บทที่ 96“มึงมันเหี้ย!”สวีเหยียนซีด่าคำหยาบอย่างชัดถ้อยชัดคำจนทำให้ใบหน้าของสี่คนที่อยู่ไม่ไกลแสดงความประหลาดใจออกมาในระดับที่แตกต่างกันสวีเหยียนซีมีใบหน้าสวยโดดเด่น ปกติจะมีกิริยามารยาทงดงามตามธรรมชาติ ความประทับใจแรกที่ทุกคนเห็นเธอคือเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลใหญ่แต่เมื่อเธอพูดคำหยาบ มันกลับดูแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อจ้าวจวิ้นโจวยกยิ้ม นั่นแหละถึงจะดูเหมือนคนกำลังโกรธดวงตาของสวีเหยียนซีฉายแววตาเย็นชา “เรื่องนี้ ฉันจะจำคุณไปตลอดชีวิต!”“ไม่นะ!” ฉินเซียวคว้ามือเธอไว้ “ผมผิดไปแล้ว เสี่ยวซี! ผมจะไปหาหมอที่เก่งที่สุดในโลกมารักษาอาจารย์ถังเดี๋ยวนี้ ผมจะขอโทษเขา ผมจะหาทางชดเชยให้แน่นอน ได้โปรดอย่าโกรธผมเลยนะ อย่าไม่สนใจผม”เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวจวิ้นโจวก็เย็นชาลงทันทีเขาสาวเท้าเดินเข้าไปเมื่อลู่อวี่ที่กำลังโมโหอยู่เห็นว่าเจ้านายของเขากำลังจะไปเป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม เขาก็ตามไปอย่างตื่นเต้น “บอสไปแล้ว เราก็ไปเหมือนกัน!”ทว่าฟางห่าวและอู๋เสว่นีกลับจับแขนเขาคนละข้างอย่างรู้ใจฟางห่าวพูดว่า “แค่บอสก็พอแล้ว”“โธ่เอ้ย คนเยอะก็มีพลังมาก พวกเราไปเป็นกำลังเสริมให้สถาปนิกสว
บทที่ 95สวีหว่านหนิงส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่งพลางมองฉินเซียวอย่างน่าสงสาร“พี่ฉินเซียว อย่าไปเชื่อที่พวกเขาพูดนะคะ ฉันไม่ได้ทำเลย! ไม่ได้ทำจริง ๆ!”ฉินเซียวจะไปเชื่อคำพูดของเธอได้อย่างไรเธอเป็นคนแบบไหน เขารู้ดีที่สุด“รู้ไหมว่าพ่อของเธอเพิ่งถูกควบคุมตัวเมื่อคืนนี้?” ฉินเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ แทนที่จะอยู่อย่างสงบ เธอกลับเลือกที่จะทำเรื่องน่าอับอาย ถ้าพ่อฉันไม่สั่งให้ฉันมา เธอก็คิดเหรอว่าเรื่องไร้สาระของเธอแบบนี้ฉันอยากจะยุ่งด้วย?”คำพูดนี้เป็นการข่มขู่สวีหว่านหนิง แต่ก็เป็นการบอกสวีเหยียนซีทางอ้อมว่าเขาไม่ได้มาด้วยความสมัครใจสวีหว่านหนิงเม้มปาก น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาไม่หยุด “พี่ฉินเซียว ฉันเป็นภรรยาของพี่นะคะ”“หุบปาก!” ฉินเซียวตะคอกใส่เธอด้วยความรำคาญ“คุณตำรวจจางครับ เราจะยืนดูละครรักที่นี่เหรอครับ?” จ้าวจวิ้นโจวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาตำรวจจางก็รู้สึกปวดหัวเช่นกัน เขาจึงส่งสายตาให้เพื่อนตำรวจคนอื่น ๆ แล้วสวีหว่านหนิงก็ถูกบังคับให้ควบคุมตัวไปเธอทั้งร้องไห้ทั้งเรียกหาพี่ฉินเซียว แต่ใครบางคนกลับไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเธอเลยจนกระทั่งเสียงของเ
