เข้าสู่ระบบเสียงดนตรียังคงขับกล่อมแขกในงานไปเรื่อย อรอมลรู้สึกดีขึ้นที่ได้กลับมานั่งประจำโต๊ะเสียที หลังจากคนรู้จักสลับสับเปลี่ยนมาพูดคุยทักทายเธอจนเกือบครบทั้งงาน หญิงสาวรู้ดีว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะใคร
“เหนื่อยเหรอเอยสีหน้าไม่ดีเลย” คิมหันต์ถามพร้อมกับยื่นจานอาหารในมือให้เธอ
“นิดหน่อยน่ะ ขอบคุณนะคิม” เอ่ยขอบคุณเมื่อรับจานอาหารจากคิมหันต์แล้วลงมือทานทันที
“ค่อยๆกินสิเดี๋ยวก็ติดคอกันพอดี” เอ่ยดุเมื่อเห็นคนตัวเล็กตักอาหารเข้าปากคำโต จนบางส่วนเลอะมุมปาก คิมหันต์ส่ายศีรษะไปมา มือแกร่งล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“เอย...”
“หืม...” ทันทีที่อรอมลเงยหน้าขึ้น ผ้าเช็ดหน้าสีสะอาดก็ซับลงที่มุมปากอย่างเบามือ ตากลมโตกะพริบถี่ๆ เมื่อสบกับตาคมเข้มที่มองเธออย่างมีความหมาย ใบหน้าสวยเห่อร้อนก่อนจะเบี่ยงหลบ มือบางฉวยผ้าเช็ดหน้าจากมือชายหนุ่ม เมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอกับคิมหันต์กำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนในงาน
“ขอบคุณนะคิม” ขอบคุณแก้อาการเขินอาย แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าของชายหนุ่มซับมุมปากของตัวเอง
“เอยก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ ค่อยๆกินสิเดี๋ยวติดคอ”คิมหันต์เอ่ยอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นอรอมลทำตัวเหมือนเด็กๆ
“หิวมากน่ะเลยลืมตัวไปหน่อย”
“นึกยังไงถึงมางานนี้ ปกติไม่ชอบนี่น่า” คิมหันต์ชวนคุย เมื่อนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างๆเธอ
“คุณป้าสั่งให้มานะ ดีนะที่คิมมางานนี้ด้วยไม่อย่างงั้นเอยคงไม่มีเพื่อนคุย”
“ใครบอกผมเห็นตั้งแต่เข้างานมา เอยก็เพิ่งว่างนี่แหละ ว่าแต่ป้าๆพวกนั้นมาคุยอะไรกับเอยเหรอ”
“ก็...เรื่องเดิมๆนั่นแหละ อย่าไปสนใจเลยทานต่อเถอะ อันนี้อร่อยมากเอยยกให้คิม” อรอมลตัดบทเพราะไม่อยากทำให้คิมหันต์ไม่สบายใจ คนพวกนั้นต่างก็ต้องการเข้ามาตีสนิทกับเธอเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น บางคนต้องการทาบทามเธอให้รู้จักกับหนุ่มๆในสังกัด บางคนก็ต้องการใช้เธอเป็นบันไดไปหาคุณอมร คิมหันต์ไม่ถามอะไรอีก นั่งทานอาหารส่วนของตัวเองเงียบๆ ลอบสังเกตอาการของหญิงสาวไปด้วย อรอมลรู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ แต่เธอก็ให้เขาได้แค่เพื่อนเท่านั้น
การกระทำของคนทั้งสองอยู่ในสายตาของใครหลายคู่ หนึ่งในนั้นก็มีคุณอมรรวมอยู่ด้วย ชายสูงวัยมองลูกสาวคนโตตั้งแต่ตอนที่เธอเดินเข้ามาในงาน ต้องขอบคุณคุณพรรณีย์ที่ให้เธอมางานนี้ ทำให้เขาเห็นว่ามีหนุ่มๆมากหน้าหลายตาสนใจเธอ อรอมลเรียนจบนานแล้ว น่าจะเข้ามาช่วยงานในบริษัทได้แล้ว ถึงแม้ลูกจะไม่สนิทกับเขาก็ตาม แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเธอก็น่าจะแยกแยะได้
