แชร์

บทที่ 4 เปิดใจกับสหายคนใหม่ 2/2

ผู้เขียน: กะปอมพ่นไฟ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-09 19:59:43

โรงน้ำชา

หลังจากพบกันในงานเลี้ยง มู่เสี่ยวชิงก็ได้เขียนจดหมายเชิญหวังลี่จูออกมาพูดคุยกันที่นอกจวน ด้วยในวันนี้จะเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นซึ่งนางต้องการมีหวังลี่จูผู้เก่งวรยุทธ์มาอยู่ข้างกายด้วย ตัวนางแม้ไม่เก่งวรยุทธ์แต่เรื่องการใช้ยาสมุนไพรนั้น นางสามารถพูดได้เลยว่าเก่งกาจไม่แพ้หมอหลวงในวัง

"ขอโทษด้วยที่ให้เจ้าต้องรอนาน"

หวังลี่จูเข้ามาในห้องรับรองส่วนตัวแล้วทรุดนั่งบนเก้าอี้ทันทีด้วยความเหน็ดเหนื่อย ในตอนขามานี้นางมีเรื่องนิดหน่อยกับสหายผู้นั้น

"วันนี้เจ้าแต่งกายดีขึ้นมากเลยนะ"

มู่เสี่ยวชิงเอ่ยชมด้วยความจริงใจ ครั้งนี้หวังลี่จูสวมอาภรณ์สีเหลืองอ่อนที่ปักลายดอกไห่ถัง บนมวยผมก็ปั่นปิ่นระย้าที่ทำจากหยก นางจึงดูน่ารักสมวัย งดงามราวกับสตรีแรกแย้ม

"เพราะคำแนะนำของเจ้านั่นแหละ แต่ทำไมเจ้าถึงชอบสวมอาภรณ์สีแดงนักเล่า มันไม่ดูฉูดฉาดเกินไปหรือ เมื่อก่อนเจ้าชอบแต่งกายสีขาวกับสีกลีบบัวนี่น่า"

"ความชอบของข้าได้เปลี่ยนไปแล้วล่ะ" มู่เสี่ยวชิงยกน้ำชาขึ้นมาดื่ม นางเสเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่น "วันนี้ข้าจะไปซื้อเครื่องเขียนให้กับน้องชาย เจ้าช่วยแนะนำร้านให้ข้าได้หรือไม่"

"ย่อมได้ หากอยากได้เครื่องเขียนชั้นเลิศก็ต้องเป็นร้านเฉิงไฉที่ถนนทางทิศเหนือ"

"งั้นทานขนมเสร็จเราค่อยไปกัน"

"อืม"

หวังลี่จูพยักหน้ารับ ทั้งสองทานขนมกุ้ยฮวาและดื่มชาด้วยความผ่อนคลาย ในระหว่างนี้ก็เอ่ยเล่าเรื่องราวของตนเองไปด้วย เพียงไม่นานทั้งสองก็เริ่มจะสนิทสนมกันเพิ่มมากขึ้น

หลังจากใช้เวลาในโรงน้ำชากว่าครึ่งชั่วยาม ทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องรับรองเพื่อไปร้านเฉิงไฉ แต่ว่าในระหว่างทางนั้นมีสตรีกลุ่มหนึ่งเข้ามาขวางทางทั้งสองเอาไว้

"ทั้งสองโปรดหยุดก่อน ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับหวังลี่จู"

คุณหนูโจวที่มีใบหน้าน่ารักก้าวออกมาตรงหน้า นางมองหวังลี่จูด้วยความไม่พอใจ

"เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้าเช่นนั้นหรือ" หวังลี่จูเข้ามาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอย่างไม่หวั่นเกรง

ที่แท้นี่ก็คือสหายที่ให้คำแนะนำในเรื่องการแต่งกายของนางนั้นเอง ก่อนมาที่นี่นางก็ได้ต่อว่าอีกฝ่ายและตัดความสัมพันธ์ไปแล้ว แต่ดูท่าฝ่ายนั้นจะไม่ยอมง่าย ๆ

"เราไปคุยกันในห้องส่วนตัวดีหรือไม่ ข้าอยากอธิบายเรื่องที่เจ้าเข้าใจข้าผิดไป"

