Share

10

Penulis: Scince
last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-17 11:45:37

เมื่อถึงเวลานัดหมายทั้งสามคนจึงออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่น่าจะประมาณ 6 โมงเช้า ทางด้านของฟ่านเหมยเหมยและฟู่หลินฮุ่ยนั้น ยังคงนอนหลับไม่รับรู้ความเคลื่อนไหวใด ๆ

หลังจากอาการหายป่วยของหลี่เล่อเยียนหายเป็นปกติ ฟ่านเหมยเหมยก็รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ ว่าหลี่เล่อเยียนนั้นไม่ใช่คนที่จะข่มขู่ได้ง่ายอีกต่อไป แต่คนอย่างเธอไม่ยอมแพ้ยัยจิ้งจอกหน้าขาวนั่นหรอก เธอจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าแท้จริงแล้วหล่อนเปลี่ยนไปเพราะอะไรกันแน่

ส่วนอีกทางด้านของหลี่เล่อเยียนนั้น ไม่รู้เธอจะร้องไห้หรือหัวเราะดี กับระยะทางที่เหอหมี่เมี่ยนบอก เพราะถึงแม้ว่ามันจะผ่านมา 5 หมู่บ้านแล้วนั้นก็เป็นเรื่องจริง แต่ก็น่าจะบอกเธอด้วยว่ามันไม่ได้แค่ไกลแต่มันโคตรไกล เดินทางร่วมสองชั่วโมงพึ่งจะถึงตัวเมือง

"นี่เธอตั้งใจไม่บอกฉันตั้งแต่แรกใช่หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วตัวเมืองมันช่างไกลขนาดนี้" หลี่เล่อเยียนพูดด้วยเสียงหอบเหนื่อย พวกเธอเดินทางกันแบบไม่หยุดพัก จะมีพักขาบ้างแต่เพียงไม่นานก็ไปต่อ

ระยะทางแต่ละหมู่บ้านมีความห่างกันอย่างชัดเจน กว่าจะผ่านแต่ละหมู่บ้านก็เล่นเอาลมแทบจับ แถมพวกเธอยังเป็นหญิงสาวที่หน้าตาผิวพรรณนั้นค่อนข้างจะโดดเด่น เวลาเดินผ่านจึงเป็นที่สนใจของคนแต่ละหมู่บ้าน ชวนให้หยุดดูและชี้ชวนให้มองตาม

" ฉันไม่ได้โกหกนะ ฉันจำได้ว่าบอกเธอไปแล้วว่าจะต้องผ่าน 5 หมู่บ้าน" เหอหมี่เมี่ยน บอกแบบตาใสแป๋วราวกับไม่ได้ทำอะไรผิด แถมไม่มีอาการหอบเหนื่อยเหมือนที่หลี่เล่อเยียนเป็นอีกด้วย เธอก็แค่พูดไม่หมดแค่นั้นเองว่าแต่ละหมู่บ้านนั้นยาวเกือบๆ สามกิโล

' ถ้าบอกหมดเธอก็ไม่ยอมมากับพวกฉันนะซิ ฮิๆ' เหอหมี่เมี่ยนได้แต่คิดในใจ

จริง ๆ แล้วหลี่เล่อเยียนไม่ได้จะคิดตำหนิอะไรมากมายหากเพียงถ้าเธอรู้มาก่อนว่าระยะทางจะกินเวลาเดินทางนานถึงขนาดนี้ เธอก็คงจะหาอะไรรองท้องก่อนออกเดินทาง ตอนนี้เล่อเยียนเริ่มรู้สึกหิวซะแล้วซิ

" พวกเราจะไปเดินดูของตรงโน้น เธอจะไปไหนก็ไปเลย แยกกันตรงนี้ เวลาบ่ายโมงตรงให้มาเจอกันที่ทางแยกนี้ ก่อนกลับที่พักค่อยเดินกลับพร้อมกัน " หม่ายวี่ไท่ตัดบท เธอรู้สึกหิวจึงจะชวนเหอหมี่เมี่ยนไปหาอะไรกินรองท้องก่อน

" ได้อย่างไรกันเล่าฉันไม่รู้ทาง พวกเธอห้ามทิ้งฉันเด็ดขาด อีกอย่างฉันอยากจะไปเดินตลาดมืดสักหน่อย เราไปด้วยกันเถอะ " เล่อเยียนโวยวายขึ้นทันใด หม่ายวี่ไท่นี่สงสัยจะไม่ชอบขี้หน้าเธอจริงๆ แฮะ เอะอะไล่อย่างเดียวเลย

