แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ขนตาเจียงเฟิ่งหัวไหวระริก ใบหน้าเล็กๆ นั้นอดกลั้นจนแดงก่ำ นิ้วมือเรียวกระชับชุดชั้นนอกที่เดิมก็บางเบาอยู่แล้ว ยิ่งปกปิดยิ่งเผยให้เห็นเรือนร่างกลมกลึงของนาง เท้าเปลือยเปล่าคู่นั้นเปิดเผยอยู่เบื้องหน้าเขา ชวนให้คนเอ็นดูเหมือนภูตน้อยไม่มีผิด

เซี่ยซางรีบเสสายตาหนี เอ่ยเสียงเย็นชา “แต่งตัวให้เรียบร้อย”

เจียงเฟิ่งหัวก้มหน้ามอง พบว่าเท้าของตนเองเปลือยเปล่า นางบิดเอวคอดเดินผ่านหน้าเขาไป ด้านหนึ่งดึงอาภรณ์ลงปกปิดอย่างร้อนรน ด้านหนึ่งก็อธิบายเสียงเบา “หม่อมฉันไม่ได้ไม่รู้กฎระเบียบนะเพคะ ท่านอ๋องโปรดฟังหม่อมฉันอธิบายก่อน ตอนกลางวันชุดชั้นนอกของหม่อมฉันถูกไฟเผา หม่อมฉันเกรงว่าจะแลดูไม่เหมาะสม ครั้นกลับห้องหม่อมฉันจึงให้คนไปเตรียมน้ำอาบน้ำ เดิมคิดว่าจะแต่งตัวใหม่ แต่อาจเป็นเพราะเหนื่อยเกินไปจึงเผลอหลับไปโดยไม่ทันระวัง หม่อมฉันจึงลืมเวลาไปชั่วขณะ”

“ข้าไม่ได้ถือสา” น้ำเสียงของเขาห่างเหินเย็นชา แววตามืดครึ้มเผยให้เห็นความไม่พอใจ

นางคิด สำหรับคนที่ไม่สนใจแล้ว ต่อให้เปลือยทั้งตัว เขาก็ไม่สนใจหรอก

เจียงเฟิ่งหัวดวงตาเป็นประกาย นางหลบไปข้างๆ อย่างอ่อนแอขวัญอ่อน ดวงตาฉายแววลังเล กัดริมฝีปากสีแดงฉ่ำพึมพำว่า “พิธีในวันมงคลสมรสที่วังหมัวมัวสอนไว้...”

มองสาวน้อยท่าทางอ่อนแอขลาดเขลาตรงหน้า เห็นทีตนเองคงทำให้นางหวาดกลัวเสียแล้ว ความเย็นชาในแววตาของเขาสลายไปเล็กน้อย ปรับน้ำเสียงให้ราบเรียบลง “เจ้านั่งลง”

“เชิญท่านอ๋องนั่งลงก่อนเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวยิ้มบาง

รอยยิ้มบนใบหน้านางราวกับสามารถติดต่อถึงผู้อื่นได้ ทำให้หัวใจเขาพลันสั่นสะท้าน

เซี่ยซางตีหน้าขรึมนั่งลงบนขอบเตียง เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่มองนาง รักษาความเย็นชาแข็งกระด้างบนใบหน้าไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ

เจียงเฟิ่งหัวแสร้งเป็นมองไม่เห็นความห่างเหินของเขา นั่งลงข้างกายเขาอย่างไร้ข้อกริ่งเกรงใดๆ ใบหน้าซับสีเลือดฝาด “วังหมัวมัวบอกว่า...”

“ไม่ต้องฟังตามที่วังหมัวมัวพูด ตอนนี้ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า” เซี่ยซางตัดบทนาง ประกายคมกริบวาบผ่านดวงตา วังหมัวมัวก็คือสายตาของเสด็จแม่ที่คอยสอดแนมเขาอยู่ทุกขณะ

“เชิญท่านอ๋องพูดเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวหยุดพูดทันที ดวงตาเป็นประกายมองไปทางบุรุษข้างกายอย่างไร้เดียงสา

เซี่ยซางมีรูปโฉมหล่อเหลาโดยแท้ บนศีรษะครอบมงกุฎฝังหยกหรูหราสูงศักดิ์ คิ้วกระบี่นัยน์ตาพราว หางตาเรียวยาว แลดูองอาจเหนือคนทั่วไป จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเม้มน้อยๆ แผ่ซ่านความห่างเหินเย็นชาออกมา

