Home / รักโบราณ / ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น / ตอนที่ 9 บุรุษชุดขาวในสายลมราตรี

Share

ตอนที่ 9 บุรุษชุดขาวในสายลมราตรี

last update Last Updated: 2025-07-25 08:23:18

ค่ำคืนเงียบงันยิ่งกว่าที่เคย ลมเย็นพัดเบา ๆ ผ่านแนวต้นหลิวที่ปลิดใบอย่างเชื่องช้า ในจวนสกุลเซียว แม้ภายนอกจะดูเงียบสงบ หากแต่ในความมืดของราตรีนั้น จิตใจของใครหลายคนต่างเต็มไปด้วยแรงเคลื่อนไหวที่ยากจะหยุดยั้ง

เรือนหลังที่เงียบเชียบของเซียวลี่อินกลับไม่มืดสนิทเหมือนเช่นทุกคืน ตะเกียงน้ำมันถูกจุดไว้ตรงกลางห้อง ราวกับนางตั้งใจ ‘เปิดทาง’ ให้ใครบางคนที่กำลังจะมา

เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นหน้าประตูหลัง ลี่อินไม่แสดงท่าทีแปลกใจ นางลุกขึ้นอย่างสงบ แล้วเปิดประตูออกด้วยมือนิ่งมั่น

บุรุษในชุดผ้าฝ้ายสีขาวยืนอยู่ตรงหน้า รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมครึ่งหน้านั้นมีเพียงดวงตาคมลึกที่จ้องมองนางนิ่ง ๆ

“เจ้าคือผู้ที่จิ้งอ๋องส่งมาหรือ?” ลี่อินเอ่ยเสียงเบา

บุรุษชุดขาวพยักหน้า “ข้า ไป๋อวิ๋น เคยเป็นองครักษ์ลับประจำกรมคลัง เมื่อหกปีก่อนข้าเห็นสิ่งหนึ่ง แต่ไม่อาจกล่าวออกมาได้”

เสียงของเขานุ่มทุ้ม แต่ทว่าเย็นยะเยือกคล้ายลมภูผา

“และข้าจะไม่พูดกับใคร หากไม่มีเหตุผลพอ”

ลี่อินไม่ตอบในทันที นางเชื้อเชิญเขาเข้าไปนั่งในเรือนอย่างสงบ ตะเกียงสว่างเพียงพอให้เห็นเงาบนฝาผนังสั่นไหว แต่ไม่มากพอให้เห็นสีหน้าของทั้งสองชัดเจน นางเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ

“หกปีก่อน มีการเบิกจ่ายเงินหลวงผ่านทางกรมคลังโดยตรง แต่กลับไม่มีใบตรายางประทับจากส่วนกลาง บิดาข้าเป็นผู้ลงนาม ขณะเดียวกัน เจินซูเม่ยกลับเป็นผู้ส่งบ่าวจากเรือนในไปติดต่อกับพ่อค้าอาวุธเถื่อน”

เสียงนั้นไม่ดุดัน ไม่กล่าวโทษ หากแต่มีพลังประหนึ่งคมดาบที่ลับจนคมกริบ ไป๋อวิ๋นยังคงนั่งเงียบก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยออกมา

“ข้าเห็นกระดาษแผ่นนั้น ข้าเคยล้วงมันมาจากโต๊ะของท่านเสนาบดีเซียว แต่วันรุ่งขึ้น บ่าวที่อยู่เวรกับข้าคืนนั้นก็หายไป ศพเขาถูกพบในคลองหลังเรือน พร้อมตราประทับปลอมในอกเสื้อ”

ลี่อินหลับตาลงชั่วครู่ ความคุ้นเคยบางอย่างพลันแทรกเข้ามาในหัว เสียงของเขา ท่วงท่า การวางตัว ดูไม่ใช่เพียงองครักษ์หลวงธรรมดา

“ไป๋อวิ๋น เจ้าเคยอยู่ในจวนนี้หรือไม่?” นางถามตรง ๆ

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงเบา “เมื่อสิบปีก่อน ข้าเคยเป็นบ่าวในเรือนของฮูหยินใหญ่ หลี่ฟางเยว่”

