ตอนที่ 2 แอบนอกใจหรือเปล่า
“คุณพ่อ!” “ซาร่า!” (พรึ่บ) ลลิสาวิ่งเข้าไปสวมกอดบิดาทันทีที่เขาเดินเข้ามาในบ้าน มิสเตอร์ฟรังโก้ถึงกับตกใจ และรู้สึกดีใจที่ลูกสาวมาอิตาลีโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า “ลูกพ่อ จะมาทำไมถึงไม่ยอมโทรบอกพ่อก่อน” มิสเตอร์ฟรังโก้ถามลูกสาว ขณะที่มือหนากำลังลูบศีรษะทุยอย่างอ่อนโยน “ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิคะ ไปทานอาหารไทยฝีมือของซาร่าเถอะค่ะ” ลำแขนเล็กเกี่ยวรัดลำแขนของบิดาอย่างออดอ้อน สองพ่อลูกเดินตรงไปที่โต๊ะอาหาร มาดามริสานั่งยิ้มให้กับการกระทำของสามีและลูกสาวสุดที่รัก “ซาร่า ลูกจะมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นี่ หรือจะเรียนที่ประเทศไทยเหมือนเดิม” บิดาของเธอเอ่ยถาม หลังจากที่ทั้งสามทานอาหารมื้อเย็นเสร็จสรรพ “เรียนที่ไทยเหมือนเดิมค่ะ ให้ซาร่าเรียนจบปริญญาตรีก่อน ซาร่าค่อยมาเรียนต่อปริญญาโทที่อิตาลีค่ะ” “ตามใจลูก พ่อกับแม่ยังไงก็ได้ จริงไหมคุณริสา” เขาหันไปพูดกับภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ “จริงค่ะ ฉันตามใจลูกทุกเรื่อง” นางตอบกลับสามี และหันไปพูดกับลูกสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “แม่รู้ว่าซาร่าเป็นเด็กฉลาด เก่งและเอาตัวรอดได้ แล้วลูกสอบเข้ามหาลัยได้แล้วเหรอ” “เรียบร้อยแล้วค่ะคุณแม่ กว่าจะเปิดเทอมก็รออีกสองเดือน ซาร่าจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะเปิดเทอมค่ะ” “แล้วลูกอยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า” มิสเตอร์ฟรังโก้ถามลูกสาว “ซาร่าอยากไปแคมป์ปิ้งที่เทือกเขาโดโลไมต์ อยากไปมาก...ค่ะ” เธอพูดเสียงสูง และแสดงท่าทางออดอ้อนบิดามารดา “พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกพ่อนะลูก พ่อจะพาลูกไปทุกที่ที่ลูกอยากไป” ”เย้ๆๆ รักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดในโลกเลย” เธอลุกจากเก้าอี้เดินไปโอบไหล่บิดาและมารดา ก่อนจะโน้มลงไปแนบปลายจมูกที่แก้มของทั้งสอง (ฟอดดด ฟอดดด) “ถ้าซาร่าบอกว่าอยากไปพรุ่งนี้เลย คุณพ่อจะพาไปไหมคะ” “ลูกเพิ่งเดินทางมาถึงอิตาลี แล้วต้องนั่งรถสี่ชั่วโมงไปโดโลไมต์ จะไหวเหรอลูก แม่ว่าซาร่าควรพักสักวันสองวันก่อนดีไหม” มาดามริสาพูดตัดบทด้วยความเป็นห่วงลูกสาว “เอาน่าคุณริสา ลูกบอกว่าอยากไปพรุ่งนี้ ผมก็จะพาลูกไปพรุ่งนี้ ลูกสาวของเราแข็งแรงขนาดนี้ คุณไม่ต้องกังวล” “จริงอย่างที่คุณพ่อบอกค่ะ ถ้าพูดถึงเรื่องเที่ยว ซาร่าจะหายป่วยทันที ตกลงเราไปกันพรุ่งนี้นะคะ” “ได้เลยลูกพ่อ” “รักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดในโลกเลย” (ฟอดดดด ฟอดดดด) เธอหอมแก้มบิดามารดาซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความตื่นเต้น “งั้นวันนี้ซาร่ารีบพักผ่อนดีกว่าค่ะ ตื่นเต้นจัง