ปากแข็ง เย็นชา ไร้หัวใจ เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาที่กำลังจะเกิดมา ขออย่าใจร้ายเหมือนคนเป็นพ่อเลย
Lihat lebih banyak"ซานย์!" ภพนิพิฐเบิกตาโพลงในยามที่ดวงตาคมกริบประสานเข้ากับร่องรอยบาดแผลบนใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนรัก
นานแล้วที่ไม่ได้พบหน้ากัน ซานย์โลดแล่นอยู่ในวงการแพทย์ที่ต่างประเทศ เจ็ดปีก่อนแพทย์หนุ่มสูญเสียมารดาไปกับโรคร้าย ส่วนผู้เป็นพ่อมีภรรยาใหม่ ซานย์รับบทพี่ชายที่ดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวอย่าง 'ซาเฟียร์' เสมอมา ทุกอย่างราบรื่น ปราศจากปัญหา ทว่า ซานย์วัยสามสิบต้นๆ นอกจากจะมีตำแหน่งของแพทย์ที่เชี่ยวชาญ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าหนุ่มหล่อมีดีกรีเป็นเจ้าของโรงพยาบาล ตอนนี้ความขัดแย้งกำลังเกิดขึ้น เมื่อ 'เฮเลน' บิดาที่ร้ายกาจในสายตาของลูกๆ กำลังลุ่มหลงในตัวภรรยาใหม่พร้อมทั้งลูกเลี้ยงจนคิดที่จะรวมโรงพยาบาลที่แม่ของพวกเขาคือผู้สร้าง กับโรงพยาบาลที่คนพวกนั้นก่อตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่สามารถเทียบกับโรงพยาบาลของพวกเขาได้ การชุบมือเปิบ หวังที่จะฮุบสมบัติมันไม่ได้ง่าย ซานย์ต่อต้านทุกวิถีทาง และเหมือนว่า พ่อผู้ให้กำเนิดของพวกเขากำลังเล่นแรง สัปดาห์ก่อนเขาถูกลอบทำร้าย แน่นอนว่าการเจ็บตัวเล็กๆ น้อยๆ มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของลูกผู้ชาย ดังนั้นคนพวกนั้นจึงเล็งเป้าหมายไปที่น้องสาวของเขาแทน ทั้งที่ซาเฟียร์ คือลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา ทั้งที่ชายหนุ่มผู้เป็นลูกติดของภรรยาใหม่ให้ความสนใจจนอยากได้ลูกสาวของตัวเองไปบำเรอกายนักหนา ทว่าบัดนี้เฮเลนคล้ายคนที่ตาบอด คล้อยตามและยินยอมทุกอย่าง ซึ่งหนทางเดียวที่ซานย์คิดที่จะทํา คือการส่งน้องสาวกลับบ้านเกิดของแม่ นั่นคือประเทศไทย "สรุปเรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านี้..." "มันคือความจริง พ่อแท้ๆ ของกูกำลังบีบกูและน้องให้จนมุม" ภพนิพิฐคิดตาม เขารับรู้ว่าที่ผ่านมาซานย์มีความสุขแค่ตอนที่มีน้องสาวอยู่ข้างตัวเท่านั้น เรื่องราวของบิดาผู้ให้กำเนิดเป็นอันว่ารับรู้เฉพาะสิ่งที่เพื่อนอยากให้รู้เท่านั้น สภาพของซานย์ในตอนนี้ เพื่อนของเขากำลังตกที่นั่งลำบากจริงๆ "มึงจะเอาน้องสาวของมึงมาฝากไว้ที่กู?" "ขอร้องเถอะว่ะ ช่วยกูสักครั้งนะ ตอนนี้สถานการณ์ทางนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย กูเป็นห่วงน้องกูมากจริงๆ" ภพนิพิฐดันปลายลิ้นกับกระพุ้งแก้ม คำขอร้องแกมบังคับส่งผลให้หนุ่มหล่อกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ "ถ้ากูไม่ช่วยมึงล่ะซานย์" "น้องสาวกูก็คงต้องตกเป็นนางบำเรอของพวกมัน" "..." "ถ้าทุกอย่างจะเป็นแบบนั้น กูยอมให้น้องกูตกเป็นของมึงยังจะดีซะกว่า!" "ซานย์" "มึงคิดว่าผู้ชายบ้ากามที่เพียงแต่สนุกกับร่างกายของผู้หญิง พอเบื่อก็เฉดหัวทิ้งมันจะปล่อยน้องกูไว้เหรอวะ มึงรู้ไหมว่าผู้หญิงที่เคยตกเป็นเหยื่อของ 'ออสติน' ที่ถูกมันเอาแล้วทิ้งต้องอุ้มท้อง แล้วไปขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลของกูกี่ราย ที่น่าเจ็บใจคือเหยื่อพวกนั้นหลงรักมัน ที่คิดว่าหากมีการแจ้งความก็คงเอาผิดคนที่มีอิทธิพลล้นมืออย่างมันไม่ได้ ที่มากไปกว่านั้นคือเหยื่อที่หลงรักและมีความสัมพันธ์กับมันไม่มีใครแจ้งความเอาผิดมันเลย" "..." "ช่วยกู ช่วยน้องสาวกูสักครั้งนะเพื่อน ซาเฟียร์ควรได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยกับคนที่ปลอดภัย หากสถานการณ์ทางนั้นดีขึ้นเมื่อไหร่ กูจะกลับมารับน้องสาวของกูกลับไปทันที" สามวันต่อมา "สวัสดีค่ะพี่ภพ" หนุ่มหล่อเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูตวัดสายตาขึ้นมองเจ้าของเสียงทักทาย ซาเฟียร์ฉีกยิ้มกว้าง ร่างบางอยู่ในชุดเซทที่สั้นเพียงต้นขาตามประสาเด็กรุ่นใหม่ ดวงตากลมสวยมีเสน่ห์ดึงดูด ปากนิดจมูกหน่อย รอยยิ้มของเธอช่างดึงดูด ตรึงตราตรึงใจ "ซาเฟียร์ค่ะ หนูเป็นน้องสาวเฮียซานย์" คนที่ขยันยิ้มหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงกระแทกลมหายใจ เพื่อนพี่ชายหล่อมาก หล่อกว่าในรูปที่เจออีกต่างหาก ขนาดในตอนนี้เราทั้งสองมีระยะห่างกันพอสมควร เธอยังได้กลิ่นหอมสะอาดสะอ้านจากร่างกายของคนตัวโต มันคือเรื่องจริงเหรอที่เฮียซานย์บอกว่าเพื่อนของเขาคนนี้ยังไม่มีแฟน "คอนโดของฉันมีแค่ห้องเดียว แต่ไม่ต้องห่วงนะ ระบบการรักษาความปลอดภัยครบถ้วน จะไม่มีใครมาทำร้ายเธอในที่ของฉันได้" "หมายความว่าพี่ภพจะให้หนูอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอคะ" "เธอหนีตายจากผู้ชายอังกฤษมา ฉันคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นสีหน้าผิดหวังในตอนที่พูดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ตามลำพังซะอีก" เพราะยังรู้สึกหงุดหงิดกับภารกิจที่ต้องทำ ภพนิพิฐเผลอประชดประชันออกมาอย่างไม่รู้ตัว "แต่หนูกลัวผี" ซาเฟียร์บอกเสียงอ่อนกำลัง ใบหน้างดงามราวกับตุ๊กตารูปปั้นไม่หลงเหลือรอยยิ้มสดใสอีกต่อไป "เท่าที่ฉันรู้ แม้เธอจะยังเรียนอยู่แต่เธอก็บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ควรยกข้ออ้างในเรื่องที่มันไร้สาระแบบนี้ขึ้นมา" ภพนิพิฐหยัดตัวลุกขึ้นจนเต็มความสูง ใบหน้าหล่อเหลาราวกับนายแบบจากปกนิตยสารยังคงเรียบเฉย หนุ่มหล่อคนนี้เขาไม่ใจดีกับเธอเลย! "สิ่งที่หนูพูดมันไม่ใช่เรื่องที่ไร้สาระนะคะ หนูเคยเจอผี" "นี่เธอ!" "หนูเคยเจอทั้งผีอำ ผีดึงผ้าห่มเวลาที่เผลอตื่นตอนตีสองตีสาม มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากเลยนะคะ" "ไร้สาระ เธอเคยเจอผีตัวเป็นๆ ไหมล่ะ" "ไม่เคยค่ะ แต่หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะเดินทางมาประเทศไทย หนูเคยถูกจับขังในห้องสี่เหลี่ยมมืดๆ หนูกลัว" "เด็กแบบเธอมันน่ารำคาญ" ใจคนฟังกระตุกวูบ เมื่อคนทางนี้ที่เป็นที่พึ่งไม่ได้แยแสเธอ คนตัวเล็กก็กำลังคิดไปเองต่างๆ นานา ป่านนี้พี่ชายของเธอที่เดินทางมาส่งเธอที่ประเทศไทยคงรีบเดินทางกลับแล้วเพราะกลัวว่าการหายไปหลายวันทางนั้นจะเกิดการสงสัย เธอควรได้ใช้ชีวิตให้มันดีกว่านี้ แม้การที่ออกมาจากบ้านและต้องมาอยู่ในที่ที่ไม่มีเฮียซานย์อยู่ด้วย เธอยังไม่มีโอกาสให้เฮียได้แนะนำสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เธอได้รู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่ก่อนเลย ไม่มีเลย เธอทำอะไรไม่ได้เลย! "หนูจะพยายามทำตัวไม่ให้ดูน่ารำคาญ" "เบอร์โทรศัพท์ของฉันติดไว้ที่ข้างผนัง ถ้าเธอมีปัญหาอะไรก็โทรมา" "พี่จะทิ้งหนูไว้ตรงนี้คนเดียวจริงๆ เหรอคะ" "ฉันเองก็มีงานที่ต้องทำ" "หนูยังไม่มีซิมการ์ดของประเทศไทย หนูอยากโทรกลับไปหา..." "ระหว่างที่อยู่ที่นี่ห้ามติดต่อซานย์เด็ดขาด อย่าลืมนะ ซานย์ให้สิทธิ์ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอ อย่าดื้อกับฉัน เพราะฉันไม่ชอบเด็กน่ารำคาญ!" ------ คลอดตอนแรก ถ้าชอบก็อย่าลืมเพิ่มลงคลัง อย่าลืมกดไลก์ และคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันนะคะ 🙏🙏หลายวันต่อมาอาการของซาเฟียร์ดีขึ้นตามลำดับ ไม่มีไข้ อาการเจ็บที่ช่วงล่างก็หายดีแล้วเช่นกันคนตัวเล็กบิดตัวซ้ายทีขวาทีที่หน้ากระจกบานใหญ่ เสื้อนักศึกษาบนตัวพอดีเป๊ะ เนินอกอวบส่งผลให้สัดส่วนทางด้านบนเห็นเป็นรูปร่างที่ลงตัว