เสียงกระแทกยามเนินเนื้อจากคนทั้งสองปะทะกัน ดังอย่างต่อเนื่อง เสียงโหยหวลของผู้หญิงอีก หนูอัญต้องอดทนต่อความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอย่างมากอีกคืนและอีกครั้ง เขาไม่เคยห้ามเธอเขาเต็มใจให้เธอได้เห็นได้ยินอยู่แล้ว แต่เธอมียางอายมากพอที่จะไม่ยอมเปิดตาขึ้นมามองจนกระทั่ง... ปัง! เสียงประตูถูกปิดลง และความสงบก็กลับคืนมาแล้วในค่ำคืนนี้ “ไม่ศึกษาไว้บ้าง เมื่อถึงเวลาของหนูอัญ ระวังนะฉันจะไม่ประทับใจ” เสียงกระซิบที่ชอว์เอ่ยออกมา เมื่อเขาดึงหูฟังออกมาจากหูของเธอ “กว่าจะถึงเวลานั้น คุณอาจจะเป็นเอดส์ตายไปเสียก่อนก็ได้” ชอว์ยกยิ้มมุมปาก “งั้นเราก็ตายด้วยโรคเดียวกัน”
Lihat lebih banyakฟิ้วววววว อร้ายยยย “คุณแม่ขา ระวังค่ะ” แก้วตาดึงหญิงวัยกลางคนที่เธอเรียกว่าแม่ หลบตุ๊กตาไม้ขนาดเท่าฝ่ามือที่ลอยมาแต่ไกลได้ทันอย่างหวุดหวิด
“ไอ้อิฐ!”
“พวกแกแม่ลูกไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!!”
“ไอ้อิฐ!” คุณอัฐ ชายวัยกลางคนเดินเข้าไปหาบุตรชายของตน เพี๊ยะ!!ฝ่ามือหนาฟาดใส่หน้าคนที่เขาตะโกนเรียกอย่างเหลืออดเหลือทน
“คุณพ่อ!” คนหน้าหัน ตะโกนกลับเสียงดัง
“ถ้าแกยังเห็นว่าฉันเป็นพ่อ ก็ควรจะเคารพความเป็นพ่อที่ฉันยังมีมันอยู่”
“ผมเคารพคุณพ่ออยู่แล้ว แต่ผมไม่ยอมให้ผู้หญิงชั้นต่ำมาอยู่ที่นี่”
“ไอ้อิฐ! แกเป็นลูกผู้ชายอยู่มั้ย”
หึหึหึ “ผมเป็นแน่ แต่ไม่ใช่กับพวกสัตว์ดูดเลือดสองตัวนี้” ควับ! อิฐพูดจบพร้อมจะจากไป แต่มือหนาของคนที่ได้ชื่อว่าพ่อคว้าไว้
“ไปขอโทษพวกเขาเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่ง!!!”