เครื่องหน้าที่ราวกับแกะสลักออกมามีเหลี่ยมมุมชัดเจน หล่อเหลาคมคายเหนือสามัญ ไม่แปลกที่ชาติก่อนนางรักเขาดุจชีวิต น่าเสียดายที่ในใจเขามีคนอื่นไปนานแล้ว จึงไม่อาจรองรับคนอื่นได้อีก

ตอนนี้สำหรับนางแล้ว เซี่ยซางเป็นได้เพียงหินรองเท้าในการไขว่คว้าอำนาจของนางเท่านั้น นางไม่มีทางมีความรู้สึกใด ๆ ให้เขาอีกแล้ว

ทว่าบุรุษรูปงามก็มีแรงดึงดูดมากจริงๆ นางเข้าใกล้เขาโดยไม่ทันระวัง

เซี่ยซางสัมผัสได้ทันทีว่าเจียงเฟิ่งหัวขยับเข้ามาใกล้ เสื้อคลุมชั้นนอกของนางพลันคลายออก ข้างในสวมเพียงชุดผ้าเนื้อบางสีแดงชุดเดียว เรือนกายอรชรปรากฏให้เห็นวับๆ แวมๆ เขาผุดลุกขึ้นมา ยึดถือหนักแน่นว่าคนที่ตนเองรักคือซูถิงหว่าน

สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้นมาในบัดดล น้ำเสียงไร้ความรู้สึกและไม่แยแส “ข้ามีคนที่ชอบแล้ว ทั้งยังสัญญาไว้ว่าชั่วชีวิตนี้จะชอบนางเพียงคนเดียว นอกจากนาง หัวใจข้าก็ไม่อาจรองรับสตรีคนที่สองได้อีก ดังนั้นข้าไม่มีทางร่วมหอกับเจ้า สิ่งที่วังหมัวมัวบอกเจ้าล้วนแต่เป็นเรื่องผิดพลาด มีเพียงคนที่รักใคร่กันจากใจจริงเท่านั้นจึงจะสามารถเปิดใจไปทำเรื่องแบบนั้นได้”

เจียงเฟิ่งหัวเบิกตาโพลง สีหน้าสงบนิ่งไร้ระลอก นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ที่แท้ท่านอ๋องก็มีคนที่ชอบแล้วนี่เอง!”

ลมปากของผู้ชายเชื่อถือไม่ได้ที่สุดแล้ว หลังจากเซี่ยซางขึ้นครองบัลลังก์ก็เติมเต็มวังหลัง ราชวงศ์ไม่อนุญาตให้เขาโปรดปรานคนเพียงคนเดียว วันหน้าเขาจะรู้เองว่าความจริงโหดร้ายแค่ไหน ความรักของเขากับซูถิงหว่านเล็กจ้อยเพียงใด

ดวงตาของนางสะท้อนความสับสนงงงวย บริสุทธิ์ไร้เดียงสา เอ่ยเนิบช้าว่า “ตั้งแต่ราชโองการประทานสมรสส่งมาถึงจวนสกุลเจียง ท่านแม่ก็บอกข้าว่าข้าสามารถชอบท่านอ๋องได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ทว่าก่อนนี้ข้าไม่เคยเห็นท่านอ๋องแล้วจะชอบท่านอ๋องได้อย่างไร ในเมื่อท่านอ๋องมีนางในดวงใจแล้วก็ควรไปสู่ขอนางมาสิเพคะ!”

ความหมายของนางก็คือ ท่านมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่ไม่มีความสามารถไปสู่ขอ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าไม่ได้ชอบท่านสักหน่อย แต่ที่แต่งงานกับท่านก็เพราะไม่อาจปฏิเสธราชโองการได้ก็เท่านั้นแหละ

นางต้องการบอกเขาว่า นางไม่ได้เจตนาเข้าไปแทรกกลางระหว่างพวกเขาสองคน นางได้รับราชโองการประทานสมรสให้แต่งงานเข้ามาเป็นพระชายาในจวนเหิงอ๋อง

นางรู้จักเซี่ยซางดี ต่อหน้าเขา ทางที่ดีตนเองควรเป็นกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง ความอยากเอาชนะของบุรุษรุนแรงกว่าที่คาดคิดกันมากนัก

เซี่ยซางตกตะลึงต่อปฏิกิริยาตอบสนองของนาง ในแววตาเต็มไปด้วยความค้นหา ที่นางเข้าใกล้โดยไร้สาเหตุเมื่อครู่ ไม่ใช่เพราะว่าต้องการหรอกหรือ?

