Share

ร้ายมา...ฉันตบกลับ

last update Last Updated: 2025-05-15 20:53:02

เช้าวันรุ่งขึ้น รามิลพาเด็ก ๆ ออกไปเที่ยวสวนสนุกตามสัญญา ทิ้งให้ณิชชาอยู่คฤหาสน์ตามลำพัง ความรู้สึกเดียวที่ครอบงำเธอคือความไม่สบายใจและความหวาดระแวง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกลัวว่าลูกจะโดนรามิลพรากไป เธอคงไม่มีวันพาเด็กๆ มาอยู่ในที่ที่น่าอึดอัดขนาดนี้ ถึงแม้ว่าหากไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ลูกจะเป็นสิทธิ์ของแม่เพียงคนเดียวก็ตาม แต่เธอรู้ทันผู้ชายอย่างเขาดี เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ลูกไปแน่ และที่สำคัญ...ลูกเป็นสายเลือดของเขา และในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เขาก็ทำผิดต่อเธอจริงๆ ดังนั้นลูกก็ควรได้รับสิ่งที่ควรจะได้ เธอไม่คิดจะปิดโอกาสของลูก

เมื่อกลับมาในตอนเย็น เด็ก ๆ เล่าถึงความสนุกสนานให้ณิชชาฟังอย่างตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย

"คุณพ่อใจดีมากเลยฮับ!" เมฆากล่าว

"ใช่ค่ะ คุณพ่อซื้อของเล่นให้พวกเราด้วยล่ะ" วารินเสริม

ภูผาพยักหน้า "ครับ ภูก็ได้ของเล่นเหมือนกัน"

ณิชชามองลูก ๆ ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอไม่รู้ว่าควรจะดีใจที่ลูก ๆ มีความสุข หรือกังวลกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกันแน่

ในขณะนั้นเอง ธัญรสาก็ปรากฏตัวที่คฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง เมื่อเห็นภาพพ่อลูกที่ดูสนิทสนมกัน หญิงสาวได้เดินตรงเข้ามาด้วยความโกรธ

"คุณรามิลคะ! นี่มันอะไรกันคะ!" ธัญรสาตวาดลั่น สายตาของเธอจ้องมองณิชชาและเด็ก ๆ อย่างไม่พอใจ “เด็กเป็นโขยงเลย นี่มันฟาร์มมนุษย์หรือไงคะ”

รามิลลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับธัญรสาด้วยสีหน้าเย็นชา "ธัญ...นี่มันเรื่องของผม"

"เรื่องของคุณเหรอคะ! แล้วฉันล่ะคะ" ธัญรสาเสียงดังขึ้น “มีอะไรทำไมไม่มาบอกฉันก่อน คนรับใช้บอกฉันว่าเด็กๆ เป็นลูกของคุณ ส่วนผู้หญิงคนนั้นคือคนที่คุณไปมีอะไรด้วยแค่ครั้งเดียว จริงหรือเปล่าคะ”

“จริง แล้วทำไมล่ะ” เขาถามเสียงเรียบ

“คุณทำอย่างนี้ได้ยังไงคะ เด็กที่เกิดจากผู้หญิงข้างทาง คุณให้มาอยู่ในบ้านด้วยได้ยังไง”

“ผมไม่ใช่หมาตัวผู้นะสาที่ทำให้ลูกเกิดมาแล้วจะไม่สนใจน่ะ”

“คุณก็แค่ให้เงินมัน หรือช่วยค่าเทอมก็พอ นี่อะไรกัน พามาอยู่ในบ้านด้วยหมดเลยทั้งแม่ทั้งลูก ไม่รู้หรือไงคะว่ามันจะเป็นกาฝากที่คอยดูดน้ำเลี้ยงจากคุณ”

เด็กๆ เริ่มตัวสั่น พากันไปหลบข้างหลังแม่ โดยเฉพาะเมฆาที่กำเสื้อแม่แน่น ดวงตาคู่โตสั่นระริก เห็นปฏิกิริยาของลูกแล้ว ณิชาก็รู้สึกทนไม่ได้ จึงตวาดไป

