เว่ยเหยียนเฟิ่งอยากบอกให้นางหายกังวลเรื่องที่เขายอมกลับหากพวกมันมาตาม เขาจะไม่ยอมง่ายๆ เด็ดขาด “ถ้าพวกมันบุกมาจริงข้าไม่ยอมกลับไปหรอก ข้า..” อยากอยู่กับเจ้ามากกว่า ประโยคสุดท้ายถูกกลืนลงคอเมื่อสตรีร่างบางถือมีดอีโต้เดินมาหาเขา
“ลุกขึ้น” หลี่เหม่ยซินก้าวเข้าใกล้เขาใบหน้าสง่างามนิ่งสงบเดาอารมณ์ไม่ถูก เขาสบตานางพลางลุกขึ้นตามสั่ง ในใจคิดว่าคำพูดเขาแต่ละคำเหนือความคาดหมายจนนางเกือบเคลิ้ม ต้องทำให้เขาหยุดพูดซะ
“วันนี้อากาศกำลังดี หน้าที่ท่านคือทำความสะอาดเรือนตั้งแต่ลานหน้าเรือนจนถึงด้านในทุกซอกทุกมุม ท่านต้องทำให้สะอาดหมดจด” หลี่เหมยซินวางมีดกระทบโต๊ะเสียงดัง นางกอดอกสั่งงานคนป่วยปากดีด้วยความเย็นชา เขาน่าจะหายหนาวแล้วล่ะพูดเก่งขนาดนี้ไม่ป่วยแล้ว
“ได้” พยักหน้ารับปากอย่างเชื่อฟัง
“ดี” นางกลับไปตากเนื้อปลาที่แร่เสร็จแล้วต่อ สุดท้ายแล้วนางก็ตัดสินใจผิดใช่ไหมที่ให้องค์ชายสูงศักดิ์ทำความสะอาดเขาถามทุกอย่างเลยว่าแบบนี้ถูกต้องไหม ทำสิ่งนี้ก่อนแล้วค่อยทำส่วนนี้ที่หลังใช่ไหม เจ้าสิ่งนี้ใช่ยังไง ถามหมดถามซะทุ
“ไม่มีทางลงและก็ไม่มีทางขึ้นสำหรับพวกเจ้า ใครกล้าเข้ามาตาย!” เสียงแข็งกร้าวใบหน้าฉายแววเด็ดเดี่ยวดวงตาคู่งามคมกริบดังใบมีด“ฆ่านาง! ฆ่าสตรีนางนี้ให้ข้า!” หม่าฉวี่หลินกำหมัดแน่น นางไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในเขตป่าต้องมนต์การทำให้เกิดการนองเลือดในสถานที่เช่นนี้จะส่งผลอย่างไรต่อตัวนางเองหลี่เหมยซินยิ้มแสยะเมื่อบุรุษชุดดำเข้ามารุมล้อมฟันดาบใส่ นางก็รับการโจมตีและปะทะกลับได้อย่างแคล่วคล่องว่องไวเพราะมีควันขาวค่อยช่วยเหลือเมื่อพวกเขายิงธนูใส่ควันขาวก็เข้ามารวมเป็นหนึ่งเดียวกับดาบของนาง หลี่เหมยซินหมุนตัวกระโดดหลบลูกธนูแกว่งดาบไปทิศทางตรงข้ามคนยิงทั้งหมดตายคาที่ในดาบเดียว‘เริ่ด!’เสียงเจ้าควันขาวที่อยู่ในดาบสะท้อนแสงเล็กน้อย ทุกการเคลื่อนไหวของหลี่เหมยซิน หม่าฉวี่หลินถึงกับตะลึงคนธรรมดาไม่มีทางฆ่าคนสิบคนด้วยการฟันดาบอากาศเพียงครั้งเดียวเช่นนี้ได้ เริ่มหวาดระแวงแต่ไม่ถอยอย่างไรนางก็จะฆ่าหลี่เหมยซินให้ได้ “ยิงธนู! ยิงต่อไป! ห้ามหยุด!”ควันขาวออกจากดาบหลี่เหมยซินแล้วทำให้เกิดพายุตรงกลางลูกธนูที่พุ่งมาทางนี้ถูกดูดเข้าไปในพายุลูกใหญ่แล้วปล่อยคืนเ
“เหยียนเฟิ่ง” นางรีบพยุงร่างเขาที่ล้มลงกับพื้นด้วยความทรมาน ผิวหนังทั้งตัวเขาเย็นเหมือนก้อนน้ำแข็งทำให้นางตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก มองดวงตาใกล้จะถูกเกล็ดน้ำแข็งปกปิดทั่วทั้งตัวหม่าฉวี่หลินวิ่งเข้าจะป้อนยาพิษให้เว่ยเหยียนเฟิ่งเพื่อต่อชีวิตเขา หลี่เหมยซินปัดขวดยาในมือนางทิ้งทันทียกดาบขึ้นจ่อคอสตรีชั่วนี้อย่างโหดเหี้ยม “อยู่ให้ห่างเขาไว้หม่าฉวี่หลิน”“เจ้าจะฆ่าเขาด้วยการขวางข้ารึ นั่นมันยาช่วยเขานะ”“ช่วยหรือทำร้ายกันแน่ หม่าฉวี่หลินเจ้ามันเห็นแต่ตัวทรมานชีวิตคนเพื่อให้ตัวได้สิ่งที่ต้องการ”“หุบปากเจ้าแล้วส่งตัวเขาให้ข้า หากไม่อยากเห็นเขาตายเดี๋ยวนี้”หลี่เหมยซินฟาดฟันดาบใส่หม่าฉวี่หลินทันทีที่นางก้าวเท้าเข้ามา ดวงตานิ่งเรียบจ้องมองศัตรูไม่วางตา“นังหลี่เหมยซิน!”