Share

บทที่ 7

Author: จิ้งซิง
ชุยเส้าเจ๋อก้าวเท้าเดินมาทางเวินซื่อ ท่าทางดูเกรี้ยวกราดหมายจะหาเรื่อง

เมื่อมองไปทางด้านหลังของเขาอีกก็เห็นเวินเยวี่ยอ้าปากพูดว่า “อย่าเลย” ด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่ได้ทำท่าจะฉุดรั้งชุยเส้าเจ๋อเลยสักนิด

หลังจากที่สบสายตาของเวินซื่อ ดวงตาของนางถึงขนาดฉายแววกระหยิ่มยิ้มย่อง

เห็นได้ชัดว่าการที่นางสามารถยุให้ชุยเส้าเจ๋อออกหน้าเพื่อนางได้ง่าย ๆ นั้นทำให้นางภาคภูมิใจเอามาก ๆ

แต่ว่าน่าเสียดายมาก ยังไม่ทันที่ชุยเส้าเจ๋อจะเดินเข้ามาใกล้เวินซื่อ เสียงทุ้มหนึ่งดังมาจากทางด้านปะรำพิธี...

“เจ้าห้า เจ้าหก ถึงฤกษ์งามยามดีแล้ว ยังไม่รีบมาเตรียมตัวทำพิธีปักปิ่นอีก”

เวินซื่อหันหน้าไปมอง

บนปะรำพิธี บุรุษวัยกลางคนสวมชุดเสื้อคลุมยาวสีเขียวดูสง่าผ่าเผยเปี่ยมไปด้วยความรู้กำลังนั่งอยู่ตำแหน่งประธาน มองพวกนางสองคนด้วยสีหน้าเย็นชา

นี่คือบิดาของนาง เจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่ง

เวลานี้ต่อให้ชุยเส้าเจ๋ออยากหาเรื่องนางอีกเพียงใด ก็ได้แต่ถอยหลังไปเท่านั้น

เวินซื่อเดินขึ้นไปบนปะรำพิธีโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อเวินซื่อขึ้นมาบนปะรำพิธีก็ควงแขนนางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับบุปผา จงใจทำตัวสนิทสนม

“พี่หญิงห้า ท่านซ่อมแซมชุดเหตุใดถึงใช้เวลาซ่อมนานเพียงนี้นะ ท่านพ่อรอท่านมาได้สักพักแล้ว”

“ซ่อมแซมชุด?”

เวินเฉวียนเซิ่งเหลือบมองเวินซื่อแวบหนึ่ง

ไม่รอให้เวินซื่อเอ่ยปาก เวินเยวี่ยก็รีรอไม่ไหวเล่าเรื่องที่เวินซื่อตัดชุดพิธีการจนเละเทะออกมา นางกล่าวจบก็ถอนหายใจอีกครั้ง “เฮ้อ ต้องโทษข้าที่ไม่รู้ความ ไม่อาจเกลี้ยกล่อมพี่รองได้ ไม่เช่นนั้นพี่หญิงห้าก็คงไม่โมโหจนตัดชุดพิธีการเสียเละเทะ”

น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว จะต้องใช้เรื่องนี้มาว่าร้ายนางให้ได้ใช่หรือไม่?

เวลานี้เวินซื่อไม่อยากเอ่ยสักครึ่งคำแล้ว

หลังจากปล่อยให้เวินเฉวียนเซิ่งจ้องมองนางอยู่หลายวินาที นางก็เอ่ยอย่างหมดความอดทนว่า “ตกลงพิธีปักปิ่นนี้ยังจะเริ่มอีกหรือไม่? หากท่านพ่อกับน้องหกไม่อยากให้ข้าทำต่อ เช่นนั้นข้าไสหัวลงไปเองได้หรือไม่?”

เมื่อเวินซื่อเอ่ยปากระเบิดอารมณ์อย่างเหนือความคาดหมาย คิ้วเรียวที่งดงามก็ขมวดแน่น สีหน้าดูรำคาญใจมาก

ขนาดเวินเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดนี้ของนางก็ยังตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

คิดไม่ถึงเลยว่าเวินซื่อจะใจกล้าถึงเพียงนี้ นางกล้าพูดจาเช่นนี้กับท่านพ่อตั้งแต่เมื่อไร?

นางไม่กลัวท่านพ่อไล่นางลงไปจริง ๆ หรือ?

