แชร์

บทที่ 1375

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
เพราะอย่างไรเสีย พวกเขาก็ได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวนและคนใบ้ที่ทางเข้าบ่อน้ำพุร้อนแล้ว

ในยามนี้ถูหมิงกลับเกรงว่าพวกเขาจะหนีไป

“แล้วจะมัวพูดอะไรกันอีก ข้ามแม่น้ำเสียสิ”

ลั่วชิงยวนหันไปสบตากับคนใบ้ “ข้าจะไปทดสอบความลึกของน้ำก่อน”

แต่คนใบ้กลับดึงนางไว้

จากนั้นก็หยิบโซ่เหล็กยาวออกมาจากกระเป๋าด้านหลัง

ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย

นี่คือโซ่เหล็กที่ใช้สังหารฝูเหมิ่งในคราวนั้น มิคาดคิดว่าเขาจะพกติดตัวมาด้วย

คนใบ้ขว้างโซ่เหล็กไปที่ฝั่งตรงข้าม โซ่เหล็กพันเข้ากับต้นไม้ เขาออกแรงดึงเพื่อตรวจสอบความแข็งแรง

เขาผูกปลายอีกด้านหนึ่งไว้กับลำต้นไม้แล้วส่งให้ลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนลงน้ำคนแรก ขณะดึงโซ่เหล็กว่ายไปยังฝั่งตรงข้าม

ลั่วชิงยวนดำลงไปดู พบว่าน้ำลึกมาก ต้องว่ายน้ำข้ามไปเท่านั้น

นางขึ้นฝั่งได้อย่างราบรื่น

จากนั้นคนใบ้ก็ข้ามตามไป

ถัดมาคือถูหมิงและคนอื่น ๆ

แต่เมื่อถึงคราวฉีเสวี่ยเวยและซูเซียงก็มีงูฝูงใหญ่ปรากฏตัวบนกองหญ้าด้านหลังพวกนางแล้ว

พวกมันกำลังไล่ตามมา

“งูมาแล้ว! รีบข้ามแม่น้ำเร็วเข้า พวกเจ้าสองคนข้ามไปด้วยกัน!” ถูหมิงร้อง

ฉีเสวี่ยเวยและซูเซียงลงน้ำอย่างกระวนกระวาย

แต่ฉี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1486

    ในเวลานั้นลั่วชิงยวนยังมิได้รู้สึกอะไร จนกระทั่งกลับไปแล้ว อวี๋หงจึงพานางไปยังที่ซึ่งเรียกว่าคลังสมบัตินางจึงได้ประจักษ์ถึงความมั่งคั่งของตระกูลอวี๋อย่างแท้จริงเมื่อมองไปยังหีบทองคำอร่ามเรืองเต็มพื้น ลั่วชิงยวนมิอยากจะเชื่อ “ท่านพี่ เงินทองของท่านมากมายถึงเพียงนี้นับว่ามั่งคั่งกว่าบางแคว้นเสียอีก!”นางทราบว่าเจ้าเมืองตลาดมืดร่ำรวย แต่คาดมิถึงว่าจะร่ำรวยถึงเพียงนี้อีกทั้งเครื่องเรือนต่าง ๆ ในคฤหาสน์ของเจ้าเมือง ถึงจะวิจิตรงดงามแต่ก็มิได้หรูหราฟุ่มเฟือยคาดมิถึงว่าสิ่งของที่หรูหราอย่างแท้จริงล้วนอยู่ในคลังสมบัติอวี๋หงยิ้ม แล้วกางมือออกพลางกล่าวว่า “หากเจ้าชอบ ก็เอาไปได้เลยตามสบาย”“อย่างไรเสียสิ่งเหล่านี้ก็มิได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ตายไปก็เอาไปด้วยมิได้”“ข้าไม่มีทายาท หากเก็บไว้ที่นี่ก็เป็นประโยชน์แก่คนนอกเปล่า ๆ”คำพูดของอวี๋หงแฝงไว้ด้วยความนัยบางอย่างแต่ลั่วชิงยวนกลับมิเข้าใจ เพียงแต่ถามว่า “ท่านพี่มีเงินทองมากมายถึงเพียงนี้ มิคิดจะขยายกิจการของตลาดมืดให้กว้างขวางกว่านี้หรือเจ้าคะ?”อวี๋หงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามว่า “เจ้าหมายถึงแคว้นเทียนเชวียหรือ?”อวี๋หงค่อย ๆ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1485