“มาเอะอะอะไรกันคะ คุณควรเคลียร์กันแค่สองคน ไม่อายคนรับใช้ก็อายเด็กอนุบาลบ้างเถอะค่ะ”

“อย่าเสือก !” ธัญรสาสะบัดหน้ามามองอย่างกราดเกรี้ยว ก่อนจะหันไปกระแทกเสียงใส่รามิล “ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณนะคะ ทำอะไรอย่าให้ข้ามหน้าข้ามตาฉันนัก”

แววตาของชายหนุ่มสว่างวาบ ก่อนจะเลือนหายไป “กลับไปก่อนธัญรสา ไปสงบสติอารมณ์ซะ”

“ได้เห็นภาพแบบนี้เต็มๆ คุณคิดว่าฉันจะยังมีสติหลงเหลืออยู่อีกหรือคะ” พูดพลางหันไปจับจ้องที่ณิชชาอย่างเกลียดชัง “แกมันผู้หญิงหน้าด้าน คิดจะใช้ลูกเป็นสะพานเหรอไง ด้านทั้งแม่ทั้งลูก”

จบประโยคนี้ ณิชาก็สะบัดหลังมือใส่แก้มซีกขวาของธัญรสาทันที

เผียะ !

“นี่แก...” ธัญรสาสะบัดหน้ากลับมามองด้วยแววตาวาวโรจน์ ทว่าไม่ทันจะทำอะไร เสียงทุ้มก็ตัดบท

“กลับไปก่อนสา”

“แต่ว่า”

“ผมบอกให้กลับไปไง” เสียงของเขาเยือกเย็น ทำเอาธัญรสาชะงัก

“จำไว้นะคะว่าฉันไม่มีทางอยู่เฉยๆ แน่” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินย่ำเท้าจากไปทันที

เมื่อบรรยากาศภายในห้องโถงที่คฤหาสน์กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง รามิลได้ยิ้ม แล้วบอกกับเด็กๆ ว่า

“พ่อขอคุยกับแม่แป๊บหนึ่งได้ไหมครับ”

“พ่อจะเกแม่หรือเปล่าครับ” ภูผาถามเสียงขรึม

“ไม่หรอก แค่จะคุยเรื่องกับข้าวเย็นน่ะ”

หนูน้อยพากันหันมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้า “ค่ะ งั้นพวกหนูเข้าห้องก่อนก็ได้ค่ะ” วารินพูด

“โอเคครับ” เขายังคงยิ้มอ่อนโยน จนกระทั่งแผ่นหลังเล็กๆ ของแฝดสามหายลับไปจากสายตาแล้วนั่นแหละ รอยยิ้มของเขาก็เหือดหาย แววตากลับมากร้าวกระด้าง มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กแล้วพูดห้วนๆ

“ไปคุยกันในห้องนั่งเล่น”

“เอ๊ะ ! ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณนะ”

“แต่ผมมี” เขาพูดย้ำชัดเจน ก่อนจะลากเธอเข้าห้องนั่งเล่นไปด้วยท่าทางโมโห

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   เพียงคนเดียวที่เข้าใจ

    คืนนั้น ณิชชาแทบไม่ได้หลับเลย เธอนั่งเฝ้าลูก ๆ ที่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล นอนพักฟื้นอยู่ในห้องนอนส่วนตัว ร่างเล็ก ๆ ที่เพิ่งหายจากอาการป่วยยังดูอ่อนแรง หากแต่ก็ยังส่งยิ้มสดใสให้เธอเสมอ ราวกับต้องการบอกว่าพวกเขาไม่เป็นไรและไม่อยากให้เธอต้องเป็นห่วงหัวใจของคนเป็นแม่เจ็บปวดราวกับถูกกรีดเป็นริ้ว ๆ หากแต่ก็ไม่อาจเอ่ยคำใด หรืออธิบายความรู้สึกใด ๆ ให้ใครได้รับรู้เลย เธอทำได้เพียงกอดลูกๆไว้ และภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปโดยเร็วเช้าวันถัดมา รามิลเดินเข้ามาในห้องอาหารด้วยสีหน้าเรียบนิ่งราวกับไร้อารมณ์ เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอสักครั้ง ขณะที่ณิชชายกถาดอาหารเช้าไปวางตรงหน้าลูก ๆ“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมจะให้แม่ครัวเป็นคนจัดเตรียมอาหารสำหรับเด็ก ๆ เอง คุณไม่จำเป็นต้องเข้ามาในครัวอีกต่อไป” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าเธอ“แต่ว่า…” ณิชชาพยายามจะค้านอย่างอ่อนแรง“อย่าได้คิดที่จะโต้แย้ง ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมาเสี่ยงกับความสะเพร่าของใครบางคน” รามิลตัดบทอย่างเด็ดขาด น้ำเสียงของเขาเย็นชาและเฉียบขาดจนณิชชาไม่อาจโต้เถียงได้อีกถ้อยคำเหล่านั้นราวกับตอกย้ำว่าเธอเป็นเพียงค

