หน้าหลัก / รักโบราณ / หงส์เหนือพันธการ / บทที่ ๔/๑ ขนมเปี๊ยะไส้เหมยกุ้ยฮวา

แชร์

บทที่ ๔/๑ ขนมเปี๊ยะไส้เหมยกุ้ยฮวา

ผู้เขียน: KUNNUK
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-03 20:24:00

สายลมวูบหนึ่งพัดมาปะทะผิว ทำให้อวี่เทียนเหมยต้องเงยหน้าขึ้นมาจากมือของตนเองที่กำลังนวดแป้งอยู่ จ้องมองออกไปทางหน้าต่าง เห็นว่าเริ่มมีแสงอาทิตย์เลือนรางปรากฏ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ดวงอาทิตย์คงขึ้นจากขอบฟ้ามาทำหน้าที่

เวลาคืบคลานใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หากเป็นเมื่อก่อน นางต้องตระหนกรีบเร่งลงมือแล้ว ด้วยเกรงว่าจะไม่ทันการ ไหนเลยจะก้มหน้าทำขนมต่อไปอย่างใจเย็นได้ดังเช่นยามนี้ ประสบการณ์ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า รีบไปก็ไม่ได้อะไร เขาไม่ให้เข้าพบอยู่ดี...

กลิ่นหอมของเหมยกุ้ยฮวา อบอวลไปทั่วห้องครัว อวี่เทียนเหมยสูดลมหายใจเข้าลึก รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที นางชอบกลิ่นหอมของดอกไม้

ทุกคนรอบตัวล้วนประหลาดใจ นางถูกตั้งชื่อโดยมีที่มาจากเหมยฮวา ทว่าตัวนางเองกลับชื่นชอบเหมยกุ้ยฮวามากกว่าดอกไม้ชนิดใด

อากาศเย็นจนเริ่มปรากฏน้ำค้างสีขาวบนใบไม้ให้เห็น เหมยกุ้ยฮวาเป็นดอกไม้ที่ชอบอากาศเย็น ช่วงนี้อีกไม่นานคงมีหิมะ เหมยกุ้ยฮวาชุดสุดท้ายที่บานก่อนเข้าหน้าหนาว จึงถูกนางเก็บมาทำขนมเสีย

สวนดอกไม้ของอวี่เทียนเหมย ยามนี้มีเพียงกิ่งก้าน อดทนให้ผ่านพ้นฝนและความหนา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๕/๕ ใบจูอี๋ว์

    ถ้อยคำดูหมิ่น เสียงหัวเราะขบขัน อวี่เทียนเหมยเถียงไม่ได้ จะแก้ต่างเล่าเรื่องเท็จให้ตนเองก็ละอายแก่ใจ เพราะต่อให้ผู้คนจะพูดกันเกินเรื่องไปหน่อย เลอะเทอะไปบ้าง แต่พื้นฐานโดยหลักแล้ว ความจริงที่ว่า ไท่จื่อไม่โปรดนางตั้งแต่พบหน้าครั้งแรกก็เป็นความจริง เสียงประกาศพระราชโองการของเสิ่นกงกง เรียกตัวอวี่เทียนเหมย บุตรีราชครูอวี่เข้าวังหลวง ให้เป็นกำลังหลักช่วยไทเฮาจัดงานร่ำสุราชมจวี๋ฮวา ดังออกมาภายนอกกำแพงจวนตระกูลอวี่ เพียงเท่านี้ก็เป็นหลักฐานยืนยันอันแน่ชัด มงกุฎหงส์มีเพียงนางที่ได้รับอนุญาตให้สวมใส่ สิ่งที่หูได้ยินอาจไม่ใช่เรื่องจริง แต่สิ่งที่ตาเห็นจะปฏิเสธไม่ได้! งานชมดอกไม้ ก็ต้องให้ดอกไม้งาม อวี่เทียนเหมยเลือกจะแต่งตัวให้ดูน่าทะนุถนอม และน่ารักมากหน่อย แทนการแต่งกายให้สวยงามสง่าดังที่ชอบ เกรงว่าตนเองนั้นจะงามเกินไป จนดอกไม้ไม่กล้าชูช่อ เกิดเป็นวลี ‘มวลผกาละอายนาง’ ผ่านเข้าหูอีก เจียถิงมองหน้าคุณหนูผ่านกระจก ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากเจ้าตัว ก็รู้ว่าอารมณ์ดีมากทีเดียว คุณหนูนั้นเป็นเช่นนี้เสมอมา ในหัวมากด้วยความคิด ทว่าทุกความคิดนั้นล้วนเก็บไว้ในใจ ยากจะเอ่ยปากใ

