ตอนที่26
หนูก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น
โสภากอดลูกสาว พยายามฝืนกลั้นน้ำตาไว้ภายในอย่างเข้มแข็ง เพราะรู้ว่าลูกกำลังอ่อนแอ เธอจะต้องเป็นหลักให้ลูก
“มันก็อยู่ที่ว่าหนูจะรอให้ใครมาปลดปล่อยความรู้สึกนั้น หรือหนูจะปลดปล่อยด้วยตัวเอง มันก็อยู่ที่หนูจะเลือก หัวใจเป็นของหนู หนูจะยอมให้ใครหรืออะไรมากักขังมันไว้ทำไมล่ะ”
“แต่หัวใจของหนูมันไม่ดีนี่คะ ทั้งอ่อนแอทั้งขี้เกียจ พร้อมที่จะหยุดทำงานได้ทุกเมื่อ หนูเกลียดหัวใจดวงนี้เหลือเกินค่ะ ทำไมละคะแม่ ในเมื่อให้หนูเกิดมาแล้ว ทำไมถึงไม่ให้หนูเอาหัวใจที่แข็งแรงเหมือนคนอื่นมาด้วย มันอ่อนแอกับทุกความรู้สึกของหนูเลยค่ะ”
เธอรำพึงรำพันด้วยความทุกข์ที่อัดอั้นอยู่ในใจ พร้อมกับซุกใบหน้าเล็กเข้าหาความอบอุ่นจากอกของผู้เป็นแม่
“แม่ถึงบอกให้หนูอยู่กับความเป็นจริงอย่างไรล่ะลูก หากเลือกได้แม่ก็จะเลือกเอาหัวใจของแม่ ให้กับลูก แต่เพราะมันเลือกไม่ได้ แม่ผิดเองที่มัวแต่ทำงาน ไม่ได้สังเกตุความผิดปกที่เกิดขึ้นกับลูก หากตอนนั้นตรวจเจอแต่เนิ่น ๆ และได้ทำการรักษา อาการของหนูก็คงไม่เป็นถึงขนาดนี้”
เมื่อเห็นโสภาเริ่มโทษตัวเอง วุ้นเย็นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับแม่ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ค่ะ คุณแม่ห้ามโทษตัวเอง ไม่ว่าหนูจะเป็นอะไร ก็ไม่ใช่ความผิดของคุณแม่ค่ะ คุณแม่รักและดูแลหนูดีแค่ไหนถึงทำให้หนูไม่รู้สึกขาดความอบอุ่น ทั้งที่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ คุณแม่ทำดีที่สุดแล้ว ต่อไปห้ามพูดแบบนี้อีกนะคะ” วุ้นเย็นหน้าซีดเสียงสั่น รู้สึกผิดที่คำพูดของเธอทำให้แม่ต้องโทษตัวเอง
‘อีกแล้วนะเรา พูดอะไรไม่คิด ทำให้คุณแม่ต้องเสียใจอีกจนได้’ เธอคิดในใจอย่างเจ็บปวด
“โถ..ลูก แม่ไม่เป็นไร ต่อไปแม่จะไม่พูดแบบนี้อีก หนูนอนเถอะนะ คุณหมอบอกว่า พรุ่งนี้ถ้าไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อน เราก็จะได้กลับบ้านกันนะลูก” โสภาบอกก่อนจะเอาแก้วน้ำส้มมาจากมือของลูกสาว แล้วดันร่างบางเบา ๆ ให้นอนลง พร้อมทั้งห่มผ้าให้เรียบร้อย
“แม่คะ” วุ้นเย็นเรียกเบา ๆ
โสภาหันไปมอง พร้อมกับขยับเก้าอี้นั่งลงใกล้ ๆ ลูก
“หือ ว่าไง”
วุ้นเย็นหยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมา
“หนูคิดถึงคุณยายกับน้า ๆ จังเลยค่ะ เราไม่ได้กลับไปที่บ้านต่างจังหวัดนานมากเลยนะคะ หนูออกจากโรงพยาบาลแล้วเราไปกันดีไหมคะ”
โสภาบีบมือลูกสาวเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“เอาสิ แม่ก็คิดถึงคุณยายแล้วเหมือนกันแต่ว่า ขอเป็นหลังจากงานแต่งงานของคุณธัชได้ไหมลูก”