ส่วนกระโปรงทรงเอก็ยังสั้นเพียงต้นขาขาว วันนี้ซาเฟียร์คว้ารองเท้าส้นเข็มมาสวมใส่ ใช้กระเป๋าหรูราคาแพงที่เฮียซานย์ควักเงินตั้งเจ็ดหลักเพื่อซื้อให้ร่างบางโน้มตัวเข้าไปหากระจก คว้าแท่งมาสคาร่ามาปัดที่ขนตากระทั่งงอนสวย กรีดอายไลเนอร์จนดวงตาเป๊ะปัง ดัดผมลอนเบาๆ ที่ปลาย ปัดแก้มเติมปากนิดหน่อย ที่ขาดไม่ได้คือการฉีดน้ำหอมให้ฟุ้งไปทั้งตัว"เสร็จแล้วค่ะ" คนที่นั่งหัวโด่โดยวางแขนไว้ข้างลำตัวตวัดสายตาขึ้นมองตั้งแต่โพรงจมูกสัมผัสกับกลิ่นน้ำหอม แว๊บหนึ่งที่คนตัวเล็กมองสบตา แต่แล้วเธอก็มองผ่านเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ ภพนิพิฐถึงกับชักสีหน้าออกมาอย่างไม่รู้ตัว"นึกยังไงถึงใส่รองเท้าคู่นี้""พี่บอกเองนี่คะว่าหนูขาสั้น การใส่รองเท้าส้นสูงมันก็ช่วยทำให้ตัวหนูสูงขึ้นไม่ใช่เหรอ""แล้วฉีดน้ำหอมทำไมมากมาย ไม่รู้รึไงว่ามันเวียนหัว""มันทำให้เวียนหัวงั้นเหรอคะ เห็นว่าอาการเหล่านี้มันจะเกิดขึ้น
"หึ แล้วแต่มึง" ภพนิพิฐพิงแผ่นหลังกับโซฟาขณะใช้มือลูบใบหน้าของตัวเองเบาๆเอาจริงเถอะ เรื่องที่มันเกิดขึ้นระหว่างเขาและซาเฟียร์มันก็ไม่ได้เป็นเพราะเพื่อนรักอย่างซานย์เปิดปากทีเล่นทีจริงในวันนั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นไปเพราะความรู้สึกล้วนๆ เลยต่างหาก!หลังจากที่วางสายจากซานย์ ภพนิพิฐเลื่อนปลายนิ้วเช็กอีเมลอื่นๆ ที่เป็นเรื่องงานราวๆ ครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ เสียงครางที่ดังเล็ดลอดออกมาจากคนบนเตียงก็ดึงความสนใจจากเขาให้หันไปมอง"อื้อ~" ซาเฟียร์กระชับผืนผ้าห่ม เมื่อสัมผัสกับความหนาวแม้บนเรือนร่างจะมีผ้าห่มคลุมตัวอย่างมิดชิดภพนิพิฐวางโทรศัพท์พลางขยับตัวเข้าไปใกล้ ปากอิ่มที่แดงขึ้นคล้ายกับคนที่ไม่สบาย หลังมือหนาอังลงบนหน้าผากมนทันที"ฉิบหาย ทำไมตัวร้อนแบบนี้วะ" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน หนุ่มหล่อรีบไขว่คว้าหารีโมทเครื่องปรับอากาศมาปรับอุณหภูมิห้องให้อุ่นขึ้น จากนั้นก็ตรงเข้าไปในห้องน้ำ หาผ้าขนหนูสะอาด และเติมน้ำใส่กะละมังจากนั้นก็เดินกลับมาที่เตียงตามเดิม"ขนาดกินยาลดไข้ไปแล้วยังไข้ขึ้น ตอนแรกยังมาทำตัวดื้ออยู่ได้ น้องมาเฟียนิสัยมันก็เหมือนพี่ชายมันนั่นแหละ" มือหนาดึงผ้าออกจากเรือนร่างอรชรขอ
