Share

บทที่ 8

Auteur: จุ้ยหลิงซู
ร่างสีแดงพุ่งเข้ามาในโถงพิถีมงคลอย่างรวดเร็ว

พอคนมาถึง กลิ่นหอมจรุงก็โชยเข้ามา

ฮองเฮาพอเห็นคนที่มา ก็วางใจลงทันที

เอาล่ะ เมื่อนางมาแล้ว งานวันนี้ไม่มีทางสำเร็จเป็นแน่แท้

นางร้องเรียกขึ้นอย่างปรีดา "ไอ๊หยา ท่านหญิงหยวนหลินกลับเมืองหลวงแล้วหรือ? สำนักบัณฑิตชิงหวาปิดภาคเรียนแล้วหรือ?"

สำนักบัณฑิตชิงหวาคือสำนักบัณฑิตหญิงที่เลื่องชื่อของแคว้นเจา หญิงสาวที่จะเข้าไปเรียนได้ล้วนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าผู้อื่น ท่านหญิงหยวนหลินคือคนที่เลื่องชื่ออย่างมากคนหนึ่งในสำนักบัณฑิตชิงหวา

แต่ว่า อารมณ์ของท่านหญิงชิงหวาไม่ค่อยจะดีนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีความใคร่ปรารถนาแรงกล้าอีก

"คนรักของเจ้าหรือ?"

อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว และเห็นว่าผ้าแพรแดงในมือถูกบีบแน่นเล็กน้อย จนฟู่จาวหนิงเขยิบใกล้เขาเข้าไป จึงถามขึ้นเสียงแผ่ว

"ไม่ใช่"

อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะอยากถาม ว่าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไมก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังตอบกลับนางตรงๆ

"โอ้ เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องรู้สึกผิดสินะ"

ฟู่จาวหนิงเองก็เพิ่งคิดถึงปัญหาข้อนี้ อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้าแม้จะยังไม่แต่งงาน แต่ใครจะรู้ว่าเขามีคนที่รักหรือไม่ มีหญิงสาวที่อยากแต่งงานด้วยหรือไม่?

แต่ในเมื่อเขาตอบรับนางเป็นชายา ความรับผิดชอบนี้ก็อยู่ที่เขาแล้ว

ซ่งหยวนหลินตอบกลับฮองเฮา "ท่านฮองเฮา สำนักบัณฑิตยังไม่ได้หยุดเรียน แต่ข้าได้ยินว่าท่านพี่หลันยวนกลับเมืองหลวงแล้ว ดังนั้นพอแจ้งกับท่านอาจารย์จึงรีบกลับมา"

นางแม้จะกำลังตอบกลับฮองเฮา แต่ดวงตากลับจ้องอ๋องเจวี้ยนเขม็ง ดูเหมือนจะเคลิบเคลิ้มอยู่หน่อยๆ ด้วย

"ท่านพี่หลันยวน ข้าหยวนหลินเอง"

"คุณหนูซ่ง" อ๋องเจวี้ยนน้ำเสียงห่างเหิน "เจ้ามาอวยพรพิธีมงคลของข้า ก็โปรดไปยืนข้างๆ ถ้าหากจะมาก่อความวุ่นวาย เช่นนั้นก็ไสหัวออกไปเสีย"

พอได้ยินว่าเขาไม่เกรงใจกับซ่งหยวนหลิน ฟู่จาวหนิงในใจก็เข้าใจขึ้นมา

"ท่านพี่หลันยวน ทำไมท่านจึงให้ข้าไสหัวไปเล่า?" ซ่งหยวนหลินไม่โกรธแม้แต่น้อย "ข้าไม่ยอมไปหรอก ข้ารับปากกับท่านพี่อวิ๋นเหยาไว้แล้วว่าจะปกป้องท่านแทนนางให้ดี เอาเป็นว่าก่อนหน้าที่ท่านพี่อวิ๋นเหยาจะกลับมาข้าจะไม่ยอมให้ท่านแต่งงานกับหญิงอื่นเด็ดขาด!"