อย่างไรก็ตามเวินซื่อไม่กลัวเลยจริง ๆ

สำหรับสตรีทุกคนในสมัยราชวงศ์ต้าหมิง พิธีปักปิ่นเป็นหนึ่งในพิธีที่สำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของพวกนาง

ดังนั้นก่อนพิธีปักปิ่น สตรีทุกนางต่างก็ตั้งตารอวันนี้มาก

แต่บางทีอาจเป็นเพราะพิธีปักปิ่นในชาติก่อนได้มอบความอัปยศที่ยากจะลบเลือนให้เวินซื่อ ทำให้หลังจากที่นางยืนอยู่บนปะรำพิธีเมื่อครู่นี้ ในใจถึงมีความรู้สึกต่อต้านและความฉุนเฉียวที่ยากจะอธิบายอยู่ตลอด

“ไม่จำเป็นต้อง ทำพิธีต่อไป”

หลังจากที่เวินเฉวียนเซิ่งเก็บสายตากลับมาแล้ว เขาก็เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ในเมื่อไม่มีชุดพิธีการ เช่นนั้นก็เริ่มเช่นนี้เลย ก่อเรื่องอันใดไว้ก็ต้องรับผลนั้นเอง”

เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าคำพูดที่เวินซื่อบอกว่าจะไสหัวลงไปนั้นไม่ใช่การไสหัวไปจริง ๆ แต่ว่าอยากหลีกหนี

แต่ในเมื่อใจกล้ามากจนกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าเขา เช่นนั้นก็ต้องให้บทเรียนดี ๆ

ให้นางได้เจอความลำบากบ้าง อับอายขายหน้าบ้าง ต่อไปจะได้ว่าง่ายเชื่อฟัง

เวินเฉวียนเซิ่งคิดเช่นนั้น ก่อนจะส่งสัญญาณให้ผู้ประกาศในงานพิธีดำเนินการต่อไป กล่าวเปิดพิธีอย่างเรียบง่าย ขอบคุณแขกเหรื่อที่มาเยือน จากนั้นก็ประกาศเริ่มต้นพิธีปักปิ่น

เนื่องจากฮูหยินเจิ้นกั๋วกงสิ้นไปแล้ว สกุลเวินไร้นายหญิง แขกสำคัญย่อมเป็นท่านอาหญิงของพวกเวินซื่อ หรือก็คือเวินหย่าลี่น้องสาวของเวินเฉวียนเซิ่งมาสวมกวานให้พวกนางสองคน

“อุ๊ย ดูเยวี่ยเอ๋อร์ของพวกเราสิเติบโตมาได้สดใสมีชีวิตชีวาจริง ๆ หลังจากพิธีปักปิ่นนี้ไม่รู้ว่าจะมีคนดี ๆ มาสู่ขอจนเหยียบธรณีประตูหักมากเพียงใด”

“แต่น่าเสียดายที่เส้าเจ๋อของบ้านเราหมั้นหมายไว ไม่เช่นนั้นไฉนเลยโชคดีเช่นนี้ยังจะไปถึงตาผู้อื่นได้?”

เวินหย่าลี่เข้ามาพูดอย่างมีนัยแอบแฝง ยิ้มตาหยีพลางจับมือน้อย ๆ ของเวินเยวี่ยขึ้นมาพลางพูดโดยไม่สนใจใคร ไม่มองแม้กระทั่งเวินซื่อที่อยู่ทางด้านข้างเลยสักแวบเดียว

คนที่อยู่ข้างล่างได้ยิน ยังมีใครฟังความนัยของคำพูดของนางไม่ออกอีกบ้าง?

บุตรชายของเวินหย่าลี่คือใคร?

นั่นก็คือชุยเส้าเจ๋อจากจวนจงหย่งโหวไม่ใช่หรือไร

ทุกคนล้วนทราบว่าชุยเส้าเจ๋อกับเวินซื่อเป็นคู่รักกันมาตั้งแต่เล็ก ตกลงหมั้นหมายกันเมื่อหลายปีก่อนแล้ว

ดังนั้นคำพูดของเวินหย่าลี่ที่ว่าหมั้นหมายไว นั่นก็หมายถึงเวินซื่อไม่ใช่หรือไร?

