เข้าสู่ระบบ“เอย!” คิมหันต์เรียกหญิงสาวเอาไว้ เมื่อเธอเดินออกมา
ที่ลานจอดรถ เขาถูกคุณอมรไล่ออกมาเพราะเป็นคนนอก แต่เขาทิ้งอรอมลไม่ได้ จึงเลือกที่จะมารอเธออยู่ตรงนี้ เพราะรู้ว่าตอนนี้อรอมลต้องการกำลังใจมากที่สุด
“คิม...” ร่างบางโผเข้าหาอกแกร่ง เมื่อคิมหันต์กางแขนออก เขารู้ว่าอรอมลกำลังเสียใจ และอ้อมกอดของเขาคือกำลังใจที่ดีที่สุด
“เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ผมฟังได้ไหม” มือแกร่งลูบไปบนแผ่นหลังบางเพื่อปลอบโยน เมื่อคนในอ้อมแขนกอดเอวเขาไว้แน่น
“ไว้วันหลังได้ไหม เอยไม่อยากพูดถึงมันอีก” อรอมลปฏิเสธไม่ใช่เธอไม่ไว้ใจเขาแต่เรื่องนี้เธออยากลืมมัน
“อยากร้องไห้ไหม อยากร้องก็ร้องออกมาเถอะนะ”
“ไม่...เอยไม่มีเวลาเสียใจกับเรื่องบ้าบอนี่หรอก ขอบใจมากนะที่อยู่รอเอย”
“เราเป็นเพื่อนกันนะ ใครจะทิ้งเพื่อนได้ลงคอ”
“เอยดีใจนะที่มีคิมอยู่ข้างกายเสมอ คิมคือคนที่เข้าใจเอยที่สุด”
“แล้วจะมีโอกาสเลื่อนเป็นคนรู้ใจบ้างไหมครับ” คำพูดของคิมหันต์ ทำให้ใบหน้าสวยที่ซุกอยู่กับอกเขาเงยขึ้นมามอง คิมหันต์ยิ้มให้เธอเพื่อเป็นการกลบเกลื่อน เพราะไม่อยากทำให้คนในอ้อมแขนไม่สบายใจ
“ผมล้อเล่นน่ะ”
“คิมคือคนที่เอยอยู่ด้วยแล้วมีความสุขที่สุด แบบนี้เรียกว่าคนรู้ใจได้ไหมคะ”
“เอย!” คำพูดของหญิงสาวทำให้หัวใจดวงโตฟูคับอก คิมหันต์ดันเธอออกจากอก เพื่อจะมองหน้าเธอให้เต็มสองตา
“หลังจากเกิดเรื่องวันนี้ เอยรู้แล้วว่าหัวใจเอยอยู่ที่ใคร เอยยังมีโอกาสอยู่ไหมคะ คิมยังต้องการหัวใจของผู้หญิงคนนี้อยู่ไหมคะ” ตากลมโตสบกับดวงตาของชายหนุ่ม เพื่อยืนยันว่าคำพูดนี้มันออกมาจากหัวใจ
“เอย! เอยพูดจริงใช่ไหม เอยไม่ได้หลอกผมใช่ไหม”ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกว้าง ตื่นเต้นจนหัวใจแทบกระดอนออกมานอกอก ในที่สุดเขาก็ได้ฟังคำนี้จากปากของเธอ
“ที่ผ่านมาเอยปิดบังซ่อนเร้น พยายามแช่หัวใจไว้ในน้ำแข็ง อยากให้มันชาจนไม่รู้สึกอะไร เพราะเอยไม่อยากเป็นเหมือนคุณแม่ คิมก็ทราบว่าคุณแม่เอยท่านเสียใจกับความรักจนตรอมใจตาย เอยไม่อยากเป็นแบบท่าน เอยไม่อยากเจ็บเพราะความรัก” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็รื้นหัวตา เธอไม่เคยเห็นแม่มีความสุขสักครั้ง ภายใต้รอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยน เธอรู้ว่าแม่เก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ เพราะพ่อไม่เคยรักแม่เลย
“ผมจะไม่เป็นแบบนั้น ฟังผมนะเอยยังไม่ต้องรักผมวันนี้ก็ได้ ให้เวลาพิสูจน์หัวใจของเรา ผมจะไม่คาดคั้นเอยอีก แค่เอยให้โอกาส ผมก็มีความสุขมากแล้ว ให้ความรักเป็นหนังสือนะครับ ค่อยๆอ่านและเรียนรู้กันไป ผมรอได้เสมอ”