คำตอบนั้น ทำให้นางชะงัก

ลี่อินจ้องเขม็งไปยังดวงตาเบื้องหลังผ้าปิดหน้า ริมฝีปากเม้มแน่นเล็กน้อย

“ข้าจำเจ้าไม่ได้ แต่ข้าจำได้ว่าท่านแม่เคยพูดถึงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เคยเฝ้าเดินตามนาง แม้เพียงถือกระบอกน้ำชา ก็ยืนห่างไม่เกินสามก้าว”

ไป๋อวิ๋นก้มหน้าลง “เพราะข้าไม่อาจช่วยฮูหยินได้ ข้าจึงไม่คู่ควรจะเปิดหน้าให้ท่านเห็น”

ภายในห้องเงียบลงไปอีกครั้ง ตะเกียงสั่นไหวหนักขึ้นตามแรงลมที่ลอดเข้าทางหน้าต่าง ทว่าไม่มีใครลุกขึ้นหรือเบือนหน้า ต่างฝ่ายต่างจมอยู่กับอดีตที่ไม่กล้าแตะต้อง

ในความมืด เงาของใครบางคนที่หายไปจากความทรงจำ กำลังกลับมา และครานี้ เขาจะมิใช่เงาอีกต่อไป...

รุ่งเช้าของวันถัดมา ท้องฟ้าปกคลุมด้วยหมอกจาง ใบเหมยสีขาวโปรยร่วงปะทะกับแผ่นศิลาทางเดินอย่างเงียบงัน ลี่อินยืนอยู่หน้าต่างเรือนหลัง เฝ้ามองเงาของใครบางคนที่เดินหายไปทางกำแพงหลังจวน

ไป๋อวิ๋นจากไปเงียบ ๆ โดยไม่เอ่ยคำลาทิ้งท้าย แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ คือสมุดบันทึกเก่าเล่มหนึ่ง มีรอยเปื้อนหมึก และรอยเลือดจาง ๆ ตรงขอบกระดาษ

นางเปิดอ่านทีละหน้า เป็นลายมือที่ละเอียด ตรงทุกขีด ทุกย่อหน้าเหมือนถูกวัดด้วยไม้บรรทัด เนื้อหาในนั้น คือรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินหลวงในช่วงเวลาต้องห้าม รวมถึงบันทึกถึง “สตรีผู้หนึ่งที่นำของมาให้” และ “บุรุษที่ปลอมตราประทับของกรมวัง”

ทุกคำคือดาบที่พร้อมจะเฉือนเนื้อผู้ทรยศ เมื่อถึงเวลา...

เสี่ยวจูยกสำรับอาหารเช้ามาวางเงียบ ๆ พอเห็นสีหน้าของคุณหนูตนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามเบา ๆ

“คุณหนู บุรุษชุดขาวคนนั้น เขาเป็นผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

ลี่อินยังคงจ้องสมุดบันทึก “เขาคือคนในอดีต คนที่ข้าเคยมองข้าม และตอนนี้ เขากำลังเป็นอนาคตที่ข้าจะต้องวางใจ แม้เพียงครึ่งหนึ่งก็ตาม...”

บ่ายวันเดียวกัน ที่เรือนรับรองด้านตะวันตกของตำหนักอ๋อง เฉินอี้นำเอกสารทั้งหมดที่ไป๋อวิ๋นทิ้งไว้ ส่งให้จิ้งอ๋อง

ชายหนุ่มในชุดคลุมดำขลิบทองอ่านอย่างเงียบงัน ก่อนจะกล่าวเรียบ ๆ

“ไป๋อวิ๋นคนนี้ รู้จักลี่อินมานานแล้วใช่หรือไม่?”

เฉินอี้พยักหน้า “ขอรับ เขาเคยอยู่ในเรือนของฮูหยินหลี่มาก่อน จะว่าไปอาจเป็นคนเดียวที่เคยภักดีต่อครอบครัวนางอย่างแท้จริง”

จิ้งอ๋องมองออกนอกหน้าต่าง ดวงตานิ่งลึก

“ถ้าเช่นนั้น เขาจะเป็นสิ่งที่ทดสอบความใจแข็งนางได้ดีที่สุด คนที่ข้าใช้ได้ ต้องไม่หวั่นไหวต่อเรื่องใดทั้งสิ้น”

ค่ำวันนั้น ฝนหลงฤดูโปรยปรายลงมาเบา ๆ เหนือจวนสกุลเซียว ลี่อินนั่งซ้อนมืออยู่ตรงชานไม้ เสียงหยดฝนกระทบพื้นแผ่วเบาแต่ชัดเจนยิ่งกว่าความคิดของนาง

