ยี่หวาหลับตาลง ตอนนี้เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก และไม่มีทางลืมความเจ็บปวดในครั้งนั้น กว่าจะผ่านมาได้ มันทรมานเหมือนชีวิตและหัวใจถูกฉีกขาด และแยกออกเป็นส่วน ๆ หัวใจเธอแตกสลายครั้งแล้ว ครั้งเล่าเมื่อคิดถึงเขา กว่าจะค่อย ๆ เก็บชิ้นส่วนเหล่านั้น ต่อกลับเข้ามาใหม่ จนกลับมาใช้ชีวิตได้ ใช้เวลาเกือบห้าปี มันกำลังจะดีอยู่แล้ว แต่ทำไมวันนี้… เขาต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก
“คุณหมอคะ เรื่องมันผ่านมานานแล้วค่ะ ฉันไม่คิดจะติดใจอะไรอีก ทั้งความรู้สึกผิด แม้แต่หรือคำขอโทษ ก็ไม่อยากฟัง ทั้งคุณและฉัน ต่างก็เจ็บปวดกับเรื่องที่ผ่านมามากพอแล้ว ชีวิตคนเราต้องเดินไปข้างหน้า อย่าให้อดีตที่เลวร้ายพวกนั้น มารั้งคุณอีกเลย ขอให้คุณโชคดีนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน! ถ้าพี่ไม่อยากลืมล่ะ ยี่หวา…. ให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหม เราสองคนค่อย ๆ คุยกัน ได้ไหม”
ยี่หวาเดินออกมา และหยุดยืน เธอก้าวขาแทบไม่ออก ไม่คิดว่าวันนี้จะได้ยินคำพูดนี้ จากคนที่เธอพยายามจะลืมมาตลอดห้าปีเต็ม เขามีสิทธิ์อะไร มาขอโอกาสที่มันผ่านมานานแล้ว และเธอก็พยายามที่จะลืมมันไปนานแล้วเช่นกัน
“ขอโทษค่ะคุณหมอ ฉันไม่รู้ว่าคุณหมอพูดเรื่องอะไร เรื่องเก่า ๆ ฉันลืมมันไปหมดแล้ว และไม่เก็บเอามาใส่ใจอีก แต่จากนี้ไปเราไม่ควรเจอกันอีกจะดีกว่า ฉันขอมือถือคืนด้วยค่ะ”
หมอติณณ์ยืนมองเธอนิ่ง สายตาของเธอในตอนนี้ที่มองเขา ไม่เหมือนกับเมื่อห้าปีก่อนแล้วจริง ๆ เธอไม่ใช่ยี่หวาของเขา ที่คอยมองหาเขาทุกที่ เป็นห่วง คอยดูแลเวลาที่เขาป่วย คอยเอาใจเขาเวลาที่โกรธ และอ้อนอยู่ข้าง ๆ เวลาอยากให้นอนกอดเหมือนลูกแมว มือหนา ค่อย ๆ ล้วงเข้าไปหยิบมือถือของเธอออกมา และยื่นคืนให้เจ้าของ
“ขอบคุณค่ะ”
“ยี่หวา”
เขายังไม่ยอมปล่อยมือง่าย ๆ ระหว่างที่เธอจับมือถือ ที่อยู่ในมือเขาอย่างละครึ่ง นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ที่เขาจะพูดออกไป
“ถ้าหวาลืมไปแล้วจริง ๆ พี่จะไม่ว่าอะไร แต่จากนี้ไป ถ้าพี่ขอใช้โอกาสนี้ จีบหวาใหม่อีกครั้ง จะได้ไหม”
“คุณหมอจะทำไปเพื่ออะไรคะ เพื่อให้เรื่องราวมันวนกลับมาเหมือนเดิมเหรอคะ อย่าดีกว่าค่ะ เสียเวลาเปล่า”
“พี่ก็ต้องการยี่หวายังไงล่ะ ไม่รู้เหรอว่าตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมา พี่รู้สึกยังไง ทรมานแค่ไหน กว่าจะผ่านมาได้ คิดว่าตัวเองเจ็บอยู่คนเดียวเหรอยี่หวา”
ยี่หวาฉวยโอกาสนี้ ดึงมือถือของตัวเองกลับมา เธอมองเขาอีกครั้ง สายตาไม่ได้ลดละความโกรธลงไปเลยสักนิด
“ที่ผ่านมาก็อยู่มาได้นี่คะ ตอนนี้คุณหมอคงไม่ได้ขาดแคลนผู้หญิงขนาดนั้น ถ้าอยากจะหาแฟนสักคน ฉันเชื่อว่าสำหรับคุณ คงไม่ใช่เรื่องยาก เราอย่าเริ่มในสิ่งที่รู้ปลายทางดีอยู่แล้วเลยค่ะ”