“ขอบคุณนะคะ”
“แล้วนี่เอยจะกลับบ้านเลยไหม ให้ผมขับรถตามไปส่งนะ ผมเป็นห่วงเอย”
“เอยหิวมากเลยค่ะ วันนี้ได้ทานซูชิแค่ไม่กี่คำ คิมเลี้ยงข้าวเอยได้ไหมคะ”
“ยินดีครับ เอยขับนำไปนะเดี๋ยวผมขับตามไป อย่าคิดมากนะครับ”
“ได้ข้าวต้มร้อนๆสักถ้วยเอยคงสบายใจค่ะ”
“หืม...ที่บอกว่าชอบผมนี่เป็นเพราะหิวหรือเปล่า”
“เขาใช้กระเพาะตัดสินความรัก แทนหัวใจแล้วเหรอคะ”
“ฮ่าๆๆ มีความสุขจัง ไปครับผมไปส่งที่รถ” คิมหันต์จูงมืออรอมลเดินไปที่รถยนต์ คืนมือถือที่เขาเก็บไว้ให้เธอ มือหนาขยี้ลงบนศีรษะทุยสวย ก่อนจะปิดประตูให้ เดินกลับมาที่รถแล้วขับตามเธอออกไป
การกระทำของคนทั้งสองอยู่ในสายตาของอัคนีมาตลอด ตกลงสองคนนี้เป็นคนรักกันจริงๆใช่ไหม มิน่าอรอมลถึงได้ไม่สนใจเขา บุหรี่ในมือถูกโยนลงพื้นเมื่ออยู่ๆก็รู้สึกโมโหขึ้นมา คนอย่างเขามีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าใส่ มีอรอมลคนแรกที่วิ่งหนีเขา
“หน้าระรื่นเลยนะ หนูเอย!” กรามแกร่งขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน โมโหอรอมลอย่างไม่มีเหตุผล รสจูบของเธอยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น ยอมรับว่าเขาชักจะติดใจเธอเสียแล้ว มีคู่แข่งแบบนี้ก็ยิ่งสนุก
“ไว้เจอกันนะครับ” พูดกับตัวเองก่อนจะเดินไปที่รถแล้วขับออกไป คำพูดที่เขาพูดกับคุณอมรวันนี้ คงทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยมีต่อกันขาดสะบั้น แต่อัคนีก็ไม่คิดจะสนใจ คุณอมรก็ไม่ได้จริงใจกับเขา ที่ชวนมาเป็นหุ้นส่วนก็เพราะอยากได้ผลประโยชน์จากเขา และวันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เพื่อผลประโยชน์คุณอมรก็ทำได้ทุกอย่างจริงๆ ให้ลูกสาวคนเล็กมาสนิทกับเขา พอรู้ว่าเขากับลูกสาวคนโตมีบางอย่างต่อกัน ก็เปลี่ยนข้างไปอยู่กับอรอมล โดยที่ไม่สนใจจิตใจของอรอุมาเลยสักนิดว่าจะรู้สึกอย่างไร เมื่อคิดมาถึงตรงนี้อัคนีก็อดสงสารอรอุมาไม่ได้ เขาไม่ดีเองที่ไม่ชัดเจน จนทำให้เธอคิดไปไกล ดูจากอาการแล้วเธอคงจะเสียใจมาก ช่วยไม่ได้เรื่องนี้เขาไม่ผิด อรอุมาคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอด เขาไม่เคยพูดสักคำว่าชอบเธอ
รถสปอร์ตคันหรูขับไปด้วยความเร็วสูง เมื่อเจ้าของรู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล ในหัวมีแต่ภาพดวงตากลมโตคู่เศร้าที่มองเขาอย่างเกลียดชัง รอยยิ้มเย้ยหยันที่อรอมลยิ้มให้เขา
