แชร์

บทที่ 3 งานเลี้ยงตระกูลมู่ 2/2

ผู้เขียน: กะปอมพ่นไฟ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-05 13:31:37

งานเลี้ยงจวนตระกูลมู่

หลังจากที่ตระกูลมู่เดินทางมายังเมืองหลวงได้เกือบ 1 เดือน มู่อู๋ซวนก็ได้จัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองให้กับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ประจำเมืองหลวงที่เขาได้รับแต่งตั้งจากฝ่าบาท งานเลี้ยงในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ทว่ายังคงให้ความหรูหราในเรื่องของอาหาร น้ำชา และสุราที่เอามารับรองแขก ทุกอย่างล้วนเป็นของชั้นเลิศทั้งสิ้น สิ่งนี้เองที่ทำให้ชนชั้นสูงในเมืองหลวงต้องมองตระกูลมู่ในสายตาที่เปลี่ยนไป

"คารวะท่านแม่ทัพใหญ่มู่ ยินดีด้วยนะขอรับ"

รองเสนาบดีกรมคลังนำของขวัญมามอบให้กับมู่อู๋ซวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สายตาที่มากเล่ห์เลยมองไปทางด้านหลังยังตำแหน่งของมู่เสี่ยวชิง เขาเห็นว่าอายุของนางใกล้เคียงกับบุตรชายของตน ภายในใจจึงกำลังดีดลูกคิดรางแก้วว่าควรจะเกี่ยวดองกับตระกูลมู่เลยดีหรือไม่

"ขอบคุณ ๆ เชิญท่านรองเสนาบดีชุนด้านใน"

มู่อู๋ซวนยิ้มรับทว่าหางคิ้วกับกระตุกไปมา เขาที่เห็นสายตามากเล่ห์ของอีกฝ่ายจะไม่รู้เลยหรือว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใด แม้เขาจะเอาแต่กรำศึกในสนามรบ แต่ใช่ว่าเรื่องการเมือง เรื่องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในราชสำนักเขาจะไม่รู้เรื่องเลย เพียงแต่เขายังตั้งตนอยู่ตรงกลาง ไม่ได้อยู่ฝ่ายใดทั้งสิ้น ยิ่งเพิ่งมาจากต่างเมืองยิ่งต้องระมัดระวังตัวให้ดีเสียก่อน

มู่ห่าวหรานก็รู้ใจบิดายิ่งนัก เขารีบเดินเข้ามาเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้ไปนั่งยังที่นั่งที่จัดเตรียมเอาไว้อยู่ทันที หากชักช้าเกรงว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยเรื่องแต่งงานกับพี่ใหญ่เอาได้

"น้องอู๋ซวน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ"

'หวังเจิ้งเทียน' แม่ทัพใหญ่แห่งทิศอุดรเข้ามาตบไหล่ของมู่อู๋ซวนด้วยความสนิทสนม ด้วยทั้งสองเคยร่วมรบกันมานานเมื่อหลายปีก่อน ทั้งยังสาบานเป็นพี่น้องกันด้วย ดังนั้นแล้วทั้งสองจึงมีความสนิทสนมกันมาก ทว่าน่าเสียดายที่บุตรสาวของพวกเขากลับไม่ชอบหน้ากันนัก

"พี่ใหญ่! ท่านก็มาด้วยหรือนี่"

"เรื่องน่ายินดีเช่นนี้ข้าย่อมต้องมาอยู่แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง คุ้นเคยกับเมืองหลวงบ้างหรือยัง"

"ยังมีบางเรื่องที่ข้าอาจจะต้องขอให้ท่านช่วยชี้แนะ เอ๊ะ! นั่นลี่จูหรือ ช่าง... งดงามยิ่งนัก"

มู่อู๋ซวนชะงักไปครู่ด้วยความตกตะลึงกับการแต่งกายของอีกฝ่าย

"คารวะท่านอามู่เจ้าค่ะ ข้าน้อยหวังลี่จูเองเจ้าค่ะ"

