Home / อื่น ๆ / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / บทที่ 112: เสียงที่เริ่มเดินทาง

Share

บทที่ 112: เสียงที่เริ่มเดินทาง

Author: mafath9
last update Last Updated: 2025-07-05 01:01:25

เสียงที่เริ่มเดินทาง

หมอกในเช้าวันนั้น ไม่ได้คลุมแค่แผ่นดิน... แต่คลุมถึงความเงียบในใจเด็กๆ ทุกคน

สายลมในหมู่บ้านอิซึนะเช้านั้นพัดเบา แต่แหลมคมพอจะตัดผ่านคำพูดที่ไม่เคยพูดออกไป

เด็กหญิงตัวเล็กในชุดกิโมโนเก่าโบกมือให้หลังแม่ที่ยืนอยู่หน้าเรือนพัก สองตาแดงก่ำแต่ไม่หลั่งน้ำตา

“เจ้าจะไปไกลแค่ไหน?”

แม่ถามทั้งที่รู้ว่าไม่มีคำตอบ

เด็กหญิงก้มหน้า มัดสมุดสวดเก่าแน่นที่เอว ไม่ใช่เพื่อพกคำสวดดั้งเดิม... แต่เพื่อจดสิ่งที่ได้ยินระหว่างทาง

เด็กอีกเจ็ดคนยืนรออยู่ที่ปากหมู่บ้าน ใครบางคนมีพิณเก่า บางคนมีสมุดขาดกระจัดกระจาย บางคนไม่มีแม้รองเท้า

แต่ทุกคนมี "ชื่อ" ที่ตั้งใจจะฟังให้ได้

พวกเขาไม่ใช่คนเทศน์ ไม่ใช่นักสวด ไม่ใช่นักรบ

แต่คือเด็กที่เดินออกไปเพื่อนำ “การฟัง” ไปยังที่ที่ไม่มีเสียง

การเดินทางไม่เริ่มด้วยเสียงตีกลอง

แต่มันเริ่มเมื่อขาเล็ก ๆ ย่างเหยียบถนนดินที่ไร้ผู้ต้อนรับ

“หมู่บ้านโคมแดง” คือจุดหมายแรก

หมู่บ้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องโรงน้ำชาศักดิ์สิทธิ์

ทุกเช้าเสียงสวดจากวัดกลางจะไล่ผู้คนให้ยกมือพนม แม้ไม่ได้เข้าใจความหมาย

เมื่อเด็กกลุ่มนี้เดินเข้าไปโดยไม่มีบทสวด ไม่มีผ้าคลุมหัว ไม่มีพระนำ พวกเขาก็ถูกต้อนรับด้วยความเงียบแหลมคม

“ที่นี่...ไม่มีใครอยากฟังชื่อคนตายหรอก”

หญิงชราในโรงน้ำชากระซิบ

เด็กชายผู้ถือพิณจึงนั่งลงหน้าประตูวัด

เขาเริ่มดีดช้า ๆ

ท่วงทำนองหนึ่งที่จำมาจากงานศพของแม่

เมื่อเสียงแรกดังขึ้น มันไม่ใช่เสียงของคนพูด

แต่เป็นเสียงของการกล้าให้คนอื่นฟัง

หญิงชราเดินกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยชื่อสามีที่ตายไปสามสิบปี แล้วนั่งฟังพิณทั้งน้ำตา

สามวันต่อมา

พวกเขาไปถึง “หมู่บ้านมิมะ” ที่เคยเผาสมุดสวดปลอมจนกลายเป็นข่าว

เด็กหญิงหัวหน้ากลุ่มยื่นสมุดเก่าให้เจ้าอาวาส แต่เขาส่ายหน้าและบอกว่า

“นี่คือหมู่บ้านแห่งตำรา ไม่มีอะไรใหม่ที่ต้องฟัง”