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   เมื่อแฝดสามเข้าโรงพยาบาล !

    กลิ่นหอมหวานของขนมอบลอยคลุ้งไปทั่วห้องครัว ณิชชาบรรจงทำอาหารเช้าสำหรับลูก ๆ ทุกเช้าด้วยความใส่ใจ ราวกับเป็นกิจวัตรสำคัญที่ไม่อาจละเลย เธอผสมแป้งด้วยมือ คัดสรรวัตถุดิบทุกอย่างด้วยความระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ในใจจะรู้ดีว่า ไม่มีใครในบ้านหลังนี้รับรู้ในความตั้งใจของเธอเลยก็ตามแต่สำหรับเด็ก ๆ แล้ว เธอปรารถนาให้ทุกคำที่พวกเขาได้ทานเข้าไป เปี่ยมไปด้วยความรักและความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่“วันนี้แม่ทำเค้กกล้วยหอมด้วยนะลูก” เธอยิ้มละมุนขณะจัดขนมใส่จาน เตรียมเสิร์ฟพร้อมนมอุ่นหอมกรุ่นเด็กทั้งสามเดินลงมานั่งประจำที่ วารินส่งยิ้มหวานให้มารดา “วาอยากทานขนมฝีมือคุณแม่ทุกวันเลยค่ะ อร่อยที่สุดในโลก”“พี่ภูขออันที่กล้วยเยอะ ๆ นะฮะ เขาชอบกล้วย” เมฆาเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสแจ๋วณิชชาหัวเราะเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะจัดจานตามความต้องการของลูก ๆ อย่างใส่ใจ แล้วยกไปวางบนโต๊ะอาหารรามิลเดินเข้ามาในห้องอาหารพอดี นัยน์ตาคมกริบปรายมองอาหารเช้าบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจนัก เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างเงียบ ๆ โดยไม่เอ่ยทักทายเด็ก ๆ หรือแม้แต่เธอ“เช้านี้ฉันทำเค้กกล้วยหอมค่ะ ไม่มีน้ำตาลมาก เด็ก ๆ จะได้ทานง่าย ๆ” ณิชชาอ

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ความเย็นชาที่เธอได้รับ

    เช้าวันใหม่มาพร้อมกับอากาศเย็นสบาย หากแต่ในความรู้สึกของณิชชา กลับเหมือนต้องเดินอยู่ท่ามกลางหมอกหนา ความอึดอัดที่เกาะกุมหัวใจยังคงหนักอึ้ง เธอตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมนมกล่องและอาหารเช้าสำหรับลูก ๆ ด้วยความใส่ใจ แม้ในใจจะตระหนักดีถึงสถานะของตนเองในบ้านหลังนี้เสียงฝีเท้าหนักๆ ก้าวเข้ามาในห้องอาหาร รามิลปรากฏตัวในชุดสูทสีเทาเข้ม ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งราวกับรูปสลักหินอ่อน"เด็ก ๆ ยังไม่ลงมาอีกหรือไง" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะ"กำลังล้างมือกันอยู่ค่ะ เดี๋ยวก็มาแล้ว" ณิชชาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพรามิลกวาดสายตาไปทั่วโต๊ะอาหาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "นมต้องอุ่นให้ได้อุณหภูมิพอดี ไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส อาหารว่างควรมีผลไม้สดเพื่อเพิ่มวิตามิน ไม่ใช่แค่ขนมปังอย่างเดียว นี่เป็นสิ่งที่คนเป็นแม่ควรใส่ใจ หากคิดจะทำหน้าที่แม่ของลูก ๆ ผม"ณิชชากล้ำกลืนความรู้สึกขุ่นเคืองลงไป พยักหน้ารับอย่างสงบเสงี่ยม เธอรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะโต้แย้งใด ๆเด็ก ๆ วิ่งกรูเข้ามาในห้องอาหารด้วยท่าทีร่าเริง เมฆาเป็นคนแรกที่ส่งเสียงใส "คุณพ่ออออ"รามิลยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกชายคนเล็ก "