" นี่ .... เธอพูดอะไรออกมา สถานที่นั้นไม่ใช่ว่าใครจะไปก็ไปได้นะ อันตรายจะตายไป ถ้าโดนจับขึ้นมาทหารแดงได้มาลากตัวเธอไปขังแน่" หม่ายวี่ไท่เอ็ดขึ้นตาเขียว ด้วยความที่จู่ ๆ หล่อนคิดจะพูดชื่อนั้นออกมาก็พูด ไม่ดูบ้างว่าใครจะผ่านมาได้ยินหรือไม่

" ฉันพูดกับเราแค่สามคน อีกอย่างถ้าใครจะได้ยินก็คงได้ยินเพราะเสียงที่เธอตะโกนเมื่อครู่นี่แหละนะ " หลี่เล่อเยียนมองหม่ายวี่ไท่ตาแป๋ว ก็มันจริงนี่นา หล่อนน่ะเสียงดังกว่าเธออีก ไม่รู้ว่าจะตกใจอะไรนักหนา

หม่ายวี่ไท่เริ่มรู้สึกตัวว่าจริง ๆ แล้ว เธอมีพิรุธมากที่สุด เดิมทีเธอคิดว่าการมาเดินเที่ยวในเมือง จะทำให้เธอผ่อนคลายหายคิดถึงบ้านได้บ้าง แต่จริง ๆ แล้วเธอคงคิดผิด เพราะเธอรู้สึกถึงความวุ่นวายที่กำลังจะตามเธอมาด้วยอย่างบอกไม่ถูก

"อะแฮ่ม เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีไหม แล้วค่อยเดินดูของกัน" เหอหมี่เมี่ยนรีบตัดบท ก่อนที่ทั้งสองคนจะเป็นจุดเด่นไปมากกว่านี้

" ก็ดีเหมือนกันฉันหิวจนไส้กิ่วแล้ว " หม่ายวี่ไท่พูดเสริมขึ้นแก้เก้อ

ทั้งสามสาวเดินตามแนวทางมุ่งหน้าสู่ตลาด ตลอดสองข้างทางมีคนเมืองเดินขวักไขว่ไปมา ในเมืองนี่ช่างครึกครื้นดีซะจริง ๆ เชียว ไม่เหมือนหมู่บ้านชนบท ที่วันๆ เอาแต่ก้มหน้าทำนาจนดวงตะวันลับขอบฟ้าถึงเข้าบ้านนอน ชีวิตวนลูปอยู่แค่นี้ไม่ไปไหน มองหาความเจริญไม่ได้จริง ๆ หลี่เล่อเยียนไม่แปลกใจที่สังคมแต่ละยุคสมัยมีความเหลื่อมล้ำชัดเจนไม่ว่าจะเป็นฐานะความเป็นอยู่หรือหน้าตาทางสังคม

" แม่หนู ซาลาเปาไหมจ๊ะร้อนๆ เลย " แม่ค้าตะโกนเรียกสาวๆ เนื่องจากวันนี้หล่อนยังขายไม่ออกเลยสักลูก

" ขายอย่างไรหรือคะ " หลี่เล่อเยียนรีบเดินไปถามด้วยความที่เธอมีซาลาเปาในมิติเช่นกัน เพียงแต่ว่ายังไม่มีโอกาสเอาออกมากินได้อย่างเปิดเผย ถ้าหากยังไม่มีคนเห็นที่มาที่ไปของมัน

" ลูกละ 2 เหมา 3 ลูกคิดเพียง 5 เหมาเท่านั้นจ้าแม่หนู" แม่ค้าดีใจเป็นอย่างมากที่เธอจะขายออกสักที

" ถ้าอย่างนั้นเอา 6 ลูกค่ะ นี่ค่ะเงิน " หลี่เล่อเยียนหยิบซาลาเปามาพร้อมกับจ่ายเงินแม่ค้าอย่างไม่คิดอะไรมาก ต่างจากหม่ายวี่ไท่และเหอหมี่เมี่ยนที่รู้สึกเสียดายเงินแทน

ซาลาเปาตั้ง 6 ลูกหล่อนซื้อไปทำไมเยอะแยะกัน หม่ายวี่ไท่เห็นการใช้เงินของหลี่เล่อเยียนแบบไม่คิดก็รู้สึกปวดใจแทน

" แม่ค้าจ้ะ พวกเรามาจากหมูบ้านชนบทอยากจะหาซื้อเนื้อไม่ทราบว่าเราต้องไปซื้อที่ไหนหรือจ๊ะ " หลี่เล่อเยียนทำทีไปตีสนิทสอบถามคนท้องถิ่น