มีอวิ๋นเหยาโผล่มาอีกคนแล้ว

พอได้ยินชื่ออวิ๋นเหยา ฟู่จาวหนิงกลับคิดออกแล้ว ซ่งอวิ๋นเหยา คือหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นหญิงสาวที่เปี่ยมด้วยความสามารถอีกด้วย

แต่ฟู่จาวหนิงก่อนหน้าทั้งกายใจก็เอาแต่คอยออกหายาหาหมอเพื่อมารักษาท่านปู่ ตระกูลฟู่เองก็ห่างจากคนเหล่านี้มากเหลือเกิน ไม่ใช่ว่านางจงใจออกไปหาข่าว ดังนั้นจึงเพียงเคยได้ยินชื่อซ่งอวิ๋นเหยาเท่านั้น ไม่ได้เข้าใจอะไรนัก

ผ้าแพรแดงในมือถูกกำแน่นขึ้นทันที

ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว พอได้ยินชื่ออวิ๋นเหยา อ๋องเจวี้ยนก็ตึงเครียดขึ้นมาหรือ? หรือว่าซ่งอวิ๋นเหยาคนนี้จะเป็นหญิงในดวงใจเขา?

ซ่งหยวนหลินเห็นอ๋องเจวี้ยนเม้มปาก ก็ดูภาคภูมิใจมาก

"ท่านพี่หลันยวนลืมท่านพี่อวิ๋นเหยาไปแล้วหรือ? ท่านรีบส่งผู้หญิงคนนี้ออกจากจวนเร็ว ไม่ใช่ว่าใครก็จะมาแย่งตำแหน่งของท่านพี่อวิ๋นเหยาได้นะ"

ซ่งหยวนหลินพูดพลางยื่นมือเข้ามาจะกระชางผ้าคลุมหัวแดงของฟู่จาวหนิงออก

เสียงวูบยังไม่ทันถึง ฟู่จาวหนิงก็ฉากหลบไปอยู่อีกด้านของอ๋องเจวี้ยน

ถ้าในหนึ่งวันนางต้องถูกกระชากผ้าคลุมแดงออกถึงสามครั้งล่ะก็ นางก็ต้องโกรธไหม ไม่เสร็จขั้นตอนเลยสักครั้งเดียว

อ๋องเจวี้ยนยื่นมือออกมา ขวางมือของซ่งหยวนหลินเอาไว้

"แค่กๆ"

หลังจากขวางซ่งหยวนหลินแล้ว อ๋องเจวี้ยนก็ไอขึ้นมา

พอเขาไอเช่นนี้ สีหน้าไทเฮาก็เปลี่ยนไปทันที สายตาที่มองซ่งหยวนหลินก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา

"หยวนหลิน"

ซ่งหยวนหลินตบไปบนมือของอ๋องเจวี้ยน ในใจก็ลนลานขึ้นมา ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนร่างกายอ่อนแอ? แต่ว่าความโกรธของนางทั้งหมดพุ่งไปที่ฟู่จาวหนิง

นังแพศยาคนนี้กล้าไปหลบอยู่ด้านหลังท่านพี่หลันยวนหรือ?!

กำลังจะก่นด่า นางก้ได้ยินไทเฮาตะโกนเรียกนาง เช่นนั้นคำด่าที่กำลังจะออกจากปากจึงกลืนกลับลงไปทันที หันมองไปทางไทเฮา

ฮองเฮามองอย่างสงสัยไปทางไทเฮา หรือว่าไทเฮาจะปกป้องอ๋องเจวี้ยน?

แต่ไทเฮาเองก็ไม่ชอบอ๋องเจวี้ยนนี่นา

ไทเฮาวันนี้บอกว่าจะมาด้วยก็ทำให้นางรู้สึกเกินคาดแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะช่วยอ๋องเจวี้ยนอีก จะให้เขาได้แต่งงานอย่างราบรื่นหรือ?

"ไทเฮา ท่านรักท่านพี่อวิ๋นเหยาของตระกูลข้ามากที่สุดนี่นา ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านพี่อวิ๋นเหยาจะเป็นชายาของอ๋องจวิ้น แล้วทำไมจึงให้ท่านพี่หลันยวนแต่งงานกับคนอื่นกัน"

ซ่งหยวนหลินเดินมาข้างกายไทเฮา คุกเข่าลง อิงพินอบพิเทาไปที่ต้นขาของไทเฮา ออดอ้อนนางขึ้นมา

ไทเฮาสะกดความบุ่มบ่ามที่จะยกเท้าถีบนางเอาไว้ ยื่นมือไปลูบหัวนางเบาๆ "ท่านพี่อวิ๋นเหยาของเจ้าที่ออกจากเมืองหลวงไปตั้งนานแล้วไม่ยอมกลับมา ข้าได้ยินข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก"

ซ่งหยวนหลินใจเต้นรัว

ฮองเฮาเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

ที่แท้ไทเฮาเองก้ได้ข่าวนั้นแล้ว นี่ก็ควรจะโกรธซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ ดังนั้นจึงจงใจไม่ขัดขวางอ๋องเจวี้ยนสินะ