“ไม่มีทาง! พี่มั่นใจว่า ครั้งนี้มันจะไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมอีก ยี่หวา…”
“ขอโทษนะคะคุณหมอ ถึงคุณอยากจะพูดแบบนั้น แต่ว่าฉัน… มีแฟนแล้วค่ะ เรื่องระหว่างเรา มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว”
ยี่หวาหันไปบอกเขา เพื่อตัดบททันที เธอไม่อยากให้ความหวังเขา ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองคาดหวังอีกครั้ง และยังไม่พร้อมที่จะเจ็บปวดแบบเดิมอีก แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเขา ที่ดูสิ้นหวัง หมดแรง ก็อดหวั่นไหวไม่ได้ แต่เธอต้องใจแข็ง เพื่อตัวและหัวใจของตัวเอง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณหมอ ยินดีที่ได้พบกัน… อีกครั้งนะคะ”
ยี่หวาเดินออกไปแล้ว เขาได้แต่มองตามหลังเธอไป และนึกย้อนไปวันแรก ที่เธอเดินบุกมาหาเขาที่หน้าคณะแพทย์
หน้าคณะแพทย์
“รุ่นพี่ติณณ์ภพคะ คบกับฉันนะคะ”
“อู้หู…... เล่นมาสารภาพหน้าคณะเลยว่ะ น้องมันแน่มาก”
“ยี่หวา” สาวน้อยเฟรชชี่คณะวิศวะกรรมศาสตร์ เดินมาที่คณะแพทย์ด้วยความมุ่งมั่น เธอตามตื๊อรุ่นพี่ ที่เรียนอยู่ปีห้า “ติณณ์ภพ” รุ่นพี่เย็นชาหน้านิ่ง เด็กเนิร์ดตัวท็อปของคณะ ซึ่งไม่เคยมีแฟน และไม่เคยคบกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เคยถูกเสนอชื่อให้เป็นเดือนคณะ แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้ สุดท้ายก็ไม่ให้ความร่วมมือ และตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว
“ไม่ล่ะ มันเสียเวลา ขอโทษด้วยนะ”
“แต่ยี่หวาชอบพี่ อยากเป็นแฟนกับพี่ ถ้าพี่ตกลงคบกับฉัน พี่ก็จะได้ตัดปัญหาเรื่องผู้หญิงคนอื่นได้ คิดดูนะคะว่ามันคุ้มขนาดไหน”
เขามองไปรอบ ๆ ก็รู้ว่า สิ่งที่เธอพูดไม่ใช่เรื่องเกินจริง มีหลายคนที่อยากลองคบกับเขา หลายปีมานี้ ติณณ์พยายามหลบเลี่ยงจนเบื่อ เพราะถูกรุ่นพี่ รุ่นน้องตามจีบ บางทีก็เหมือนกับพวกโรคจิต ที่คอยเดินตามเขา จนต้องย้ายหอพักถึงสี่ครั้ง
“หมายความว่ายังไง”
“ฉันพึ่งรู้ว่า มีพวกโรคจิตตามพี่เหมือนพวกสตอร์กเกอร์ ถ้าพี่เลือกคบใครสักคน เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เชื่อฉันสิคะพี่ติณณ์ พี่จำฉันไม่ได้ เหรอคะ เราเคยเจอกันที่โรงพยาบาล เมื่อสองเดือนก่อน”
“จำไม่ได้”
“ไม่เชื่อหรอก พี่ยังยิ้มให้ และพาฉันไปส่งขึ้นรถกลับบ้านอยู่เลย”
เขาจำเธอได้ แต่แค่ไม่คิดว่า เด็กรุ่นน้องที่มหาลัยที่เขาเจอในวันนั้น จะใจกล้าขนาดนี้ วันนั้นเขาพบเธอที่นั่งวินมอเตอร์ไซด์ล้ม และกำลังจะไปทำแผล เลยอาสาเข็นรถเข็น พาเธอไปทำแผลในโรงพยาบาล ที่เขาไปฝึกงาน พอเริ่มคุยก็รู้สึกว่าเธอคุยง่าย คงเพราะคณะที่เธอเรียน มีแต่เพื่อนผู้ชาย