ทว่าดวงตาของนางแจ่มกระจ่างเปิดเผย สีหน้าปราศจากความผิดปกติใดใด กลับเป็นตนเองเสียอีกที่จิตใจว้าวุ่นเพราะการประชิดเข้ามาของนาง

ครั้นคิดว่าเจียงเฟิ่งหัวเป็นชายาของเขาแล้ว ได้ยินว่าสามีชอบสตรีอื่น นางกลับไม่ถือสาแม้แต่น้อย หรือจะเป็นดังที่นางว่า นางไม่ชอบเขา ดังนั้นจึงไม่ถือสา

เขายืนยันอีกครั้ง “เจ้าไม่ถือสาที่นางจะเข้าจวนมาจริงๆ?”

“สามารถทำให้ท่านอ๋องหลงรักได้จะต้องเป็นสตรีที่ดีมากแน่นอน เหตุใดหม่อมฉันต้องถือสาด้วยเพคะ วังหมัวมัวบอกว่าในเมื่อเป็นชายาของท่านอ๋องแล้วก็ต้องเอาใส่ใจเรื่องทายาทของจวนอ๋องเข้าไว้ หน้าที่ของชายาเอกยังรวมถึงการคัดเลือกสตรีที่เหมาะสมเข้าจวนมาปรนนิบัติท่านอ๋อง ต่อไปหม่อมฉันจะต้องใส่ใจให้มากแน่นอนเพคะ” ไม่เห็นด้วยแล้วอย่างไรเล่า ร้องไห้ไปได้ประโยชน์อันใดขึ้นมา สามวันหลังจากนี้ท่านก็ยังจะแต่งนางเข้าจวนมาอยู่ดี ข้าปล่อยตามน้ำผูกน้ำใจไว้เสียมิดีกว่าหรือ ชาตินี้ข้าก็อยากเห็นกับตาตัวเองเหมือนกันว่าระหว่างท่านกับซูถิงหว่านมีความรักหนักแน่นมั่นคงเพียงไร

เซี่ยซางเห็นคิ้วนางเข้มดุจภาพวาด น้ำเสียงอ่อนหวานนุ่มนวล ใบหน้าสงบไร้ระลอก แววตาจริงใจ สีหน้าไร้ความผิดปกติ ราวกับว่าไม่ถือสาที่สามีของตนเองมีหญิงอื่นในใจสักนิดเลยจริงๆ

แต่ได้รู้ว่าเขามีสตรีที่ชอบอยู่แล้ว ไฉนนางจึงมีท่าทางเหมือนโล่งอกเช่นนั้นเล่า

เซี่ยซางเห็นหญิงสาวสงบนิ่งปานนี้ เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ นางใจกว้างขนาดนี้จริงงั้นหรือ?

“ท่านอ๋องจะนอนแล้วใช่ไหมเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวเป็นฝ่ายถามขึ้นมา

จิตใจเซี่ยซางพลันสั่นสะท้าน “ในเมื่อคุยกันชัดเจนแล้ว ข้าก็จะไปนอนที่ห้องหนังสือ”

“ท่านอ๋องอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่มีทางทำอันใดท่านอ๋อง พวกเราเพียงแค่เข้านอนกันเท่านั้น ต่างคนต่างนอนดีไหมเพคะ?” นางเสริมมาอีกอย่างอาจหาญ “คิดว่าท่านอ๋องก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วเหมือนกัน ไยจะต้องไปทำรบกวนข้ารับใช้ให้ตกอกตกใจกันด้วย มิสู้นอนเสียที่นี่ อีกอย่าง ดึกดื่นป่านนี้แล้ว หากท่านอ๋องออกจากห้องหอในคืนแต่งงานไปนอนในห้องหนังสือตามลำพัง เกรงว่าวันรุ่งขึ้นหม่อมฉันคงต้องได้ฟังวังหมัวมัวเทศนากิจของภรรยาไม่จบไม่สิ้นแน่นอนเพคะ”