วุ้นเย็นหน้าเสียลงนิดหนึ่งแต่เพราะไม่อยากให้โสภาต้องเป็นทุกข์ จึงรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะแกล้งทำเป็นตื่นเต้น ให้เหมือนกับว่าไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อน
“เอ่อ..พี่ชายจะแต่งงานแล้วหรือคะ”
โสภาพยักหน้า พร้อมกับยิ้มบาง ๆ อย่างโล่งอก ที่ไม่เห็นว่าวุ้นเย็นจะโวยวายต่อต้านอย่างที่คาดไว้ แสดงว่าเธอมองผิดไปว่าวุ้นเย็นอาจจะชอบเมธัชในแบบที่เกินคำว่าพี่น้อง ที่เธอแอบหวั่นกลัวมาตลอด แต่ถ้าเป็นแบบนั้น วุ้นเย็นจะต้องโวยวายแน่ ๆ อันนี้ไม่เลยทั้งยังดูตื่นเต้นมากด้วย
“ใช่จ้ะ แต่งกับหนูดุจดาวนั่นแหละ เห็นว่าได้ฤกษ์เป็นวันที่สิบเก้าเดือนหน้านี้แล้วด้วย นี่คุณอาวิชัยก็กำลังให้คนจัดเตรียมงาน เลยไม่ได้มาอยู่เป็นเพื่อนแม่กับหนูอย่างไรล่ะ แต่คุณอาก็โทรมาถามตลอดเลยนะลูก”
หัวใจของวุ้นเย็นสั่นไหว จนเธอต้องยกมือขึ้นมาวางไว้บนหน้าอกด้านซ้าย พร้อมกับหายใจเข้าลึก ๆ
โสภาเห็นท่าทีนั้นก็รีบเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นกังวล
“เป็นอะไรลูก”
วุ้นเย็นส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนตอบผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงปกติ
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่ตื่นเต้นดีใจมากไปหน่อย แล้วนี่จะจัดที่ไหนคะ”
โสภาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะตอบลูกสาว
“ได้ยินว่าจะจัดเล็ก ๆ เชิญแค่ญาติสนิทของทั้งสองฝ่าย ที่บ้านหลังใหม่แถวชานเมือง ที่คุณธัชเธอซื้อไว้เป็นเรือนหอน่ะ เราน่ะต้องรีบหายรู้ไหม จะได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับพี่เขา คุณดาวเป็นห่วงหนูมากนะ เออ!แต่อันที่จริงวันที่หนูเข้าโรงพยาบาล คุณธัชก็ดูเป็นห่วงหนูมาก ได้ยินคุณดาวบอกว่า เป็นคนอุ้มหนูขึ้นรถ และเรียกหนูตลอดเลย แม่ว่าคุณธัชคงรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ”
ครั้งนี้โสภาพูดตามความจริงที่ได้เห็นสีหน้าทุกข์ร้อนของเมธัชในวันนั้น ไม่ได้พูดเพื่อปลอบใจหรือให้ความหวังเหมือนเมื่อก่อน
“ค่ะ หนูก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”
วุ้นเย็นยิ้มออกมาบาง ๆ พลางทอดสายตามองออกไปที่ผนังกระจก เห็นแสงไฟจากตึกอื่น ๆ แล้วจินตนาการว่าเป็นแสงจากดวงดาวบนท้องฟ้า ก่อนจะหลับตาลง พร้อมกับอธิษฐานในใจ
‘หากความรักครั้งนี้จะต้องผิดหวัง ก็ขอให้ตัวเราได้มีโอกาสพูดความในใจกับพี่ชายสักครั้งก่อนที่พี่ชายจะแต่งงาน หรือก่อนที่เราจะหมดลมหายใจ และจากโลกนี้ไปโดยที่ยังไม่ได้บอกด้วยเถอะ”