" ซื้อเนื้อหรือ...แม่หนู เธอต้องไปร้านข้างๆ สหกรณ์นะเดินตรงไปเจอสามแยกเลี้ยวซ้ายไปก็คงถึงแล้วล่ะ ว่าแต่เธอได้จองไว้หรือเปล่าล่ะ " แม่ค้าซาลาเปาเมื่อเห็นหลี่เล่อเยียเหมาซาลาเปาเธอหลายลูก จึงพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นเป็นมิตรสุดๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   94

    วันที่ 18 ธันวาคม หิมะแรกของปีก็มาถึง และตกหนักมากจนหลี่หานไม่สามารถไปโรงเรียนได้ หลี่เล่อเยียนให้น้องชายหยุด เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ทางเขตของชนบทเริ่มมีข่าวการเกิดภัยพิบัติกันหนาหูมากขึ้น เธออดเป็นห่วงสามีและพี่ชายไม่ได้เลยป่านนี้ไม่รู้ว่าทั้งสองจะเป็นยังไงบ้าง"พี่ หลานของผมเป็นไงบ้างครับ" หลี่หานจะคอยถามไถ่และพาพี่สาวไปโรงพยาบาลตามนัดของหมอทุกครั้ง พี่สาวของเขาเป็นคนเข้มแข็งมาก ไม่รู้ว่าพี่เขยเป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาไม่ได้ข่าวอะไรจากทางเหนือเลย"ดิ้นเก่งมากเลยล่ะ เพิ่งจะหยุดไปสักพักนี้เองตอนที่พี่นั่งพักน่ะ" หลี่เล่อเยียนตอบยิ้มๆ เธอมีความสุขทุกครั้งที่ลูกขยับตัวในท้อง เธอคุยพร้อมกับเล่านิทานให้ลูกในท้องฟังทุกวัน กินแต่ของที่มีประโยชน์ น้ำเต้าหู้เธอกินทุกวัน ผลไม้ไม่เคยขาดตามด้วยนมผงรสมอลต์ก่อนนอนวันที่ 1 มกราคม 1957 หลี่เล่อเยียนและน้องชายฉลองปีใหม่กันเพียงสองคนเพราะหิมะตกหนักมาก หลี่หานที่ตอนนี้อายุ 15 ปีบริบูรณ์เขาสูงถึง 170 เซนติเมตร ขึ้นไปกวาดหิมะบนหลังคา แม้ว่าบ้านจะเพิ่งสร้างเสร็จแต่ปริมาณหิมะที่ตกลงมาก็ไม่สามารถวางใจได้ เพราะไม่มีแดดเลยข่าวการขาดแคลนอาหารเริ่มม

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   93

    นับจากวันที่บ้านของหลี่เล่อเยียนเริ่มทำกำแพง นี่ก็เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ที่หยางหมิงเฉิงออกไปปฏิบัติภารกิจ เขาให้ลูกน้องมาแจ้งข่าวว่าต้องลงไปทางเหนือ เพราะที่นั่นมีภัยพิบัติทางธรรมชาติค่อนข้างรุนแรง จึงไม่สามารถกลับบ้านได้ให้เธอดูแลตัวเองให้ดี รอเขากลับมาบ้านของพวกเขาเสร็จทันก่อนหิมะแรกจะมาถึง อีกทั้งยังเป็นไปด้วยดีสำหรับแบบบ้าน นับว่าแข็งแรงถูกใจเธอเป็นอย่างมาก เวลาที่หิมะตกลงมาคงไม่ต้องกังวลว่าหลังคาจะถล่มลงมาวันไหนท้องของหลี่เล่อเยียนใหญ่ขึ้นมาก ตอนนี้เธอรับรู้ได้ว่าลูกอยู่กับเธอแล้วจริง ๆ เพราะเขาจะดิ้นประท้วงทุกครั้งที่เริ่มหิว เธอเริ่มเดินเหินลำบากโชคดีที่มีน้องชายหลี่มาอยู่เป็นเพื่อน ทำให้คลายเหงาลงบ้าง อีกทั้งเขายังดูแลเธอเป็นอย่างดียามที่น้องชายไปเรียนหลี่เล่อเยียนแอบหยิบของในมิติมาเติมจนแน่นห้องเก็บอาหาร ทุกครั้งที่เธอนอนเตียงอุ่นๆ เธออดเป็นห่วงสามีไม่ได้ จากนั้นดึงเอาที่นอนแสนนุ่มออกมาจากในมิติ ผ้าห่มหนัก 7 ชั่ง 2 ผืนมาเผื่อน้องชายเธอด้วย หน้าหนาวปีนี้ถือว่ารุนแรงเหลือเกิน และข่าวที่ว่าคนไม่มีบ้าน ล้มตายเพราะความหนาวก็มีมาทุกวันวันนี้เป็นวันที่ 15 ธันวาคม จะเป็นวันทำงานวั