คืนนั้น พวกเขาแอบนั่งใต้ต้นซากุระกลางลานวัด

เด็กชายคนหนึ่งเริ่มอ่านชื่อจากสมุดที่เขียนเอง

“โทชิโอะ... เด็กชายที่ตายในฤดูแล้งเพราะไม่มีข้าว”

“คาเอเดะ... หญิงที่หายไปหลังวันพิธีใหญ่”

ทีละชื่อ... ทีละคน

กระทั่งไฟในวัดดับลง

และเสียงรองเท้าของพระลูกวัดคนหนึ่งเดินมา

เขาไม่ได้พูดอะไร แต่หยิบสมุดว่างแล้วนั่งข้าง ๆ

 

เมื่อการเดินทางผ่านหมู่บ้านที่ห้ามพูด ห้ามจด ห้ามจำ

เด็กกลุ่มนั้นไม่ได้เถียง

พวกเขาเพียงตั้งวงไฟ

และเริ่มเขียนสมุดเล่มใหม่จากความจำที่ไม่ได้มาจากตำรา

ชื่อของคนแปลกหน้า

เรื่องเล่าของหญิงแก่ในลานข้าว

น้ำตาของชายที่ร้องเพียงเพราะได้ยินชื่อของพี่ชายที่หายไป

“เสียง” เริ่มมีขา

เริ่มเดินทาง

และเริ่มขยาย

 

ค่ำหนึ่งในหมู่บ้านยาวาระ

กลุ่มเด็กนั่งล้อมวง คนแก่สองคนร้องไห้ขณะเล่าถึงลูกที่ถูกลากไปจากบ้านกลางดึกเมื่อสิบปีก่อน

ไม่มีใครเคยกล้าพูด

ไม่มีใครเคยฟัง

เด็กหญิงคนหนึ่งยื่นสมุดให้คนแก่เขียนเอง

“แต่ข้าจำเขียนไม่เป็น...”

เขากล่าวอย่างกลัวผิด

“งั้นข้าจะเขียนแทนท่าน”

เธอยิ้ม และเริ่มจดอย่างช้า ๆ

แม้เสียงจะสั่น แต่ปลายพู่กันนิ่งดุจลมหายใจของผู้ฟัง

 

เมื่อเดินทางมาถึงแคว้นทางใต้ เด็ก ๆ เริ่มพบกับศาสนจักรท้องถิ่นที่แข็งกร้าว

พระไม่ยอมให้คนฟัง

ผู้ใหญ่กลัวจะโดนลงโทษ

แต่กลับมีเด็กชายคนหนึ่ง ที่พ่อแม่ถูกจับเพราะถือสมุด เขาคลานออกมาจากโรงเรียนเก่า แล้วกระซิบว่า

“พ่อของข้าชื่ออิจิโร่... เขาเคยเป็นคนฟังเหมือนพวกเจ้า”

เด็กในกลุ่มหยุดเดิน

แล้วยกมือไหว้ชื่อพ่อของเด็กชายคนนั้นแทนการสวด

ไม่ใช่พิธี

ไม่ใช่เสียงสูงต่ำ

ไม่ต้องมีแท่นบูชา

แต่คือการจำ

ที่ไม่มีใครลืมได้อีกแล้ว

 

และเมื่อเดินไปถึงหมู่บ้านริมชายแดน

กลุ่มเด็กทั้งกลุ่มเริ่มเหนื่อย

บางคนเริ่มป่วย

บางคนเริ่มท้อ

แต่ในเช้าหนึ่งที่หมอกจาง เด็กน้อยกลุ่มหนึ่งวิ่งมาหาพวกเขาพร้อมกับสมุดเปล่า

“พวกข้าก็จะเริ่มเดินทางเหมือนพวกเจ้า”

เด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่งพูดด้วยรอยยิ้ม

“แต่เราจะเดินไปทางตะวันตก”

