“แต่งงานกับพี่นะ”
“ฮึก~ ค่ะ.. แต่งค่ะ”
สิ้นสุดฉากขอแต่งงานแสนโรแมนติกท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้อง ตามด้วยเสียงโห่ร้องและปรบมือร่วมยินดีกับคู่รักที่กำลังสวมแหวนให้กัน บรรยากาศการขอแต่งงานกลางคลับหรูใจกลางเมืองช่างแสนโรแมนติกและน่าอิจฉาอะไรปานนั้น แล้วทั้งสองก็ประกบจูบดูดดื่มแลกน้ำลายกันอย่างไม่แคร์สายตาใคร
ส่วนฉันที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลก็ได้แต่เบ้ปากมองบน เหอะ! ผีเน่ากับโลงผุชัด ๆ เชิญไปรักกันให้ตายเลยเถอะค่ะ อีนรก!
ทั้งอวยพรและสรรเสริญแฟนเก่ากับชู้รักที่ยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานข้าวหมา ที่ตอนนี้ได้เลื่อนสถานะเป็นว่าที่ภรรยาอยู่ในใจ
“ปากคว่ำจนสันนิบาตกินหน้าไปครึ่งซีกแล้วจ้ะเพื่อนจ๋า เบาได้ก็เบานะ” เสียงเพื่อนชายใจเป็นสาวอย่างแบมพูดแซะ จนต้องหันควับค้อนตาใส่
“สันนิบาตอะไรล่ะ ออกจะสวยขนาดนี้” ตอกกลับไปอย่างมั่นหน้า พร้อมโพสต์ท่าประหนึ่งมิสแกรนด์จนเพื่อนที่มาด้วยกันออกอาการหมั่นไส้ แต่เพราะสนิทและรู้นิสัยกันดีเลยไม่มีใครว่าอะไร เอาแต่กลอกตาแล้วส่ายหน้าเอือมระอาให้เหมือนทุกครั้งที่ฉันอวยตัวเองนั่นแหละ
“สวยให้ห้ามั่นหน้าให้ล้าน”
“ก็สวยจริงอะ ไอ้เวรนั่นมันตาถั่วทิ้งพี่ไปได้ไงก็ไม่รู้เนอะ”
อืม ยกเว้นไว้คนหนึ่งที่ไม่เคยด่า ยังเอาแต่อวยตลอดก็ไม่พ้นน้องแจ๊ครุ่นน้องร่วมอาชีพคนนี้
“น่ารัก” ฉันหยิกแก้มขาวเบา ๆ เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับเขินจนหน้าแดง เข้าใจอยู่นะว่าฉันมันสวย รวย เก่ง เพอร์เฟกต์ขนาดนี้คงไม่แปลกถ้าใครจะชอบ ยกเว้นไอ้บ้านั่นที่เพิ่งมีฉากขอแต่งงานไปเมื่อกี้ กล้าดียังไงถึงเขี่ยฉันทิ้งแล้วไปขอผู้หญิงคนใหม่แต่งงานได้ภายในเวลาไม่กี่เดือนกัน
นี่ใคร! นี่หมอหงส์ กรรวีเลยนะเว้ย
อกหักไม่เจ็บเท่าเสียหน้า ทั้งเจ็บทั้งอายที่มันทิ้งฉันก่อนแถมยังชิงแต่งงานตัดหน้าอีก ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เพียงเพราะไม่ยอมมีอะไรด้วย แถมโดนบรรดาพี่ชายตัวดีส่งคนไปขู่สั่งสอนที่มาแอบคบกับฉัน แค่นั้นเนี่ยนะ!
