หลายวันต่อมา
“ไม่ต้องห่วงนะคะคุณแม่ขวัญจะคอยเคี่ยวเข็ญให้ยายอรทำตามที่คุณแม่พูดอย่างเคร่งครัดเลยค่ะ”
กรองขวัญจีบปากจีบคอพูดรับปากสิริวดีแม่ของเพื่อนสนิทตัวเองเป็นมั่นเป็นเหมาะในการรับหน้าที่พาอรฤดีไปเข้าคอร์สเจ้าสาวในวันนี้
“ดีมากลูกถ้าเกิดว่ายายอรดื้อขึ้นมาโทรบอกแม่เลยนะ”
“ได้เลยค่ะคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะขวัญจะดูแลอย่างดีเลยค่ะงั้นพวกเราไปก่อนนะคะ”
คนเป็นแม่โบกมือบ๊ายบายให้กับหญิงสาวทั้งสองที่รักปานดวงใจ เห็นลูกสาวของเธอมีเพื่อนสนิทที่รักใคร่กันดีพร้อมให้ความช่วยเหลือกันแบบนี้คนเป็นแม่แบบเธอก็นอนตายตาหลับ
แต่ดูเหมือนว่าที่เจ้าสาวจะหน้างอไม่พอยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่อีกต่างหาก
“ไม่เห็นจำเป็นเลยคอร์สเจ้าทรงเจ้าสาวอะไรมันจะทำให้สวยขึ้นมาได้สักแค่ไหนกันเชียวก็แค่แผนการตลาดหาเงินเพิ่มเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ”
อรฤดีขึ้นมาบนรถคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้วก็นั่งกอดอกแล้วบ่นอุ๊บอิ๊บในทันที
“จะบ้าเหรออรมันจำเป็นมากเลยนะ ไม่ว่าแกจะแต่งเล่นหรือแต่งจริงแต่งแล้วจะอยู่ทนหรือจะเลิกมันไม่สำคัญมันสำคัญตรงที่วันที่แกได้แต่งตัวแต่งหน้าแต่งชุดเจ้าสาวคนที่สวยที่สุดในงานก็คือแกทุกสายตาจะต้องจับจ้องมาที่แก มันคือหน้าตาของวงศ์ตระกูลเลยนะเว้ย”
“โอ้โหขนาดนั้นเลยเหรอวะ.. อือ ทำก็ทำเพื่อวงศ์ตระกูลเนาะ”
อรฤดีกระพริบตาปริบๆ ปรับความคิดและความเข้าใจของตัวเองใหม่แล้วเออ ออไปกับเพื่อนที่กำลังจริงจังกับภารกิจที่ได้รับมาในวันนี้ เสียจนไม่กล้าขัดใจเพื่อนเลย
“ถูกต้องอนาคตจะเป็นยังไงก็ช่างแต่ตอนนี้เราต้องสวยไว้ก่อนอย่าให้เสียชื่อลูกคุณนายสิริวดีเด็ดขาดเข้าใจ๊”
“อะ โอเค เข้าใจ ..”