กลุ่มใหม่เริ่มเกิด

กลุ่มเก่าเริ่มกระจาย

เสียง...จึงกลายเป็นเครือข่าย

ไม่ใช่ขบวน

ไม่ใช่คำขวัญ

ไม่ใช่สงคราม

แต่คือการฟัง

ที่เดินได้

เขียนได้

จำได้


และจากวันนี้ต่อไป
แผ่นดินจะมีเสียง
แม้จะไม่มีผู้เทศน์
และการสวด...จะไม่มีเจ้าของอีกต่อไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 125: บทที่ไม่มีผู้เขียน

    บทที่ไม่มีผู้เขียนสมุดฟังถูกเวียนเขียนโดยไม่ลงชื่อในเช้าวันหนึ่งที่ไร้หมอก...ศาลาหลังใหม่ในหมู่บ้านอิซุระเต็มไปด้วยเสียงกระซิบ แต่ไม่มีใครพูดเสียงดังเด็กหญิงคนหนึ่งเปิดสมุดอ่านชื่อแม่ของเพื่อน แล้วปิดตาไว้ครู่หนึ่งไม่มีพิธีไม่มีใครสั่งให้ทำและที่สำคัญ…ไม่มีใครบอกว่าต้องเขียนอะไรสมุดฟังเล่มนั้น วางอยู่กลางศาลาใครจะเขียนก็ได้จะเขียนแค่ชื่อจะวาดรูปหรือจะเล่าเรื่องบางอย่างก็ได้ที่ข้างปก…มีเพียงคำเดียวที่ถูกเขียนไว้ในหมึกจาง“เพื่อผู้ที่ไม่มีใครเขียนถึง”เสียงที่ไม่มีเจ้าของความเปลี่ยนแปลงไม่ได้เริ่มจากเสียงใหญ่โตแต่มาจากการเวียนกันอ่าน…เวียนกันเขียน…เวียนกันฟังเมื่อไม่กี่เดือนก่อน สมุดฟังยังเป็นของ “ใครบางคน”อิโตะมีสมุดของเขาซาโยะมีเล่มของพ่อฮากุโร่เคยถือสมุดที่เขียนชื่อศัตรูแต่ตอนนี้ ทุกสมุดกลายเป็นสมุดเดียวกันไม่มีผู้เขียนไม่มีคนถือครองไม่มีแม้กระทั่งลายเซ็นเด็กคนหนึ่งจะเขียน แล้วทิ้งไว้คนถัดไปก็จะเติมเรื่องของตนแล้วส่งให้คนอื่นบางครั้งสมุดก็หายไปเป็นสัปดาห์แต่วันหนึ่ง…มันจะกลับมา พร้อมชื่อใหม่หนึ่งชื่อ และเรื่องเล่าใหม่หนึ่งเรื่องศาลาในหมู่บ้านอิซุระจึงกลา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 124: บ้านที่ไม่มีประตู

    บ้านที่ไม่มีประตู - เด็กสร้างศาลาฟังใหม่ที่ทุกคนเข้าได้หุบเขาตะวันตกของโยะริมิยะ เคยเป็นพื้นที่ต้องห้ามของศาสนจักรแต่วันนี้ กลายเป็นที่แรกที่มี “บ้าน” หลังหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่บ้านของใครคนใดคนหนึ่งไม่มีประตูไม่มีระฆังไม่มีแท่นมีเพียงเสาสี่ต้น หลังคาฟาง และพื้นดินเปล่าตรงกลางปูเสื่อไม้ไผ่สานหยาบ ๆ วางสมุดฟังเล่มหนึ่ง ซึ่งหน้าแรกยังว่างเปล่าและมีป้ายไม้เก่าเขียนไว้ด้วยลายมือเด็กว่า:“ศาลาฟัง – ไม่มีผู้นำ ไม่มีผู้อนุญาต”พวกเขาไม่ได้รอใครให้สั่งไม่ได้ขอพระรูปใดมาเปิดพิธีไม่ได้ถือธงตระกูล หรือสัญลักษณ์ทางศาสนาพวกเขาคือกลุ่มเด็กสิบสองคนจากหมู่บ้านรอบนอกบางคนเคยเป็นลูกกำพร้าที่พ่อแม่ถูกประหารโดยคำสั่งศาสนจักรบางคนเป็นหลานของผู้ถูกลืมบางคนเคยเขียนชื่อคนตายด้วยดินเพราะไม่มีหมึกและวันนี้ พวกเขามีหมึกพอมีมือที่สั่นแต่แน่นพอมีใจที่ยังจำ“เราจะไม่เปิดประตู…เพราะเราไม่เคยปิด”— ยามาโกะ, เด็กหญิงคนหนึ่งที่เขียนป้ายเสียงแรกในศาลาฟัง“ท่านเคยได้ยินชื่อ ฮานาโกะหรือไม่?”เสียงของเด็กชายชื่อโคจิ เอ่ยขึ้นกลางวงไม่มีใครตอบไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใครแต่ทุกคนฟัง“เธอเป็นคนที่เคยให้ขนมฉันโดยไม่ถ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 123: ศาสนจักรแตกเสียง

