เข้าสู่ระบบ"เดี๋ยวก่อนสิครับคุณราเชนทร์ ผมคิดว่าเรื่องนี้.... เราอาจจะยังคุยกันได้นะครับ"
ราเชนทร์หันมามองหน้าฉัตรพงศ์ ผู้เป็นพ่อของว่าที่เจ้าสาว ส่วนแม่ของเจ้าสาว รีบเดินเข้าไปพยุงร่างของนิศาชลเอาไว้ทันที ก่อนที่เธอจะล้มลง
"นิศาลูก ใจเย็น ๆ ก่อนนะ ให้คุณพ่อจัดการให้"
"แต่ว่า... แม่คะรูปกับคลิปพวกนั้น มาได้ยังไง หนู...."
"เงียบ! แล้วไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว แค่นี้แกยังอายไม่พออีกหรือยังไง ปล่อยให้พ่อแกจัดการเถอะ!"
นิศาชลเงียบไปทันที และหันไปมองราเชนทร์ ที่ยืนอยู่กับฉัตรพงศ์
"ยังมีอะไรอีกเหรอครับคุณฉัตรพงศ์"
"คือว่าเรื่องในวันนี้ ผม..."
"คุณไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว เอาเวลาไปจัดการเรื่องข่าวฉาวภายในครอบครัวคุณเถอะ"
"แต่ว่าเรื่อง...."
"ผมบอกไปชัดเจนแล้วนะว่า งานหมั้นในวันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ถ้าหากคุณยังอยากคุยเรื่องธุรกิจ ผมจะยังไม่ปิดโอกาส แต่อย่ามาพูดเรื่องนี้กับผมอีก"
ฉัตรพงศ์ได้แต่ก้มหน้าและยอมรับแต่โดยดี เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันชัดเจนว่าเป็นจริงทุกเรื่อง
"ครับคุณราเชนทร์ ถ้าอย่างนั้นงานหมั้นวันนี้ คงต้องยกเลิกไปก่อน"
“ไม่นะ!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
ราเชนทร์เดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงทันที ท่ามกลางกระดาษที่ปลิวตกลงมาจนเต็มพื้น เขาเหยียบลงไปโดยไม่สนใจเมื่อเดินผ่าน เขาหันไปมองนาวินกับวัชระ ทั้งสองคนพยักหน้ารับทันที และดึงตัวของไอริสเดินตามออกไป
“ปล่อยฉันนะ ฉันจะกลับบ้าน!”
“บอสสั่งให้คุณตามออกไปครับคุณไอริส”
“ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องมาจับ ปล่อย!”
นาวินปล่อยแขนเธอ แต่ยังเปิดเสื้อสูท เพื่อขู่เธอให้ยังไม่ลืมว่า เขามีปืน ไอริสเดินออกมาด้านนอก โดยมีบอร์ดี้การ์ดของราเชนทร์เดินประกบมาถึงรถหรู ที่จอดอยู่หน้าโรงแรม เมื่อเปิดประตู เธอก็เห็นว่าราเชนทร์นั่งอยู่ในนั้น
“มัวรออะไรอยู่ รีบขึ้นรถสิไอริส เราต้องคุยกัน”
“ฉันไม่ไป ในเมื่องานวันนี้จบแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้อง กรี๊ด! พวกนายจะทำอะไรน่ะ”
นาวินดันตัวเธอ เข้าไปในรถทันที ราเชนทร์ดึงเธอเข้ามา และสั่งให้ปิดประตู เรวินรีบขับรถออกไปจากโรงแรมทันที ตามมาด้วยขบวนรถของบอร์ดี้การ์ดของเขาที่เหลือ
“ปล่อยนะ! เอาแหวนฉันคืนมา โอ๊ย!”