คนเราถ้ารักกันจริงอุปสรรคแค่นี้หรือแค่ไหนก็ต้องอดทนฝ่าฟันไปด้วยกันได้ แต่นี่อะไรกันไม่ทันไรก็ไม่ทนแล้ว ดีนะที่คบกันได้แค่ไม่กี่เดือน และดีนะที่ถึงฉันจะแรดยังไงแต่ก็ยังมีความยับยั้งชั่งใจไม่ยอมปล่อยตัวไปมีอะไรด้วยง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นคงเสียดายของแย่
“ไปห้องน้ำก่อนนะ” บอกเพื่อนสนิทก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ไปแอบร้องไห้ที่โดนผู้ชายเทเหรอคะ” เฟิร์นหันมาพูด
“โอ๊ย สาบานว่ามึงไม่รู้จักกู” รู้ว่าเพื่อนแซวเล่นขำ ๆ แต่ตอนนี้ฉันขำไม่ออกไง
พวกมันรู้ดีว่าฉันไม่ได้รักอะไรไอ้ธิตนั่นมากมาย แต่ที่คบก็เพราะว่าอยากลองมีแฟนดูบ้างสักครั้ง โพรไฟล์หมอนั่นพอใช้ได้ ทำงานเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวะฯของมหาวิทยาลัยชื่อดังในภาคใต้ที่เป็นเครือเดียวกันกับโรงพยาบาลที่ฉันทำงานอยู่ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปมาหาสู่กันง่ายเลยตกลงลองคบดู
เมื่อก่อนเรียกพี่ธิตเพราะแก่กว่าฉันตั้งห้าปี แต่ตอนนี้ขอเรียกไอ้เพราะเกลียดมันเข้าไส้แล้ว
“เออๆ รู้หรอกน่า แค่หยอกเล่นปะล่ะ ปะ! กูไปเป็นเพื่อน” เฟิร์นลุกขึ้นคล้องแขนฉันแล้วทำปากยื่นแก้มป่องใส่
“น่ารักตายแหละอิผี” พูดแล้วก็ยกนิ้วชี้ไปจิ้มนมเพื่อนด้วยความหมั่นไส้คนอะไรนมใหญ่น้อยกว่าลูกมะพร้าว
“นี่มึงปวดฉี่ด้วยหรือแค่อยากเดินไปอ่อยผู้ เอาดี ๆ” จูนที่นั่งจิ้มมือถือส่งข้อความด่าสามีอยู่นานสองนานเงยหน้าขึ้นถามเฟิร์น คู่นี้กัดกันเป็นเรื่องปกติ
ไม่ใช่แค่คู่นี้สิ เรียกว่ายกแก๊งเลยดีกว่า เป็นแก๊งหมอที่ปากหมายกกลุ่มก็ว่าได้ สำหรับคนนอกพวกเราจะวางตัวสุภาพเชื่อถือได้ ด้วยเพราะอาชีพหน้าที่การงาน สังคมที่บ้านหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อรวมกลุ่มกันมันก็จะเป็นตัวเองอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ โปรดอย่าถือสาในความหยาบโลน
“โอ๊ย มองกูดี ๆ หน่อยก็ได้แมะ ก็แค่ห่วงเพื่อนปะล่ะ เดี๋ยวแม่งก็โดนลากไปปล้ำอีกหรอก”
“มึงก็เลยจะเสนอหน้าให้โดนปล้ำแทนว่างั้น”
“ไม่อะ กูจะจับเขาปล้ำเองมากกว่า” แล้วเพื่อน ๆ ฉันก็แซวกันตามประสา เสียงดังลั่นจนโต๊ะข้าง ๆ หันมามองแล้วหัวเราะด้วย