นั่นแหละ หลี่เหมยซินมุมปากยกขึ้นรอยยิ้มไม่ถึงดวงตาประดับใบหน้างามชวนน่าขนลุก หม่าฉวี่หลินคิ้วขมวดชักดาบตนขึ้นมาฟันที่ร่างสตรีตรงหน้าฉับไว ปรากฏว่าหลี่เหมยซินหายไปกางอากาศ หม่าฉวี่หลินกับกลุ่มชายชุดดำตกตะลึงกันทั่วหน้า รู้ตัวแล้วว่าเมื่อครู่ถูกภาพหลอนเล่นงานค
‘นี่! พวกเจ้าไปมีเรื่องกับคนใหญ่คนโตแล้วหนีมาที่ป่าต้องมนต์รึ พวกมันถึงได้ยกขบวนแห่กันมาเต็มป่าต้องมนต์แล้วเนี่ย! เวรกรรม!’“แล้วตอนนี้พวกมันอยู่ไหน” อารมณ์นางเปลี่ยนอย่างรวดเร็วดวงตาแน่นิ่งจนน่ากลัว เมื่อได้ยินว่าศัตรูตัวดีกล้าเหยียบเข้ามาในป่าผืนนี้เพราะต้องการบุรุษของนาง‘หึ โชคชะตาของพวกเจ้านี่ย่ำแย่เหลือเกิน บังเอิ้นบังเอิญที่เจ้าพวกนั้นมันมุ่งหน้ามาทางนี้ทั้งที่ไม่รู้เส้นทางในป่า เหอะครั้งก่อนช่วยเจ้าจัดการร้อยคน ครั้งนี้มากกว่าร้อย..’ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้วเว่ยเหยียนเฟิ่งดึงร่างบางหลบลูกศรพวกนั้นได้ทันก่อนมันจะปักเข้าที่ร่างกายของหลี่เหมยซินสักที่ กลุ่มบุรุษชุดดำจำนวนมากล้อมรอบพวกเขาทั้งสอง ไม่นานสตรีผู้อยู่เบื่องหลังกลุ่มบุรุษชุดดำเดินแทรกกลางมาอยู่ด้านหน้า หลี่เหมยซินกำมือแน่นจนเล็บแทบจะจิบเข้าเนื้อ สายตานางคมกริบเพ่งมองไปยังกลุ่มคนจำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือที่มุ่งหน้ามาทางนี้อย่างว่องไว“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าข้าจะไม่กล้าเข้ามาที่นี่หรือ หึหึ”“หม่าฉวี่หลิน!” นางเอ่ยนามของสตรีผู้นั้นเสียง ใบหน้าสง่านิ่งเรียบแฝงความเกลียดชังในดวงตาไม่ปิดบัง นางหรี่
“ท่านเองก็ทำให้ข้าเสียเวลา ต้องชดเชยสิ เพราะข้าเห็นท่านใต้น้ำถึงสองครั้งจึงคิดว่าท่านจะช่วยเราได้ เรื่องนี้ต้องการคำอธิบายบอกวิธีถอนพิษมา”‘เจ้าเห็น? เป็นไปไม่ได้’ ปลายกระบี่กลับมาจี้ที่คอนางอีกครั้ง มีหรือหลี่เหมยซินจะกลัวตายนางตอบเสียงแข็งกร้าวมองเขาอย่างไม่หวาดกลัว“หลายร้อยปีก่อน.. ท่านช่วยคนทั้งเมืองฉางอันอย่างไร ท่านยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องนางได้ ท่านเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาจริงหรือ”บุรุษอาภรณ์สีน้ำเงินลดกระบี่ลงเล็กน้อย ภาพความทรงจำเก่าจนฝุ่นเกาะหวนคืนให้เขานึกถึงเจ้าของประโยคและเค้าโครงใบหน้าของสตรีนางนี้ชั่งคล้ายคลึงกับ..“ท่านยังเสียสละตัวเองเพื่อคนที่รักได้ ข้าก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนของข้าเช่นเดียวกัน แค่บอกวิธีช่วยมาเรื่องหลังจากนั้นข้าจะไม่รบกวนท่านเจ้าค่ะ”‘เจ้าคือนาง?’ บุรุษอาภรณ์สีน้ำเงินสับสนวุ่นวายกับความคิดในหัว“นาง? แน่นอน ข้าไม่ใช่หนิงเทียนส่านเซียนคนรักของท่าน” นางคิดว่าเขาจำนางเป็นคนรักของตัวเองได้อย่างไร หรือหน้านางคล้ายกับหนิงเทียนซ่างเซียน ผู้ปกครองแดนฉางอันจะมีหน้าตาธรรมดาเช่นนี้ได้หรือ‘หึ’ หลังจากเขาเงียบอ
