แชร์

บทที่ 5 คุณหนูผู้อาภัพ

ผู้เขียน: เทียนสื่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-14 12:00:02

ร่างระหงนอนทอดยาวไร้สติอยู่บนฟูกนอนขาวสะอาดด้านในโรงหมอ เมื่อผู้เป็นหมอเห็นใบหน้าผู้ป่วยกระจะตาก็อุทานขึ้น

“เอ๊ะ นังหนูนี่ หน้าคุ้น ๆ”

เด็กหนุ่มจึงเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย “ท่านรู้จักนางหรือ”

หมอวัยกลางคนพิเคราะห์องคาพยพจางหลินจูครู่หนึ่ง ไม่นานก็นึกออก “อ่า…เป็นนางนี่เอง ซื่อจื่อแม่นางน้อยคนนี้ข้าเคยรักษาให้ไม่กี่วันก่อนขอรับ”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นหนึ่งฝั่ง “เช่นนั้นท่านคงทราบว่านางเป็นใคร”

ท่านหมอถอนหายใจยาว จากนั้นเหลือบมองจางหลินจูอย่างนึกเวทนา “ข้าน้อยก็ไม่ทราบว่านางคือใคร แต่ดูเหมือนนางจะเป็นคนต่างแคว้น มารดาป่วยกระเสาะกระแสะ น้องชายก็ยังเล็กนัก”

“ที่ท่านบอกว่าเคยรักษานาง นางป่วยเป็นอะไรงั้นหรือ”

“จากที่มารดานางเล่าให้ฟัง ดูเหมือนนางจะเกิดอุบัติเหตุพลัดตกน้ำขอรับ ร่างกายเลยมีไอหยินมากเกินไป แล้วดูยามนี้ ถูกผู้ใดรังแกมาอีกเล่า”

มีคนที่ชีวิตอาภัพได้เพียงนี้ด้วยหรือ

“เช่นนั้นท่านก็ช่วยรักษานาง ข้าจะรอจนกว่านางได้สติ”

“ขอรับ”

ร่างสูงหย่อนกายลงนั่งบริเวณเก้าอี้มุมห้อง สายตายังคงกวาดสำรวจจางหลินจูด้วยความสนใจใคร่รู้

นางเป็นคนต่างแคว้น เหตุใดต้องมาเดินผู้เดียวในที่เปลี่ยวร้างกันนะ

“นายน้อย”

องครักษ์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา

“อะไรของเจ้า ตื่นตูมทุกสถานการณ์จริง ๆ”

“คือ…ท่านอ๋องเรียกพบท่านขอรับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

ทั้งที่อีกฝ่ายแตกตื่นเป็นอย่างมาก ทว่าเด็กหนุ่มหน้าวสันต์กลับสงบนิ่งดุจสายน้ำ

“อุบายเดิมอีกแล้วสิท่า ไปบอกท่านพ่อ ข้ายังไม่ว่าง”

“แต่…ถ้าครั้งนี้นายน้อยไม่กลับ ท่านอ๋องบอกว่าจะผูกสัญญาหมั้นหมายเองเสียเลย”

เจ้าของร่างสูงลุกพรึบ “ท่านพ่อเร่งรีบเพียงนั้นเชียว คิดว่าตัวเองแก่หงำเหงือกจนต้องคะยั้นคะยอให้ข้าเร่งมีทายาทเชียวรึ”

คิ้วเข้มขมวดแน่นไม่สบอารมณ์ เขาอยากรอจนกว่าสตรีตรงหน้าจะตื่นขึ้น เขาประสงค์ทำความรู้จักกับนางให้มากกว่านี้

“ท่านหมอ อาการนางเป็นอย่างไรบ้าง”

“ซื่อจื่อ นางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รวมถึงตกใจจนหมดสติ พักสักหนึ่งชั่วยามก็ดีขึ้นขอรับ”

เขาพยักหน้า นัยน์ตาคมกริบเสมองจางหลินจูครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลดสายตาจดจำรายละเอียดสร้อยที่เด่นสะดุดตาเอาไว้

“เช่นนั้นข้าจะรีบกลับมา”

“ขอรับ”

บุรุษทั้งสองผละจากไปแล้ว เหลือเพียงหนึ่งหมอหนึ่งคนไข้ หมอวัยกลางคนฝังเข็มเพื่อคลายกังวลให้จางหลินจู ด้วยความรู้สึกสงสารจางหลินจูจับใจ