พรุ่งนี้จะได้เดินทางไปเทือกเขาโดโลไมต์แล้ว คริคริ ซาร่าไปนอนแล้วนะคะ” หญิงสาวรีบวิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้น 2 มาดามริสาเอาแต่นั่งส่ายหน้าเบาๆด้วยความเอ็นดูลูกสาวสุดที่รัก พวกเขาค่อนข้างตามใจลลิสาเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้งสองไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกสาวมากนัก ลลิสาอาศัยอยู่กับคุณยายและคุณน้ามากกว่าอยู่กับพวกเขาเสียอีก “คุณพัฒน์หยุดงานหนึ่งอาทิตย์ ตั้งใจจะไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่าคะ ปกติแอนนี่เห็นคุณพัฒน์เอาแต่ทำงานตลอด” หญิงสาวเอ่ยถามกัปตันพิพัฒน์ที่กำลังนอนอยู่กลางเตียงใหญ่ โดยที่เธอกำลังนอนตะแคงกอดร่างเขาไว้แนบแน่น “ผมตั้งใจว่าจะไปแคมป์ปิ้งที่เทือกเขาโดโลไมต์สักสองคืน ผมอยากสัมผัสธรรมชาติบ้างน่ะ” “แคมป์ปิ้งเหรอคะ” หญิงสาวพูดออกมา พร้อมกับแหงนหน้ามองที่ใบหน้าหล่อเหลาด้วยท่าทางฉงน “ถ้าคุณไม่อยากไปกับผม ผมไปคนเดียวก็ได้” “เอ่อ...แอนนี่จะไปกับคุณพัฒน์ค่ะ เราจะออกเดินทางกันตอนไหนคะ” “พรุ่งนี้เช้า” “ค่ะ แอนนี่จะไปกับคุณพัฒน์ เอ่อ...คุณพัฒน์คะ” “ครับ?” หญิงสาวแสดงท่าทางอ้ำอึ้งก่อนจะพูดบางอย่างออกมา “คือ...เมื่อไหร่แอนนี่จะได้เป็นเจ้าสาวของคุณพัฒน์สักทีคะ เราก็คบกันมาตั้งสองปีแล้วนะ” “ผมยังไม่พร้อมที่จะคุยเรื่องนี้ เพราะมันยังเร็วเกินไป” (พรึ่บ) หญิงสาวลุกขึ้นนั่งทันทีที่ได้ยินคำตอบจากปากของชายคนรัก “ทำไมคะ หรือว่าคุณพัฒน์ยังแอบไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นอีก อย่าให้แอนนี่จับได้นะคะ” เธอพูดพร้อมกับจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง “ผมไม่ได้ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย ตั้งแต่วันที่เราสองคนตกลงเป็นแฟนกัน” เขานอนจ้องหน้าเธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาความรู้สึก “ให้มันจริงนะคะ อย่าให้แอนนี่รู้แล้วกัน ว่าคุณแอบนอกใจแอนนี่” “ผมจะทำแบบนั้นทำไม เมื่อก่อนอาจจะใช่ เพราะตอนนั้นผมยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับใคร แต่ตอนนี้ผมเป็นแฟนกับคุณ ผมจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร” “แล้วทำไมคุณพัฒน์ถึงไม่ยอมพูดเรื่องแต่งงานกับแอนนี่สักทีล่ะคะ” “คุณแอนนี่ก็รู้นี่ครับ ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ชีวิตของผมยังมีลูกสาว รอให้ลูกสาวของผมโตกว่านี้ก่อน เราค่อยคุยเรื่องแต่งงานกัน” “ถ้าจะต้องรอลูกสาวคุณพัฒน์โตกว่านี้ แอนนี่จะไม่หัวหงอกไปทั้งหัวแล้วเหรอคะ เหตุผลของคุณฟังไม่ขึ้นเลยอ่ะ” หญิงสาวแสดงท่าทางหงุดหงิดออกมา “รออีกไม่กี่ปี คุณรอไม่ไหวหรือไง ถ้าคุณแอนนี่รอไม่ไหวจริงๆ ไม่ต้องรอผมก็ได้ ผมให้อิสระคุณเต็มที่” “ได้ยังไงคะ ให้แอนนี่เลิกกับคุณพัฒน์น่ะเหรอ ไม่มีทางหรอกค่ะ” จะให้เธอเลิกกับเขาได้อย่างไร ในเมื่อชีวิตของเธอ มีกินมีใช้ และมีหน้าที่การงานที่ดีก็เพราะกัปตันพิพัฒน์เป็นคนหยิบยื่นให้ทั้งนั้น “แอนนี่ไม่คุยเรื่องนี้ก็ได้ค่ะ รอให้คุณพัฒน์พร้อมก่อน แต่ตอนนี้ แอนนี่พร้อมที่จะขย่มให้คุณแล้วนะคะ” (พรึ่บ) (จ๊วบ) “อ่าส์...