ที่ออฟฟิศชั้นล่าง แม้ยังเช้าอยู่ แต่พนักงานบางก็ส่วนเริ่มมาทำงานกันบ้างแล้ว
“มาแต่เช้าเชียวหนูมุก”
เสียงทุ้มนุ่มเย็นอย่างผู้ใหญ่ใจดีของวัลลภ ผู้รับผิดชอบด้านบัญชีของ GB เอ่ยทักเลขารุ่นลูกอย่างเป็นกันเอง
“ถ้ามาเช้าจริงๆ คุณอาคงไม่ต้องเดินออกมาชงกาแฟดื่มเองอย่างนี้หรอกค่ะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม เรียกเสียงหัวเราะน้อยๆ จากบุรุษวัยใกล้เกษียณ เมื่อรู้ว่าถูกเลขาสาวย้อนเข้าให้
“ฮ่าๆๆ จริงๆ เอาเป็นว่าอย่างน้อยๆ เราก็มาเช้ากว่าพนักงานคนอื่น และขยันๆ อย่างหนูมุกนี่ ลูกชายคนแรกยกให้เลยเอาไหม จะได้มาเป็นลูกสะใภ้ของอาไง”
“ขอบคุณล่วงหน้าเลยแล้วกันค่ะ แต่ถ้าจะให้รอน้องนนท์ มุกคงแก่หง่อมก่อนพอดี” เธอนึกถึงใบหน้าขาวๆ แก้มยุ้ยๆ ของน้องนนท์แล้วก็ต้องอมยิ้ม น้องนนท์ของคุณอาเพิ่งจะสิบขวบเท่านั้นเอง
“ท่าจะจริงอย่างที่หนูมุกว่า ทำไงได้ล่ะ เพิ่งมามีลูกหลงเอาตอนแก่ก็อย่างนี้แหละ ชาตินี้จะได้อุ้มหลานหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“โธ่คุณอาละก็ ไม่จริงหรอกค่ะ คุณอายังหล่อเฟี้ยวขนาดนี้มีน้องให้น้องนนท์อีกคนสองคนยังไหวค่า”
“ฮ่าๆๆ ขอให้จริงเถอะหนูมุก ขอให้จริง”
วัลลภเอ่ยทิ้งท้าย ก่อนจะเดินเข้าห้องด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงคำยกยอของเลขาสาว เกล็ดมุกมองตามร่างเจ้านายด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
ระหว่างนั้นเสียงเพลงจากมือถือเครื่องบางก็ดังขึ้น ไม่บอกก็รู้ว่าใครโทรมา เพราะเสียงเรียกเข้าเพลงนี้เธอจำได้ขึ้นใจ
“นึกว่าคุณป๋าลืมลูกสาวคนนี้ซะแล้ว” เธอส่งเสียงอ้อนไปยังปลายสาย
‘ใครว่า หนูต่างหากล่ะ ป่านนี้คงลืมป๋ากับพี่เมฆแล้ว’ คนปลายสายทำเสียงเง้างอนกลับมา
“โอ๋ๆ อย่างอนสิคะ อีกไม่นานมุกก็กลับไปอยู่บ้านให้คุณป๋าเลี้ยงแล้ว”
‘ขอให้จริงเถอะ ป๋าเสียใจจริงๆ ที่ยอมให้หนูทำแบบนี้ ตาเมฆเองยังเคืองป๋าไม่หาย แล้วตอนนี้ป๋าใกล้จะได้ต้อนรับว่าที่ลูกเขยหรือยังล่ะ นี่มันจะครึ่งปีแล้วนะคนสวย’