ตอนที่47 ฉลองกันที่บ้าน “โทนี่ ดุจดาวร้องออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคย ยืนยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้าโทนี่ก้าวยาว ๆ เข้าไปหาดุจดาวด้วยความดีใจและคิดถึง แต่เมื่อเห็นหน้าท้องที่โย้ยื่นออกมา เขาก็ชะงักนิดหนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไปยืนใกล้ ๆ “โทนี่ มาได้อย่างไรคะ” ดุจดาวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ถึงแม้เธอจะไม่ได้คิดอะไรกับโทนี่แต่ก็อดเอ็นดูเหมือนเป็นน้องชายคนหนึ่งไม่ได้ “สวัสดีครับพี่ดาว” โทนี่พูดกับดุจดาว ก่อนจะเหลือบตามองไปที่เมธัช สองหนุ่มสบตากันนิ่ง ดุจดาวจึงรีบแนะนำ “อ้อ!โทนี่จ้ะ นี่เมธัช สามีของพี่ค่ะ ธัชคะนี่โทนี่รุ่นน้องดาวตอนเรียนที่อเมริกาค่ะ”โทนี่หน้าเสียไปแวบหนึ่งเมื่อได้รู้ว่าดุจดาวแต่งงานแล้ว และตอนนี้คงกำลังจะมีลูกด้วย เพราะเรือนร่างที่เคยบางระหงนั้น บัดนี้ม
ตอนที่46 ฉันจะพาคุณไปซื้อเสื้อตัวใหม่ “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”วุ้นเย็นรีบกล่าวขอโทษ เพราะเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่ง แล้วน้ำหวานที่อยู่ในมือกระฉอกใส่โดนเสื้อของเขา ตากลมมองวงสีสีชมพูวงใหญ่บนเสื้อสีขาวสะอาดตัวนั้นด้วยความรู้สึกผิด “โอ้! ไม่เป็นไรครับ แล้วคุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เสียงทุ้มสำเนียงไทยลูกครึ่งดังมา เธอจึงค่อยเงยมองหน้าของคนที่โดนชนชายหนุ่มร่างสูงน่าจะเกือบร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตร กำลังทอดสายตาสีฟ้าที่กลมโตมองมาที่เธอวุ้นเย็นส่ายหน้าเบา ๆ เสียงหวานใสเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “ฉันไม่เป็นไรค่ะ แต่ว่าเสื้อของคุณเปื้อนหมดเลย ฉันขอโทษอีกครั้งนะคะ ถ้าไม่มัวแต่มองหน้าจอมมือถือ คุณก็คงไม่ต้องเปื้อนแบบนี้ เอาอย่างนี้ไหมคะ ฉันจะพาคุณไปซื้อเสื้อตัวใหม่ให้คุณนะคะ”เธอเสนอความคิดด้วยความรู้สึกผิดจริง ๆ อีกอย
ตอนที่45หนูจะมีหลานแล้ว “เจ้าบ่าวของดาวก็หล่อค่ะ วันนี้สาว ๆ คงได้อกหักกันเป็นแถวแน่ ๆ” ดุจดาวเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เมธัชหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ แล้วกระซิบริมใบหูบาง “หนุ่ม ๆ หลายคนก็คงอกหักกันเป็นแถวเหมือนกันนั่นแหละ โดยเฉพาะ เจ้าโทนี่รุ่นน้องลูกครึ่งที่ตามจีบดาวตอนเรียนอเมริกาด้วย”ดุจดาวเบิกตากว้าง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “ธัชรู้เรื่องนี้ด้วยหรือคะ น้องเขาดีกับดาวมากจริง ๆ แต่ดาวก็ไม่ได้คิดอะไรกับโทนี่เลยนะคะ ธัชก็รู้”ดุจดาวรีบอธิบาย เรื่องนี้เธอไม่เคยบอกให้เขารับรู้ เพราะใจเธอมีแต่เขา จึงปฏิเสธหนุ่มน้อย ตาน้ำข้าวคนนั้นไป แม้โทนี่จะยอมรับที่ถูกปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ถอยยังคอยตามมาอยู่ใกล้ ๆ เสมอ โทนี่นั้นเรียนคณะเดียวกันกับเธอ แต่เมธัชเรียนคนละคณะกันเมธัชยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน&nbs