ได้ยินว่า ซ่งอวิ๋นเหยาออกจากเมืองหลวงไปนานไม่กลับมา เพราะไปพบกับองค์รัชทายาทแคว้นเฮ่อ มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับองค์รัชทายาทของแคว้นชื่อ

สิ่งนี้ทำให้ไทเฮาที่รักนางมาตลอดรู้สึกเหมือนถูกทรยศ ต้องรู้ด้วยว่า ลูกสาวที่ไทเฮารักที่สุดในอดีตก็ออกเรือนไปยังแคว้นเฮ่อแล้วป่วยตาย

ซ่งอวิ๋นเหยาไปกันได้กับองค์รัชทายาทแคว้นเฮ่อ นั่นก็เหมือนกับทรยศต่อไทเฮาไม่ใช่หรือ?

ไทเฮาโกรธและจะปล่อยให้อ๋องเจวี้ยนแต่งงานสินะ

ฮองเฮารู้สึกว่าตนเองเข้าใจแล้ว ในใจก็อดโกรธซ่งอวิ๋นเหยาขึ้นมาไม่ได้เช่นกัน เรื่องที่ไปได้ดีกับองค์รัชทายาทแคว้นเฮ่อแล้วทำไมไม่รู้จักปิดบังให้ดี ทำไมจึงลือกลับมาถึงแคว้นเจาได้?

แล้วยังลืมมาเข้าหูไทเฮาอีก

"ไทเฮา"

ฮองเฮายังคิดจะพูดอะไรต่อ แต่ไทเฮากลับหมดความอดทันแล้ว "กราบไว้ฟ้าดิน"

ผู้ดูแลรีบตะโกนขึ้นมา

"ฤกษ์งามมาถึงแล้ว กราบไหว้ฟ้าดิน"

"คำนับบิดามารดร"

"บ่าวสาวคำนับกันและกัน!"

ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าความเร็วของผู้ดูแลเหมือนถูกกดปุ่มกรอเดินหน้า พูดออกมาเร็วจี๋!

ผู้ดูแลจวนอ๋องเจวี้ยนกลัวว่าวันนี้งานแต่งจะล่มหรือ?

เพราะว่าเร็วเกินไป นางคำนับจนมึน ท้ายสุดตอนบ่าวสาวคำนับกันและกันก็โค้งเอวจนเกือบชนหน้าผากของอ๋องเจวี้ยนเข้า

พริบตานั้นเหมือนได้จะยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของอ๋องเจวี้ยน?

"เสร็จพิธี เข้าห้องหอ!"

ตอนผู้ดูแลพูดถึงคำนี้ก็ดูถอนใจโล่งอย่างชัดเจน

เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว ท่านอ๋องพวกเขาเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว จวนของพวกเขามีพระชายาแล้ว!

เพื่อวันนี้ พวกเขารอมานานแสนนาน

ฮองเฮากัดฟันกรอด ถลึงตามองซ่งหยวนหลินผาดหนึ่ง นางคิดว่าซ่งหยวนหลินจะมาอาละวาดได้ แต่ผลลัพธ์กลับเป็นเช่นนี้?

"ช้าก่อน"

นางเอ่ยขึ้น

ฟู่จาวหนิงเดิมทีจะถูกหงจั๋วกับเฝิ่นซิงประคองเข้าห้องหอ พอได้ยินประโยคนี้สองสาวก็จำใจต้องหยุดเท้าลง

"ครั้งนั้นไท่ซ่างหวงมีโองการ ว่าจะเป็นพระชายาของอ๋องเจวี้ยนนั้นมีเงื่อนไข พวกเจ้าลืมกันไปแล้วหรือ?"

ฮองเฮาเดิมทีไม่คิดจะพูดเรื่องนี้ เพราะพอพูดถึงไท่ซ่างหวง พวกเขาก็จะเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ที่ไท่ซ่างหวงทิ้งไว้ไม่ได้

แต่ตอนนี้ไม่พูดไม่ได้แล้ว

องค์จักรพรรดิเองตอนนี้ก็เหมือนคิดขึ้นได้ "อา ใช่ มีเรื่องนี้อยู่ด้วยนี่นา"