'หวังลี่จู' บุตรีคนเล็กของหวังเจิ้งเทียนเข้ามาคารวะอีกฝ่าย โดยที่มู่เสี่ยวชิงที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ก้าวเข้ามาทักทายสองพ่อลูกตระกูลหวังเช่นกัน

"ฮ่าฮ่าฮ่า เสี่ยวชิงของเราโตขึ้นงดงามยิ่งนัก สมแล้วที่เป็นถึงยอดหญิงงามแห่งเมืองเหลียงซาน"

หวังเจิ้งเทียนเอ่ยทักทายหลานสาวด้วยความยินดี นางงดงามดั่งเช่นมารดาที่เสียไปมิมีผิดเพี้ยน

"ท่านลุงใหญ่กล่าวหนักเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ข้านั้นงดงามยังไม่ได้ครึ่งของลี่จูสักนิดเดียว การแต่งกายที่มากสีสันเช่นนี้ช่างเปิดหูเปิดตาข้ายิ่งนักเจ้าค่ะ" มู่เสี่ยวชิงแอบจิกกัดอีกฝ่ายเบา ๆ

อย่างไรนางกับหวังลี่จูก็ชอบพูดจาจิกกัดกันเช่นนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะความเกลียดชังที่มีให้แก่กัน แต่เหมือนกับว่านี่คือการทักทายอย่างปกติของพวกนางต่างหากเล่า

หวังลี่จูที่วันนี้แต่งกายด้วยอาภรณ์สีส้มสลับกับสีฟ้าและสีม่วง ตวัดสายตามองมู่เสี่ยวชิงด้วยความหมั่นไส้ หน็อยแน่! เจอกันในรอบ 10 ปีก็พูดจาแดกดันการแต่งกายของนางเลยนะ

"การแต่งกายของข้าเป็นแบบที่ชนชั้นสูงชอบกัน สหายของข้าเป็นคนเลือกให้ข้าเอง เจ้าเพิ่งมาเมืองหลวงคงจะไม่เข้าใจหรอก" หวังลี่จูสะบัดหน้าไปอีกทาง

มู่เสี่ยวชิงที่นึกไปถึงเรื่องของตนในชาติก่อนก็อดจะเห็นใจอีกฝ่ายไม่ได้ หวังลี่จูนั้นเป็นคนตรงไปตรงมาจึงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของสตรีด้วยกัน ความจริงแล้วนางนั้นมีผิวกายที่ละเอียดอ่อนดั่งแพรไหม กอปรกับใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มเช่นนี้ ควรแต่งอาภรณ์ที่มีสีสันสว่างสดใสให้เหมาะสมกับตนเองมากกว่า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   ตอนพิเศษ 3 คำสัญญาของมารดาทั้งสอง

    ตอนพิเศษ 3คำสัญญาของมารดาทั้งสองหลี่เหวินซานที่รู้ตัวว่าทำความผิดรีบคุกเข่าตรงหน้าของหวงซือเหวิน เด็กน้อยที่มีเค้าโครงความหล่อเหลาที่ถอดแบบบิดาเอ่ยขึ้นด้วยความสำนึกผิด เพราะความตกใจและเป็นห่วงท่านหญิงจึงทำให้เขาพูดจาทำร้ายจิตใจนาง เขาควรจะใช้คำพูดให้ดีกว่านี้ "เป็นความผิดของกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะชินอ๋อง กระหม่อมพูดจาไม่คิดทำให้ท่านหญิงรู้สึกไม่ดี กระหม่อมยินดีรับโทษพ่ะย่ะค่ะ"เหล่าน้องชายและน้องสาวของหลี่เหวินซานเห็นเช่นนั้นก็รีบคุกเข่าลงทันที ความผิดนี้พวกเขาสามพี่น้องจะขอรับผิดด้วย"นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น อาซานเจ้าลุกขึ้นก่อน"หวงซือเหวินและทุกคนมองมาด้วยความไม่เข้าใจ มู่เสี่ยวชิงที่มีความคิดรอบคอบมากกว่าตรงเข้ามาเอ่ยถามบุตรชายทันที"อาซวน เจ้าพูดให้ชัดเจนว่าเจ้าทำอะไรท่านหญิง""ลูก... ลูกว่าท่านหญิงน้อยตัวกลมเหมือนเอ่อ... ซาลาเปาพ่ะย่ะค่ะ"พรืด...!สิ้นคำพูดของหลี่เหวินซาน ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างพากันกลั้นขำจนไหล่สั่นไปกันหมด ซานเย่ที่รู้เหตุการณ์รีบเอ่ยอธิบาย"ทูลชินอ๋อง เมื่อครู่นี้มีงูพิษกำลังเลื้อยเข้าไปหาท่านหญิงพ่ะย่ะค่ะ แต่คุณชายใหญ่เห็นเข้าจึงได้ร้องเตือนให้ท่านหญิงวิ่งหน

