการนอนให้ยืดหยุ่นและนอนให้เพียงพอเสมอ ดังนั้น การถูกสั่งให้ไปอาบน้ำโดยไม่มีงานอื่นรออยู่หลังจากนั้น มันช่างขัดใจเสียจริง "ถ้าไม่มีอะไรให้ทำ จะให้มาอาบน้ำแล้วนั่งเฉยๆ ไม่เอานะ!" เธอพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว ก่อนจะหมุนตัวเดินตามธนินทร์ไปทางโรงเก็บของที่เขาเพิ่งเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว เธอเดินตามไปจนถึงหน้าโรงเก็บของที่เปิดอ้าอยู่ มองเห็นแผ่นหลังกว้างของคุณธนินทร์กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับอะไรบางอย่างในความมืดสลัวภายใน เธอเดินตามเขาเข้ามาในโรงเก็บของ สภาพของเธอยังคงอยู่ในชุดนอนคลุมคาร์ดิแกนกับรองเท้าแตะ เธอรู้ตัวดีว่ามันดูแปลกๆ ที่มาอยู่ในสภาพนี้ แต่ความอยากรู้และต้องการคำตอบมันสำคัญกว่า เธอไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการได้คำตอบที่ชัดเจน "คุณธนินทร์คะ!" พิมเรียกออกไปเสียงดังพอที่จะให้เขาได้ยิน ธนินทร์ชะงักมือเล็กน้อย เขาไม่ได้หันกลับมาทันที แต่ร่างสูงใหญ่ของเขาก็หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยืดตัวขึ้นช้าๆ แล้วหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับพิม ใบหน้าคมคายของเขายังคงเรียบเฉย แววตาคมกริบมองมาที่พิมอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ "มีงานอะไรให้ทำต่อหรือเปล่าคะ หลังจากส่งน้องทีโอแล้ว" พิมถามออกไปตรงๆ เมื่อเขาหันหน้ามาหา พยายามเน้นย้ำถึงขอบเขตงานของเธอที่เกี่ยวข้องกับการดูแลน้องทีโอ ธนินทร์จ้องมองพิมนิ่งๆ ดวงตาของเขาไล่สำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอีกครั้งช้าๆ ราวกับกำลังประเมินอะไรบางอย่างในตัวเธอ ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มหรือแววตาใดๆ ที่แสดงถึงความประหลาดใจหรือความไม่พอใจกับการปรากฏตัวของเธอในสภาพนี้ "ไม่มี" ธนินทร์ตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่าเช่นเคย "แต่คุณควรจะอาบน้ำ" คำตอบของเขาทำให้พิมรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่มีงานให้ทำก็แปลว่าเธอควรจะนอนต่อได้สิ แล้วทำไมยังต้องย้ำเรื่องอาบน้ำอีก! ร่างสูงมองผู้หญิงตรงหน้าที่ยืนอยู่ในโรงเก็บของ เขากำลังคิดว่าทำไมเธอถึงได้ปรากฏตัวในสภาพนี้ ทั้งๆ ที่เขาบอกให้ไปอาบน้ำแล้ว และทำไมถึงได้ตามเขามาถึงนี่? ‘ตามมาทำไม... ชุดก็ไม่เรียบร้อย’ เขาคิดในใจ สีหน้ายังคงเรียบเฉยแต่ดวงตาคมกริบกวาดมองสำรวจเธออีกครั้ง เขาเห็นความหงุดหงิดและไม่พอใจในแววตาของเธอ ตอนที่เขาบอกว่า "ไม่มี" งานอะไรให้ทำต่อแล้วก็ยังย้ำเรื่องอาบน้ำ เขารับรู้ได้ถึงคำถามในใจของเธอว่า ‘แล้วทำไมต้องอาบด้วย’ และ ‘ทำไมต้องสั่งกันขนาดนี้’ ‘ก็แค่บอกให้ไปอาบน้ำ... มันเข้าใจยากนักหรือไง’ คนตัวสูงไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องง่ายๆ แค่นี้เธอถึงต้องมีปฏิกิริยา เขาคิดว่าการบอกให้ไปอาบน้ำก็เป็นเรื่องปกติของการเริ่มต้นวันใหม่ หลังจากที่ต้องวุ่นวายกับการส่งน้องทีโอไปโรงเรียน