ซี้ดดดด” หญิงสาวรู้ดีว่าพิพัฒน์เป็นคนมีความต้องการเรื่องบนเตียงสูง เธอจึงใช้วิธีนี้เป็นการออดอ้อน เวลาที่เขาไม่ค่อยพอใจคำพูดของเธอสามปีต่อมาพิพัฒน์ในวัย 48 ปี แต่ใบหน้ายังคงหล่อเหลาราวกับหนุ่มในวัยสามสิบปลายๆ ร่างกายของเขายังคงแข็งแรงจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เขาใช้เวลาทุกๆวันดูแลลูกๆและภรรยา แม้จะไม่ได้ทำงานเหมือนแต่ก่อน แต่พิพัฒน์ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสายการบินของครอบครัว และแพรพลอยขึ้นรับตำแหน่งรองประธาน ในขณะที่ภาคินเองก็เพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่งประธานไปหมาดๆ พิพัฒน์และลลิสาแต่งงานกันในโบสถ์แห่งหนึ่ง กลางเมืองมิลาน ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างร่วมยินดีและเป็นสักขีพยานรักให้กับคนทั้งสอง“มาค่ะ ใครจะนั่งกับคุณยายคุณตาบ้างคะ”คุณยายริสาถามหลานๆ พวกเขากำลังเดินทางไปเที่ยวที่เทือกเขาโดโลไมต์ในช่วงปิดเทอม“ผมจะนั่งกับคุณตาคุณยายครับ”เด็กชายภูผาในวัย4 ขวบ เดินขึ้นรถบ้านไปนั่งตรงกลางระหว่างคุณตาคุณยาย “น้องพราวจะนั่งกับคุณตาคุณยาย หรือจะนั่งกับพี่พลอยคะ”แพรพลอยถามน้องสาว เด็กหญิงแพรวพราวในวัยสองขวบ เด็กน้อยน่ารักเหมือนตุ๊กตาบาบี้ พี่สาวอย่างแพรพลอยหวงนักหนา“นั่งกับพลอยๆ พี่พลอยฉวยๆ”เด็กหญิงตัวน้อยยื่นมือให้พี่สาวโอบอุ้มขึ้นรถ(พรึ่บ)(ฟอดดดด)“น่ารักที่สุดค่ะ น้องสาวพี่”แพรพลอยหอมหน้าผากน้องสาวและอุ้มขึ้นรถบ้าน
ตอนพิเศษNC20+“เฮียไม่ต้องไปตามลูกหรอกค่ะ ปล่อยให้เขานอนกับพี่สาว เฮียก็รู้ยัยพลอยกับน้องภูตัวติดกันขนาดนั้น เรามาหาความสุขกันเถอะนะคะ ผลิตลูกเพิ่มดีไหม”เธอพูดพร้อมกับยื่นมือไปดึงขอบเอวกางเกงวอร์ม แล้วรูดลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าของพิพัฒน์“ดีครับ งั้นเฮียจะผลิตลูกเพิ่มอีกสักสองคน หนูโอเคใช้ไหม”เขาก้มหน้าลงไปจับที่คางภรรยาสาว เธอช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา ขณะที่มือเล็กกำลังรวบรัดแก่นกายลำใหญ่“ดีค่ะที่รัก คืนนี้จัดทั้งคืนเลยดีไหมคะ”(จ๊วบ)“อ่าส์...สะ...เสียว”พิพัฒน์ถึงกับซู้ดปาก เมื่ิอภรรยาคนสวยใช้ริมฝีปากจดจูบที่ปล่ายหัวเห็ดบาน เธอมองจ้องมันอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงอ้าปากครอบกลืนแท่งเอ็นใหญ่ และผงกศีรษะขึ้นลงเรื่อยๆ(บ๊วบบ๊วบบ๊วบ)“อ่าส์...ซี้ด...เสียว...โอ้ว”เขายืนเต็มความสูงและโยกเอวเบาๆเข้าไปในโพรงปากนุ่มนิ่ม ลลิสานั่งอยู่ปลายเตียง เธอช้อนตามองสามีอย่างยั่งยวน มือหนายื่นไปเกี่ยวสายเดี่ยวให้หลุดลงจากไหล่บาง จากนั้นจึงยื่นมือไปบีบคลึงเต้านมอวบใหญ่ ลลิสายังคงเร่งผงกหัวเข้าออกรัวๆ “อ๊าส์...อ่า...สุดยอด...โอย...ซี้ด เร็วอีกครับ”หลังจากที่ภรรยาคนสวยใช้ปากรูดดูดแท่งเอ็นใหญ่หลายนาที พิ
