แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ร่างสีแดงพุ่งเข้ามาในโถงพิถีมงคลอย่างรวดเร็ว

พอคนมาถึง กลิ่นหอมจรุงก็โชยเข้ามา

ฮองเฮาพอเห็นคนที่มา ก็วางใจลงทันที

เอาล่ะ เมื่อนางมาแล้ว งานวันนี้ไม่มีทางสำเร็จเป็นแน่แท้

นางร้องเรียกขึ้นอย่างปรีดา "ไอ๊หยา ท่านหญิงหยวนหลินกลับเมืองหลวงแล้วหรือ? สำนักบัณฑิตชิงหวาปิดภาคเรียนแล้วหรือ?"

สำนักบัณฑิตชิงหวาคือสำนักบัณฑิตหญิงที่เลื่องชื่อของแคว้นเจา หญิงสาวที่จะเข้าไปเรียนได้ล้วนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าผู้อื่น ท่านหญิงหยวนหลินคือคนที่เลื่องชื่ออย่างมากคนหนึ่งในสำนักบัณฑิตชิงหวา

แต่ว่า อารมณ์ของท่านหญิงชิงหวาไม่ค่อยจะดีนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีความใคร่ปรารถนาแรงกล้าอีก

"คนรักของเจ้าหรือ?"

อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว และเห็นว่าผ้าแพรแดงในมือถูกบีบแน่นเล็กน้อย จนฟู่จาวหนิงเขยิบใกล้เขาเข้าไป จึงถามขึ้นเสียงแผ่ว

"ไม่ใช่"

อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะอยากถาม ว่าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไมก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังตอบกลับนางตรงๆ

"โอ้ เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องรู้สึกผิดสินะ"

ฟู่จาวหนิงเองก็เพิ่งคิดถึงปัญหาข้อนี้ อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้าแม้จะยังไม่แต่งงาน แต่ใครจะรู้ว่าเขามีคนที่รักหรือไม่ มีหญิงสาวที่อยากแต่งงานด้วยหรือไม่?

แต่ในเมื่อเขาตอบรับนางเป็นชายา ความรับผิดชอบนี้ก็อยู่ที่เขาแล้ว

ซ่งหยวนหลินตอบกลับฮองเฮา "ท่านฮองเฮา สำนักบัณฑิตยังไม่ได้หยุดเรียน แต่ข้าได้ยินว่าท่านพี่หลันยวนกลับเมืองหลวงแล้ว ดังนั้นพอแจ้งกับท่านอาจารย์จึงรีบกลับมา"

นางแม้จะกำลังตอบกลับฮองเฮา แต่ดวงตากลับจ้องอ๋องเจวี้ยนเขม็ง ดูเหมือนจะเคลิบเคลิ้มอยู่หน่อยๆ ด้วย

"ท่านพี่หลันยวน ข้าหยวนหลินเอง"

"คุณหนูซ่ง" อ๋องเจวี้ยนน้ำเสียงห่างเหิน "เจ้ามาอวยพรพิธีมงคลของข้า ก็โปรดไปยืนข้างๆ ถ้าหากจะมาก่อความวุ่นวาย เช่นนั้นก็ไสหัวออกไปเสีย"

พอได้ยินว่าเขาไม่เกรงใจกับซ่งหยวนหลิน ฟู่จาวหนิงในใจก็เข้าใจขึ้นมา

"ท่านพี่หลันยวน ทำไมท่านจึงให้ข้าไสหัวไปเล่า?" ซ่งหยวนหลินไม่โกรธแม้แต่น้อย "ข้าไม่ยอมไปหรอก ข้ารับปากกับท่านพี่อวิ๋นเหยาไว้แล้วว่าจะปกป้องท่านแทนนางให้ดี เอาเป็นว่าก่อนหน้าที่ท่านพี่อวิ๋นเหยาจะกลับมาข้าจะไม่ยอมให้ท่านแต่งงานกับหญิงอื่นเด็ดขาด!"

