รถหรูวิ่งอยู่บนถนนใหญ่ในช่วงเวลาโพล้เพล้ พลางมีเสียงโทรศัพท์ของคนที่นั่งอยู่ภายในรถดังขึ้น
“ มันโทรมาทำไมวะ คงไม่ได้จะโทรมาขอเงินอีกหรอกนะ” อนาลาหรือเจ้าไฟล้วงมือถือขึ้นมาพลางบ่นกับมันด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เนื่องจากบนจอมันปรากฏขึ้นว่าเป็นเบอร์ของน้องชายเขา “ ว่าไง ไอ้คำผาน” แต่กระนั้นเขาก็กดรับ [“ พี่ไฟ พี่รีบมาโรงพยาบาลตอนนี้เลยได้ไหม คีรินโดนรถชนเสียเลือดมาก”] “ ห๊ะ!!” หลังฟังเสียงลนลานของอนาคิน เขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะว่า อนาวิน หรือ คีรินน้องชายคนนี้ของเขา โคตรจะเป็นคนดี แล้วนี่ใครมันกล้ามาทำร้ายคีรินแบบนี้! “ เอลิก! วนรถกลับไปโรงพยาบาลของอาไนเดี๋ยวนี้!” เจ้าไฟสั่งลูกน้องคนสนิทของเขาเสียงแข็งกร้าว และยังไม่ทันขาดคำ สิ่งที่เขากำลังสงสัยว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุก็ได้เฉลยออกมา เมื่อมีสายเรียกเข้ามาในมือถือ โชว์เป็นเบอร์ของ นาย พิทักษ์ พงษ์สกร หยกทอง “ มันโทรมา…!.” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจพลางรีบกดรับ [“ ว่าไงเจ้าไฟ เซอร์ไพรส์ที่กูทำ รับน้อง ให้น้องชายมึงเข้าสู่วงการธุรกิจเดียวกันเนี้ย ถูกใจมั้ยวะ ฮาฮ่าฮา”] เสียงแหบแห้งของคนในปลายสายพูดด้วยความเย้ยหยันแฝงสะใจไม่นิด ทำเอาคนฟังอย่างเจ้าไฟหัวร้อน เขาสบถคำหยาบออกมาเสียงดังลั่นรถ “ ไอ้ชาติชั่ว!!! สารเลว!!! โธ่เอ้ย!!!” แต่ปลายสายดันตัดสายทิ้ง ก่อนที่เขาจะได้ต่อว่าอะไรไปมากกว่านั้น มือใหญ่ที่ถือโทรศัพท์อยู่จึงโยนมันใส่เบาะคนขับสุดแรงตามอารมณ์ เล่นเอาเอลิกแม้จะชินแล้วแต่ก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรด้วยสักคำ โรงพยาบาลทูว์เอ็นวาย เจ้าไฟรีบมาที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะช่วยอนาคินในการให้เลือดคีรินซึ่งกำลังผ่าตัดอยู่ในห้องฉุกเฉิน “ เป็นยังไงบ้างลูก!” เสี่ยโอมและเมียเมื่อรู้ข่าวเรื่องลูกชายคนรอง เขาก็รีบบินกลับมาจากการทำงานที่ต่างจังหวัด สีหน้าของทั้งคู่ดูตื่นตระหนกและลนลานเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะเป็นห่วงลูก “ คุณหมอยังไม่ออกมาเลยครับคุณพ่อ” อนาคินที่ตอนนี้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวหน้าห้อง ได้เอ่ยบอกกับทั้งคู่ เล่นเอาครีมหอมที่ยืนอยู่ถึงกับยกมือกุมหน้าผาก “ โอ้ย แม่จะเป็นลม” ครีมหอมเหมือนจะหน้ามืดทรุดลงกับพื้น ดีที่สามีและลูกสาวคนเล็กซึ่งเพิ่งเดินตามกันเข้ามาเมื่อกี้ รีบมาช่วยกันประคับประคองเธอไว้ “ คุณแม่คะ ใจเย็นๆ นะคะ พี่คีรินต้องปลอดภัยค่ะ” อนาลิน หรือ ลลิซ ลูบแขนของคนเป็นแม่เบาๆ ในขณะเดียวกันที่พ่อรีบค้นเอายาดมขึ้นมาให้เมีย “ โธ่เอ้ย!!” เจ้าไฟที่นั่งเงียบขรึมอยู่ตั้งนานแล้ว เขาลุกโวยวายขึ้นมาพลางหันไปชกกำแพงเสียงดัง “ คีรินเป็นคนดีไม่เคยทำอะไรให้ใคร แล้วทำไม! ทำไมน้องต้องมารับเคราะห์เพราะเพื่อความสะใจของคนคนเดียวด้วย!” “ ไฟพูดอะไรลูก มันหมายความว่ายังไง” อศิรหรือเสี่ยโอมหันไปถามลูกชายคนโตด้วยสงสัยกับสิ่งที่ลูกพูดออกมา “ ก็ไอ้พิทักษ์ไงพ่อ เมื่อกี้ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ มันโทรมาหัวเราะเยาะผม มันบอกว่ามันเซอร์ไพรส์รับน้องคีริน พูดแล้ว…ฮือ! ผมจะไปเอาเลือดหัวมันออก!” เจ้าไฟตอบอย่างเดือดดาลพลางจะรีบเดินไป แต่อนาคินก็รีบเข้ามาขวางเพื่อช่วยพ่อแม่จับพี่ชายเอาไว้ “ เฮ้ยๆ” “ ไฟอย่านะลูก!” เสี่ยอศิรรีบเข้ามาปรามลูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่โกรธแต่เขาแค่ไม่อยากให้ลูกของเขาไม่ว่าจะคนไหนต้องเป็นอะไรไปอีก “ พ่ออย่าห้ามได้ไหม รอบนี้มันจะเอาถึงตายเลยนะพ่อ” เจ้าไฟก็หันมาตะคอกพ่อกลับ ความโกรธของเขาเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “ แต่เพราะว่าเราตอบโต้มันไม่ใช่เหรอมันถึงได้ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้” อศิรจึงขึ้นเสียงกลับเพื่อหวังดึงสติลูกชายจอมหัวร้อน ก่อนเสียงจะอ่อนลง “ พ่อขอเถอะหากเราไม่ตอบโต้มัน มันก็คงจะเงียบไปเอง” เจ้าไฟเหมือนจะเงียบฟังที่พ่อพูด แต่กระนั้นมันก็ห้ามอารมณ์ร้อนของเขาไม่ได้ “ ไม่!! พ่อคิดว่ามันจะหยุดหรือไง!! ขนาดเมื่อก่อนผมไม่เคยไปทำอะไรให้มัน มันยังมาทำผมก่อนเลย แล้วพ่อคิดเหรอว่าถ้าผมหยุดตอบโต้ แล้วมันจะหยุดจริงๆ นะ” “ แต่ไฟ ถ้ามันคิดจะเอาชีวิตพวกเรา คิดจะเอาชีวิตน้องๆ ของลูกทุกคนขึ้นมาลูกจะทำยังไงหะ!!” ครีมหอมเริ่มโมโหเธอจึงเริ่มต่อว่าลูก เจ้าไฟหันมองน้องชายและน้องสาวที่กำลังยืนจ้องเขาอยู่ “ ผมก็จะทำให้มันไม่มีโอกาสนั้น! ปล่อยผม!!” เจ้าไฟสะบัดตัวออกจากการรัดกุมแล้วเร่งฝีเท้าเดินออกไปจากโรงพยาบาลด้วยความเดือดดาล เอลิกที่ยืนอยู่ไม่ไกลเห็นแบบนั้นเขาก็โค้งตัวลานายทั้งสองและรีบวิ่งตามบอสของเขาออกไป “ ทำยังไงดีคะคุณ” ครีมหอมจับแขนสามีของเธอแน่น พลางมองทางที่เจ้าไฟเดินไปอย่างเป็นห่วงแฝงความเสียใจไม่น้อย “ คงเป็นกรรมที่ผมเคยทำไว้กับพี่เอก” ครีมหอมรีบส่ายหัวให้กับสามีที่คิดแบบนั้น “ คุณกำลังกลุ้มใจกลัวว่าเจ้าไฟจะเป็นแบบพี่เอกเหรอคะ” เสี่ยก้มหน้าลงมาสบตากับเมีย สีหน้าของเขามีความกังวลพลางเสียใจแฝงอยู่ “ อืม ไฟอารมณ์ร้อนแล้วก็ไม่ฟังใครเหมือนกับพี่เอกเลย” ครีมหอมส่ายหน้าเบาๆ เพราะเธอรู้ดีว่าลูกชายของเธอเป็นอย่างไร “ แต่ยังไงเจ้าไฟก็ยังมีความคิดรักครอบครัว รักน้องๆ ทุกคน แม้จะไม่ค่อยแสดงออก แต่ฉันเลี้ยงลูกมาฉันรู้และเชื่อว่าไฟเป็นคนดีค่ะ” ครีมหอมรีบเอ่ยปัดคำพูดของสามี เนื่องจากเธอไม่อยากจะคิดว่าลูกชายคนโตของเธอจะมีจุดจบแบบอนันดา ถ้าเป็นแบบนั้นเธอรับไม่ได้ อศิรที่เห็นถึงความกังวลของเธอ เขาก็ยื่นมือมาลูบแขนเล็กของภรรยาเบาๆ “ อย่าคิดมากเลยนะครีม ต่อให้ลูกจะเป็นยังไง แต่ลูกก็เป็นลูกเรา เดี๋ยวผมจะออกไปโทรตามลูกก่อน” เสี่ยที่เหมือนมีอะไรในใจ เขาเดินออกไปและปล่อยให้เมียอยู่ตามลำพังกับลูก ลลิซจึงได้พาแม่ไปนั่งพัก “ แม่คะ พี่ไฟเหมือนกับลุงเอกอย่างนั้นเหรอ” เธอถามกับแม่ ครีมหอมรีบหันมามองพลางส่ายหน้า “ ไม่! พี่ชายของลูกนะยังมีหัวใจ ไม่เหมือนผู้ชายคนนั้น” คนเป็นแม่เสียงแข็ง แม้เวลาจะผ่านมานานก็ใช่ว่าครีมหอมจะจำเรื่องนั้นไม่ได้ กลับกันแม้จะอยากลืมแค่ไหน แต่เธอก็จำมันไม่เคยลืม อนาคินที่ยืนฟังอยู่เริ่มขมวดคิ้ว แล้วเดินขยับมาใกล้แม่กับน้อง “ เฮ้อ ไม่รู้สิครับ ตั้งแต่เกิดมาพวกเราก็ยังไม่เคยเห็นลุงเอกเลยนะครับคุณแม่” ครีมหอมยิ้มบางที่มุมปากตอนที่เงยมองลูกชาย “ ก็ตั้งแต่ลุงเอกเขาออกจากคุก พ่อเราก็ให้เงินเขาไปตั้งตัวก้อนหนึ่ง จากนั้นเขาก็ไม่ติดต่อมาอีก ได้ยินแค่ว่าไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศนะ” ครีมหอมพูดด้วยท่าทีสบายใจเพราะอย่างน้อยเอกก็ไม่มาวุ่นวายกับครอบครัวเธออีก โดยเฉพาะกับลูกๆ ของเธอ “ อืม แต่คงจะไม่บังเอิญเป็นประเทศเดียวกันกับตอนที่พี่ไฟไปเรียนต่อหรอกนะ” อนาคินบ่นออกมาอย่างไม่ได้คิดพลางมีเสียงขำน้อยๆ แต่มันกลับทำให้คนเป็นแม่ถึงกับชะงักพูดไม่ออก “ แม่คะ หมอออกมาแล้วค่ะ ” ก่อนจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น คุณหมอก็ได้เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเสียก่อน….