“ยังเลยค่ะ คุณวาใจแข็งเป็นหินจนหนูเล็กชักท้อแล้ว บางทีหนูเล็กอาจจะกลับไปอยู่บ้านเร็วกว่ากำหนดก็ได้นะคะ”
‘โธ่เอ๋ย...ลูกรัก ถ้าเขาจะโง่จนมองไม่เห็นความรักของหนู แล้วหนูจะทนไปทำไมลูก ลูกสาวป๋าทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งเก่ง จบปริญญาโทจากเมืองนอกเมืองนา ป๋าพาออกงานสังคมสักรอบสองรอบ ขี้คร้านหัวกระไดบ้านจะไม่แห้ง’ คนปลายสายบอกบุตรสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“โอย...ไม่ไหวหรอกค่ะ รู้ๆ กันอยู่ว่าหนูเล็กไม่ชอบไปงานแบบนั้น ที่สำคัญหัวใจของหนูเล็กมีเจ้าของแล้วนะคะ คุณป๋าชอบทำเป็นลืมอยู่เรื่อย”
‘จ้าๆ ลูกรัก ป๋าไม่เคยลืม แต่หนูก็ห้ามลืมเหมือนกันนะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ป๋าจะยอมให้หนู และถ้าป๋ารู้ว่าผู้ชายคนนั้นทำร้ายหนูแม้แต่ปลายก้อย หนูคงรู้นะ ป๋าคงไม่อยู่เฉยแน่ๆ สัญญาของเราใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว หนึ่งปีก็คือหนึ่งปีไม่มีการผ่อนผัน ถ้ามันจะเจ็บ วันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องเจ็บ เตรียมใจไว้บ้างนะลูกนะ’
“ค่ะ หนูเล็กจะทำให้ได้ ไม่ว่าครึ่งปีหลังจากนี้จะเป็นยังไง หนูเล็กก็จะยอมรับมัน ขอบคุณนะคะคุณป๋า ที่ยอมให้หนูเล็กทำเรื่องสิ้นคิดอย่างนี้ หนูเล็กรักคุณป๋านะคะ”
เกล็ดมุกน้ำตาซึม เมื่อความรักและความห่วงใยที่บิดามีให้ มันกำลังบีบคั้นจิตใจของลูกสาวอกตัญญูเช่นเธอ
‘ป๋าก็รักลูก หากครึ่งปีหลังจากนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่หนูหวัง ก็ให้ถือเสียว่าที่หนูได้ทำไปทั้งหมด เป็นการตอบแทนที่เขาเคยช่วยชีวิตหนูไว้ในคราวนั้นก็แล้วกันนะ’
คนปลายสายเอ่ยปลอบอย่างปลงๆ หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างรักแรงเกลียดแรงจนพ่อคนนี้ชักกลัวใจ แม้แต่บุตรสาวที่แสนดีนักหนา หล่อนยังกล้ามาขอในสิ่งที่คนเป็นพ่อได้ฟังแล้วแทบกระอัก
ใช่...บุตรสาวท่านร้องขอไปเป็น ‘เมียเก็บของวาคิม’
“ค่ะ อืม...วันนี้ต้องวางสายแล้วค่ะ”
‘ได้ๆ’
“หนูเล็กรักคุณป๋านะคะ..”