ซาเฟียร์ขบกลีบปากของตัวเองอย่างแรง เอาเถอะ เชิญเขาเป็นแบบนี้ให้ได้ตลอดก็แล้วกัน! "หนูอยากไปเข้าห้องน้ำ" คนฟังพยักหน้ารับก่อนจะโน้มตัวเข้าไปช้อนตัวซาเฟียร์ในท่าเจ้าสาว ขณะที่ขายาวก้าวไปยังห้องน้ำ คนตัวเล็กไม่มองสบตาเขาด้วยซ้ำ แขนเรียวเกาะเกี่ยวที่บ่ากว้าง สายตามองไปอีกทาง คนตัวโตเลยมีโอกาสได้เห็นร่องรอยที่เขาเป็นคนทำ"ขอโทษที่หนักมือไปหน่อย เดี๋ยวซื้อยามาทาให้" "หนูต้องการอาบน้ำ พี่ออกไปได้แล้ว" ซาเฟียร์ใช้มือเล็กบดบังร่างกายของเธอในส่วนที่สำคัญ แม้ว่ามันจะปกปิดไม่มิดเพราะเขาได้เห็นทุกอย่างไปหมดแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้กล้าพอที่จะยืนเปลือยต่อหน้าอีกคน"ถ้าเสร็จก็เรียกเดี๋ยวเข้ามารับ" คนฟังเบือนหน้าหนี เป็นการจบบทสนทนาอย่างจงใจคนในห้องน้ำลงมือล็อกประตูอย่างมิดชิด ดวงตากลมสวยกลอกกลิ้งไปมาอย่างใจหายในยามที่มองเรือนร่างของตัวเองผ่านกระจกและพบร่องรอยแดงเป็นจ้ำๆนอกจากร่องรอยที่คนตัวโตทิ้งเอาไว้มันจะทำให้ช้ำใจอย่างหนัก บางสิ่งบางอย่างที่สูญเสียไปแล้วและไม่มีทางที่จะเอากลับมาคืนได้มันทำให้หญิงสาวน้ำตาคลอจะโทษเขาฝ่ายเดียวมันก็คงไม่ได้ เธอเองก็ไม่ได้พยายามห้ามปรามอย่างเต็มที่ ร่างกายแ
เท้าเปลือยที่เกร็งกับที่นอนค่อยๆ คลายออกเมื่อแรงกระแทกกระทั้นสิ้นสุดลง ซาเฟียร์หอบหายใจถี่คล้ายกับคนที่พึ่งผ่านการวิ่งในระยะไกลมาหมาดๆ ยังไม่ทันมีโอกาสได้คิดสิ่งใดทั้งนั้น ใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มตัวลงมาหา กดปลายจมูกโด่งคลอเคลียที่แก้มเนียนอย่างอ่อนโยนคนที่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ชายใดได้เข้าใกล้หัวใจเต้นรัวแรงขึ้นมาอย่างง่ายดาย"ยังเจ็บอยู่ไหม" ซาเฟียร์ตวัดสายตามาจ้องมองคนทางด้านบน นิ้วยาวเลื่อนมาเกลี่ยน้ำตาออกจากพวงแก้มเนียนอย่างใส่ใจในยามที่ได้หยุดมอง ได้จับจ้อง ยิ่งได้เห็นว่าเสน่ห์บนตัวเขามันมากมายเหลือเกิน"หนูอยากเข้าห้องน้ำ" "อีกรอบไหวรึเปล่า" มือเรียวที่เกาะบ่ากว้างเกร็งขึ้นมาอัตโนมัติ เพียงแต่นึกถึงความใหญ่โตที่รุกล้ำเข้ามาในช่องทางคับแคบซ้ำๆ ความเจ็บปวดมันก็แทรกเข้ามาอย่างจัง"นะ หนูไม่ไหว" "ทำบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็ชิน ความเจ็บมันจะหายไปเอง""หนูไม่ใช่เด็กสามขวบนะที่พี่จะมาหลอกล่อหนูด้วยคำพูดแบบนี้ได้ มะ มันใหญ่เกินไป" ภพนิพิฐกดยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ หนุ่มหล่อโน้มตัวลงต่ำ ใช้ปลายลิ้นตวัดโลมเลียปลายถันที่บวมเป่งเพราะถูกฟันคมครูดกับความอ่อนโยนและการดูดกระชากที่หนักหน่วงและรุนแรง ซาเฟียร