บทที่ 94สวีเหยียนซีรู้สึกชาไปหมด “นี่คือคำชมเหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวยิ้ม “ไม่งั้นล่ะ?”ไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานีตำรวจ และบังเอิญมากที่ฉินเซียวก็มาถึงเช่นกันเมื่อฉินเซียวเห็นพวกเขามาด้วยกัน ดวงตาที่ลุกเป็นไฟของเขาก็แทบจะทะลุเข้าไปร่างของจ้าวจวิ้นโจวเมื่อมองมาที่สวีเหยียนซี สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความคับแค้นใจและเจ็บปวดดูยังไงก็เหมือนผู้หญิงที่ขี้น้อยใจสวีเหยียนซีรู้สึกรำคาญ จึงไม่มองตรง ๆ แต่ต่อให้อยากจะมองก็ไม่มีโอกาส เพราะจ้าวจวิ้นโจวเดินบังเธอไว้มิด และก้าวเท้าเข้าไปพร้อมกับเธอฉินเซียวกำหมัดแน่นและรีบตามไป ฟางห่าวเดินเข้ามาขวางหน้าเขาอย่างไร้เสียง “คุณชายรองฉิน ที่นี่คือสถานีตำรวจนะครับ”“ไม่ต้องให้นายเตือน” เขาแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้าไปข้างในเมื่อสวีเหยียนซีเห็นอู๋เสว่นีและลู่อวี่ก็พูดว่า “สถาปนิกอู๋ สถาปนิกลู่”ในขณะเดียวกัน สวีหว่านหนิงที่ได้ยินเสียงของเธอก็เดือดพล่านทันที เธอวิ่งออกจากห้องสอบสวนโดยไม่สนใจว่าตำรวจกำลังสอบปากคำเธออยู่เมื่อเห็นสวีเหยียนซี เธอก็แสดงสีหน้าดุดัน “สวีเหยียนซี!”สวีเหยียนซีตกใจที่ถูกเธอตะคอกใส่อู๋เสว่นีตะโกนว่า “สถาปนิกสวี
บทที่ 93สวีเหยียนซีที่แปรงฟันอยู่ถึงกับหยุดชะงักทันทีอืม? หือ!?โหยวฉียังคงพูดต่อไป “เพราะมีคนไปขุดเรื่องที่เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับฉินเซียว แม้แต่รูปถ่ายสมัยมัธยมต้น มัธยมปลาย มหาวิทยาลัยของพวกเธอก็ถูกเอามาโพสต์ด้วย ดังนั้นพอเห็นชาวเน็ตคนนั้นพูด ทุกคนก็เริ่มเชื่อและเริ่มวิเคราะห์กันยกใหญ่”“แล้วสวีหว่านหนิงดันกระโดดเข้าไปด่าเอง เลยทำให้ทุกคนเชื่อว่าเธอคือคนที่เป็นมือที่สามจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ เธอโง่หรือเปล่านะ ขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ”“ตอนแรกเป็นข่าวเรื่องบริษัทฮุ่ยตี๋เลี่ยงภาษี แต่ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตมีแต่คนด่าว่าเธอเป็นมือที่สามและด่าว่าฉินเซียวเป็นผู้ชายหน้าเหี้ย”สวีเหยียนซีหัวเราะอย่างจนใจ “ทำไมเธอถึงได้เอาตัวเองไปตายแบบนี้”โหยวฉียังคงหัวเราะไม่หยุด “ใช่ นี่เรียกว่าอะไรนะ ขุดหลุมฝังตัวเอง กรรมตามสนองแล้ว!”หลังจากวางสายจากโหยวฉี สวีเหยียนซีก็ทำอาหารเช้าง่าย ๆ แล้วนั่งทานไปพลางดูเนื้อหาในอินเทอร์เน็ตไปพลางมีข่าวมากมายที่ถูกลบไปแล้ว ดังนั้นจึงเห็นได้เพียงเล็กน้อยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ลบข่าวจะต้องคือตระกูลสวีหรือไม่ก็ตระกูลฉินเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็ขับรถไปยังบริษัทย่า
