Home / รักโบราณ / ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว / แรกรักผลิบานดั่งหลานฮวา ภายหลังดุจปุยดอกหลิ่วปลิวมลาย 3

Share

แรกรักผลิบานดั่งหลานฮวา ภายหลังดุจปุยดอกหลิ่วปลิวมลาย 3

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-07-03 06:39:16

ฉงหรงรู้สึกวูบโหวงในใจ เจ็บแปลบในอก คล้ายถูกเลื่อยไม้ไผ่เลื่อยเถืออย่างช้าๆ หมายทรมานไม่ให้แดดิ้นตายในทันที หานฉงหรงเอ๋ยหานฉงหรง เสียแรงเป็นบุตรีของบัณฑิตทรงภูมิ กลับขลาดเขลาเบาปัญญาในเรื่องรัก จึงกลายเป็นมหิงส์หน้าโง่ให้เขาสนตะพายโดยหลอกให้รัก ให้ความหวัง สุดท้ายกำลังจะมีจุดจบที่น่าสนเพช

น่าแปลกที่ถึงแม้จะเสียใจเพียงใด แต่น้ำตากลับไม่รินไหลคล้ายมันไหลคั่งท่วมท้นอยู่ในหัวใจ หานฉงหรงที่หัวใจแหลกสลายผละออกไปจากตรงนั้น ไปหาที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ

ลูกชายของนาง ลูกชายที่นางให้กำเนิด ลูกที่สามียอมวางแผนฆ่าแม่ชิงลูกเพื่อให้ได้มา!

ไม่รู้เหตุใดเส้นทางที่หานฉงหรงเคยเดินไปหาลูกชายทุกวันถึงได้เหมือนอยู่ห่างไกลกว่านัก ร่างกายนั้นเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง อีกทั้งอาการไออย่างรุนแรงก็กลับมากำเริบอีกครั้งจนร่างบางค่อยๆ ทรุดลงไปกับพื้น โลหิตสีแดงสดไหลอาบชุ่มจากริมฝีปาก ลงยังลำคอเรื่อยลงไปยังเสื้อสีขาวคล้ายกำลังสวมเสื้อตัวในสีแดง...

โบราณกล่าวว่าถ้าเมื่อยามมีชีวิตนั้นอ่อนแอถูกข่มเหงไร้หนทางต่อกร เมื่อใกล้ตายให้สวมอาภรณ์สีแดง ผินหน้าไปยังทิศอัปมงคลแล้วสิ้นใจที่นั้น เมื่อตายจะกลายเป็นผีร้ายผูกพยาบาทตามอาฆาตจองเวรทุกผู้ที่เคยทำกับคนผู้นั้นไม่สุดสิ้น ยามนี้นางก็คงไม่ต่างจากผีพยาบาทแล้ว หวังเพียงว่าแค้นที่สุมอกอยู่จะได้รับการชำระสะสาง

แม้จะกินเวลา แต่สุดท้ายหานฉงหรงก็มาถึงห้องของลูก พลางใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดที่เลอะริมฝีปาก จัดผมเผ้าให้ดูดี...ในภาพจำของนาง คือยามที่มารดาแต่งกายดูดีและงดงาม เด็กชายจะยิ้มและหัวเราะเสียงใสราวไข่มุกกระทบจานหยก ทั้งไพเราะ ทั้งกังวาน หานฉงหรงนั้นอยากนำภาพจำอันงดงามนี้ติดตัวนางไปตราบสิ้นลม..

ลูกชายตัวน้อยเมื่อเห็นนางชะโงกหน้ามามองในอู่เปลพลันยิ้มหวาน โบกไม้โบกมือทักทาย หานฉงหรงอุ้มร่างเล็กของลูกขึ้นมาโอบอุ้มในอ้อมแขน พลางเหม่อมองเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองด้วยความคิดหลากหลายและเลื่อนลอย

ถ้านางตาย ลูกคนนี้จะเป็นเช่นไร บิดาบังเกิดเกล้าเลวบัดซบกับองค์หญิงใจอำมหิตสองคนนั้นจะเลี้ยงลูกของนางได้หรือ? มีแต่จะถูกข่มเหงรังแกไปจนชั่วชีวิตสิไม่ว่า

...ผู้ใดจะเลี้ยงลูกได้ดีกว่าตัวนางกันเล่า?

ฉงหรงคลี่ยิ้ม พลางส่งเสียงร้องเพลงกล่อมนอนที่ลูกน้อยชื่นชอบหนักหนา ได้ยินเมื่อใดเป็นนิทราฝันหวานทุกครา ไม่นานนักลูกชายของนางก็หลับไป

ร่างในอาภรณ์ขาวย้อมโลหิตอุ้มเด็กน้อยเดินตรงไปยังเทียนที่ส่องสว่างอยู่ที่มุมห้อง เอื้อมมือผลักเบาๆ เปลวเทียนพลันลุกติดกับม่านไหมที่อยู่ข้างๆ จากนั้นจึงหยิบขวดน้ำมันใส่ผมเทราดซ้ำลงไป เปลวเพลิงยิ่งโชติช่วงทวีความร้อนแรง ไม่นานก็ลุกติดไปทั่วเรือนพักที่สามีปลูกสร้างให้นางเสมือนเป็นตัวแทนความรักอันจอมปลอม หลังจากขัดประตู หานฉงหรงเหม่อมองเปลวอัคคีด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนอุ้มลูกไปนั่งที่ตั่งเตียง กล่อมลูกให้หลับต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าใด ด้านนอกเรือนภรรยาเอกของราชบุตรเขยพลันได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เสียงสาดน้ำ เสียงพังประตู เสียงที่ดังที่สุดคือฉางซื่อหลางที่ยังตะโกนสั่งการลูกน้อง หานฉงหรงได้ยินเพียงว่า 'คุณชายน้อยอยู่ด้านใน ให้รีบเร่งรุดช่วยเหลือ'

ไม่มีชื่อของนางออกจากปากของสามีแม้แต่น้อย...

ได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งเข้าใจเจตนาสามีอย่างกระจ่างแจ้งแจ่มชัด นางไม่ได้หูฝาดไป ฉางซื่อหลางต้องการแค่ลูก ไม่ได้ไยดีในตัวนางเลยแม้แต่น้อย...

แต่ช่างปะไร ตอนนี้นางมีลูกอยู่...นางเองก็มิคิดไยดีเขาอีกต่อไปเช่นกัน

ทารกน้อยพริ้มตาจนเห็นแพขนตายาวงอนเหมือนแม่ ไร้เสียงร้องไห้โยเยไปนานมากแล้ว หานฉงหรงลูบไล้ไปยังใบหน้า จนถึงอกเล็กๆ ที่เคยขยับขึ้นลง จนเผลอปัดมือไปยังแขนป้อมดั่งรากบัวที่วางพาดอยู่กับแขนฉงหรง แขนของลูกทิ้งตกลงข้างตัว ไม่ไหวติงดั่งหุ่นกระบอกที่ถูกตัดสาย...

ท่ามกลางควันและเปลวไฟ เด็กเล็กย่อมถูกควันไฟและไอร้อนทำลายปอดและลำคอได้ไว จึงจากไปเร็วกว่าผู้ใหญ่นัก

เด็กดีของนาง...ลูกของนาง...จากไปแล้ว...

มือสั่นระริกยกมือน้อยขึ้นจูบ น้ำตาอุ่นร้อนไหลทะลักจากดวงตา หานฉงหรงค่อยๆ ลูบใบหน้าน้อยๆ ราวกับปลอบโยน พลางส่งเสียงพึมพำเสียงแผ่ว "ลูกรักคนดี เจ้าหลับเสียแล้ว เหนื่อยแล้วใช่หรือไม่ ไม่ต้องกลัว พักผ่อนเถิด พักผ่อนเสีย ท่านแม่กำลังจะไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้ว"

ตอนนี้ในลำคอของหานฉงหรงแสบร้อนดั่งถูกกรอกด้วยน้ำทองแดงร้อนลวก แม้แต่จมูกที่พยายามสูดลมหายใจก็ยังทำได้ลำบาก สุดท้ายนางก็ค่อยๆ ทรุดร่างลง ในขณะที่สองแขนยังโอบอุ้มลูกน้อยไว้ไม่ปล่อย นางเงยหน้ามองไปยังคันฉ่องทองเหลืองที่สะท้อนเงาร่างที่ใกล้จะแตกดับในไม่ช้าของตน

ช่างน่าสมเพช ช่างโง่เขลา สมควรแล้วที่ต้องมีจุดจบที่อเนจอนาถเช่นนี้

ถ้าการกลับชาติมาเกิดใหม่มีจริง ข้าขอให้ตนเองจำเรื่องราวในชาติภพนี้ให้ขึ้นใจ ให้สลักเสลาไปจนถึงจิตวิญญาณ ติดตามไปจนถึงชาติภพใหม่...

