เธอคือเด็กสาวเลือดนักสู้ที่ยอมเป็นแม่อุ้มบุญเพื่อแลกกับอิสรภาพของพี่ชาย เขาคือสามีของผู้หญิงที่พร้อมจะกอบโกยทุกอย่าง แต่สิ่งเดียวที่เขาขอ เธอกลับให้ไม่ได้ เขาจึงต้องเลือกผู้หญิงอีกคนเป็นทางเลือกสุดท้ายในการมีทายาทสืบสกุล ทุกอย่างควรเป็นแค่ “ข้อตกลงเย็นชา” แต่ร่างกายกลับร้อนวาบทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน 🔞 คำเตือนสำหรับผู้อ่าน 🔞 เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น บริบทต่าง ๆ ล้วนสมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือเหตุการณ์จริงใด ๆ ทั้งสิ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านสำหรับผู้ที่ไม่ชอบสถานการณ์ในเรื่องแต่งที่อาจดูรุนแรงและเกินจริง
View More“ตาล! พี่บอกแล้วไงว่าอย่ามาที่นี่ ทำไมไม่เชื่อกันบ้างเลย...”
ศักดิ์สยามเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งโมโห ทันทีที่เห็นเด็กสาวร่างบางในชุดนักศึกษาปรากฏตัวอยู่หน้าห้องฝากขังบนสถานีตำรวจ สีหน้าเขาอาจดูขุ่นเคืองแต่เธอรู้ดีว่าพี่ชายกำลังห่วงใยมากกว่าจะโกรธ
ดวงตาของศีตลาหรือลูกตาล ยังคงแดงก่ำจากความเครียดสะสมและการร้องไห้ เธอจะไม่มาได้อย่างไรในเมื่อศักดิ์สยามคือครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ สาวน้อยร่างบางส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“ตาลจะหาทางช่วยพี่ต้นออกไปให้ได้”
“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ พี่จัดการเองได้”
“แล้วพี่ต้นจะจัดการยังไง มีคนช่วยแล้วหรือ”
“มีสิ...พี่มีทนาย”
ศักดิ์สยามตอบ แต่ถ้อยคำที่ควรจะฟังดูมั่นใจกลับไม่หนักแน่นนัก ราวกับเจ้าตัวก็ยังไม่เชื่อคำพูดของตัวเอง
“ทนายที่ไหน ทนายอาสาหรือ?”
ศีตลาต้องถามออกไปแบบนั้นเพราะรู้กันดีว่าสองพี่่น้องคงไม่มีปัญญาจ้างทนายเก่ง ๆ ค่าตัวแพง ๆ มาสู้คดี ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หลังซี่ลูกกรงส่ายหน้าน้อย ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาน้องสาว
“ไม่ใช่หรอก...ทนายของคุณเพิร์ลเขาน่ะ”
แม้กระทั่งตอนนี้ ตอนที่เขาสิ้นอิสรภาพ น้ำเสียงที่ศักดิ์สยามใช้เอ่ยถึงผู้หญิงอีกคนก็ยังเจือไปด้วยความรักใคร่ใยดี แต่คนเป็นน้องสาวขมวดคิ้วแน่น
“คุณเพิร์ล? คุณไข่มุกเมียของเจ้านายพี่น่ะเหรอ"
ศักดิ์สยามกัดกรามแน่น จำใจต้องพยักหน้าน้อย ๆ
แม้สีหน้าเจ็บปวดของพี่ชายจะบ่งบอกความนัยบางอย่าง แต่คนเป็นน้องสาวก็ยังไม่แน่ใจนัก
"แล้วคุณไข่มุกอะไรนี่เขาจะช่วยพี่ต้นทำไม...อย่าบอกนะว่าที่ตาลได้ยินมา มันเป็นความจริง”
“แล้วตาลได้ยินอะไรมาล่ะ”
“ก็ได้ยินมาว่า...” เสียงของศีตลาเบาลง แฝงความไม่แน่ใจว่าควรจะพูดมันออกมาดีหรือไม่ “ตาลได้ยินมาว่า พี่ต้นกับคุณไข่มุก...มีซัมติงกัน"
ศักดิ์สยามหัวเราะขื่น เงยหน้าขึ้นสบตาน้องสาวอย่างคนที่กำลังสมเพชตัวเองง
“จะถามว่าพี่กับคุณเพิร์ลเป็นชู้กันจริงหรือเปล่า อย่างนั้นใช่ไหมล่ะ...คำตอบคือ ใช่”