หลายวันมานี้เธอก็กินเยอะกว่าที่เคยกินปกติแล้วด้วยซ้ำ เธอพยายามกินให้เยอะกว่าเดิมเพื่อเพิ่มน้ำหนักตามที่คุณหมอสั่ง ตั้งแต่วันที่เขาพาเธอไปฝากครรภ์หญิงสาวก็พยายามทำทุกอย่างที่ควรทำ เพราะรู้ตัวว่าก่อนหน้าตัวเองละเลยการดูแลตัวเองมากเกินไป ไหน ๆ ก็ตั้งใจจะให้เขาเกิดมาแล้วเธอก็อยากทำหน้าที่ให้ดีตั้งแต่ตั้งครรภ์ช่วงแรกเธอแพ้ท้องค่อนข้างหนักจนน้ำหนักลดฮวบ อาจจะเพราะความเครียดผสมร่วมด้วยกระมัง เพิ่งหายจากอาการแพ้ท้องขึ้นมาหน่อยก็เดือนหลัง แม้จะมีอาการบ้างนาน ๆ ครั้ง แต่เมนูไข่ที่เคยเลี่ยงมาตั้งหลายวันเธอกินไม่ไหวเพราะมันคาวเกินไปวันนี้รู้สึกเบื่ออาหารด้วยเลยกะว่าจะแบ่งรับประทานเป็นมื้อย่อยแต่หลายมื้ออย่างที่เคยอ่านเจอมา ทว่าฮาซีฟก็มาบังคับเธออีกจนได้ไม่ชอบ! ทำไมต้องบังคับ อยู่ ๆ คาริสาก็เกิดน้อยใจ อารมณ์ที่ไม่คงที่เนื่องจากการตั้งครรภ์ทำหญิงสาวข่มกลั้นทำนบน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ เธอนั่งร้องไห้จนฮาซีฟรู้สึกผิด เขาเดินตามมาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ“ขอโทษ... ก็คุณกินน้อยไป” เสียงทุ้มแผ่วเบา ใบหน้าหดเหลือสองนิ้ว“ริสาไม่อยากกินออมเล็ต ไม่ชอบกินเมนูไข่” คนน้อยใจจนร้องไห้พึมพำแล้วส่งค้อนให้“แต่ปกติคุณชอบนะ
การใช้ชีวิตกับคาริสาบอกเลยว่าไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินที่เคยคาดหมาย แม้จะรู้ว่าหญิงสาวตั้งใจเรื่องมาก เรื่องเยอะ เอาแต่ใจเพราะอยากยั่วโมโหเขาหรือทดสอบประสาททดสอบความอดทนอะไรก็ตาม ฮาซีฟยังรับมือไหว!วันนี้ชายหนุ่มเลยรีบตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหารไว้รอรับมือกับว่าที่คุณแม่เรื่องเยอะอย่างคาริสา เรียกได้ว่าครบทั้งห้าหมู่ หลากหลายเมนูไว้ดักทางคนเรื่องมากเอาแต่ใจ มีทั้งที่ลงมือทำเองและเมนูที่สั่ง วางเรียงรายจนล้นโต๊ะถึงขั้นต้องลากโต๊ะอีกตัวมาต่อเพิ่มเพื่อจะวางของกินอวดหญิงสาวได้“รวยมากมั้ง” คาริสาเดินลงจากชั้นสองมาก็ยืนกอดอกกวาดมองสารพัดเมนูบนโต๊ะแล้วถอนหายใจ ทำแบบนี้คิดเหรอว่าจะเอาชนะเธอได้ เหอะ!“ไม่รวยมาก แต่เลี้ยงคุณไหว” เลี้ยงลูกด้วย มีเพิ่มสักสิบคนยังเลี้ยงได้“เลี้ยงได้สักกี่วันเถอะ” เห็นเขาตอบเสียงนิ่งหน้าหยิ่ง ๆ ท่าทางมั่นใจในตัวเองแบบนั้น คิดว่าเท่มากมั้ง น่าหมั่นไส้!“หึ” ลองอยู่กับเขารอดูไปนาน ๆ สิว่าเขาจะสามารถเลี้ยงเธอกับลูกได้นานขนาดไหน ชายหนุ่มคิดในใจแต่ไม่ได้เอ่ยออกไป“รีบกิน เดี๋ยวสาย” ชายหนุ่มบอกพลางเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่งลงแต่โดยดี วันนี้มีนัดตรวจครรภ์อีกครั้ง