มีอวิ๋นเหยาโผล่มาอีกคนแล้ว

พอได้ยินชื่ออวิ๋นเหยา ฟู่จาวหนิงกลับคิดออกแล้ว ซ่งอวิ๋นเหยา คือหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นหญิงสาวที่เปี่ยมด้วยความสามารถอีกด้วย

แต่ฟู่จาวหนิงก่อนหน้าทั้งกายใจก็เอาแต่คอยออกหายาหาหมอเพื่อมารักษาท่านปู่ ตระกูลฟู่เองก็ห่างจากคนเหล่านี้มากเหลือเกิน ไม่ใช่ว่านางจงใจออกไปหาข่าว ดังนั้นจึงเพียงเคยได้ยินชื่อซ่งอวิ๋นเหยาเท่านั้น ไม่ได้เข้าใจอะไรนัก

ผ้าแพรแดงในมือถูกกำแน่นขึ้นทันที

ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว พอได้ยินชื่ออวิ๋นเหยา อ๋องเจวี้ยนก็ตึงเครียดขึ้นมาหรือ? หรือว่าซ่งอวิ๋นเหยาคนนี้จะเป็นหญิงในดวงใจเขา?

ซ่งหยวนหลินเห็นอ๋องเจวี้ยนเม้มปาก ก็ดูภาคภูมิใจมาก

"ท่านพี่หลันยวนลืมท่านพี่อวิ๋นเหยาไปแล้วหรือ? ท่านรีบส่งผู้หญิงคนนี้ออกจากจวนเร็ว ไม่ใช่ว่าใครก็จะมาแย่งตำแหน่งของท่านพี่อวิ๋นเหยาได้นะ"

ซ่งหยวนหลินพูดพลางยื่นมือเข้ามาจะกระชางผ้าคลุมหัวแดงของฟู่จาวหนิงออก

เสียงวูบยังไม่ทันถึง ฟู่จาวหนิงก็ฉากหลบไปอยู่อีกด้านของอ๋องเจวี้ยน

ถ้าในหนึ่งวันนางต้องถูกกระชากผ้าคลุมแดงออกถึงสามครั้งล่ะก็ นางก็ต้องโกรธไหม ไม่เสร็จขั้นตอนเลยสักครั้งเดียว

อ๋องเจวี้ยนยื่นมือออกมา ขวางมือของซ่งหยวนหลินเอาไว้

"แค่กๆ"

หลังจากขวางซ่งหยวนหลินแล้ว อ๋องเจวี้ยนก็ไอขึ้นมา

พอเขาไอเช่นนี้ สีหน้าไทเฮาก็เปลี่ยนไปทันที สายตาที่มองซ่งหยวนหลินก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา

"หยวนหลิน"

ซ่งหยวนหลินตบไปบนมือของอ๋องเจวี้ยน ในใจก็ลนลานขึ้นมา ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนร่างกายอ่อนแอ? แต่ว่าความโกรธของนางทั้งหมดพุ่งไปที่ฟู่จาวหนิง

นังแพศยาคนนี้กล้าไปหลบอยู่ด้านหลังท่านพี่หลันยวนหรือ?!

กำลังจะก่นด่า นางก้ได้ยินไทเฮาตะโกนเรียกนาง เช่นนั้นคำด่าที่กำลังจะออกจากปากจึงกลืนกลับลงไปทันที หันมองไปทางไทเฮา

ฮองเฮามองอย่างสงสัยไปทางไทเฮา หรือว่าไทเฮาจะปกป้องอ๋องเจวี้ยน?

แต่ไทเฮาเองก็ไม่ชอบอ๋องเจวี้ยนนี่นา

ไทเฮาวันนี้บอกว่าจะมาด้วยก็ทำให้นางรู้สึกเกินคาดแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะช่วยอ๋องเจวี้ยนอีก จะให้เขาได้แต่งงานอย่างราบรื่นหรือ?

"ไทเฮา ท่านรักท่านพี่อวิ๋นเหยาของตระกูลข้ามากที่สุดนี่นา ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านพี่อวิ๋นเหยาจะเป็นชายาของอ๋องจวิ้น แล้วทำไมจึงให้ท่านพี่หลันยวนแต่งงานกับคนอื่นกัน"

ซ่งหยวนหลินเดินมาข้างกายไทเฮา คุกเข่าลง อิงพินอบพิเทาไปที่ต้นขาของไทเฮา ออดอ้อนนางขึ้นมา

ไทเฮาสะกดความบุ่มบ่ามที่จะยกเท้าถีบนางเอาไว้ ยื่นมือไปลูบหัวนางเบาๆ "ท่านพี่อวิ๋นเหยาของเจ้าที่ออกจากเมืองหลวงไปตั้งนานแล้วไม่ยอมกลับมา ข้าได้ยินข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก"

ซ่งหยวนหลินใจเต้นรัว

ฮองเฮาเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

ที่แท้ไทเฮาเองก้ได้ข่าวนั้นแล้ว นี่ก็ควรจะโกรธซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ ดังนั้นจึงจงใจไม่ขัดขวางอ๋องเจวี้ยนสินะ

ได้ยินว่า ซ่งอวิ๋นเหยาออกจากเมืองหลวงไปนานไม่กลับมา เพราะไปพบกับองค์รัชทายาทแคว้นเฮ่อ มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับองค์รัชทายาทของแคว้นชื่อ

สิ่งนี้ทำให้ไทเฮาที่รักนางมาตลอดรู้สึกเหมือนถูกทรยศ ต้องรู้ด้วยว่า ลูกสาวที่ไทเฮารักที่สุดในอดีตก็ออกเรือนไปยังแคว้นเฮ่อแล้วป่วยตาย

ซ่งอวิ๋นเหยาไปกันได้กับองค์รัชทายาทแคว้นเฮ่อ นั่นก็เหมือนกับทรยศต่อไทเฮาไม่ใช่หรือ?

ไทเฮาโกรธและจะปล่อยให้อ๋องเจวี้ยนแต่งงานสินะ

ฮองเฮารู้สึกว่าตนเองเข้าใจแล้ว ในใจก็อดโกรธซ่งอวิ๋นเหยาขึ้นมาไม่ได้เช่นกัน เรื่องที่ไปได้ดีกับองค์รัชทายาทแคว้นเฮ่อแล้วทำไมไม่รู้จักปิดบังให้ดี ทำไมจึงลือกลับมาถึงแคว้นเจาได้?

แล้วยังลืมมาเข้าหูไทเฮาอีก

"ไทเฮา"

ฮองเฮายังคิดจะพูดอะไรต่อ แต่ไทเฮากลับหมดความอดทันแล้ว "กราบไว้ฟ้าดิน"

ผู้ดูแลรีบตะโกนขึ้นมา

"ฤกษ์งามมาถึงแล้ว กราบไหว้ฟ้าดิน"

"คำนับบิดามารดร"

"บ่าวสาวคำนับกันและกัน!"

ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าความเร็วของผู้ดูแลเหมือนถูกกดปุ่มกรอเดินหน้า พูดออกมาเร็วจี๋!

ผู้ดูแลจวนอ๋องเจวี้ยนกลัวว่าวันนี้งานแต่งจะล่มหรือ?

เพราะว่าเร็วเกินไป นางคำนับจนมึน ท้ายสุดตอนบ่าวสาวคำนับกันและกันก็โค้งเอวจนเกือบชนหน้าผากของอ๋องเจวี้ยนเข้า

พริบตานั้นเหมือนได้จะยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของอ๋องเจวี้ยน?

"เสร็จพิธี เข้าห้องหอ!"

ตอนผู้ดูแลพูดถึงคำนี้ก็ดูถอนใจโล่งอย่างชัดเจน

เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว ท่านอ๋องพวกเขาเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว จวนของพวกเขามีพระชายาแล้ว!

เพื่อวันนี้ พวกเขารอมานานแสนนาน

ฮองเฮากัดฟันกรอด ถลึงตามองซ่งหยวนหลินผาดหนึ่ง นางคิดว่าซ่งหยวนหลินจะมาอาละวาดได้ แต่ผลลัพธ์กลับเป็นเช่นนี้?

"ช้าก่อน"

นางเอ่ยขึ้น

ฟู่จาวหนิงเดิมทีจะถูกหงจั๋วกับเฝิ่นซิงประคองเข้าห้องหอ พอได้ยินประโยคนี้สองสาวก็จำใจต้องหยุดเท้าลง

"ครั้งนั้นไท่ซ่างหวงมีโองการ ว่าจะเป็นพระชายาของอ๋องเจวี้ยนนั้นมีเงื่อนไข พวกเจ้าลืมกันไปแล้วหรือ?"