“พี่ต้น...” ศีตลาครางแผ่ว เสียงสะอื้นข่มกลั้นกลืนลงไปในลำคอ เธอหวังไว้ลึก ๆ ว่าพี่ชายอาจจะปฏิเสธ หรือไม่ก็อธิบายว่ามันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด แต่ไม่ใช่การยอมรับตรง ๆ อย่างนี้
“ถ้าอย่างนั้น...เรื่องที่พี่ยักยอกเงินบริษัทเพื่อนำมาให้คุณเพิร์ล...มันก็เป็นเรื่องจริงด้วยหรือ”
ศีตลาถามเสียงเบาหวิว และความเงียบของศักดิ์สยามก็เหมือนคำยืนยันที่ทรงพลังที่สุด
“ตาลไม่เข้าใจเลย...คุณไข่มุกก็เป็นเมียคุณธาม แถมยังมาจากครอบครัวที่มีฐานะ ใครก็รู้ว่าเธอร่ำรวยมากแค่ไหน แล้วทำไมพี่จะต้องยักยอกเงินเพื่อเอาไปให้ผู้หญิงคนนั้นด้วย"
"ตาลไม่เข้าใจหรอก"
"ใช่ ตาลไม่เข้าใจ พี่ต้นก็อธิบายให้ตาลเข้าใจสิ คนดี ๆ อย่างพี่ต้นทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ พี่ทำมันลงไปได้ยังไง"
"พี่ไม่ใช่คนดีหรอกตาล พี่ก็แค่ผู้ชายชั่ว ๆ คนหนึ่งเท่านั้น"
ชายหนุ่มก้มหน้าเอ่ยเสียงเบา เจ็บปวดที่ต้องทำให้น้องสาวผิดหวัง แต่เขาจะยอมรับมันไว้เองทุกอย่าง ไม่มีทางจะให้เรื่องนี้ต้องกระทบกระเทือนชื่อเสียงหรือความรู้สึกของไข่มุกไปมากกว่านี้
ศักดิ์สยามรักไข่มุก แม้เธอจะเป็นภรรยาของเจ้านายของเขา มันเริ่มต้นจากความเห็นอกเห็นใจ เมื่อไข่มุกค่อย ๆ มาปรับทุกข์ให้เขาฟังว่าแท้จริงแล้ว 'คุณธาม' เป็นคนโหดร้ายเพียงใด เขาเป็นสามีที่ทั้งนอกใจ ทุบตี และไม่เคยให้เกียรติ
ชายหนุ่มยังเคยไปรับเธอออกจากคอนโดหรูหลังหนึ่ง เธอเดินลงมาทั้งน้ำตา รอยฟกช้ำ และเสียงสั่นเครือ
'คุณเพิร์ลครับ ถ้าคุณเพิร์ลจะแจ้งความ ผมพร้อมจะไปเป็นเพื่อน'
'ไม่...ต้น ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น ครอบครัววงศ์ตระกูลของฉันยังไม่พร้อมจะรับความจริงเรื่องนี้ และธามเองก็คงไม่ปล่อยให้ฉันเอาเรื่องเขาได้ง่าย ๆ หรอก ดูสิ ฉันอุตส่าห์หนีเขามาอยู่คอนโดฯ เขาก็ยังตามมาทำร้ายถึงที่นี่'
ตอนนั้นไข่มุกสะอึกสะอื้น ผู้หญิงที่สวยงามและน่าทนุถนอมอย่างเธอช่างดูน่าสงสารจนเขาแทบจะข่มความโกรธไว้ไม่ได้ อยากจะแล่นไปกระชากหน้ากากไอ้ธาม...ไอ้คนใจร้ายนั่นให้โลกได้รู้ว่ามันชั่วช้ามากแค่ไหน
ความเห็นใจค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่อยากปกป้อง ยิ่งไข่มุกแสดงออกว่าเธอไว้วางใจเขามากแค่ไหน ศักดิ์สยามก็ยิ่งทุ่มเทใจให้เธอมากเท่านั้น และเมื่อวันหนึ่งที่เขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ศักดิ์สยามก็กลายเป็นผู้ชายที่จงรักภักดีชนิดที่ยอมตายแทนได้ไปเลยทันที
'ต้น...เธอรอฉันนะ สักวันเมื่อฉันเก็บหลักฐานพร้อม ฉันจะฟ้องหย่า และเราจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน'
ไข่มุกเคยบอกเขาด้วยน้ำเสียงจริงใจและอ่อนหวาน เรือนร่างเย้ายวนของเธอยังคงกอดก่ายเขาอยู่ ทั้งคู่ลักลอบหาเวลาพบปะกันได้เสมอ...ยิ่งต้องหลบต้องซ่อน เขาก็ยิ่งลุ่มหลงและปรารถนาเธอจนแทบขาดใจ
จนวันหนึ่งไข่มุกบอกว่าเธอมีแผนจะแก้แค้นเขา...