เมื่อเห็นเพื่อนรักยินยอมพร้อมใจไปกับตนเองแล้วกรองขวัญก็ยกมือมาตบไหล่เพื่อนสาวเบาๆ ปุๆ แล้วขับรถตรงต่อไปยังร้านที่เป็นจุดหมายปลายทางของวันนี้ทันที
“อร้ายย มาถึงกันแล้วเหรอคะน้องขวัญ น้องอร มาค่ะ มาค่ะพี่หนูดีกำลังรออยู่เลยค่ะ”
ทันทีที่กรองขวัญและอรฤดีเดินเข้าร้านมาพี่หนูดีสาวสวยที่ตัวเป็นชายแต่หัวใจเป็นหญิงเพื่อนซี้พี่แมวก็รีบตรงปรี่มาต้อนรับในทันที
“สวัสดีค่ะพี่หนูดีเจอกันอีกแล้วนะคะ สวยขึ้นตลอดเลยขวัญยอมแพ้แล้วนะคะ”
ทั้งอรและกรองขวัญยกมือขึ้นไหว้สวัสดีคนที่อายุมากกว่าอย่างนอบน้อมก่อนจะชวนกันพูดคุยหยอกล้อตามแบบของคนที่ค่อนข้างจะสนิทกันอยู่แล้ว
“แหมน้องขวัญก็ว่าไปค่ะ พี่หนูดีจะไปสู้น้องขวัญได้ยังล่ะคะ”
ก็แน่ล่ะกรองขวัญถึงเธอจะไม่ชอบออกสื่อสักเท่าไหร่แต่ทุกคนก็รู้จักเธอดีเพราะเธอคือหลานสาวของตระกูลผู้ดีเก่าแก่ในแวดวงสังคมไฮโซแต่เพราะเบื่อการปั้นหน้ายิ้ม สวมหน้ากากเข้าหากันเมื่อโตขึ้นเธอจึงไม่ค่อยชอบออกงานกับครอบครัวสักเท่าไหร่นัก
“วันนี้พี่หนูดีต้องเนรมิตให้เพื่อนขวัญสวยผุดผ่องจนเจ้าบ่าวตะลึงจนตาค้างไปเลยนะคะ”
กรองขวัญกอดอกพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองว่าที่เจ้าสาวแล้วหัวเราะคิกคักออกมาเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตัวเองหันมาขมวดคิ้วหน้ามุ่นใส่ในทันที
“ได้เลยค่ะไว้ใจพี่หนูดีได้เลยนะคะรับรองน้องอรจะต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในปีนี้เลยค่ะ เชื่อมือพี่”
พี่หนูดีเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าอรฤดีริมฝีปากกว้างคลี่ยิ้มออกมาให้เห็นแววตามุ่งมั่นเป็นประกายเจิดจ้าฉายออกมาอย่างชัดเจน.. มันจะไปยากอะไรก็เจ้าสาวของเรามีความสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแบบเหลือกินเหลือใช้ จะให้พูดเต็มปากว่าอรฤดีก็ลูกผู้รักมากดีคุณหนูผู้หนึ่งก็ไม่ผิดหน้าเอย ผมเอย ผิวพรรณเอยเปล่งปลั่งออร่ายิ่งกว่าดาราหลายๆnคนเสียอีก ก็เกิดมาบนกองเงินกองทองซะขนาดนั้นนี่เนอะ..
“อ่ะ งั้นเดี๋ยวไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้านะคะเดี๋ยวพี่หนูดีจะรออยู่ตรงนี้”
สองเพื่อนสาวพยักน่ารับคำพูดของพี่หนูดี แล้วพากันเดินเข้าห้องเปลี่ยนผ้าที่อยู่ฝั่งตรงกันข้างกับที่พวกเธอยืนอยู่ตอนนี้
อรฤดีมาเข้าคอสเจ้าสาวส่วนกรองขวัญก็มาใช้บริการคอสนวดแบบที่เธอชอบมาใช้บริการประจำ
“ผลัก!! โอ้ยย!! “
“เดินไม่รู้จักระวังเลย / ไปกันเถอะอย่าไปสนใจเลย ~”
อรฤดีถูกชนจนเซไปชนกับผนังกรองขวัญที่เดินนำหน้าไปแล้วก็รีบหันกลับมาประคองดูแลเพื่อนก่อนจะหันไปค้อนขวับให้ผู้หญิงสองคนที่ไม่แม้จะเอ่ยคำขอโทษแถมยังตำหนิอรฤดีแล้วเดินออกไปโดยไม่สนใจ
“นังลูกปัด..”