ฮองเฮาเดิมทีไม่คิดจะพูดเรื่องนี้ เพราะพอพูดถึงไท่ซ่างหวง พวกเขาก็จะเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ที่ไท่ซ่างหวงทิ้งไว้ไม่ได้

แต่ตอนนี้ไม่พูดไม่ได้แล้ว

องค์จักรพรรดิเองตอนนี้ก็เหมือนคิดขึ้นได้ "อา ใช่ มีเรื่องนี้อยู่ด้วยนี่นา"

อ๋องเจวี้ยนสีหน้าปกติ ฟู่จาวหนิงกลับสัมผัสได้อย่างประหลาดถึงคลื่นอารมณ์เขา

"ฟู่จาวหนิง" องค์จักรพรรดิเอ่ยขึ้น "ครั้งท่านไท่ซ่างหวงเคยพูดไว้ หากคิดจะเป็นพระชายาของอ๋องเจวี้ยน อย่างน้อยต้องไปหาตัวยาสิบชนิดจากเขาจันทร์ลับฟ้าให้ได้ในระยะเวลาสามวัน"

ฮองเฮาค่อยๆ ยิ้มออกมา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2581

    ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้กับเซียวหลันยวน"ตอนนี้ท่านมีความรู้เรื่องแพทย์บ้างแล้วนี่นา มองออกด้วยว่าเป็นตำรับยาบำรุงครรภ์""สามปีก่อนตำรับยาที่เจ้าใช้ข้าเคยเห็นอยู่ แน่นอนว่าต้องจำได้สิ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้เรียนแพทย์มา เพียงแต่ตอนนั้นตำรับยาที่ฟู่จาวหนิงกินเขาเองก็ได้อ่านอย่างละเอียดอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นเขายังคอยมองดูของที่นางกินเข้าปากอย่างระมัดระวังด้วย ดังนั้นจึงจำวัตถุดิบยาที่เกี่ยวข้องได้กระทั่งของที่สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินไม่ควรแตะต้องเขาก็ยังจำเอาไว้ดังนั้นตอนนี้พอเขาเห็นตำรับยานี้ก็สามารถมองออกได้ทันที"หนิงหนิง เจ้า..."สายตาของเซียวหลันยวนเหลือบมองลงไปบนท้องนางตามสัญชาตญาณ กลั้นหายใจ รู้สึกตึงเครียดหน่อยๆก่อนหน้านี้เดิมทีเขายังคิดว่า จาวหนิงตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวก็พอ จะลูกชายหรือลูกสาวก็ได้ถึงอย่างไรการคลอดเด็กสำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เหมือนเดินผ่านประตูผีเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าตนเองจะตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวพอแต่ว่า น่าจะเพราะเด็กสองคนในครรภ์ที่แล้วว่าง่ายเกินไป ไม่ดื้อไม่ซนเกินไป คลอดออกมาได้ง่ายเสียขนาดนั้น จึงทำให้นางตอนนี้กัง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2580

    เซียวหลันยวนวางชามชาลง แล้วจึงเหยียบขึ้นเส้นทางกลับเมืองหลวงอีกครั้งพอเข้าเมือง ความเจริญรุ่งเรืองและความคึกคักก็พุ่งเข้ามาทันทีในเมืองดอกไม้บานสะพรั่ง ประชาชนและพ่อค้าที่สัญจรไปมา ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่นี่มาสองปีหรือว่าเพิ่งจะเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมองไปรอบๆ เนื่องจากถูกทิวทัศน์อันงดงามของเมืองหลวงและร้านรวงต่างๆ รายรอบดึงดูดและข้างถนนก็ยังมีร้านรวงอีกไม่น้อย วางขายของกระจุกกระจิกต่างๆ ของเหล่านี้พ่อค้าที่มาจากภายนอกก็ชอบไปเดินชม เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไปสถานที่อื่นแล้วยังไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยความสดใหม่พ่อค้าที่มายังตงฉิงช่วงนี้ ยังมีบางส่วนที่พาครอบครัวมาด้วย น่าจะเพราะพอกลับไปเล่า เหล่าภรรยาและลูกก็รู้สึกสนใจต่อตงฉิงอย่างมาก ดังนั้นคนที่มีฐานะหน่อยจึงพาครอบครัวมาด้วยด้วยเหตุนี้ บนถนนเมืองหลวง จึงสามารถมองเห็นคนต่างถิ่นที่พาครอบครัวเข้ามาด้วย"องค์จักรพรรดิกลับเมืองแล้ว"ขณะที่รถม้าของเซียวหลันยวนแล่นไปตามถนนใหญ่ ประชาชนสองฝั่งทางถนนกับเหล่าพ่อค้าก็มองเข้ามา ในสายตาล้วนเป็นความภาคภูมิใจ สีหน้าล้วนแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธา"นั่นคืออ๋องเจวี้ยนหรือ?" ข้างทางม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2579