เธอหันไปทวงแหวนของตัวเอง จากราเชนทร์ในทันที เขาเห็นสีหน้าโกรธจัดของเธอ ก็เริ่มอยากรู้มากขึ้นว่า ทำไมไอริสถึงได้ให้ความสำคัญกับแหวนวงนี้นัก เขาเคยถามเธอหลายครั้ง เพราะนึกอยากจะซื้อแหวนวงใหม่ มาสวมแทนให้เธอ แต่ไอริสกลับไม่เคยยอมถอดแหวนนี้เลยสักครั้ง ไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้ มันจะตามมากวนใจเขาจนถึงตอนนี้
“แหวนของคุณงั้นเหรอ…อ้อ คุณคงหมายถึงแหวนเพชรสีชมพูเม็ดเล็ก ๆ ที่คุณหวงนักหนานั่นสินะ”
“ใช่ รู้แล้วก็รีบเอาคืนมาสิ”
ราเชนทร์ดึงมือที่ยังพันแผลของเธอขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มชุ่มไปด้วยเลือดอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มกลับไปให้เธอ
“คุณไม่เห็นเหรอว่า มือของคุณมีแผล เลือดออกมากขนาดนี้ คงจะสวมหวนไม่ได้ อีกอย่างผมคงให้ตอนนี้ไม่ได้ จนกว่าจะคุยกับคุณให้รู้เรื่อง”
ไอริสโกรธจนอยากจะฆ่าเขาให้ตาย แผลที่มือนี้ก็เป็นเขาที่มอบให้เธอ ตอนนี้ก็ยังเก็บแหวนเอาไว้ ไม่ยอมคืนอีก เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ หรือนี่เป็นวิธีการแก้แค้น ที่เขาเคยขู่เธอเอาไว้งั้นเหรอ
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ ในเมื่อคุณยกเลิกงานหมั้นแล้ว ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วไม่ใช่เหรอ ก็เอาแหวนของฉันคืนมาสิ”
“แน่ใจเหรอว่า ไม่มีอะไรจะคุยกับผมเลย”
สายตาของราเชนทร์ จ้องมาที่เธอราวกับอ่านใจคนได้ ไอริสเองก็จ้องกลับอย่างไม่ลดละ เธอไม่มีทางปล่อยให้เขาคาดเดาความรู้สึกของเธออยู่ฝ่ายเดียวหรอก
"ไม่มี... ระหว่างฉันกับคุณ ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกต่อไปแล้ว"
"หึ! คุณจะให้ผมเชื่อเหรอไอริส ในเมื่อในงานเมื่อกี้นี้...."
ไอริสรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร จึงรีบหันกลับไปบอกเขาในทันที
“รูปถ่ายและคลิปพวกนั้น ไม่ใช่ฝีมือฉัน ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ ฉันไม่รู้เรื่อง!”
“ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับเอตัน กรุ๊ปนะครับ เชิญทุกท่านเดินขึ้นบนเวที เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกันครับ”ในรายชื่อนั้น กลับไม่มีไอซี ดีไซน์ของเธอ ภูวริศลุกขึ้นและมองไปที่มารุต ซึ่งพยักหน้าให้เขาอย่างเข้าใจ ภูวริศเองก็พูดไม่ออก ส่วนไอริสนั้นนั่งกำหมัดแน่น และไม่พูดอะไรอีกเลย เมื่อเห็นคู่แค้นของเธอ เดินขึ้นบนเวทีพร้อมกับยืนอยู่ข้าง ๆ กับราเชนทร์ “นี่มันเรื่องอะไรกันไอริส ฉันงงไปหมดแล้ว ทำไม…”“ริย่า ไม่ต้องพูดแล้ว”“พี่รุต! ถ้ารู้อะไรก็รีบบอกมาสิ ทำไม่จู่ ๆ พวกเราถึงโดนถอดออกจากโครงการนี้ หรือว่าจะมีคนขัดขาพวกเราอีกแล้ว คราวนี้เป็นใครอีกล่ะ ใหญ่ขนาดไหนถึงได้ถอดเราออกได้”“แกลองเดาดูสิว่า ใครกันที่ใหญ่มากพอจะถอดไอซี ดีไซน์ของพวกเราออกจากโครงการนี้ได้”ริย่านิ่งไปทันที และหันมามองหน้าไอริส ซึ่งในตอนนี้ เริ่มมีคนหันมามองพวกเธอแล้ว หลังจากที่ไอซี ดีไซน์ของไอริส ไม่ได้เข้าร่วมโครงการใหญ่ระดับชาติแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอกับราเชนทร์ แทบจะเรียกได้ว่าตัวติดกัน เหลือแค่ประกาศความสัมพันธ์เท่านั้นเอง"ฉันต้องคุยกับเขา"“ไอริส แต่ว่า…”ไอริสลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที และเดินมาที่หน้