ครีมหอมจึงเปลี่ยนจุดโฟกัสและหันไปสนใจที่คุณหมอพูดแทน“ อือ” แก้มขวัญได้สติตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่ฟ้าสางแสงแดดส่องผ่านเข้ามาทาบลงบนตัวเธอ ร่างเล็กค่อยๆ ดันร่างกายที่อ่อนล้าขึ้น “ พี่ไฟ” เธอเรียกหาชายคนนั้นเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว แก้มขวัญจึงค่อยๆ พยุงร่างกายขึ้นนั่งก่อนที่เธอจะแสดงสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ “ เมื่อคืน มันครั้งแรกของเรานะ” เธอบ่นพึมพำ เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันทำให้เธอรู้สึกดีทุกอย่าง เธอยอมรับว่าตัวเองตั้งใจให้มันเป็นไปแบบนั้น แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากตื่นขึ้นมาแล้วเขายังอยู่ตรงนี้กับเธอ “ สงสัยเราคงจะตื่นสายเกินไป” หญิงสาวพยายามคิดบวก ก่อนจะลุกและเก็บเสื้อผ้าที่เขาถอดของเธอออกขึ้นมาสวมใส่ “ โอ๊ย” แต่เธอก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ มือเล็กกุมที่หน้าท้องน้อยของตัวเอง “ ทำไมมันถึงได้ปวดแบบนี้ล่ะ” พอนึกถึงเหตุการณ์ที่เป็นคำตอบ ปากอิ่มก็อมยิ้มพลางหูแดงขึ้นมาทันที ณ แคมป์ก่อสร้าง “ ใกล้ความสำเร็จขึ้นเยอะเลยครับหัวหน้า นี่เก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย ก็หาเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งมาลงได้เลย” สำเนาหัวหน้าคนงานรายงานให้เจ้าไฟที่ยืนฟังอยู่ได้ทราบ “ อือ ดีมาก อย่าลืมบอกทุกคนว่าให้ตั้งใจทำงานดีๆ ล่ะ เพรา
“ กีรติกร” “ พี่ไฟ ยังไม่นอนเหรอคะ ” หญิงสาวหน้าแดงจนต้องรีบหลบสายตา เวลานั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่ง “ เธอเป็นอะไร” เขาจ้องเธอด้วยใบหน้านิ่งขรึม “ แก้มฝันร้าย” มุมปากข้างซ้ายของเจ้าไฟกระตุกขึ้นในทันทีเมื่อได้เห็นท่าทีที่เธอแสดงออก เขาเดินลงจากเตียงและเดินสาวขายาวไปหาน้องที่มุมประตู “ เธอเลยจะมาขอนอนกับฉันใช่ไหม” ไม่พูดเฉยเขาใช้มือเชยคางตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาจ้องตา ความกลัวที่มีในแววตาของเธอมันช่างน่าขัน เธอกลัวเขาแต่เธอก็กลัวอย่างอื่นมากกว่าจนยอมที่จะมาขอนอนกับเขาเนี่ยน่ะ? ง่ายไปแล้วหรือเปล่า “ ไม่ได้เหรอคะ เตียงพี่ก็ออกจะกว้างนี่” เสียงหวานๆ ของเธอทำให้ชายหนุ่มหลุดจากห้วงความคิด “ จะถามว่าได้ไหม…มันก็ได้แหละ แต่เธอไม่กลัวว่า…ฉันจะทำอะไรให้เธอเหรอกีรติกร” ในขณะเดียวกันนิ้วโป้งใหญ่สอดเข้าไปในปากของน้อง กลิ่นตัวของเธอมันช่างหอมหวานจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหว ไหนจะดวงตากลมโตราวลูกแก้วที่มองมา หัวใจของเจ้าไฟถึงกับร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงดูดเบาๆ ตรงนิ้วโป้ง พอเห็นเขายิ้มเธอจึงดึงมือเขาออกพร้อมกับหลบหน้า “ อยากจะทำอะไร ก็ทำเลยค่ะ แต่แก้ม..ยังมีไข้อยู่นะ” เจ้าไฟส่ายหน้าเลิ่กลั่กให้กับคำพูด