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   อดีตสามีใจร้าย !

    หลังจากเหวี่ยงเธอเข้าไปในห้องแล้ว เขาก็ปิดประตูตามหลังดวงตาสีดำสนิทจับจ้องมองร่างบางที่เซถลาจนเกือบล้ม“นี่คุณ...ทำไมต้องรุนแรงกันด้วย” เธอตวาด“คุณเองก็ชอบไม่ใช่หรือไง ความรุนแรงน่ะ”“หมายความว่ายังไง”“เหอะ ! เมื่อกี้คุณตบสาทำไม”“สา ?” คิ้วเรียวขมวด “อ๋อ คงหมายถึงผู้หญิงที่มาแว้ดๆ ใส่ เหมือนฉันเป็นแค่ขยะเปียกนั่นน่ะเหรอคะ”“คุณพูดเกินไป สาไม่ได้พูดสักคำว่าคุณเป็นขยะ”“ค่ะ ไม่พูด แต่ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตา มันก็แปลว่าฉันกับลูกเป็นขยะนั่นแหละค่ะ”“คุณคิดไปเอง สาเป็นคู่หมั้นผม ก็อาจจะมีบ้างที่ไม่พอใจที่อยู่ๆ ผมก็พาลูกกับผู้หญิงที่ผมเคยนอนด้วยมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ไม่มีผู้หญิงคนไหนพอใจหรอกนะ แต่สาเป็นคนมีเหตุผล ถ้าให้เวลาเขาสักระยะ สาจะเข้าใจ”“อ๋อค่ะ แฟนคุณเป็นแม่พระแสนดี ส่วนฉันเป็นนางมารร้ายสินะคะ” คำพูดของเธอแฝงแววเหยียดหยัน“คุณนี่มีนิสัยชอบคิดไปเองจริงๆ นั่นแหละ” ชายหนุ่มสบถ ขบกรามจนขึ้นสัน“เอาล่ะ เลิกยืดเยื้อเถอะค่ะ แล้วพูดมาตรงๆ จะบ่นจะว่าอะไรฉัน”“คุณไม่ควรตบสา”“แล้วการที่ผู้หญิงคนนั้นมาพูดจาเปรตๆ ต่อหน้าเด็ก มันเป็นเรื่องดีงั้นเหรอคะ ลูกฉันถึงจะยังเด็ก แต่เขาก็เริ่มรู้ความแล้

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ร้ายมา...ฉันตบกลับ

    เช้าวันรุ่งขึ้น รามิลพาเด็ก ๆ ออกไปเที่ยวสวนสนุกตามสัญญา ทิ้งให้ณิชชาอยู่คฤหาสน์ตามลำพัง ความรู้สึกเดียวที่ครอบงำเธอคือความไม่สบายใจและความหวาดระแวง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกลัวว่าลูกจะโดนรามิลพรากไป เธอคงไม่มีวันพาเด็กๆ มาอยู่ในที่ที่น่าอึดอัดขนาดนี้ ถึงแม้ว่าหากไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ลูกจะเป็นสิทธิ์ของแม่เพียงคนเดียวก็ตาม แต่เธอรู้ทันผู้ชายอย่างเขาดี เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ลูกไปแน่ และที่สำคัญ...ลูกเป็นสายเลือดของเขา และในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เขาก็ทำผิดต่อเธอจริงๆ ดังนั้นลูกก็ควรได้รับสิ่งที่ควรจะได้ เธอไม่คิดจะปิดโอกาสของลูกเมื่อกลับมาในตอนเย็น เด็ก ๆ เล่าถึงความสนุกสนานให้ณิชชาฟังอย่างตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย"คุณพ่อใจดีมากเลยฮับ!" เมฆากล่าว"ใช่ค่ะ คุณพ่อซื้อของเล่นให้พวกเราด้วยล่ะ" วารินเสริมภูผาพยักหน้า "ครับ ภูก็ได้ของเล่นเหมือนกัน"ณิชชามองลูก ๆ ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอไม่รู้ว่าควรจะดีใจที่ลูก ๆ มีความสุข หรือกังวลกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกันแน่ในขณะนั้นเอง ธัญรสาก็ปรากฏตัวที่คฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง เมื่อเห็นภาพพ่อลูกที่ดูสนิทสนมกัน หญิงสาวได้เดิ