อ๋องเจวี้ยนสีหน้าปกติ ฟู่จาวหนิงกลับสัมผัสได้อย่างประหลาดถึงคลื่นอารมณ์เขา

"ฟู่จาวหนิง" องค์จักรพรรดิเอ่ยขึ้น "ครั้งท่านไท่ซ่างหวงเคยพูดไว้ หากคิดจะเป็นพระชายาของอ๋องเจวี้ยน อย่างน้อยต้องไปหาตัวยาสิบชนิดจากเขาจันทร์ลับฟ้าให้ได้ในระยะเวลาสามวัน"

ฮองเฮาค่อยๆ ยิ้มออกมา
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2436

    ฟู่จาวหนิงคิดไว้ดีแล้ว ถ้าหากคนของลัทธิเทพทำลายล้างจะบุกเข้ามาในเมืองหลวงจริง เช่นนั้นนางก็จะใช้พิษใช้วิธีของอีกฝ่ายโต้คืนอีกฝ่ายกลับไปถึงอย่างไรพวกเขากับลัทธิเทพทำลายล้างเดิมทีก็เป็นศัตรูคู่แค้นอยู่แล้ว ไม่มีทางจะยิ้มแล้วลืมความบาดหมางกันได้ ดังนั้นควรแก้แค้นก็ต้องแก้แค้น ควรจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าเมืองก็ต้องขวางไว้"ยังต้องรวบรวมมาอีกหรือ?" ถังอู๋เยว่ถาม"อู๋เยว่ เอาที่เจ้ารวบรวมมาแล้วส่งมาให้ข้าก่อน"ผู้อาวุโสจี้ไม่เห็นด้วยหน่อยๆ "ตอนนี้เจ้าตั้งท้องอยู่นะ จะมาจัดการเรื่องยาพิษได้ยังไงกัน? ถ้าเผื่อเกิดอะไรขึ้นล่ะ ใครจะรับผิดชอบไหว?"พอได้ยินผู้อาวุโสจี้พูดแบบนี้ ถังอู๋เยว่ก็พยักหน้า รู้สึกว่าไม่ควรเอาผงพิษเหล่านี้ส่งให้กับฟู่จาวหนิง"พี่หญิงจาวหนิง ไม่งั้นก็สอนพวกนี้ให้ข้าแล้วกัน ข้าจัดการให้"ถังอู๋เยว่ก็รู้สึกว่าร่างกายของฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ควรมาจัดการเรื่องผงพิษจริงๆผงนี่นะ ถ้าหากไม่ระวัง แค่จามนิดเดียวก็ฟุ้งขึ้นแล้ว แล้วถ้าสูดเข้าไปตอนฟุ้งกระจายล่ะ?"ไม่หรอก เจ้าสิ่งนี้ต้องให้ข้าจัดการเอง"ฟู่จาวหนิงจะเอาของพวกนี้เข้าไปในห้องเภสัช ตอนนี้สอนถังอู๋เยว่ไม่ได้ยิ่งไป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2435

    ความคิดนี้ของฟู่จาวหนิงไม่ใช่การคิดไปเองอย่างไร้สาระต้องรู้ว่าคนของลัทธิเทพทำลายล้างวางแผนกันมาก่อนหลายปีแล้ว ในเมื่อตรวจสอบพบว่าเซียวหลันยวนเป็นไปได้มากที่จะเป็นสายเลือดราชวงศ์ตงฉิงนานแล้ว ต้องการเอาชีวิตเขาแต่เนิ่นๆ จึงวางแผนเอาไว้มากมายแล้วในช่วงหลายปีนี้ จะไม่มายังตงฉิงได้อย่างไร?พวกเขาอาจจะคนน้อย ไม่เหมือนเซียวหลันยวนที่สามารถสั่งกององครักษ์เข้ามาได้ แต่การจะเดินไปตามเส้นทางที่เดินได้ หาที่มั่นเหมาะปักหลักตั้งค่าย ก็ยังมีความเป็นไปได้สูงอยู่"ตั้งหลายปีแล้ว การที่พวกเขาจะหาวังจักรพรรดิกับวังใต้ดินเจอก็เป็นเรื่องปกติ"ฟู่จาวหนิงเอ่ยต่ออีก "ลัทธิเทพทำลายล้างหลังถูกกวาดล้างยังฟื้นคืนชีพกลับมาไดั แล้วยังคอยสร้างความปั่นป่วนอยู่เป็นระยะอีก อธิบายได้ว่าในลัทธิยังมีคนที่เก่งกาจอยู่ ดังนั้น แม้ว่าวังจักรพรรดิและวังใต้ดินจะมีค่ายกลและกลไกอยู่มากมาย จะซ่อนเร้นไว้มากเพียงใด ก็ย่อมมีคนหาเจอและเข้าไปได้แน่"เซียวหลันยวนพยักหน้า "เจ้าพูดถูกต้อง""ท่านยังจำคนพวกนั้นของตระกูลถังได้ไหม? สายเลือดราชวงศ์ตงฉิง ช่วงนี้คือตัวท่าน แต่ก็ไม่ใช่ว่ายังมีคนอื่นอยู่อีกหรือ?"ดังนั้น กลไกของวังจักรพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2434