เธอไม่ได้แกล้งทำใช่ไหม คุณอมรทำอะไรไว้กับเธอกันนะ เธอถึงได้เกลียดจนฝังใจขนาดนี้ มือแกร่งหักพวงมาลัยรถไปอีกทาง
เมื่อไม่มีอารมณ์จะกลับบ้านตอนนี้
"คุณอัค!" อรอมลหวีดร้องเมื่อถูกผลักให้ล้มลงบนที่นอน แขนแกร่งสอดเข้าใต้ข้อพับ ก่อนจะลากเธอมาที่ขอบเตียง ร่างสูงคุกเข่าลง มือหนากระชากผ้าชิ้นน้อย ที่ปิดบังดอกไม้งามจนขาดติดมือ ก่อนจะขว้างไปให้พ้นทาง ดันขาเรียวไปจนชิดหน้าอกจนส่วนนั้นแบะอ้าท้าทายสายตาของเขา ลิ้นร้อนแตะลงไปบนตุ่มไตเม็ดเล็ก คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่อความอุ่นชื้นสัมผัสกับจุดที่เสียวกระสัน ลิ้นร้ายสะบัดเลียลงบนใจกลางความเป็นหญิง ก่อนจะห่อเกร็งแล้วสอดแทรกเข้าไปในช่องทางรักที่คับแน่น ชักเข้าชักออกเป็นจังหวะ แล้วเปลี่ยนมาสลับเลียวนไปทั่วบริเวณ ละเล็งซ้ำๆลงบนตุ่มเม็ดเล็ก ร่างบางบิดเกร็ง เมื่อความเสียวซ่านเข้าเล่นงาน ยามเมื่อนิ้วร้ายค่อยๆสอดแทรกเข้ามาในช่องทางรัก อัคนีโจมตีเธอทุกทาง เขาต้องการให้เธอขาดใจตายใช่ไหม "อ่ะๆๆคุณอัคเอยเสียว" ปล่อยเสียงครางออกมาอย่างลืมอาย สะโพกเล็กเกร็งขึ้นขยับรับลิ้นและนิ้วมือของเขา ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อน้ำรักสีใสไหลทะลักลงมาอาบนิ้วจนชุ่มฉ่ำ เมื่อส่งเธอไปจนสุดทาง ด้วยปากและนิ้วของเขา ลิ้นร้อนตวัดเลียดูดกลืนน้ำหวานอย่างไม่รังเกียจ ชักนิ้วออกจากช่องทางรัก จับความเป็นชายใหญ่โตมาจ่อที่ร่องรักคับแน่น
“แอ๊ะ(แอ๊ะ)” เสียงร้องของลูกที่ดังขึ้นกลางดึก ทำให้คนที่เพิ่งจะเคลิ้มหลับสะดุ้งสุดตัว เมื่อเสียงนี้เปรียบเสมือนนาฬิกาปลุกชั้นดี ที่ได้ยินตอนไหนต้องรีบตื่นตอนนั้น “นอนต่อเถอะค่ะ เดี๋ยวเอยดูลูกเอง” คนตัวเล็กที่นั่งพิงหัวเตียงบอกกับเขา เมื่ออัคนีลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย “ไม่เป็นไรครับ ผมไหว” คนไหวส่ายหัวไปมาเมื่อคนตัวเล็กในเปลยังร้องไม่หยุด อรอมลจะไหวได้ยังไงเพราะตอนนี้สองหนุ่มแผดเสียงร้องพร้อมกัน ร่างสูงช้อนลูกคนเล็กขึ้นมาจากเปล เมื่อคนเป็นแม่คว้าลูกคนโตไปก่อน เท่ากับว่าตอนนี้พี่โอบจะได้ดื่มนมจากเต้า แต่น้องเอื้อจะได้ดื่มนมจากขวด ที่แม่เตรียมเอาไว้แทน "ตอนก่อนนอนพี่โอบก็ดูดเต้าแล้วไม่ใช่เหรอ" ถามเมื่ออุ้มลูกคนเล็กมานั่งดูแม่ป้อนนมคนโต "ก่อนนอนเอยป้อนน้องเอื้อค่ะ" อรอมลตอบสามี เมื่อเขาเข้าใจว่าเธอจำลูกผิดคน "หืม...ผมว่าพี่โอบนะ" "ไม่ใช่ค่ะ คุณอัคจำลูกผิดคนแล้ว เอยป้อนน้องเอื้อค่ะ"อรอมลบอกเมื่ออัคนียังสงสัยไม่หาย อัคนีอยากให้ลูกได้ดื่มนมจากแม่เท่าเทียมกัน เพราะสงสารถ้าใครคนหนึ่งต้องดูดขวดตลอดเวลา ถึงจะเป็นน้ำนมแม่เหมือนกั
อรอมลอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 อาทิตย์ หมอเห็นว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก ก็อนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยมีคุณพ่อทำหน้าที่เป็นคนขับรถ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เพิ่งรู้ตอนนี้ ว่าการเลี้ยงลูกไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ท่าทางกินอิ่มนอนหลับที่เห็นนั้น เกิดขึ้นแค่สองวันแรกเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเด็กแฝดสองคนก็พากันแผลงฤทธิ์ใส่ จนคนเป็นแม่ไม่ได้นอนเลยสักคืน เพราะต้องลุกมาให้นมลูก โดยที่คุณพ่อก็ต้องตื่นมาอุ้มอีกคน เพื่อรอต่อคิวกินนมอีกข้าง บางครั้งอรอมลต้องปั๊มน้ำนมใส่ขวดเก็บเอาไว้ เพราะเวลาที่เจ้าแฝดหิวพร้อมกัน จะได้มีสำรองในขวดให้อีกคน "เหนื่อยไหม"เป็นอีกครั้งที่อัคนีถามภรรยา เมื่อช่วยกันกล่อมลูกจนหลับไปพร้อมกัน และเขาก็จะได้รอยยิ้มเป็นคำตอบ เพราะเธอไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยเลยสักคำ "คุณอัคละคะเหนื่อยไหม"ถามเพราะว่าสามีก็ช่วยเธอไม่ห่างเช่นกัน "ไม่ครับผมมีความสุขที่สุด ที่ได้ช่วยเอยเลี้ยงลูก"คนปากหวานประจบเมีย ทั้งๆที่ตาจะหลับอยู่แล้ว "คุณอัคไปอาบน้ำสิคะเดี๋ยวเอยเฝ้าลูกเอง" "หลับแล้วคงไม่ตื่นแล้วแหละ อาบพร้อมกันได้ไหม"คำขอของสามีทำให้อรอมลอายจนหน้าแดง
อัคนีก้มมองคนในอ้อมแขน ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อนึกชื่อให้ลูกได้ อรอมลก็ยิ้มไปกับเขา เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสุขของเขา "คนพี่ผมจะตั้งชื่อเล่นว่าพี่โอบ ชื่อจริงว่าอธิ"พูดเมื่อมองหน้าลูกคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนตัวเอง "ส่วนน้องผมตั้งชื่อเล่นว่าน้องเอื้อ ชื่อจริงว่าองศาเอยชอบไหมครับ"พูดกับลูกก่อนจะมองหน้าแม่ เมื่อถามความคิดเห็นของเธอ "พี่โอบ กับน้องเอื้อเหรอคะ" "ครับชอบไหม อธิกับองศา" "ชอบค่ะเพราะที่สุดเลย หนูชอบไหมคะพี่โอบ น้องเอื้อ"คนเป็นแม่ถามลูกๆ แต่ได้รอยยิ้มของพ่อเป็นคำตอบ เมื่ออัคนีดีใจที่ภรรยาชอบชื่อที่เขาตั้งให้ โอบกับเอื้อ สองชื่อนี้เหมาะกับลูกเขาที่สุดแล้ว เพราะว่าเขาและภรรยาก็มีชื่อเป็นอักษร อ.เช่นกัน อัคนีกับอรอมล เหมือนใครสักคนตั้งใจให้เขาและเธอมาคู่กันคิดเมื่อเผลอนึกย้อนไปไกล ถึงวันที่เห็นหน้าเธอครั้งแรก แม่ของลูกคือผู้หญิงที่ทำให้หัวใจเขาสั่นคลอนคนนั้นจริงๆ นาทีที่เธอฉีกยิ้มหวานให้ใครต่อใคร หัวใจเขาก็เต้นรัว แม้เขาจะได้แค่ใบหน้าบึ้งตึง กับสายตารังเกียจยาม เมื่อเธอมองมาที่เขาก็ตาม หนูเอยของคุณพิมพ์แข กลายมาเป็นหนูเอยขอ