แถมเธอก็ยังอยู่ในชุดนอนที่ดูไม่เรียบร้อย เขามองเห็นความขัดใจในแววตาของเธอ ที่พยายามปกปิดแต่ก็ทำได้ไม่มิดนัก และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเธอคนนี้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขามักจะเจอ ผู้หญิงที่มักจะทำตามคำสั่งหรือความต้องการของเขาอย่างว่าง่าย เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่สงบนิ่ง ปล่อยให้คุณพิมได้คิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง พิมยังคงยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองคุณธนินทร์ด้วยความไม่เข้าใจนัก เธอพยายามทวนคำพูดของเขา "ไม่มี...?" เสียงของเธอเจือความสงสัยและไม่พอใจที่เห็นได้ชัด ธนินทร์ไม่ได้ขยับตัวไปไหน เขายังคงยืนนิ่งในท่าเดิม มองตรงมาที่พิมด้วยสายตาเรียบเฉยเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยของการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าคมคายของเขา ไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติมใดๆ นอกจากคำสั้นๆ เมื่อครู่ บรรยากาศในโรงเก็บของกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง มีเพียงเสียงแผ่วเบาของลมที่พัดผ่านเข้ามา มันเป็นความเงียบที่ทำให้พิมรู้สึกอึดอัด และดูเหมือนว่าธนินทร์จะพอใจกับความเงียบนี้ พิมตัดสินใจแล้ว เรื่องนอนคือเรื่องใหญ่ที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ และเมื่อไม่มีงานอื่นให้ทำ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบไปทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ "งั้นพิมขอนอนต่อนะคะ" พิมเอ่ยออกไปเสียงเรียบ พยายามให้สุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอเลือกใช้ชื่อของตัวเองแทนสรรพนามอื่น เพราะรู้สึกว่ามันเหมาะสมที่สุด ไม่ก้าวร้าวเกินไปอย่าง 'ฉัน' และไม่ดูเป็นเด็กเกินไปอย่าง 'หนู' ที่แม้จะติดปากกว่าก็ตาม เธอไม่รอฟังคำตอบหรือปฏิกิริยาใดๆ จากคุณธนินทร์ เธอหมุนตัวกลับหลัง แล้วเดินจากโรงเก็บของออกมาอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงกลับไปยังตัวบ้าน หวังว่าจะได้กลับไปทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ และงีบหลับต่อเพื่อชดเชยเวลาที่หายไป ธนินทร์มองตามแผ่นหลังของพิมที่เดินจากไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉย แต่ในแววตาคมกริบนั้นมีประกายบางอย่างที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจเล็กน้อย ‘งั้นพิมขอนอนต่อนะคะ...?’ เขาพึมพำในใจ ทวนคำพูดของเธอ ‘นี่เธอไม่เข้าใจคำสั่งฉันจริงๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจกันแน่?’ ความหงุดหงิดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจเขา เขาบอกให้ไปอาบน้ำ ไม่ใช่ให้กลับไปนอนต่อ การที่เธอเลือกที่จะทำตามใจตัวเองแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกท้าทายเล็กๆ ธนินทร์ถอนหายใจแผ่วเบา เขาไม่ได้โกรธ แต่รู้สึกแปลกใจและไม่เข้าใจในตัวผู้หญิงคนนี้ เธอแตกต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยเจอมาจริงๆ สุดท้ายเขาหันกลับไปสนใจงานที่ค้างอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ปล่อยให้ความคิดเกี่ยวกับพิมวนเวียนอยู่ในหัวเงียบๆ พิมกลับมาถึงห้องนอน ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ อย่างไม่ลังเล ความเหนื่อยล้าจากการตื่นเช้าผิดปกติและเหตุการณ์วุ่นวายเล็กๆ น้อยๆ ในตอนเช้าทำให้เธอหลับใหลไปในทันที อากาศในฟาร์มนั้นบริสุทธิ์และเย็นสบายกว่าในเมืองกรุงมากนัก กลิ่นดินและพืชพรรณอ่อนๆ ที่โชยเข้ามาจากหน้าต่างช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย พิมหลับลึกและสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานนับปี เธอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งแสงแดดยามเที่ยงวันสาดส่องเข้ามาในห้อง พิมลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงเล็กน้อย เธอมองนาฬิกา... เที่ยงตรง! เธอหลับไปนานถึง 5 ชั่วโมง! มันเป็นเวลาการนอนที่เพียงพอและทำให้เธอรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง รู้สึกถึงพลังงานที่กลับคืนมาเต็มเปี่ยม ลืมเรื่องราวความขัดแย้งกับธนินทร์เมื่อเช้าไปชั่วขณะ สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกตอนนี้คือความสดชื่นและท้องที่เริ่มร้องจ๊อกๆ พิมรู้สึกสดชื่นเต็มที่หลังจากตื่นนอน เธอเดินตรงไปยังห้องน้ำ จัดการอาบน้ำชำระร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงเมื่อเช้าถูกจัดแต่งอย่างพิถีพิถัน ใบหน้าสวยใสเปล่งปลั่งด้วยเครื่องสำอางบางเบา วันนี้พิมเลือกสวม เสื้อยืดสีขาว เข้ารูป แมทช์กับ กางเกงยีนสีขาว ขาตรงที่เสริมให้เรียวขาดูยาวขึ้น เธอชอบแต่งตัวและมีความสุขกับการได้เลือกเสื้อผ้าที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง ลุค "สาวฟาร์ม" ในแบบฉบับของพิมดูคล่องตัวแต่ก็ยังคงความทันสมัยและมีสไตล์ เมื่อแต่งตัวเสร็จ พิมเดินลงมาจากชั้นบนด้วยความรู้สึกเบาสบายตัวและสดใสกว่าเมื่อเช้ามาก ท้องที่ร้องจ๊อกๆ เตือนให้รู้ว่าถึงเวลาหาอะไรใส่ท้องแล้ว -🖤🤍🖤-บทที่ 64 การจัดการของธนินทร์"ส่วนหลังจากนั้น..." ธนินทร์จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลม "ตอนพิมกลับไปบิน ผมจะจัดตารางงานตัวเองเพื่อไปหาพิมให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้""ทุกครั้งที่พิมมีวันหยุดเราจะอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าพิมจะอยู่ที่ไหนก็ตาม" ธนินทร์กล่าวอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม "ถ้าพิมสะดวกที่จะกลับมาที่นี่ ผมก็จะจัดเตรียมทุกอย่างให้พิมกลับมาพักผ่อนที่บ้านหลังนี้ได้อย่างเต็มที่""... ผมจะโทรหาพิมทุกวัน” ธนินทร์กล่าวอย่างมั่นใจ "เราจะวิดีโอคอลกันทุกคืนก่อนนอน ถ้าพิมไม่เหนื่อยเกินไป""ผมจะทำให้พิมรู้สึกว่า ผมอยู่ข้างพิมเสมอ ไม่ว่าพิมจะอยู่บนฟ้า หรืออยู่ต่างประเทศ" ธนินทร์กระชับมือพิมแน่น "ความสัมพันธ์ของเราจะไม่ทรมาน อย่างที่พิมกังวล""ผมจะพิสูจน์ให้พิมเห็นว่า ผมพร้อมที่จะเป็นที่พึ่งให้พิมได้เสมอ ไม่ว่าพิมจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม"ธนินทร์เพิ่งนำเสนอแผนการที่เป็นรูปธรรมในการดูแลพิมในความสัมพันธ์ทางไกล แต่พิมกลับยังคงเต็มไปด้วยความกังวล เธอคิดถึงแฟนคนปัจจุบันที่แม้จะToxicแต่ก็อยู่เคียงข้างกันเสมอ"ถ้าเราจะคบกันจริงๆในฐานะแฟน แล้วต่างคนต่างอ