“ก็จริงนะ เมื่อก่อนดูไม่ออกเลยว่าเวินซื่อผู้นี้จะมีจิตใจชั่วช้าถึงเพียงนี้”

“อิจฉาแม้แต่น้องสาวของตนเอง ช่างใจแคบเสียจริง”

“เมื่อก่อนได้ยินว่านางเย่อหยิ่งแผลงฤทธิ์ในบ้าน รังแกคุณหนูหกอยู่บ่อย ๆ ว่ากันว่ายังเคยผลักคุณหนูหกตกน้ำด้วย”

“อายุยังน้อยก็ใจคอโหดร้ายจริง ๆ!”

“ตอนนี้รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว เกรงว่าคนของจวนจงหย่งโหวคงจะนึกเสียใจอย่างยิ่งแล้ว”

“ใช่แล้ว ไม่ได้ยินที่ฮูหยินจงหย่งโหวพูดเมื่อครู่นี้หรือ? ตอนนี้นางรังเกียจเวินซื่อแล้ว เกรงว่าแทบอยากจะถอนหมั้นเต็มแก่แล้ว”

“...”

เวินเยวี่ยเอ่ยโดยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความขัดเขินและกระดากอายว่า “ท่านน้าอย่าพูดเช่นนี้เลย อันที่จริงข้าเห็นท่านพี่เส้าเจ๋อเป็นเหมือนพี่ชายแท้ ๆ มาโดยตลอด แม้พี่หญิงห้าจะทำตามอำเภอใจไปบ้าง แต่นางชอบท่านพี่เส้าเจ๋อมาตลอด คิดว่าพี่หญิงห้าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อท่านพี่เส้าเจ๋ออย่างแน่นอน เช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะได้เป็นคู่สามีภรรยาที่มีความสุข”

ฟังดูสิ ช่างเป็นคนดีเข้าอกเข้าใจผู้อื่นมากเพียงใด

“เจ้าห้าฟังสิ ฟังคำพูดเหล่านี้ของน้องสาวเจ้า เป็นเด็กจิตใจดีมากเพียงใด? วัน ๆ เจ้าอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรก็เรียนรู้จากน้องสาวเจ้าให้ดีไม่ได้หรือ?”

คำพูดของเวินหย่าลี่ปะทะเข้ากับความคิดภายในใจของเวินซื่อ

เวินหย่าลี่อยากเล่นงานนางต่อหน้าผู้คนอย่างเห็นได้ชัด

แต่เวินซื่อกลับรู้สึกขบขันเท่านั้น

“พอได้แล้ว อย่าให้เสียฤกษ์”

เวินเฉวียนเซิ่งรู้ว่าเวินหย่าลี่ไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากให้นางทำเกินเลย

ถึงอย่างไรวันนี้ก็มีแขกเหรื่อมากันเยอะ จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาจะอับอายขายหน้าไม่ได้

ดีหรือร้ายอย่างไรเวินหย่าลี่รู้จักกาลเทศะอยู่บ้าง ดังนั้นจึงไม่ได้กล่าวต่ออีก

ทว่าต่อให้ไม่เอ่ยแล้ว แต่การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในพิธีกลับมีอยู่ไม่น้อย

ถึงอย่างไรลำดับก่อนหลังของการสวมกวานนี้

ถ้าอิงตามกฎเกณฑ์ เดิมทีควรหวีผมสวมกวานให้เวินซื่อก่อน หลังจากนั้นค่อยเป็นเวินเยวี่ย

แต่เวินหย่าลี่ไม่ชอบเวินซื่อ ดังนั้นจึงหวีผมสวมกวานให้เวินเยวี่ยก่อนทันที

ตอนที่กล่าวคำอวยพร นางยิ้มแย้มเต็มเปี่ยมกล่าวคำอวยพรหลายสิบประโยคเต็ม ๆ น้ำเสียงแต่ละประโยคเต็มไปด้วยความเอ็นดู

ใครไม่รู้ยังนึกว่าเวินเยวี่ยถึงเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของนาง อ้อไม่สิ เป็นลูกสะใภ้ของนาง

เมื่อถึงคราวเวินซื่อก็เปลี่ยนท่าทีเป็นคนละแบบโดยสิ้นเชิง

ดูเย็นชาอย่างไม่ปกปิดเลยสักนิดเดียว แม้แต่คำอวยพรก็เป็น ‘ขอให้ปลอดภัยมีความสุข’ อย่างส่ง ๆ แค่ประโยคเดียว

บรรดาแขกเหรื่อที่อยู่ด้านล่างไม่รู้สึกแปลกใจเช่นกัน

อย่างไรเสียใครอยากจะอวยพรคนที่มีจิตใจชั่วช้ากันเล่า?