บทที่ 92เพราะสวีกั๋วหมิงถึงกับยอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องสวีเหยียนเช่อ แต่เมื่อคิดอีกที เขาก็เป็นลูกชายแท้ ๆ เป็นผู้สืบทอดนี่นา “งั้นก็น่าเสียดายแย่เลย!” โหยวฉีตบมือครั้งหนึ่งด้วยสีหน้าเสียดายอย่างเต็มที่ “คาดว่าน่าจะเสียหายเป็นหลายพันล้าน” คำพูดของจ้าวจวิ้นโจวทำให้โหยวฉีรู้สึกสะใจขึ้นมาอีกครั้ง “แบบนี้มันสะใจจริง ๆ!” สวีเหยียนซีเงียบไป แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลก ๆ ท้ายที่สุด จ้าวจวิ้นโจวก็ขับรถไปส่งโหยวฉีกลับบ้านก่อน เมื่อเหลือแค่พวกเขาสองคนในรถ บรรยากาศก็เงียบสงบเป็นพิเศษ “อยากถามอะไรก็ถามสิ จะอั้นไว้ทำไม” เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวีเหยียนซีก็กะพริบตาปริบ ๆ แล้วเงยหน้ามองเขา “ไม่ถามเหรอ?” “ฉันรู้สึกว่าคุณจงใจปล่อยสวีกั๋วหมิงและลูกชายเขาไปอีกแล้ว” เธอไม่อยากคิดแบบนี้ แต่เมื่อรวมกับสไตล์การทำงานของจ้าวจวิ้นโจวที่ผ่านมาแล้ว มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าเพราะเขานึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลสวี มันก็ดูไม่ถูกต้องอยู่ดี “ฉลาดจริง ๆ” จ้าวจวิ้นโจวหัวเราะเบา ๆ และไม่ปิดบัง “พูดแล้วมันก็บังเอิญจริง ๆ ตอนแรกผมแค่ต้องการให้พวกเขาล้มไม่เป็นท่า อย่างน้อยจ
บทที่ 91จ้าวจวิ้นโจวเดินลงมาจากรถ เมื่อสวีเหยียนเช่อและฉินเซียวเห็นเขา ทั้งคู่ก็ลดความโกรธลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ถึงขนาดมีท่าทีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผู้ชายสามคนต่างก็ดูดีในแบบของตัวเอง สวีเหยียนซีรู้สึกพูดไม่ออก ได้แต่มองฟ้า ทำไมปากของโหยวฉีถึงได้แม่นยำขนาดนี้นะ เอาล่ะ ตอนนี้มันคือการแสดงละครของชายสามคนจริง ๆ แล้ว เธอไม่อยากเป็นข่าวหน้าหนึ่งในตอนกลางคืน โหยวฉีเป็นคนรักใครรักจริง ใครดีกับสวีเหยียนซี เธอก็จะดีกับคนนั้นด้วย ในช่วงเวลานี้ จ้าวจวิ้นโจวได้รับคะแนนพิเศษในใจของโหยวฉีมากมายเหลือเกิน ตอนนี้เธอจึงทักทายอย่างกระตือรือร้น “ประธานจ้าว จัดการเรื่องเสร็จแล้วเหรอคะ” จ้าวจวิ้นโจวล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยมือข้างเดียว เขารู้สึกสนิทกับโหยวฉีมากกว่าคนอื่น เพราะเธอเป็นเหมือนครอบครัวเพียงคนเดียวของสวีเหยียนซี “อืม เกือบจะเรียบร้อยแล้ว คุณโหยวฉีขับรถมาเหรอ?” “เปล่าค่ะ นั่งแท็กซี่มา” โหยวฉีคล้องแขนสวีเหยียนซี “ประธานจ้าวคะ ช่วยไปส่งพวกเราหน่อยได้ไหมคะ” “ได้เลย ไปกันเถอะ” โหยวฉีแอบเพิ่มคะแนนให้จ้าวจวิ้นโจวอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะอะไรเลย เพียงเพราะจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้มองเธอด้วยสาย