"ฉันก็ไม่ได้บอกว่าจะให้เธอทำ...""...เพราะฉันจะเป็นคนทำเอง!" ใจดวงน้อยเต้นโครมครามเมื่อคนตัวโตบอกความประสงค์อย่างตรงไปตรงมาซาเฟียร์เปลี่ยนจากการโอบลำคอหนาเป็นการเกาะบ่ากว้าง ดวงตากลมสวยที่ถูกโอบล้อมด้วยขนตางอนกระพริบถี่ๆ พยายามที่จะหาหนทางรอด แต่ก็ช้าเกินไปเพราะแผ่นหลังบางแนบชิดกับที่นอนกว้างพร้อมทั้งร่างหนาที่ถาโถมร่างกายลงมา"นะ หนูไม่พร้อม" "ยังไม่เคยมาก่อน?" ซาเฟียร์ไม่รู้ว่าจะตอบกลับด้วยคำพูดไหน คำถามของเขาบางครั้งมันก็ฟังดูเหมือนเขาได้ตัดสินเธอไปก่อนหน้านี้แล้วน่าแปลกที่เธอไม่ชอบ เพียงเพราะเขามองเธอผิดไป! หนุ่มหล่อกดปลายลิ้นกับกระพุ้งแก้ม ใช้มือเกี่ยวผ้าขนหนูที่หลุดลุ่ยไปแล้วให้พ้นจากร่างกายสะอาดสะอ้าน ภพนิพิฐกดสายตาจ้องมองที่ใจกลางความเป็นสาวอย่างตรงไปตรงมาเนินสามเหลี่ยมอวบนูน มีเพียงขนอ่อนที่ปกคลุมให้ดูน่าค้นหา ซาเฟียร์กดต้นขาหนีบเข้าหากันแน่น หัวใจดวงน้อยมันเต้นแรงกับทุกๆ การเคลื่อนไหวของคนตัวโต แม้แต่ลมหายใจของเขามันยังทำให้กายสาวสะท้านขึ้นมาได้เลย"พะ พี่ภพ..." มือเล็กพยายามไขว้คว้าข้อมือหนา ขณะที่ดวงตากลอกกลิ้งไปมาด้วยความไม่เข้าใจคนตัวโตโน้มตัวลงต่ำ ใช้มือลูบต้นขาขา
"ยะ อย่ามามองหน้าอกของหนูแบบนี้นะ""ก็แต่งตัวมายั่วเอง ถ้าฉันจะมองแล้วเธอจะทำไม""คุณ!" "ทำไม โกรธขนาดนั้น ฉันเป็นผู้ชายที่มอบจูบแรกให้เธอเหรอ?" ซาเฟียร์เบิกตาโพลง ขณะที่ก้อนเนื้อทางอกด้านซ้ายเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง"ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่จูบแรกของหนู จูบของคุณมันก็แค่จูบห่วยๆ ที่หนูพึ่งเคยเจอ" "ปากดี สงสัยวันนี้เธอคงอยากเสียตัว" "ไม่ อย่า!" คนตัวเล็กพยายามดิ้นลงจากหน้าตักแกร่ง แต่เหมือนว่ายิ่งดิ้น ยิ่งเป็นการเปิดทางให้คนตัวโตจัดแจงท่าทางของเธอให้มันอยู่ในท่าที่ล่อแหลมมากกว่าเก่า"ปล่อย หนูไม่อยากอยู่ตรงนี้""เกิดกลัวขึ้นมาซะสิ ไม่ปากดีอีกล่ะว่ามันยังมีคนอื่นที่เคยจูบเธอก่อนฉัน""มันไม่เกี่ยวอะไรกัน""ถ้าเทียบกับคนอื่นแล้วจูบจากฉันมันเป็นแค่จูบห่วยๆ งั้นช่วยวัดเอวหน่อยเป็นไง จะได้รู้ว่าใครมันจะแน่ไปกว่ากัน""คุณ" ซาเฟียร์ยกกำปั้นเล็กฟาดลงบนท่อนแขนแกร่งอย่างแรง นิ้วเท้าจิกเกร็งกับโซฟาหนังขณะที่เขาบังคับให้เธอนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของเขาอยู่แบบนั้นความหล่อเหลาที่หาตัวจับได้ยาก รอยยิ้มบนมุมปากที่ไม่ว่าใครมีโอกาสพบเจอเป็นต้องหลงใหล ซาเฟียร์รู้ดีว่าในตอนนี้จิตใจของเธอมันไม่ได้อยู่กับเนื้อ
Komen