“ผมไม่ทำ คุณพ่อจะตบหน้าผมอีกก็ได้ครับ ผมยินดี หรือพ่อจะเอาเลือดผมออกก็ได้ครับผมยินดี แต่ผมขออย่างเดียวถ้าคุณพ่อทำไปแล้ว สัตว์สองตัวนี้ต้องออกจากบ้านหลังนี้ไป” คุณอัฐนิ่งงัน
เหตุวิวาทระหว่างสองพ่อลูกเกิดขึ้นแทบทุกวัน ตั้งแต่ที่อิฐรู้เรื่องที่พ่อของตนไปติดพันแม่ม้ายลูกติด เวลาที่ผ่านไปไม่ได้ทำให้เรื่องราวดีขึ้น ในทางตรงข้ามทุกอย่างเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ พ่อลูกคิดเห็นไม่ลงรอย รอยร้าวขยายกว้างขึ้นจนยากที่จะกลับมาสมานเข้ากันเหมือนเดิม
คุณอัฐถือว่าตนเป็นพ่อ เป็นหัวหน้าครอบครัว เขาต้องมีอำนาจตัดสินใจ เขาครองตนเป็นม้ายมาสองปี ความเหงาบังเกิดขึ้นซึ่งนับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเขาได้มาเจอกับเธอกอแก้ว เธอเป็นแม่ค้าจริงๆอย่างที่ลูกเขาว่า แต่อัฐไม่ใช่คนที่จะดูถูกคนที่ฐานะต่ำต้อยกว่า กอแก้วผู้หญิงม้ายลูกติดเข้าอกเข้าใจหัวใจคนเป็นม้ายเหมือนกัน เมื่อเขาได้รู้จักกับเธอความเหงาก็ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น เขาไม่ได้จดทะเบียนสมรสใหม่กับกอแก้ว แต่อ้อนวอนให้เธอมาอยู่ด้วยกัน มาเป็นเพื่อนในยามแก่เฒ่าไปด้วยกัน และในเมื่อเธอมีบุตรสาวที่กำลังศึกษาอยู่หนึ่งคน กอแก้วจึงตอบตกลงเพื่อที่บุตรสาวของตนจะได้มีอนาคตการศึกษาที่ดี เพราะเธอรู้ตัวว่าปัญญาตัวเธอเอง คงไม่สามารถส่งแก้วตาเรียนสูงๆได้ ขอเสนอของเขาในข้อนี้จึงทำให้สองแม่ลูกยอมย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัววัฒนาที่มีกันแค่สองคนพ่อลูก
“ก็ได้ แกอยากทำอะไรก็เชิญ แต่พวกเขาจะไม่ไปไหน และฉันขอเตือนถ้าแกทำร้ายร่างกายพวกเขาแม้แต่ปลายผม ฉันจะแจ้งความจับแกข้อหาทำร้ายร่างกายอย่างมีเจตนา”
“คุณพ่อ!”
“เออ ฉันนี่แหละพ่อของแก นับจากนี้ไปแกอยู่ในที่ของแกไป อยากทำอะไรก็เชิญ แต่อย่าบังอาจข้ามเขตไปยังพื้นที่ของพวกเขาเด็ดขาด!!” ประกาศิตจากประมุขของบ้านวัฒนาประกาศกร้าว ทำให้ทุกคนต่างเงียบงัน ไปด้วยหลากหลายอารมณ์
แก้วตายิ้มเยาะใส่อิฐอย่างไม่ปิดบัง เธอสะใจยิ่งนัก พวกเขาได้เจอกันมาบ้างแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน ผู้ชายคนนี้เลวมาก มากเสียจนเธออดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดมาเป็นลูกชายคุณอัฐที่ใจดีแบบนี้ได้อย่างไรกัน
ฮาฮาฮา เสียงหัวเราะที่มีความสุขดังมากจากห้องอาหาร อิฐเดินเข้าไปแอบลอบมอง ครอบครัวหรรษา...สัตว์ดูดเลือดสองตัวกับพ่อเขาบนโต๊ะอาหาร ความรังเกียจและแรงริษยาปรากฎในแววตาของอิฐขึ้นมาทันที