“แม่หนูนี่ชะตาอาภัพจริง ๆ ดูเอาเถิดมือนี่เคยทำงานหนักเสียเมื่อใดกัน”

ไม่นานปลายนิ้วเรียวก็กระดิก “คุณแม่ คุณพ่อ พี่ชาย อย่าทิ้งจูเอ๋อร์ไป”

“แม่หนู”

“คุณพ่อ คุณแม่คะ”

“แม่หนู”

เรียกไม่นานจางหลินจูก็ได้สติ เปลือกตาบางเปิดพรึบ เหงื่อเม็ดละเอียดผุดพราวเต็มกรอบหน้างาม จางหลินจูค่อย ๆ ปรับม่านดวงตาให้ชัดเจน คิ้วงามดุจกระบี่เคลื่อนเข้าหากัน 

“ทะ…ท่านคือ”

“จำข้าไม่ได้หรือ ข้าเป็นหมอที่รักษาเจ้าวันนั้นอย่างไรเล่า”

จางหลินจูดีใจดุจลิงโลด ทว่าไม่อาจยิ้มได้เต็มปาก เพราะยามนี้นางรู้สึกหนักหัวจนตื้อไปหมด นัยน์ตากลมโตสังเกตทุกอย่างโดยรอบ

หรือเราจะฝัน เป็นท่านหมอที่ช่วยเราไว้งั้นหรือ พี่ชายคนนั้นเล่า

“เอ่อ…ท่านหมอเจ้าคะ คือว่า…” จางหลินจูอึกอัก เพราะนางไม่พบคนที่ตนกำลังคะนึงถึง 

“อะไรกันเล่า อ้อม ๆ แอ้ม ๆ”

“ท่านช่วยข้าไว้งั้นหรือ”

หมอวัยกลางคนส่ายหน้า “ไม่ใช่ข้าหรอก”

“หากไม่ใช่ แล้วใครช่วยข้าไว้หรือเจ้าคะ”

“เจ้าโชคดีมากรู้หรือไม่ คราวหน้าคราวหลังอย่าได้เที่ยวออกมาคนเดียวส่งเดชอีกเล่า ถ้าซื่อจื่อไม่ผ่านไปพบ ข้านึกไม่ออกเลยว่าสาวน้อยหน้าตาสะสวยเช่นเจ้าจะเป็นเช่นไร”

จางหลินจูนิ่งอึ้งชั่วขณะ “เดี๋ยวนะเจ้าคะ หมายความว่า ซะ…ซื่อจื่อ”

“ก็ซื่อจื่อแห่งเมืองอันเจียงอย่างไรเล่า เจ้าไม่รู้จักหรือ นายน้อยเป็นคนช่วยเจ้าไว้”

จางหลินจูพอทราบมาบ้างว่าตำแหน่งซื่อจื่อในยุคสมัยก่อนหมายความว่าอย่างไร เพียงแต่นางไม่คิดว่าจะบังเอิญได้พบเข้ากับบุรุษผู้สูงศักดิ์เข้าจริง บุญคุณของเขาหนนี้นางจะเอากำลังที่ไหนมาตอบแทนเขากัน 

“แล้ว…ซื่อจื่ออยู่ไหนหรือเจ้าคะ”

“ซื่อจื่อมีธุระ ท่านอ๋องเรียกหา เห็นว่าไม่นานจะกลับมาอีกครั้ง”

ครั้นได้ยินคำว่าธุระ จางหลินจูก็ฉุกนึกบางอย่างได้ ร่างระหงเร่งลุกจากที่นอนทันควัน เพราะความเป็นห่วงมารดาจึงหลงลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ 

“โอ๊ย!”

“แม่หนู เร่งลุกเดี๋ยวก็เจ็บตัวเพิ่มหรอก”

จางหลินจูใบหน้าแดงก่ำ นางคว้ามือของผู้เป็นหมอเอาไว้ “ท่านหมอเจ้าคะ ที่ข้าออกมาครั้งนี้ก็เพราะอยากพบท่าน ท่านหมอ...”

