งานแต่งงานของอวิ๋นหลัวซีและหยางซูหนี่ว์ ถูกจัดขึ้น หลังจากพิธีอภิเษกสมรสของหยางซูจวิ้นและอวิ๋นเฟยหนึ่งเดือน นางกับอวิ๋นหลัวซีใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างมีความสุข หยางซูหนี่ว์ให้กำเนิดบุตรเป็นฝาแฝดชายหญิงให้แก่อวิ๋นหลัวซี เขาดีใจเป็นอย่างยิ่ง อวิ๋นเสวียนเองก็หลงรักหลานแฝดทั้งสองมาก ทุกวันหลังจากเลิกงานเขาก็จะต้องรีบกลับมาหาหลานฝาแฝดน้อยทั้งสองอวิ๋นหลงเยียนเองก็ถูกบิดาจับได้ว่าเขาลอบมีความสัมพันธ์กับหรงจิง อวิ๋นเสวียนในตอนแรกนั้นก็ยอมรับไม่ได้ แต่เมื่อผ่านไปนานวันเข้า เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากเท่าใดนัก และไม่ได้ด่าทอต่อว่าบุตรชายคนรองเหมือนเช่นเคย อวิ๋นหลงเยียนและหรงจิงก็ช่วยกันดูแลสำนักดูดวงเชียนเซียง จนกิจการรุ่งเรืองไปได้ดีรัชศกเฉิงเยี่ยปีที่60ฮ่องเต้หยางเฉิงเยี่ยทรงสิ้นพระชนม์ ส่วนเหมยฮองเฮาก็ได้ขึ้นเป็นไทเฮา ช่วงชีวิตของนางมีความสุขอยู่กับการเลี้ยงหลานๆ หยางซูจวิ้นเองก็มีพระโอรสถึงสี่องค์ สร้างความมั่นคงแก่ราชวงศ์ไม่น้อยรัชศกซูจวิ้นปีที่5ห้าปีหลังจากที่หยางซูจวิ้นขึ้นครองราชสมบัติเขาได้แต่งตั้งหยางเส้าเฉินขึ้นเป็นชินอ๋อง"ท่านพ่อเจ้าคะ อุ้มข้าหน่อยเจ้าค่ะ"หยางเส้าเฉินมอง
อวิ๋นเสวียนผู้เป็นบิดารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าองค์หญิงผู้นี้จะกล้าเข้ามากอดรัดนัวเนียอยู่กับบุตรชายของเขาอวิ๋นหลัวซีมองบิดาของเขาด้วยสายตาเย็นชาครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากพูด"ลูกเป็นคนพาซูหนี่ว์มาเองขอรับ""อาหลัว เหตุใดเจ้าจึงบังอาจเรียกชื่อองค์หญิงเช่นนี้!!!"อวิ๋นหลัวซีมีสีหน้าเรียบเฉย ส่วนหยางซูหนี่ว์ที่กอดแขนอวิ๋นหลัวซีอยู่นั้นก็จ้องมองอวิ๋นเสวียนด้วยรอยยิ้มตาหยี"ท่านพ่อสามีไม่ต้องเกรงใจไปเจ้าค่ะ ข้ากับอาหลัวเราก็เหมือนคนคนเดียวกัน เรียกชื่อเพียงเท่านี้เรื่องเล็กน้อยเจ้าค่ะ"จินรั่วอวิ๋นลอบปรายตามองหยางซูหนี่ว์ ช่างกล้านัก นางที่เป็นว่าที่คู่หมั้นยังไม่ใจกล้าเท่านางเลย"เอ่อ นี่ก็เย็นมากแล้ว รับสำรับกันเถิด อาหลัวท่านแม่ของเจ้าเล่า?"ท่านแม่ไม่สบายขอรับ กำลังนอนพักอยู่ในเรือน ลูกให้คนนำสำรับเย็นไปให้แล้วขอรับ""อืม เด็กๆ จัดโต๊ะอาหาร"ไม่นานอาหารก็ถูกยกขึ้นมาวางเต็มโต๊ะ อวิ๋นหลัวซีคีบอาหารให้หยางซูหนี่ว์อย่างใส่ใจ จินรั่วอวิ๋นที่เห็นเช่นนั้น ทำได้เพียงลอบกัดฟันกรอด"ท่านพี่หลัว ลองชิมสาลี่นี่ดูหน่อยเถิดเจ้าค่ะ เป็นสาลี่ที่เก็บมาจากบ้านสวนบนเขาของตระกูลจ
