แชร์

มีค่าเพียงสองตำลึง

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-19 21:29:24

หลิงเฟิ่งยังมิทันได้หันไปมองเลยว่า สองพี่น้องคิดจะทำอันใดกับนาง ความเจ็บปวดบริเวณหน้าอกของนาง ก็ทำให้นางต้องก้มลงไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น

เลือดค่อยๆ ไหลซึมออกมาจากอกของนางอย่างช้าๆ ดวงตาของหลิงเฟิ่งพร่ามัว มองใบหน้าของทั้งสามไม่ชัด

“เป็นเช่นนี้ก็ดี นับจากนี้ข้าให้พวกท่านมีความสุขกับสิ่งที่เลือก แต่คงไม่อาจจะสมหวังได้” เสียงที่หลุดออกมาจากปากของหลิงเฟิ่งแผ่วเบาก็ทั้งสามก็ได้ยินอย่างชัดเจน

คนพวกนี้คิดว่ามิติมันจะเปลี่ยนผู้ครอบครองได้ง่ายๆ เลยรึ ต่อให้นางมอบกำไลให้พวกเขา ก็มิใช่ว่าจะเป็นผู้เปิดมิติได้ ในเมื่อมีเพียงแค่นางเท่านั้นที่เข้าออกได้เพียงผู้เดียว

หลี่กวนตกใจไม่น้อย ที่บุตรชายทั้งสองสังหารหลิงเฟิ่ง แต่เขามิได้เข้ามาดูนางที่กำลังค่อยๆ หมดลมหายใจอย่างช้าๆ แต่เข้ามาถอดกำไลในมือไปแทน

“เอามาให้ข้า” หลี่เฉียงแย่งกำไลมาจากมือของหลี่กวน ก่อนจะสวมใส่เอาไว้

“เหตุใดเข้าไม่ได้” เขากำหนดจิตเช่นที่เคยเห็นหลิงเฟิ่งนางทำ แต่ก็มิอาจเข้าไปภายในมิติได้

“ให้ข้าลองดู” หลี่ซวงแย่งมาจากมือพี่ชาย ก่อนจะทำตามเช่นเดียวกัน

“ไม่ได้!!!” สองพี่น้องเริ่มจะเกิดความกังวล

หลิงเฟิ่งที่มองทั้งสามเปลี่ยนกันสวมใส่กำไล ก็ได้แต่ยิ้มเย้ยหยันออกมา

“เฟิ่งเออร์!!!” เสียงของฉงหานดังขึ้น เมื่อเห็นร่างของหลิงเฟิ่งตอนเลือดไหลออกมาเต็มพื้น

“กำไลเล่า กำไลอยู่ที่ใด” นี่คือคำพูดสุดท้ายที่หลิงเฟิ่งนางได้ยินจากปากของฉงหาน ก่อนสติของนางจะค่อยๆ เลือนหายไป พร้อมกับลมหายใจที่หมดลง

“หึ ครั้งนี้ข้าจะบ้าให้สมใจพวกท่านเลย” หลิงเฟิ่งยิ้มเย็นออกมา เมื่อได้รู้ว่านางย้อนกลับมาอีกครั้งแล้ว

เหตุใด เมื่อครั้งที่แล้วนางถึงไม่ได้สำรวจสภาพร่างกายของหลี่หลิงเฟิ่งเลย หากลองใคร่ครวญดูดีๆ จะพบว่าร่างกายนี้ขาดสารอาหารมาเป็นเวลานาน

ไม่ใช่ว่าเพียงจะผอมแห้งหลังจากที่นอนป่วยอย่างที่พวกเขาเคยพูด หลิงเฟิ่งลองสำรวจว่านางยังมีมิติอีกหรือไม่ ก็พบว่านางยังมีอยู่เช่นเดิม

หลิงเฟิ่ง ได้ยินเสียงพูดของบุรุษตระกูลหลี่ทั้งสามอยู่หน้าห้องแล้ว แต่ยังมิได้เดินเข้ามา เป็นจริงเช่นที่หลี่เฉียงเคยบอกนางไว้ หลี่กวนผู้เป็นบิดามีความคิดที่ต้องการนำนางไปทิ้งบนภูเขาจริงๆ หากนางยังมิฟื้นขึ้นมา