“เจ็บไหมอร”
“ไม่ๆ แค่ตกใจนิดหน่อยไม่เป็นไรว่าแต่ขวัญรู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอ”
“รู้สิ ผู้หญิงคนนั้นชื่อลูกปัด พวกลูกคุณหนูไฮโซพ่อแม่ตามใจจนเสียคนน่ะ อย่าไปใส่ใจเลย”
กรองขวัญเบ้หน้าเบ้ปาก หันมองไปทางลูกปัดและเพื่อนสาว ที่ทำตัวเกเรนิสัยไม่ดี ตรงกันข้ามกับสถานะทางสังคมของเธอ
อรฤดีพยักหน้ารับเธอก็ไม่ได้ถือสาอะไรหรอกเพียงแต่สายตาที่ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองเธอมันดูแปลกๆ แต่ก็ปล่อยผ่านเพราะเธอไม่ได้รู้จักกับผู้หญิงคนนั้นเป็นการส่วนตัวแถมยังมั่นใจว่าไม่เคยเจอกันอีกต่างหาก
เดี๋ยวน้องขวัญเข้าห้องเดิมเลยนะคะส่วนน้องอรมากับพี่หนูดีทางด้านนี้เลยค่ะ
อรฤดีเดินตามพี่หนูดีไปที่อีกห้องหนึ่งซึ่งมีพนักงานคอยบริการเธออยู่หลายคนแต่ละคนหน้าตายิ้มยิ้มแต่ไม่รู้ทำไมเธอกลับรู้สึกอยากให้เสร็จเร็วๆ เสียจริงเป็นกิจกรรมที่ไม่เห็นจะมีความสำคัญตรงไหนเลยถึงจะคิดอย่างนั้นแต่อรฤดีก็ยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีเพราะไม่อยากให้ เรื่องของเธอเข้าหูของแม่เธอเพราะไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แถมต้องฟังแค่เธอบ่นช้าอีก แน่ๆ
ลูกปัดที่เป็นลูกค้าประจำของร้านพี่หนูดีเช่นกันเธอสามารถเดินเข้านอกออกในได้ เสมอและ ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองที่เธอจงใจแอบตามดูอรฤดีผู้เป็นเสี้ยนน้ำหัวใจของเธอ เพื่อหาโอกาสเหมาะๆ ที่จะทำอะไรซักอย่าง
ในเมื่อจอมทัพทำอะไรไม่ได้ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีบางอย่างที่เธอทำได้อยู่ ถ้าเกิดว่าผู้หญิงหน้าด้านคนนี้ เกิดหลงรักแฟนหนุ่มของเธอขึ้นมาจนไม่ยอมหย่าล่ะจะทำยังไง
เธอ ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ในหัวมาหลายวันจนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายหาโอกาสลงมือเอง
“ไหนบอกไม่อยากแต่งแต่มาเตรียมตัวเข้าคอร์สเจ้าสาวเนี่ยนะย้อนแย้งสิ้นดีดูก็รู้ว่าจะทำเพื่อหวังเอาใจจอมแน่ๆ”
ลูกปัดเบ้ปากขึงตามองไปในห้องที่อรฤดีกำลังใช้บริการอยู่ด้วยแววตาและน้ำเสียงที่เกลียดชังสื่อออกมาอย่างชัด
“มาทำอะไรตรงนี้คะน้องปัด ช่วงนี้ไม่ค่อยแวะมาเลยนะคะพี่หนูดีคิดถึ้งงงคิดถึงค่ะ ”
พี่หนูดีพี่เห็นลูกปัดยืนอยู่หน้าห้องของอรฤดีก็เอ่ยทักทายเจื้อยแจ้วขึ้นมาทันที.. ดีจริงๆวันนี้มีแต่ลูกค้าไฮโซมาใช้บริการที่ร้านของเธอปลื้มปริ่มเหลือเกิน
“เหมือนว่าปัดจะเจอเพื่อนเก่าน่ะค่ะแต่ไม่แน่ใจว่าอยู่ห้องไหน หรือปัดอาจจะตาฝาดไปเองก็ได้ค่ะ”
ลูกปัดหันกลับมาพูดยิ้มแย้มด้วยความน่ารักและสดใสกับพี่หนูดีแล้วพากันเดินไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามที่เธอจองเอาไว้
สองสาวใช้เวลาในการทำสวยเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวกันตั้งแต่เช้าจนเย็นรู้ตัวอีกทีก็หมดวันไปเสียแล้ว
“สวยมากเลยค่ะน้องอรผิวผ่องมากมากดูสิคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันนะคะพี่หนูดีจะตั้งตารอเลยค่ะ”
เมื่อได้ยินแค่นั้นอรฤดีก็แทบจะเป็นลมให้ตายเถอะ เรื่องแค่นี้ต้องเสียเวลามากจริงๆ
“สวยมากเลยอรรับรอง..”