ฟิ้ววววว ว้ายยยยย!!!! เพล้งงงงงงง ไม่ใช่อุบัติเหตุ เมื่อกล่องทิชชู่ลอยมาจากทิศไหนไม่รู้ คนที่นั่งร่วมโต๊ะไม่ทันเห็นแต่เมื่อมันมาปรากฎตรงหน้ากลางโต๊ะอาหารที่ทำให้อาหารหลายจานกระเด็นเลอะเทอะใส่คนที่นั่งอยู่ ทำให้เกิดเหตุการณ์น่าตกอกตกใจให้พวกเขาไม่น้อย
“แม่ค่ะ” แก้วตาร้องออกมาเมื่อเธอลืมตาไม่ได้ คงจะโดนน้ำแกงกระเด็นใส่ให้เข้าแล้ว
“ตายแล้วลูกแม่!” กอแก้วร้องและปรี่เข้าหาบุตรสาวอย่างรวดเร็ว
“ไอ้อิฐ!” คนที่ถูกเรียกยิ้มเยาะและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกระจ่างใสบ่งบอกว่ามีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำไป
“แม่ขา แสบตาจังเลยค่ะ” กอแก้วรีบพาบุตรสาวไปล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ดีขึ้นอัฐจึงสั่งให้คนรถเอารถออกพาแก้วตาไปโรงพยาบาลในทันที และเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้แก้วตาต้องมีผ้าปิดตากลายเป็นโจรสลัดอยู่หลายวัน
“เสียดายชะมัด ตาน่าจะบอดไปเลย” อิฐเอ่ยเย้ยหยันในอีกสัปดาห์ต่อมา เมื่อเผอิญต้องเดินสวนกับแก้วตา
“หน้าตัวเมีย” เสียงตอบกลับทำให้ขายาวหยุดชะงักทันที
“เมื่อกี้พูดอะไร” อิฐกลับหลังหันเดินมาดักหน้าแก้วตาที่ห่างไปสองสามก้าวแล้ว
“หน้า ตัว เมีย” อิฐกัดฟัน จ้องมองแก้วตาอย่างเอาเรื่อง เมื่อเธอกล้าเน้นย้ำด่าเขาทีละคำด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ
“แก หมายถึงใคร” แก้วตายิ้มเยาะ
“นอกจากจะหน้าตัวเมียแล้ว ยังโง่ด้วย”
“นังปลิงดูดเลือด” แก้วตาแม้จะรังเกียจคำพูดของผู้ชายคนนี้มาก แต่ถ้าเธอโกรธเขาก็จะย่ามใจ เธอจึงแสดงสีหน้ามีความสุขฉายออกไป เพราะเธอไม่มีอะไรที่ต้องเสียหรือต้องไปแลกกับเขา ก็ตอนนี้แค่เธอไม่ก่อปัญหาเธอก็มีกินมีใช้อย่างสบายรวมถึงแม่ก็ไม่ต้องเหนื่อยยากลำบากไปอีกนานแสนนาน แก้วตายิ้มแก้มแทบปริเป็นการตอบกลับไป เธอเหนื่อยยากมาเยอะ แค่นี้จิ๊บจ้อยมาก
“ยังไม่มีใครตายนะ” ชอว์เอ่ยถาม ‘ใคร’ ในที่นี่ไม่ใช่หมายถึงคนของเขาแต่เขาหมายรวมถึงฝ่ายท่านวุฒิฯ ทั้งหมด ชายชุดดำที่รอบตัวพกอาวุธไว้มากมายตอบรับอย่างแข็งขัน “พวกแกเป็นใคร? ต้องการอะไร” เสียงตัวประกันชั้นสูงเอ่ยถามทันทีที่ชอว์เดินเข้ามา เขาทอดสายตากวาดมองคนที่ถูกจับไว้ทั้งหมดหกคน “ผมต้องการชีวิตของท่านและทรัพย์สินของท่านบ้างก็เท่านั้นครับ” ชอว์เอ่ยบอกอย่างสุภาพแต่น้ำเสียงราบเรียบฟังชวนขนลุกแปลกๆ หนูอัญที่เดินตามและยืนอยู่ด้านหลังชอว์ตลอด เธอขยับทันทีเมื่อได้ยินเช่นกัน แบบนี้มันไม่ถูก พรึ่บ! ฉึก ฉึก ชอว์มุ่นคิ้วเมื่อชายเสื้อถูกดึงอย่างตั้งใจ ควับ! เขาหันกลับมามองคนดึง “นะ…นี่…อึ้ก!!!!” ควับ!!! เมื่อท่านวุฒิฯ กำลังจะเอ่ยอะไ