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ความไร้เดียงสาของสามแฝด

    เมื่อณิชชาเดินเข้าไปในห้องทำงานใหญ่โต รามิลนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ดวงตาคมกริบจ้องมองมาที่เธออย่างอ่านไม่ออก"เชิญนั่ง" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้นณิชชาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอย่างระมัดระวัง "ท่านประธานมีอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ"“เลิกเรียกฉันว่าท่านประธานเถอะ ผมไม่ใช่เจ้านายของคุณแล้ว”หญิงสาวเม้มปากแน่น ก่อนจะตอบกลับ “ค่ะ คุณรามิลจะคุยอะไรคะ”"เรื่องลูก ๆ พวกเขาต้องได้รับการดูแลที่ดีที่สุด""ฉันก็ดูแลลูก ๆ ของฉันอย่างดีที่สุดมาตลอดห้าปี" ณิชชาตอบโต้ด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง"ผมจะ..." เขาพูดไม่ทันจบ เธอก็พูดสวน“ฉันพาลูกๆ มาอยู่ที่นี่ก็ถือว่าฉันยอมคุณมากแล้วนะคะ อย่าคิดทำอะไรให้มากนักเลย”“คุณรู้เหรอว่าผมจะพูดอะไร” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงข้างหนึ่ง“ฉันเคยทำงานกับคุณ รู้จักคุณดี พูดง่ายๆ ก็คือรู้ไส้คุณค่ะ คุณคงคิดว่าฉันคือภาระ ส่วนเด็กๆ น่ะ คุณอยากจะให้เขาเป็นคุณชายคุณหนู ของเล่นกองเท่าภูเขา ขนมของกินมากมาย กินทิ้งกินขว้างยังไงก็ไม่มีวันหมด

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ใต้ชายคาไร้ใจ

    ณิชชานั่งกุมมือตัวเองแน่น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสับสนและความกังวล เธอไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใจคำพูดของรามิลได้มากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่ทนายพูดถึงเรื่องกฎหมายก็ทำให้เธออดหวั่นใจไม่ได้"คุณณิชชาครับ คุณรามิลต้องการที่จะให้โอกาสเด็ก ๆ ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด ท่านสามารถมอบทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ทั้งการศึกษาที่ดี สังคมที่ดี และชีวิตที่สุขสบาย ดังนั้นพาลูกๆ ไปอยู่ที่บ้านพ่อของพวกเขาเถอะนะครับ" ทนายวรุตม์โน้มน้าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลหญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตากับรามิล แววตาของเขาในตอนนี้ไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนเช่นเคย กลับฉายแววของความจริงจังและความปรารถนาบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก"แล้วฉันล่ะคะ?" ณิชชาถามเสียงเบา "ฉันต้องอยู่ที่นั่นในฐานะอะไร?""คุณก็คือแม่ของลูก ๆ ของผม" รามิลตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "คุณจะได้รับการเคารพและดูแลอย่างดีที่สุด ผมจะไม่ก้าวก่ายเรื่องการเลี้ยงดูเด็ก ๆ ของคุณ""คำพูดของคุณ ฉันจะเชื่อได้แค่ไหน" ณิชชาถามด้วยความไม่ไว้วางใจ"ผมรู้ว่าผมเคยทำลายความเชื่อใจของคุณ" รามิลตอบอย่างตรงไปตรงมา "แต่ผมหวังว่าเวลาและการกระทำของผมจะสามารถทำให้คุณเห็นความจริงใจของผมได้"ณิ