“เข้าไปดูก่อน หากใกล้ตายจะได้รีบเอาไปทิ้ง หากชาวบ้านถามก็บอกว่านางสิ้นใจไปแล้ว” หลี่กวนเปิดประตูเข้ามาก็ต้องตกใจ เมื่อหลิงเฟิ่งนางลืมตามองเพดานห้องอย่างเลื่อนลอย

“ฟะ ฟื้นแล้ว ฟื้นได้อย่างไรกัน” เสียงร้องอันดังของหลี่กวน ทำให้บุรุษอีกสองคนวิ่งเข้ามาภายในห้อง

“นางยังไม่ตาย ดูท่าคงอีกไม่นาน ดูตาของนางสิท่านพ่อ ไร้ชีวิตเช่นดี” หลี่ซวงชะโงกหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ

หากเมื่อครั้งนี้แล้ว นางนอนนิ่งๆ ไม่ลุกขึ้นมาให้พวกเขาเห็นความเปลี่ยนแปลง คงจะได้ยินคำพูดเลวร้ายออกมาจากปากของพวกเขาตั้งแต่แรกแล้ว

“ไม่ดีรึ ตระกูลซ่ง อยากแต่งนางให้บุตรชายที่ใกล้ตายของพวกเขา ในเมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว ท่านก็ไปพูดคุยกับตระกูลซ่งเสียเถิดท่านพ่อ”

แววตาของหลิงเฟิ่ง แข็งกร้าวขึ้นมาวูบก่อนจะกลับมาเลื่อนลอยเช่นเดิม นางรู้จักคนตระกูลซ่งดี เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านหู่เซิงเช่นกัน ครอบครัวของพวกเขาก็ยากจนไม่ต่างจากตระกูลหลี่ของนาง

นางจำได้ว่า ซ่งชุยหยุนผู้เป็นบุตรชาย หลังจากที่นางมาถึงที่นี่ได้ไม่ถึงเดือน ก็สิ้นใจจากโรคที่เป็นมาตั้งแต่เกิด หากนางแต่งให้เขามิใช่ว่า จะดีกว่าต้องทนอยู่ในตระกูลหลี่รึ แม้ต่อไปจะต้องเป็นหม้ายก็ไม่เห็นจะต้องสนใจ แต่คำพูดต่อมาของหลี่กวนก็ทำให้หลิงเฟิ่งที่กำลังใคร่ครวญอยู่ตกตะลึงไม่น้อย

“อย่างไรก็ต้องตาย เอานางไปแลกเงินสองตำลึงยังดีเสียกว่า หากอาหยุนตายลง นางก็จะต้องถูกฝังลงไปในหลุมเดียวกับเขาด้วย”

หลิงเฟิ่งเกือบจะกระโดดลุกขึ้นมาด่าทอพวกเขาจากเตียงนอนแล้ว ยังดีที่นางควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้ คนพวกนี้เลวได้ใจจริงๆ คิดจะขายนางเพียงสองตำลึงเท่านั้น ทั้งยังส่งให้นางไปลงหลุมเดียวกับเจ้าคนร่างกายอ่อนแออีก

“ข้าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว หรือจะหนีไปเลยดี” หลิงเฟิ่งได้แต่คิดหาหนทาง

เมื่อภพที่แล้ว นางเคยคิดที่จะแยกตัวออกไปใช้ชีวิตหลังจากที่ตระกูลหลี่ร่ำรวยแล้ว แต่พวกเขากลับไม่ยอมปล่อยนางไป นางเองก็เพิ่งจะได้รู้ว่าชาวเมืองแคว้นต้าเยี่ย

หากจะตั้งตัวใหม่หรือแยกตัวออกจากตระกูลจะต้องมีหนังสือยินยอม หรือไม่ก็ทะเบียนราษฎร์ ที่ทางที่ว่าการออกให้ หากหลี่กวนไม่มอบให้นาง นางจะมีได้ไง และก็ไม่รู้ว่าเขาเก็บไว้ที่ไหน

“เช่นนั้น พวกเจ้าดูนางให้ดี อย่าเพิ่งให้ตายไปก่อน ไปเอาน้ำกับข้าวต้มมาป้อนนางไว้ ข้าจะไปคุยกับตระกูลซ่งเดี๋ยวนี้” หลี่กวนสั่งความเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินออกไปทันที

“เจ้าทำแล้วกัน” หลี่เฉียงหันไปสั่งผู้เป็นน้องชาย ก่อนจะมองร่างที่ไร้สติของหลิงเฟิ่งอีกครั้ง แล้วเดินออกไปอย่างไม่ไยดี