ไอริสยืนนิ่งไปทันที เมื่อสายตาของราเชนทร์หันมาเจอเธอ ซึ่งยืนอยู่ในงานเลี้ยง พร้อมกับสีหน้าที่ตกใจ แปลกใจและเจ็บปวด เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาในงาน พร้อมกับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งอายุน้อยกว่าเธอ ในชุดราตรีสีเงินสุดหรู ตามมาด้วยคำตอบที่ว่า…. เธอเป็นใคร เพราะคนที่เดินตามมา คือฉัตรพงศ์ และภรรยาของเขา “ไอริส!”ไอริสเหมือนกับหมดแรงในฉับพลัน เมื่อเห็นว่าราเชนทร์แค่หันมามองหน้า และเดินเข้างานไปโดยที่ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่นิดเดียว หัวใจของไอริสเต้นแรงเหมือนถูกทุบตีอย่างรุนแรง ราวกับมันถูกฉีกกระชากให้แหลกลงต่อหน้า ขอบตาเธอเริ่มร้อนผ่าวไร้สุ้มเสียง แต่ก็ยังพยายามบังคับไม่ให้มีน้ำตา เมื่อทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว สติของเธอเริ่มหลุดลอย และพยายามหาที่เกาะยึดเอาไว้ ไม่ให้ใครจับสังเกตได้ “ไอริส แกมานั่งตรงนี้ก่อนเถอะ”“ไอริสไหวหรือเปล่า จะกลับก่อนมั้ย”ไอริสแทบจะไม่ได้ยินเสียงของริย่ากับมารุต ซึ่งถามด้วยสีหน้ากังวล เธอเริ่มหูอื้อและรู้สึกชาไปทั้งตัว ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตลอดเวลาเกือบครึ่งเดือน ที่เธอเร่งทำงานให้เขาจนจบโปรเจค แต่พอทุกอย่างจบลง และกำลังจะหาเวลาคุยกับเขา แต่กลับพบว่าในวันนี้ ราเชนทร์ไม่ได้สน
สิบวันถัดมาไอริสจบงานที่โคราช ก็รีบกลับมาที่กรุงเทพฯ ทันที แต่เมื่อกลับมาก็พบว่า ราเชนทร์บินไปทำงานที่ยุโรป นาวินบอกเธอว่า ช่วงนี้ไม่จำเป็นต้องมาพักที่วิลล่าก็ได้ และให้เธอกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง อีกห้าวันราเชนทร์กลับมา และจะจัดงานเลี้ยงบริษัท เขาขอให้เธอไปร่วมด้วย เพื่อฉลองความสำเร็จในการทำงาน“ทำไมเขาไปเมืองนอกกะทันหันแบบนี้ล่ะ ไม่เห็นบอกฉันเลย”“ผมเองก็ไม่ทราบครับ”ไอริสไม่อยากถามต่อ เพราะเธอรู้นิสัยของนาวินดี ปกติเขาไม่ใช่คนพูดมาก และจะพูดก็ต่อเมื่อราเชนทร์สั่ง หรือเธอถามเรื่องที่เขาพอจะตอบได้ นาวินเป็นคนที่ถือว่า ภักดีกับราเชนทร์มากที่สุดคนหนึ่ง “ไม่เป็นไร เอาไว้เจอเขาที่งานเลี้ยงทีเดียวเลยก็แล้วกัน ขอบคุณมากนะ”“ครับ”ไอริสรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่วันนี้นาวินไม่ถามไปส่งเธอเหมือนเดิม ซึ่งตามปกติแล้ว ราเชนทร์มักจะให้นาวินมาคอยดูแลเธอ และติดตามไปทุกที่ แต่ตอนนี้เขากลับให้เธอขับรถกลับไปเอง แต่ไอริสก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเธอก็ไม่ค่อยชอบให้นาวินมาขับรถให้อยู่แล้ว และต้องกลับไปพร้อมกับรถที่ขับตามมา ทุกครั้งที่ต้องไปส่งเธอไอซี ดีไซน์หลังจากที่กลับมาจากโคราช ริย่าก็เห็นความผิดป
ราเชนทร์หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง หลังจากที่ได้ฟังเสียงสนทนาของไอริสกับริย่า ในห้องทำงานที่ไอซี ดีไซน์ เดิมทีเขาแค่อยากจะรู้ว่า คนที่นั่นจะรู้สึกยังไง ที่เขาเลือกจะเชือดไก่ให้ลิงดู“ดูท่าว่าเรื่องของวัลลภ จะไม่ได้ทำให้เธอกลัวเลยสินะ มิหนำซ้ำยังใช้โอกาสนี้ แก้แค้นส่วนตัวได้อีก เก่งมากจริง ๆ แนบเนียนจนฉันจับไม่ได้เลย ไอริส...