บทที่ 63 บทสนทนาที่เกินเรื่องธนินทร์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นคง "เรื่องที่พิมต้องกลับไปบิน... พิมไม่ต้องกังวลเลย""สองเดือนที่พิมอยู่กับผมที่นี่... ผมจะทำให้พิมมั่นใจว่า ผมจริงจังมากแค่ไหน""ส่วนเรื่องหลังจากนั้น... ไม่ว่าพิมจะไปอยู่ที่ไหนหรือทำอะไร" ธนินทร์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของพิม "ผมก็จะอยู่ตรงนี้เสมอ และพร้อมที่จะรอพิม"‘แปลว่านี้จะกลาย... เป็น Love with Long Distance สินะ’ พิมคิดในใจ เธอไม่เคยต้องการอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้เลย ‘มีแฟนเหมือนไม่มี’ พิมรู้สึกเหนื่อยใจกับความคิดที่ตีกันอยู่ในหัว ‘ความสัมพันธ์นี้คงไม่เวิร์คแน่ๆ มีอุปสรรคเยอะไป มีสิ่งให้กังวลเยอะไป’ เธอคิดถึงความยากลำบากของการคบหากันทางไกล ทั้งระยะทาง เวลาที่ไม่ตรงกัน ความเหงา และความไม่มั่นคงชายหนุ่มมองออกว่าพิมกำลังครุ่นคิดอย่างหนักและเห็นแววความกังวลในดวงตาของเธอ เขารู้ว่าพิมกำลังมองเห็นอุปสรรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"ผมรู้ว่าพิมกำลังคิดอะไรอยู่" ธนินทร์กล่าวเสียงทุ้มต่ำแต่หนักแน่น "พิมกำลั
บทที่ 62 อย่าเล่นกับธนินทร์ mini NC+ธนินทร์ไม่ยอมปล่อยหญิงสาวในอ้อมกอดเขากลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นและกดศีรษะของเธอลงมาอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เธอขัดขืนได้หญิงสาวรู้ทันทีว่าเขาจะทำอะไร มือที่เคยดันอกกว้างไว้แน่น รีบดึงขึ้นมาปิดปากของเขาไว้แทน ในเสี้ยววินาทีนั้นร่างกายส่วนบนของพิมก็แนบชิดไปทั้งตัวบนร่างกายส่วนบนของธนินทร์ มือนิ่มขวางกั้นระหว่างริมฝีปากหนานุ่มของเขากับริมฝีปากอวบอิ่มของเธอไว้ธนินทร์รู้สึกถึงแรงปะทะจากมือบางที่ปิดปากเขาไว้แต่เขากลับไม่ได้โกรธหรือหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นความปรารถนาที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ดวงตาของเขาจ้องมองพิมอย่างลึกซึ้งและร้อนแรงเขาไม่ได้ถอยกลับหรือหยุดสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ ใบหน้าคมยังคงโน้มเข้าหามือของพิมที่ปิดปากเขาไว้ราวกับจะพยายามจูบผ่านฝ่ามือของเธอให้ได้ ริมฝีปากของเขาเม้มแน่นลงบนฝ่ามือของพิมเป็นการแส