ควับ!!! เอวบางถูกโอบและดึงจนหนูอัญล้มลงนั่งบนตักชอว์ที่เอาแผ่นหลังพิงรถหรูกันกระสุนไว้ วงแขนแข็งแรงข้างหนึ่งโอบกอดหนูอัญแนบลำตัวไว้แน่น ในขณะอีกข้างเขายังถืออาวุธไว้อย่างมั่นคง เสียงกระสุนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายชอว์ยังไม่มีใครยิงโต้ตอบกลับไป ม่อนยังนั่งอยู่ในรถหลังพวงมาลัยซึ่งแน่นอนว่าม่อนจะไม่เป็นอันตรายใดๆ เพราะรถทั้งคันยังคงเป็นเกราะให้ทั้งสามชีวิตอยู่ตอนนี้ “กลัวมั้ย?” หนูอัญผงกศีรษะขึ้นมาจ้องหน้าจ้องตาคนถาม สายตาเธอบอกเค้าไปว่า ‘ถามโง่ๆ’ “ทำอะไรสักอย่างสิ เดี๋ยวก็ได้ตายก่อนกำหนดกันหมดหรอก” “เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย แปลกๆสักหน่อยทั้งๆที่คนของฉันจำนวนหนึ่งล่วงหน้ามาก่อน” ชอว์พูดพร้อมคิ้วขมวด “ป่านนี้ลูกน้องคุณคงตายกันไป
หนูอัญไม่พูดอะไรเธอพึ่งได้ออกมาจากคุกหลวงเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์เห็นจะได้ แล้วที่เธอมาอยู่ที่นี่ ศีรษะกลมผมยาวสลวยแหงนขึ้นมองทิวทัศน์รอบๆ เธอหมุนรอบตัวเองสองรอบและหยุดลงตรงหน้าเขา และแบมือยื่นไปตรงหน้าเขาในทันที “อะไร?” ชอว์ที่มองอากัปกริยานั่นอยู่ เอ่ยออกไป “ขอตังค์หน่อย เค้าเห็นร้านขายไอศกรีมตรงหัวมุมถนนตรงโน้น เค้าอยากกินไอศกรีม” “ไม่ใช่ตอนนี้! ไว้เสร็จงานแล้วจะพามากิน” “เสร็จงาน! เอ๋!!!! เดี๋ยวนะ! จะพาเค้าไปฆ่าคนด้วยเหรอ” หนูอัญร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด ชอว์ไม่ตอบแต่เขายิ้มร้ายใส่เธอ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ทำให้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเก็บหนูอัญไว้ข้างกาย เพราะฉะนั้นเขาจะต้องทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นเพราะเธอจะต้องกลายมาเป็น ‘อัญมณีอสูร’
ชอว์ยังเดินหน้ากระทำต่อไปเรื่อยๆ จนริมฝีปากเขาแห้งผาก เมื่อเห็นธารน้ำจากโพรงสาวหลั่งไหลออกมาไม่หยุด หนูอัญหอบหายใจไปพร้อมๆกับครางออกมา อ๊ะ! ชอว์ทนต่อสิ่งเย้ายวนตรงหน้าต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาดึงมือออกจากทั้งกลีบสาวและแท่งเนื้อของตัวเอง ใบหน้าขยับฝังลงเข้าหากลีบสาวอู้ยยยยยย!!! “ชอว์!!!!!!" หนูอัญกรีดร้องเรียกชอว์เสียงดังลั่น เมื่อปลายลิ้นของเขาแทนที่นิ้ว เสียงกรีดร้องของเธอช่างเหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นของเขาเหลือเกิน