    ศาสนจักรแตกเสียง - พระหญิงไคเซ็นแปรพักตร์แคว้นตะวันตกเฉียงใต้ของโยะริมิยะ เป็นแคว้นที่แสงตะวันตกตกช้าที่สุดในทุกวัน และเป็นที่ตั้งของ “วัดซุยเร็นจิ” — สำนักของพระหญิงไคเซ็น ผู้ได้รับสมญา “ผู้สวดในเงาแสง”แต่ในวันหนึ่งของเดือนที่ไร้จันทร์เงากลับปรากฏบนใบหน้าของเธอพระหญิงไคเซ็น ยืนอยู่หน้าแท่นเทศน์ในวิหารกลางของศาสนจักรตะวันตกในมือเธอไม่มีตำราไม่มีลูกประคำไม่มีสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ใดมีเพียง สมุดฟัง เล่มเดียวที่ถูกห่อด้วยผ้าเก่ารอบตัวเธอ คือพระชั้นผู้ใหญ่ ศิษย์ในส

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 122: เสียงของพระที่เงียบงัน

    เสียงของพระที่เงียบงันบ้านหลังเล็กใต้เขาตะวันตก อยู่ห่างจากศาลาเงาไปครึ่งวันเดินเท้า ไม่มีระฆัง ไม่มีแท่น ไม่มีธูปสักดอกแต่ภายในบ้านไม้หลังนั้น มีโต๊ะหนึ่งตัว ตะเกียงน้ำมันหนึ่งดวง และสมุดวางเรียงอยู่สิบห้าเล่ม — หน้าปกเป็นเพียงผ้าขี้ริ้วพันไว้ ไม่ต่างจากผ้าพันแผลของคนเจ็บฮากุโร่ไม่ได้พูดอะไรเลย นับแต่เขาก้าวเข้าสู่บ้านนั้น เขานั่งลงอย่างเงียบ ๆ ข้างหน้าเขา…คือหญิงชราเงียบงันผู้หนึ่ง และสมุดเล่มหนึ่ง…ซึ่งเปิดค้างไว้ที่หน้าเก่า หน้าแรกเขียนด้วยลายมือที่สั่น…แต่มั่นคง ว่า…