“พิธีสวมกวานเสร็จสิ้น ผู้ปักปิ่นโปรดกลับห้อง สวมชุดพิธีการ รับการ...”

“ไม่มีชุดพิธีการ ข้ามไปเถิด ดำเนินลำดับขั้นตอนถัดไป”

ในขณะที่ผู้ประกาศในงานพิธีประกาศลำดับพิธี เวินเฉวียนเซิ่งก็ตัดบทของผู้ประกาศในงานพิธีด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ผู้ประกาศในงานพิธีอึ้งไป แต่ท้ายที่สุดยังคงเชื่อฟังคำพูดเจิ้นกั๋วกงอย่างเฉลียวฉลาด ข้ามขั้นตอนเปลี่ยนชุดพิธีการนี้ไปยังพิธีมอบดอกไม้สิริมงคลซึ่งเป็นขั้นตอนถัดไปทันที

วันนี้มีแขกมาร่วมงานไม่น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่เจิ้นกั๋วกง

นอกจากผู้มีตำแหน่งสูงส่งเหล่านั้นแล้ว ผู้สูงศักดิ์เกือบทั้งหมดในเมืองหลวงต่างมากันหมด

ต่อให้ไม่ได้มาด้วยตนเอง ก็ส่งคนในครอบครัวมามอบดอกไม้อวยพรให้ผู้ปักปิ่นทั้งสองคนตอนพิธีมอบดอกไม้สิริมงคล

ดังนั้นเวลานี้ผู้คนมากมายที่อยู่ข้างล่างปะรำพิธีล้วนถือดอกไม้ไว้ในมือ กลับไม่มีใครลุกขึ้นมาเป็นคนแรก

แค่พากันวิพากษ์วิจารณ์...

“เหตุใดไม่ให้พวกนางไปเปลี่ยนชุดพิธีการเล่า?”

“ไม่ได้ยินที่เจิ้นกั๋วกงกล่าวหรือ ไม่ได้เตรียมชุดพิธีการให้คุณหนูทั้งสอง เช่นนี้จะเปลี่ยนได้อย่างไร?”

“ไม่ได้เตรียมไว้ที่ใดกันเล่า ข้าได้ยินว่าเมื่อหนึ่งวันก่อนชุดพิธีการของคุณหนูหกถูกคุณหนูห้าทำลายไปแล้ว”

“เป็นนางอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ด้วย!”

“คุณหนูห้าผู้นี้ช่างจิตใจชั่วช้าเสียจริง งานสำคัญถึงเพียงนี้ยังจะทำลายชุดพิธีการของน้องสาวตนเองอีก”

“เช่นนั้นนางไม่มีชุดพิธีการให้เปลี่ยนเหมือนกันได้อย่างไร?”

“นี่ยังต้องเอ่ยอีกหรือ จะต้องถูกท่านเจิ้นกั๋วกงลงโทษอย่างแน่นอน”

“เกินไปแล้วจริง ๆ คนเช่นนี้ไม่คู่ควรได้รับดอกไม้สิริมงคลหรอก!”

“หากทุกคนต้องมอบก็มอบให้คุณหนูหก อย่ามอบให้นางเลย!”

“ถูกต้อง!”

ผู้คนพากันวางดอกไม้ที่ใช้สำหรับอวยพรให้ผู้ปักปิ่นในมือของพวกเขาลงตรงหน้าเวินเยวี่ยทั้งหมดภายใต้ความโกรธเกรี้ยว
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (3)
goodnovel comment avatar
รัตติกาล วรรณถาวร
อยู่ๆจะเกลียด ก็เกลียดแบบไม่มีเหตุผล โดนของแน่ๆ
goodnovel comment avatar
นราภรณ์ วรรณพฤกษ์
งงกะคนแต่งนิยาย
goodnovel comment avatar
Iam Honeybee
งง อ่านตั้งแต่ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพอ 6 มา แล้วทุกคนเกลียด 5 เขาโดนยาสเน่ห์กันทั้งบ้านทั้งเมือง หรืออุปาทานหมู่ หรืออะไร .. หาเหตุผลไม่เจอ
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 798