'นอกจากฉันจะได้เอาคืนธาม เราสองคนจะได้มีทุนไปจ้างทนายฟ้องหย่าที่เก่ง ๆ และฉันจะได้มีเงินไปตั้งต้นชีวิตใหม่'
ไข่มุกถึงแผนการของเธอที่จะให้ศักดิ์สยามตกแต่งบัญชีเพื่อยักยอกเงินบริษัทในเครือของธามเอนเตอร์ไพรซ์
'ผม...ผมไม่แน่ใจครับคุณเพิร์ล'
ตอนนั้นชายหนุ่มเอ่ยไปแบบนั้น เขาอาจจะเลวพอที่จะลักลอบเป็นชู้กับเมียเจ้านาย แต่ให้ยักยอกเงินด้วยนั้น...มันอีกเรื่อง
แต่แววตาผิดหวังตัดพ้อของไข่มุกก็ทำให้หัวใจชายหนุ่มเจ็บแปลบและอ่อนยวบ
'เธอคิดว่าฉันมีเงินเยอะแยะหรือต้น เงินพวกนั้นก็เป็นของคุณพ่อกับธามเขาทั้งนั้น ฉันไม่มีอะไรเลย ธามถึงได้ข่มเหงฉันเพราะเขารู้ว่าฉันไม่มีปัญญาหนีเขาไปยังไงล่ะ...'
ไข่มุกปาดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงบนแก้มขาวนวล เธอช่างดูน่าสงสารเหลือเกิน...
'ไม่เป็นไรหรอกต้น ฉันยอมแพ้แล้ว จากนี้เราไม่ควรจะพบกันอีก'
'ไม่ครับ ผมจะทำ อย่าพูดว่าเราจะไม่เจอกันอีกนะคุณเพิร์ล ผมรักคุณยิ่งกว่าชีวิตผมเองอีกนะครับ'
'คำพูดใครก็พูดได้ ธามก็บอกว่ารักฉันเหมือนกัน...'
'ผมไม่เหมือนเขา' ศักดิ์สยามประกาศก้องด้วยความไม่พอใจ
ผมไม่มีทางทำร้ายคุณเพิร์ลเหมือนที่เขาทำ...อย่าร้องไห้ไปเลยนะครับทูนหัว ผมจะทำทุกอย่างตามที่คุณบอก เพื่อแก้แค้นเขาและเพื่ออิสรภาพของคุณที่ผมรัก...'