“จ้า...ป๋าก็รักลูกนะ”
คนเป็นลูกวางสายบิดาอย่างหนักอกหนักใจ ความรักและห่วงใยยังวอยวนในอก ริมฝีปากอวบอิ่มเผยยิ้มเหยียดหยันตัวเอง ไม่เห็นหนทางเลยสักนิดที่วาคิมจะมารักนางบำเรอไร้ค่าคนนี้ ครึ่งปีที่ผ่านมาเธอมีค่าแค่เครื่องรอรับความใคร่บนเตียง หวังลมๆ แล้งๆ ว่าสักวันเขาจะมอบหัวใจมาให้ ทว่าจนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเป็นเช่นนั้นเลย
เกล็ดมุกจำต้องหยุดความคิดเรื่อยเปื่อยในเรื่องเดิมๆ ลงเพียงเท่านั้น เมื่อเสียงอินเตอร์คอมดังขึ้น เธอรวบรวมเอกสารที่เตรียมไว้แต่เย็นวาน เพื่อเอาเข้าไปให้เจ้านายใจดีที่ได้สั่งตามสายมาเมื่อครู่
___________________
เหมืองวารินทร์ กาญจนบุรี
เช้าวันนี้ เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายจากกลุ่มขี้เมาประจำเหมือง กำลังรบกวนโสตประสาทของสตรีมากวัยอย่างหนักหน่วง นางน้อม แม่นมร่างท้วม จำต้องลุกจากเก้าอี้หวายตัวโปรดเพื่อมายืนสังเกตการณ์ที่หน้าเรือน สายตาที่เริ่มฝ้าฟางเพ่งไปยังแคร่ไม้ไผ่ที่มีนายเหมืองของนางนั่งอยู่ด้วย ใครบางคนกำลังถูกหามออกจากวงเหล้ามุ่งตรงมายังเรือนของนาง
“นึกว่าวันนี้จะรอดแล้วเชียว” นางน้อมบ่นอย่างระอา เมื่อแลเห็นร่างกำยำสูงใหญ่ของนายเหมืองถูกหิ้วปีกมาแต่ไกลๆ
“ป้าโนมคร้าบ เอื๊อก! โผม...อาวนายมาโส่งคร้าบ! เอื๊อก! กองไว้หนายดี” คนเมาถามเสียงอ้อแอ้ ใจนั้นอยากกองเจ้านายไว้ที่หน้าบันไดเรือนให้รู้แล้วรู้รอด จะได้รีบกลับไปหาเมียเสียที
“ชิชะ! ไอ้แสง นั่นนายแกนะจะกองไว้ได้ยังไง โน่น! เอาขึ้นเรือนไปโน่น เดี๋ยวข้าจะไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้เอง” นางน้อมเท้าสะเอวสั่งเสียงดังยิ่งกว่าขี้เมา ศีรษะที่มีเส้นผมสีดอกเลาส่ายไปมาอย่างสุดจะทน วันหยุดทีไรได้เมาหยำเปทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง
ขันเงินใบใหญ่ใส่น้ำเย็นจัดพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กถูกประคองด้วยมืออวบๆ ของแม่นมที่นายเหมืองหนุ่มเคารพนักหนา เสียงอ้อแอ้ของนายแสงหัวหน้าคนงานและลูกน้องอีกสองคนที่มาด้วย ค่อยๆ ไกลออกไป แสดงว่าพวกเขาคงลงเรือนไปนานแล้ว
“ทีอย่างนี้ละไปไวนัก นี่ก็อีกคน อีตอนกินก็ไม่ได้สนับสนุน พอตอนเมากลับมาต้องเป็นภาระคนแก่ทุกที” นางน้อมเอ็ดอึงอย่างระอา
“โผม...เอื๊อก! โสงสารหนูเล็ก...โผมจาฆ่าไอ้วาคีม เอื๊อก! ที่มานไม่ล้ากน้องสาวโผม เอื๊อก!”
