แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ไม่มีใครรู้ว่าไท่ซ่างหวงทำไมจึงกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้นมา

แต่ว่าตอนนี้ฮองเฮากลับรู้สึกว่าเงื่อนไขนี้กำหนดมาได้ดี ตระกูลฟู่ไม่มีใครสักคนที่เรียนหมอ ฟู่จาวหนิงเองก็ช่วยปู่ของนางออกหาสมุนไพรตั้งแต่เล็ก แต่คนไม่น้อยในเมืองหลวงก็รู้ว่า นางนั้นโง่จะตาย จำตัวยาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ต้องคอยให้หมอบอกให้ วาดรูปร่างให้ จากนั้นจึงให้นางขึ้นเขาไปค้นหา

แต่อย่างนี้หายากลับมาถูกหรือ?

ไม่เลยสักนิด

ฟู่จาวหนิงมักจะขุดกลับมากองหนึ่ง ส่งให้ท่านหมอช่วยดูให้ ว่าในกองนั้นหาอะไรมาถูกต้องบ้าง

นางยังเคยต้มยาผิดให้ผู้เฒ่าฟู่ด้วย

เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันที่เล่ากันไปทั่วเมืองหลวง เซียวเหยียนจิ่งเองก็รังเกียจฟู่จาวหนิงด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่านางเป็นคนไม่ได้เรื่อง มีแต่จะทำให้คนขบขัน

การรับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยา จะยิ่งทำให้เขาถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้

ฮองเฮาตอนนี้อยากจะหัวเราะร่าขึ้นมา

เงื่อนไขนี้ของไท่ซ่างหวงกำหนดออกมาได้ยอดเยี่ยมเสียจริง!

"ฮองเฮา ข้าเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" ไทเฮาน้ำเสียงเย็นชา ดูเคืองหน่อยๆ "เจ้าในเมื่อจดจำได้ ก่อนหน้าที่กราบไหว้ฟ้าดินทำไมจึงไม่พูดออกมา? ตอนนี้แม่นางตระกูลฟูกลายเป็นภรรยาของอายวนไปแล้ว"

ฮองเฮาจงใจทำ!

นางถึงแม้ไม่คิดจะให้อ๋องเจวี้ยนตกแต่งเป็นฝั่งเป็นฝา แต่พอเห็นว่าเขากับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยกันแล้วน่าสนุกดี ยังทรมานฟู่จาวหนิงได้อีกสักหน่อย

ฮองเฮายิ้มขึ้นอย่างขอโทษ "ไทเฮา ข้าเองก็เพิ่งนึกออก ก่อนหน้านี้ก็ลืมไปเช่นกัน"

เชื่อก็บ้าแล้ว!

"บางทีคุณหนูฟู่อาจจะหาสิบตัวยากลับมาจากเขาจันทร์ลับฟ้าได้ก็เป็นได้? แต่ถ้าหาไม่พบล่ะก็" ฮองเฮายิ้มขึ้นมาอีก เหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง เหมือนว่าทำเพื่อตัวนางอย่างไรอย่างนั้น "เช่นนั้นอ๋องเจวี้ยนก็รับคุณหนูฟู่ไปเป็นอนุภรรยาก็ได้นี่"

คนทั้งหมดใจวาบสะพรึง

ฮองเฮาเหมือนจะดูยิ้มๆ แต่นี่กำลังฆ่าคนให้ตายอยู่เลยนะ!

คณหนูตระกูลฟู่เดิมทีแต่งงานจนกลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว ตอนนี้คำพูดของฮองเฮาคือคิดจะให้นางต่ำต้อยลงไปเป็นอนุภรรยาหรือ!

อนุภรรยากับพระชายา ต่างกันราวฟ้ากับเหว

แต่ใครให้ฟู่จาวหนิงเดิมทีไม่มีคนให้พึ่งพากันล่ะ?

ซ่งหยวนหลินหัวเราะคิกคักขึ้นมา ปรบมือเอ่ยว่า "ความคิดนี้ของฮองเฮาดีมากจริงๆ !"

ถึงแม้นางจะไม่อยากเห็นว่ามีคนอยู่ข้างกายอ๋องเจวี้ยน แต่ก็แค่อนุภรรยาชั้นต่ำคนหนึ่งเท่านั้น นางไม่สนใจก็ได้! ยิ่งไปกว่านั้นอนุภรรยาแค่คนเดียว จากนี้จะเล่นงานให้ตายไม่ใช่ว่าง่ายเหมือนปอกกล้วยหรอกหรือ?