เซี่ยซางฟังแล้วความนึกคิดก็รอบคอบกว่าเดิม ถึงอย่างไรเจียงเฟิ่งหัวก็เป็นคนที่ฝ่าบาทพระราชทานสมรสเข้ามา ไม่อาจดูดายนางเกินไป ในเมื่อนางยินดีให้แต่งหว่านเอ๋อร์เข้าจวน ทั้งยังยินดีไม่ร่วมหอ เขาก็ไม่มีเหตุผลให้ไปนอนที่ห้องหนังสือ

นอกจากนี้ หากคืนนี้เขาไปแล้ว บุตรีราชครูเจียงถูกสามีหมางเมินตั้งแต่คืนวันแต่งงาน หากร่ำลือออกไป เขาเองก็ยากจะอธิบายเหมือนกัน

ขอเพียงเจียงเฟิ่งหัวรู้กาลเทศะ เขาก็จะไม่ทำให้นางลำบากใจ

“หม่อมฉันปรนนิบัติท่านอ๋องผลัดอาภรณ์นะเพคะ” นางกล่าว

“ไม่ต้อง” เซี่ยซางเบี่ยงร่างหลีกเลี่ยงนางแล้วตรงไปหลังฉากกันลม ตอนกลางวันยุ่งมาทั้งวัน ตอนเย็นยังดื่มสุราไปมากขนาดนั้น เขาเหนื่อยล้ามาแต่แรกแล้ว จำเป็นต้องไปอาบน้ำสักรอบ

เจียงเฟิ่งหัวแววตาราบเรียบ ไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย อย่างไรเสียนางก็อาบน้ำแล้ว นางไม่สนใจเซี่ยซาง ปีนขึ้นเตียง จัดท่านอนที่สบายตัวแล้วนอนหลับไปคนเดียว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 406  

    พวกโจรภูเขาชั่วช้าสามานย์ถึงขีดสุด ฆ่าคนปล้นทรัพย์ ลักพาตัวกุลสตรีจากครอบครัวสุจริต กระทำทุกความชั่วช้า องครักษ์ของนางออกจากเมืองหลวงก็ถูกฆ่าตายทันที มิหนำซ้ำยังเว้นชีวิตของนางและสาวใช้ของนางไว้ แบบนี้มันแปลกเกินไปแล้ว ซูถิงหว่านยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าซูเซวี่ยนก็พูดว่า “ไปจัดการล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด ข้ามองจากท่าทางเมื่อครู่ของเหิงอ๋องแล้ว เขายังมิได้พูดออกมาว่าไม่ต้องการเจ้าแล้ว เจ้ายังพอมีโอกาส” หากว่านางเสียตัวไปแล้ว เซี่ยซางคงไม่มีทางยอมให้นางอยู่เคียงข้างกายต่อไปแน่ ดูเหมือนว่าสกุลซูจะต้องเปลี่ยนตัวคนเข้าจวนอ๋องแล้ว พวกเขาได้รับข่าวมาแล้วว่าฝ่าบาททรงมีพระประสงค์จะแต่งตั้งเหิงอ๋องขึ้นเป็นรัชทายาท ส่วนซูถิงหว่านหลังเห็นภาพนิมิตในฝันแล้วนางก็มิได้ส่งข่าวเรื่องนี้กลับไปให้สกุลซู นางคิดว่าเมื่อเดินทางถึงเขตชายแดนแล้วจะบอกเรื่องนี้กับพวกเขาด้วยตนเอง กลับคิดไม่ถึงว่าระหว่างทางนางกลับต้องมาประสบพบเจอเรื่องเหล่านี้ นางยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสกุลซูมองนางเป็นแค่หมากตัวหนึ่งซึ่งถูกทอดทิ้งไปเสียแล้ว ตอนแรกสกุลซูส่งซูถิงหว่านไปใกล้ชิดกับเซี่ยซาง หมากตัวนี้นับว่าเดินได้ถูกต้องแล้ว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 405  