“นั่นเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”
ยี่หวาไม่มีทางยอมแพ้ นี่เป็นคำที่เธอเคยประกาศเอาไว้ จากนั้นเธอก็สืบเรื่องของเขาและรู้ว่า ติณณ์ภพมีคนสนใจเยอะมาก แต่เธอไม่สน เพราะยี่หวาตกหลุมรัก รอยยิ้มที่อ่อนโยนในวันนั้นเข้าเต็ม ๆ เธอจึงตัดสินใจตามตื๊อเขา
“รุ่นพี่ กล่องข้าวแห่งรักค่ะ”
“ไม่กิน เอากลับไปเถอะ”
“ไม่เอาหรอก ฉันจะนั่งเฝ้าพี่กินจนหมด กินเร็ว ๆ สิคะ”
“น่ารำคาญจริง ๆ”
“ว่ายังไงนะ หวาอยากจะเจอมีนางั้นเหรอ ทำไมล่ะ”“หวาก็แค่อยากถามเธอสักครั้ง ถึงแม้ว่าเรื่องจะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ก็อยากรู้ว่า เธอทำแบบนั้นเพื่ออยากให้พี่สนใจแค่นั้นจริง ๆ เหรอ หรือว่าเธอแค่ไม่ชอบหน้าหวา และพยายามทำให้เราสองคนเลิกกัน”“เรื่องนี้พี่ผิดเอง ตอนนั้นพี่เป็นคนเห็นแก่ตัว ยอมรับว่าในตอนนั้นพี่อยากเรียนจบเกียรตินิยม และให้ความสำคัญกับการเรียนมาก จนปล่อยให้มีนา เข้ามาวุ่นวายในชีวิตมากเกินไป ทำให้ทะเลาะกับหวา แต่ว่า…”“หวาอยากไปงานนี้ค่ะพี่ติณณ์”“จริงเหรอ”“ค่ะ หวาไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็ไม่ได้เกิดจากหวาตั้งแต่แรก ดังนั้นหวาอยากไปค่ะ”“แต่ว่าพี่เคยบอกกับมีนาว่า ไม่อยากเจอกับเธอ และทุกครั้งที่มีงานแบบนี้ ไม่อยากให้เธอมาเจอหน้าพี่อีก”ยี่หวาจับมือติณณ์ภพอย่างเข้าใจ เขาเองก็คงโกรธมากเหมือนกัน ถึงได้พูดกับมีนาไปแบบนั้น แต่สำหรับยี่หวา เธอก้าวข้ามเรื่องอดีตพวกนั้นมานานแล้ว การที่เธออยากเจอมีนาอีกครั้ง แค่อยากรู้ว่า อีกฝ่ายจะรู้สึกผิดกับเธอ และเขาบ้างหรือเปล่า ก็เท่านั้นเอง“หวาเข้าใจพี่ติณณ์นะคะ แต่เราไม่จำเป็นจะต้องทำแบบนั้นก็ได้ เราสองคนไม่จำเป็นต้องหลบหน้าเธ
“แต่ว่านี่มัน…”“ถ้างั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกัน ลุงจะโอนให้หนู แต่มีข้อแม้ว่าจะมอบให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน หรือไม่ก็รอให้หนูกับเจ้าติณณ์มีทายาทก่อน แล้วจะยกหุ้นนี้ให้หลานคนแรก แบบนี้ดีมั้ยติณณ์”“ครับลุงภาส ผมไม่มีปัญหาครับ”ติณณ์ภพหันมามองหน้ายี่หวา เธอยิ้มแห้ง ๆ เป็นคำตอบ เขารู้ดีว่า คนอย่างยี่หวาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน แต่ลุงของเขาก็บอกแล้วว่า จะมอบให้ก็ต่อเมื่อทั้งคู่มีทายาท เท่ากับว่าตอนนี้ ยี่หวาก็ไม่ต่างกับถูกมัดมือชกกลาย ๆ นั่นเองห้องของติณณ์ภพ“ลุงภาสแค่หวังดีนั่นแหละ ที่จริงลุงกลัวว่าพี่ จะตัดสินใจไปเมืองนอก และไม่อยู่ช่วยเขาที่โรงพยาบาลน่ะ”“อะไรนะคะ พี่ติณณ์คิดจะไปเมืองนอกด้วยเหรอคะ”ติณณ์ภพเดินมานั่งโซฟาในห้องข้าง ๆ ยี่หวาและดึงเธอเข้ามากอด“พี่ยอมรับว่าเคยคิดเอาไว้ แต่นั่นเป็นก่อนที่จะเจอหวา พี่ไม่คิดเลยนะว่า จู่ ๆ จะได้เจอหวาที่โรงพยาบาล ปกติพี่ไม่เคยเดินไปที่ตึกนั่นเลย เพราะไม่ได้สนใจเรื่องการทดสอบเครื่องมือแพทย์ แต่ว่าวันนั้น หมอธนิตขอให้ไปช่วยดู เพราะหมออีกคนไม่ว่าง พี่ก็เลยไปให้”“เพราะแบบนี้นี่เอง นี่ถ้าไม่เจอกันในวันนั้น พี่ติณณ์ก็จะไปเมืองนอกจริงเหรอคะ”“ใช่แล้วล่ะ ทางโรง