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๕/๔ ใบจูอี๋ว์

    กระดาษในมือโม่เทียนอวี่ หมึกแห้งแล้ว จึงถูกม้วนเก็บเข้าให้เรียบร้อย เจี้ยนฉางกำลังจะรับไปส่งให้เฉินอวี้ โม่เทียนอวี่ไม่รอ ความโกรธถูกระบายลงที่สหาย พญามัจจุราชขว้างม้วนกระดาษพุ่งตรงไปที่เฉินอวี้แทนการให้เจี้ยนฉางไปส่งถึงมือ อีกฝ่ายร้องด่าเขาลั่น คงหมดความอดทน รีบเดินออกไปพร้อมม้วนกระดาษที่คว้าไว้ได้ทันที เจี้ยนฉางพิจารณาสีหน้าของผู้เป็นนาย องครักษ์รับใช้มานานจนคาดเดาอารมณ์ได้ แม้จะไม่เข้าใจในการกระทำ และความคิดอันย้อนแย้งกันของไท่จื่อก็ตามที เห็นอยู่ทุกวันว่าแอบมองสาวงามผ่านหน้าต่าง แต่กลับไม่ยอมให้เข้าพบเสียที ที่สำคัญคือเฝ้ามองอย่างไรกัน ไฉนจึงไม่รู้ว่าคนงามแซ่อวี่ ไม่มาที่ตำหนักบูรพาหลายวันแล้ว เจี้ยนฉางหยิบขนมหนึ่งชิ้นที่ยังเหลืออยู่ ยื่นส่งให้อย่างรู้ใจ ไท่จื่ออยากกินแต่ไม่กิน แล้วยังไม่พอใจที่คนอื่นได้กิน ทั้งที่ตนเองได้รับมากกว่าใครทั้งสิ้น เลือกจะไม่กินเอง แล้วมาใส่อารมณ์ไม่พอใจที่คนอื่นได้กิน อย่างนี้เรียกว่าพาลไปทั่ว! โม่เทียนอวี่สบตากับเจี้ยนฉาง นึกสงสัยขึ้นมาว่าเขายังไม่ได้พูดความต้องการออกไป เหตุใดเจี้ยนฉางจึงรู้ความคิดได้ ตัดสินใจไม่รับขนมท

