Share

บทที่ 9

Auteur: จุ้ยหลิงซู
ไม่มีใครรู้ว่าไท่ซ่างหวงทำไมจึงกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้นมา

แต่ว่าตอนนี้ฮองเฮากลับรู้สึกว่าเงื่อนไขนี้กำหนดมาได้ดี ตระกูลฟู่ไม่มีใครสักคนที่เรียนหมอ ฟู่จาวหนิงเองก็ช่วยปู่ของนางออกหาสมุนไพรตั้งแต่เล็ก แต่คนไม่น้อยในเมืองหลวงก็รู้ว่า นางนั้นโง่จะตาย จำตัวยาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ต้องคอยให้หมอบอกให้ วาดรูปร่างให้ จากนั้นจึงให้นางขึ้นเขาไปค้นหา

แต่อย่างนี้หายากลับมาถูกหรือ?

ไม่เลยสักนิด

ฟู่จาวหนิงมักจะขุดกลับมากองหนึ่ง ส่งให้ท่านหมอช่วยดูให้ ว่าในกองนั้นหาอะไรมาถูกต้องบ้าง

นางยังเคยต้มยาผิดให้ผู้เฒ่าฟู่ด้วย

เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันที่เล่ากันไปทั่วเมืองหลวง เซียวเหยียนจิ่งเองก็รังเกียจฟู่จาวหนิงด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่านางเป็นคนไม่ได้เรื่อง มีแต่จะทำให้คนขบขัน

การรับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยา จะยิ่งทำให้เขาถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้

ฮองเฮาตอนนี้อยากจะหัวเราะร่าขึ้นมา

เงื่อนไขนี้ของไท่ซ่างหวงกำหนดออกมาได้ยอดเยี่ยมเสียจริง!

"ฮองเฮา ข้าเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" ไทเฮาน้ำเสียงเย็นชา ดูเคืองหน่อยๆ "เจ้าในเมื่อจดจำได้ ก่อนหน้าที่กราบไหว้ฟ้าดินทำไมจึงไม่พูดออกมา? ตอนนี้แม่นางตระกูลฟูกลายเป็นภรรยาของอายวนไปแล้ว"

ฮองเฮาจงใจทำ!

นางถึงแม้ไม่คิดจะให้อ๋องเจวี้ยนตกแต่งเป็นฝั่งเป็นฝา แต่พอเห็นว่าเขากับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยกันแล้วน่าสนุกดี ยังทรมานฟู่จาวหนิงได้อีกสักหน่อย

ฮองเฮายิ้มขึ้นอย่างขอโทษ "ไทเฮา ข้าเองก็เพิ่งนึกออก ก่อนหน้านี้ก็ลืมไปเช่นกัน"

เชื่อก็บ้าแล้ว!

"บางทีคุณหนูฟู่อาจจะหาสิบตัวยากลับมาจากเขาจันทร์ลับฟ้าได้ก็เป็นได้? แต่ถ้าหาไม่พบล่ะก็" ฮองเฮายิ้มขึ้นมาอีก เหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง เหมือนว่าทำเพื่อตัวนางอย่างไรอย่างนั้น "เช่นนั้นอ๋องเจวี้ยนก็รับคุณหนูฟู่ไปเป็นอนุภรรยาก็ได้นี่"

คนทั้งหมดใจวาบสะพรึง

ฮองเฮาเหมือนจะดูยิ้มๆ แต่นี่กำลังฆ่าคนให้ตายอยู่เลยนะ!

คณหนูตระกูลฟู่เดิมทีแต่งงานจนกลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว ตอนนี้คำพูดของฮองเฮาคือคิดจะให้นางต่ำต้อยลงไปเป็นอนุภรรยาหรือ!

อนุภรรยากับพระชายา ต่างกันราวฟ้ากับเหว

แต่ใครให้ฟู่จาวหนิงเดิมทีไม่มีคนให้พึ่งพากันล่ะ?