ตอนที่44 จะไม่ทะเลาะไม่โกรธกันอีกภายใต้แสงดาวที่พร่างพราวเต็มท้องฟ้าในคืนเดือนมืด สองหนุ่มสาวกำลังตกปลาตกหมึกกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะที่ประสานกันเกือบทั้งคืนนั้นแสดงให้เห็นถึงความสุขที่ทั้งคู่กำลังได้รับเกือบตีสาม วุ้นเย็นและเมธัชจึงเก็บอุปกรณ์ ตกปลา ทั้งสองมองหมึกและปลาทะเลสด ๆ เป็น ๆ ด้วยความดีใจ ต่างเริ่มนับแต้มของตัวเอง ปรากฎว่าจำนวนหมึกและปลาที่วุ้นเย็นตกได้ น้อยกว่าเมธัช “ฮ่า ๆ พี่เป็นผู้ชนะ ว่าไงจ้ะน้องไม่ร้องนะนะจ้ะ ฮ่า”วุ้นเย็นยื่นปากใส่ ก่อนจะยืนขึ้นเตรียมตัวปั่นจิ้งหรีด ตามที่ได้ตกลงกันไว้ตอนแรก “เฮ้อะ! คนอย่างน้องไม่ร้องหรอกพี่ มีแต่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างคนที่มีน้ำใจนักกีฬาจ้ะ คุณพี่ชาย”พูดจบก็เริ่มก้มตัวลงเอามือข้างหนึ่งจับใบหู ส่วนมืออีกข้างนั้นใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปบนพื้นเรือ
ตอนที่43 ติ๊ต่างว่าเป็นไวน์แดง “โอ้โฮ! หน้าตาน่ากินมาก กลิ่นก็ห้อมหอม แต่รสชาติจะเป็นอย่างไรน้า หนูขอชิมก่อนแล้วกันนะ”เธอร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะใช้มีด เล็ก ๆ ที่ชายหนุ่มเตรียมมาให้ในจาน หั่นชิ้นเนื้อสเต็กแบบมีเดี๊ยมแรขนาดพอดีคำ แล้วใช้ช้อนส้อมจิ้มขึ้นมาดมนิดหนึ่ง ก่อนจะส่งเข้าไปในปาก พร้อมกับหลับตาทำหน้าฟิน “เป็นไงบ้าง อร่อยกว่าไข่เจียวหมูสับใช่ไหม” เขาถามยิ้ม ๆ ทอดสายตามองใบหน้าเรียวเล็กอย่างเอ็นดู “อร่อยกว่ามาก พี่ชายฝีมือพัฒนาขึ้นแล้ว จริง ๆ ด้วย สุดยอดเลยค่ะ” เธอเอ่ยชมด้วยความจริงใจ ก่อนจะหั่นเนื้อเสตกกินไปอีกหลายคำ อย่างเอร็ดอร่อยและหิวโหย &n
ตอนที่42ให้อภัยกันไม่ได้แล้ว “แล้วยังไงอีก” เขาถามต่อ สีหน้าก็เรียบเฉยไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยเธอกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าเขาจะถามอีกทำไม ในเมื่อคำตอบก็อยู่ในสมุดจิ๋วเล่มนั้นอยู่แล้ว จะให้พูดอีกหรือ เธอก็อายเป็นนะ “ก็เลยพูดไปแบบนั้นค่ะ” เธอก้มหน้าลง มองมือของตัวเองที่ประสานอยู่บนตัก “พี่ว่าหนูไม่ได้หวงหรอก แต่หึงมากกว่า”เฮือก!เขาโพล่งออกมาซึ่งตรงกับคำตอบในใจของเธออยู่แล้ว แต่เธอไม่กล้าพูดมันออกไป “พี่ชาย!หนู...” เธออึกอัก คิดไม่ออกว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธดี แต่ถึงอย่างไรเขาก็เห็นสมุดเล่มนั้นอยู่แล้ว จะตอบรับหรือปฏิเสธก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี “พี่เข้าใจ และให้อภัยตั้งแต่เห็นน้องนอนใส่ท่อช่วยหายใจในตอน