ยี่หวาถลึงตามองหน้าติณณ์ภพทันที แม้แต่หมอธนิตเอง ก็แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ดูเหมือนว่าในห้องนี้ จะมีแค่ท่านผู้อำนวยการเท่านั้น ที่รู้ว่าติณณ์ภพเป็นใคร“พี่ติณณ์ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ”เธอพยายามกัดฟัดถามเขารอดไรฟัน เพื่อไม่ให้ท่านประธาน ที่หันมามองหน้าทั้งคู่และยิ้มสงสัย เขาหันไปจับมือเธอ และแนะนำอย่างเป็นทางการ“ยี่หวา นี่คือคุณ “ภาสกร” ท่านประธานบอร์ดของโรงพยาบาล แล้วก็… เป็นลุงแท้ ๆ ของพี่ด้วย”ยี่หวาตั้งตัวไม่ติด และรีบยกมือไหว้ ภาสกร อีกครั้ง“สวัสดีค่ะ ขอโทษค่ะที่หวาไม่ทราบมาก่อน”“ไม่เป็นไรหรอกหนูยี่หวา ตามสบายเถอะไม่ต้องเกร็ง นี่แฟนแกที่เคยเล่าให้ลุงฟังสินะ”“ครับลุงภาส นี่ยี่หวา เธอเป็นแฟนผมครับ”“เอาล่ะ ๆ มีอะไรค่อยว่ากัน ไม่ต้องตกใจไปหรอก ในนี้ก็มีแต่คนกันเองทั้งนั้น อ้าวคุณหมอธนิต ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ นี่อย่าบอกนะว่าเจ้าติณณ์มันก็ไม่ได้บอกคุณ ว่ามันเป็นใครน่ะ”“เอ่อ… เรื่องนี้ผมเองก็พึ่งจะทราบเหมือนกันครับ”“ไม่แปลกหรอก ติณณ์มันไม่ค่อยชอบพูดเรื่องครอบครัว เอาล่ะไม่ต้องตกใจ”แต่มันจะง่ายที่ไหนกันล่ะ จู่ ๆ ยี่หวาก็พึ่งรู้ว่า แฟนหนุ่มของเธอ เป็นถึงหลานชาย ท่านประธานบอร์ดของโรงพยาบ
วัลลภถึงกับคอตก แต่ครั้งนี้เขาคงหาข้อแก้ตัวอะไรไม่ได้แล้วจริง ๆ เพราะก่อนหน้านั้น เขาเองก็ยอมรับว่า ใช้อำนาจเพื่อช่วยเหลือฟางไปหลายเรื่องเหมือนกัน แค่ไม่คิดว่าเรื่องคดีเล็ก ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในแผนก จะถูกขุดขึ้นมาด้วยในวันนี้“เรื่องนี้ผม…”“ตอนนี้ผมให้คุณมีทางเลือกอยู่สองทาง คือยอมขายหุ้นคืน เพื่อจะได้ไม่ต้องวุ่นวายไปถึงการประชุมบอร์ดในเดือนหน้า ถ้าหากไปถึงขั้นนั้น คุณคงรู้ใช่มั้ยว่า กรรมการบอร์ดบริหาร คงไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่ ๆ และหุ้น 5% ของคุณ ก็คงจะไม่มีมูลค่าอีกต่อไปเช่นกัน”“ท่านประธานครับ เรื่องนี้ผม…”"หรืออีกทางหนึ่ง ยอมขายหุ้นให้ผมคืนในราคาเดิม เงินปันผลในส่วนของคุณในปีนี้ ผมจะยังให้ครบถ้วนเหมือนเดิม แต่คุณต้องถอนตัวออกจากโรงพยาบาล ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก รวมถึงหน้าที่ของคุณในโรงพยาบาลนี้ด้วย แล้วผมจะไม่ติดแบล็กลิสต์คุณ ว่ายังไงคุณวัลลภ"วัลลภรู้ดีว่า นี่เป็นทางที่ถูกบังคับให้เลือก เขารู้ว่าพวกบอร์ดบริหารไม่มีทางเก็บคนไม่มีประโยชน์เอาไว้ และเขาที่ทำผิดอยู่หลายครั้ง ถ้าเรื่องนี้เข้าที่ประชุมจริง ๆ ก็คงไม่มีใครเข้าข้างเขา การเลือกทางที่สอง จะปลอดภัยกับเขามากที่สุด“ท่านประธาน