เงินสองตำลึงมีค่ามากนักสำหรับครอบครัวที่ไม่มีอะไรจะกินเช่นตระกูลหลี่ ที่หลี่ซวงยอมทำตามคำพูดของพี่ชาย ก็เพื่อปากท้องของตนเอง เขาไม่อยากขึ้นเขาไปหาของป่าให้เหนื่อยแล้ว สู้นำเงินสองตำลึงไปซื้อข้าวสาร เนื้อ กินดีกว่า

หลิงเฟิ่งนอนนิ่งๆ ปล่อยให้หลี่ซวงป้อนน้ำและข้าวต้มให้นาง อย่าเรียกว่าข้าวต้มเลย ในเมื่อมันแทบจะไม่มีเมล็ดข้าวอยู่ในชาม มีเพียงน้ำข้าวใสๆ เท่านั้น

หลิงเฟิ่งนางมิยอมกลืนลงคอดีๆ ปล่อยให้ไหลเปื้อนเนื้อตัวของนาง จนหลี่ซวงโมโหทุบตีนางไปสองสามที แม้จะเจ็บจนอยากจะเอาคืน แต่หลิงเฟิ่งจำต้องกัดฟันทนไม่ร้องออกมา และไม่มองเขาอย่างอาฆาตด้วย

“หากเจ้ายังไม่ยอมกลืนอีก ข้าจะบีบคอเจ้าเสีย” เขาไม่เพียงแค่พูดขู่ ยังวางมือลงที่คอของนางด้วย

หลิงเฟิ่งจึงยอมกลืนลงไปดีๆ นางอดนึกถึงหลี่หลิงเฟิ่งไม่ได้ ที่ผ่านมานางคงได้ถูกกระทำเช่นนี้ จนอายุสิบห้าหนาวถึงได้สิ้นลมหายใจ หากเป็นนางที่ไม่สมประกอบก็คงอยากจะตายเช่นกัน ถ้าต้องถูกเลี้ยงดูอย่างทารุณเช่นที่ตนเองโดนกระทำอยู่

หลังจากที่หลี่ซวงป้อนน้ำข้าวจนหมดชาม เขาก็ออกไปด้านนอกโดนไม่สนใจสภาพหลิงเฟิ่งที่เปื้อนไปด้วยน้ำข้าวทั้งตัว

นางเองก็อยากลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใจแทบขาด แต่จำต้องแข็งใจนอนต่อไป หลิงเฟิ่งเรียกน้ำวิเศษในมิติออกมาดื่มหนึ่งแก้ว เพื่อให้ร่างกายของนางมีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้น

เสียงด้านนอกทำให้รู้ว่าหลี่กวนกลับมาแล้ว หลิงเฟิ่งจำต้องล้มตัวลงนอนนิ่งๆ อีกครั้ง

“ได้เรื่องหรือไม่ท่านพ่อ” หลี่เฉียงรีบเอ่ยถามทันที

“เอาเงินมาแล้ว เจ้าไปตามป้าเหลียนมาเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เฟิ่งเออร์ก่อน ดูท่าอาหยุนจะไม่ไหวแล้วเช่นกัน คนตระกูลซ่งกำลังจะมารับนาง”

หลิงเฟิ่งได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่มีเวลาให้นางได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อนเลยรึ แล้วเมื่อครู่หากนางได้ยินไม่ผิด อาหยุนกำลังจะตายแล้วใช่หรือไม่ หากให้นางไปตอนนี้ไม่เท่ากับว่าเอานางไปฝังรวมกับเขาเลยรึ

“ได้ ข้าไปเอง” หลี่ซวงรีบวิ่งออกไปจากเรือนทันที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ให้สืบเรื่องของหญิงบ้า