"อย่าได้ทำเรื่องผิดพลาดเช่นนี้อีก"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   นายหญิงของจวนเป่ยหนานที่แท้จริงคือ...2

    น้ำเสียงที่พยายามควบคุมให้สุขุมสมวัยดังมาจากด้านหลังของหานฉงหรง เมื่อชายหนุ่มเงยหน้ามองก็เห็นว่าเป็นบุคคลที่คุ้นเคย“...หานปั๋วซื่อ”“เมื่อครู่กระหม่อมเห็นท่านเหวินซิ่วกำลังตามหาตัวrพระองค์ดูร้อนรนอย่างยิ่ง ท่าทางจะมีเรื่องสำคัญต้องการรายงาน กระหม่อมคิดว่าพระองค์รีบเสด็จไปพบเขาเถิดพ่ะย่ะค่ะ” จากนั้นหานเซี่ยงอวิ๋นจึงหันไปเอ่ยกับบุตรสาวที่ยังตกตะลึงไม่หาย “หรงเอ๋อร์ พวกเราเข้าบ้านกันเถิด อย่ารบกวนท่านอ๋องอีกเลย” แล้วจึงจับจูงมือของหานฉงหรงเข้าไปในเรือนโดยไม่รอให้นางตอบรับอวิ๋นรุ่นนั่งอยู่ที่ศาลาน้อยอยู่ครู่หนึ่ง จึงเห็นเหวินซิ่วกำลังเดินมาหาเขาด้วยท่าทางประหลาดใจ “ท่านอ๋อง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เล่าพ่ะย่ะค่ะ”“...” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบเขา เพียงเงยหน้ามองคนสนิทของตนพลางเอ่ย “ไม่ใช่ว่าเจ้ามีรายงานด่วนต้องรายงานข้าทันทีเลยตามหาข้าเสียให้วุ่นหรอกหรือ”เหวินซิ่วกลับทำหน้าเหมือนได้ยินเรื่องพึลึกพิลั่น “วันนี้เป็นวันหยุดของหน่วยงานต่างๆ กระหม่อมจะมีเรื่องอันใดต้องรีบรายงานพระองค์ล่ะพ่ะย่ะค่ะ ช่วงนี้จึงว่างอย่างยิ่ง ตั้งใจว่าจะไปหาซื้อปูขนสดๆ มาให้ห้องครัวต้มเป็นมื้อเย็นสักหน่อย ช่วงสารทฤดูเช่นนี้ทั

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   นายหญิงของจวนเป่ยหนานที่แท้จริงคือ...1

    หานลู่สนทนากับหานฉงหรงต่อจากนั้นอีกครู่หนึ่งก็ผละไปหาหย่งเยี่ยที่กำลังเล่นว่าวอยู่บริเวณลานกว้าง ท่าทีสนุกสนานร่วมไปกับเด็กชายช่างผิดกับท่าทีเมื่อครู่ราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ นางส่ายหน้า ก่อนกลับไปยังเรือนของตน หยิบเกาลัดกองใหญ่ที่ให้ข้ารับใช้เก็บมาสดๆ นำมาแกะเปลือกนอกต้มจนสุกแล้วค่อยแกะเยื่อเปลือกเพื่อทำเกาลัดเชื่อมเพิ่มเติมเกาลัดต้มสุกเปลือกนิ่มแกะได้ง่าย เพียงใช้มีดเล็กผ่าเล็กน้อยก็ได้เนื้อเกาลัดสีเหลืองอร่ามจำนวนหนึ่ง ขณะที่กำลังหยิบเกาลัดลูกใหม่มาปอก ก็เห็นมือข้างหนึ่งมาหยิบเกาลัดแกะเปลือกกินก่อนนั่งลงข้างๆ หานฉงหรงเอ่ยโดยไม่ได้หันมามอง “ท่านอ๋องเสวยเกาลัดเชื่อมมากขนาดนั้นแล้วยังมาเสวยเกาลัดนี้อีกหรือเพคะ”“ของในจวนข้า ข้าอยากกินเมื่อใดก็ย่อมได้” เขาว่าอย่างอวดดื้อถือดี และตอกย้ำความคิดนั้นด้วยการเอาเกาลัดเข้าปากอีกเม็ด นางทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ถ้าหานลู่ผู้นั้นมาเห็นท่าทีเยี่ยงอันธพาลน้อยของเขาในตอนนี้ยังจะชมชอบลงอีกหรือไม่ “องค์หญิงเสด็จกลับแล้วหรือเพคะ”อวิ๋นรุ่นพยักหน้า “กลับไปเสียได้ก็ดี”หานฉงหรงกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ อึดใจหนึ่งจึงถามต่อ “วันนี้ลมอันใดหอบนางมาเล่