“ว่าที่ลูกเขยคุณดูดีนะคะ” คุณกัญญารัตน์พูดกับสามี เมื่อเห็นการกระทำของลูกเลี้ยง ใบหน้าคุณอมรตึงขึ้น คิมหันต์เป็นคนที่มีอนาคตไกลก็จริง แต่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก ผู้ชายที่จะมาเป็นลูกเขยของเขาต้องมีฐานะเท่าเทียมกัน จะได้พึ่งพาอาศัยกันได้ สมัยนี้เขาวัดกันที่เงินมีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่แบบนี้มันถึงจะถูกต้อง
“เดี๋ยวผมมานะ”
“จะไปหาลูกสาวเหรอคะ ระวังหน้าแตกกลับมานะ ดูไม่ออกเลยเหรอว่าลูกคุณไม่ชอบหน้าคุณ” คำพูดของคุณกัญญารัตน์ฟังดูก็เหมือนจะห่วงใย แต่น้ำเสียงที่ใช้กลับตรงกันข้าม มันมีความเยาะเย้ยอยู่ในนั้น
“ผมเจอคนรู้จักน่ะ ว่าจะไปทักทายเสียหน่อย”
“ใครคะใช่คุณอัคนีหรือเปล่า พายายอายไปด้วยสิ
อายไปกับคุณพ่อสิลูกจะได้เชิญคุณอัคนีไปชิมขนมที่อายทำด้วย”คุณกัญญารัตน์สะกิดแขนลูกสาว ที่กำลังคุยกับเพื่อน อรอุมาหันมายิ้มให้มารดา จังหวะนั้นเพื่อนของเธอก็ขอตัวไปทักทายคนรู้จักพอดี อันที่จริงอัคนีก็เข้านอกออกในบ้านนางออกจะบ่อย แต่ที่อยากให้อรอุมาไปทักทายเขา ก็เพื่อประกาศให้คนในงานรู้ว่า
อรอุมารู้จักและสนิทสนมกับเขา สาวแก่แม่หม้ายจะได้เลิกฝัน
“อายไปด้วยก็ดีเหมือนกัน คุณอัคจะได้มีเพื่อนคุย ไม่ไปด้วยกันเหรอคุณ”
“ฉันเจอคุณหญิงแก้มแก้วค่ะ ว่าจะไปทักท่านเสียหน่อย อย่าลืมเรื่องที่แม่สั่งนะอาย ชวนคุณอัคนีไปทานข้าวที่บ้านเราด้วยนะ”
“ค่ะแม่”
“ออ...ถ้าระหว่างทางพ่อเขาแวะไปคุยกับลูกสาวสุดที่รัก ก็อย่าลืมทักทายพี่เขาด้วยนะ เดี๋ยวป้าแกจะว่าแม่เอาได้ว่าสอนลูกไม่ดี”
“อายทราบค่ะแม่” อรอุมารับคำมารดาตาคู่สวย มองไปยังอรอมล ที่กำลังคุยกับคิมหันต์อย่างสนุกสนาน สองคนนั่นดูยังไงก็เหมือนคู่รัก พ่อเธอดูไม่ออกเลยหรือไง ถึงได้ยังคิดจะหาคู่ให้อรอมล ทั้งๆที่เจ้าตัวก็ไม่เคยพูดดีกับท่านเลยสักครั้ง
“อย่าไปฟังแม่เขามากนะอาย ยังไงเอยก็เป็นพี่นะลูก”คุณอมรพูดกับอรอุมา เพราะอยากให้พี่น้องสามัคคีกัน
“อายทราบค่ะพ่อ” รับปากคนเป็นพ่อด้วยคำพูดที่สุภาพอ่อนหวาน แต่ความรู้สึกในใจกับตรงกันข้าม เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว
มีคนให้เธอรู้จักตั้งมากมาย ไม่จำเป็นเลยสักนิดที่เธอจะต้องไปสนิทสนมกับพี่สาว ที่ทำตัวไม่ต่างจากคนแปลกหน้า ปล่อยให้อรอมลอยู่กับคุณพรรณีย์น่ะดีแล้ว เธอจะได้เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณอมร
..............................................................................................