    “อาหยุน เจ้าว่าข้าทำนาดีหรือไม่” ลุงกู้เอ่ยขอความเห็นจากชุยหยุนตัวเขาเป็นนายพรานมาทั้งชีวิต หากจะเลิกอาชีพนายพรานหลังจากแต่งกับจูซื่อ จะให้อยู่ที่เรือนเฉยๆ ก็เห็นจะน่าเบื่อเกินไป“หากท่านอยากทำข้าเองก็ไม่ขัดขอรับ”ลุงกู้จึงได้ขอซื้อที่นาเพิ่มอีกยี่สิบหมู่ ที่นาราคาสิบตำลึงเงิน เงินส่วนนี้ลุงกู้เป็นผู้จ่ายเอง หากต่อไปมีบุตรจะได้ยกให้เป็นมรดกของเขาต่อไป แต่หากไม่มีอย่างไรก็ต้องเป็นของชุยหยุน ในเมื่อรักแม่ก็ต้องรักลูกด้วย ข้อนี้ลุงกู้เข้าใจดีที่เรือนของหัวหน้าหมู่บ้านมิได้ครึกครื้นแค่เรือนเดียว ค่ำนี้คนตระกูลหลี่ทั้งสามกำลังฉลองงานใหม่ของหลี่เฉียงและหลี่ซวงอยู่“เพียงแค่สอบถามเรื่องนังบ้า คุณชายเสิ่นก็มอบเงินให้เจ้าสิบตำลึงเงินแล้วรึ” หลี่กวนไม่อยากจะเชื่อ ว่าเสิ่นฉงหานจะยอมจ่ายเพียงแค่อยากรู้เรื่องราวของหลิงเฟิ่ง“ใช่แล้ว พอรู้ว่าข้าเป็นพี่ชายของนังบ้า ก็พูดดีกับข้าเลยท่านพ่อ” หลี่ซวงกัดเนื้อไก่คำโต พร้อมทั้งหัวเราะออกมาอย่างพอใจ“แล้วบอกหรือไม่ ว่าสนใจนางเรื่องใด”“ไม่ แต่ดูเหมือนคุณชายเสิ่นไม่เชื่อว่านังบ้าเสียสติจริง”เรื่องนี้ทำให้สองพี่น้องตระกูลหลี่แปลกใจไม่น้อย เมื่อเสิ่นฉงหาน

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ซื้อที่ดินสร้างเรือน

    เมื่อก่อนหลิงเฟิ่งนางไม่มีส่วนใดที่น่ามองเลย แต่เมื่อได้มาอยู่ที่เรือนตระกูลซ่ง ไม่ว่านางจะพูดหรือเดินก็ล้วนแต่น่าชมไปเสียทุกอย่าง ทั้งรูปร่างและใบหน้าของนางก็เริ่มเปลี่ยนไปมากเสียกว่าตอนที่อยู่ที่เรือนตระกูลหลี่เสียอีก“เหอะ เมียเจ้าที่เจ้าต้องการ ข้าจะไปหามาจากที่ใด ใบหน้าของเจ้ารูปงามมากนักรึ ถึงต้องการมีเมียสวย ฉลาด เจ้าไปเรียนที่สำนักศึกษาพร้อมกับอาหยุนเลย เผื่อจะมีคุณหนูจวนใดมามองเจ้าบ้าง” ป้าเหลียนถลึงตามองบุตรชาย“ความคิดของแม่เจ้าดีไม่น้อย อาไฉ ตอนนี้เจ้าก็มีเงินทองไม่น้อยแล้ว ไปเรียนกับข้าดีหรือไม่ หากสอบขุนนางไม่ได้ อย่างน้อยเจ้าก็มีความรู้ติดตัว คิดจะทำการค้าก็จะไม่เสียเปรียบ”“แต่ข้าหัวไม่ดี”“เจ้ายังมิเคยเรียบจริงจังจะรู้ได้อย่างไรเล่า ว่าหัวไม่ดีจริงหรือไม่ ข้าจะสอนเจ้าเสียก่อน หากเจ้าไม่ชอบก็ค่อยว่ากัน”“ข้าจะลองดู”ทั้งหมดพูดคุยกันอีกเพียงเล็กน้อย ส่วนมากก็เป็นเรื่องที่จะสร้างเรือนใหม่และซื้อที่ดินเพิ่ม ก่อนจะแยกย้ายกันกลับเรือนของตนไป“นายช่างกวนจะซื้อแบบร่างรึขอรับ”“ใช่แล้ว ตอนเย็นคงจะมาพบเจ้า แม่บอกให้รอเจ้ากลับมาเสียก่อน”“ข้าไม่มีความคิดที่จะขาย หากเขาอยากได้ก็ใ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ใบรับรองการเป็นสามีภรรยา