    พวกเซียวหลันยวนอันที่จริงก็รอลัทธิเทพทำลายล้างมาตลอดลัทธิเทพทำลายล้างก่อนหน้านี้ทำเรื่องไว้มากมาย เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่ตงฉิงแห่งนี้ดังนั้นพอมาถึงตงฉิงตั้งนานสองนาน แต่กลับไม่เจอคนของลัทธิเทพทำลายล้างเลย พวกเซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจมากนี่มันไม่ปกติตอนนี้ ในที่สุดก็มีคนมาแล้วแทบจะไม่ต้องคิดเลย เซียวหลันยวนรู้สึกว่า คนที่เข้ามาก็คือลัทธิเทพทำลายล้างแน่นอน"ถ่ายทอดคำสั่งออกไป คนทั้งหมดเตรียมตัวให้พร้อม ป้องกันประตูเมืองให้แน่นหนา"เซียวหลันยวนออกคำสั่งทันที ส่วนตนเองก็ไปรื้อแผนผังวางกำลังป้องกันของเมืองหลวงออกมาครั้งนี้ ฝ่ายเรามาถึงไวกว่า เจอเมืองหลวงก่อนคนของลัทธิเทพทำลายล้าง มาถึงวังจักรพรรดิก่อน และยังสำรวจทำความเข้าใจเมืองหลวงจนปรุโปร่งแล้วกระทั่งว่า พวกเขายังสำรวจไปตามกำแพงเมืองสองรอบ และซ่อมแซมจุดที่ควรแก้ไขเรียบร้อยไปแล้วด้วยบนหอเมืองเองก็ถูกองครักษ์มังกรครามดูแลอยู่ในวังใต้ดินทั้งสองจุดก็หาอาวุธพบแล้ว หรือก็คืออย่างน้อยพวกเขายังมีอาวุธที่สำหรับชดเชยเข้ามาได้นอกเหนือจากนี้ พวกเขาเองก็ปรับตัวกับสภาพอากาศของตงฉิงได้แล้ว ซ้ำยังได้คนมีความสามารถแปลกหน้ามาอีกร้อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2433

    ราชองครักษ์ในตอนนั้น กลุ่มหนึ่งคุ้มครองจักรพรรดินีเดินทางไปเป็นทูตที่ต้าชื่อ ราชองครักษ์ที่เหลือ แบ่งกลุ่มนำประชาชนหนีตายนอกเหนือจากนั้น ยังมีเข้าทำศึกสงครามอีกด้วยตอนนั้นมีทัพกบฏกองหนึ่ง ไม่เห็นภัยธรรมชาติอยู่ในสายตา แต่คิดจะก่อกบฏขึ้นในช่วงวุ่นวายนี้ราชองครักษ์เพื่อให้ประชาชนมีเวลาในการหลบหนีเอาชีวิตรอด ก่อนหน้าที่ภัยพิบัติจะมาถึง ก็ไม่สนใจชีวิตตนเอง เข้าต่อต้านกับทัพกบฏ ส่วนใหญ่สู้จนตัวตายต่อมา ราชองครักษ์ที่คุ้มกันวังเหล่านี้ก็ออกไป เก็บเสื้อเกราะของสหายร่วมรบกลับมาซึ่งก็คือที่อยู่ตรงหน้านี้เซียวหลันยวนยื่นมือไปกำกระบี่ยาวเล่มหนึ่งในนั้น หยิบขึ้นมา และราวกับได้ยินเสียงโห่ร้องคำรามในสนามรบครั้งนั้นและยังสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังของตงฉิงในตอนนั้นด้วย ภัยพิบัติและหายนะจากมนุษย์ ถอยจนไม่มีทางถอย ไม่ว่าจะสู้หรือป้องกัน ก็มีแค่หนทางตายเท่านั้น"ท่านอ๋อง ที่นี่ยังมีแผนผังป้องกันสงครามของตงฉิงด้วยขอรับ" ชิงอีพบกล่องใบหนึ่งพอเปิดกล่องออก ด้านในมีแผนผังวางกำลังป้องกันหนาเป็นกล่อง ในวังจักรพรรดิ ในเมืองหลวง รวมถึงเมืองอื่น กระทั่งเมืองอั้นก็ยังอยู่ในนี้ถึงแม้ตงฉิงจะไม่มีแล้ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2432