“ ไม่เห็นอะไรเลยครับหัวหน้า” สำเนาพาเจ้าไฟมาดูกล้องวงจรปิดที่มีเพียง 4-5 ตัวบนเกาะ แต่กลับไม่พบถึงอะไรหรือใครที่เป็นพิรุธเลย “ แบบนี้ก็แสดงว่าคนที่ทำเป็นคนใน”เขาบ่นพึมพำแววตามีความกลุ้มใจดั่งกลับว่าเขาพอจะรู้อะไรบางอย่าง แต่แค่คิดกับมันไม่ตกก็เท่านั้น “ อีแก้มขวัญ!!” อยู่ๆ แป้งร่ำก็เกิดความโมโหและบุกมาหาแก้มขวัญถึงบ้าน “ เธอมาทำไมแป้งร่ำ” ป้าซาร่าที่กำลังช่วยเช็ดเป่าผมให้แก้มขวัญอยู่ตรงโซฟาในบ้านหันมาถามเธอ “ แกอย่าเสือก อีคนใช้” แป้งร่ำหันไปตวาดป้า ป้าก็ของขึ้นไม่ยอมโดนว่าฝ่ายเดียว “ ต๊าย! เก่งแต่ว่าคนอื่น มึงดีตายแหละอีแป้งร่ำ” “ นี่มึงกล้าขึ้นกูขึ้นมึงกับกูเพราะมันเหรอหะ” “ ก็เอ้อน่ะสิ ก็แก้มขวัญเขาดีกว่ามึง แถมยังเป็นเมียหัวหน้า แล้วมึงอะเป็นใคร แถมยังนิสัยต่ำๆ กูต้องเคารพด้วยหรือไง” แป้งร่ำกำหมัดแน่น เพื่อจะพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง “ มึงหรือเปล่าที่ถูกมันเป่าหูน่ะอีแก่ น้ำหน้าอย่างอีเด็กนี่เหรอ เป็นเมียเจ้าไฟ” แป้งร่ำกอดอกพลันหัวเราะเยาะทั้งคู่ ก่อนจะชะงักให้กับเสียงใครบางคน “ แล้วถ้าใช่ เธอจะทำไม” แป้งร่ำรีบหันไปมอง “ ฟะไฟ” เธอตกใจที่เห็นว่าชายหนุ่มเดินมายืนข้างๆ
“ อ๋าย!!!!” แป้งร่ำกรี๊ดลั่นบ้าน จนคนเป็นแม่อย่างทิพย์ต้องรีบวิ่งเข้ามาเขย่าตัวลูกสาว “ เป็นอะไรไปหลาน” อนันดาเองก็เดินเข้ามาถาม “ ลุงไม่ได้ยินที่พวกคนงานมันพูดเหรอ ว่าอีเด็กแก้มขวัญนั่นมันกลับมาแล้ว คนที่ไปพามันกลับมาก็คือเจ้าไฟ เห็นว่าหายไปด้วยกันทั้งคืน แถมตอนกลับยังเอาแต่อุ้มยัยเด็กนั่นไม่ยอมปล่อย ป่านนี้คงได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้วมั้ง” แป้งร่ำโวยวายมีสีหน้าท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ เอาน่ะหลาน จะกลุ้มใจเรื่องนั้นไปทำไม ผู้ชายนะมันจะมีเมียกี่คนก็ได้” “ แต่แป้งอยากเป็นคนแรก ที่สอนความเป็นชายให้กับไฟ ลุงไม่เข้าใจเหรอ!” “ อย่าคิดมากไปเลยน่ะลูก แล้วไปแล้วก็ให้มันแล้วไป ยังไงซะเด็กน้อยท่าทางจืดชืดแบบนั้นไม่มีทางที่จะสู้ลูกสาวของแม่ได้หรอก” ทิพย์พยายามพูดให้ลูกสาวใจเย็น “ตอนนี้เรามาคิดกันต่อดีกว่านะ ว่าถ้าเจ้าไฟรู้ว่าพวกเราเป็นต้นเหตุ มันจะเกิดอะไรขึ้น” สีหน้าของคนพูดหมองลงด้วยความกังวล แต่สามีของเธอก็ตอบกลับด้วยคำพูดที่ทำให้สบายใจขึ้นมาได้บ้าง “ จะไปคิดอะไรให้ปวดหัวล่ะทิพย์ ทั้งเกาะเนี่ยยังมีกล้องวงจรปิดไม่ถึง 5 ตัวเลย แล้วฉันก็หลบกล้องทุกตัวแล้ว จ้างให้ก็จับไม่ได้หรอก ถ้าเ