    ฟ่านซิ่วซิ่วปวดจนเหงื่อเย็นแตกพลั่ก ทว่าขณะนี้นางไม่กล้าพูดอีกแล้วนางคิดไม่ถึงว่าเป่ยเฉินหยวนโหดเหี้ยมกว่าที่นางคิดไว้เสียอีก!นี่อยู่ตรงหน้าประตูเมืองจงซิน บิดาของนางอาจมาเยือนได้ตลอดเวลา ทว่าเป่ยเฉินหยวนคิดจะลงมือกับนางก็ลงมือทันที!เมื่อเห็นแขนขาดข้างนั้นของตัวเอง ฟ่านซิ่วซิ่วเกลียดชังเป่ยเฉินหยวนมากสารเลวที่สมควรตาย คนป่าเถื่อนที่สมควรตาย!นางจะทำให้เจ้าหมอนี่ที่กล้าตัดแขนนางชดใช้อย่างสาสม!ในขณะที่ฟ่านซิ่วซิ่วกำลังกดแผลตรงแขนที่ขาดอย่างสุดกำลัง เพื่อป้องกันเสียเลือดมากเกินไป แมลงน้อยตัวหนึ่งแอบบินไปเกาะแขนข้างที่ขาดของนางบนพื้น จากนั้นดูดแผลอย่างแรงหนึ่งคำยามนี้ทั้งฟ่านซิ่วซิ่วและฟ่านจุ้ยทั้งสองคนไม่ทันสังเกตเห็นเพราะพวกเขากำลังถูกบังคับให้เลือกยาหากไม่เลือก หรือพูดไร้สาระยืดเยื้อจุดจบฟ่านซิ่วซิ่วได้แสดงให้เห็นแล้วหนึ่งครั้ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนต้องแข็งใจแล้วเลือกถ้วยหนึ่งดูเหมือนกากยา อีกถ้วยดูเหมือนยาต้มถ้วยหนึ่งสีสันประหลาด อีกถ้วยหนึ่งดูเหมือนปกติทำให้ฟ่านจุ้ยและฟ่านซิ่วซิ่วไม่ค่อยกล้าเลือกตกลงถ้วยไหนคือยาพิษ?หรือว่าเป็นยาพิษทั้งสองถ้วย?ฟ่านซิ่วซิ่ว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 797

    “คนละหนึ่งถ้วย พวกเจ้าเลือกเอง”ฟ่านจุ้ยกับฟ่านซิ่วซิ่วได้ยินดังนั้น ล้วนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิมฟ่านจุ้ยที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่เข้าใจ “ท่านอ๋อง ให้พวกเราเลือกสิ่งนี้ทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ย่อมต้องกินเข้าไปนะสิ หรือไม่ก็ดื่มเข้าไป ข้าจะให้ทางเลือกพวกเจ้าสองทาง พวกเจ้าเลือกได้ตามใจชอบ”เป่ยเฉินหยวนยิ้มจางๆฟ่านซิ่วซิ่วรู้สึกผิดปกติทันที นางกลืนน้ำลาย จงใจเอ่ยถาม “นั่น...ดูเหมือนจะเป็นยา? หรือท่านอ๋องต้มยาขับความเย็นให้พวกเราหรือเพคะ?”เป่ยเฉินหยวนอมยิ้มแล้วมองดูพวกเขา “หากพวกเจ้าจะคิดอย่างนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่ได้”ตุบ!ฟ่านซิ่วซิ่วเพิ่งได้ฟังก็คุกเข่าลงพื้นกะทันหัน ใบหน้าดวงน้อยขาวซีดเผยให้เห็นความหวาดกลัว “ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันไม่เข้าใจความหมายของท่านจริงๆ หากเป็นเรื่องที่หม่อมฉันเสียมารยาทตรงทางเข้าค่ายก่อนหน้านี้ แล้วท่านอยากลงโทษหม่อมฉัน หม่อมฉันยินดีรับโทษ”“เพียงแต่ยานี่...หม่อมฉันสุขภาพไม่ดีตั้งแต่เด็ก ที่ผ่านมาไม่เคยกินยาสุ่มสี่สุ่มห้า เกรงว่ากินเข้าไปแล้ว ยานี่จะกลายเป็นยาพิษ พลาดพลั้งเพียงนิดก็จบชีวิตลงได้ หม่อมฉันตายไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่ท่านพ่อกับท่านย่าต้องเสียใจอย่าง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 796