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เวินหมัวมัว 4

    หานฉงหรงเดินมาได้ระยะหนึ่งจึงเอ่ย “เวินหมัวมัว ข้าทำเกินไปหรือไม่”ถึงแม้นางจะไม่พอใจที่ถูกว่าร้ายลับหลัง ทว่าการตัดปลายลิ้นนั้นแม้ไม่ได้ทำให้เป็นใบ้ เพียงพูดจาอ้อแอ้ไม่ได้ศัพท์ แต่การเสนอโทษนี้ออกไปก็นับว่าเกินไปมากทีเดียว โดยเฉพาะอวิ๋นรุ่น อีกฝ่ายจะมองว่านางเหี้ยมโหดทำเกินกว่าเหตุหรือไม่เวินหมัวมัวส่ายหน้าน้อยๆ “คุณหนูไม่ต้องกังวล ฮวาหลันทำเรื่องสามหาวเช่นนี้กับท่านลับหลังนั้นมิใช่ครั้งแรก อีกทั้งมีความคิดไม่เหมาะไม่ควรกับท่านอ๋อง ท่านอ๋องทรงทราบเรื่องนี้มาตลอด แต่ที่แล้วมาไม่ได้สั่งลงโทษเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องนองเลือดในจวนโดยไม่จำเป็น แต่เรื่องในวันนี้นับว่าเป็นฟางเส้นสุดท้าย ลงโทษนางเช่นนี้นับว่าไม่เกินกว่าเหตุ ท่านอ๋องไม่ถือโทษท่านหรอกเจ้าค่ะ”หานฉงหรงเบิกตา ใบหน้าเป็นสีระเรื่อคล้ายเด็กน้อยที่ถูกผู้ใหญ่จับได้ว่าแอบกินขนมหวาน “ข้า...ข้าไม่ได้คิดเรื่องนั้น”เวินหมัวมัวยิ้มพลางถอนใจ “ที่ข้าน้อยมาอยู่ข้างกายท่านในวันนี้นอกจากจะลงโทษบ่าวโอหังผู้นั้นแล้ว ท่านอ๋องยังให้ข้าน้อยมาดูแลท่าน วันนี้องค์หญิงมาที่นี่โดยพาสาวงามมาด้วยถึงสองคน ถ้าไม่คิดจะมาระรานท่านเหมือนที่เคยทำ ก็คงเกี่ยวข้อ

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เวินหมัวมัว 3

    ที่แท้เป็นเวินหมัวมัว แม่นมของอวิ๋นรุ่นที่อยู่ในจวนมานาน นับว่าเป็นคนเก่าคนแก่ผู้หนึ่ง ใบหน้าของนางเรียบเฉยดุจรูปปั้นขณะที่เอ่ยด้วยวาจาสั้นกระชับ “พวกเจ้าเป็นเพียงบ่าวมีสิทธิ์อันใดนินทาเจ้านายกัน ไปหาพ่อบ้านรับโทษเฆี่ยนคนละสิบทีเสีย”“เจ้าค่ะ” ทั้งสองรับคำด้วยใบหน้าซีดเผือด ทำท่าจะผละออกไปอย่างนอบน้อม ทว่าสายตาคมกริบพลันตวัดไปยังนางกำนัลปากแดงนางนั้น “ส่วนฮวาหลัน เจ้ามานี่”นางกำนัลปากแดงนามฮวาหลันห่อไหล่ทำตามอย่างว่าง่าย ท่าทางหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ทันที่จะกล่าวอันใด ฝ่ามือขาวเนียนของหมัวมัวผู้นั้นก็ตวัดใส่พวงแก้มใสทั้งซ้ายขวา การกระทำนั้นทั้งรวดเร็วทั้งดุดันจนไม่ทันตั้งตัว ไม่นานสองแก้มของนางกำนัลผู้นั้นก็แดงเถือก ซ้ำยังมีรอยเล็บจางๆ ที่เริ่มมีเลือดซึมออกมา พร้อมกับคำพูดของเวินหมัวมัวที่ยังเอ่ยด้วยวาจาเชือดเฉือน “ความเจ็บปวดตอนถูกโบยคราวที่แล้วมันมิได้ซึมลึกถึงนิสัยของเจ้าเลยใช่หรือไม่ บัดนี้จึงยังคงประทินโฉมฉูดฉาดอีกทั้งยังนินทาว่าร้ายผู้อื่น” นางว่าขณะเชยคางของอีกฝ่ายขึ้นมาแล้วใช้นิ้วถูเช็ดไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวแรงๆ “สีแดงเช่นนี้มีแต่ผู้สูงศักดิ์ที่สามารถใช้ได้เท่านั้น ข้ารับ