“ผมว่างานนี้คุณพิมพ์คงต้องผิดหวังนะครับ สองคนนั่นเขาเป็นคู่รักกันหรือเปล่า” อัคนีถามตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่อรอมล
ที่กำลังพูดคุยกับหนุ่มหล่ออย่างสนิทสนม
“ไม่ใช่แฟนหนูเอยหรอกค่ะ เขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน”
“ผมคิดว่าดูไม่ผิดนะครับ” อัคนีพูดอย่างเป็นต่อ ผู้ชายด้วยกันดูออกว่าหมอนั่น รู้สึกยังไงกับหนูเอยของคุณพิมพ์แข
“เอาหัวเป็นประกันเลยค่ะ ต่อให้คิมหันต์ชอบหนูเอยจริงๆแล้วไงคะ ฐานะทางครอบครัวต่างกันก็คงยาก”
“อะไรคือต่างกันครับ ความรักมันอยู่ที่คนสองคนไม่ใช่หรือ”
“แต่ไม่ใช่คนอย่างหนูเอยค่ะ เธอรู้ว่าควรทำอย่างไร
คุณอัคไม่รู้จักคุณพรรณีย์ เลยไม่ทราบว่าคุณพรรณีย์ค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องแบบนี้ อย่างว่าใครก็อยากให้ลูกหลานตัวเองสบาย”
“ต้องอย่างลูกชายท่านประมุขใช่ไหมครับ”
“นี่ถ้าพี่ไม่ทราบมาก่อนว่าคุณอัคไม่ชอบผู้หญิงอย่าง
หนูเอย พี่จะคิดว่าคุณอัคกำลังประชดพี่อยู่นะคะ”
“ผมแค่สงสัยว่าผู้หญิงสมัยนี้ชอบคนรวยจริงหรือ”
“ก็ไม่ทุกคนหรอกค่ะ แต่ร้อยทั้งร้อยผู้หญิงรักความสบาย เกลือมันไม่อร่อยหรอกคะ”
“คุณพิมพ์พูดซะผมเห็นภาพเลยครับ”
“หรือไม่จริงคะ ลองถ้าคุณอัคมีแต่ตัวสาวๆที่ควงอยู่ตอนนี้จะเลือกคุณไหมคะ พี่ไม่คุยกับคุณอัคแล้วเจอคุณหญิงแกมแก้วพอดี เรื่องหนูเอยถ้าได้คุณหญิงช่วยพูดบางทีอาจจะง่ายขึ้น พี่ขอตัวก่อนนะคะ”
“เชิญครับ” คำพูดของคุณพิมพ์แขทำให้อัคนีคิดอะไรได้บางอย่าง ก็จริงของนางสมัยนี้ใครๆก็รักความสบายทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้หญิง และยิ่งเป็นผู้หญิงที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างเธอคนนั้น ก็คงเป็นอย่างที่คุณพิมพ์แขพูดจริงๆ เข้าตำราสวยแต่รูปแต่คงจูบไม่หอม
"คุณอัค!" อรอมลหวีดร้องเมื่อถูกผลักให้ล้มลงบนที่นอน แขนแกร่งสอดเข้าใต้ข้อพับ ก่อนจะลากเธอมาที่ขอบเตียง ร่างสูงคุกเข่าลง มือหนากระชากผ้าชิ้นน้อย ที่ปิดบังดอกไม้งามจนขาดติดมือ ก่อนจะขว้างไปให้พ้นทาง ดันขาเรียวไปจนชิดหน้าอกจนส่วนนั้นแบะอ้าท้าทายสายตาของเขา ลิ้นร้อนแตะลงไปบนตุ่มไตเม็ดเล็ก คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่อความอุ่นชื้นสัมผัสกับจุดที่เสียวกระสัน ลิ้นร้ายสะบัดเลียลงบนใจกลางความเป็นหญิง