“เอาล่ะ ๆ เจ้าใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูด มีกันแค่นี้ไม่มีผู้ใดแย่งเจ้าพูด”

“คืออย่างนี้เจ้าค่ะ มารดาของข้ากำลังป่วย ท่านช่วยไปดูนางให้หน่อยได้หรือไม่ หากช้ากว่านี้ข้ารู้สึกใจไม่ดีเลยเจ้าค่ะ”

“แต่เจ้าต้องพักผ่อน อีกเดี๋ยวซื่อจื่อก็จะกลับมาด้วย”

“ท่านหมอ ข้าสัญญาจะต้องกลับมาขอบคุณซื่อจื่อแน่นอน เพียงแต่ ท่านช่วยไปกับข้าก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ”

หมอวัยกลางคนถอนหายใจในความหัวรั้นของอีกฝ่าย ดูท่านางจะเป็นห่วงมารดาจริง ๆ อีกอย่างวันนั้นเขาเองก็สังเกตเห็นว่ามารดาของจางหลินจูไม่สู้ดีนัก น่าจะป่วยเรื้อรังมาช้านาน เขาจะขอตรวจแต่วันนั้นนางกลับไม่ยอมให้ตรวจ

“ก็ได้ ๆ งั้นเจ้ารอข้าครู่เดียว”

จางหลินจูยิ้มทั้งน้ำตา “เจ้าค่ะ”

เมื่อหมอสั่งงานกับลูกมือเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงนำกระเป๋าพกขึ้นมาสะพาย จากนั้นก็เร่งเดินทางไปยังที่พักของจางหลินจูพร้อมกัน

ระหว่างทางจางหลินจูสังเกตเห็นถังหูลู่สีแดงสะท้อนแสง ก็ทำได้เพียงเศร้าสลด นางไม่มีเงินติดมือสักอีแปะ ท่านหมอมองตามสายตาของจางหลินจูจึงบังเกิดความเห็นใจ

“เจ้าอยากกินงั้นหรือ”

จางหลินจูส่ายหน้า “เปล่าเจ้าค่ะ เพียงแต่ข้ารับปากน้องชายว่าจะซื้อขนมไปฝาก ทว่าข้าไม่มีเงินสักอีแปะ”

หมอวัยกลางคนหยุดฝีเท้า เขายื่นถุงเงินให้จางหลินจู “เอาไปซะสิ”

จางหลินจูน้ำตาคลอ หากเป็นเมื่อก่อน นางไม่เคยขาดแคลนเงินทองเหล่านี้เลย จะหว่านเล่นก็ยังได้ นางมองเงินสลับกับสีหน้าเป็นมิตรของอีกฝ่ายก็แทบหลั่งน้ำตา กระนั้นกลับเลือกส่ายหน้าปฏิเสธ “ข้าจะรับของผู้อื่นมาเปล่า ๆ ได้อย่างไรเจ้าคะ ไว้ข้าหางานทำได้แล้ว ค่อยกลับมาซื้อให้น้องใหม่ก็แล้วกันเจ้าค่ะ”

จางหลินจูส่งยิ้มหวาน แต่หมอวัยกลางคนทราบดีว่าภายในใจของนางขมขื่นเพียงใด

“เอาไปเถิด ถือเสียว่าเป็นค่าจ้างล่วงหน้า”

จางหลินจูงุนงง นางเหลือบมองหน้าเขา “หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ”

“เจ้ากำลังหางานทำไม่ใช่หรือ ข้ากำลังขาดผู้ช่วยอยู่พอดี เช่นนั้นก็มาช่วยงานข้า ว่าอย่างไร รับงานหรือไม่”

จางหลินจูรู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก แม้โลกใบนี้จะมีคนใจร้าย แต่ใช่ว่าทุกคนจะเลวเหมือนกันหมด น้ำใจที่นางได้รับจากพวกเขามันช่างล้ำค่าเสียเหลือเกิน

มือเรียวเอื้อมรับถุงเงินด้วยมือสั่นเทา ท่านหมอเห็นเช่นนั้นก็ยัดเข้ามือเล็ก ๆ นั่นเสียเลย “เจ้ามีนามว่าอะไร”

“ข้าแซ่จาง นามว่าหลินจูเจ้าค่ะ”

หมอวัยกลางคนพยักหน้า “แม่นางจาง เงินนี่เอาไปซื้อขนมให้น้องเจ้าเสียเถิด ข้าสกุลหลี่ นามว่าจงหยาง”

จางหลินจูฉีกยิ้มอวดฟันเรียงสวย นางปรับอารมณ์ให้เริงร่า “ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ท่านหมอหลี่ ข้ารับรองจะตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถเจ้าค่ะ”

ท่านหมอหลี่เห็นท่าทางดีใจของจางหลินจูก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ถึงนางจะไม่เคยทำงานหนัก แต่เขาคิดว่าเด็กสาวคนนี้มีความพยายาม รักใคร่ครอบครัวไม่เลวเลยทีเดียว 