ซ่งหยวนหลินหัวเราะคิกคักขึ้นมา ปรบมือเอ่ยว่า "ความคิดนี้ของฮองเฮาดีมากจริงๆ !"

ถึงแม้นางจะไม่อยากเห็นว่ามีคนอยู่ข้างกายอ๋องเจวี้ยน แต่ก็แค่อนุภรรยาชั้นต่ำคนหนึ่งเท่านั้น นางไม่สนใจก็ได้! ยิ่งไปกว่านั้นอนุภรรยาแค่คนเดียว จากนี้จะเล่นงานให้ตายไม่ใช่ว่าง่ายเหมือนปอกกล้วยหรอกหรือ?

ฟู่จาวหนิงแม้จะสวมผ้าคลุมแดงอยู่ยังไม่เห็นฮองเฮา แต่ตอนนี้ในใจกลับทักทายฮองเฮาไปแล้วกว่าสิบแปดรอบ

อ๋องเจวี้ยนนี่น่าจะเป็นตัวยุ่งยากโดยแท้!

แต่มาถึงตอนนี้แล้วนางก็ไม่ได้ถอยหนี

คิดจะให้นางไปเป็นอนุภรรยาหรือ? ไม่มีทาง!

"ข้ารับปาก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงแจ่มชัด

อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว "ในเมื่อข้ากราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้าแล้ว ไม่มีทางให้เจ้ากลายเป็นอนุภรรยาแน่"

"อายวน" องค์จักรพรรดิตัดบทเขา "นี่เป็นความประสงค์ของไท่ซ่างหวง เจ้าคิดจะฝ่าฝืนหรือ? ไท่ซ่างหวงรักเจ้ามากที่สุดเลยนะ"

อ๋องเจวี้ยนแอบกัดฟัน

พอเห็นว่าเขาไม่มีคำจะพูดทาน ฮองเอาก็เอ่ยขึ้นว่า "เช่นนี้ก็ตามนี้ พรุ่งนี้ในวังจะจัดคนไปส่งคุณหนูฟู่เข้าไปยังเขาจันทร์ลับฟ้า คุณหนูฟู่ เจ้าต้องเข้าไปคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นตัวยาสิบชนิดนี้ อย่างน้อยต้องมีครึ่งหนึ่งที่มีสรรพคุณล้ำค่า ไม่ใช่พวกหญ้าสมุนไพรทั่วไปเหล่านั้น มีปัญหาไหม?"

ฟู่จาวหนิงยังไม่ทันตอบ ซ่งหยวนหลินก็แย่งนางพูดขึ้นมา "นี่คือโองการของไท่ซ๋างหวง บอกเอาไว้แต่เดิมว่าต้องขึ้นเขาหาตัวยา ถ้านางไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็รีบไสหัวไปแต่เนิ่นๆ อย่าเอาแต่หลบอยู่ข้างกายท่านพี่หลันยวนอย่างไร้ยางอาย"

"ข้าไม่มีปัญหา" ฟู่จาวหนิงตอบ

"เช่นนั้นก็ดี วันนี้ให้เป็นวันมงคลของพวกเจ้าไปก่อนชั่วคราว ขอให้คุณหนูฟู่เสร็จสิ้นภารกิจค้นหาสิบตัวยาอย่างราบรื่น ครองตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนนี้อย่างมั่นคง" ฮองเฮาผ่อนคลายลงมาทันที

"ส่งพระชายากลับห้องหอ" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยกับหงจั๋วเฝิ่นซิง

"เพคะ"

ฟู่จาวหนิงถูกส่งไปยังห้องหอ เดิมทีงานแต่งงานนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว นางกลายเป็นพระชายาไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาถูกฮองเอาเล่นงานเช่นนี้ ตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนยังดูอันตรายอยู่

หงจั๋วกับเฝิ่นซิงสบตากัน ล้วนรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงน่าจะรู้สึกเสียใจและหวาดกลัวมาก

พวกนางในฐานะที่เป็นคนใช้ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร แต่ตอนนี้เอง จู่ๆ ฟู่จาวหนิงก็เอ่ยขึ้นว่า

"มีอะไรกินบ้างไหม? หาอะไรมาให้กินหน่อยสิ"

ฟู่จาวหนิงทนมาถึงตอนนี้ รู้สึกว่าตนเองใกล้จะหิวตายอยู่แล้ว

ก่อนหน้าที่นางจะข้ามมาคุณหนูฟู่เองน่าจะยังไม่ได้กินอะไร แล้วนางก็ยังโดนทรมานมาอีกครั้งครึ่งค่อนวัน หิวจนไส้กิ่วแล้ว

และเพราะหิวเกินไป นางจึงไม่มีแรงไปต่อปากต่อคำกับฮองเฮา

"ข้าน้อยจะไปนำอาหารมาให้พระชายาเดี๋ยวนี้" เฝิ่นซิงรีบหมุนตัวเดินออกไป

ฟู่จาวหนิงเองก็ปลดผ้าคลุมแดงลงมาจากหัว ถอนหายใจยาวออกมา

"พระชายา ไม่รอให้ท่านอ๋องมาเปิดผ้าคลุมก่อนหรือ?" หงจั๋วตกตะลึง

"ก่อนหน้ากราบไหว้ฟ้าดินเขาเลิกออกไปแล้วครั้งหนึ่ง" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ

นางมองไปรอบๆ ห้องหอนี้

ในห้องใหญ่มาก เตียงก็ใหญ่ดต สลักดอกไม้ห้องไข่มุก ผ้าห่มแดง ปักทอแดงทองเยวียนยางใบบัว ด้านบนยังโปรยถั่วลิสงพุทราแดงลำใยไว้อีก นางจึงคว้าเอาพุทราแดงสองเม็ดขึ้นมากิน

"ก็หวานดีนะ"

หงจั๋วอ้าปากพะงาบ พูดไม่ออกว่านั่นไม่ได้มีไว้กิน แต่พระชายาก็กินลงไปแล้ว

"หงจั๋วรู้เรื่องเขาจันทร์ลับฟ้าบ้างไหม?"

เขาจันทร์ลับฟ้า อันที่จริงคุณหนูฟู่เคยไปมาแล้ว แต่ว่าคุณหนูฟู่คนเดียวไม่กล้าเดินไปไกล เคยไปหายาที่ตีนเขาอยู่สองครั้ง ล้วนกลับมามือเปล่า

"ข้าน้อยรู้ เขาจันทร์ลับฟ้ามีเรื่องเล่าอยุ่มากมายเลย"

"ไม่เอาเรื่องเล่า แค่บอกว่าอันตรายหรือไม่ ปกติคนแบบไหนที่เข้าไปกัน"

"เพคะ"

"เขาจันทร์ลับฟ้าแบ่งออกเป็นสองส่วน เขาลูกนั้นตรงกลางมีหน้าผาขาดอยู่ร่องหนึ่ง แยกตัวภูเขาออกเป็นสองด้าน ด้านที่ใกล้กับเมืองหลวงถูกเรียกว่าเนินจันทร์เด่น ส่วนที่ลึกไปในภูเขาเรียกว่าหุบจันทร์ลับ เนินจันทร์เด่นทิวทัศน์งดงามมาก ดังนั้นช่วงที่อากาศดีจึงมีคนไม่น้อยไปเดินเล่น และยังมีพวกคนตัดไม้และนายพรานเข้าไปด้วย"

"แต่ว่าหุบจันทร์ลับนั้นมืดทึมกว่ามาก ด้านนั้นมีผาขาดคั่นไว้ดูอันตราย ดังนั้นปกติคนจึงไม่กล้าไปกัน"