ก่อนจะห่อเกร็งแล้วสอดแทรกเข้าไปในช่องทางรักที่คับแน่น ชักเข้าชักออกเป็นจังหวะ แล้วเปลี่ยนมาสลับเลียวนไปทั่วบริเวณ ละเล็งซ้ำๆลงบนตุ่มเม็ดเล็ก ร่างบางบิดเกร็ง เมื่อความเสียวซ่านเข้าเล่นงาน ยามเมื่อนิ้วร้ายค่อยๆสอดแทรกเข้ามาในช่องทางรัก อัคนีโจมตีเธอทุกทาง เขาต้องการให้เธอขาดใจตายใช่ไหม "อ่ะๆๆคุณอัคเอยเสียว" ปล่อยเสียงครางออกมาอย่างลืมอาย สะโพกเล็กเกร็งขึ้นขยับรับลิ้นและนิ้วมือของเขา ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อน้ำรักสีใสไหลทะลักลงมาอาบนิ้วจนชุ่มฉ่ำ เมื่อส่งเธอไปจนสุดทาง ด้วยปากและนิ้วของเขา ลิ้นร้อนตวัดเลียดูดกลืนน้ำหวานอย่างไม่รังเกียจ ชักนิ้วออกจากช่องทางรัก จับความเป็นชายใหญ่โตมาจ่อที่ร่องรักคับแน่น
“แอ๊ะ(แอ๊ะ)” เสียงร้องของลูกที่ดังขึ้นกลางดึก ทำให้คนที่เพิ่งจะเคลิ้มหลับสะดุ้งสุดตัว เมื่อเสียงนี้เปรียบเสมือนนาฬิกาปลุกชั้นดี ที่ได้ยินตอนไหนต้องรีบตื่นตอนนั้น “นอนต่อเถอะค่ะ เดี๋ยวเอยดูลูกเอง” คนตัวเล็กที่นั่งพิงหัวเตียงบอกกับเขา เมื่ออัคนีลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย “ไม่เป็นไรครับ ผมไหว” คนไหวส่ายหัวไปมาเมื่อคนตัวเล็กในเปลยังร้องไม่หยุด อรอมลจะไหวได้ยังไงเพราะตอนนี้สองหนุ่มแผดเสียงร้องพร้อมกัน ร่างสูงช้อนลูกคนเล็กขึ้นมาจากเปล เมื่อคนเป็นแม่คว้าลูกคนโตไปก่อน เท่ากับว่าตอนนี้พี่โอบจะได้ดื่มนมจากเต้า แต่น้องเอื้อจะได้ดื่มนมจากขวด ที่แม่เตรียมเอาไว้แทน "ตอนก่อนนอนพี่โอบก็ดูดเต้าแล้วไม่ใช่เหรอ" ถามเมื่ออุ้มลูกคนเล็กมานั่งดูแม่ป้อนนมคนโต "ก่อนนอนเอยป้อนน้องเอื้อค่ะ" อรอมลตอบสามี เมื่อเขาเข้าใจว่าเธอจำลูกผิดคน "หืม...ผมว่าพี่โอบนะ" "ไม่ใช่ค่ะ คุณอัคจำลูกผิดคนแล้ว เอยป้อนน้องเอื้อค่ะ"อรอมลบอกเมื่ออัคนียังสงสัยไม่หาย อัคนีอยากให้ลูกได้ดื่มนมจากแม่เท่าเทียมกัน เพราะสงสารถ้าใครคนหนึ่งต้องดูดขวดตลอดเวลา ถึงจะเป็นน้ำนมแม่เหมือนกั
อรอมลอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 อาทิตย์ หมอเห็นว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก ก็อนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยมีคุณพ่อทำหน้าที่เป็นคนขับรถ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เพิ่งรู้ตอนนี้ ว่าการเลี้ยงลูกไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ท่าทางกินอิ่มนอนหลับที่เห็นนั้น