นมน้อมส่ายหน้าอีกครั้ง นึกเห็นใจคนเมาที่ยังทำใจเรื่องน้องสาวไม่ได้ ความจริงมันก็ปาเข้าไปครึ่งค่อนปีแล้ว ที่นายน้อยอีกคนของนางได้กระทำในสิ่งที่คนในครอบครัวล้วนแต่ปวดใจ ยิ่งนายเหมืองด้วยแล้วเขาแทบอยากจะฆ่าผู้ชายคนนั้น ค่าที่มันไม่รักน้องสาวของตน
ใบหน้าคมคายภายใต้หนวดเครารกครึ้มของนายเหมืองหนุ่ม ปรากฏร่องรอยของความผิดหวังเสียใจ แม้ยามนิทราหลับใหล หัวคิ้วเข้มของเขาก็ยังขดเป็นปม อีกครั้งแล้วที่ชายหนุ่มใช้น้ำเมาเพื่อดับความขุ่นข้องหมองใจอันเกิดจากน้องสาวที่รัก
“เฮ้อ...คุณท่านนะคุณท่าน ไม่รู้ไปยอมอะไรคุณหนูเล็กนักหนา ไม่เห็นแก่วิญญาณคุณแม้นบ้างเลย” นางกล่าวโทษเจ้าสัวใหญ่ที่ตามใจลูกสาวจนเคยตัว หากวันนี้นายผู้หญิงยังอยู่ ไม่มีทางเสียล่ะที่นายน้อยเกล็ดมุกจะได้ทำเรื่องน่าอับอายอย่างนั้น
นมน้อมทอดถอนใจเช่นทุกครั้งเมื่อนึกถึง ขณะที่มือทั้งสองยังถือผ้าหมาดๆ เช็ดเนื้อตัวให้คุณชายของนางจนเสร็จเรียบร้อย แม้ว่าจะเช็ดไปบ่นไป ถอนหายใจไปสักกี่รอบก็ตาม
_________________
เมฆา ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนใกล้รุ่ง สมองเขาหนักอึ้งและเหมือนจะระเบิด เขาเดินโผเผออกมาหาเหล้าจิบสักอึกแก้เมาค้าง มันช่วยได้มากทีเดียว จิบเหล้าเสร็จก็กลับเข้าห้อง ปีนขึ้นเตียงหมายจะนอนเอาแรง ทว่าความแค้นที่มีอยู่ในอกมันก็ทำให้เขาหลับไม่ลง ไอ้เลววาคิมมันยังคงเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง มันยังไม่ยอมรับความรักจากน้องสาวของเขา เขารู้ว่าเรื่องความรักมันบังคับกันไม่ได้ แต่พอรับรู้สิ่งที่เกล็ดมุกทุ่มเทลงไปแล้วเขาก็อดสงสารน้องไม่ได้เช่นกัน
“ทำไมแกถึงใจแข็งอย่างนี้วะ คอยดูเถอะ ถ้าแกทำให้หนูเล็กต้องเสียน้ำตาละก็ ฉันไม่ปล่อยแกแน่!” เมฆาคำรามลั่นห้อง ผุดลุกขึ้นนั่งแล้วดึงลิ้นชักข้างเตียงออก หยิบซองเอกสารสีน้ำตาลซองหนึ่งออกมาดู ในนั้นมีภาพครอบครัวของวาคิมอยู่หลายภาพ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ถูกพิมพ์ลงในกระดาษ เขาได้มาจากนักสืบที่สั่งให้ไปสืบตั้งแต่ที่เกล็ดมุกมาบอกว่าจะไปอยู่กับมัน เขาจะไม่สนใจมันหรอกหากมันจะไม่ใช่ผู้ชายที่เกล็ดมุกรัก และน้องสาวของมันจะไม่สะดุดตาเขา
“วารินทร์! เธอชื่อวารินทร์งั้นเหรอ เมื่อไหร่เธอจะกลับมานะ ฉันชักอยากเจอแล้วสิ หึๆๆ” เมฆาหัวเราะเจ้าเล่ห์ มองรูปใบหนึ่งอย่างพิจารณา มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในรูปถ่ายใบนั้น หน้าตาจัดว่าสะสวย แม้ไม่เท่าเกล็ดมุกก็ตาม ใบหน้าหวานรูปไข่รับกับดวงตาอันสดใส จมูกโด่งรั้นกับพวงแก้มแดงระเรื่อ มันถูกใจเสียจริง ยิ่งริมฝีปากอวบอิ่มนั่นก็ยิ่งถูกใจ อยากจุมพิตมันสักหนจะได้รู้ว่ามันหวานจริงหรือเปล่า
“ถ้าพี่ชายเธอกล้าทำร้ายน้องสาวฉันแม้แต่ปลายก้อยละก็ มันเจ็บแน่! แต่เธอไม่ต้องกลัวหรอกนะวารินทร์ ฉันไม่ทำร้ายมันหรอก แต่ฉันจะทำเธอแทน เตรียมตัวเอาไว้เถอะ เตรียมตัวไว้ให้ดีๆ หึๆๆ”
เมฆายิ้มร้าย ในใจวางแผนบางอย่างอย่างมุ่งมั่น และเฝ้ารอวันที่วารินทร์จะกลับจากต่างประเทศ ให้ตายเถอะ! เขาแทบจะรอวันนั้นไม่ไหว!