ใบหน้าน่ารักพลันเสแสร้งขึ้นมาทันที สายตาก็ปรับเปลี่ยนเป็นอ่อนลงจนแม้แต่มู่เสี่ยวชิงยังขมวดคิ้วมุ่น ที่แท้การที่สตรีในเมืองหลวงปรับเปลี่ยนสีหน้าของตนนั้นช่างง่ายราวกับพลิกฝ่ามือนั่นเอง

"เจ้าจะพูดอะไรก็พูดมาเถิด ข้ามีธุระกับเสี่ยวชิง"

"ข้า... ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เจ้าเป็นตัวตลกเลยนะ ข้าก็แค่ล้อเล่นกับเจ้าเท่านั้นเอง ผู้ใดจะคิดเล่าว่าเจ้าจะถือคำพูดของข้าเป็นจริงเป็นจัง" นางเอ่ยแก้ตัว โยนความผิดให้กับหวังลี่จูอย่างหน้าตาเฉย

"ที่แท้ภายในใจของเจ้าก็คิดกับข้าแบบนี้จริง ๆ สินะ ได้! เพราะข้าโง่เขลาไม่เท่าทันเจ้า เรื่องที่ข้าแต่งกายราวกับสตรีวิปลาสก็ให้ถือว่าเป็นค่าโง่ของข้าก็แล้วกัน ต่อไปเราสองก็อย่ามาได้พบปะกันอีกเลย แม้เจอหน้าก็อย่าได้เข้ามาทักทายกันอีก!"

"หวังลี่จู! เหตุใดเจ้าถึงไร้เหตุผลเช่นนี้กันเล่า เรื่องเพียงแค่นี้เองนะ"

"เรื่องเพียงแค่นี้ แต่ทำให้ข้ามองใจจริงของเจ้าออกเลยล่ะ "

หวังลี่จูสะบัดหน้ากลับไปอย่างไม่แยแส นางหันมาจูงมือมู่เสี่ยวชิงแล้วลากเดินออกไปจากตรงนี้ทันที หากใครกล้ามาขวางนางก็ผลักออกไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และด้วยพละกำลังที่มากกว่าสตรีทั่วไป ทำให้อดีตสหายของนางถึงกับกระเด็นออกไปไกล ร่างบอบบางที่อยู่แต่ในห้องหอเจ็บหนักเพียงแค่ฝ่ามือเดียวของหวังลี่จู

"เจ้า! จะ เจ้าทำร้ายข้า ข้าจะฟ้องท่านพ่อ"

"เอาสิ ถ้าเจ้าอยากให้ตระกูลของเจ้ามีปัญหากับตระกูลหวังของข้า ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะลงไปเล่นกับตระกูลเล็ก ๆ ของเจ้าหรอกนะ"

"รังแกกันเกินไปแล้ว เจ้ามันสตรีหยาบช้า!"

"เจ้าน่ะสิสตรีเสแสร้ง!"

เพียะ!!

หวังลี่จูสะบัดฝ่ามือเข้าไปตบใบหน้าของอดีตสหายเพื่อเป็นการสั่งการ ทุกคนได้แต่อ้าปากค้างตะลึงกับภาพตรงหน้า ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางนางอีกเลย ผู้ใดก็รู้ว่าตระกูลหวังนั้นใกล้ชิดสนิทสนมกับเชื้อพระวงศ์ มีเรื่องด้วยคุ้มแล้วหรือ...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   ตอนพิเศษ 3 คำสัญญาของมารดาทั้งสอง