    เย่ซู่ซู่เคยได้ยินเรื่องของพระชายารองท่านนี้มาบ้าง เป็นคนที่ท่านอ๋องโปรดปรานที่สุด ทว่าจากที่เห็นตรงหน้า นางรีบก้าวเท้าถอยหลังไปหนึ่งก้าวและอุดจมูกของตนเองเอาไว้ พร้อมตอบกลับด้วยท่าทีสุภาพแต่ไม่ยอมอ่อนข้อว่า “ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บสาหัส ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาข้าคอยอยู่ดูแลท่านอ๋อง รับผิดชอบเปลี่ยนยาและทำแผลล้างแผลให้เขา” ขณะนี้เอง ซูถิงหว่านเพิ่งจะรู้ว่าที่แท้เซี่ยซางได้รับบาดเจ็บมา นางเอ่ยด้วยความเป็นกังวล “อาซาง ท่านได้รับบาดเจ็บหรือ? บาดเจ็บตรงไหนหรือ ให้หม่อมฉันดู…” เซี่ยซางเองก็คิดไม่ถึงว่าซูถิงหว่านจะกลายเป็นแบบนี้ ทั้งที่บอกให้นางคอยอยู่ที่เมืองเซิ่งจิงดี ๆ นางกลับไม่เชื่อฟัง ดื้อรั้นจะออกมา จนสุดท้ายต้องลงเอยด้วยสภาพอเนจอนาถเช่นนี้ เขาเอ่ย “จวนจะหายดีแล้ว ข้าถูกเกาทัณฑ์ยิงมาจากที่ลับ บาดแผลก็จวนจะสมานดีแล้ว” ในยามนี้ ซูเซวี่ยนและแม่ทัพซูบิดาของนางก็เข้ามาในกระโจมแล้ว ทว่าเขากลับมองไม่เห็นซูถิงหว่าน “หวานหว่านอยู่ที่ใด?” ซูถิงหว่านครั้นได้พบคนในครอบครัว น้ำตาก็ไหลพรากออกมา “ลูกคารวะท่านพ่อ ท่านพี่ใหญ่ ลูกเองหวานหว่าน…” พวกเขามองคนตรงหน้า เสี้ยวพริบตาถึงกับอึ้งงันไป ก่อ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 404  

    เซี่ยซางเห็นนางมีสภาพอนาถถึงเพียงนี้ก็เกือบนึกไม่ออกว่าเป็นใคร “เจ้ามิได้อยู่ที่เมืองเซิ่งจิงหรือ เหตุใดจึงมาโผล่อยู่ที่นี่?” ซูถิงหว่านยิ่งคิดยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ จึงทรุดตัวลงซบบนตักเซี่ยซาง “เดิมที่หม่อมฉันตั้งใจจะกลับเรือน แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดหม่อมฉันเกิดหลงทางกลางคัน แล้วยังไปเจอโจรป่า พวกมันสังหารผู้ติดตามของหม่อมฉันจนหมดแล้วยังจับหม่อมฉันไปขังไว้ในถ้ำ กว่าหม่อมฉันและอิ๋นซิ่งจะหนีรอดออกมาไม่ง่ายเลยเพคะ…” ซูถิงหว่านหลังจากจัดการฝังศพจีเฉินเรียบร้อย นางก็ออกเดินทางจากเมืองเซิ่งจิงทันที ตอนแรกยังเดินทางอยู่ดี ๆ กลับคิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะบังเอิญเจอกับนักต้มตุ๋น ต่อมานางถึงได้รู้ว่าคนพวกนั้นใช่นักต้มตุ๋นเสียที่ไหน แท้จริงแล้วคือโจรป่าต่างหาก พวกมันไม่เพียงปล้นเอาเงินของนางไปจนหมด ซ้ำร้ายอาภรณ์กันความหนาวของนางก็ยังถูกชิงเอาไปด้วย พวกมันยังจับนางไปขายให้เรือนคณิกา หากมิใช่เพราะนางมีวรยุทธ์ติดตัว นางคงเสียตัวไปแล้ว แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้นางมิได้เล่าออกไป หลังจากหนีออกมาจากเรือนคณิกาได้แล้ว นางก็ไม่กล้าไปฟ้องทางการ ด้วยฐานะของนางเป็นถึงพระชายารองของเหิงอ๋อง เรื่องนี้หากถูกคน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 403  