เกิดขึ้นแค่สองวันแรกเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเด็กแฝดสองคนก็พากันแผลงฤทธิ์ใส่ จนคนเป็นแม่ไม่ได้นอนเลยสักคืน เพราะต้องลุกมาให้นมลูก โดยที่คุณพ่อก็ต้องตื่นมาอุ้มอีกคน เพื่อรอต่อคิวกินนมอีกข้าง บางครั้งอรอมลต้องปั๊มน้ำนมใส่ขวดเก็บเอาไว้ เพราะเวลาที่เจ้าแฝดหิวพร้อมกัน จะได้มีสำรองในขวดให้อีกคน "เหนื่อยไหม"เป็นอีกครั้งที่อัคนีถามภรรยา เมื่อช่วยกันกล่อมลูกจนหลับไปพร้อมกัน และเขาก็จะได้รอยยิ้มเป็นคำตอบ เพราะเธอไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยเลยสักคำ "คุณอัคละคะเหนื่อยไหม"ถามเพราะว่าสามีก็ช่วยเธอไม่ห่างเช่นกัน "ไม่ครับผมมีความสุขที่สุด ที่ได้ช่วยเอยเลี้ยงลูก"คนปากหวานประจบเมีย ทั้งๆที่ตาจะหลับอยู่แล้ว "คุณอัคไปอาบน้ำสิคะเดี๋ยวเอยเฝ้าลูกเอง" "หลับแล้วคงไม่ตื่นแล้วแหละ อาบพร้อมกันได้ไหม"คำขอของสามีทำให้อรอมลอายจนหน้าแดง
อัคนีก้มมองคนในอ้อมแขน ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อนึกชื่อให้ลูกได้ อรอมลก็ยิ้มไปกับเขา เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสุขของเขา "คนพี่ผมจะตั้งชื่อเล่นว่าพี่โอบ ชื่อจริงว่าอธิ"พูดเมื่อมองหน้าลูกคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนตัวเอง "ส่วนน้องผมตั้งชื่อเล่นว่าน้องเอื้อ ชื่อจริงว่าองศาเอยชอบไหมครับ"พูดกับลูกก่อนจะมองหน้าแม่ เมื่อถามความคิดเห็นของเธอ "พี่โอบ กับน้องเอื้อเหรอคะ" "ครับชอบไหม อธิกับองศา" "ชอบค่ะเพราะที่สุดเลย หนูชอบไหมคะพี่โอบ น้องเอื้อ"คนเป็นแม่ถามลูกๆ แต่ได้รอยยิ้มของพ่อเป็นคำตอบ เมื่ออัคนีดีใจที่ภรรยาชอบชื่อที่เขาตั้งให้ โอบกับเอื้อ สองชื่อนี้เหมาะกับลูกเขาที่สุดแล้ว เพราะว่าเขาและภรรยาก็มีชื่อเป็นอักษร อ.เช่นกัน อัคนีกับอรอมล เหมือนใครสักคนตั้งใจให้เขาและเธอมาคู่กันคิดเมื่อเผลอนึกย้อนไปไกล ถึงวันที่เห็นหน้าเธอครั้งแรก แม่ของลูกคือผู้หญิงที่ทำให้หัวใจเขาสั่นคลอนคนนั้นจริงๆ นาทีที่เธอฉีกยิ้มหวานให้ใครต่อใคร หัวใจเขาก็เต้นรัว แม้เขาจะได้แค่ใบหน้าบึ้งตึง กับสายตารังเกียจยาม เมื่อเธอมองมาที่เขาก็ตาม หนูเอยของคุณพิมพ์แข กลายมาเป็นหนูเอยขอ