    ตอนพิเศษ 3คำสัญญาของมารดาทั้งสองหลี่เหวินซานที่รู้ตัวว่าทำความผิดรีบคุกเข่าตรงหน้าของหวงซือเหวิน เด็กน้อยที่มีเค้าโครงความหล่อเหลาที่ถอดแบบบิดาเอ่ยขึ้นด้วยความสำนึกผิด เพราะความตกใจและเป็นห่วงท่านหญิงจึงทำให้เขาพูดจาทำร้ายจิตใจนาง เขาควรจะใช้คำพูดให้ดีกว่านี้ "เป็นความผิดของกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะชินอ๋อง กระหม่อมพูดจาไม่คิดทำให้ท่านหญิงรู้สึกไม่ดี กระหม่อมยินดีรับโทษพ่ะย่ะค่ะ"เหล่าน้องชายและน้องสาวของหลี่เหวินซานเห็นเช่นนั้นก็รีบคุกเข่าลงทันที ความผิดนี้พวกเขาสามพี่น้องจะขอรับผิดด้วย"นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น อาซานเจ้าลุกขึ้นก่อน"หวงซือเหวินและทุกคนมองมาด้วยความไม่เข้าใจ มู่เสี่ยวชิงที่มีความคิดรอบคอบมากกว่าตรงเข้ามาเอ่ยถามบุตรชายทันที"อาซวน เจ้าพูดให้ชัดเจนว่าเจ้าทำอะไรท่านหญิง""ลูก... ลูกว่าท่านหญิงน้อยตัวกลมเหมือนเอ่อ... ซาลาเปาพ่ะย่ะค่ะ"พรืด...!สิ้นคำพูดของหลี่เหวินซาน ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างพากันกลั้นขำจนไหล่สั่นไปกันหมด ซานเย่ที่รู้เหตุการณ์รีบเอ่ยอธิบาย"ทูลชินอ๋อง เมื่อครู่นี้มีงูพิษกำลังเลื้อยเข้าไปหาท่านหญิงพ่ะย่ะค่ะ แต่คุณชายใหญ่เห็นเข้าจึงได้ร้องเตือนให้ท่านหญิงวิ่งหน

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   ตอนพิเศษ 2 เยือนแดนเหนือ

    ตอนพิเศษ 2เยือนแดนเหนือ10 ปีผ่านไปตระกูลหลี่ที่เคยเหลือแค่หลี่หงจิ้นเพียงผู้เดียว บัดนี้ได้มีจำนวนสมาชิกในตระกูลเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน ตั้งแต่ที่เขาได้แต่งงานกับมู่เสี่ยวชิงและครองรักกันมาสิบกว่าปีนั้น มู่เสี่ยวชิงก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายหญิงกับเขาถึงสี่คน 'หลี่เหวินซาน' บุตรชายคนโตแฝดพี่อายุ 10 หนาว'หลี่เพ่ยจู' บุตรสาวคนโตแฝดน้องอายุ 10 หนาว'หลี่เฟิง' บุตรชายคนรองอายุ 8 หนาว'หลี่ฉิงเซียว' บุตรสาวคนเล็กอายุ 4 หนาวครอบครัวของเขาล้วนอบอวลไปด้วยความสุขตามที่เขาได้ใฝ่ฝันเอาไว้ มีภรรยาที่รักยิ่งและบุตรชายหญิงที่น่ารักน่าเอ็นดู และซุกซนจนผู้เป็นบิดาเช่นเขายังแอบทอดถอนหายใจอยู่หลายครา แต่กระนั้นเขากับชิงเอ๋อร์ก็มีความสุขยิ่งนักแดนเหนือรถม้าตระกูลหลี่เคลื่อนขบวนเข้าสู่ประตูวังชินอ๋องแห่งแดนเหนือ ทหารประจำวังชินอ๋องหลายนายคอยให้การอารักขาดูแลเป็นอย่างดี มู่เสี่ยวชิงก้าวลงมาเป็นคนแรกจากรถม้า นางเงยหน้าขึ้นมองอาณาเขตของชินอ๋องและหวังลี่จูด้วยความยินดี ทั้งสองได้สร้างแดนเหนือให้เจริญก้าวหน้าและยิ่งใหญ่มิด้อยไปกว่าเมืองหลวงเลย ตลอดทางที่ผ่านมานั้นนางมองเห็นผู้คนที่เดินสวนทางไปมาล้วนแต่มีใบหน้

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   ตอนพิเศษ 1 ความสุขมาเยือน