ฟู่จาวหนิงหยิบถั่วลิสงจากบนเตียงขึ้นมาอีกบางส่วน โยนเข้าไปในปากทีละเม็ดๆ กินไปด้วยถามไปด้วย "แล้วหน้าผาขาดข้ามไปง่ายไหม"

"ไม่ยาก ระหว่างเนินจันทร์เด่นกับหุบจันทร์ลับมีสะพานแขวนแห่งหนึ่ง คนที่มีวรยุทธ์ข้ามไปได้สบาย แต่พระชายา"

หงจั๋วมองฟู่จาวหนิง กังวลขึ้นมา

"สะพานแขวนส่ายไปส่ายมา ไม่ได้บูรณะซ่อมแซมมาหลายปีแล้วแน่นอน คิดๆ แล้วก็น่าจะอันตรายมาก"

ฟู่จาวหนิงจะข้ามไปได้ไหม?

ปกติหญิงสาวพอเห็นสะพานแขวนนั่นก็ล้วนหวาดกลัวกันหมด อย่าว่าแต่ข้ามไปเลย เอาแค่มองก็คงขาอ่อนกันแล้ว

"แล้วทางเนินจันทร์เด่นมีคนเคยเก็บตัวยามาได้บ้างไหม?" ฟู่จาวหนิงอยากรู้จุดนี้

หงจั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่ง "หมอในเมือง มีคนจนบางส่วนก็เข้าไปขุดตัวยามาขาย แต่ก็กล้าไปแค่เนินจันทร์เด่นเท่านั้น เหมือนจะขุดได้แค่สมุนไพรธรรมดาอย่างหญ้าดารากับหญ้าลิ้นงูเท่านั้น ไม่เคยได้ยินว่าขุดได้อย่างอื่น ชนิดเองก็ไม่มากเท่าไร "

เฝิ่นซิงรีบยกอาหารเข้ามา ไข่ไก่หวานชามหนึ่งกับลูกชิ้น ทำจากข้าวเหนียว ด้านในห่อเมล็ดถั่วลิสงไว้ หวานๆ เหนียวๆ อร่อยดี

"พระชายา ข้าน้อยไปหาข่าวจากคนของครัวหลังมาแล้ว พวกเขาบอกว่าเนินจันทร์เด่นทางนั้นต่อให้มีสมุนไพร แต่ก็ถูกคนกอบไปหมดแล้ว" เฝิ่นซิงรีบพูดขึ้นมา
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2436

    ฟู่จาวหนิงคิดไว้ดีแล้ว ถ้าหากคนของลัทธิเทพทำลายล้างจะบุกเข้ามาในเมืองหลวงจริง เช่นนั้นนางก็จะใช้พิษใช้วิธีของอีกฝ่ายโต้คืนอีกฝ่ายกลับไปถึงอย่างไรพวกเขากับลัทธิเทพทำลายล้างเดิมทีก็เป็นศัตรูคู่แค้นอยู่แล้ว ไม่มีทางจะยิ้มแล้วลืมความบาดหมางกันได้ ดังนั้นควรแก้แค้นก็ต้องแก้แค้น ควรจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าเมืองก็ต้องขวางไว้"ยังต้องรวบรวมมาอีกหรือ?" ถังอู๋เยว่ถาม"อู๋เยว่ เอาที่เจ้ารวบรวมมาแล้วส่งมาให้ข้าก่อน"ผู้อาวุโสจี้ไม่เห็นด้วยหน่อยๆ "ตอนนี้เจ้าตั้งท้องอยู่นะ จะมาจัดการเรื่องยาพิษได้ยังไงกัน? ถ้าเผื่อเกิดอะไรขึ้นล่ะ ใครจะรับผิดชอบไหว?"พอได้ยินผู้อาวุโสจี้พูดแบบนี้ ถังอู๋เยว่ก็พยักหน้า รู้สึกว่าไม่ควรเอาผงพิษเหล่านี้ส่งให้กับฟู่จาวหนิง"พี่หญิงจาวหนิง ไม่งั้นก็สอนพวกนี้ให้ข้าแล้วกัน ข้าจัดการให้"ถังอู๋เยว่ก็รู้สึกว่าร่างกายของฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ควรมาจัดการเรื่องผงพิษจริงๆผงนี่นะ ถ้าหากไม่ระวัง แค่จามนิดเดียวก็ฟุ้งขึ้นแล้ว แล้วถ้าสูดเข้าไปตอนฟุ้งกระจายล่ะ?"ไม่หรอก เจ้าสิ่งนี้ต้องให้ข้าจัดการเอง"ฟู่จาวหนิงจะเอาของพวกนี้เข้าไปในห้องเภสัช ตอนนี้สอนถังอู๋เยว่ไม่ได้ยิ่งไป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2435