”พอเลยไม่ต้องพูดเลย“
“แหมก็นิดนึงหิวไหมไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
”พูดแบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อยไปกันเถอะหนูจะแย่แล้ว“
เมื่อความเห็นของต้องตรงกันสองสาวเพื่อนสนิทก็ขับรถมาที่ร้านประจำของพวกเธอที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นค่อนข้างจะส่วนตัวไม่ใช่ว่าอยากจะมาก็มาได้ต้องโทร มาจองล่วงหน้าเท่านั้นแต่ระดับลูกคุณหนูไฮโซอย่างกรองแก้วซะอย่าง. .อยากจะมาตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น
”เดี๋ยวขวัญไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ“
“ OK OK เดี๋ยวสั่งรอ“
ห้องอาหารในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง“เอ็งว่าลูกของพวกเราจะรักกันหรือยังวะ”สุเมธยกแก้วไวน์ ในมือขึ้นมาดื่มก่อนจะถามเพื่อนรักอย่างคเชนทร์ด้วย รอยยิ้ม“ไม่รักกันวันนี้วันหน้าก็ต้องรักกันอยู่ดีแต่ลูกข้าเนี่ยสิยังใจแข็งไม่ยอมอ่อนสักทีไม่รู้จะได้อุ้มหลานเมื่อไหร่”คเชนทร์ส่ายหัวเมื่อพูดถึงลูกสาวจอมดื้อของตัวเองที่เขารู้นิสัยของเธอดี“ตาจอมก็ใช่ย่อยที่ไหนเรื่องปากแข็งน่ะที่หนึ่งไม่รู้ว่าหนูอรจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าเจ้าคนทึ่มตรงหน้าปากไม่เคยตรงกับใจเลยสักครั้ง”ทัศนีย์เอ่ยพูดขึ้นมาบ้างถึงลูกชายของตัวเองที่ดูเหมือนก็จะยังไม่รู้หัวใจตัวเองเหมือนกัน“เอาน่าตอนนี้ทั้งสองคนก็ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเต็มที่คงจะต้องมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้างนั่นแหละเรามาฉลองกันดีกว่า”สิริวดีพูดพร้อมกับยกแก้วขึ้นชนกับทั้งสามคนเพื่อเฉลิมฉลองให้กับแผนการของตนเองอย่างมีความสุข“นั่นสินั่นสิ แต่บอกไว้ก่อนเลยนะถ้าเป็นหลานสาวต้องมาให้มาอยู่กับข้านะโว้ยไอ้เมธ” “ได้เลยๆ ถ้าเป็นหลานชายข้าจะยกสมบัติให้หมดไม่ให้พ่อมันสักชิ้นโทษฐานที่ทึ่มดีนัก”“ฮ่าๆๆ”แล้วทั้งสองครอบครัวก็หัวเราะชอบใจกับแผนการของตัวเองที่ดูจะค่อยๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นดี “
“มาคนเดียวเหรอครับ ..” เสียงที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูนักแต่ก็พอจะจำได้ว่าเป็นเสียงใครดังขึ้นดึงเธอออกจากภวังค์ความคิด“เอ่อ ค่ะ” “ผมขอนั่งด้วยได้ไหม” “หืมม ค่ะ” คนที่ยังเบลอๆ ตอบอึกอักออกไปไม่ทันได้ใช้ความคิดคนตัวสูงที่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอบอุ่นก็หย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามเธอ เรียบร้อย“คุณอรมีธุระแถวนี้เหรอครับ” ที่ผ่านมาก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าเธอไม่ค่อยอยากจะสานสัมพันธ์กับเขาสักเท่าไหร่แต่แล้วยังไงล่ะในเมื่อเธอยังไม่มีเจ้าของเขาก็มีสิทธิ์ไม่ใช่หรือไง“ใช่ค่ะ ทำธุระเสร็จแล้วอรว่ากำลังจะกลับอยู่พอดีเลยค่ะ”ถึงเพิ่งจะลงมาเพราะต้องการให้อีกคนมีเวลาส่วนตัวแต่เมื่อพูดออกไปแล้วแบบนี้ก็คงต้องไปเดินเตร่อยู่ในโรงพยาบาลก่อนก็แล้วกัน“อย่าตัดสัมพันธ์ผมขนาดนั้นเลยครับคุณอรผมไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเลยถ้าสุดท้ายแล้วเรื่องของเราเป็นไปไม่ได้จริงๆ ผมขอเป็นเพื่อนกับคุณอรได้ไหม”เปรมรีบพูดความในใจออกมาเมื่อเห็นท่าทีว่าเธอกำลังจะจากเขาไปอีกครั้งความรู้สึกที่เขามีให้เธอตั้งแต่วินาทีแรกมันออกมาจากความรู้สึกของเขาจริงๆ ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อยถึงแม้จะรู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานแต่ความรู้สึกที่มีต่อเธอนั
“กรี้ดดดดด!! ไอ้สวะเอ้ย! งานง่ายๆ แค่นี้ก็ทำพลาดเสียอารมณ์จริงๆ เลย” ลูกปัดกำโทรศัพท์ในมือแน่นเมื่อรู้ข่าวว่ามือดีที่ส่งไปจัดการกับศรัตรูหัวใจทำงานพลาดแถมยังจบชีวิตอีกต่างหากก็ทำเอาเธอถึงกับสติหลุดแต่ก็ดีเหมือนกันที่ตำรวจะได้สาวไม่ถึงตัวเธอ แต่หญิงสาวกลับไม่ได้รู้เลยว่าคนที่ต้องเจ็บตัวเพราะเรื่องที่เธอก่อขึ้นมานั้นคือคนที่เธอรัก …“เสียงดังโวยวายอะไรยายปัด” เปรมที่กำลังเดินผ่านมาพอดีเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวของตนเองกำลังหงุดหงิดกับอะไรบางอย่าง“พี่เปรม! ไหนบอกว่ารักบอกว่าชอบ อีนางนั่นไงคะ ทำไมไม่เห็นทำอะไรสักทีปัดจะทนไม่ไหวแล้วนะคะ!” “ปัดคิดจะทำอะไร ..”“ก็ถ้าพี่เปรมไม่ทำอะไรปัดจะทำเองค่ะ” “ถ้าปัดทำอะไรคุณอรละก็…”“ทำไมคะ พี่เปรมจะทำไม” “เรื่องอื่นพี่ไม่ว่า แต่ถ้าเรื่องคุณอร ปัดรู้เอาไว้เลยไม่ว่ายังไงพี่ก็จะไม่ยอมเด็ดขาด”คนเป็นพี่ยืนพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและแววตาที่แข็งกร้าวท่าทางแบบนี้เธอจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อพี่ชายของเธอโกรธจัดหรือตอนที่จะทำเรื่องเลวร้ายเท่านั้น ลูกปัดได้แต่จ้องมองดวงตาคู่นั้นด้วยด้วยความไม่พอใจ อีนังนั่นมันมีดีอะไรนักหนาทุกคนถึงได้รุมปกป้องมันขนาดนั้น คิดอย่
“อยากจะเป็นพระเอกมากนักหรอมึง.. ตายซะ!” ปั้ง!… เสียงปืนดังลั่นไปทั่วบริเวณอรฤดีหยุดชะงัก ทั้งที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หยาดน้ำตาไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้หัวใจเธอตอนนี้มันเหมือนจะหยุดเต้นไปด้วยในทันที ร่างของคนร้ายล้มหงายลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแน่นิ่ง จอมทัพเองก็ทิ้งตัวนอนลงไปด้วยความเหนื่อยหมดแรงหายใจหอบตัวโยน แล้วเสียงตำรวจก็วิ่งกรูกันเข้ามา ให้ตายเถอะนี่แค่จะมารับสาวเองไม่ใช่เหรอทำไมเกือบได้เอาชีวิตมาทิ้งซะอย่างนั้นดูจากการต่อสู้แล้วต้องเป็นมืออาชีพแน่ๆ ถ้าตำรวจมาช้าอีกนิดคงเป็นเขาแน่ๆ ที่นอนหมดลมหายใจอยู่ตรงนี้ “ฮึก ..ฮึก คุณ คุณ เป็นอะไรมากไหมคุณ “อรฤดีรีบวิ่งมาหาจอมทัพที่นอนเลือดอาบไปทั่วทั้งใบหน้าด้วยความเป็นห่วง แก้มใสๆ อาบชุ่มไปด้วยน้ำตาแต่เมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยแล้วสติการรับรู้ของเขาก็ค่อยๆ เลือนหายไป.. “คุณ อย่าเป็นอะไรไปนะคุณ ฟื้นสิ.. ฟื้นสิคุณ ฮึก ฮึก..”สองมือของเธอเขย่าร่างชายตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ต้องทำอะไร ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วไปหมด .….“ลูกไม่เป็นอะไรหรอกคุณ อย่าเป็นกังวลไปเลย”คนเป็นสามีพูดปลอบใจภรรยาที่นั่งเฝ้าลูกชายไม่ห่างจากเตีย