ฟู่จาวหนิงแม้จะสวมผ้าคลุมแดงอยู่ยังไม่เห็นฮองเฮา แต่ตอนนี้ในใจกลับทักทายฮองเฮาไปแล้วกว่าสิบแปดรอบ

อ๋องเจวี้ยนนี่น่าจะเป็นตัวยุ่งยากโดยแท้!

แต่มาถึงตอนนี้แล้วนางก็ไม่ได้ถอยหนี

คิดจะให้นางไปเป็นอนุภรรยาหรือ? ไม่มีทาง!

"ข้ารับปาก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงแจ่มชัด

อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว "ในเมื่อข้ากราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้าแล้ว ไม่มีทางให้เจ้ากลายเป็นอนุภรรยาแน่"

"อายวน" องค์จักรพรรดิตัดบทเขา "นี่เป็นความประสงค์ของไท่ซ่างหวง เจ้าคิดจะฝ่าฝืนหรือ? ไท่ซ่างหวงรักเจ้ามากที่สุดเลยนะ"

อ๋องเจวี้ยนแอบกัดฟัน

พอเห็นว่าเขาไม่มีคำจะพูดทาน ฮองเอาก็เอ่ยขึ้นว่า "เช่นนี้ก็ตามนี้ พรุ่งนี้ในวังจะจัดคนไปส่งคุณหนูฟู่เข้าไปยังเขาจันทร์ลับฟ้า คุณหนูฟู่ เจ้าต้องเข้าไปคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นตัวยาสิบชนิดนี้ อย่างน้อยต้องมีครึ่งหนึ่งที่มีสรรพคุณล้ำค่า ไม่ใช่พวกหญ้าสมุนไพรทั่วไปเหล่านั้น มีปัญหาไหม?"

ฟู่จาวหนิงยังไม่ทันตอบ ซ่งหยวนหลินก็แย่งนางพูดขึ้นมา "นี่คือโองการของไท่ซ๋างหวง บอกเอาไว้แต่เดิมว่าต้องขึ้นเขาหาตัวยา ถ้านางไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็รีบไสหัวไปแต่เนิ่นๆ อย่าเอาแต่หลบอยู่ข้างกายท่านพี่หลันยวนอย่างไร้ยางอาย"

"ข้าไม่มีปัญหา" ฟู่จาวหนิงตอบ

"เช่นนั้นก็ดี วันนี้ให้เป็นวันมงคลของพวกเจ้าไปก่อนชั่วคราว ขอให้คุณหนูฟู่เสร็จสิ้นภารกิจค้นหาสิบตัวยาอย่างราบรื่น ครองตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนนี้อย่างมั่นคง" ฮองเฮาผ่อนคลายลงมาทันที

"ส่งพระชายากลับห้องหอ" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยกับหงจั๋วเฝิ่นซิง

"เพคะ"

ฟู่จาวหนิงถูกส่งไปยังห้องหอ เดิมทีงานแต่งงานนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว นางกลายเป็นพระชายาไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาถูกฮองเอาเล่นงานเช่นนี้ ตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนยังดูอันตรายอยู่

หงจั๋วกับเฝิ่นซิงสบตากัน ล้วนรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงน่าจะรู้สึกเสียใจและหวาดกลัวมาก

พวกนางในฐานะที่เป็นคนใช้ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร แต่ตอนนี้เอง จู่ๆ ฟู่จาวหนิงก็เอ่ยขึ้นว่า

"มีอะไรกินบ้างไหม? หาอะไรมาให้กินหน่อยสิ"

ฟู่จาวหนิงทนมาถึงตอนนี้ รู้สึกว่าตนเองใกล้จะหิวตายอยู่แล้ว

ก่อนหน้าที่นางจะข้ามมาคุณหนูฟู่เองน่าจะยังไม่ได้กินอะไร แล้วนางก็ยังโดนทรมานมาอีกครั้งครึ่งค่อนวัน หิวจนไส้กิ่วแล้ว