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เวินหมัวมัว 2

    องค์หญิงเวินอี๋เสด็จมายังจวนเป่ยหนานแต่เช้าตรู่โดยมีเหล่านางกำนัล ข้ารับใช้ และพ่อบ้านแห่งจวนเป่ยหนานตั้งแถวต้อนรับอย่างสมเกียรติ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีท่าทีนบนอบเกินพอดีจนเกรงว่าจะหายใจแต่ล่ะครั้งก็ไม่กล้าหายใจแรงเสียด้วยซ้ำหานฉงหรงมองสตรีสูงศักดิ์ที่เยื้องกรายผ่านนางไปอย่างไม่คิดจะเหลือบแลนางแม้แต่น้อย องค์หญิงเวินอี๋ยังคงเป็นองค์หญิงเวินอี๋ที่ชวนให้ผู้คนหมั่นไส้ชิงชังไม่เปลี่ยนโดยที่บาดแผลกลางหลังไม่ได้ช่วยทำให้นางสงบเสงี่ยมมากขึ้นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหานฉงหรงเองก็มิได้สะทกสะท้าน อีกฝ่ายไม่อยากมองนาง นางเองก็มิได้อย่างจะเปลืองสายตามองเช่นกันแน่นอนว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาของหานฉงหรงมิใช่องค์หญิงที่แสนเย่อหยิ่งผู้นั้น กลับเป็นคุณหนูตระกูลผู้ดีที่ติดตามนางมาต่างหากผู้หนึ่งใบหน้ารูปหัวใจ องคาพยพทั้งห้างามล้ำจนเรียกได้ว่าเป็นโฉมสะคราญ รูปร่างบอบบาง สวมเสื้อผ้าที่ตัดจากผ้าไหมหยุนจิ่น [2] อันเลอค่าของซูโจว ซึ่งผ้าไหมหยุนจิ่นมีกรรมวิธีที่ซับซ้อน แต่ละปีผลิตได้ไม่ถึงร้อยพับ จึงมักถูกส่งเป็นของบรรณาการให้กับทางราชสำนัก แสดงให้เห็นว่าสตรีนางนั้นมีฐานะไม่ธรรมดา ส่วนอีกคนหนึ่งมีใบหน้ารูปหัวใจ หน้าตา

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เวินหมัวมัว 1

    หานฉงหรงก้าวเร็วๆ เพื่อให้ถึงห้องส่วนตัวก่อนที่น้ำค้างที่เกาะตามกลีบดอกไม้จะระเหยเหิดจนสุราเสียรสชาติ นางวางดอกไม้ก่อนคว้ากรรไกรมาตัดกิ่งและริดกลีบเลี้ยงจนเหลือเพียงดอกสีเหลืองเกลี้ยงเกลา ซึ่งทุกอย่างต้องทำอย่างรวดเร็วเพื่อแข่งกับเวลา ทว่านางตัดไปได้เพียงครึ่งหนึ่งก็วางกรรไกรลงก่อนยกมือปิดหน้าเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำดั่งแต้มชาด จนเสี่ยวมี่ที่กำลังดับเทียนเมื่อเห็นว่าท้องฟ้าข้างนอกสว่างแล้วเอ่ยถาม “พี่สาว ท่านไม่สบายตรงไหนหรือเจ้าคะ หน้าของท่านแดงมากเลย”หญิงสาวเอาหลังมือแตะแก้มของตนเองก่อนยิ้มบาง “พี่สาวไปเก็บดอกไม้ตั้งแต่เช้ามืด คงต้องน้ำค้างกลับมาจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายเล็กน้อยเท่านั้น”“เช่นนั้นให้ข้าไปบอกท่านหมอฟู่ดีหรือไม่เจ้าคะ” นางเอ่ยถึงหมอที่ประจำอยู่ที่จวนเป่ยหนานทำหน้าที่รักษาทุกคนในจวนโดยไม่แบ่งแยก“ไม่เป็นไร ประเดี๋ยวหมักเหล้าเบญจมาศนี้เสร็จก็ว่าจะนอนพักสักครู่ แล้วค่อยไปทำเกาลัดเชื่อมของโปรดของพวกเจ้า”เสี่ยวมี่พยักหน้า เช่นนั้นข้าช่วยท่านตัดดอกไม้นะเจ้าคะ” ว่าพลางจะหยิบกรรไกรที่บนโต๊ะมา ทว่าหานฉงหรงกลับจับมือนางไว้เอ่ยเสียงนุ่ม “เดี๋ยวทางนี้ข้าจัดการเอง เจ้าไปบอกพ่อบ้านให้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status