บทที่ 61 ยั่วนักหรอคำพูดของพิมเป็นการเสนอทางออกที่เธอคิดว่านี้คือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนต้องการ และธนินทร์ก็เป็นหนึ่งในผู้ชายพวกนั้น เธอมองว่าก็ตกลงให้ชัดเจนไปเลยเพื่อตัดจบความสัมพันธ์ โดยไม่ต้องมาเร้ารือหรือพยายามมากมายอย่างที่เขากำลังทำอยู่ให้เสียเวลาธนินทร์ชะงักค้างอยู่กลางอากาศใบหน้าของเขาที่กำลังจะโน้มลงไปจูบพิมแข็งทื่อไปในทันที แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความปรารถนาและความอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นความโกรธที่ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง ธนินทร์ไม่เคยถูกดูถูกแบบนี้มาก่อนโดยเฉพาะจากคนที่เขาตั้งใจจะจริงจังและปรารถนาร่างสูงถอนใบหน้าออกจากพิมอย่างรวดเร็วจนเกิดระยะห่างขึ้นอีกครั้ง มือที่เคยแตะแก้มพิมอย่างอ่อนโยน ลดลงมาบีบที่วางแขนเก้าอี้ของตัวเองแน่นจนข้อกระดูกขาวโพลน กรามของเขาขบกันจนขึ้นเป็นสันนูนสาวตาคมมองพิมด้วยแววตาที่เย็นชาและดุดันราวกับพยายามควบ
บทที่ 60 จริงจังหรือแค่อยากได้พิมมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำสะท้อนถึงความเจ็บปวดและความสับสนที่ถาโถมเข้ามาในใจ เธอรับรู้ถึงความจริงใจในแววตาและคำพูดของเขาแต่ก็ยังคงไม่เข้าใจในจุดยืนของธนินทร์"ถึงแม้พิมจะกลับไปหาเขางั้นเหรอ...?" พิมถามเสียงแผ่วใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ เธอไม่รู้ว่าธนินทร์จะยังคงยืนยันคำพูดนั้นอยู่หรือไม่ หรือเขาแค่พูดไปอย่างนั้นเพราะไม่ได้รู้สึกกับเธอมากขนาดนั้นเขามองพิมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความจริงจังและความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มือที่จับหลังมือของเธออยู่ก็กระชับขึ้นเล็กน้อย ราวกับจะส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดไปให้เธอ"ใช่...." ธนินทร์กล่าวเสียงทุ้มต่ำและหนักแน่น ทุกคำพูดชัดเจนและตรงไปตรงมาจนพิมรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในอก"ไม่ว่าพิมจะเลือกทางไหน... ผมก็จะยังอยู่ตรงนี้เสมอ"เ
บทที่ 59 ความสัมพันธ์เป็นพิษ"แล้วพี่จะยอมไปหรอ เครื่องลำเดิม" พิมถามด้วยความเป็นห่วงปลายสายเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง ตอบในทำนองว่า ก็เพราะไม่ยอมนั่นแหละถึงไฟลต์ดีเลย์ แต่สุดท้ายถ้าบริษัทให้ไปก็ทำอะไรไม่ได้"อือม ก็จริง" พิมพึมพำตอบด้วยความเข้าใจในสถานการณ์ของแฟนธนินทร์ที่นั่งฟังบทสนทนาอยู่ตลอดเวลา สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉยแต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจอย่างรุนแรง เมื่อได้ยินว่าแฟนของเธอหงุดหงิดที่พิมแสดงความเป็นห่วง ธนินทร์รู้สึกว่าชายคนนี้ ไม่ได้มีวุฒิภาวะพอที่จะดูแลความรู้สึกของพิมความรู้สึกของเขาจากความหงุดหงิดส่วนตัวกลายเป็นความห่วงใยพิมอย่างแท้จริง และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องหญิงสาวไม่ให้ต้องอยู่กับคนแบบนี้ชัดเจนและแน่วแน่ขึ้นเรื่อยๆการสนทนาดำเนินมาจนใกล้จะจบ เพราะพิมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับคนรักอีก เพราะดูเหมือนทุกอย่างที่เธอพูดมันสามารถทำให้เขาหงุดหงิดได้ทุกอย่าง"งั้นพี่ไปพักเถอะ หนูไม่กวนดีกว่า" พิมเอ่ยเสียงแผ่วลง เธอเริ่มไม่อยากคุยแล้ว เพราะโดนหงุดหงิ