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๕/๓ ใบจูอี๋ว์

    ที่นี่คือวังหลวง แต่ในค่ายทหารนั้น ทุกคนในห้องล้วนผ่านความตายมาอย่างเท่าเทียมกัน และเพราะทั้งหมดในที่นี้ล้วนเป็นทหาร สิ่งใดทำเองได้ก็ควรทำ ไม่ใช่ทิ้งให้เป็นภาระของผู้อื่น เฉินอวี้ยึดถือในข้อนี้ เขาจึงดึงผ้ามาจากมือของถางจี้ เช็ดทำความสะอาดพื้นด้วยตนเอง ถางจี้ยืนนิ่งไม่ขัดขืน และไม่ได้เข้าไปช่วยแต่อย่างไร เขายังมีความรู้สึกเคืองกุนซือเฉินอยู่บ้างเล็กน้อย องครักษ์ตัวโตเดินไปเก็บจานขนมซึ่งว่างเปล่า เอาไปเก็บแทน เฉินอวี้เช็ดพื้นจนสะอาดเรียบร้อย กำลังจะหย่อนตัวลงนั่ง ที่เก้าอี้ตัวเดิม ม้วนกระดาษก็ถูกส่งมาตรงหน้า เฉินอวี้ตาเขียวใส่เจี้ยนฉาง ‘รอให้นั่งได้เต็มก้นก่อนไม่ได้หรือไร’ บานแต่กระนั้นก็ยังรับเอาม้วนกระดาษมาคลี่ออกอ่าน ตรวจทานเนื้อหาชั่วครู่ แววตาลุ่มลึกลงเล็กน้อย เฉินอวี้เงียบไปก่อนจะยักไหล่แล้วส่งม้วนกระดาษคืนให้เจี้ยนฉาง เนื้อหาด้านในล้วนเป็นงานที่เขาได้รับมอบหมาย เฉินอวี้ไม่จำเป็นต้องพกพาคำสั่งติดตัวไว้ให้เป็นหลักฐาน ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม เขาชื่นชอบการจดจำผ่านสมองมากกว่า เฉินอวี้กลืนน้ำลาย ตั้งใจว่าจะสอบถามโม่เทียนอวี่เพิ่มเติม หาข้อถกเถียงอีกเล็กน้อยก่อนลงม

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๕/๒ ใบจูอี๋ว์

    เมื่อลำดับที่สอบได้คือที่หนึ่ง รวมกับผลงานก่อนหน้าคือการเป็นกุนซือ ชื่อเสียงนักปราชญ์น้อยยังเป็นที่เลื่องลืออีก ไม่อยากเก่งเท่าใดนัก แต่ห้ามความเก่งของตนเองไม่ได้ เส้นทางขุนนางของเฉินอวี้จึงก้าวหน้าไวกว่าใคร เริ่มต้นที่ตำแหน่งผู้เซ่อ เป็นรองเจ้ากรมสำนักราชเลขาธิการ อีกไม่กี่ปีเขาก็คงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นซ่างซูลิ่งตามรอยบิดาเป็นแน่ แต่หากย้อนเวลากลับไปได้ ต่อให้อยู่ชายแดนแล้วไม่มีข้าวกิน เขาก็จะอยู่ จะไม่ย่างเท้าเข้ามาที่ราชสำนักเด็ดขาด ทำงานอดิเรกอย่างไร เหตุใดจึงเหนื่อยมากมายเช่นนี้ เขาอายุยี่สิบสองปี อยากร้องขอสังขารคืนจากฝ่าบาท ละทิ้งตำแหน่งกลับจวนไปนอนหลับให้สบาย ใช้เงินทองที่มาจากกิจการของครอบครัวเสียให้อิ่มเอม หลังจากนั้นก็แต่งงานมีลูกกับเหนียนเหนียนคนรักของเขา ท่านพ่อไม่รู้ทำได้อย่างไร เขาเป็นเพียงรองหัวหน้า หาใช่เจ้าสำนัก หน้าที่ตามตำแหน่งมากล้นท่วมหัว หน้าที่เพิ่มเติมล้นท่วมตัว สองพ่อลูกแซ่โม่สายเลือดมังกร เพราะเป็นโอรสสวรรค์หรือ จึงแสร้งลืมเลือนไปเสียว่ามนุษย์ปกติ ต้องกินข้าวกินน้ำ ต้องมีเวลาพักผ่อน เฉินอวี้นับนิ้วมือหนึ่งวันมีสิบสองชั่วยาม ฝ่าบาทแ