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 121: พระที่ล้มแท่นของตน

    พระที่ล้มแท่นของตน — พระบางคนเผาตำราเก่าและฟังเสียงเด็กแทนในหุบเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของแผ่นดินโยะริมิยะมีวัดหนึ่งที่ชื่อว่า โฮเซ็นจิเป็นวัดไม้สูงเจ็ดชั้น ตั้งอยู่กลางผืนป่ามีระฆังทองแดงหนักเจ็ดร้อยชั่งมีตำราสวดร้อยกว่าเล่มมีพระผู้เฒ่าสามสิบรูปและคำสวดที่เหมือนกันหมดทุกเช้าเย็นแต่ในวันที่พระรูปหนึ่งเดินลงจากแท่นเอื้อมมือหยิบตำราหนึ่งมา…และวางมันลงในกองเพลิงตรงลานกลางวัดเสียงไฟที่แตกเปรี๊ยะ…เงียบกว่าการสวดพันบทพระที่ไม่สวดอีกต่อไปเขาชื่อว่า คันริวในสมัยหนุ่ม คันริวเป็นผู้เทศน์ที่เข้มงวดที่สุดในโฮเซ็นจิเขาสามารถท่องตำราสิบสามเล่มโดยไม่หยุดเขาเคยคัดลอกบทสวดด้วยหมึกดิบทุกคืนจนมือช้ำเขาเคยลงโทษพระลูกวัดที่ออกเสียงผิดด้วยการไม่ให้สวดหนึ่งสัปดาห์แต่เขาก็เป็นคนเดียวที่ทุกคืน…นั่งอยู่ใต้ต้นสน นอกหอและจดสิ่งที่ไม่อยู่ในตำรา“เสียงที่แม่ร้องไห้”“คำสุดท้ายของเด็กที่ไม่มีพ่อแม่”“ชื่อที่ถูกลืมในพิธีศพ”“เรื่องเล่าในความเงียบที่ไม่มีใครอยากฟัง”เขาไม่เคยพูดถึงสมุดเล่มนั้นกับใครจนกระทั่งเด็กชายคนหนึ่งปีนข้ามกำแพงวัดมาในคืนฝนตกเด็กที่ไม่ต้องการให้ใครสวดให้พ่อเด็กคนนั้นชื่อว่า

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 120: แผ่นดินที่ไม่มีตำรา

    แผ่นดินที่ไม่มีตำรา – พื้นที่ที่ไม่มีศาสนจักรเข้าถึงเริ่มจัดพิธีฟังแทนศาสนาในแผ่นดินที่หมึกของตำราไม่เคยเปื้อนในหมู่บ้านที่พระไม่เคยสวดถึงในหุบเขาที่เสียงระฆังไม่เคยเดินทางไปถึงนั่นคือจุดเริ่มต้นของ “ศรัทธาที่ไม่มีตำรา”หรือที่คนบางกลุ่มเรียกกันเบา ๆ ว่า...“พิธีฟัง”หมู่บ้านอิวาเระ — ดินแดนที่ไม่เคยมีแท่นบูชาหมู่บ้านอิวาเระอยู่ลึกในหุบเขาโซเซ็นต้องข้ามหินร้อยลูก ต้องเดินผ่านป่าไร้ทางไม่มีวัดไม่มีศาลเจ้าไม่มีพระไม่มีธงตระกูลมีเพียงกระท่อนไม้สิบห้าหลัง กับเสียงลมที่โหยหวนในคืนฝนตกแต่เมื่อข่าวของ “สมุดฟัง” แพร่ไปทั่วแคว้นหญิงชราคนหนึ่งในหมู่บ้าน — โยรุมิ — ตัดสินใจใช้ผ้าเก่าเย็บเป็นเล่มสมุดบนหน้าปก นางเขียนว่า“สำหรับชื่อที่ไม่มีใครฟังอีกแล้ว”ไม่มีพิธีเปิดไม่มีโฆษณาไม่มีคำประกาศจากตระกูลไม่มีบทสวดเริ่มพิธีแต่ในคืนเดือนดับชาวบ้านสิบหกคนรวมตัวกันใต้ต้นสนเก่าและเริ่มอ่านชื่อของคนที่จากไปในจังหวะที่ไม่เท่ากันในเสียงที่สั่นในอารมณ์ที่เปลือยเปล่าเด็กชายผู้ไม่เคยเห็นพระเด็กคนหนึ่งชื่อ “ชิน”อายุสิบขวบเขาไม่รู้ว่าพระคืออะไรไม่รู้ว่าพิธีกรรมต้องทำอย่างไรรู้เพียงว่าแม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status