    หลินเฟิงเองก็นั่งลงด้วยเช่นกัน “สถานการณ์อันตรายเพียงนี้ อีกทั้งการรบก็ดุเดือด หากเป็นคนทั่วไปคงพากันหนีหัวซุกหัวซุนแล้ว คิดไม่ถึงว่าแม่นางเย่จะเข้าร่วมการคัดเลือกแพทย์ในเมืองเซิ่งจิงเพื่อมาที่เขตชายแดน” “โชคดีที่ได้แพทย์อาสากลุ่มนี้อย่างพวกท่านมาช่วยเหลือ มิเช่นนั้นหากจะพึ่งพาเพียงแพทย์ทหารในกองทัพอย่างเดียว ทุกคนจะต้องวุ่นวายมือไม้พัลวันกันไปหมด และมีทหารบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนแน่ แต่เพราะได้กลุ่มแพทย์อาสามาช่วยไว้ทัน ทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ต้องทนทรมานมากนัก” เย่ซู่ซู่ตอบกลับว่า “ซู่ซู่มิบังอาจรับความดีความชอบไว้เพียงคนเดียว หนนี้หมอชาวบ้านที่อาสาเข้ามาเป็นกำลังหนุนมีมากถึงสามสิบกว่าคน ราชสำนักเองก็มิได้ให้พวกข้ามาเปล่า ยังให้เงินจุนเจือในจำนวนที่เพียงพอด้วย การที่สตรีตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งสามารถให้การช่วยเหลืออะไรพวกท่านได้ ข้าก็รู้สึกปีติยินดียิ่งนักแล้ว ซู่ซู่กลับรู้สึกว่าทหารต่างหากที่กล้าหาญ พวกเขาต่อสู้ต้านทานศัตรูโดยไม่สนใจความปลอดภัยของตนเอง เพื่อปกป้องพวกเราประชาชนไว้ ในฐานะราษฎรคนหนึ่งของต้าโจว แม้ราชสำนักจะมิได้ให้เงินจุนเจือ แต่ด้วยคุณธรรมแล้วข้าจะมาที่ชายแดนเพื่อร่วมปกป้

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 402  

    เขาเองแสร้งทำเป็นฟังอะไรไม่เข้าใจ รีบเปลี่ยนประเด็นสนทนาโดยเร็ว “กินข้าวเสร็จแล้ว พวกเราไปเดินชมโคมไฟที่ถนนกันเถิด!” ได้ยินคำว่าถนนขึ้นมา เจียงจื้อชินตื่นเต้นเป็นคนแรก โพล่งออกมาด้วยความดีใจว่า “ดีเลย!” พวกเด็ก ๆ อีกหลายคนก็ดีใจกันยกใหญ่เช่นกัน “พวกข้าเองก็จะไปด้วย จะไปกับท่านลุงด้วย” หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย เจียงเฟิ่งหัวมิได้มาชมความครึกครื้นที่ท้องถนน นางอยู่ในเรือนคอยเป็นเพื่อนบิดาเจียงและมารดาเจียง สามพี่น้องสกุลจินเองก็ตื่นเต้นกับการออกไปข้างนอกมาก ดังนั้นเจียงหรูเมิ่งสามีภรรยาจึงจำเป็นต้องออกไปด้วย จางอวี่มั่วถามเพื่อความแน่ใจครั้งแล้วครั้งเล่า “น้องหญิงสาม เจ้าจะไปออกไปข้างนอกกับพวกข้าจริงหรือ?” เจียงเฟิ่งหัวเอ่ย “ข้าไม่ไปรบกวนช่วงเวลาหวานชื่นของท่านกับพี่ใหญ่หรอก พวกท่านรีบไปเถิด!” จางอวี่มั่วเอ่ย “ข้ารู้แล้ว น้องหญิงสามคงอยากรอให้เหิงอ๋องกลับมาก่อน แล้วค่อยออกไปเดินเล่นกับเขาสินะ” เจียงเฟิ่งหัวไม่เคยมีความคิดนี้แวบเข้ามาในหัว นางรู้สึกว่าตั้งครรภ์ท้องโตแบบนี้ออกไปข้างนอกไม่สะดวกก็เท่านั้น นางจึงแสร้งทำเป็นเขินอายแล้วเอ่ยว่า “ใช่แล้วเจ้าค่ะ พวกท่านล้วนอยู