“ไม่ใช่ว่าคุณทำงานผิดกฎหมายหรอกใช่ไหม” เท่าที่รู้มาคือเรวัตยุ่งเกี่ยวกับงานสีเทา ฮาซีฟจะรอดได้อย่างไรในเมื่อเป็นลูกน้องกัน เมื่อก่อนเธออาจไม่ถือสา ทว่าตอนนี้มีลูกแล้วเธอไม่อยากเอาตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับของไม่ดีพวกนั้น“เพ้อเจ้ออะไรของคุณ” ชายหนุ่มเหลือบมองคนข้างกายด้วยหางตาแล้วนึกขำโอเวอร์ชะมัด!เขาเป็นเด็กกำพร้า พ่อติดคุกและเสียชีวิตไปตั้งแต่วัยเยาว์ก็จริงอยู่ ทว่าท่านก็ทิ้งสมบัติชิ้นสุดท้ายไว้ให้เป็นที่ดินผืนใหญ่ เมื่อก่อนอาจจะไม่มีราคาเพราะเป็นที่ดินตาบอดทว่าเมื่อเวลาผ่านไปมีการสร้างถนนตัดผ่านเส้นนั้น เท่ากับเขาได้รับจำนวนเงินมหาศาลเมื่อหลายปีก่อนที่แบ่งขายไปที่ดินยังมีเหลืออยู่เกินครึ่ง เป็นจำนวนหลายร้อยไร่ มีเงินในบัญชีที่สั่งสมมานานหลายปี เขาทำงานกับเรวัตมานาน เติบโตมาด้วยกัน เป็นมือขวาที่จัดการให้แทบทุกอย่าง เท่ากับค่าตัวเขาแพงกว่าใครทั้งนั้น แม้ส่วนใหญ่จะเป็นงานสีเทา และแน่นอนว่ามันไม่ถูกกฎหมายเท่าไหร่อย่างที่คาริสานึกสงสัย แต่มันผ่านมาแล้วเขากินอยู่กับเรวัตไม่เคยมีเรื่องเดือดร้อนเรื่องเงินเลยสักครั้งเพราะได้เงินพิเศษประจำ ลำพังไม่ใช่คนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายด้วยเพราะตัวคนเดียว
ชายหนุ่มพาหญิงสาวไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ พร้อมตรวจทุกกระบวนการตามขั้นตอนทั้งตัวคุณแม่และคุณพ่อเองก็ตรวจด้วยเพื่อความปลอดภัยของเด็กในครรภ์ จะได้ดูความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทางกรรมพันธุ์ซ้ำยังตั้งใจเลือกแพ็กเกจคลอดไว้ล่วงหน้าเสร็จสรรพ ฮาซีฟเลือกเองเสร็จสรรพโดยที่คาริสาแทบไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไรทั้งนั้นเพราะเขาเลือกในแบบที่ดีที่สุดไว้ให้และตรงใจเธอราวกับรู้ใจก็ไม่ปานจนเมื่อหญิงสาวได้มานอนอยู่บนเตียงเพื่อรออัลตราซาวนด์ความตื่นเต้นและประหม่าไม่รู้หลั่งไหลมาจากไหน มือบอบบางเย็นจัดทว่าชุ่มไปด้วยเหงื่อเผลอไปคว้ามือหนาของคนข้างกายมาจับไว้คลายความประหม่าฮาซีฟเห็นปฏิกิริยาของคาริสาเขาก็คอยกุมมือหญิงสาวไว้ ยืนเป็นเพื่อนอยู่ข้างเตียง มองทุกขั้นตอนตั้งแต่ที่พยาบาลเปิดหน้าท้องขาว ๆ ที่เริ่มเห็นชัดว่านูนขึ้นมาจากเก่ามากพอสมควร จนถึงขั้นตอนบีบเจลทั่วบริเวณท้องช่วงล่าง ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำคาริสาแอบสะดุ้งจนเผลอบีบมือหนาที่กุมอยู่ฮาซีฟยิ้มเอ็นดูใบหน้าซีด ๆ ของหญิงสาวทั้งที่ดวงตากลมโตแวววาวเป็นประกายตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดเขาเปลี่ยนเป็นกุมประสานมือเธอไว้หนึ่งข้าง มืออีกข