    ภายในกระโจมฟ่านจุ้ยกับฟ่านซิ่วซิ่วถูกทหารกองทัพธงดำสองคนคุมตัวเข้ามาในไม่ช้าเมื่อเข้ามาในกระโจม ฟ่านจุ้ยลอบมองสำรวจด้านในหนึ่งรอบพบว่ามีเพียงท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการอยู่ที่นี่ในใจฟ่านจุ้ยสงสัยธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงไม่อยู่หรือ?สายตาของเขามองไปทางเป่ยเฉินหยวนอย่างรวดเร็ว เห็นเพียงอีกฝ่ายยืนอยู่ข้างโต๊ะยาวตัวหนึ่ง ตรงหน้ามีถ้วยสองใบซึ่งไม่รู้ว่าใส่สิ่งใดเอาไว้ด้านในนั้นอันหนึ่งเป็นของข้นสีดำเขียว ส่วนอีกหนึ่งคือของเหลวสีน้ำตาลชนิดหนึ่งแม้ไม่รู้ว่าตกลงคือสิ่งใด แต่กลิ่นสมุนไพรที่อบอวลอยู่ในอากาศก็บอกพวกเขาบ้างแล้ว สิ่งที่อยู่ในถ้วยสองใบนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นยาสองชนิดคงไม่ให้พวกเขาทั้งสองกินหรอกนะ?ในใจฟ่านจุ้ยชะงักฟ่านซิ่วซิ่วข้างกายเขาก็ไม่ต่างจากเขา ได้สำรวจภายในกระโจมทันทีตั้งแต่ที่เพิ่งเดินเข้ามาถึงส่วนคนที่นางตามหา ตอนนี้มีเพียงคนเดียวที่อยู่ตรงนี้แม้ธิดาศักดิ์สิทธิ์จะไม่อยู่ แต่ท่านอ๋องอยู่ก็ดีแล้วเพราะอย่างไรเป้าหมายของนางก็คือท่านอ๋องเป่ยเฉินหยวนส่วนธิดาศักดิ์สิทธิ์ ขอเพียงอีกฝ่ายยังไม่ไปจากชางโจว เช่นนั้นนางย่อมมีโอกาสเล่นงานอีกฝ่าย“หม่อมฉันฟ่านซิ่วซิ่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 795

    ฟ่านซิ่วซิ่วกล่าวขณะทำหน้าไม่แยแส เมื่อรอให้นางหันมองพบว่าสายตาของฟ่านจุ้ยที่มองนางผิดปกติฟ่านซิ่วซิ่ว “?”“สายตาเจ้ามันอะไรกัน อยากตายหรือ? เชื่อหรือไม่ถ้าได้ออกไปข้าจะจับเจ้าไปทำปุ๋ยดอกไม้ของข้า?”ฟ่านจุ้ยหัวเราะพรวด “พี่หญิงรอง เจ้าบอกว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์หน้าตาบ้านๆ คำพูดนี้ข้าไม่เชื่อแม้แต่น้อย ข้าว่านะ ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือวาดภาพของจิตรกรไม่ดีพอ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าคนในภาพไม่ใช่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำไป”“หมายความว่าอย่างไร?”ฟ่านซิ่วซิ่วจ้องมองเขา สายตาไม่สบอารมณ์ “เจ้าเคยเห็นธิดาศักดิ์สิทธิ์หรือ?”“ข้าถูกจับมานานขนาดนี้ เจ้าคิดว่าไม่เคยเห็นหรือ?”ฟ่านซิ่วซิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง ต่อมานางหรี่ตาลง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอันตราย “ดังนั้น เจ้าคิดว่ารูปโฉมของนางเทียบกับข้าแล้วเป็นอย่างไร?”ปัญหาโลกแตกน่าเสียดายฟ่านจุ้ยไม่กลัวสักนิด“มัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง ท่วงท่าสง่างาม ยิ่งมีจิตบริสุทธิ์สูงส่ง”ฟ่านจุ้ยส่ายหน้าแล้วกล่าว “สรุปได้เพียงคำเดียว ไม่รู้งดงามกว่าเจ้าตั้งกี่เท่า”“ปัง!”กรงเหล็กสั่นสะเทือนกะทันหันฟ่านซิ่วซิ่วที่ถูกขังอยู่ในกรงเหล็กสีหน้า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 794