“ไป๋อวิ๋น…”

ชื่อหนึ่งที่เคยเลือนรางในอดีต ตอนนี้กลับชัดเจนในความทรงจำยิ่งกว่าภาพบิดาผู้ให้กำเนิดเสียอีก

นางเคยวิ่งเล่นอยู่ในเรือนเดียวกับเขา เคยหัวเราะตอนเขาที่สะดุดรากไม้ตอนวิ่งเล่น เคยให้ซาลาเปาแป้งหยาบลูกสุดท้ายที่เหลือในถาด…

“ท่านแม่ ไม่ว่าก็ตามที่มันเคยทำให้ท่านเจ็บปวดทรมาน ข้าจะให้มันได้ชดใช้อย่างสาสมแน่นอน”

แสงสายฟ้าแลบผ่านฟ้าคืนฝนตก ลี่อินลุกขึ้นจากตั่ง หยิบผ้ามาคลุมไหล่ เสียงในใจดังชัดยิ่งกว่าสายลม

“ครั้งนี้ ข้าจะไม่หันหลังให้ใครอีก แต่หากใครคืออุปสรรค ข้าก็พร้อมจะแทงคนผู้นั้นด้วยมือข้าเอง...”

ค่ำคืนนี้เงียบกว่าคืนใด ๆ ในตรอกแคบหลังโรงเก็บผ้าของจวนสกุลเซียว เงาดำสามร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไร้เสียง มือหนึ่งถือกระบี่ อีกคนมีธนูสั้นติดหลัง อีกคนแอบอยู่บนหลังคาพร้อมมีดสั้นคมกริบ เป้าหมายของพวกมันไม่ใช่จวนใหญ่ แต่เป็นเรือนหลังเล็กที่ซึ่งไม่มีใครใส่ใจ

ในห้องของลี่อิน แสงตะเกียงริบหรี่แทบจะดับ นางนั่งสงบนิ่งในความมืด หูฟังเสียงก้าวย่างที่ไม่ใช่ของคนรับใช้ เสียงที่ดังขึ้นใกล้เรื่อย ๆ จากด้านข้างเรือน เสียงถอนหายใจเบา ๆ ดังขึ้นจากเงามืดมุมห้อง เงานั้นเคลื่อนตัวออกมาช้า ๆ เผยให้เห็นชายชุดขาวที่ยืนพิงผนังมาตั้งแต่เมื่อใดมิอาจทราบได้

“เจ้ารู้ตัวนานแล้วใช่หรือไม่” ลี่อินเอ่ยขึ้น

“ก่อนข้าก้าวเข้ามาในรั้วเรือนในคืนนี้ คุณหนูเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างไร้สาเหตุถึงสามครั้ง” ไป๋อวิ๋นกล่าวเรียบ ๆ

เสียงหน้าต่างฝั่งตะวันตกถูกแง้มเบา ๆ หนึ่งในนักฆ่ากระโจนเข้ามาอย่างเงียบกริบ แต่ไม่ทันที่ฝ่าเท้าจะเหยียบพื้น กระบี่ในมือของไป๋อวิ๋นก็ฟาดออกไปอย่างแม่นยำ

ฉัวะ!

ร่างหนึ่งร่วงลงกับพื้นอย่างไร้เสียงร้อง

“พวกมันส่งนักฆ่ามาไม่ใช่เพื่อลอบสังหารท่าน” เสียงของไป๋อวิ๋นแผ่วต่ำแต่หนักแน่น

“แต่เป้าหมายคือเผาทำลายเอกสารในเรือนนี้ และจับตัวท่านไปให้ใครบางคน”

ลี่อินไม่ถามว่าคนผู้นั้นคือใคร เพราะนางรู้ดีว่า คนที่ทำถึงขนาดนี้ได้มีเพียง...