เช้าของวันต่อมาเอลิกเดินไปทั่วบริเวณแคมป์ก่อสร้าง “ มีใครเห็นบอสไฟบ้างไหม” เขาเดินเข้ามาในโรงอาหารแล้วถามกับคนงานที่นั่งทานข้าวกันอยู่ “ ห๊า หัวหน้าไฟก็หายไปอีกคนหนึ่งงั้นเหรอ” โสนเดินถือจานข้าวเข้ามาถาม “ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าบอสเขาจะไปไหนที่ไม่ใช่ที่นี่เขาก็ต้องบอกก่อนสิ แต่นี่ฉันหาทั่วแล้วแต่ไม่เจอ” “ หรือว่าเขาจะออกไปตามหายัยเด็กแก้มขวัญนั่นหรือเปล่า” โสนเอ่ยขึ้นเป็นเชิงคาดเดา ก่อนที่พ่อของเธอจะเสริม “ นั่นสิ เห็นคุณนีวายก็เพิ่งกลับมาเมื่อชั่วโมงก่อนเอง ผมว่ารีบเกณฑ์คนออกไปตามหาดูเถอะ” ในระหว่างนั้นนีวายก็เดินเข้ามา “ เกิดอะไรขึ้นอีก” ทุกคนที่กำลังลุกนั่งลุกยืนหันมาจ้องเขา ซึ่งตอนนี้มีใบหน้าอิดโรยดั่งคนที่ไม่ได้หลับได้นอน ” บอสไฟ หายไปครับ ไม่รู้ว่าออกไปตามหากีรติกรหรือเปล่า” นีวายถึงกับถอนหายใจแรง หลังจากนั้นทุกคนก็ได้แยกย้ายกันออกไปเดินหา พวกเขาเดินไปยังหลังเกาะ ไม่นานก็เห็นใครบางคนกำลังเดินลุยน้ำทะเลมาทางนี้จากที่ไกลๆ “ นั่นๆ คุณนีวายครับ นั่นใช่หัวหน้าไฟหรือเปล่า” “ แล้วทำไมถึงกลับมาสภาพนั้น นั่นยัยแก้มขวัญเหรอ?” โสนจ้องมองร่างสีขาวๆ ซึ่งกระทบกับแสงอาทิตย์จนแ
“ วิ่งให้เร็วกว่านี้พี่ไฟ วิ่ง!! มันมาแล้วพี่ อ้าย!!” “ มันมีหมาป่าอยู่บนเกาะแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย!” เจ้าไฟบ่นด้วยความฉงน ก่อนพาร่างของหญิงสาว กระโดดลงที่ลำธารซึ่งขวางอยู่ด้านหน้าเพื่อหนีตาย เมื่อสองร่างกระแทกลงกับน้ำก็แยกตัวออกจากกัน แก้มขวัญที่ยังตั้งสติไม่มาก เหมือนกำลังจะจมหายไป แต่ชายหนุ่มก็รีบใช้แขนคล้องเอวของเธอมาแนบกายไว้ ก่อนจะรีบพาว่ายหนีอย่างทุลักทุเล แก้มขวัญที่เหมือนจะไม่มีแรงเหลือแล้วกอดคอของชายหนุ่มแน่น เจ้าไฟจึงให้เธอขี่หลังและว่ายผุดๆ โผล่ๆ ในน้ำ จนไปถึงอีกฝั่งได้ก็เผลอกินน้ำกันไปหลายอึก “ เฮ้อ” เมื่อขึ้นฝั่งมาได้ทั้งคู่ก็หอบเหนื่อย เจ้าไฟยกนิ้วกลางใส่หมาป่าพวกนั้น แต่กลับมีเรื่องให้ตกใจยิ่งกว่า เมื่อพวกมันที่เขาคิดไว้ว่าจะไม่ตามมาแล้วดันกระโดดลงน้ำว่ายตามมาเสียได้ “ พี่ไฟ!!” แก้มขวัญเห็นแบบนั้นก็เรียกเขาอย่างตกใจ ชายหนุ่มจึงรีบอุ้มร่างของเธอขึ้นแบกอีกรอบ เขาพาหญิงสาวมาซ่อนในถ้ำ ทำให้พวกหมาป่าที่พึ่งจะข้ามฝั่งมาหาทั้งคู่ไม่เจอ “ เฮ้อ หนีกระสุนหนีระเบิดยังไม่ขนาดนี้เลย” เขาบ่นพึมพำพลางเอนตัวพิงกับก้อนหินใหญ่ด้านหลัง หายใจหอบเหนื่อย จ้องมองพวกหมาป่าที่วิ่งผ่าน