และเพราะหิวเกินไป นางจึงไม่มีแรงไปต่อปากต่อคำกับฮองเฮา

"ข้าน้อยจะไปนำอาหารมาให้พระชายาเดี๋ยวนี้" เฝิ่นซิงรีบหมุนตัวเดินออกไป

ฟู่จาวหนิงเองก็ปลดผ้าคลุมแดงลงมาจากหัว ถอนหายใจยาวออกมา

"พระชายา ไม่รอให้ท่านอ๋องมาเปิดผ้าคลุมก่อนหรือ?" หงจั๋วตกตะลึง

"ก่อนหน้ากราบไหว้ฟ้าดินเขาเลิกออกไปแล้วครั้งหนึ่ง" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ

นางมองไปรอบๆ ห้องหอนี้

ในห้องใหญ่มาก เตียงก็ใหญ่ดต สลักดอกไม้ห้องไข่มุก ผ้าห่มแดง ปักทอแดงทองเยวียนยางใบบัว ด้านบนยังโปรยถั่วลิสงพุทราแดงลำใยไว้อีก นางจึงคว้าเอาพุทราแดงสองเม็ดขึ้นมากิน

"ก็หวานดีนะ"

หงจั๋วอ้าปากพะงาบ พูดไม่ออกว่านั่นไม่ได้มีไว้กิน แต่พระชายาก็กินลงไปแล้ว

"หงจั๋วรู้เรื่องเขาจันทร์ลับฟ้าบ้างไหม?"

เขาจันทร์ลับฟ้า อันที่จริงคุณหนูฟู่เคยไปมาแล้ว แต่ว่าคุณหนูฟู่คนเดียวไม่กล้าเดินไปไกล เคยไปหายาที่ตีนเขาอยู่สองครั้ง ล้วนกลับมามือเปล่า

"ข้าน้อยรู้ เขาจันทร์ลับฟ้ามีเรื่องเล่าอยุ่มากมายเลย"

"ไม่เอาเรื่องเล่า แค่บอกว่าอันตรายหรือไม่ ปกติคนแบบไหนที่เข้าไปกัน"

"เพคะ"

"เขาจันทร์ลับฟ้าแบ่งออกเป็นสองส่วน เขาลูกนั้นตรงกลางมีหน้าผาขาดอยู่ร่องหนึ่ง แยกตัวภูเขาออกเป็นสองด้าน ด้านที่ใกล้กับเมืองหลวงถูกเรียกว่าเนินจันทร์เด่น ส่วนที่ลึกไปในภูเขาเรียกว่าหุบจันทร์ลับ เนินจันทร์เด่นทิวทัศน์งดงามมาก ดังนั้นช่วงที่อากาศดีจึงมีคนไม่น้อยไปเดินเล่น และยังมีพวกคนตัดไม้และนายพรานเข้าไปด้วย"

"แต่ว่าหุบจันทร์ลับนั้นมืดทึมกว่ามาก ด้านนั้นมีผาขาดคั่นไว้ดูอันตราย ดังนั้นปกติคนจึงไม่กล้าไปกัน"

ฟู่จาวหนิงหยิบถั่วลิสงจากบนเตียงขึ้นมาอีกบางส่วน โยนเข้าไปในปากทีละเม็ดๆ กินไปด้วยถามไปด้วย "แล้วหน้าผาขาดข้ามไปง่ายไหม"

"ไม่ยาก ระหว่างเนินจันทร์เด่นกับหุบจันทร์ลับมีสะพานแขวนแห่งหนึ่ง คนที่มีวรยุทธ์ข้ามไปได้สบาย แต่พระชายา"

หงจั๋วมองฟู่จาวหนิง กังวลขึ้นมา

"สะพานแขวนส่ายไปส่ายมา ไม่ได้บูรณะซ่อมแซมมาหลายปีแล้วแน่นอน คิดๆ แล้วก็น่าจะอันตรายมาก"

ฟู่จาวหนิงจะข้ามไปได้ไหม?