ไม่นานถังหูลู่ที่หมายตาก็มาอยู่ในมือของจางหลินจู วันนี้อาจสายไปบ้างเพราะปัญหารุมเร้า แต่ก็ทำให้เจ้าก้อนแป้งของนางมีความสุขได้ล่ะนะ

“ชวนเอ๋อร์ ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

“ฮื่อ…พี่หญิง พี่หญิง ท่านแม่…ฮื่อ…”

จางหลินจูยืนตัวแข็งทื่อดั่งดินปั้นไม้แกะสลัก ถังหูลู่ในมือหล่นลงเปื้อนสิ่งสกปรกบนพื้นเมื่อเห็นเด็กน้อยกำลังร้องไห้โยเยเขย่าร่างอันแน่นิ่งของผู้เป็นมารดา

“ท่านแม่!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   สุดใจปรารถนา ตอนพิเศษ

    หนึ่งปีหลังจากจางหลินจูและซวี่ฟางจิ้นวิวาห์และสะสางงานทั้งหมดจนเรียบร้อยทั้งสองก็เดินทางมาเยี่ยมท่านหมอหลี่“ซื่อจื่อ” ท่านหมอหลี่ค้อมศีรษะลงจากนั้นผินหน้ามาส่งยิ้มให้จางหลินจูเขาตั้งใจค้อมศีรษะเพื่อเคารพนาง ทว่าจางหลินจูรุดเข้าประคองเขาไว้เสียก่อน“ท่านหมอหลี่ เกรงใจไปแล้ว”“ได้อย่างไร เป็นถึงฮูหยินซื่อจื่อ”“ท่านหมอหลี่คนกันเองทั้งนั้น ท่านเคยช่วยเหลือจูเอ๋อร์ไว้ตั้งมาก อย่าได้มากพิธีเลย” ซวี่ฟางจิ้นเอ่ยไม่นานเจ้าตัวเล็กก็วิ่งรี่เข้ามาเกาะเอวหลี่จงหยาง “ท่านหมอหลี่”“ตายแล้ว คุณชายน้อย ระวังเจ้าค่ะ”ลู่เสียนวิ่งหน้าตื่นเพราะเกรงว่าจางหลินชวนจะวิ่งซนจนได้บาดแผล“ไม่เป็นไร” ท่านหมอหลี่เอ่ย จากนั้นยอบกายลงอุ้มเจ้าตัวเล็กไว้บนอ้อมแขน พลางเขี่ยปลายจมูกหยอกล้อ“ชวนเอ๋อร์ โตเป็นหนุ่มแล้วนี่นา”จางหลินชวนยิ้มตาหยี “ท่านหมอหลี่ คิดถึงชวนเอ๋อร์หรือไม่ขอรับ”“คิดถึงสิ คิดถึงมากเลยล่ะ”จางหลินจูและซวี่ฟางจิ้นยืนมองจางหลินชวนเจื้อยแจ้วกับท่านหมอหลี่ไม่หยุดปากก็ต่างส่งยิ้มให้กับภาพอันแสนสุข

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 29 แทนคุณชั่วชีวิต

    สองวันก่อน ณ ท้องพระโรงแคว้นอันอี้โอรสแห่งสวรรค์นั่งแผ่กลิ่นอายครั่นคร้ามอยู่บนบัลลังก์มังกรสีทองอร่าม ซวี่ฟางจิ้นถูกเรียกตัวเข้าเฝ้าพร้อมเหล่าขุนนางทั้งบู๊และบุ๋น“ซวี่ซื่อจื่อ”“พ่ะย่ะค่ะ” ซวี่ฟางจิ้นประสานฝ่ามือพลางค้อมศีรษะอยู่บริเวณกลางท้องพระโรงหน้าบัลลังก์“เจ้าสามารถกวาดล้างพวกหนักแผ่นดินออกไปได้อย่างแยบยล กลยุทธ์การศึกล้วนเป็นเลิศแม้อายุยังน้อย เช่นนั้นข้าจะปูนบำเหน็จให้แก่เจ้า”“ขอบพระทัยฝ่าบาท เพียงแต่บำเหน็จนี้สามารถทูลขอตามความต้องการได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”ขุนนางทั้งท้องพระโรงแตกตื่น รวมถึงบิดาของเขา ซวี่อ๋อง เหงื่อกาฬเริ่มเปียกโซมแผ่นหลัง ลูกชายตัวดีของเขากำลังจะก่อเรื่องอีกแล้ว ครั้งก่อนเขาต้องบากหน้าใช้ข้ออ้างสารพัดเพื่อยกเลิกงานหมั้นหมายกับท่านหญิงรั่วซี มาหนนี้บุตรชายตัวดีอยากได้บำเหน็จที่ตนต้องการ ทั้งที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยร้องขอมาก่อน“จิ้นเอ๋อร์” เสียงทุ้มเอ่ยลอดไรฟันหมายปรามซวี่ฟางจิ้นทว่าซวี่ฟางจิ้นหาได้ใส่ใจ เขายังคงประสานฝ่ามือและทำหูทวนลมต่อไป อึดใจเดียวทุกคนก็ได้ยินเสียงตบเข่าดังฉาด ขุนนางทั้งซ้ายขวาที่ถ