    ความคิดนี้ของฟู่จาวหนิงไม่ใช่การคิดไปเองอย่างไร้สาระต้องรู้ว่าคนของลัทธิเทพทำลายล้างวางแผนกันมาก่อนหลายปีแล้ว ในเมื่อตรวจสอบพบว่าเซียวหลันยวนเป็นไปได้มากที่จะเป็นสายเลือดราชวงศ์ตงฉิงนานแล้ว ต้องการเอาชีวิตเขาแต่เนิ่นๆ จึงวางแผนเอาไว้มากมายแล้วในช่วงหลายปีนี้ จะไม่มายังตงฉิงได้อย่างไร?พวกเขาอาจจะคนน้อย ไม่เหมือนเซียวหลันยวนที่สามารถสั่งกององครักษ์เข้ามาได้ แต่การจะเดินไปตามเส้นทางที่เดินได้ หาที่มั่นเหมาะปักหลักตั้งค่าย ก็ยังมีความเป็นไปได้สูงอยู่"ตั้งหลายปีแล้ว การที่พวกเขาจะหาวังจักรพรรดิกับวังใต้ดินเจอก็เป็นเรื่องปกติ"ฟู่จาวหนิงเอ่ยต่ออีก "ลัทธิเทพทำลายล้างหลังถูกกวาดล้างยังฟื้นคืนชีพกลับมาไดั แล้วยังคอยสร้างความปั่นป่วนอยู่เป็นระยะอีก อธิบายได้ว่าในลัทธิยังมีคนที่เก่งกาจอยู่ ดังนั้น แม้ว่าวังจักรพรรดิและวังใต้ดินจะมีค่ายกลและกลไกอยู่มากมาย จะซ่อนเร้นไว้มากเพียงใด ก็ย่อมมีคนหาเจอและเข้าไปได้แน่"เซียวหลันยวนพยักหน้า "เจ้าพูดถูกต้อง""ท่านยังจำคนพวกนั้นของตระกูลถังได้ไหม? สายเลือดราชวงศ์ตงฉิง ช่วงนี้คือตัวท่าน แต่ก็ไม่ใช่ว่ายังมีคนอื่นอยู่อีกหรือ?"ดังนั้น กลไกของวังจักรพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2434