วัลลภและกัลยา นั่งตัวลีบอยู่ในห้อง ทั้งสองคนเงียบกริบ เมื่อหมอติณณ์ภพบอกว่า นำหลักฐานบางส่วนมาให้ท่านประธาน“เห็นบอกว่าคนที่ถูกจับ เป็นญาติของคุณเหรอ”ท่านประธานหันมามองหน้าคุณวัลลภ ที่นั่งอยู่ตรงข้าม“ครับท่านประธาน เรื่องนี้ผมรู้ดีว่ามันมีต้นสายปลายเหตุ ที่จริงเกิดจากเรื่องแค่เล็กน้อย ผมก็เลยอยากจะมาคุยเพื่อไกล่เกลี่ยดูก่อน”“ใช่ค่ะท่าน อีกอย่างการที่ตั้งกล้องแล้วแอบถ่ายแบบนี้ มันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะคะ ถ้าพวกคุณจะเอาเรื่องลูกฉัน เรื่องนี้ฉันก็จะฟ้องเช่นกัน”กัลยารีบพูดแทรกขึ้นมา หลังจากที่วัลลภพูดยังไม่ทันจบ ท่านประธานนั่งฟังทั้งสองฝ่าย“มีคลิปต้นเรื่องมั้ย ผมยังไม่เห็นสำนวนที่ส่งไปที่ตำรวจ”“มีครับท่านประธาน อยู่ที่ผมครับ ยี่หวา…”“ค่ะ”ยี่หวาต่อสัญญาณไม่นาน ภาพคลิปทั้งหมดที่เธอถ่ายเอาไว้ ก็ถูกโชว์ขึ้นที่จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ในห้อง ผอ.ทันที คราวนี้คนที่ถึงกับพูดไม่ออกก็คือกัลยา เพราะแต่ละคลิป แสดงออกถึงความผิดอย่างตั้งใจโดยชัดเจน“นี่มัน…ตั้งใจจับผิดลูกสาวฉันชัด ๆ ดูสิคะ”“จับผิดเหรอ คุณป้าคะนี่เป็นสัญญาณภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นภาพที่ไม่อาจเปิดเผยได้ก็จริง แต่ถ้าใค
“ได้สิ งั้นก็รีบไปกันเถอะ”หมอธนิตเองก็ไม่รู้ว่า หมอติณณ์มีแผนการอะไรอยู่ตอนนี้ เพราะเขาไม่ได้บอก ส่วนยี่หวาเองก็รู้แค่ในส่วนที่ต้องรู้เหมือนกัน แต่เธอเชื่อให้ติณณ์ภพ เลยไม่ถามเขา เมื่อทั้งสามคนขึ้นไปที่ห้องผู้อำนวยการ เขาก็ต้องแปลกใจ เพราะในห้องนั้น มีคุณวัลลภ และผู้หญิงอีกคน ที่พวกเขาไม่รู้จักนั่งอยู่ห้องผู้อำนวยการ แผนกศัลยกรรม“อ้าว พวกคุณมาพอดีเลย มานั่งก่อนสิ”หมอติณณ์ดึงตัวยี่หวาเอาไว้ ปล่อยให้ธนิตเดินเข้าไปก่อน และเขากับเธอจึงเดินตามไปทีหลัง เมื่อนั่งลงแล้ว ผู้อำนวยการถึงได้แนะนำให้ทุกคนรู้จัก“เอ่อ นี่คุณวัลลภ และคุณกัลยา เธอเป็น…”“ฉันเป็นแม่ของฟาง เธอนี่เองเหรอที่หาเรื่องลูกสาวฉัน จนต้องเข้าไปนอนคุกตั้งหลายวัน!”“กัลยา” ลุกขึ้นมาชี้หน้ายี่หวาด้วยความโกรธ วัลลภรีบดึงตัวเธอลงมาทันที“ใจเย็น ๆ ก่อน ฉันบอกแล้วไงว่า ค่อย ๆ คุย เอ่อ คุณหมอติณณ์ภพครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่ากัลยาน้องสาวผม พึ่งจะทราบข่าวและมาที่กรุงเทพ ก็เลย…”“คุณพาเธอมาในวันนี้ ด้วยเหตุผลอะไรครับคุณวัลลภ”“เอ่อ คือว่าผมแค่อยากจะมาตกลงกับคุณ แล้วก็คนไข้ของคุณ เรื่องหลานสาวของผม ว่าพอจะ…”“ลูกสาวฉันไม่ได้ทำผิด