    เมื่อก่อนตอนเสียสติ นางก็ไม่เคยนึกรังเกียจที่มีหลิงเฟิ่งเป็นลูกสะใภ้ แต่พอนางหายดี ความสามารถของนาง ทั้งสิ่งของที่นางสามารถนำออกมาจากความว่างเปล่าได้ ยิ่งทำให้นางอยากจะขอบคุณสวรรค์วันละสามเวลาหลังอาหาร“หื้ม...แบบร่างของข้าน่าสนใจเพียงนั้นเลยรึเจ้าคะ”นางมิได้ร่างแบบที่แปลกประหลาดแต่อย่างใด นางเพียงแค่เพิ่มระเบียงหลังห้องที่สามารถนั่งอ่านตำรา หรือนั่งพูดคุยกันได้เพิ่มขึ้นมา ทั้งเรื่องห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่เปียกกับพื้นที่แห้งชัดเจน จวนใหญ่ก็คงมีเช่นนี้ นางคิดว่าไม่ใช่เรื่องประหลาด“ใช่แล้ว นายช่างกวนไม่เคยเห็นเรือนที่เจ้าร่างมาก่อน ทั้งประตูที่ทำเป็นแบบเลื่อนได้ ข้าก็พูดไม่รู้เรื่อง เจ้าออกไปพูดเองดีกว่า หากอาหยุนจะตำหนิเจ้า ข้าจะจัดการเอง” จูซื่อดึงมือหลิงเฟิ่งออกไปพบนายช่างทันที“ประเดี๋ยวท่านแม่...ท่านลืมไปแล้วรึ ว่าชาวบ้านยังไม่มีผู้ใดรู้เรื่องที่ข้าหายดีแล้ว”“ตายจริง ข้าเกือบลืมไป ข้าจะออกไปพูดใหม่ ว่าอาหยุนเป็นคนร่าง เจ้ากลับเข้าไปอยู่ในห้องเถิด” จูซื่อนึกอยากจะตบปากตัวเองเสียหลายๆ ที นางจำต้องเดินไปพบนายช่างกวนเพื่อบอกให้เขามาพบชุยหยุนอีกครั้งในตอนเย็นชุยหยุนที่เข้าเมืองไปพร้อม

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   สร้างสามห้องพอ

    “ท่านแม่ เฟิ่งเออร์ ข้าใคร่ครวญเรื่องนี้ดีแล้ว อีกอย่างข้าไม่ใจบุรุษใจโลเล ที่พบเห็นสตรีอื่นก็จะเปลี่ยนใจได้ง่าย ในเมื่อข้าหายดีก็เป็นเพราะนาง มีเงินมากมายก็เป็นเพราะนาง แล้วจะมีเหตุผลใดที่ข้าจะไม่ต้องการใช้ชีวิตกับนาง”หลิงเฟิ่งยังเม้นปากแน่น นางพอจะเชื่อว่าตระกูลซ่งรักนางจากใจจริง แต่นางยังไม่มั่นใจที่จะใช้ชีวิตเช่นสามีภรรยากับชุยหยุน“ไว้ท่านกลับเข้าไปเรียนอีกครั้ง แล้วสอบผ่านซิ่วไฉได้ หากยังต้องการสร้างครอบครัวกับข้าจริง ข้าจะไม่ปฏิเสธท่านแล้ว แต่หากพบเจอคนที่ท่านต้องการใช้ชีวิตมากกว่าข้า อย่างไรข้าก็ยังเป็นน้องสาวของท่านได้”“เช่นนั้นก็ว่ากันตามนี้ นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เจ้ายังต้องเดินทางเข้าเมืองแต่เช้า เครื่องนอนก็ยังมิได้เปลี่ยน”จูซื่อเอ่ยยุติการสนทนาที่ดูท่าหากพูดกันต่ออย่างไรก็คงไม่จบในคืนนี้ หลิงเฟิ่งจึงได้ลุกขึ้นไปช่วยจูซื่อเปลี่ยนเครื่องนอนในห้องของนาง ก่อนจะกลับไปเปลี่ยนเครื่องนอนที่ห้องของตนเอง“ท่านว่า...ข้าไปนอนห้องท่านแม่ดีหรือไม่”หลิงเฟิ่งมองเตียงที่มีผ้าห่ม หมอน เพิ่มเข้ามาแล้ว หากขึ้นไปนอนสองคนก็ดูจะอึดอัดไม่น้อยเลย“ไม่ต้อง ใช้ผ้าห่มผืนเดียวก็พอ” ชุยหยุนเก็บผ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   หลี่ซวงสร้างเรื่อง