ปกติหญิงสาวพอเห็นสะพานแขวนนั่นก็ล้วนหวาดกลัวกันหมด อย่าว่าแต่ข้ามไปเลย เอาแค่มองก็คงขาอ่อนกันแล้ว

"แล้วทางเนินจันทร์เด่นมีคนเคยเก็บตัวยามาได้บ้างไหม?" ฟู่จาวหนิงอยากรู้จุดนี้

หงจั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่ง "หมอในเมือง มีคนจนบางส่วนก็เข้าไปขุดตัวยามาขาย แต่ก็กล้าไปแค่เนินจันทร์เด่นเท่านั้น เหมือนจะขุดได้แค่สมุนไพรธรรมดาอย่างหญ้าดารากับหญ้าลิ้นงูเท่านั้น ไม่เคยได้ยินว่าขุดได้อย่างอื่น ชนิดเองก็ไม่มากเท่าไร "

เฝิ่นซิงรีบยกอาหารเข้ามา ไข่ไก่หวานชามหนึ่งกับลูกชิ้น ทำจากข้าวเหนียว ด้านในห่อเมล็ดถั่วลิสงไว้ หวานๆ เหนียวๆ อร่อยดี

"พระชายา ข้าน้อยไปหาข่าวจากคนของครัวหลังมาแล้ว พวกเขาบอกว่าเนินจันทร์เด่นทางนั้นต่อให้มีสมุนไพร แต่ก็ถูกคนกอบไปหมดแล้ว" เฝิ่นซิงรีบพูดขึ้นมา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2581

    ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้กับเซียวหลันยวน"ตอนนี้ท่านมีความรู้เรื่องแพทย์บ้างแล้วนี่นา มองออกด้วยว่าเป็นตำรับยาบำรุงครรภ์""สามปีก่อนตำรับยาที่เจ้าใช้ข้าเคยเห็นอยู่ แน่นอนว่าต้องจำได้สิ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้เรียนแพทย์มา เพียงแต่ตอนนั้นตำรับยาที่ฟู่จาวหนิงกินเขาเองก็ได้อ่านอย่างละเอียดอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นเขายังคอยมองดูของที่นางกินเข้าปากอย่างระมัดระวังด้วย ดังนั้นจึงจำวัตถุดิบยาที่เกี่ยวข้องได้กระทั่งของที่สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินไม่ควรแตะต้องเขาก็ยังจำเอาไว้ดังนั้นตอนนี้พอเขาเห็นตำรับยานี้ก็สามารถมองออกได้ทันที"หนิงหนิง เจ้า..."สายตาของเซียวหลันยวนเหลือบมองลงไปบนท้องนางตามสัญชาตญาณ กลั้นหายใจ รู้สึกตึงเครียดหน่อยๆก่อนหน้านี้เดิมทีเขายังคิดว่า จาวหนิงตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวก็พอ จะลูกชายหรือลูกสาวก็ได้ถึงอย่างไรการคลอดเด็กสำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เหมือนเดินผ่านประตูผีเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าตนเองจะตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวพอแต่ว่า น่าจะเพราะเด็กสองคนในครรภ์ที่แล้วว่าง่ายเกินไป ไม่ดื้อไม่ซนเกินไป คลอดออกมาได้ง่ายเสียขนาดนั้น จึงทำให้นางตอนนี้กัง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2580

    เซียวหลันยวนวางชามชาลง แล้วจึงเหยียบขึ้นเส้นทางกลับเมืองหลวงอีกครั้งพอเข้าเมือง ความเจริญรุ่งเรืองและความคึกคักก็พุ่งเข้ามาทันทีในเมืองดอกไม้บานสะพรั่ง ประชาชนและพ่อค้าที่สัญจรไปมา ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่นี่มาสองปีหรือว่าเพิ่งจะเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมองไปรอบๆ เนื่องจากถูกทิวทัศน์อันงดงามของเมืองหลวงและร้านรวงต่างๆ รายรอบดึงดูดและข้างถนนก็ยังมีร้านรวงอีกไม่น้อย วางขายของกระจุกกระจิกต่างๆ ของเหล่านี้พ่อค้าที่มาจากภายนอกก็ชอบไปเดินชม เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไปสถานที่อื่นแล้วยังไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยความสดใหม่พ่อค้าที่มายังตงฉิงช่วงนี้ ยังมีบางส่วนที่พาครอบครัวมาด้วย น่าจะเพราะพอกลับไปเล่า เหล่าภรรยาและลูกก็รู้สึกสนใจต่อตงฉิงอย่างมาก ดังนั้นคนที่มีฐานะหน่อยจึงพาครอบครัวมาด้วยด้วยเหตุนี้ บนถนนเมืองหลวง จึงสามารถมองเห็นคนต่างถิ่นที่พาครอบครัวเข้ามาด้วย"องค์จักรพรรดิกลับเมืองแล้ว"ขณะที่รถม้าของเซียวหลันยวนแล่นไปตามถนนใหญ่ ประชาชนสองฝั่งทางถนนกับเหล่าพ่อค้าก็มองเข้ามา ในสายตาล้วนเป็นความภาคภูมิใจ สีหน้าล้วนแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธา"นั่นคืออ๋องเจวี้ยนหรือ?" ข้างทางม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2579