สายลมยามเย็นพัดปะทะหน้าเอื่อย ๆ บวกกับความสงบเงียบของบ้านพักตากอากาศแบบส่วนตัวทำเอาคนที่มีอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทาง การร้องไห้อย่างหนักร่วมด้วยอาการของคนท้องเข้าไตรมาสสองเอนกายนั่งพักตรงที่นอนหวายริมระเบียงเผลอหลับไป รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงนุ่มมีผ้าห่มคลุมกายในห้องนอนเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำที่สำคัญยังมีร่างสูงของเจ้าของบ้านนอนเหยียดกายอยู่บนโซฟาในท่าเอามือก่ายหน้าผาก ขายาว ๆ ของเขาเลยความยาวของโซฟาไปมากอยู่“ตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม เขารู้สึกตัวทันทีที่คาริสาขยับลุกเพราะเขาเองเพียงแค่หลับพักสายตาหลังจากที่ชายหนุ่มหายไปร่วมสองชั่วโมงเขาก็กลับมาพร้อมกับข้าวของมากมาย เป็นเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของทั้งคาริสาและตัวเขาเองเพราะทั้งคู่ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาทั้งนั้น ขึ้นมาหาเธอในห้องก็พบว่าสาวเจ้าหลับตากลมอยู่เขาเลยจัดการอุ้มเข้ามานอนดี ๆ“หิวรึยัง” มองเวลาก็ปาไปเที่ยงคืนกว่า เขาหยิบน้ำวิตามินซียี่ห้อดังมาเปิดฝาแล้วส่งให้หญิงสาว คาริสารับมาแบบงง ๆ หากก็ยอมยกดื่มอย่างที่ทำประจำ เธอปวดหัวทุกครั้งเวลานอนตอนเย็นแล้วตื่นค่ำ และน้ำวิตามินซีที่มีรสชาติเปรี้ย
รถคันหรูจอดนิ่งสนิทที่บ้านสองชั้นหลังสีขาว ขนาดไม่เล็กมากแต่ก็ไม่ได้ใหญ่จนเกินไป มีสามห้องนอนสามห้องน้ำ ข้างนอกดูเหมือนจะเป็นทรงเรือนไทยประยุกต์ แต่ข้างในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นค่อนข้างทันสมัย ที่สำคัญคือตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาคาริสามองบ้านหลังตรงหน้านิ่ง ๆ จนฮาซีฟลงจากที่นั่งคนขับเดินอ้อมรถไปเปิดประตูให้หญิงสาว เธอไม่สนจะเดินสำรวจรอบตัวบ้าน แค่กวาดตามองผ่านๆ แล้วเดินตามชายหนุ่มเข้าไป“นี่เป็นบ้านพักตากอากาศของ...”“ของใคร?” เขาพูดไม่ทันจบประโยคคาริสาก็รีบถาม ไม่ใช่ของเรวัตใช่ไหม ถ้าใช่เธอไม่อยู่เด็ดขาด!“ของผม” ฮาซีฟตอบสั้น ๆ ไม่คิดขยายความหรอกว่าได้บ้านหลังนี้มาจากใคร แม้เดิมทีจะเป็นบ้านเรวัตแต่ในเมื่อโอนเป็นชื่อเขาแล้วก็ย่อมเป็นของเขา “สบายใจเถอะ คุณอยู่ที่นี่ได้”“แล้วไป” หญิงสาวเดินหน้าคว่ำไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้องรับแขก“นั่งเบา ๆ หน่อยได้ไหม” ฮาซีฟต่อว่า คาริสาก็ค้อนตาใส่“กลัวโซฟาจะบุบสลายรึไง” ทำไมต้องดุด้วย หญิงสาวบ่นอุบแล้วลุกหนีขึ้นบนชั้นสองทำคนตัวสูงถอนหายใจ เขาห่วงเธอต่างหาก กลัวเด็กในท้องกระทบกระเทือนฮาซีฟเดินตามไปและแนะนำห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นและส่วนต่าง