อรอมลถูกย้ายมาที่ห้องพักฟื้น เมื่อหมอผ่าคลอดให้เธอ ลูกของเธอแข็งแรงและปลอดภัย และที่น่ายินดีที่สุดก็คือเธอได้ลูกชาย คนที่ดีใจที่สุดคงไม่พ้นอัคนี เพราะในใจลึกๆเขาก็อยากได้ผู้ชายมาตลอด "เจ็บมากไหม" ถามคนบนเตียงเมื่อเห็นใบหน้าที่อิดโรยของเธอ "ไม่เลยค่ะ เอยดีใจที่สุดเลย ที่คุณอัคเดินได้แล้ว" ถึงแม้จะมีเรื่องลูกมาเบี่ยงเบน แต่อรอมลก็ยังไม่ลืมเรื่องขา เพราะเธอดีใจที่สุด "ผมอยากวิ่งเล่นกับลูกไงครับ เลยอยากเดินให้เร็วที่สุด"พูดพร้อมกับลอบถอนหายใจ เมื่อคนบนเตียงยิ้มให้เขา "ได้วิ่งสมใจแน่ค่ะ คุณอัคได้ลูกชาย" "ดีใจที่สุดเลยครับ" "เอยก็ดีใจค่ะ" "ขอบคุณนะครับที่ให้ของขวัญที่มีค่ากับผม" "เอยก็ขอบคุณนะคะที่คุณอัครักเอย" "รักสิครับ รักตั้งแต่แรกเห็น ผมบอกกับตัวเองว่าหนูเอยคือแม่ของลูกผม ตั้งแต่สบตากันครั้งแรก" "โกหก สบตาเอยแต่พาผู้หญิงไปทำแบบนั้นในห้องน้ำอี๋น่าเกลียด" "ได้ทำที่ไหนละ แม่สาวกระโปรงม่วงมาห้ามไว้เสียก่อน" "เลยค้างและมาลงกับเอย" "อืม...หนูเอยรู้
อัคนีรู้สึกตัวตื่นกลางดึกเมื่อคนที่นอนข้างๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง "หนูเอย"เสียงงัวเงียเรียกภรรยาเมื่อลืมตามาดูเธอ "เป็นอะไรครับ"ถามเมื่อเห็นเธอเริ่มบิดตัวไปมา "เอยเจ็บท้องค่ะ น่าจะคลอด" "คลอด!"คนที่นอนนิ่งดีดตัวลุกขึ้นนั่ง คำว่าคลอดที่ได้ยิน หมายความว่าลูกเขากำลังจะลืมตาดูโลก และจากที่รู้มาถ้าถึงกำหนดคลอดคนเป็นแม่จะเจ็บท้องมาก เขาจึงอยู่เฉยไม่ได้ต้องรีบพาเธอไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด อันที่จริงกำหนดที่หมอนัดผ่าคือสัปดาห์หน้า แต่คงจะคลาดเคลื่อน "รอแป๊บนะครับ หนูเอย"คนที่เปลือยท่อนบนวิ่งไปหยิบเสื้อในตู้ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ "คุณ...อัค"อรอมลมองคนที่กระโดดลงเตียง ด้วยหัวใจที่เต้นคร่อมจังหวะ มือบางยกขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียง เมื่อเห็นอัคนีวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เธอไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม อัคนีเดินได้แล้วร่างสูงที่ยืนแปรงฟันหน้ากระจกมองตัวเองตาค้าง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าทำอะไรลงไป เขาดีใจที่ลูกกำลังจะลืมตาดูโลกจนลืมไปว่า...ขา ตาคมเข้มกะพริบถี่ๆหัวใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าอรอมลจะรู้สึกอย่างไร ที่เห็นเขาเดินได้แบบนี้