    หยกตงฉิงขายออกไปครึ่งปีแล้ว และค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมาในแต่ละแคว้น อีกทั้งด้วยเหตุผลอีกหลายประการ ปัจจุบันปริมาณยังไม่มากพอ ดังนั้นราคาจึงถูกปั่นจนสูงลิบฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเสวียนทั้งสองคนหารือถึงความร่วมมือกับพ่อค้าใหญ่ในแคว้นต่างๆ ในนี้มีคำสั่งซื้ออยู่ไม่น้อยเลย แค่เหมืองหยกของตงฉิงแห่งนี้ ก็สามารถนำกำไรมหาศาลมาให้ตงฉิงได้แล้วเพราะการปรากฏตัวของหยกตงฉิง จึงดึงดูดพ่อค้าจำนวนมากหันมาสนใจตงฉิงมากขึ้นและตงฉิงตอนนี้ถ้าจะเข้ามาต้องได้ใบรับรองที่ด่านชิงอวี้ก่อน ด่านชิงอวี้นี้ เฉิงอวิ๋นเจี้ยนนำคนเข้าไปประจำการอยู่พวกเขามีสายลับอยู่ พอพบว่าคนที่จะเข้าตงฉิงมีพิรุธ ก็จะส่งข่าวไปที่ตงฉิงอย่างรวดเร็ว และหอเมืองของตงฉิงก็จะเตรียมปืนใหญ่พิทักษ์แคว้นขึ้นทันทีพวกของเซียวหลันยวนในช่วงสองปีที่ตระเตรียมเรื่องเหล่านี้ หลายครั้งที่ทำงานหนักจนลืมกินลืมนอน ยุ่งกันมากๆแต่ก็อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างยุ่ง จึงไม่มีมีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยินเรื่องราวของอีกฝ่ายจากปากของคนอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงกลับมีแนวโน้วที่ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตอนที่ได้ยินประชาชนหรือข้าร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2578

    ความหมายที่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้ตรงไปตรงมานักก็คือ สองปีนี้อันที่จริงเขาก็ส่งสายลับไปหาเรื่องแคว้นต่างๆ อยู่เนืองๆคนพวกนั้นจะทำทุกวิถีทางเพื่อส่งข้อมูลผิดพลาดให้กับจักรพรรดิของแต่ละแคว้น หรือไม่ก็สร้างความขัดแย้งและปัญหาบางอย่างในหมู่ขุนนางพวกเขา เพื่อให้พวกเขาไม่หันมาสนใจตงฉิงมากนักกระทั่งยังทำให้พวกเขาคิดว่า ตงฉิงทางนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นอีกครั้ง ต่อให้พวกเขามาแย่งชิงไปก็ไม่คุ้ม ไม่ค่อยได้รับประโยชน์เท่าไรตอนนี้ในเมืองหลวงแคว้นต่างๆ พอได้ยินชื่อตงฉิง ก็มีข่าวลวงผิดพลาดสับสนวุ่นวายอยู่ไม่น้อยเลยเซียวหลันยวนไม่สนใจสักนิดว่าตงฉิงตอนนี้จะมีชื่อเสียงดีหรือไม่ดี เพราะตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วงชิงเวลาที่เพียงพอมาทำให้ตงฉิงขยับขยายอย่างแข็งแกร่งขึ้นมา"แต่เหมือนข้าจะเห็นว่าช่วงนี้ในเมืองหลวงมีคนหน้าใหม่ไม่น้อยเลยนะ" อันชิงเอ่ยขึ้น"มีคนที่ดูเหมือนพวกพ่อค้าเข้ามาไม่น้อยเลย" องค์หญิงหนานฉือเองก็พูดขึ้นมาฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "แน่นอน เรื่องอย่างหาเงินหากำไร พวกพ่อค้ามักจะมีความรู้สึกไวอยู่เสมอ ขณะที่พวกเราส่งข่าวลวงไปทางแคว้นต่างๆ พวกนั้น ก็จะแอบส่งข่าวปกติให้กับพ่อค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2577