    ลั่วชิงยวนจึงกล่าวคำอำลาลุงเฉิง จากนั้นจึงเดินทางลงเขาไปกับอวี๋หงเพื่อเดินทางกลับระหว่างทาง ลั่วชิงยวนกล่าวกับอวี๋หงว่า “สมบัติทุกสิ่งในเมืองแห่งภูตผีล้วนเป็นของตระกูลอวี๋ของท่าน ท่านเป็นพี่ชายของอวี๋ตันเฟิ่ง ย่อมสมควรที่จะเข้าควบคุมเมืองแห่งภูตผี”“หากท่าน…”ลั่วชิงยวนยังมิทันกล่าวจบ อวี๋หงก็ขัดจังหวะนาง “มิต้องแล้ว”“ข้าทราบเรื่องราวทั้งหมดจากลุงเฉิงแล้ว เมืองแห่งภูตผีเป็นสิ่งที่น้องสาวข้ามอบให้ท่าน”“ท่านแก้แค้นให้นางสำเร็จ ก็ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลอวี๋ของพวกข้า”“ท่านเป็นเจ้าเมืองแห่งภูตผีแล้ว อย่าได้ปฏิเสธเลย”อวี๋หงรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก ทั้งยังเสียใจที่เคยเข้าใจลั่วชิงยวนผิดไปโชคดีที่ลั่วชิงยวนมิได้ถือสา มิเช่นนั้นคืนนั้นตระกูลของพวกเขาคงต้องประสบเคราะห์ร้าย เกรงว่าจะมิเหลือผู้รอดชีวิตเมื่อคิดถึงตรงนี้ อวี๋หงก็หันมายิ้มให้ลั่วชิงยวน “ข้าเห็นว่าแม่นางลั่วมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ทั้งยังขับไล่ภูตผีปีศาจและมีความสามารถทางการแพทย์ เมืองแห่งภูตผีมีกับดักและอันตรายมากมาย ท่านก็ยังสามารถบุกเบิกหนทางได้ ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก”“มิทราบว่าจะมีวาสนาได้สาบานเป็นพี่น้องกับแม่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1484

    “แล้วเกาเหมียวเหมี่ยวอยู่ที่ใด?” ลั่วชิงยวนถามลุงเฉิงตอบว่า “มิทันได้สังเกตเห็นนางขอรับ ผู้คนมากมายนัก แต่นางน่าจะยังมิตายขอรับ”ลั่วชิงยวนคิดว่า ด้วยความแข็งแกร่งของเกาเหมียวเหมี่ยว การขึ้นเขาน่าจะยังยากอยู่บ้างรอจนคนตายเกือบหมดแล้ว นางคงจะถอดใจไปเองจากนั้นหลายคนก็ติดตามลุงเฉิงกลับไปกินข้าวที่โต๊ะอาหาร อวี๋หงถามว่า “ลุงเฉิง เมื่อก่อนติดตามอวี๋ตันเฟิ่งด้วยหรือ?”ลุงเฉิงพยักหน้า “ขอรับ ท่านเจ้าเมืองอวี๋สร้างเมืองแห่งภูตผีแต่เริ่มแรก ข้าน้อยก็อยู่ที่นั่นแล้ว”“ท่านอยากทราบเรื่องใด หากข้าน้อยจำได้ ก็สามารถบอกท่านได้”“อย่างไรเสียข้าน้อยก็อายุมากแล้ว บางเรื่องก็จำได้มิแม่นยำนักขอรับ”อวี๋หงพยักหน้า “ดี ถ้าเช่นนั้นกินข้าวเสร็จแล้วเราค่อยคุยกันให้ดีเถิด”หลังจากกินข้าวเสร็จ อวี๋หงก็สนทนากับลุงเฉิงเป็นการส่วนตัวถึงเรื่องราวในอดีตของอวี๋ตันเฟิ่งอวี๋หงอยากทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับอวี๋ตันเฟิ่งในเมืองแห่งภูตผีลั่วชิงยวนว่างอยู่ จึงทำได้เพียงพาคนใบ้เดินเล่นในภูเขาเมื่อเดินไปยังจุดที่สูงที่สุดของภูเขา ทิวทัศน์ที่เห็นก็แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงเมื่อมาถึงใต้ต้นไม้ริมหน้าผา ลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1483

    “หลังจากนางตาย สะพานก็ขาด”พวกเขามาถึงบ้านหลังนั้น ลั่วชิงยวนพาอวี๋หงไปยังห้องที่อวี๋ตันเฟิ่งเคยอยู่ ทุกหนทุกแห่งล้วนมีร่องรอยชีวิตของนางลั่วชิงยวนพาเขาไปดูหน้าผาชันที่ทอดไปยังรังงูด้วย เพียงแต่สะพานที่นี่ยังมิได้เริ่มสร้างขณะยืนอยู่ระหว่างหน้าผา ลมพายุพัดกระหน่ำ ในใจของอวี๋หงสั่นสะท้าน “ที่นี่… ล้วนเป็นฝีมือนางสร้างเองหรือ?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า นางให้ลุงเฉิงนำแผนที่การวางกำลังป้องกันและบันทึกส่วนตัวของอวี๋ตันเฟิ่งมา“นางวางแผนสำหรับเมืองแห่งภูตผีไว้อย่างยิ่งใหญ่ มิใช่เพียงที่นี่ แต่รวมถึงกลไกบนเขาทั้งลูก ป้อมปราการป้องกันทุกแห่งล้วนเป็นนางสร้างเองทั้งสิ้น”เมื่ออวี๋หงเห็นเนื้อความในบันทึกนั้น ในใจก็พลันหนักอึ้งพลางน้ำตาคลอ“เมื่อก่อนนางเคยเล่าความคิดเช่นนี้ให้ข้าฟัง แต่มันช่างเลื่อนลอยเกินไป ท่านพ่อกับข้าจึงปฏิเสธนาง”“เมื่อมาคิดดูในตอนนี้ พวกข้าผิดเอง”“หากเมื่อครั้งนั้นให้การยอมรับและให้ความมั่นใจแก่นางมากกว่านี้ นางอาจจะมิทำเช่นนี้โดยมิบอกพวกข้า”“และคงจะมิก่อให้เกิดผลร้ายเช่นในวันนี้”อวี๋หงหัวใจสลายและเต็มไปด้วยความสำนึกผิดน่าเสียดายที่กาลเวลามิอาจหวนคืน ทุกสิ่งมิอา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1482