เจินซูเม่ย!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 15 เพลิงในเรือนหลังเก่า

    ลี่อินยืนอยู่หน้าประตูเรือนหลังเล็กที่นางเคยใช้ชีวิตอยู่กับมารดาสายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านชายแขนเสื้อยาวจนพริ้วไหว เงาจันทร์ทอดทาบลงบนพื้นกรวดเบื้องหน้าดวงตาของนางทอดมองเรือนเก่าเงียบ ๆ แม้จะถูกทิ้งร้าง แต่ทุกแง่มุมในเรือนยังคงกลิ่นอายของมารดาไม่จางหาย“ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ”เสียงแผ่วเบานั้นเอ่ยขึ้นในความเงียบ ราวกับคำสัญญาถูกกล่าวซ้ำอีกครั้งนางก้าวเข้าไปช้า ๆ มือแตะประตูไม้เก่า ก่อนเปิดออกภายในเรือนยังคงเป็นเช่นเดิม ราวกับไม่มีใครกล้ารุกล้ำเข้ามาหลังจากที่หลี่ฟางเยว่จากไปบนโต๊ะยังมีเบาะนั่งผืนเดิม มุมหนึ่งยังมีตะเกียงน้ำมันที่ใช้ในคืนสุดท้ายก่อนท่านแม่สิ้นใจดวงตาของลี่อินไหววูบ น้ำตาที่นางเก็บกลั้นตลอดทั้งวันเริ่มไหลลงเงียบ ๆ“ท่านคงหนาวมากสินะ…ท่านแม่ ครั้งนี้ ข้าจะไม่ให้อะไรพรากท่านไปจากข้าอีก ข้าจะไม่ยอมให้ใคร มาฆ่าท่านซ้ำอีก!”เงาไฟจากตะเกียงส่องสะท้อนแก้วตานาง มือเรียวหยิบตะเกียงน้ำมันขึ้นมา สะบัดมืออีกครั้งจนเปลวเพลิงลุกโชนนางหันมองรอบเรือนอีกครา คล้ายจะกล่าวคำอำลา“เรือนนี้…ไม่มีอีกแล้ว จงเผาทุกความเจ็บปวดเสียที่นี่!”นางเหวี่ยงตะเกียงลงพื้น!เพลิงลุกพรึ่บ! ไฟแดง

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 14 กลับจวนสกุลเซียว

    รถม้าสีดำวิ่งฝ่าหิมะโปรยปรายเคลื่อนเข้าสู่ประตูจวนสกุลเซียวอย่างเชื่องช้า เสียงล้อบดกับพื้นศิลาและเสียงม้าสะบัดลมหายใจเป็นจังหวะ ดั่งต้อนรับการกลับมาของใครบางคนในยามเช้าที่แสงอาทิตย์ยังไม่แรงนัก ผู้คนในจวนต่างออกมาต้อนรับแขกผู้มีบรรดาศักดิ์สูงศักดิ์ มิใช่ผู้ใดอื่น หากแต่เป็น เซียวลี่อิน บุตรสาวคนโตที่เคยถูกมองข้ามจนสิ้นศักดิ์ศรีทว่าวันนี้ การกลับมามิใช่เพื่อตามหาความเมตตา หากแต่คือการ “นับถอยหลังสู่การล้างแค้น”ประตูรถม้าเปิดออก หญิงสาวในชุดคลุมยาวสีอ่อน ก้าวลงจากรถม้าอย่างสง่างาม ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ดวงตาเยือกเย็นและทรงพลังกว่าครั้งไหน ๆบ่าวไพร่ที่เคยหัวเราะเยาะนาง ต่างก้มหน้าหลบสายตาราวกับรู้ตัวว่ากำลังยืนอยู่ต่อหน้าหญิงที่ไม่ใช่เซียวลี่อินคนเดิม“เรือนหลังเล็กที่ข้าเคยอยู่ ข้าจะไม่ย่ำกลับไปอีกเป็นครั้งที่สอง”เสียงรองเท้ากระทบหินดังอย่างมั่นคงขณะนางเดินตรงเข้าสู่โถงกลาง ไม่แม้แต่จะปรายตามองซุ้มต้นเหมยที่เคยเป็นที่โปรดปรานของมารดานางในห้องโถง เจินซูเม่ยกำลังจิบชาอยู่บนเก้าอี้ไม้แกะสลัก ใบหน้ายังประดับรอยยิ้มอ่อนโยนตามมารยาทของฮูหยินขุนนางเซียวถิงฮวาผู้นั่งข้าง ๆ ในชุดผ้าไหมสีชมพ

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 13 กลิ่นอำพรางในกล่องเครื่องหอม