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   ตอนพิเศษ 2 เยือนแดนเหนือ

    ตอนพิเศษ 2เยือนแดนเหนือ10 ปีผ่านไปตระกูลหลี่ที่เคยเหลือแค่หลี่หงจิ้นเพียงผู้เดียว บัดนี้ได้มีจำนวนสมาชิกในตระกูลเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน ตั้งแต่ที่เขาได้แต่งงานกับมู่เสี่ยวชิงและครองรักกันมาสิบกว่าปีนั้น มู่เสี่ยวชิงก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายหญิงกับเขาถึงสี่คน 'หลี่เหวินซาน' บุตรชายคนโตแฝดพี่อายุ 10 หนาว'หลี่เพ่ยจู' บุตรสาวคนโตแฝดน้องอายุ 10 หนาว'หลี่เฟิง' บุตรชายคนรองอายุ 8 หนาว'หลี่ฉิงเซียว' บุตรสาวคนเล็กอายุ 4 หนาวครอบครัวของเขาล้วนอบอวลไปด้วยความสุขตามที่เขาได้ใฝ่ฝันเอาไว้ มีภรรยาที่รักยิ่งและบุตรชายหญิงที่น่ารักน่าเอ็นดู และซุกซนจนผู้เป็นบิดาเช่นเขายังแอบทอดถอนหายใจอยู่หลายครา แต่กระนั้นเขากับชิงเอ๋อร์ก็มีความสุขยิ่งนักแดนเหนือรถม้าตระกูลหลี่เคลื่อนขบวนเข้าสู่ประตูวังชินอ๋องแห่งแดนเหนือ ทหารประจำวังชินอ๋องหลายนายคอยให้การอารักขาดูแลเป็นอย่างดี มู่เสี่ยวชิงก้าวลงมาเป็นคนแรกจากรถม้า นางเงยหน้าขึ้นมองอาณาเขตของชินอ๋องและหวังลี่จูด้วยความยินดี ทั้งสองได้สร้างแดนเหนือให้เจริญก้าวหน้าและยิ่งใหญ่มิด้อยไปกว่าเมืองหลวงเลย ตลอดทางที่ผ่านมานั้นนางมองเห็นผู้คนที่เดินสวนทางไปมาล้วนแต่มีใบหน้

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   ตอนพิเศษ 1 ความสุขมาเยือน