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 401  

    มารดาเจียงและคนสกุลเจียงกลับมาถึงโถงหน้าแล้ว มองเห็นสำรับอาหารเต็มโต๊ะ ทว่าทุกคนกลับไม่มีความคิดจะยกตะเกียบแม้แต่คนเดียว พวกบ่าวรับใช้นั่งอยู่เต็มสองโต๊ะด้านข้าง เห็นเจ้านายไม่ขยับตะเกียบ พวกเขาเองก็ไม่กล้าขยับเช่นกัน ไม่เคยเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นในสกุลเจียงมาก่อน มารดาเจียงกลับมาก็มิได้ดุด่าสั่งสอนสามพี่น้องสกุลจินจริงจังอะไร หลานแสนน่ารักของนาง นางจะกล้าใจแข็งขึ้นเสียงตวาดได้อย่างไร กลับเป็นเจียงจื้อชินเสียอีกที่ถูกต่อว่าอย่างเจ็บแสบ บัดนี้ก็สงบเสงี่ยมเรียบร้อยดีแล้ว เฝิงจิ้งย่วนยังรู้สึกยินดีปรีดาที่สุดท้ายบุตรชายก็เริ่มคิดได้เสียที การที่เขาเปิดใจยอมรับจางอวี่มั่วได้ก็แสดงว่าเขาตัดใจจากสวี่อิ๋งเอ๋อร์ได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางกลัวมาตลอดว่าสวี่อิ๋งเอ๋อร์จะเป็นปมในใจของบุตรคนโต หากเขาไม่สามารถปล่อยวางได้ เขาก็จะต้องจมอยู่ในความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต และเขาจะไม่มีวันได้พบกับความสุขไปตลอดชีวิต ที่ขอบของมารดาเจียงพลันเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา เจียงหวยเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยว่า “ฮูหยิน เหตุใดเจ้ายังร้องไห้อีก ดูสิพวกลูก ๆ มองอยู่” “ข้าก็แค่มีความสุข” มารดาเจียงปาดน้ำต

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 400

    เฝิงจิ้งย่วนกล่าวว่า “คอยดูนะ ข้าจะต้องจัดการกับจินหมิงตงแน่ รายงานข่าวปลอม ช่างน่าขายหน้าเกินไปแล้ว”เจียงหวยเดินเข้ามาใกล้ “เจียงจิ่นเหยียนรังแกเมียเขาอย่างไรหรือ?”เฝิงจิ้งย่วนรีบปิดปากของเขาไว้ จับมือเขาได้ก็ดึงออกไปทันที วันนี้เป็นวันที่นางขายหน้าที่สุดในชีวิตแล้วเจียงหรูเมิ่งกับเจียงเฟิ่งหัวสบตากันทีหนึ่ง “ที่แท้พี่ชายของพวกเราก็มิใช่นักบวช เขาก็มีหกอารมณ์เจ็ดปรารถนาเหมือนกัน ดูท่าบ้านเราจะมีสมาชิกเพิ่มอีกแล้ว”เจียงเฟิ่งหัวเดินไปที่ข้างหน้าต่าง เอ่ยปากอย่างปรารถนาว่า “พวกท่านทำต่อไปเถอะ คืนนี้ไม่ต้องออกมาฉลองเทศกาลโคมไฟแล้ว ดึกกว่านี้หน่อยข้าจะให้คนส่งของกินมาให้พวกท่าน จะได้เพิ่มพูนพลังกาย!”พูดจบ นางก็ช่วยพวกเขาปิดหน้าต่างด้วยความหวังดี แล้วกล่าวอีกว่า “พี่ใหญ่อย่าลืมลงกลอนประตูล่ะ ไปที่เตียงในห้องชั้นในเถอะ โต๊ะนั่นไม่สบายเลย”เจียงเฟิ่งหัวดึงเจียงหรูเมิ่งไปแล้ว ยังดีที่สาวใช้สกุลเจียงต่างมีระเบียบวินัย ล้วนอยู่ในห้องอาหารมิได้ตามเข้ามาด้วย เจ้านายทะเลาะกัน พวกนางยังคงหัวไวนัก จึงไม่มาร่วมชมเรื่องขายหน้าของเจ้านายด้วย นี่ถึงได้เลี่ยงไม่ให้เรื่องดีอันน่าตื่นตะลึงของคนทั