    เรือนรับรองหลังใหญ่ในตำหนักชินอ๋องเปิดต้อนรับหญิงสาวด้วยความเงียบสงบหลังพิธีการเมื่อคืน พระชายามีรับสั่งให้นางพักอยู่ที่นี่ชั่วคราว เพื่อเตรียมตัวรับตำแหน่งดูแลงานพิธีในวังหลวงบ่าวรับใช้ในตำหนักชินอ๋องต่างลอบมองลี่อินด้วยสีหน้าปั้นยาก บางคนยิ้มรับ แต่ในแววตากลับแฝงความหมั่นไส้ บางคนถึงกับกระซิบกระซาบนินทา“คุณหนูจากจวนสกุลเซียวหรือ ข้าจำได้ว่าเป็นแค่สตรีเรือนเล็ก”“ใครกันแน่ที่ผลักให้นางมาอยู่ตรงนี้? หรือว่ามีผู้หนุนหลัง”ลี่อินนั่งอยู่หน้าโต๊ะกลม ลูบกล่องเครื่องหอมไม้มะเกลือสีดำสนิทที่ประทับตราของตำหนักชินอ๋องกล่องนี้พระชายาชินอ๋องเป็นผู้มอบให้โดยตรง หลังจากที่นางได้รับเลือกด้านในมีผงหอมชั้นดี กลิ่นหอมเย็น คล้ายใบสนผสมเกสรดอกไม้จากเทือกเขาทางเหนือหากแต่นางกลับไม่จุดกลิ่นหอมนั้นเลยแม้แต่น้อย“กลิ่นแบบนี้…ข้าจำได้ดี”“หกปีก่อน คืนที่ท่านแม่ตาย ผ้าห่มที่วางบนร่างท่านแม่ ก็มีกลิ่นเช่นนี้…”ดวงตาของลี่อินเยือกเย็นขึ้นทันที“คิดจะล่อข้าด้วยของเช่นนี้หรือชายาชินอ๋อง?”นางเอ่ยเบา ๆ ราวกระซิบกับกล่องไม้แล้วนางก็เปิดถุงบางอย่างที่พกติดตัวมา หยิบขวดยาทดลองพิษขนาดเล็กออกมา หยดผงหอมในกล่องล

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 12 เสน่ห์ลวงในราตรีหิมะ

    เสียงขันพลันเงียบลงเมื่อขันทีอาวุโสประกาศด้วยเสียงกังวาน“ท่านอ๋องเจ็ด หวังจิ้งเหยียน เสด็จ!”ฝูงชนแหวกออกอย่างเป็นระเบียบ ชายหนุ่มในชุดมังกรสีดำเดินเข้ามาท่ามกลางสายตาทุกคู่รัศมีความสงบเยือกเย็นเปล่งออกมาจากกายของเขา ราวกับทุกสิ่งจะเงียบลงเพียงแค่การปรากฏตัวดวงตาคมคายใต้คิ้วดกเข้ม เหลือบมองลี่อินเพียงชั่วขณะ แล้วจึงเอ่ยขึ้นเบา ๆ“ฤดูหนาวนี้ ดูเหมือนจะมีดอกเหมยผลิบานเร็วกว่าที่คาดไว้”เสียงหัวใจของลี่อินเต้นสะท้อนอยู่ในอกนางประสานมือคารวะ “ถวายบังคมท่านอ๋องเจ็ด”หวังจิ้งเหยียนไม่ได้เอ่ยต่อ หากแต่เพียงพยักหน้าเบา ๆ และเดินขึ้นแท่นประทับ สายตานั้นยังคงเหลือบมองนางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองน้องชายของตน ท่านอ๋องเก้าหรือชินอ๋อง หวังชินเสวียน ที่นั่งอยู่อีกฝั่งในขณะที่เสียงดนตรีบรรเลงขึ้น กลิ่นหอมของอาหารและสุราอบอวลทั่วลานพิธี แต่เบื้องหลังความงดงามเหล่านั้น เงามืดบางอย่างก็กำลังเคลื่อนไหวเงียบ ๆภายในระเบียงด้านหลัง มีสตรีผู้หนึ่งในชุดคลุมหนา พูดกับบ่าวสาวอย่างลับ ๆ“คืนนี้ เราต้องทำให้ท่านอ๋องเจ็ดหันมาสนใจคุณหนูรองเซียวถิงฮวาให้ได้”“ตำแหน่งพระชายาแห่งตำหนักจิ้งอ๋อง ต้องเป็นของพวกเร