    “หุบปาก!”ฟ่านซิ่วซิ่วที่ถูกจี้จุดใจดำสีหน้าโมโหขึ้นมาทันที ถลึงตาอย่างเอาเรื่องใส่ฟ่านจุ้ยแวบหนึ่ง “ที่ข้าต้องเข้ามาอยู่ที่นี่ นั่นเพราะเหตุสุดวิสัยเล็กน้อยเท่านั้น มีเวลาห่วงใยคนอื่นอยู่ที่นี่ สู้กลับไปเป็นห่วงตัวเองเถอะ”ขณะที่ฟ่านซิ่วซิ่วพูดเหลือบมองเหรินจื้อหลังฟ่านจุ้ยแวบหนึ่ง แล้วแค่นหัวเราะ “เพราะอย่างไรบิดาของข้าไม่เหมือนพ่อที่ไร้ประโยชน์ของเจ้าหรอก”นางเชื่อว่าอีกไม่นาน บิดาต้องมารับนางอย่างแน่นอนสายตาเยือกเย็นของฟ่านจุ้ยจ้องมองนาง “หากเจ้ากล้าพูดสิ่งใดที่เชื่อมโยงข้ากับเดรัจฉานนี่แม้แต่คำเดียว เชื่อหรือไม่ ไม่ต้องรอให้บิดาเจ้ามา ข้าจะส่งเจ้าไปลงนรกที่นี่เลย”“เจ้ากล้าหรือ!”สายตาของฟ่านซิ่วซิ่วไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย“หากคุณหนูอย่างข้าเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว ท่านย่ากับท่านพ่อของข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่ อีกอย่างต่อให้ข้าต้องตายก็ลากเจ้าไปลงนรกด้วย ไม่เชื่อเจ้าก็ลองดูได้เลย”ฟ่านจุ้ยโหดเหี้ยม แต่คนสกุลฟ่านใครบ้างไม่โหดเหี้ยม?หากนางกลัวฟ่านจุ้ยจริง เช่นนั้นนางคงไม่ได้เป็นคุณหนูรองสกุลฟ่านเพราะอย่างไรในสกุลฟ่าน พวกที่ขี้ขลาดตาขาวหลายคนนั้นได้ตายไปนานแล้วฟ่านจุ้ยที่ถูกขังอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 793

    แต่หญิงสาวที่งดงามคนหนึ่ง เหตุใดบนตัวจึงมีกลิ่นศพเน่า?หรือนางเคยไปสถานที่ใดแล้วติดมาหรือ?หรือว่า...นางทำสิ่งใด?เวินซื่อรู้สึกว่าอย่างหลังมีความเป็นไปได้มากกว่าดังนั้นจึงทำให้ความคิดที่น่ากลัวอย่างหนึ่งค่อยๆ ลุกลามในใจนางเวินซื่อมองเป่ยเฉินหยวน “ท่านจับตัวฟ่านซิ่วซิ่วไว้เช่นนี้ ฟ่านจงนั่น หากไม่ใช่คืนนี้ หรือวันพรุ่งนี้ ต้องมีความเคลื่อนไหวแน่นอน”“ถ้าอย่างนั้นทางที่ดีเขาต้องรีบหน่อย หากเขาไม่มา ท่านดูสิพรุ่งนี้ข้าจะแขวนลูกสาวสุดที่รักของเขาไว้บนกำแพงเมืองจงซินหรือไม่”เป่ยเฉินหยวนยิ้มจาง บนใบหน้าเย็นชายิ่งนักในขณะที่เวินซื่อกับเป่ยเฉินหยวนเตรียมรับมือ ยามนี้ด้านหลังค่าย ฟ่านซิ่วซิ่วที่ถูกจับตัวเข้ามาจริงๆ กำลังถูกทหารกองทัพธงดำขังไว้ในกรงภายใต้กระโจมหลังใหญ่ฟ่านซิ่วซิ่วที่ไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน ขณะนี้สีหน้าบึ้งตึง สายตาเหี้ยมเกรียมจนน่าตกใจแต่นางก็ยังรักษาท่าทีของคุณหนูตระกูลใหญ่ ต่อให้จะถูกจับตัวเข้ามาที่นี่ แต่ก็ไม่ได้เอะอะโวยวายเสียงดังเพราะอย่างไรนางคือบุตรสาวท่านเจ้าเมือง อีกทั้งที่นี่คือพื้นที่ของบิดานางต่อให้เป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแล้วอย่างไร

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status