หยางซูหนี่ว์ใช้ชีวิตอยู่ในวังด้วยความเบื่อหน่าย วันๆ นางต้องทนเรียนการเย็บปักถักร้อย งานวาดภาพ อ่านตำราสอนหญิง มันเป็นสิ่งที่นางไม่ถนัดและไม่มีใจรักในด้านนี้"องค์หญิงเพคะ อีกครู่หนึ่งแม่นมฉางจะเข้ามาสอนองค์หญิงปักผ้าเช็ดหน้าลายดอกเหมยนะเพคะ"กลอกตาไปมาก่อนจะมองหมิงหยวนด้วยสายตาเบื่อหน่ายอีกครั้ง สำนักดูดวงเชียนเซียงเริ่มเปิดกิจการภายใต้การดูแลของหรงจิง ตอนนี้หมอนั่นฝีมือก้าวหน้าไปไม่น้อย ถึงแม้จะไม่ได้เก่งกาจเท่าหยางซูหนี่ว์ แต่ก็ไม่ไปปล่อยผีออกมาเดินเล่นอย่างคราวก่อนอีก หยางซูหนี่ว์เองก็ไปที่สำนักดูดวงบ้างเป็นบางครั้ง ผู้คนต่างรู้หมดแล้วว่าแท้จริงแม่หมอผู้เก่งกาจคือองค์หญิงหยางซูหนี่ว์ พวกเขาจึงยกย่องนางราวเทพธิดาและแวะเวียนมาที่สำนักดูดวงเชียนเซียงทุกวันหวังจะได้ชื่นชมพระบารมีขององค์หญิง"วันนี้ข้าจะไม่เรียนเย็บปักอะไรทั้งสิ้น ไปเตรียมชุดนางกำนัลมาข้าจะออกนอกวัง""แต่องค์หญิงเพคะ""หากเจ้ายังห้ามข้าอีก ข้าจะสั่งให้ผีมาหลอกเจ้าทั้งวันทั้งคืน!!! ""โอ๊ยย!!! องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันยอมแล้วเพคะ""ดีมาก ไปเตรียมชุดให้ข้า หากแม่นมฉางมาบอกให้นางกลับไปก่อนวันนี้ข้าไม่มีอารมณ์เรียน"หยางซูหนี
เสี่ยวหงเดินตามเสียงที่เรียกนางไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางเมฆหมอกที่ขมุกขมัว พลันปรากฏร่างของสตรีนางหนึ่ง แต่งกายงดงามราวกับเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ ใบหน้าละม้ายคล้ายกับนางไม่มีผิดเพี้ยน"เจ้าคือ?""ข้าคือเจ้า และเจ้าก็คือข้า""เจ้าคือเสี่ยวหง?"หญิงสาวตรงหน้าเผยรอยยิ้มอ่อนหวานสะกดสายตา นางส่ายหน้าไปมา ก่อนจะมองเสี่ยวหงอีกครั้ง"ข้าคือหยางซูหนี่ว์ ชื่อของข้าคือหยางซูหนี่ว์ พระธิดาของฮ่องเต้หยางเฉิงเยี่ย"เสี่ยวหงขมวดคิ้วมุ่น นางเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว ฉับพลันความรู้สึกมากมาย เรื่องราวต่างๆ ภาพความทรงจำในอดีตก็ได้หวนกลับมาอีกครั้งแท้จริงแล้วนางคือองค์หญิงหยางซูหนี่ว์ที่หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน"ข้าสูญเสียความทรงจำจากเหตุการณ์ร้ายแรงในครั้งนั้น""เจ้าจะกลับมาทวงร่างเดิมหรือ?"หยางซูหนี่ว์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยื่นมือไปจับมือของเสี่ยวหงเอาไว้"ข้าต้องไปแล้ว ฝากเจ้าดูแลเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ของข้าด้วย ใช้ชีวิตให้มีความสุข อยู่กับชายที่เจ้ารัก เจ้าทำให้ช่วงชีวิตของข้าที่แสนเศร้าและทุกข์ทรมานแปรเปลี่ยนเป็นความงดงามจนข้าเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ขอบใจเจ้ามาก เจ้ารีบกลับไปเถิด"หยางซูหนี่ว์ใช้มือผลักที่ไหล่ข