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 28 จับกุม

    อรุณรุ่งมาเยือน จวนนายอำเภอกลับบังเกิดความอลหม่าน เมื่ออยู่ ๆ ก็มีหมายจากทางการเข้าจับกุมทุกคนต่างมารวมที่ลานกลางเรือน จางจางอิงที่ตื่นขึ้นบริเวณศาลาริมน้ำ กรีดร้องจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ใบหน้าของจางจางอิงแดงเป็นจ้ำเพราะถูกบรรดาแมลงกัดต่อย ฟูมฟายไม่นานก็ถูกทหารสองนายมาลากตัวออกไป“ปล่อยนะ ปล่อยข้านะ พวกเจ้าเป็นใคร”“คุณหนู เจ้าอย่าดิ้นรนให้เปลืองแรง ยามนี้จวนนายอำเภอถูกล้อมไว้หมดแล้ว”จางจางอิงหน้าตื่น “หมายความว่าอย่างไร”นายทหารไม่ตอบอีก ทว่ากลับพานางถูลู่ถูกังมายังลานกลางเรือนร่วมอีกคนหนิงเจินเห็นหน้าบุตรสาวลายพร้อยประหนึ่งเสือดาวก็แตกตื่น แต่เรื่องที่น่าตระหนกยิ่งกว่าคือทั้งจวนนายอำเภอกระทำสิ่งใดผิดก็หารู้ได้ และผู้นำการจับกุมครั้งนี้ก็คือ ซวี่ซื่อจื่อ“อิงเอ๋อร์ นี่เจ้าเป็นอะไรไป”จางจางอิงหน้าบูด “ท่านแม่ ข้าเองก็ไม่ทราบ ตื่นมาอีกครั้งก็เห็นตัวเองนอนอยู่ที่ศาลาริมน้ำท้ายสวนโน่นเจ้าค่ะ”หนิงเจินผงะ หวนนึกถึงภาพเมื่อคืนก็บังเกิดความผวา “ละ…แล้วเมื่อคืนที่แม่เห็น ไม่ใช่เจ้างั้นหรือ”จางจางอิงหันขวับ “หมายความ

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 27 แผนการ

    บ่าวรับใช้นายหนึ่งเดินเข้ามาโน้มกระซิบข้างหูจางหมิ่น “นายท่าน คุณหนูยังไม่กลับเรือนเล็กเลยขอรับ”จางหมิ่นลอบมองท่าทางซึ่งเริ่มเมาได้ที่ของซวี่ฟางจิ้น ซื่อจื่อเองก็ไม่ได้มองหรือใส่ใจเขา จางหมิ่นจึงวางใจ“ส่งคนไปตามหานางให้ทั่ว เอาของสิ่งนั้นมาให้ได้”“ขอรับ”บ่าวบุรุษร่างโตถอยหลังค้อมศีรษะจากไป จางหมิ่นเหลือบมองภรรยาข้างกายเป็นนัยให้ทำตามแผนเสียที“ซื่อจื่อ ดื่มอีกหน่อยนะเจ้าคะ นาน ๆ ท่านจะได้มาเยือนที่นี่”ซวี่ฟางจิ้นมิได้ปฏิเสธเขายิ้มตอบพร้อมรับจอกสุรากระดกลงคอ ซวี่ฟางจิ้นดื่มสุรามากเกินไป ยามนี้สติของเขากำลังพร่าเบลอ ร่างกายโอนเอนไปมาประหนึ่งหญ้าอ่อนต้องสายลมจางหลินจูผลัดอาภรณ์ใหม่ให้คล้ายกับสาวใช้ในจวน นางยืนหลบหลังสาวใช้อีกนางอยู่ไม่ห่าง เหลือบมองท่าทีเมาแอ้ของซวี่ฟางจิ้นอย่างนึกหงุดหงิดซื่อจื่อ ท่านนี่มีหัวไว้คั่นหูหรือไง ไยต้องทำตนเองให้เมาหัวราน้ำเพียงนี้กันภารกิจช่วยเหลือผู้มีพระคุณของจางหลินจูดูเหมือนจะเกิดอุปสรรคใหญ่เสียแล้ว เมื่อเห็นว่าซวี่ฟางจิ้นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบา

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 26 หายตัว

    จางหลินจูกลับมายังจุดชมบุปผา ทว่านางไม่พบเฟยหมิงแล้ว“อาลี่ แล้วหัวหน้าผู้ตรวจการเล่า”“คุณหนู ท่านมาแล้วหรือ ไม่นานมานี้ท่านหญิงรั่วซีถูกงูกัดเจ้าค่ะ”จางหลินจูตกใจ “ท่านหญิงเป็นอันใดมากหรือไม่ แล้วยามนี้นางอยู่ที่ใด”“นายท่านตามหมอมาแล้วเจ้าค่ะ และตอนนี้หัวหน้าผู้ตรวจการก็กำลังพาท่านหญิงไปส่งที่จวน”จางหลินจูถอนหายใจโล่งอก ครั้นเหลือบมองอีกด้านก็เห็นบุรุษร่างสูงเดินตรงเข้ามาไม่ห่าง ทั้งหมดเป็นเพราะเขาทำให้นางต้องผิดนัดกับเฟยหมิง หนำซ้ำท่านหญิงรั่วซีเกิดเหตุขึ้นทั้งที่นางมีวิชาแพทย์ติดตัวแต่กลับช่วยสิ่งใดไม่ได้เลย“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ” ซวี่ฟางจิ้นเอ่ยถามซูลี่สะดุ้งโหยง “เอ่อ…ซื่อจื่อ เมื่อครู่ท่านหญิงถูกงูกัดเจ้าค่ะ”ซวี่ฟางจิ้นเหลียวมองผู้คนในงานที่หลงเหลือบางตา แต่มิได้แตกตื่นเช่นคราแรกแล้ว “นางเป็นไงบ้าง”“ท่านหญิงปลอดภัยแล้วเจ้าค่ะ หัวหน้าผู้ตรวจการกำลังไปส่งที่จวน”คิ้วเข้มเลิกขึ้นหนึ่งฝั่ง เขาพอทราบความสัมพันธ์สองคนนี้มาบ้าง ดูเหมือนเขาคงไม่ต้องหวาดระแวงเรื่องหมั้นหมายของตนเพียงนั้นแล้วจางหลินจูยื

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 25 สับสน

    ค่ำคืนนี้ยังหลงเหลือแขกอีกมาก เพราะหลายคนล้วนอยากชื่นชมผการ้อยราตรีด้วยกันทั้งสิ้น เนื่องจากจวนซวี่อ๋องอยู่ไกลถึงหัวเมืองใหญ่ จางหมิ่นจึงให้บ่าวรับใช้ตระเตรียมห้องหับเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญโดยเฉพาะ ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ไม่ไกลจากจวนนายอำเภอมากนัก จึงไม่ได้เกิดปัญหาต่อการเดินทางยามกลับเรือนเวลามืดค่ำแต่อย่างใด“จูเอ๋อร์”จางหลินจูสะดุ้งตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังมาจากเบื้องหลัง เสียงอันคุ้นเคยนี้เป็นเหตุให้จิตใจของนางระส่ำระสาย มือที่ถือกล่องขนมหวานเอาไว้สั่นระริกจางหลินจูได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ร่างระหงยังคงหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมและไม่กล้าขยับ กระทั่งลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดใบหูเล็ก จางหลินจูก็ผละห่างจากเขา“ซะ…ซื่อจื่อ ท่านมีอันใดเจ้าคะ ไยจึงไม่อยู่ในงานหรือ”นัยน์ตาคมหรี่ลงเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบคำถามของนาง เพียงมองไปยังกล่องขนมที่จางหลินจูถือเอาไว้“แล้วเจ้าเล่า เหตุใดมาอยู่ตรงนี้ผู้เดียว”“ข้าก็แค่มาเอาของเจ้าค่ะ”“ของที่ว่าคือขนมนั่น ซึ่งเจ้าทำให้หัวหน้าผู้ตรวจการเฟยงั้นหรือ”จางหลินจูกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status