“ข้าไม่เคยได้ยินว่ามนุษย์สามารถฝึกวิชาเหล่านั้นได้ ทางเข้าออกถูกปิดเพื่อปกป้องเมืองฉางอัน วิชาที่มนุษย์ใช้กันในตอนนั้นคงสูญหายไปพร้อมกัน แล้วอะไรทำให้เจ้าคิดว่าบุรุษใต้น้ำเป็นใครคนรักของนาง”‘เพราะไม่มีใครเห็นศพเขาไง พูดแล้วขนลุกเลย’ ควันขาวเสียงสั่น คิดว่าไม่แน่บุรุษใต้น้ำที่หลี่เหมยซินถามถึงอาจจะเป็นวิญญาณของคนผู้นั้นก็เป็นได้หลี่เหมยซินมองรูปร่างมันก่อนขมวดคิ้วพูดเสียงเตือน “เจ้าไม่มีขน”‘คือว่า.. ร่างของผู้ชายคนนั้นหายไป ไม่มีผู้ใดเห็นเขา หลายร้อยปีที่ผ่านมาท่านหนิงเทียน.. น่าจะทราบด้วยตัวเองดี แต่ท่านมิเคยปริปากพูดถึงเหตุการณ์นั้นกับใครเลย ไม่มีผู้ใดรู้เห็นว่าคนรักของนางจะได้เกิดใหม่ในภพใดหรือมีชะตากรรมเยี่ยงไรหลังความตาย..’ความทุกข์ของผู้ปกครองอาณาจักรฉางอันเป็นที่ชัดแจ้งในดวงตาของท่านเตือนใจเรื่องโศกนาฏกรรมตอนนั้น ชาวเมืองและป่าต้องมนต์อยู่รอดถึงทุกวันนี้เพราะใคร“ศพหายรึ.. โอ๊ยหัวจะปวด”‘แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อ’“เฮ้ออ แม้ว่าบุรุษใต้น้ำมีความเป็นไปได้ว่าเป็นคนรักของหนิงเทียนแค่หนึ่งในร้อยเหตุผล ข้าก็ไม่ทางเลือกอื่น..”
หลี่เหมยซินลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงควันขาว แต่นางก็ไม่ยอมถอนริมฝีปากของตนออกจากเรียวปากของเขา เหตุการณ์เมื่อวานที่เจ้าควันขาวขัดจังหวะยังจำได้ดีนางจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก หลี่เหมยซิน หลับตาลงดูดดื่มเรียวปากของคนตรงหน้าต่อไปไม่สนควันขาวที่โผล่มาขัดจังหวะ‘ให้ตายเถอะคู่เวรคู่นี้ ไม่เห็นหัวข้าเลย’‘ข้าจะทนอยู่เพื่อไก่ย่าง!’หลี่เหมยซินถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งริมฝีปากอิ่มแตะเบาๆ ที่เรียวปากหยักคล้ายยั่วยวนเจ้าของมัน ดวงตาของทั้งคู่ประสานกันเต็มไปด้วยความรักใคร่ หลงใหลอยากปกป้องและอยากเป็นของกันและกันเว่ยเหยียนเฟิ่งหอมแก้มนิ่มทั้งสองข้างของสตรีอันเป็นที่รัก ริมฝีปากแตะเบาๆ เริ่มที่หน้าผา หางตา ดวงตา จมูก แก้มนุ่มนิ่มทำแบบนั้นทั้งดวงหน้างามใต้แสงจันทร์วนไปมา จนนางยิ้มหวานชอบใจแต่แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆ หุบลง‘ถ้าจะขนาดนี้จะย่างไก่เรียกข้ามากินเพื่อ!?’“เงียบซะ ถ้ารบกวนข้าอีกวันนี้ก็ไม่ต้องกิน” เสียงดุควันขาวที่ชอบทำลายบรรยากาศ ปรายตามองมันเป็นการเตือน“กินรึ?” เขาเลิกคิ้วมองนาง เว่ยเหยียนเฟิ่งเขาไม่เห็นหรือได้ยินอะไรนอกจากเสียงของสตรีตรงหน้าจึงไม