อวิ๋นหลัวซีพาเสี่ยวหงขึ้นขี่หลังม้าห้อตะบึงจนออกมานอกเขตเมืองหลวงโดยใช้ป้ายรองแม่ทัพของเขาจึงไม่เป็นที่สงสัย พวกเขาสามารถออกมาจากเมืองหลวงได้ทันเวลาก่อนที่หยางเส้าเฉินจะส่งคนตามมาทันจวนตระกูลอวิ๋นถูกสั่งกักบริเวณทันทีหลังจากมีประกาศจับอวิ๋นหลัวซีและเสี่ยวหง อวิ๋นเสวียนเอาแต่โทษตนเองว่าเป็นความผิดของเขาที่บีบบังคับบุตรชายจนต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ส่วนฮูหยินเอกจวนโหวเมื่อทราบข่าวว่าอวิ๋นหลัวซีกลายเป็นนักโทษตามจับของฝ่าบาทก็เป็นลมแล้วเป็นลมอีกจนบ่าวในเรือนต้องช่วยกันดูแลวุ่นวายไปทั้งจวนด้านฮูหยินรองหลันเยียนก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากอย่างมีความสุข ถือโอกาสสาปแช่งทั้งสองแม่ลูกให้ตกตายไปพร้อมกันเสีย จวนตระกูลโหวรวมถึงตำแหน่งซื่อจื่อก็จะได้ตกเป็นของนางกับอวิ๋นหลงเยียนบุตรชายอันเป็นที่รักยิ่งของนาง"ท่านพ่อ ท่านพี่จะปลอดภัยใช่หรือไม่ขอรับ""พี่เจ้าเป็นคนเก่ง เขาจะต้องปลอดภัย พ่อเชื่อมั่นในตัวพี่ชายเจ้าเสมอ"อวิ๋นหลงเยียนพยักหน้า เขาเองก็เชื่อมั่นในตัวของอวิ๋นหลัวซีพี่ชายคนนี้ของเขาเช่นกัน"แย่แล้วขอรับนายหญิง ฮ่องเต้ทรงประกาศจับพวกท่านทั้งสองคนขอรับ"มู่มู่กระโดดออกมาจากต้นไม้ มองดูเสี่ย
หลิวเย่ว์หลีหันมามองหน้าเสี่ยวหงก่อนจะรีบเตรียมผละออกไป เสี่ยวหงร้อนใจเป็นอย่างยิ่งจึงรีบคว้ามือของหลิวเย่ว์หลีเอาไว้"ใจเย็นๆ ก่อนนะ ข้าจะไปดูสถานการณ์ก่อน หากเกิดอะไรขึ้นข้าจะรีบให้คนมาแจ้งแก่เจ้า""เจ้าค่ะ"หลิวเย่ว์หลีพยักหน้าก่อนจะรีบเดินตามนางกำนัลออกมา ระหว่างทางก็สอบถามเรื่องราวไปด้วย"เรื่องราวเป็นมาเช่นไร? รองแม่ทัพอวิ๋นเข้าวังมาขอยกเลิกพระราชทานสมรสด้วยตนเองเชียวหรือ?""เพคะพระชายา รายละเอียดบ่าวเองก็ไม่ทราบแน่ชัดเพคะ"หลิวเย่ว์หลีพยักหน้าด้วยความร้อนใจ นางเองก็จนปัญญาที่จะช่วยเหลือ ในเมื่อเป็นรับสั่งของฝ่าบาทเช่นนั้นคงจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามลิขิตของสวรรค์เสียแล้วห้องทรงพระอักษร"เจ้าช่างกล้าดียิ่งนัก คิดว่าเป็นคนโปรดของเรา แล้วจะฝ่าฝืนคำสั่งเช่นไรก็ได้อย่างนั้นหรือ?""หามิได้พ่ะย่ะค่ะ แต่ที่กระหม่อมต้องมาทูลขอความเมตตาจากฝ่าบาทด้วยตนเอง เพราะกระหม่อมมีสตรีในดวงใจอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ""เหลวไหล!!! เจ้าแต่งจินรั่วอวิ๋นเป็นฮูหยินเอก แล้วเจ้าก็ค่อยแต่งสตรีผู้นั้นเป็นอนุก็ย่อมได้!!!""ทูลฝ่าบาท กระหม่อมต้องการแต่งสตรีผู้นั้นเป็นภรรยาเพียงคนเดียวพ่ะย่ะค่ะ!!!"ฮ่องเต้หยางเฉิงเยี่ยวา