    ตอนพิเศษ 1ความสุขมาเยือนวันเวลาผ่านไปจวนตระกูลหลี่ก็ได้รับข่าวดีจากฮูหยินของตน หลี่หงจิ้นแทบจะร้องตะโกนป่าวประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าบัดนี้เขาได้เป็นบิดาแล้ว หลังจากแต่งงานสามเดือนชิงเอ๋อร์ของเขาก็ตั้งครรภ์เสียที!"ท่านพี่... เรากำลังจะมีลูกด้วยกันแล้วเจ้าค่ะ ลูกของเรา"มู่เสี่ยวชิงหันมายิ้มหวานให้กับสามีด้วยความดีใจ นางยกมือขึ้นมาลูบหน้าท้องอันแบนราบของตนด้วยหัวใจที่ยินดียิ่ง ในที่สุดนางก็จะได้เป็นมารดาแล้ว มีลูกเป็นของตนเองโดยมีหลี่หงจิ้นเป็นบิดาที่แสนดีที่สุด"ใช่แล้วชิงเอ๋อร์ เรากำลังจะเป็นบิดามารดาแล้วนะ ทว่า..." หลี่หงจิ้นนิ่งไปเมื่อเอามือไปสัมผัสที่หน้าท้องของภรรยา"อะไรหรือเจ้าคะ หรือว่าลูกของเรามีบางอย่างผิดปกติไป" "ใช่... ครรภ์นี้ไม่ได้มีหัวใจแค่หนึ่งดวง แต่พี่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นถึงสองดวง ชิงเอ๋อร์... เจ้าตั้งครรภ์แฝด!"หลี่หงจิ้นมีสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากทั่วทั้งแผ่นดินนี้สตรีที่ให้กำเนิดเด็กฝาแฝดนั้นมีน้อยมาก การให้กำเนิดเด็กถึงสองคนในคราวเดียวกันถือเป็นอะไรที่ยากลำบากอย่างยิ่งสำหรับมารดา นางจะต้องทนรับความเจ็บปวดถึงสองเท่า และเขาเองไม่อยากจะทนเห็นภรรยาต้องเจ็บปวดถึงเพ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทส่งท้าย 2/2

    "ทำไมเล่า""ก็... ตรงนั้นใช้ขับถ่ายนี่เจ้าคะ""หึ ๆ พี่จะทำให้ชิงเอ๋อร์ได้รับรู้ถึงความสุขสมที่แทบจะขาดใจตายเลย"หลี่หงจิ้นยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาจับมือของนางเอาไว้ไม้ให้ขัดขวางเขาอีก ก่อนจะเคลื่อนลงไปกลีบดอกไม้งามสีแดงเบื้องล่าง แตะจูบลงไปเบา ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะใช้ปลายลิ้นสากของตนปาดเลียไปตามแนวร่องกลีบดอกไม้สีหวาน ใช้มืออีกข้างแยกกลีบดอกไม้ที่ปิดสนิทให้แยกออกจากกัน แล้วตวัดลิ้นเข้าไปดูดเลียด้านในราวกับช่ำชองทั้งที่นี่ก็เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกัน"อ๊ะ อ๊ะ อื้อ... ท่านพี่ อื้อ ข้า อ๊ะ ทรมานเหลือเกิน เสียวมากเจ้าค่ะ"ร่างบอบบางบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ร้องลั่นครวญครางเรียกชื่อของเขาไม่หยุดปาก หวังให้เขาหยุดการทรมานนาง ทว่าในส่วนลึกกลับรู้สึกชอบอย่างประหลาด นางไม่เคยรู้สึกถึงความรู้สึกนี้เลยสักครั้ง"ตรงนี้หวานจริง ๆ ด้วย แต่ขอพี่ชิมอีกนิดนะชิงเอ๋อร์"หลี่หงจิ้นเงยหน้าขึ้นมามองมู่เสี่ยวชิงด้วยความพึงพอใจ เขากลับเข้าไปหาดอกไม้งามของนางอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เขากลับใช้ลิ้นตวัดปาดเลียดูดดึงเป็นการใหญ่ ระรัวลิ้นตวัดเลียไปที่ติ่งกระสันที่จะสร้างความเสียวซ่านให้กับมู่เสี่ยวชิงโดยไม่หยุดพัก จนกระ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทส่งท้าย 1/2