ตอนพิเศษหลายเดือนต่อมา“แว้แว้แว้!”เสียงเด็กทารกเพศชายร้องไห้ในยามเช้า พิพัฒน์ในวัย 45 ปี รีบเดินเข้าไปโอบอุ้มลูกชายวัยสามเดือนขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา“โอ๊ะโอ๋ ลูกชายของคุณพ่อ ตื่นแล้วเหรอครับ ไม่ต้องร้องนะคนเก่ง วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะพาน้องภูกลับประเทศไทย เรากลับไปอยู่บ้านของเรากันนะครับ ให้ลูกโตขึ้นกว่านี้ คุณพ่อจะพากลับมาเยี่ยมคุณตาคุณยาย โอเคไหมครับ”“แอ้”พิพัฒน์พูดราวกับว่าเจ้าตัวเล็กฟังรู้เรื่อง เด็กชายภูผาหยุดร้องไห้ทันที เจ้าตัวกำลังมองดูบิดาที่กำลังทำท่าหยอกล้อและพูดคุยด้วย“ลูกตื่นแล้วเหรอคะเฮีย”ร่างระหง ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอใช้ผ้าเช็ดตัวนุ่งกระโจมอก พิพัฒน์จ้องมองภรรยาสาวด้วยความหลงใหลเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา“ลูกตื่นแล้วครับ น่าจะหิวนมด้วย”“แป๊บนะคะ”เธอตอบสามี ขณะที่กำลังนำเสื้อเชิ๊ตมาสวมใส่“ครับ ที่รัก”“มองทำไมขนาดนั้นคะ”ลลิสาถามถามพิพัฒน์ เขาเอาแต่จ้องมองเธอด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกหลากหลาย“มองคุณแม่คนสวยไงครับ ทั้งสวย ทั้งมีน้ำมีนวล ทั้งน่ารัก น่าขย้ำสุดๆ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมา ก่อนที่เขาจะหันไปหยอกล้อลูกชาย“อดทน
ตอนที่ 43 ตามหาหัวใจพิพัฒน์และแพรพลอยเดินทางมาถึงประเทศอิตาลีในช่วงเช้าของวันเสาร์ แพรพลอยค่อนข้างตื่นเต้น เพราะเป็นการเดินทางในต่างประเทศครั้งแรกของเธอ เธอมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางเหมือนเด็ก“เดินเร็วๆสิพลอย พ่อรีบนะ”พิพัฒน์เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้ลูกสาว เขาคิดถึงเมียรักจนสุดหัวใจ และหวังว่าลลิสาจะไม่โกรธเขา สองพ่อลูกนั่งรถแท็กซี่ไปตามเส้นทางที่เขาจำได้ดี“ตื่นเช้าจังเลยนะลูก หรือว่านอนไม่หลับอีก”มาดามริสาถามลูกสาวที่กำลังนั่งอยู่ในสวนดอกไม้“เจ้าตัวเล็กดิ้นแต่เช้าเลยค่ะคุณแม่”เธอยิ้มให้กับมารดาพร้อมกับใช้มือลูบหน้าท้องกลมโตนับตั้งแต่วันที่ลลิสากลับมาอยู่กับบิดามารดา เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ลึกๆในใจเธอเฝ้าแต่คิดถึงคนที่เป็นพ่อของลูกอยู่ตลอด เธอไม่ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้บิดามารดาฟัง เธอบอกแค่ว่าพิพัฒน์ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก จนความจำเสื่อม และเขาต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกนาน เธอจึงต้องกลับมาอยู่กับท่านทั้งสอง มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสาเข้าใจลูกสาวและลูกเขยเป็นอย่างดี “หลานชายของแม่คงจะแข็งแรงน่าดูเลย คริคริ ดีใจจังเลย จะได้เป็นคุณยายแล้ว”มาดามริสาทั้งตื่นเต้นและมีความสุข“