    พวกเซียวหลันยวนอันที่จริงก็รอลัทธิเทพทำลายล้างมาตลอดลัทธิเทพทำลายล้างก่อนหน้านี้ทำเรื่องไว้มากมาย เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่ตงฉิงแห่งนี้ดังนั้นพอมาถึงตงฉิงตั้งนานสองนาน แต่กลับไม่เจอคนของลัทธิเทพทำลายล้างเลย พวกเซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจมากนี่มันไม่ปกติตอนนี้ ในที่สุดก็มีคนมาแล้วแทบจะไม่ต้องคิดเลย เซียวหลันยวนรู้สึกว่า คนที่เข้ามาก็คือลัทธิเทพทำลายล้างแน่นอน"ถ่ายทอดคำสั่งออกไป คนทั้งหมดเตรียมตัวให้พร้อม ป้องกันประตูเมืองให้แน่นหนา"เซียวหลันยวนออกคำสั่งทันที ส่วนตนเองก็ไปรื้อแผนผังวางกำลังป้องกันของเมืองหลวงออกมาครั้งนี้ ฝ่ายเรามาถึงไวกว่า เจอเมืองหลวงก่อนคนของลัทธิเทพทำลายล้าง มาถึงวังจักรพรรดิก่อน และยังสำรวจทำความเข้าใจเมืองหลวงจนปรุโปร่งแล้วกระทั่งว่า พวกเขายังสำรวจไปตามกำแพงเมืองสองรอบ และซ่อมแซมจุดที่ควรแก้ไขเรียบร้อยไปแล้วด้วยบนหอเมืองเองก็ถูกองครักษ์มังกรครามดูแลอยู่ในวังใต้ดินทั้งสองจุดก็หาอาวุธพบแล้ว หรือก็คืออย่างน้อยพวกเขายังมีอาวุธที่สำหรับชดเชยเข้ามาได้นอกเหนือจากนี้ พวกเขาเองก็ปรับตัวกับสภาพอากาศของตงฉิงได้แล้ว ซ้ำยังได้คนมีความสามารถแปลกหน้ามาอีกร้อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2433

    ราชองครักษ์ในตอนนั้น กลุ่มหนึ่งคุ้มครองจักรพรรดินีเดินทางไปเป็นทูตที่ต้าชื่อ ราชองครักษ์ที่เหลือ แบ่งกลุ่มนำประชาชนหนีตายนอกเหนือจากนั้น ยังมีเข้าทำศึกสงครามอีกด้วยตอนนั้นมีทัพกบฏกองหนึ่ง ไม่เห็นภัยธรรมชาติอยู่ในสายตา แต่คิดจะก่อกบฏขึ้นในช่วงวุ่นวายนี้ราชองครักษ์เพื่อให้ประชาชนมีเวลาในการหลบหนีเอาชีวิตรอด ก่อนหน้าที่ภัยพิบัติจะมาถึง ก็ไม่สนใจชีวิตตนเอง เข้าต่อต้านกับทัพกบฏ ส่วนใหญ่สู้จนตัวตายต่อมา ราชองครักษ์ที่คุ้มกันวังเหล่านี้ก็ออกไป เก็บเสื้อเกราะของสหายร่วมรบกลับมาซึ่งก็คือที่อยู่ตรงหน้านี้เซียวหลันยวนยื่นมือไปกำกระบี่ยาวเล่มหนึ่งในนั้น หยิบขึ้นมา และราวกับได้ยินเสียงโห่ร้องคำรามในสนามรบครั้งนั้นและยังสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังของตงฉิงในตอนนั้นด้วย ภัยพิบัติและหายนะจากมนุษย์ ถอยจนไม่มีทางถอย ไม่ว่าจะสู้หรือป้องกัน ก็มีแค่หนทางตายเท่านั้น"ท่านอ๋อง ที่นี่ยังมีแผนผังป้องกันสงครามของตงฉิงด้วยขอรับ" ชิงอีพบกล่องใบหนึ่งพอเปิดกล่องออก ด้านในมีแผนผังวางกำลังป้องกันหนาเป็นกล่อง ในวังจักรพรรดิ ในเมืองหลวง รวมถึงเมืองอื่น กระทั่งเมืองอั้นก็ยังอยู่ในนี้ถึงแม้ตงฉิงจะไม่มีแล้ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2432