คิดไม่ถึงว่า เธอยังมีหน้ากากอีกหลายอัน ซ่อนอยู่ในตัวตนนั้นอีก”เรวินไม่กล้าแม้แต่จะสบตาราเชนทร์ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า จะมีคนที่กล้าลอบตลบหลังบอสของเขาแบบนี้ โดยเฉพาะไอริส ที่ควรจะเป็นคนที่ราเชนทร์ไว้ใจที่สุด แต่วันนี้เธอกลับทำเรื่องที่ไม่คาดคิดอีกครั้ง ซึ่งถือว่าร้ายแรงมาก สำหรับราเชนทร์“บอสครับ เรื่องนี้จะให้จัดการยังไงต่อดีครับ”“ยังไม่ต้องทำอะไร ฉันอยากจะดูสิว่า เธอจะเสแสร้งไปได้อีกแค่ไหน แต่ก็ใกล้จะหมดเวลาของเธอแล้วล่ะ ตอนนี้ทำทุกอย่างให้เป็นปกติ จนกว่าโปรเจคที่พวกเธอทำจะจบลง จากนั้นค่อยจัดการ”“ครับบอส”เขาเคยลองใจ และขู่ไอริสไปหลายครั้งที่วิลล่าสุดหรู แต่ดูเหมือนว่า เธอจะเก็บอาการกลัวเอาไว้ได้มิดชิด แม้แต่ซีซ่าร์ หมาป่าดุร้ายที่สุดที่เขาเลี้ยงเอาไว้ เธอก็ยัง
ริย่าตะคอกเสียงหนักใส่เธอ ในฐานะหุ้นส่วน เธอไม่สนใจด้วยซ้ำว่า ไอซี ดีไซน์จะต้องเจอวิกฤติอีกกี่ครั้ง เพราะเธอมีหนทางรอด แต่ในฐานะเพื่อนสนิท เธอยอมไม่ได้ที่จะให้ไอริสเอาตัวเข้าไปเสี่ยง กับคนที่อันตรายอย่างราเชนทร์ แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ ไอริสจะตัดสินใจแล้วจริง ๆ เธอเดินมาและยิ้มเศร้า ๆ ให้กับริย่า“ริย่า แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมี อย่าให้ฉันทำให้แกเดือดร้อนเลยนะ วันนี้ฉันจะต้องไปเยี่ยมพ่อ เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้นะ”ไอริสยิ้มให้ริย่า และบีบมือเพื่อเป็นการขอบคุณจากใจจริง ริย่าตัดสินใจพูดออกมาอีกครั้ง“ไอริส! ไม่ว่าแกจะตัดสินใจยังไง ฉันก็ยังยืนยันว่า ฉันจะเป็นเพื่อนแกตลอดไป”ไอริสยิ้มออกมา ริย่าเข้ามากอดเธออีกครั้ง ทั้งคู่สนิทกันมากเหมือนพี่น้อง เพราะตอนอยู่เมืองนอก ไอริสช่วยสอนหลาย ๆ อย่างให้กับริย่า จากที่เคยเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ ทำอะไรเองไม่เป็นเลยสักอย่างจนกระทั่งมาเจอไอริส ซึ่งเป็นรูมเมทของเธอในมหาวิทยาลัย ไอริสสอนให้เธอ ได้รู้จักชีวิตจริงของคนธรรมดา จนกระทั่งเข้าใจโลกมากขึ้น ทำให้ริย่ารู้สึกทั้งรัก และผูกพันกับไอริสมากกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ“ขอบใจมากนะริย่า ฉันดีใจที่ได้มาเจอแก และเป็
ไอริสนิ่งและไม่ตอบคำถามนี้ เธอรู้ดีตั้งแต่แรกว่า การจะเดินเข้ามาหาพญามัจจุราชอย่างราเชนทร์ สิ่งที่ต้องแลกต้องคุ้มค่ามากพอ ซึ่งในตอนนั้น หากเธอต้องการกำจัดศัตรู และคนที่เคยทำร้ายครอบครัวของตัวเอง หนทางที่รวดเร็วและสามารถจัดการได้อย่างหมดจด ก็คงจะมีแต่ทางนี้เท่านั้น“ไอริส”“ฉันรู้ว่าแกเป็นห่วงฉัน แต่ว่าฉันเองก็รู้ดีว่า จะต้องถอยออกมาเมื่อไหร่ ตอนนี้ยังเหลืออีกแค่ไม่กี่ก้าว ที่จะสามารถจัดการไอ้สารเลวฉัตรพงศ์นั่น ให้รับกรรมตามกฎหมาย และเข้าไปรับความผิดอยู่ในคุก หลังจากนั้น…”“แต่คนอย่างราเชนทร์ ไม่มีทางจะปล่อยแกไปง่าย ๆ อย่าลืมสิว่าเขาเป็นใคร วันนี้เขาจัดการคนที่หักหลังเขาไปกี่คนแล้ว แกก็เห็นด้วยตาตัวเองมาไม่ใช่เหรอ วิธีการที่เขาทำ มันโหดเหี้ยม ไม่สนกฎหมาย ไอริสฉันเป็นห่วงแกจริง ๆ นะ ถ้าเขาเกิดจับได้ขึ้นมาว่า ตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมนั่น แกไม่ได้ถูกวางยา และตั้งใจล่อเขาเข้าไปหา เขาจะทำยังไง”ไอริสนิ่งไป พร้อมกับคิดตามที่ริย่าพูด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเจอเขาที่โรงแรมครั้งแรก นั่นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และนับจากวันนั้น ไอริสก็รู้แล้วว่า ชีวิตของเธอ จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปย้อนกล