    หากเขาได้รู้ตั้งแต่แรก คงยอมให้มารดาแต่งกับลุงกู้ไปนานแล้ว ตอนที่คิดว่าจะจบชีวิตลง ยังเป็นห่วงมารดาว่านางจะอยู่เพียงผู้เดียว“แม่...แม่” นางจูซื่อทั้งเขินอาย ทั้งไม่รู้จะหาคำใดมาพูดกับลูกชายดี นางจึงได้แต่อ้าปากและหุบปากลง“หากพวกท่านต้องการที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ข้าเองก็ไม่มีสิ่งใดที่จะขัด ข้าขอท่านลุงเพียงเรื่องเดียว...อย่าทำให้ท่านแม่ข้าเสียใจก็พอ” ชุยหยุนเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“ได้ๆ ข้าไม่มีทางทำให้จูจูนางเสียใจเป็นอันขาด” ลุงกู้พยักหน้าอย่างรวดเร็วหลิงเฟิ่งได้แต่เบิกตากว้าง ถึงขั้นเรียกนามกันอย่างสนิทสนมเช่นนี้ คงดูใจกันมานานมากแล้วแน่ๆ“ข้าบอกพวกเจ้าแล้ว อาหยุนมิใช่คนไม่รู้ความหากพวกเจ้าบอกตั้งนาน ป่านนี้ก็มีลูกน้อยมาวิ่งเล่นแล้ว” ป้าจินเอ่ยเย้าออกมาหลิงเฟิ่งก็พยักหน้าน้อยๆ อย่างเห็นด้วย แม่สามีของนางยังไม่ถึงสี่สิบหนาว หากนางแข็งแรงมากพอเรื่องมีบุตรไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้“พวกข้ากลับก่อนดีกว่า พวกเจ้าก็ค่อยๆ คุยกันไป จะจัดงานมงคลเมื่อใดก็บอกข้าด้วยเล่า” ป้าเหลียนโบกมือลา ก่อนจะลากอาไฉที่มองคนนั้นทีคนนี้ทีกลับไปด้วยกันนางยังได้ยินเสียงอาไฉ ร้องตะโกนให้ป้าเหลียนไปหาสตรีมาแต่งเป็น

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เรื่องที่ชุยหยุนไม่เคยรู้

    ชาวบ้านที่ออกมารอรับ เมื่อเห็นเกวียนวัวมิได้มีชุยหยุนและหลิงเฟิ่งลงมา ต่างก็รีบวิ่งตามเกวียนวัวที่เคลื่อนตัวไปทางเรือนตระกูลซ่งทันทีแม้ชาวบ้านคนอื่นจะสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะตามไป ชาวบ้านที่วิ่งตามคงฝากเจ้าของเกวียนวัวกับชุยหยุนซื้อของ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านที่ห่างไกลเมือง จนเป็นเรื่องชินตาอยู่แล้วหลิงเฟิ่งนางเอาเงินส่วนของพวกลุงกู้ออกมาใส่ไว้ในตะกร้าแล้ว พอมาถึงเรือนชุยหยุนก็ส่งสายตาบอกบุรุษทั้งสาม ว่าตั๋วเงินอยู่ในตะกร้า ก่อนจะจูงหลิงเฟิ่งที่กลับมาแกล้งบ้า เข้าไปพักเรือนก่อนป้าเหลียนกับป้าจิน ถูกสามีและบุตรชายดันตัวให้เข้าไปช่วยชุยหยุนประคองหลิงเฟิ่งไปส่งในเรือน พวกนางจึงได้รับเข้าไปทำหน้าที่แทนชุยหยุนทันที“เจ้าไปคุยกับชาวบ้านเถิด ข้าจะพาเฟิ่งเออร์ไปพักเอง” ชุยหยุนเข้าใจในคำพูดของป้าเหลียน เขาจึงปล่อยมือหลิงเฟิ่งแล้วเดินไปหาหัวหน้าหมู่บ้านแทน“ห้องเจ้าแคบ ไปห้องข้าดีกว่า” จูซื่อเห็นว่าป้าเหลียนกับป้าจินจะตามหลิงเฟิ่งเข้าไปสอบถามความในห้อง จึงได้ขวางหน้าเอาไว้สตรีทั้งสี่คนอยู่ภายในห้องนอนของจูซื่อ ทั้งยังลงกลอนไว้อย่างแน่นหนาแล้วด้วย“พวกท่านรับปากข้าก่อน ห้ามร้องออกมา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status