อรอมลถูกย้ายมาที่ห้องพักฟื้น เมื่อหมอผ่าคลอดให้เธอ ลูกของเธอแข็งแรงและปลอดภัย และที่น่ายินดีที่สุดก็คือเธอได้ลูกชาย คนที่ดีใจที่สุดคงไม่พ้นอัคนี เพราะในใจลึกๆเขาก็อยากได้ผู้ชายมาตลอด "เจ็บมากไหม" ถามคนบนเตียงเมื่อเห็นใบหน้าที่อิดโรยของเธอ "ไม่เลยค่ะ เอยดีใจที่สุดเลย ที่คุณอัคเดินได้แล้ว" ถึงแม้จะมีเรื่องลูกมาเบี่ยงเบน แต่อรอมลก็ยังไม่ลืมเรื่องขา เพราะเธอดีใจที่สุด "ผมอยากวิ่งเล่นกับลูกไงครับ เลยอยากเดินให้เร็วที่สุด"พูดพร้อมกับลอบถอนหายใจ เมื่อคนบนเตียงยิ้มให้เขา "ได้วิ่งสมใจแน่ค่ะ คุณอัคได้ลูกชาย" "ดีใจที่สุดเลยครับ" "เอยก็ดีใจค่ะ" "ขอบคุณนะครับที่ให้ของขวัญที่มีค่ากับผม" "เอยก็ขอบคุณนะคะที่คุณอัครักเอย" "รักสิครับ รักตั้งแต่แรกเห็น ผมบอกกับตัวเองว่าหนูเอยคือแม่ของลูกผม ตั้งแต่สบตากันครั้งแรก" "โกหก สบตาเอยแต่พาผู้หญิงไปทำแบบนั้นในห้องน้ำอี๋น่าเกลียด" "ได้ทำที่ไหนละ แม่สาวกระโปรงม่วงมาห้ามไว้เสียก่อน" "เลยค้างและมาลงกับเอย" "อืม...หนูเอยรู้
อัคนีรู้สึกตัวตื่นกลางดึกเมื่อคนที่นอนข้างๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง "หนูเอย"เสียงงัวเงียเรียกภรรยาเมื่อลืมตามาดูเธอ "เป็นอะไรครับ"ถามเมื่อเห็นเธอเริ่มบิดตัวไปมา "เอยเจ็บท้องค่ะ น่าจะคลอด" "คลอด!"คนที่นอนนิ่งดีดตัวลุกขึ้นนั่ง คำว่าคลอดที่ได้ยิน หมายความว่าลูกเขากำลังจะลืมตาดูโลก และจากที่รู้มาถ้าถึงกำหนดคลอดคนเป็นแม่จะเจ็บท้องมาก เขาจึงอยู่เฉยไม่ได้ต้องรีบพาเธอไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด อันที่จริงกำหนดที่หมอนัดผ่าคือสัปดาห์หน้า แต่คงจะคลาดเคลื่อน "รอแป๊บนะครับ หนูเอย"คนที่เปลือยท่อนบนวิ่งไปหยิบเสื้อในตู้ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ "คุณ...อัค"อรอมลมองคนที่กระโดดลงเตียง ด้วยหัวใจที่เต้นคร่อมจังหวะ มือบางยกขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียง เมื่อเห็นอัคนีวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เธอไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม อัคนีเดินได้แล้วร่างสูงที่ยืนแปรงฟันหน้ากระจกมองตัวเองตาค้าง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าทำอะไรลงไป เขาดีใจที่ลูกกำลังจะลืมตาดูโลกจนลืมไปว่า...ขา ตาคมเข้มกะพริบถี่ๆหัวใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าอรอมลจะรู้สึกอย่างไร ที่เห็นเขาเดินได้แบบนี้