ที่แท้พวกเธอรู้สึกแบบนี้เองเหรอถึงได้ร้องขอส่วนบุญออกมาแบบนั้น สิ่งที่หนูอัญคิดอยู่บิดเบือนไปจากความจริงอยู่มาก ชอว์นอกจากไม่เคยจูบผู้หญิงคนไหนมาก่อน เขาก็ไม่เคยใช้ปากและลิ้นกับกลีบสาวของผู้หญิงคนไหนมาก่อนด้วย เรียวลิ้นตวัดถูไถดุนดันโลมเลียกวัดแกว่งอย่างกับว่าผ่านประสบการณ์แบบนี้มาไม่น้อย ใครจะเชื่อว่าการดื่มด่ำสายธารแห่งความสาวมันช่างหอมหวานดั่งได้กินน้ำเพิ่มอายุวัฒนะก็ไม่ป่าน
พรืดดดด ชอว์กระชับอ้อมกอดมากขึ้นจนเนื้อแท้ท่อนบนแนบแน่นบนแผ่นอกกำยำ เขาสัมผัสได้ถึงยอดเกสรที่เบียดเสียดสีกับแผ่นอกเขา แค่นี้ก็ทำให้เรียวลิ้นฉกฉวยเร้าร้อนมากยิ่งขึ้นในโพรงปากหวาน ลิ้นเล็กไร้เดียงสายิ่งหนัก แต่ความไร้เดียงสานี้ไม่ว่าเธอจะขยับหรือทำอะไรเขาก็พึงพอใจทุกครั้ง จ๊วบ จุ๊บ! ชอว์ผละออกจากริมฝีปากแดงอย่างอ้อยอิ่ง เพื่อมาดูดรั้งเรียวคอเล็กขาวเสียงดังอีกครั้ง หนูอัญสั่นสะท้านซ่านเสียวและความรู้สึกนี้ก็วิ่งผล่านไปทั่วเรือนกายของเธอ แต่ที่หนักสุดบริเวณใจกลางสาวที่ตอนนี้เธอรู้สึกถึงการบีบรัดแปลกๆ ชอว์เลื้อยโลมเลียกัดเรียวคอขาวจนเกิดรอยแดงมากมายอีกครั้ง เสียงครางเล็กๆดังออกมาไม่ขาดสาย พรืดดดด แขนเล็กเกาะกุมไหล่กำยำไว้แน่น เมื่อชอว์ผละดึงร่างบางออกห่างเล็กน้อย ใบหน้าคมโน้มลง อื้มมมม หนูอัญครางออกมาเสียงดังระคน เมื่อยอดเกสรอกเต่งตึงถูกโพรงปากร้อนของเขาครอบครองอีกครา เ
หนูอัญไม่ตอบ เธอกระพริบตาถี่ขึ้นเพื่อไล่น้ำตาไม่ให้มันเอ่อออกมามากกว่านี้ ดวงตาเธอจับจ้องมองนัยน์ตาสีเทาที่มองจ้องเธอยู่ตลอดเวลา ดวงตาทั้งสองต่างมองกันและกันเหมือนดั่งมีแม่เหล็กต่างขั้วที่กำลังดูดซึ่งกันและกัน กว่าหนูอัญจะรู้สึกตัวลมหายใจเธอก็เป่ารดริมฝีปากชอว์ไปเสียแล้ว ระยะที่ห่างกันของริมฝีปากที่แทบจะไม่เหลือช่วงห่าง คำแหบพร่าก็ดังขึ้นมาเบาว่า “จูบของฉันยังเป็นของหนูอัญเพียงคนเดียว” สิ้นเสียงแหบพร่านั้น ริมฝีปากทั้งสองก็ประกบปิดช่องว่างระหว่างกันทันที ร่างบางถูกดึงเข้ามาเบียดร่างกำยำ ริมฝีปากเล็กถูกเปิดทางด้วยปลายลิ้นที่ฉกเข้ามาอย่างเร้าร้อน หนูอัญไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้เรียวลิ้นร้อนล้วงล้ำเข้าสู่โพรงปากหวานอีกครั้ง หนูอัญยอมรับเลยว่าเธอไม่เคยคิดถึงจูบครั้งแรกระหว่างเขากับเธออีกเลย แต่ทำไมนะเมื่อได้พบเจอกันอีกครั้ง เธอถึงรู้สึกแน่นหน้าอกเพราะจู่ๆเธอกำลังคิดว่าตัวเธอกำลังจะเป็นโรคหัวใจโตเสียแล้ว และมันจะเต้นแรงเร็วแบบนี้ทำไมกัน 
Komen