คุณหญิงพลอยสีไม่ได้พูดเล่นตอนที่บอกว่าให้แม่ครัวทำอาหารไว้หลายจานทั้งแกงทั้งผัดจนเต็มโต๊ะรับประทานอาหาร หลายจานเป็นอาหารที่ธามโปรดปรานเป็นพิเศษ ไข่มุกอดค่อนไม่ได้“กินกันแค่สี่คนจริง ๆ หรือคะ หรือว่าพวกพี่ ๆ จะมาด้วย”“วันนี้ก็แค่สี่คนนี่แหละ พวกพี่ ๆ แกติดราชการกันทั้งสามคน ถ้ามาได้แม่คงให้ทำไว้เยอะกว่านี้ โดยเฉพาะพวกขนมนมเนย พวกหลาน ๆ แกน่ะกินทีอย่างกับพายุบุแคม”“ไม่มาน่ะดีแล้ว วิ่งโวยวายกันเป็นลิงเป็นค่าง น่ารำคาญ”หญิงสาวบ่นเบา ๆ แต่ก็ดังพอจะให้คุณหญิงพลอยสีหน้าตึง“นี่หรือเปล่าแกถึงไม่ยอมมีลูกให้ธามเขาสักที เพราะแกเกลียดเด็กหรือยังไง”คนเป็นลูกสาวที่กำลังยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นจิบ ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นแต่แววตาแข็งกระด้าง“คุณแม่อยากรู้เหตุผลจริง ๆ ที่เพิร์ลไม่อยากมีลูกหรือเปล่าล่ะคะ เพิร์ลจะได้บอกว่า...ทำไม”คุณหญิงพลอยสีหน้าตึงทันที ธามเองก็ยังรู้สึกแปลกใจพล.อ.เขมราชรีบเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเข้ม“พอเถอะคุณหญิง มาพูดเรื่องเครียด ๆ ตอนนี้ อาหารจะไม่อร่อยกันพอดี... กินข้าวกันดีกว่า ธาม...คุณหญิงแม่เขาสั่งให้ทำยำถั่วพูไว้ให้ ถั่วพูพ่อปลูกเองอยู่ในสวนข้างบ้านน
ตอนที่ 13 ลูกณ บ้านศศินทร์เดชาคุณหญิงพลอยสีท่าทางดีอกดีใจที่วันนี้ลูกสาวคนเล็กมาหาพร้อมกับลูกเขย นางรีบเดินเข้าไปทักทายธาม แต่กลับแทบไม่ปรายตาไปยังลูกสาวที่มาด้วยกัน“ธาม...เป็นอย่างไรบ้างลูก ทำไมหมู่นี้ไม่ค่อยมาหาแม่เลย”“ผมขออภัยครับ”ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ อย่างสุภาพ เขาไม่อธิบายเพราะไม่อยากจะโกหก... ปล่อยให้แม่ยายเข้าใจไปเองว่าลูกเขยงานยุ่งมากจนไม่มีเวลามาเที่ยวหาไข่มุกปรายตามองอย่างหมั่นไส้แต่ไม่เอ่ยอะไร... เมื่อกลับมาบ้าน บ้านที่มีพ่อกับแม่ของหล่อนอยู่ ดูเหมือนไข่มุกคนเจ้าอารมณ์ก็กลายเป็นผู้เป็นคนเหมือนคนปกติขึ้นมาได้บ้าง“คุณพ่ออยู่ไหมครับ”“อยู่สิจ๊ะ เข้ามาเถอะ พ่อเขารอเจอธามอยู่ที่ห้องหนังสือแน่ะ”“รอเจอแค่ลูกเขยหรือคะ แล้วลูกสาวไม่อยากเจอด้วยหรือไง”ทั้งที่บอกตัวเองว่าจะไม่พูด แต่ไข่มุกก็พูดออกไปจนได้คุณหญิงพลอยสีจึงหันมามอง ทั้งสายตาและวิธีที่มองจิกก็ยังเหมือนกันสมกับเป็นแม่เป็นลูก แต่ไม่รู้ทำไมจึงพูดจากันดี ๆ ไม่ค่อยได้“เธอน่ะฉันจะเจอเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่เหมือนนายธาม... ลูกเขยของฉันเป็นถึงนักธุรกิจใหญ่ นาน ๆ จะปลีกตัวมาหาฉันได้ฉันก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา”ไข่มุกเบ้ปาก ธามจับมือแม