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๕/๑ ใบจูอี๋ว์

    อวี่เทียนเหมยส่งยิ้มให้ขันทีน้อยตรงหน้า ไม่ลืมมอบสินน้ำใจให้อีกฝ่าย เห็นขันทีน้อยแสดงท่าทางดีใจ อวี่เทียนเหมยก็ยิ้มกว้างมากกว่าเดิม นางมองตามการเคลื่อนไหวของขันทีน้อยไปจนสุดสายตา ขันทีน้อยคนเมื่อครู่ถูกนางวานให้ไปส่งขนมที่ตำหนักบูรพา ช่วงนี้อวี่เทียนเหมยกำลังยุ่งมากทีเดียว งานที่ได้รับมอบหมายมาจากไทเฮาทำให้นางยากจะปลีกตัวไปไหนได้ ขันทีน้อยเมื่อครู่ยังเด็กนัก เขาจึงแตกต่าง รับอาสาทันทีเมื่อถูกไหว้วานให้ทำตามคำขอ ตรงข้ามกับเหล่าขันทีนางกำนัลทั้งหลายที่อยู่มาก่อนหน้า ล้วนไม่อยากทำหน้าที่นี้ ชวนให้หนักใจอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าเขาผู้นั้น องค์รัชทายาททำสิ่งใดกันแน่ ยามนี้ตำหนักบูรพากลายเป็นพื้นที่หวงห้ามอย่างสมบูรณ์ อย่าว่าแต่ก้าวเท้าเข้าไป แค่หันหน้าไปทางตำหนักบูรพา ผู้คนในวังหลวงก็นึกขยาดแล้ว เห็นจะมีคนบ้าดีเดือดก็เพียงแต่นาง รู้ว่าอันตรายก็ยังหาเรื่องไปอยู่ดี แม้ไม่ได้ไปด้วยตนเอง ก็หาคนมารับหน้าที่แทนจนได้ ขันทีน้อยไปตำหนักบูรพา นับดูได้เจ็ดวันแล้ว แขนขายังเหลือครบดีอยู่ อวี่เทียนเหมยคิดว่า เขาผู้เป็นเจ้าของตำหนักนั้น คงไม่โหดร้ายกับเด็ก นางแสดงความขอบคุณขันทีน้อย ด

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๔/๕ ขนมเปี๊ยะไส้เหมยกุ้ยฮวา

    “เช่นนั้นที่เหลือก็ให้ข้าเถอะ เว้นไว้แค่กล่องนั้นก็พอ” เฉินอวี้ขันอาสารับเอาขนมทั้งหมด อวี่เทียนเหมยชั่งใจเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้ เพียงแต่ว่าออกจะผิดจากความตั้งใจแรกของนางอยู่บ้าง เฉินอวี้หัวเราะร่วนเมื่อเห็นท่าทางลังเล เขาพูดด้วยเสียงที่เบาลง “ข้าจะเอาไปแจกให้ รับค่าจ้างเป็นขนมเปี๊ยะอีกชิ้นก็พอ” อวี่เทียนเหมยตาโตด้วยความดีใจ พยักหน้ารับข้อเสนอทันที ยื่นกล่องขนมในมือให้ใต้เท้าเฉินโดยไร้ความลังเลดังเช่นตอนแรก เฉินอวี้ทำตามคำพูด ขนมเปี๊ยะในกล่องถูกห่อด้วยแผ่นกระดาษบาง แกะออกมาจะพบขนมเปี๊ยะไส้เหมยกุ้ยฮวาที่มีกลิ่นหอม อร่อยจนเขาต้องขออีกหนึ่งชิ้นไปฝากพ่อครัวที่บ้านแกะสูตร เผื่อเอาไว้ทำขาย! หลังจากหยิบขนมส่วนของตนแยกออกไปแล้ว เฉินอวี้ก็หยิบขนมสี่ชิ้นออกมาด้วย เป็นธุระให้อวี่เทียนเหมยตามที่รับปาก เดินไปหาทหารยามสองคนหน้าประตู ทดลองจากกลุ่มคนที่ง่ายที่สุดก่อน อวี่เทียนเหมยนั่งรอใต้เท้าเฉินไม่นาน เขาก็กลับมามือเปล่า นางส่งยิ้มให้ทันที เขาพยักหน้าให้นาง แล้วบอกว่า “ตามข้ามา” ไม่ให้เข้าพบ แสร้งละเลย บุรุษไร้ยางอาย หาดีไม่ได้โดยแท้ เฉินอวี้นึกถึงคนที่อยู่ใ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status