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   92

    "พี่ครับรั้วเสร็จแล้วพี่จะทำบ้านต่อเลยหรือเปล่าครับ" หลี่หานมาอยู่บ้านพี่สาวเป็นเวลา 5 วันแล้ว อีก 3 เดือนจะเข้าหน้าหนาว เขาคิดว่าพี่สาวควรจะมีบ้านที่แข็งแรงเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เพราะหิมะตกหนักทุกปี"พี่ว่าจะไปหาพ่ออยู่พอดี วันนี้เดี๋ยวพี่ไปส่งนายที่โรงเรียน แล้วจะไปหาพ่อที่ที่ทำงานเลยแล้วกัน" หลี่เล่อเยียนเดิมทีกะว่าจะรอ หยางหมิงเฉิงกลับจากปฏิบัติภารกิจซะก่อน แต่ดูท่าทางแล้วถ้ามัวแต่รอไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาวันไหน เธอจึงตัดสินใจไปขอให้พ่อช่วยดีกว่า พ่อเธอน่าจะรู้จักคนมากไม่น้อยทางด้านบ้านใหญ่หยางหลังจากที่หยางซีฮันพูดออกไปวันนั้น วันถัดมาก็มีเจ้าหน้าที่มาวัดแบ่งเขตชัดเจน สร้างความไม่พอใจให้กับน้าสะใภ้อย่างมาก หล่อนได้แต่สาปแช่งหลี่เล่อเยียนอยู่ในใจ เพราะไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ ส่วนเจินเจินน้อยได้แต่คอยแอบมองอาสะใภ้อยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเข้าไปทักทาย เพราะพ่อของเธอสั่งห้าม เจินเจินรู้สึกดีไม่น้อยที่ได้รู้ว่าน้องชายของอาสะใภ้มาอยู่เป็นเพื่อน"ดูเอาเถอะค่ะหลานรักของคุณ พอคุณบอกว่าจะแบ่งที่ให้รีบเอาเจ้าหน้าที่มาวัดแบ่งเขต ช่างละโมบโลภมากเสียจริง ชิ" หยางซิงเยียนเบะปากทำท่าทางรังเกียจ" เขาทำถู

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   91

    ภายในห้องปีกซ้ายของหยางเหยาอิน เขาเดินอุ้มลูกสาวเข้าห้อง วันนี้ผู้เป็นแม่ประกาศชัดเจนว่างดข้าวเย็น ใครอยากจะกินก็ให้ไปหากินเองห้ามมายุ่งกับส่วนกลางเด็ดขาด"คุณไม่คิดจะเรียกร้องสิทธิ์เพื่อฉันกับลูกบ้างเลยหรือคะ" จู้หลี่นาพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ หยางเหยาอินถอนหายใจไปครั้งหนึ่งพร้อมกับบอกเธอว่า" ผมเป็นลูกชายคนโตคนเดียวของบ้าน สมบัติทุกอย่างสุดท้ายก็ต้องตกเป็นของผมอยู่แล้ว ยังจะต้องเรียกร้องอะไรอีก อีกอย่างน้องเล็กหล่อนไม่มีทางอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อไปแน่ ถ้าหล่อนมีที่ไป" เขาจะต้องกลัวอะไรกัน มีบ้านซุกหัวนอนก็ดีแค่ไหนแล้ว ตามท้องถนนมีขอทานนอนตายข้างทางทุกวันเขานั้นโชคดีเพียงไหนกัน"ฉันหมายถึงสิ่งที่น้องกับแม่คุณดูถูกฉันน่ะค่ะ ทำไมคุณถึงไม่ปกป้องฉันบ้าง"" แม่ผมก็เหมือนแม่คุณเหมือนกัน คุณแต่งเข้าบ้านหยางเป็นคนตระกูลหยางแล้วระวังคำพูดด้วย" หยางเหยาอินทำงานมาเหนื่อยๆ แถมมาเจอภรรยางี่เง่า เขาเริ่มจะอารมณ์เสียบ้างแล้ว"คนตระกูลหยางอย่างนั้นหรือคะ แล้วพวกเขาเห็นฉันเป็นคนในครอบครัวหรือไม่ละคะ คุณรู้หรือไม่คะว่าแต่ละวันฉันใช้ชีวิตกันเช่นไรลูกต้องคอยหลบอาแท้ๆ ของพวกเขา ที่ไม่รู้ว่าเธอจะระเบิดอารมณ์ใ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   90