ตอนที่ 12 คำตอบถ้าคนของธามไปช้าอีกนิดเดียว ในห้องที่ศักดิ์สยามพักรักษาตัวอยู่ตอนนั้นคงจะเกิดการนองเลือด เพราะไข่มุกกรีดร้องคลุ้มคลั่งพุ่งใส่ชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวว่ากำลังอยู่ในโรงพยาบาล ศักดิ์สยามยกมือปัดป้องเป็นพัลวันแต่กระนั้นเขาก็ได้รอยเล็บจนเลือดซิบมาหลายแผล ต้องใช้บุรุษพยาบาลกับลูกน้องของธามรวมเป็นสามคนจึงจะรวบมือเท้าแขนขาของไข่มุกเอาไว้ได้เพื่อจะให้พยาบาลใช้เข็มฉีดยาปักเข้าเส้นเลือด ให้เธอสงบและหลับไปภายในเวลาไม่ถึงนาทีเมื่อธามรีบตามมาถึง จึงพบว่าภรรยาของเขานอนหลับไปแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน มีผ้ารัดข้อมือของเธอติดไว้กับราวขอบเตียงทั้งสองข้าง“เป็นยังไงบ้าง... ศักดิ์สยาม”แปลกที่ชายหนุ่มกลับดูจะเป็นห่วงศักดิ์สยามมากกว่าภรรยาตัวเอง ดูเขาไม่ตกใจเลยที่ได้ยินเลขาฯ บอกว่าเมื่อชั่วโมงก่อนไข่มุกมีอาการเช่นไร...ศักดิ์สยามเองเสียอีกที่ยังช็อกไม่หาย“ผม...ผมไม่เป็นไรครับ”“แต่ดูท่านายจะได้แผลเยอะเลยนี่”ธามหมายถึงรอยแผลสดเลือดซิบที่ถูกทายาไปทั่วตัว นักบัญชีหนุ่มฝืนยิ้ม“แค่แมวข่วนน่ะครับ ไกลหัวใจ... แต่ว่า... ผมไม่เคยเห็นคุณเพิร์ลเธอเป็นอย่างนี้เลย เธอคงจะโกรธผมมาก”“เพิร์ลไม่เ
“โดนตบไปแล้วครั้งนึงยังไม่เข็ดใช่ไหมอีนังเด็กนี่” “ก็ลองเข้ามาอีกทีสิ วันนี้ไม่มีผัวป้าคอยห้าม รับรองว่าฉันไม่ยอมให้โดนตบฟรีอีกแน่” ศักดิ์สยามที่ยังตกตะลึง มองหน้าน้องสาวกับอดีตชู้รักสลับไปมา ลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปทันที “เดี๋ยว! นี่อะไรกัน ตาลเคยเจอคุณเพิร์ลแล้วเหรอ” ศีตลาไม่ยอมตอบ อีกฝ่ายจึงตอบแทน “แกแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ๆ นายต้น” “ผม...ผมต้องรู้เรื่องอะไร” “ก็เรื่องที่น้องสาวแกคนนี้มันแร่ดเอาตัวไปเสนอให้ธามถึงบ้าน เพื่อแลกกับการยอมความ ให้แกไม่ต้องติดคุกไง” ศักดิ์สยามหันกลับมามองหน้าน้องสาว ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ ผู้หญิงใจดำอย่างไข่มุกย่อมจะพูดอะไรก็ได้... แต่ศีตลากลับไม่ยอมสบตาเขา เธอเอาแต่มองไปทางอื่น... “ตาล ลูกตาล...” “จะอ้ำอึ้งทำไมนังเด็กแร่ด ยอมรับไปสิว่าแกจะขายตัวเพื่อแลกกับการยอมความจริง ๆ” “หนูเปล่าขายตัว อย่าพูดอะไรมั่ว ๆ นะป้า” “ขืนเรียกฉันว่าป้าอีกคำเดียว ฉันจะเอาแกหน้าแหกแน่” ไฮโซสาวลูกสาวนายพลลืมกิริยาผู้ดีไปสิ้น กางมือร่าเตรียมจะโผเข้าหาเด็กสาวที่ยืนตั้งรับอยู่อีกฟากของห้อง แต่ทนายกับผู้ช่วยสาวที่มาด้วยกันนั้นรีบสะกิดห้ามไว้เสียก่อน “เอ่อ คุณเ