“นี่คุณยังไม่หายโกรธผมเรื่องนี้อีกเหรอ”“ไม่ได้โกรธค่ะก็เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวชั้นแค่ไม่อยากถูกใครมากล่าวหามาว่าชั้นอีก”มันก็จริงของเธออย่างที่เธอว่า..เธอมีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจในเมื่อควรเป็นเค้าเองที่จะต้องจัดการเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้ดี ต่อให้เอ่ยคำขอโทษไปอีกกี่ครั้งเรื่องราวมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปความรู้สึกของเธอก็ไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยเช่นกันเขาไม่ได้พูดอะไรระหว่างทางเพียงแต่ขับรถตรงไปยังร้านอาหารแห่งใหม่ที่คิดว่าเธอน่าจะชอบเพื่อเป็นการชดเชยที่ทำให้เธอต้องรู้สึกไม่ดีหญิงสาวนั่งตรงสายตาจ้องมองไปยังเส้นทางด้านหน้าเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเธอนั้นคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี“คุณรู้จักร้านนี้ได้ยังไง..”คำพูดของเธอเรียกความสนใจจากชายหนุ่มได้ไม่น้อยเค้าเองก็หันมามองหน้าเธอเช่นเดียวกันเพราะ ไม่คิดว่าเธอเองก็จะรู้จักร้านนี้เช่นกัน“คุณก็รู้จักร้านนี้เหมือนกันเหรอ”“นี่เป็นร้านที่ฉันชอบมากับคุณปู่บ่อยๆ แต่ว่าตั้งแต่คุณปู่เสียไปฉันก็ไม่ค่อยได้มาอีก”สายตาของเธอไหววูบลงเมื่อนึกถึงคนที่จะไปอยู่บนสรวงสวรรค์และยิ่งคิดถึงมากขึ้นไปอีกเมื่อตอนนี้เธออยู่ไห
“ทำไมต้องเจอผู้หญิงหน้าด้านที่นี่นะ”คำพูดของลูกปัดดังพอที่จะทำให้ทั้งอรฤดีและกรองขวัญได้ชัดชัดเจนจนต้องเงยหน้ามามองตากันในทันทีตอนนี้อรฤดีรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของว่าที่สามีเธอและเป็นผู้หญิงเดียวกันกับที่เดินชนเธอในวันก่อนไม่รู้ทำไมเมื่อเรียบเรียงสถานการณ์ได้อย่างนั้นแล้วก็เกิดความความรู้สึกไม่พอใจบางอย่างขึ้นมาทันทีทั้งที่ตกตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วแต่ปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงอรฤดีหันไปมองลูกปัดด้วยแววตาเอาเรื่องแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะไม่อยากจะทำให้ เสียบรรยากาศอุตส่าห์ตั้งใจจะกินไอติมให้อารมณ์เย็นลงให้ใจดีขึ้นมา แต่กลับมาเจอต้นต่อตัวปัญหาเข้าเต็มๆ“มองทำไมยะ ไม่เคยเห็นคนมากับแฟนรึไงหรือว่ามองเพราะอยากจะได้ของของคนอื่นจนตัวสั่น!”“มันจะมากไปแล้วนะนังลูกปัด จะพูดจะจาอะไรหัดคิดก่อนซะบ้าง”กรองขวัญเอ่ยพูดสวนขึ้นมาทันที เมื่อ รู้สึกว่าผู้หญิงที่สวยแต่เปลือกคนนี้นั้นพูดจารุนแรงเกินไป“แหมก็เรื่องจริงทั้งนั้นทนฟังไม่ได้เหรอ จะคบเพื่อนก็เลือกคบหน่อยนะ ระวังจะโดนเพื่อนรัก สวมเขาให้รู้ตัว”ลูกปัดเบะปากพูดจีบปากจีบคอหน้าระรื่นหันไปทางกรองขวัญเพื่อนที่สนิทและก็ไม่อยากสน