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 399

    อาศัยแสงสว่างจากภายนอก เขาถึงสามารถมองเห็นสภาพของผู้ที่อยู่ในอ้อมกอดได้อย่างชัดเจน บนขนตายาวๆ ของนางยังมีหยดน้ำตาเกาะอยู่ ใบหน้างดงามแดงระเรื่อ เอิบอิ่มเปล่งปลั่งดั่งบุษบงที่โผล่พ้นน้ำดวงตาทั้งสองคู่สบประสาน ในระยะใกล้เพียงเอื้อม องคาพยพทั้งห้าของเขาคมสันงดงาม สันจมูกโด่งสูง เขาตกอยู่ในอารมณ์อันเงียบงัน ดวงตาลึกล้ำกำลังจับจ้องมาที่ใบหน้านางจางอวี่มั่วรีบเช็ดรอยน้ำตาบนใบหน้า คิดว่ายังดีที่เมื่อครู่มิได้จุดไฟ ทำให้ในห้องมืดสนิท เขาเลยมิได้เห็นท่าทางน่าเขินอายที่นางร้องไห้เมื่อครู่ มิเช่นนั้นคงขายหน้าจนหมดสิ้นแล้วนางโมโหตัวเองว่าเหตุใดจึงไปร้องไห้ต่อหน้าเขากัน? เหตุใดจึงอดกลั้นไว้ไม่อยู่นะ?นางผลักเขาออกอย่างขวยเขิน ขณะที่นางจะเปิดประตูออกไปนั้นเอง วินาทีถัดมา เจียงจิ่นเหยียนก็ดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด ไม่สนใจว่านางจะเต็มใจหรือไม่ก็จุมพิตลงมาบนริมฝีปากของนางทันทีเวลานี้จางอวี่มัวตะลึงงันไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว นางรู้สึกว่าลมหายใจของตนเปลี่ยนเป็นกระชั้นขึ้น หัวใจราวกับจะกระโจนออกมาแล้ว นางเบิกตากว้าง ขนตากะพริบไหวอยู่บนใบหน้าของเขา ในชั่วขณะหนึ่งนางก็ไม่กล้าขยับไปมั่วแล้ว แสงจันทราสาดต้องใ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 398

    นางอยู่ห่างไปเพียงเอื้อมมือจนได้กลิ่นหอมจากเส้นผมของนาง มีสตรีที่งดงามและอบอุ่นประดุจหยกอยู่อ้อมกอดเช่นนี้ เขาก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวทันทีที่นางขยับ ริมฝีปากของเขาก็ปัดผ่านพวงแก้มของนาง เสี้ยววินาทีนั้น นางพลันไม่กล้าขยับต่อและก็ไม่กล้าส่งเสียงด้วยผ่านไปครู่หนึ่ง นางถึงลองเรียกเขาว่า “จิ่นเหยียน”“เมื่อครู่เจ้ามิใช่เรียกข้าว่าท่านพี่หรือ?” นางไม่เคยเรียกเขาเช่นนี้มาก่อนจางอวี่มั่วถึงนึกขึ้นได้ว่า ถึงท่าทางที่ตนฝึกเรียกเขาว่า ‘ท่านพี่’ อยู่ที่หน้ากระจกเมื่อครู่ สุดท้ายแม้แต่ตัวนางเองก็รู้สึกไม่มีความมั่นใจ จากนั้นจึงไปนั่งรอเขาที่โต๊ะ รอไปรอมาก็หลับไปเสียแล้ว จากนั้นเมื่อครู่ท่ามกลางความมืด นางก็เรียกเขาว่า ‘ท่านพี่’ ออกมาอย่างไม่รู้ตัวแต่ว่า หากเขามิได้ชมชอบนางจากใจจริง นางสามารถเรียกเขาว่าท่านพี่ได้หรือ?เขากล่าวต่อว่า “อันที่จริง ตอนอยู่ที่ชายแดนข้าก็คิดไว้แล้ว ว่าหากข้ากลับมาได้ พวกเราก็มาใช้ชีวิตด้วยกันดีๆ ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้ว เรียกข้าว่าท่านพี่สักคำก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”นางประหม่าจนไม่กล้าขยับและไม่กล้าเอ่ยวาจา รอบกายมืดมิดไปหมด นางรู้ว่าใบห

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status