ตอนที่ 42 สำนึกผิด“ซาร่า! อย่าไป ซาร่ากลับมาก่อน!”(พรึ่บ)พิพัฒน์เอาแต่นอนละเมอ เรียกหาเมียรัก และสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก“อื๊อ...คุณอาละเมอหรือครับ”ภาคินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เพราะเขาเองก็เพิ่งหลับไป และต้องตื่นตอนที่ได้ยินเสียงของพิพัฒน์“ซาร่า ซาร่าไปไหนแล้ว เมียของอาหายไปไหน ไปตามซาร่ามาหาอาหน่อยสิภีม”พิพัฒน์พยายามมองหาเมียรักของเขา ภาคินรีบลุกจากโซฟาเดินเข้ามาหาคุณอาของเขา“อาพัฒน์ว่าไงนะครับ”“ซาร่าไปไหน ทำไมไม่กลับมาหาอา เมียของอาไปไหน”“ใจเย็นๆนะครับคุณอา คุณอาจำผมได้แล้วใช่ไหมครับ”พิพัฒน์จ้องหน้าภาคินทันที“แกพูดอะไรของแกวะไอ้ภีม ทำไมอาจะจำไม่ได้ แกมันก็เป็นหลานชายของอาไง เมื่อก่อนแกก็ตามจีบเมียอา หมั่นไส้ ไอ้หลานบ้านี่”“ฮ่าๆๆ คนแก่จำได้แล้วโว้ย!”ภาคินหัวเราะดังลั่นห้อง“ว่าใครแก่วะ อายังไม่แก่นะเว้ย”“นั่งอยู่ตรงนี้นะครับ ผมจะไปตามคุณหมอ”ภาคินรีบเดินออกจากห้อง เพื่อไปตามแพทย์เจ้าของไข้แพทย์หนุ่มพูดคุยและตรวจอาการพิพัฒน์โดยละเอียด พิพัฒน์ตอบคำถามได้ทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะถามหาเมียรักของเขาอยู่แบบนั้น“คนไข้หายเป็นปกติแล้วนะครับ แต่เรื่องของแขนด้านซ้าย อย่าเ
ตอนที่ 41 ซาร่าจากไปพร้อมกับลูกในท้องพิพัฒน์เอาแต่นอนซึม เมื่อรู้ว่าลลิสาไปจากเขาแล้ว ทุกๆครั้งที่ตื่นมา เขาจะเจอเธออยู่ข้างๆตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ผู้หญิงที่คอยดูแลเขา ผู้หญิงที่คอยป้อนข้าว คอยเช็ดตัว และคอยเอายาให้เขาทานทุกวัน “คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะพี่ภีม พลอยไม่ได้มาเยี่ยมสองวัน คุณพ่อดีขึ้นหรือเปล่า ”แพรพลอยเดินทางมาเยี่ยมบิดาของเธอในเช้าวันเสาร์ และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง แอนนี่คอยติดตามเธอมาตลอด“ก็ตามที่เห็น ดูเอาสิ”ภาคินตอบกลับ แพรพลอยมองดูบิดาที่กำลังนอนหน้าเศร้าไม่สนใจใคร“คุณพ่อไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมดูซึมๆ”เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของบิดา“ตัวก็ไม่ร้อนนี่ แต่ทำไมถึงดูเหมือนคนเป็นไข้ล่ะ คุณหมอมาตรวจหรือยัง หมอบอกหรือเปล่าว่าคุณพ่อเป็นอะไร”เธอหันไปถามภาคินที่กำลังนั่งก้มหน้าเล่นมือถือ ที่ภาคินต้องทำแบบนั้น เพราะเขาไม่อยากจะใส่ใจแพรพลอยอีกแล้ว“หมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรนี่ สงสัยจะเป็นไข้ใจละมั้ง”“ไข้ใจอะไรกัน”“ก็ตั้งแต่ซาร่าไปจากที่นี่ คุณอาก็ไม่ยอมทานข้าว เอาแต่นอนซึมเหมือนที่เห็นนั่นแหละ”“ฮะ ยัยซาร่าไปแล้วเหรอ ไปไหน”แพรพลอยทำหน้าฉงน“ไปอิตาลีไ