    กระดูกขาวกองใหญ่พอเหลือบมองไปก็ทำเอาคนรู้สึกขยาดกลัวแล้วถ้าจะบอกว่าตกตะลึงก็คงดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่พวกเขาตอนนี้ก็มีความรู้สึกนี้ในใจจริงๆกระดูกขาวหลายกองเหมือนจะรักษาอยู่ในท่าเดิมด้วยนี่มีแค่ความเป็นไปได้เดียว ก็คือตอนที่พวกเขาตายล้วนนั่งกันอยู่ที่นั่น ไม่ขยับ ไม่ดิ้นรน ไม่หนีเอาตัวรอด แค่นั่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งตายไปเหล่านี้จะใช่คนในวังจักรพรรดิแต่เดิมไหมนะ?เสื้อผ้าบนตัวพวกเขายังสวมกันอยู่เพียงแต่กระดูกมือและกะโหลกศีรษะที่โผล่ออกมาชุดเหล่านั้น ดูแล้วล้วนประณีตงดงามมีหลายคนที่เสื้อผ้าเป็นแบบเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกว่าเป็นชายหรือหญิงได้จากบนเสื้อผ้าเซียวหลันยวนนึกถึงหนังสือที่เกี่ยวข้องกับตงฉิงที่ตนเองเคยอ่านมา รูปภาพด้านบน วาดคนรับใช้ในวังจักรพรรดิตงฉิงไว้ ตอนนี้พอเห็นเครื่องแบบเหล่านี้ ก็เหมือนมีบางส่วนที่เทียบกันได้อยู่"อย่าแตะต้องพวกเขา" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นทุกคนขานรับพร้อมกันทันที"นับจำนวนคนคร่าวๆ มาหน่อย" เซียวหลันยวนสั่งออกมาอีกทุกคนก็เดินออกไปทันที เริ่มนับขึ้นมาจำนวนคนที่นี่มีเยอะมากยิ่งไปกว่านั้นล้วนอยู่ในท่านั่งกันหมดจริงๆ แน่นอนว่ามี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2431

    ความสูงของเจดีย์หยกขาว สำหรับเซียวหลันยวนแล้วไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรเพราะบนกำแพงนั้นมีรูกำแพงอยู่มากมาย ไม่ใช่พื้นเรียบที่ไม่มีจุดส่งแรงด้วยวิชาตัวเบาของเขา แค่ลอยตัวเบาๆ ก็ขึ้นไปได้แล้ว"ข้าจะขึ้นไปดู พวกเจ้าก็ระวังตัวกันหน่อย"เซียวหลันยวนพูดพลางจรดปลายเท้ากับพื้น ตัวคนก็ทะยานลิ่ว พุ่งลอยออกไปยังกำแพงหินฝั่งตรงข้ามตอนที่คนไปถึงเบื้องหน้ากำแพงหิน จึงเปรียบเทียบกันได้ และมองออกว่า กำแพงหินนั้นสูงมาก แต่เซียวหลันยวนใช้การแตะเบาๆ ที่รูหินเพื่อส่งตัวออกไป เขาพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็มาถึงข้างเจดีย์หยกขาวแล้วเขาหันกลับมาชำเลืองมองและก็โชคดีที่หันมามองเพราะตอนที่หันกลับมามองจึงพบว่าบนประตูทองแดงนั้นมีการชี้ไปสองจุด ทางหนึ่งคือซ้าย เขียนว่าเป็น อีกด้านคือขวา เขียนว่าตายก่อนหน้านี้ตอนที่เขายืนอยู่หน้าประตูมองไม่เห็นตำแหน่งนี้เลย และตอนนี้พวกของเจ้าอารามยืนอยู่ที่นั่นก็ไม่มีใครมองเห็นเลยสักคนอธิบายได้แค่ว่าการชี้ทางนี้คือมีไว้ให้คนที่อยู่ตรงนี้ดูเท่านั้น และมีไว้สำหรับจุดเปิดกลไกนี้โดยเฉพาะถ้าหากมองไม่เห็น แล้วหมุนเจดีย์ขาวนั่นส่งเดช เป็นไปได้มากว่าจะไปเปิดกลไกเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status