    หนึ่งปีต่อมา ทุกด้านของตงฉิงก็เข้าที่เข้าทางแล้วและตอนนี้เอง จักรพรรดิและเหล่าขุนนางของแคว้นอื่นจึงเพิ่งได้ยินข่าวที่มากขึ้นของตงฉิงอันที่จริงครึ่งปีก่อนพวกเขาเองก็ได้ยินมาแล้วแต่ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ใส่ใจนัก รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนแค่ถูกจักรพรรดิเจาบีบจนไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงต้องหาทางรอดในสถานการณ์สิ้นหวังก่อนหน้านี้แต่ละแคว้นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ส่งคนออกไปสำรวจซากปรักหักพังของตงฉิง ซึ่งมีทั้งที่หาไม่พบ มีทั้งหาพบบ้างบางส่วน จากนั้นก็ได้พบว่ามันเป็นเมืองร้างที่ "ตาย" ไปในกระแสประวัติศาสตร์แล้วต้องใช้แรงคนและทรัพยากรมหาศาลเลยทีเดียว แล้วพวกเขาเองก็มีแผ่นดินของตนเองอยู่แล้ว จึงไม่ได้ไปทุ่มเทเสาะหาต่อเท่าไรนักดังนั้นในใจคนมากมาย ตงฉิงก็เป็นเช่นนั้น เจอกับซากปรักหักพังแล้วทำไมล่ะ? เมื่อไม่มีคน ทั้งหมดก็สูญเปล่าจะให้พวกเขาส่งคนมากมายเข้ามา ก็น่าจะต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจ ไม่รู้ว่าจะต้องลงทุนเงินทองอีกเท่าไรจึงจะสร้างให้ดีขึ้นได้ทุกคนแม้จะสนใจต่อทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ในอดีตของตงฉิง แต่ถ้าจะต้องบุกเบิกก็ไม่มีความสนใจกันแล้วดังนั้น ต่อให้รู้ว่าเซียวหลันยวนพาคนไปที่ตงฉิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2576

    สามเดือนต่อมา ตงฉิงฟื้นฟูแคว้นราชวงศ์ตงฉิงเซียวหลันยวนขึ้นเป็นจักรพรรดิ มีนามว่าจักรพรรดิหมิงหนึ่งเดือนต่อมา จักรพรรดิหมิงสถาปนาฟู่จาวหนิงขึ้นเป็นฮองเฮา เซียวหลิงอี้ลูกชายคนโตขึ้นเป็นองค์รัชทายาทซืออวี๋ชิงจวินเป็นราชครูแคว้น เสิ่นเสวียนเป็นเสนาบดีซ้าย อันเหนียนเป็นเสนาบดีขวาฟู่จิ้นเชินขึ้นเป็นพระสัสสุระแห่งราชวงศ์ฟู่จาวเฟยถูกแต่งตั้งเป็นขุนพลเฟยหู่ จงเจี้ยนเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์ถังอู๋เจวี้ยนไม่ต้องการเป็นข้าราชการ ถังอู๋เยว่เข้าร่วมสำนักหมอหลวง แต่เพียงแค่ดูแลการรับแพทย์มาชั่วคราวเท่านั้น เพราะตอนนี้สำนักหมอหลวงยังมีแค่คนไม่กี่คนส่วนต่งฮ่วนจือศิษย์พี่รองฟู่จาวหนิงก็พาคนเข้ามาหลายคน แนะนำให้เข้าไปยังสำนักหมอหลวงองค์หญิงหนานฉือกับอันชิงทั้งสองคนเปิดสำนักศึกษาหญิงขึ้นแห่งหนึ่ง มีชื่อว่าสำนักศึกษาอวิ๋นจานหน่วยตีอาวุธของตงฉิงปัจจุบันถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด ถังอู๋เจวี้ยนเองก็มีตำแหน่งอยู่ในนี้ คอยช่วยงานชั่วคราวฮองเฮาฟู่จาวหนิง ในช่วงนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความรอบรู้และพรสวรรค์หลากหลายของนาง นางแทบจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถในทุกที่ สำนักหมอหลวงมักเชิญนางไปสอน หน่วยตีอา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status