    ตอนพิเศษ 1ความสุขมาเยือนวันเวลาผ่านไปจวนตระกูลหลี่ก็ได้รับข่าวดีจากฮูหยินของตน หลี่หงจิ้นแทบจะร้องตะโกนป่าวประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าบัดนี้เขาได้เป็นบิดาแล้ว หลังจากแต่งงานสามเดือนชิงเอ๋อร์ของเขาก็ตั้งครรภ์เสียที!"ท่านพี่... เรากำลังจะมีลูกด้วยกันแล้วเจ้าค่ะ ลูกของเรา"มู่เสี่ยวชิงหันมายิ้มหวานให้กับสามีด้วยความดีใจ นางยกมือขึ้นมาลูบหน้าท้องอันแบนราบของตนด้วยหัวใจที่ยินดียิ่ง ในที่สุดนางก็จะได้เป็นมารดาแล้ว มีลูกเป็นของตนเองโดยมีหลี่หงจิ้นเป็นบิดาที่แสนดีที่สุด"ใช่แล้วชิงเอ๋อร์ เรากำลังจะเป็นบิดามารดาแล้วนะ ทว่า..." หลี่หงจิ้นนิ่งไปเมื่อเอามือไปสัมผัสที่หน้าท้องของภรรยา"อะไรหรือเจ้าคะ หรือว่าลูกของเรามีบางอย่างผิดปกติไป" "ใช่... ครรภ์นี้ไม่ได้มีหัวใจแค่หนึ่งดวง แต่พี่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นถึงสองดวง ชิงเอ๋อร์... เจ้าตั้งครรภ์แฝด!"หลี่หงจิ้นมีสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากทั่วทั้งแผ่นดินนี้สตรีที่ให้กำเนิดเด็กฝาแฝดนั้นมีน้อยมาก การให้กำเนิดเด็กถึงสองคนในคราวเดียวกันถือเป็นอะไรที่ยากลำบากอย่างยิ่งสำหรับมารดา นางจะต้องทนรับความเจ็บปวดถึงสองเท่า และเขาเองไม่อยากจะทนเห็นภรรยาต้องเจ็บปวดถึงเพ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทส่งท้าย 2/2

    "ทำไมเล่า""ก็... ตรงนั้นใช้ขับถ่ายนี่เจ้าคะ""หึ ๆ พี่จะทำให้ชิงเอ๋อร์ได้รับรู้ถึงความสุขสมที่แทบจะขาดใจตายเลย"หลี่หงจิ้นยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาจับมือของนางเอาไว้ไม้ให้ขัดขวางเขาอีก ก่อนจะเคลื่อนลงไปกลีบดอกไม้งามสีแดงเบื้องล่าง แตะจูบลงไปเบา ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะใช้ปลายลิ้นสากของตนปาดเลียไปตามแนวร่องกลีบดอกไม้สีหวาน ใช้มืออีกข้างแยกกลีบดอกไม้ที่ปิดสนิทให้แยกออกจากกัน แล้วตวัดลิ้นเข้าไปดูดเลียด้านในราวกับช่ำชองทั้งที่นี่ก็เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกัน"อ๊ะ อ๊ะ อื้อ... ท่านพี่ อื้อ ข้า อ๊ะ ทรมานเหลือเกิน เสียวมากเจ้าค่ะ"ร่างบอบบางบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ร้องลั่นครวญครางเรียกชื่อของเขาไม่หยุดปาก หวังให้เขาหยุดการทรมานนาง ทว่าในส่วนลึกกลับรู้สึกชอบอย่างประหลาด นางไม่เคยรู้สึกถึงความรู้สึกนี้เลยสักครั้ง"ตรงนี้หวานจริง ๆ ด้วย แต่ขอพี่ชิมอีกนิดนะชิงเอ๋อร์"หลี่หงจิ้นเงยหน้าขึ้นมามองมู่เสี่ยวชิงด้วยความพึงพอใจ เขากลับเข้าไปหาดอกไม้งามของนางอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เขากลับใช้ลิ้นตวัดปาดเลียดูดดึงเป็นการใหญ่ ระรัวลิ้นตวัดเลียไปที่ติ่งกระสันที่จะสร้างความเสียวซ่านให้กับมู่เสี่ยวชิงโดยไม่หยุดพัก จนกระ