    บทส่งท้ายสามเดือนถัดมาในสามเดือนนี้ได้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย หลี่หงจิ้นได้มาส่งข่าวกับมู่เสี่ยวชิงว่าเฉิงอี้เทากับจางหลิงฟางได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองไปแล้ว หลังจากพวกเขาทั้งสองต้องทนรับแขกที่กักขฬะมากมายในหอโคมเขียว สุดท้ายพวกเขาทั้งสองก็มิอาจจะทนรับความอัปยศครั้งนี้ได้ จึงได้จบชีวิตพร้อมกันภายในห้องพักที่ทรุดโทรมในหอโคมเขียว ส่วนเฉิงซื่อและลู่เหมยก็ทนรับความลำบากไม่ไหว ยิ่งได้รู้ว่าบุตรชายเพียงคนเดียวถูกตัดแท่งหยก ทั้งยังต้องไปเป็นนายบำเรออีก พวกเขาจึงมิอาจทนรับความอัปยศได้จึงได้ตรอมใจตามไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับเสนาบดีจางบิดาของจางหลิงฟางที่ตายเพราะป่วยหนักจากการทำงานหนักในเหมืองเรื่องนี้มู่เสี่ยวชิงรับฟังอย่างสงบ นางถือว่าหนี้เลือดที่พวกเขาได้ทำกับนางและลูกเอาไว้ได้ถูกชดใช้ทั้งหมดแล้ว!ค่ำคืนอันหวานล้ำที่มีค่าดั่งทองพันชั่งภายในห้องหอที่ตกแต่งด้วยผ้ามงคลสีแดงและโคมแดง เจ้าบ่าวเจ้าสาวในชุดมงคลสีแดงอันหรูหรานั่งบนเตียงกว้างหลังใหญ่ด้วยความขวยเขิน หลังจากเรื่องทุกอย่างจบลงก็ถึงเวลาที่พวกเขาทั้งสองจะได้เสวยสุขกันแล้ว ร่วมกันดื่มน้ำชามงคลในวันแต่งงาน คารวะฟ้าดินสาบานว่าจะเป็นสามีภรรยา

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 25 สิ้นสุดความแค้น 2/2

    เรื่องภายในถ้ำถูกซานเย่ตามเข้ามาเก็บกวาด จางหลิงฟางกับเฉิงอี้เทาถูกห้ามเลือดและใส่ยาเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาเอาไว้ ส่วนมู่เสี่ยวชิงนั้นหลี่หงจิ้นได้พานางกลับเมืองหลวงทันที เวลานี้ทุกอย่างได้ถูกคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว ชินอ๋องได้ทรงส่งข่าวกลับมาว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของพวกเขา ต้องขอบคุณในความช่างสังเกตของมู่เสี่ยวชิงในตอนที่พวกเขาลอบไปล่าสัตว์กันนั้น มู่เสี่ยวชิงเห็นแสงวิบวับที่สะท้อนกลับมาตรงต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก นางจึงคาดเดาได้ว่าคงเป็นคนของจวิ้นอ๋อง เขากับนางจึงได้แสร้งทำให้พวกนั้นเห็นว่าพวกเขาสนิทสนมกันมาก ก่อนที่มู่เสี่ยวชิงจะวางแผนการขึ้นมาใหม่โดยมีเขากับชินอ๋องร่วมออกอุบายด้วยทุกอย่างที่จวิ้นอ๋องรับรู้ล้วนเป็นกลอุบายของพวกเขา คนที่อยู่ในรถม้าของฮ่องเต้ที่หุบเขาจันทร์เสี้ยวนั้น แท้จริงแล้วเป็นคนของชินอ๋อง พวกเขาได้เชิญเสด็จฮ่องเต้กับฮองเฮาไปยังสถานที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนในตอนที่จวิ้นอ๋องมารับโสมพันปีจากมู่อู๋ซวนนั้น ก็ได้ถูกจับกุมโดยองครักษ์เงาของฮ่องเต้ไร้ซึ่งหนทางหนีได้อีกกบฏจวิ้นอ๋องจึงถูกจับกุมทั้งหมด พร้อมกับเกลือเถื่อนที่ลักลอบซุกซ่อนในร้านค้าต่าง ๆ ของตระก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status