    หยกตงฉิงขายออกไปครึ่งปีแล้ว และค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมาในแต่ละแคว้น อีกทั้งด้วยเหตุผลอีกหลายประการ ปัจจุบันปริมาณยังไม่มากพอ ดังนั้นราคาจึงถูกปั่นจนสูงลิบฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเสวียนทั้งสองคนหารือถึงความร่วมมือกับพ่อค้าใหญ่ในแคว้นต่างๆ ในนี้มีคำสั่งซื้ออยู่ไม่น้อยเลย แค่เหมืองหยกของตงฉิงแห่งนี้ ก็สามารถนำกำไรมหาศาลมาให้ตงฉิงได้แล้วเพราะการปรากฏตัวของหยกตงฉิง จึงดึงดูดพ่อค้าจำนวนมากหันมาสนใจตงฉิงมากขึ้นและตงฉิงตอนนี้ถ้าจะเข้ามาต้องได้ใบรับรองที่ด่านชิงอวี้ก่อน ด่านชิงอวี้นี้ เฉิงอวิ๋นเจี้ยนนำคนเข้าไปประจำการอยู่พวกเขามีสายลับอยู่ พอพบว่าคนที่จะเข้าตงฉิงมีพิรุธ ก็จะส่งข่าวไปที่ตงฉิงอย่างรวดเร็ว และหอเมืองของตงฉิงก็จะเตรียมปืนใหญ่พิทักษ์แคว้นขึ้นทันทีพวกของเซียวหลันยวนในช่วงสองปีที่ตระเตรียมเรื่องเหล่านี้ หลายครั้งที่ทำงานหนักจนลืมกินลืมนอน ยุ่งกันมากๆแต่ก็อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างยุ่ง จึงไม่มีมีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยินเรื่องราวของอีกฝ่ายจากปากของคนอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงกลับมีแนวโน้วที่ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตอนที่ได้ยินประชาชนหรือข้าร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2578

    ความหมายที่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้ตรงไปตรงมานักก็คือ สองปีนี้อันที่จริงเขาก็ส่งสายลับไปหาเรื่องแคว้นต่างๆ อยู่เนืองๆคนพวกนั้นจะทำทุกวิถีทางเพื่อส่งข้อมูลผิดพลาดให้กับจักรพรรดิของแต่ละแคว้น หรือไม่ก็สร้างความขัดแย้งและปัญหาบางอย่างในหมู่ขุนนางพวกเขา เพื่อให้พวกเขาไม่หันมาสนใจตงฉิงมากนักกระทั่งยังทำให้พวกเขาคิดว่า ตงฉิงทางนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นอีกครั้ง ต่อให้พวกเขามาแย่งชิงไปก็ไม่คุ้ม ไม่ค่อยได้รับประโยชน์เท่าไรตอนนี้ในเมืองหลวงแคว้นต่างๆ พอได้ยินชื่อตงฉิง ก็มีข่าวลวงผิดพลาดสับสนวุ่นวายอยู่ไม่น้อยเลยเซียวหลันยวนไม่สนใจสักนิดว่าตงฉิงตอนนี้จะมีชื่อเสียงดีหรือไม่ดี เพราะตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วงชิงเวลาที่เพียงพอมาทำให้ตงฉิงขยับขยายอย่างแข็งแกร่งขึ้นมา"แต่เหมือนข้าจะเห็นว่าช่วงนี้ในเมืองหลวงมีคนหน้าใหม่ไม่น้อยเลยนะ" อันชิงเอ่ยขึ้น"มีคนที่ดูเหมือนพวกพ่อค้าเข้ามาไม่น้อยเลย" องค์หญิงหนานฉือเองก็พูดขึ้นมาฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "แน่นอน เรื่องอย่างหาเงินหากำไร พวกพ่อค้ามักจะมีความรู้สึกไวอยู่เสมอ ขณะที่พวกเราส่งข่าวลวงไปทางแคว้นต่างๆ พวกนั้น ก็จะแอบส่งข่าวปกติให้กับพ่อค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2577