    ลั่วชิงยวนหันหลังกลับไปมองแวบหนึ่ง พลันมิสบายใจขึ้นมาเมื่อคำนวณตำแหน่งและระยะทางอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รีบกระซิบข้างหูคนใบ้ว่า “ไปสุสาน”“เข้าหมู่บ้านจากด้านหลัง”อาคมลวงตาของหมู่บ้านนั้นยังมิได้ถูกปลดออกไป ก่อนหน้านี้ตั้งไว้เพื่อป้องกันฝูเหมิ่ง จนถึงบัดนี้ก็ยังคงอยู่คนใบ้พยักหน้าแล้วรีบแบกลั่วชิงยวนเดินอย่างรวดเร็ว พาคนอื่น ๆ รีบรุดไปยังสุสานคนสิบกว่าคนที่อวี๋หงพามาต่างหยิบธนูออกมายิงใส่คนของเกาเหมียวเหมี่ยวเพื่อสกัดกั้นนางไว้มินานหลายคนก็ทยอยวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านลั่วชิงยวนถูกวางลงกับพื้น นางมองคนใบ้ด้วยความเป็นห่วง “อาถู่ เจ้ามิเป็นกระไรใช่หรือไม่?”คนใบ้ส่ายหน้า แสดงว่าเขามิเป็นอะไรจากนั้นพวกอวี๋หงก็ทยอยมาถึงหลังจากทุกคนเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว ลั่วชิงยวนก็ขยับตำแหน่งอักขระ“ท่านเจ้าเมือง ท่านให้คนสองคนเฝ้าอยู่ที่นี่ ส่วนคนอื่น ๆ ไปยังลานด้านหน้าก่อนเถิด”บัดนี้ใกล้พลบค่ำแล้ว หมอกหนาเริ่มก่อตัวในป่ากอปรกับฤทธิ์ของอาคมลวงตา จึงซ่อนหมู่บ้านทั้งหมดไว้พวกเขาอยู่ในหมู่บ้านและได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ภายนอกหมู่บ้าน มีคนมิน้อย แต่ก็เพียงแค่เดินผ่านไปคนพวกนั้นหาหมู่บ้านมิพบเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1481

    เวินซินถงโกรธจนกัดฟันแน่นนางพ่ายแพ้อีกแล้วเหตุใดลั่วชิงยวนจึงโชคดีถึงเพียงนี้ ไปที่ใดก็มีคนช่วยเหลือเสมอ!มิเพียงรอดชีวิตกลับมาจากเมืองแห่งภูตผีได้เท่านั้น นางยังได้สมบัติมากมาย ทั้งยังผูกมิตรกับเจ้าเมืองตลาดมืดได้อีกด้วยนับวันอำนาจของลั่วชิงยวนดูเหมือนจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆในใจนางร้อนรนวิตกกังวล แต่กลับคิดหาหนทางมิออกไปชั่วขณะเวินซินถงยังคิดจะหาโอกาสไปพบโหยวหัวหนิงอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกอวี๋หงจับได้ จึงส่งผู้คุ้มกันห้าสิบนายใช้กำลังเชิญนางลงจากเขาไปทางด้านอวี๋หงก็เตรียมการเกือบพร้อมแล้วเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหวและมิให้เป็นที่สังเกต อวี๋หงจึงนำคนไปเพียงสิบกว่าคนพวกเขาออกเดินทางจากตลาดมืดอย่างรวดเร็วพวกลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนไปสวมชุดผู้คุ้มกันปะปนอยู่ในหมู่คณะหลังจากลงจากเขาก็ขึ้นรถม้าออกเดินทางไปยังเมืองแห่งภูตผีตลอดทางเงียบสงัด ลั่วชิงยวนเปิดม่านมองไปยังป่าข้างทางด้วยสายตาลึกล้ำค่อนข้างเงียบผิดปกติอวี๋หงก็เปิดม่านมองแวบหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “มิต้องรีบร้อน ไม่มีใครกล้าหาเรื่องตลาดมืดหรอก”หลังจากพูดจบเขาก็สวมหน้ากากก้าวออกจากรถม้า และเปลี่ยนไปขี่ม้าแทนเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status