    กระดูกขาวกองใหญ่พอเหลือบมองไปก็ทำเอาคนรู้สึกขยาดกลัวแล้วถ้าจะบอกว่าตกตะลึงก็คงดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่พวกเขาตอนนี้ก็มีความรู้สึกนี้ในใจจริงๆกระดูกขาวหลายกองเหมือนจะรักษาอยู่ในท่าเดิมด้วยนี่มีแค่ความเป็นไปได้เดียว ก็คือตอนที่พวกเขาตายล้วนนั่งกันอยู่ที่นั่น ไม่ขยับ ไม่ดิ้นรน ไม่หนีเอาตัวรอด แค่นั่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งตายไปเหล่านี้จะใช่คนในวังจักรพรรดิแต่เดิมไหมนะ?เสื้อผ้าบนตัวพวกเขายังสวมกันอยู่เพียงแต่กระดูกมือและกะโหลกศีรษะที่โผล่ออกมาชุดเหล่านั้น ดูแล้วล้วนประณีตงดงามมีหลายคนที่เสื้อผ้าเป็นแบบเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกว่าเป็นชายหรือหญิงได้จากบนเสื้อผ้าเซียวหลันยวนนึกถึงหนังสือที่เกี่ยวข้องกับตงฉิงที่ตนเองเคยอ่านมา รูปภาพด้านบน วาดคนรับใช้ในวังจักรพรรดิตงฉิงไว้ ตอนนี้พอเห็นเครื่องแบบเหล่านี้ ก็เหมือนมีบางส่วนที่เทียบกันได้อยู่"อย่าแตะต้องพวกเขา" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นทุกคนขานรับพร้อมกันทันที"นับจำนวนคนคร่าวๆ มาหน่อย" เซียวหลันยวนสั่งออกมาอีกทุกคนก็เดินออกไปทันที เริ่มนับขึ้นมาจำนวนคนที่นี่มีเยอะมากยิ่งไปกว่านั้นล้วนอยู่ในท่านั่งกันหมดจริงๆ แน่นอนว่ามี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2431

    ความสูงของเจดีย์หยกขาว สำหรับเซียวหลันยวนแล้วไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรเพราะบนกำแพงนั้นมีรูกำแพงอยู่มากมาย ไม่ใช่พื้นเรียบที่ไม่มีจุดส่งแรงด้วยวิชาตัวเบาของเขา แค่ลอยตัวเบาๆ ก็ขึ้นไปได้แล้ว"ข้าจะขึ้นไปดู พวกเจ้าก็ระวังตัวกันหน่อย"เซียวหลันยวนพูดพลางจรดปลายเท้ากับพื้น ตัวคนก็ทะยานลิ่ว พุ่งลอยออกไปยังกำแพงหินฝั่งตรงข้ามตอนที่คนไปถึงเบื้องหน้ากำแพงหิน จึงเปรียบเทียบกันได้ และมองออกว่า กำแพงหินนั้นสูงมาก แต่เซียวหลันยวนใช้การแตะเบาๆ ที่รูหินเพื่อส่งตัวออกไป เขาพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็มาถึงข้างเจดีย์หยกขาวแล้วเขาหันกลับมาชำเลืองมองและก็โชคดีที่หันมามองเพราะตอนที่หันกลับมามองจึงพบว่าบนประตูทองแดงนั้นมีการชี้ไปสองจุด ทางหนึ่งคือซ้าย เขียนว่าเป็น อีกด้านคือขวา เขียนว่าตายก่อนหน้านี้ตอนที่เขายืนอยู่หน้าประตูมองไม่เห็นตำแหน่งนี้เลย และตอนนี้พวกของเจ้าอารามยืนอยู่ที่นั่นก็ไม่มีใครมองเห็นเลยสักคนอธิบายได้แค่ว่าการชี้ทางนี้คือมีไว้ให้คนที่อยู่ตรงนี้ดูเท่านั้น และมีไว้สำหรับจุดเปิดกลไกนี้โดยเฉพาะถ้าหากมองไม่เห็น แล้วหมุนเจดีย์ขาวนั่นส่งเดช เป็นไปได้มากว่าจะไปเปิดกลไกเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status