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทส่งท้าย 1/2

    บทส่งท้ายสามเดือนถัดมาในสามเดือนนี้ได้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย หลี่หงจิ้นได้มาส่งข่าวกับมู่เสี่ยวชิงว่าเฉิงอี้เทากับจางหลิงฟางได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองไปแล้ว หลังจากพวกเขาทั้งสองต้องทนรับแขกที่กักขฬะมากมายในหอโคมเขียว สุดท้ายพวกเขาทั้งสองก็มิอาจจะทนรับความอัปยศครั้งนี้ได้ จึงได้จบชีวิตพร้อมกันภายในห้องพักที่ทรุดโทรมในหอโคมเขียว ส่วนเฉิงซื่อและลู่เหมยก็ทนรับความลำบากไม่ไหว ยิ่งได้รู้ว่าบุตรชายเพียงคนเดียวถูกตัดแท่งหยก ทั้งยังต้องไปเป็นนายบำเรออีก พวกเขาจึงมิอาจทนรับความอัปยศได้จึงได้ตรอมใจตามไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับเสนาบดีจางบิดาของจางหลิงฟางที่ตายเพราะป่วยหนักจากการทำงานหนักในเหมืองเรื่องนี้มู่เสี่ยวชิงรับฟังอย่างสงบ นางถือว่าหนี้เลือดที่พวกเขาได้ทำกับนางและลูกเอาไว้ได้ถูกชดใช้ทั้งหมดแล้ว!ค่ำคืนอันหวานล้ำที่มีค่าดั่งทองพันชั่งภายในห้องหอที่ตกแต่งด้วยผ้ามงคลสีแดงและโคมแดง เจ้าบ่าวเจ้าสาวในชุดมงคลสีแดงอันหรูหรานั่งบนเตียงกว้างหลังใหญ่ด้วยความขวยเขิน หลังจากเรื่องทุกอย่างจบลงก็ถึงเวลาที่พวกเขาทั้งสองจะได้เสวยสุขกันแล้ว ร่วมกันดื่มน้ำชามงคลในวันแต่งงาน คารวะฟ้าดินสาบานว่าจะเป็นสามีภรรยา

  • เกิดใหม่หนนี้ไม่ขอมีสามีชั่วช้า   บทที่ 25 สิ้นสุดความแค้น 2/2

    เรื่องภายในถ้ำถูกซานเย่ตามเข้ามาเก็บกวาด จางหลิงฟางกับเฉิงอี้เทาถูกห้ามเลือดและใส่ยาเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาเอาไว้ ส่วนมู่เสี่ยวชิงนั้นหลี่หงจิ้นได้พานางกลับเมืองหลวงทันที เวลานี้ทุกอย่างได้ถูกคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว ชินอ๋องได้ทรงส่งข่าวกลับมาว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของพวกเขา ต้องขอบคุณในความช่างสังเกตของมู่เสี่ยวชิงในตอนที่พวกเขาลอบไปล่าสัตว์กันนั้น มู่เสี่ยวชิงเห็นแสงวิบวับที่สะท้อนกลับมาตรงต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก นางจึงคาดเดาได้ว่าคงเป็นคนของจวิ้นอ๋อง เขากับนางจึงได้แสร้งทำให้พวกนั้นเห็นว่าพวกเขาสนิทสนมกันมาก ก่อนที่มู่เสี่ยวชิงจะวางแผนการขึ้นมาใหม่โดยมีเขากับชินอ๋องร่วมออกอุบายด้วยทุกอย่างที่จวิ้นอ๋องรับรู้ล้วนเป็นกลอุบายของพวกเขา คนที่อยู่ในรถม้าของฮ่องเต้ที่หุบเขาจันทร์เสี้ยวนั้น แท้จริงแล้วเป็นคนของชินอ๋อง พวกเขาได้เชิญเสด็จฮ่องเต้กับฮองเฮาไปยังสถานที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนในตอนที่จวิ้นอ๋องมารับโสมพันปีจากมู่อู๋ซวนนั้น ก็ได้ถูกจับกุมโดยองครักษ์เงาของฮ่องเต้ไร้ซึ่งหนทางหนีได้อีกกบฏจวิ้นอ๋องจึงถูกจับกุมทั้งหมด พร้อมกับเกลือเถื่อนที่ลักลอบซุกซ่อนในร้านค้าต่าง ๆ ของตระก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status