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   วันนี้ฉันไม่ต้องการคุณแล้ว

    "ลูก ๆ ของฉันมีความสุขดีอยู่แล้ว พวกเขาไม่ต้องการพ่อที่ไม่เคยมีตัวตนในชีวิตของพวกเขามาตลอดห้าปี" ณิชชาตอบโต้ทันที"แต่พวกเขาควรจะมีพ่อ และผมต้องการที่จะเป็นพ่อคนนั้น ผมอยากจะชดเชยเวลาที่ผมเสียไป ผมอยากที่จะ...""มันสายเกินไปแล้วค่ะ ท่านประธาน มันสายเกินไปมากแล้ว" ณิชชาตอบเสียงเด็ดขาด"ไม่สายเกินไปหรอก ถ้าคุณเปิดใจให้ผม ถ้าคุณให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเอง" รามิลยังคงยืนกราน"ฉันไม่เชื่อใจคุณ" หญิงสาวตอบตรง ๆ"ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น ผมสัญญา"ทนายวรุตม์ก้าวเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่แฝงไปด้วยความกดดัน "คุณณิชชาครับ คุณรามิลต้องการที่จะพูดคุยถึงเรื่องการดูแลบุตรอย่างเป็นทางการ ท่านหวังว่าจะสามารถตกลงกันด้วยดีโดยไม่ต้องถึงศาล ท่านต้องการที่จะให้เด็ก ๆ ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีที่สุด และท่านก็ยินดีที่จะให้คุณเป็นผู้ดูแลหลัก โดยที่คุณจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากคุณรามิล""คุณหมายความว่ายังไง" ณิชชาถามด้วยความสับสนระคนสงสัย"คุณรามิลต้องการที่จะสนับสนุนทางการเงินและการศึกษาของเด็ก ๆ อย่างเต็มที่ และท่านก็เคารพการตัดสินใจของคุณในการเลี้ยงดูพวกเขา ท่านเพียงแต่ต้องการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิ

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ต้องการสิทธิ์ความเป็นพ่อ

    บทที่ 5เช้าวันรุ่งขึ้น รามิลเดินทางไปยังร้าน ‘บ้านขนม ณิชชา’ อีกครั้ง ข้างกายเขามีทนายวรุตม์ยืนอยู่ด้วยท่าทีสุภาพ ราวกับเป็นเงาที่คอยสนับสนุนความต้องการของเจ้านายเมื่อรามิลก้าวเข้าไปในร้าน กลิ่นหอมหวานของขนมอบไม่ได้ทำให้บรรยากาศตึงเครียดลดลง ณิชชาก็ชะงักมือจากการจัดขนม ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความระแวงและไม่พอใจที่เห็นใบหน้าของผู้ชายที่เธอพยายามลืมเลือน ภูผามองหน้าชายแปลกหน้าด้วยความระมัดระวัง วารินจ้องมองด้วยความขี้สงสัย ส่วนเมฆาเกาะขาแม่แน่นด้วยท่าทีงอแง"ท่านประธาน คุณมาทำไมอีก หรือว่ายังอยากจะทำลายชีวิตของฉันอีกค " ณิชชาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา พยายามรักษาระยะห่างจากเขารามิลรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าด้วยคำพูดนั้น "ผมมาที่นี่เพื่อคุยกับคุณ...เรื่องลูกของเรา""ลูกของฉันค่ะ! พวกเขาเป็นชีวิตของฉัน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมี คุณไม่มีสิทธิ์มาเรียกพวกเขาว่า ลูกของเรา" ณิชชาตอบโต้ทันที น้ำเสียงของเธอแข็งกร้าว"ณิชชา...ผมรู้ความจริงแล้ว" รามิลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลง "ผลตรวจ DNA ยืนยันแล้ว ผมคือพ่อของภูผา วาริน และเมฆา" ในเวลาที่พูด เขาได้หลุบตาลงมองเด็กๆ ทั้งสามคน...ไม่ใช่แค่เพียงภูผาที่หน้าตา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status