ศีตลาตื่นแต่เช้า แต่งตัวชุดนักศึกษาแล้วก็สะพายกระเป๋าออกจากหอ แต่สถานที่ที่จะไปยังไม่ใช่วิทยาลัย เด็กสาวพิมพ์ส่งข้อความไปบอกลลิตาทางแชตไลน์ - วันนี้จะไปสาย คาบแรกฝากลาอาจารย์ด้วย –ไม่ถึงสามวินาที ลลิตาก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับมา เป็นตัวการ์ตูนชูนิ้วว่า - OK- นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ศีตลาคบหาเป็นเพื่อนกับลลิตาหรือลิลลี่ได้ยาวนานมาเกินเกือบสิบปี เพราะเพื่อนคนนี้ไม่ใช่คนชอบซักไซ้ซอกแซก นอกจากไม่ใช่คนชอบจับผิด ลลิตาก็ยังเป็นคนสดใส ใจกว้าง เธอจึงสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ ๆศีตลาโดดเรียนวิชาแรกของเช้านี้ เพราะจะไปหาศักดิ์สยามที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง...ทนายความของธามโทรศัพท์มาบอกเธอตั้งแต่เมื่อวานว่าย้ายโรงพยาบาลให้พี่ชายของเธอ และเพื่อความปลอดภัยของเขา ก็ห้ามเธอไม่ให้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ โดยเฉพาะคุณไข่มุกถ้าไม่เพราะโดนฝ่ามือของนางปีศาจนั่นมาแล้วรอบนึง ศีตลาก็คงนึกไม่ออกเลยว่าผู้หญิงสวยสง่า ภาพลักษณ์ภายนอกดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไข่มุก เนื้อแท้จะเป็นคนโหดร้ายใจดำได้ขนาดไหน ก็คงไม่แปลกที่แม้แต่ทนายความฝั่งสามียังไม่อยากเปิดเผยที่อยู่ของศักดิ์สยามให้นางรู้ คงกลัวพี่ชายของเธอจะไม่ปลอดภัยเสียล่ะกระม
“เราคุยเรื่องนี้กันไม่รู้กี่รอบแล้วนะเพิร์ล ถ้าคุณยังไม่มีทางออกใหม่ ๆ มาให้เราสองคน ก็กลับไปเถอะ ที่นี่ที่ทำงาน ผมจะทำงาน...”“ฮึ ไล่ไปเถอะ ต่อให้คุณจะไล่หรือจะทำเย็นชาใส่ฉันยังไง คุณก็กำจัดฉันออกไปจากชีวิตคุณไม่ได้หรอกนะธาม จำเอาไว้ก็แล้วกัน”หญิงสาวประกาศก่อนจะหันหลังกลับออกจากห้อง โดยไม่ลืมเหวี่ยงกระเป๋าถือในมือใส่แจกันดอกไม้ที่ตั้งบนโต๊ะรับแขกกลางห้องจนแตกกระจาย สักพักใหญ่ ๆ เมื่อแน่ใจว่าไข่มุกกลับไปแน่แล้ว อังคณาเลขาฯ ของเขาจึงค่อยโทรเรียกแม่บ้านให้เข้ามาเก็บกวาดทำความสะอาดเศษแก้ว“วันนี้กลับบ้านได้เลยนะอังคณา ผมคงไม่มีธุระอะไรจะให้คุณทำแล้ววันนี้”ธามเอ่ยกับเลขา อังคณารับคำ เดาได้ว่าเจ้านายคงรู้สึกเหนื่อยใจจนไม่มีแก่ใจจะอยู่ที่ทำงานต่อแต่ธามก็ไม่ได้ไปปลดปล่อยอารมณ์ที่ไหนอย่างที่ใครคาดเดา เขาแค่ตรงดิ่งกลับบ้าน บ้านที่เงียบเหงาเพราะแม่ของเขาพาเด็กรับใช้อีกสองคนไปปฏิบัติธรรมกับท่านด้วยที่เชียงใหม่ อีกหลายวันกว่าจะกลับแต่อย่างน้อยก็ยังมีป้าละออง...คนเก่าแก่อีกคนที่รับใช้แม่ของเขามานาน เมื่อชายหนุ่มกลับถึงบ้าน ป้าละอองก็รีบยกน้ำหวานใส่น้ำแข็งมาเสิร์ฟเขาทันที“ขอบคุณครับป้า”ชายหนุ
Comments