    หนึ่งปีต่อมา ทุกด้านของตงฉิงก็เข้าที่เข้าทางแล้วและตอนนี้เอง จักรพรรดิและเหล่าขุนนางของแคว้นอื่นจึงเพิ่งได้ยินข่าวที่มากขึ้นของตงฉิงอันที่จริงครึ่งปีก่อนพวกเขาเองก็ได้ยินมาแล้วแต่ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ใส่ใจนัก รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนแค่ถูกจักรพรรดิเจาบีบจนไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงต้องหาทางรอดในสถานการณ์สิ้นหวังก่อนหน้านี้แต่ละแคว้นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ส่งคนออกไปสำรวจซากปรักหักพังของตงฉิง ซึ่งมีทั้งที่หาไม่พบ มีทั้งหาพบบ้างบางส่วน จากนั้นก็ได้พบว่ามันเป็นเมืองร้างที่ "ตาย" ไปในกระแสประวัติศาสตร์แล้วต้องใช้แรงคนและทรัพยากรมหาศาลเลยทีเดียว แล้วพวกเขาเองก็มีแผ่นดินของตนเองอยู่แล้ว จึงไม่ได้ไปทุ่มเทเสาะหาต่อเท่าไรนักดังนั้นในใจคนมากมาย ตงฉิงก็เป็นเช่นนั้น เจอกับซากปรักหักพังแล้วทำไมล่ะ? เมื่อไม่มีคน ทั้งหมดก็สูญเปล่าจะให้พวกเขาส่งคนมากมายเข้ามา ก็น่าจะต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจ ไม่รู้ว่าจะต้องลงทุนเงินทองอีกเท่าไรจึงจะสร้างให้ดีขึ้นได้ทุกคนแม้จะสนใจต่อทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ในอดีตของตงฉิง แต่ถ้าจะต้องบุกเบิกก็ไม่มีความสนใจกันแล้วดังนั้น ต่อให้รู้ว่าเซียวหลันยวนพาคนไปที่ตงฉิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2576

    สามเดือนต่อมา ตงฉิงฟื้นฟูแคว้นราชวงศ์ตงฉิงเซียวหลันยวนขึ้นเป็นจักรพรรดิ มีนามว่าจักรพรรดิหมิงหนึ่งเดือนต่อมา จักรพรรดิหมิงสถาปนาฟู่จาวหนิงขึ้นเป็นฮองเฮา เซียวหลิงอี้ลูกชายคนโตขึ้นเป็นองค์รัชทายาทซืออวี๋ชิงจวินเป็นราชครูแคว้น เสิ่นเสวียนเป็นเสนาบดีซ้าย อันเหนียนเป็นเสนาบดีขวาฟู่จิ้นเชินขึ้นเป็นพระสัสสุระแห่งราชวงศ์ฟู่จาวเฟยถูกแต่งตั้งเป็นขุนพลเฟยหู่ จงเจี้ยนเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์ถังอู๋เจวี้ยนไม่ต้องการเป็นข้าราชการ ถังอู๋เยว่เข้าร่วมสำนักหมอหลวง แต่เพียงแค่ดูแลการรับแพทย์มาชั่วคราวเท่านั้น เพราะตอนนี้สำนักหมอหลวงยังมีแค่คนไม่กี่คนส่วนต่งฮ่วนจือศิษย์พี่รองฟู่จาวหนิงก็พาคนเข้ามาหลายคน แนะนำให้เข้าไปยังสำนักหมอหลวงองค์หญิงหนานฉือกับอันชิงทั้งสองคนเปิดสำนักศึกษาหญิงขึ้นแห่งหนึ่ง มีชื่อว่าสำนักศึกษาอวิ๋นจานหน่วยตีอาวุธของตงฉิงปัจจุบันถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด ถังอู๋เจวี้ยนเองก็มีตำแหน่งอยู่ในนี้ คอยช่วยงานชั่วคราวฮองเฮาฟู่จาวหนิง ในช่วงนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความรอบรู้และพรสวรรค์หลากหลายของนาง นางแทบจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถในทุกที่ สำนักหมอหลวงมักเชิญนางไปสอน หน่วยตีอา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status