    " หลี่เล่อเยียน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ หล่อนคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงกล้าทำกับลูกสาวของฉันเช่นนี้" ซิงเยียนไม่คิดไว้หน้าใครอีก ในเมื่อไม่เห็นหัวกันเพียงนี้ ก็อย่าได้มานับญาติกันอีกเลย" มีธุระอะไรกับภรรยาผมหรือครับ " หยางหมิงเฉิงลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที หลังจากที่ได้ยินเสียงของน้าสะใภ้ ส่วนเจินเจินนั้นได้ยินเสียงย่าก็สะดุ้งตกใจกลัว รีบไปอยู่ในอ้อมกอดของแม่ในทันที" อ้อ...มาแล้วหรือ นายปล่อยให้นางจิ้งจอกนั่นรังแกน้องสาวตัวเองได้อย่างไรกัน ตั้งแต่แต่งแม่นั่นเข้ามา บ้านนี้หาความสุขไม่ได้เลย ชีวิตมีแต่ความฉิบหาย เฮงซวย เฮงซวยจริงๆฉันเลี้ยงลูกของฉันมาอย่างดี เฝ้าทะนุถนอมไม่เคยลงไม้ลงมือสักครั้ง ลูกสาวฉันเป็นนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย หล่อนกล้าดีเช่นไร นังเล่อเยียน ออกมาเดี๋ยวนี้นะหมาป่าตาขาวหลบอยู่ในบ้านทำไม ออกมาซิ วันนี้ถ้าเลือดหัวหล่อนไม่ออก อย่ามาเรียกฉันว่าซิงเยียนอีกเลย หึ" น้าสะใถ้โมโหเลือดขึ้นหน้า ถ้าไม่มีคนแต่งลูกสาวเธอเข้าบ้าน งานนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ"ก็ลองดูครับ ถ้าคิดว่าจะทำร้ายภรรยาของผมได้ ผมก็จะไม่เกรงใจใครเหมือนกัน ถ้าใจเย็นลง คิดได้แล้วค่อยมาคุยกันครับ เพราะผมก็มีเรื่องจะคุยกับน้า

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   89

    " ไม่จริงค่ะ อาเจินบอกแล้วว่าน้องสะใภ้ซื้อให้ แต่น้องเล็กไม่เชื่อกล่าวหาว่าลูกของพี่พูดโกหก ดีที่น้องสะใภ้มาทัน ไม่อย่างนั้นเจินเจินคง....ฮึก " สะใภ้ใหญ่พูดขึ้นบ้าง เป็นตายร้ายดีอย่างไรเธอจะไม่มีวันยอมเด็ดขาด ทำไม่ดีกับเธอ เธอทนได้ แต่จะมาทำกับลูกของเธอแบบนี้ เธอไม่ยอมแน่ ๆ เป็นไงเป็นกัน หากวันนี้สามียังไม่ยอมเข้าข้างเธออีก เธอจะพาลูกกลับไปยังบ้านเดิมที่จากมา" พี่สะใภ้คอยให้ท้ายลูกจนเสียคน แบบนี้นี่เองเจินเจินถึงไม่เกรงกลัวใคร หล่อนคงกลัวว่าฉันจะไปแย่งหล่อนกินน่ะค่ะ แหม...ฉันโตขนาดนี้แล้วจะไปกินนมแบบนั้นได้อย่างไรกันไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ พี่กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ เรื่องวันนี้ถือว่าเป็นการเข้าใจผิดกันก็แล้วกัน อีกอย่างฉันก็ยังไม่ได้ทำอะไรเจินเจินเลยสักนิดถือว่าแล้วกันไปละกันค่ะส่วนเรื่องที่ภรรยาของพี่ทำหัวฉันแตก ฉันยอมไม่ได้จริง ๆ ค่ะ หล่อนตั้งใจโยนมาใส่หัวฉันเต็มๆ แรง แบบนี้เจตนาฆ่ากันชัดๆ เลยค่ะ " หยางเซินซินหน้าซีดขึ้นมาทันทีที่เห็นสีหน้าของพี่ชาย เธอยอมจบเรื่องสองแม่ลูกนั่นก็ได้ เพราะเธอผิดเต็มๆ ที่ไม่ยอมฟังเหตุผลของเจินเจิน แต่เรื่องที่หัวเธอแตกวันนี้ยอมไม่ได้แน่นอน ถึงบอย่างไรก็ต

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status