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 11 ดอกเหมยกลางรังเสือ

    ทหารผู้นั้นค้อมศีรษะอีกครั้ง ก่อนกล่าวแผ่วเบา“ท่านอ๋องทรงมีบัญชาว่า ให้คุณหนูเริ่มงานแรกในอีกเจ็ดวัน ภายในงานเลี้ยงฤดูหนาวของพระชายาชินอ๋องที่ใกล้จะถึง ท่านอ๋องต้องการรู้ว่าในกลุ่มสตรีตระกูลขุนนางผู้ได้รับเชิญ ใครคือผู้ที่แอบช่วยเหลือเจินซูเม่ย”คำพูดนั้นหล่นลงเหมือนเหล็กกล้าที่ยกขึ้นจากเตาไฟ ลี่อินแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าฤดูหนาว แสงอาทิตย์อ่อนส่องผ่านกิ่งเหมยที่ยังไร้ดอก“ข้าจะไป เพื่อวางดอกเหมยดอกแรกของข้า ณ ที่แห่งนั้น และให้มันเบ่งบานจากเลือดของผู้ที่ควรถูกหักหลังเสียเอง…”ยามเย็น ลมหนาวพัดพาใบไม้แห้งปลิวผ่านเรือนหลังเล็กลี่อินนั่งอยู่หน้าต่าง มือถือพู่กันจุ่มหมึกดำ เขียนรายชื่อขุนนางสตรีจากตระกูลใหญ่ที่อาจได้รับเชิญเข้าสู่งานเลี้ยงฤดูหนาวของพระชายาชินอ๋องในอีกเจ็ดวัน“อู๋, หยาง, เจิ้ง, ฉู…สกุลใดเกี่ยวข้องกับแม่เลี้ยงของข้า?”เสี่ยวจูวางน้ำชาร้อนลงข้างกายก่อนถามเบา ๆ“คุณหนูจะเตรียมตัวอย่างไรเจ้าคะ?”ลี่อินวางพู่กัน แล้วพับกระดาษอย่างระมัดระวัง“ในเมื่อเราจะเข้าไปกลางรังเสือ เราต้องเป็นดอกเหมยที่ซ่อนหนามเอาไว้…”นางหันไปเปิดหีบผ้าเล็กที่เก็บของจากมารดาเอาไว้ เมื่อเปิดออกก็พบเครื่องประ

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 10 ดอกเหมยที่รอวันผลิบาน

    เสียงกระจกหน้าต่างฝั่งตรงข้ามแตกดังแกรก นักฆ่าคนที่สองพุ่งตัวเข้ามาพร้อมควันไฟที่ถูกจุดล่อเบี่ยงความสนใจ แต่นางยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม นั่นเพราะเงาร่างสีขาวเคลื่อนผ่านแสงตะเกียงด้วยความเร็วราววิหคเหิน เขายกตะเกียงในมือโบกขึ้น เป่าดับไฟ แล้วแทงคมมีดกลับไปยังต้นเสียงโดยไม่ต้องมอง เสียงร่างกระแทกพื้นดังตึง ร่างที่สามลอบเข้ามาจากประตูหลัง หยุดกึกกลางทางเงาของไป๋อวิ๋นยืนนิ่งอยู่ตรงกลางห้อง และเสียงของลี่อินก็เอ่ยขึ้นเบื้องหลังเขา“ถ้าเจ้าไม่ถอยออกไป จะไม่มีโอกาสได้ตายดี”นักฆ่าคนสุดท้ายลังเลชั่วครู่ ก่อนจะโยนอะไรบางอย่างลงพื้น มันคือกระบอกไม้ไผ่ที่มีตราสัญลักษณ์ลบลายบนปลอก“จงส่งสาส์นนี้คืนไปยังผู้ส่งมันมา…” ลี่อินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “…และบอกมันว่า นับแต่นี้ ข้าจะไม่ยอมทนอยู่เงียบ ๆ อีก!”รุ่งเช้าในวันถัดมา เสี่ยวจูเปิดประตูเรือนก็พบว่าหน้าประตูถูกกวาดเรียบจนไม่มีแม้ร่องรอยของการต่อสู้ ไป๋อวิ๋นจากไปแล้วเช่นทุกครั้ง ไม่เอ่ยคำร่ำลา ไม่ปล่อยแรอยเท้าไว้เบื้องหลัง แต่สิ่งหนึ่งที่เหลืออยู่คือลายมือสั้น ๆ บนกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งที่วางใต้หม้อน้ำชา“ครั้งหนึ่งข้าเคยพลาด ครั้งนี้ข้าจะไม่ยอมพลาด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status