________________
เกล็ดมุกกระแซะร่างเปล่าเปลือยของตนเข้ากับผ้านวมผืนหนา เมื่อความเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ไอเย็นกระทบผิวอ่อนบางของเธอ อาการขยุกขยิกทำเอาคนที่นอนข้างๆ รู้สึกตัว มือหนามิวายควานหาร่างนุ่มนิ่มนั้นมาแนบอก ความอบอุ่นจากร่างอรชรที่เขาได้กอดอยู่ทุกวันไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง เพราะมันอุ่นซ่านเข้ามาถึงในหัวใจ
เกล็ดมุกรับรู้ถึงมือใหญ่ที่ดึงร่างตนเข้าไปกอด เธอลืมตาในแสงสลัว แอบยิ้มให้กับความอ่อนโยนอันเล็กน้อยนั้น
“วันก่อนคุณถามมุกว่าวันเกิดอยากได้อะไร จำได้ไหมคะ” ทวนความจำเขาเสียงอู้อี้ เนื่องจากริมฝีปากอยู่ชิดแผงอกกว้างของเขา
“ฉันไม่ใช่คนขี้ลืม” เขาตอบสั้นๆ ตามแบบฉบับคนพูดน้อยแต่ชัดเจน เมื่ออดใจไม่ไหวก็จุมพิตกระหม่อมบางของคนในอ้อมกอดไปหนึ่งที ทั้งที่โดยปกติไม่มีหรอกที่คู่นอนของเขาจะได้รับเกียรตินี้ คงเป็นเพราะเกล็ดมุกพิเศษกว่าคนอื่น โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง หล่อนหัวไว เอาอกเอาใจเก่ง ออดอ้อน และร้อนแรงได้ในคราวเดียว เป็นลูกศิษย์ที่น่ารักน่าใคร่ น่าปรารถนาสำหรับครูอย่างเขาคนเดียวเท่านั้น
เขาขยับหาพวงแก้มใสแล้วจูบหนักๆ ไปหนึ่งทีค่าที่มันหอมยั่วใจนัก หารู้ไม่ว่ากำลังเสพติดกลิ่นกายของสาวเจ้าโดยไม่รู้ตัว
“มุกไม่อยากได้ของขวัญ มุก...อยากได้เวลาของคุณ ให้มุกได้ไหมคะ”
ไม่มีคำตอบจากคนที่ถูกถาม บางทีเขาอาจกำลังคิดว่าคำขอของเธอพิกลนัก และคงจะให้ไม่ได้
“ช่างเถอะค่ะ มุกคงขอมากไป รีบนอนดีกว่านะคะ พรุ่งนี้คุณต้องกลับบ้านนี่นา” เอ่ยตัดบทอย่างหงอยๆ พลิกกายหันหลังให้ชายหนุ่มแล้วแกล้งหลับทันที
วาคิมก็ส่ายหัวให้อย่างระอา ผู้หญิงหนอผู้หญิง กี่คนต่อกี่คนก็ไม่ได้แตกต่างกันสักนิด คิดเองเออเอง เอาแต่ใจตัวเองเหมือนกันทุกคน
เขาปล่อยให้เกล็ดมุกนอนหันหลังอยู่อย่างนั้น ให้หล่อนจ่อมจมทะเลน้ำตาเสียให้พอ ในความรู้สึกของเขา เกล็ดมุกก็เป็นเพียงเมียเก็บ นางบำเรอ หรือแค่คู่นอน ไม่ใช่แม่ของลูกที่เขาต้องเอาใจใส่ดูแล
เขาพยายามไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนที่นอนข้างๆ ไม่แคร์ ไม่สน ทว่าก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนิทราไปจริงๆ ผ้านวมผืนหนาก็ถูกดึงมาคลุมกายให้หล่อน แม้ว่าเขาจะหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น และทำไมต้องทำมัน...ทุกคืน
ส่งท้ายบ่ายโมงวันอาทิตย์ฝนกำลังตกกระหน่ำอยู่นอกตัวตึกบริษัทเพิร์ล กวินถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย เฝ้ามองหยาดพิรุณที่ตกกระทบผนังกระจกอย่างเหนื่อยหน่าย เขาอยู่ในห้องทำงานของวาคิม กำลังรอการมาถึงของใครบางคนด้วยใจจดจ่อ เอกสารแฟ้มไม่หนาไม่บางกำลังรอลายเซ็นของคนสำคัญ เขาจะไม่เหนื่อยหน่ายหากว่าไม่ได้นั่งรอเจ้าหล่อนมาตั้งแต่เช้าถ้าเจ้านายที่เคารพไม่สั่งไว้ก่อนพาเจ้าสาวหมาดๆ ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันอีกรอบที่ต่างประเทศละก็ จ้างให้เขาก็ไม่มารอเจ้าหล่อนหรอก นี่มันวันอาทิตย์นะ เขาควรจะได้พาลูกกลับบ้านที่ ‘เกาะปันรัก’ ไม่ใช่มาอยู่โยงรอคนที่ไม่รักษาเวลา“ปะป๊า! มีนอยากกินชูชิ” หนูน้อยวัยสี่ขวบหน้าตาน่ารักน่าชังบอกบิดาด้วยสำเนียงที่คิดว่าชัดเจนที่สุด“ขออีกห้านาทีลูก ถ้าเธอยังไม่มาปะป๊าจะพาไป”กวินบอกบุตรชาย ‘มีนา’ ติดอยู่ที่นี่กับเขาตั้งแต่เช้า เขาน่าจะฝากลูกไว้กับคุณหญิงวารี ไม่น่าพามาด้วยเลย“ป๊าลอใค?” หนูน้อยถามอีก“รอคุณแพรวรุ้ง” กวินตอบวาคิมเห็นว่าฝ่ายแพรวรุ้งเสียหน้าที่เขาแต่งงานกับเกล็ดมุก ทั้งที่ข่าวก่อนหน้านั้นออกไปว่าเขาและแพรวรุ้งกำลังจะหมั้นกัน วาคิมเลยขอไถ่โทษด้วยการเสนอให้สาวเจ้ามาเป็
[24]ด้วยรักและเข้าใจ____________“นายเหมือง! อย่ามาผิดคำพูดนะ ไหนบอกว่าจะพาไปเที่ยวไง!”วารินทร์ค้อนฟ้าค้อนลมไปหลายยก เมื่อสามีผู้เอาแต่ใจผูกขาดการอยู่บนเตียงมาตั้งครึ่งค่อนวัน แทนที่วันหยุดจะได้เที่ยวบ้างอะไรบ้าง“อือ...ขอพักเหนื่อยหน่อยจ้ะเมียจ๋า เมื่อคืนนายเหมืองใช้แรงงานมากเกินไปเลยหมดแรง” ตอบกลับหน้าทะเล้น แต่ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ“จะไปไหนฮึ ท้องฟ้ามันเป็นใจให้น่านอนขนาดนี้” เขาว่าแล้วรวบร่างน้อยไปล้มตัวลงนอนอีกครั้ง“แดดเปรี้ยงอย่างนี้เหรอที่ว่าเป็นใจ อย่ามาล้างสมองนะ น้องวาอยากว่ายน้ำจะตาย มันร้อน น่านะ พาไปหน่อย”“ฮั่นแน่ เมียเราอยากไปรำลึกความหลังหรือจ๊ะ”เมฆาแกล้งเย้า“บ้า! ใครเขาจะอยากนึกถึงความหลังบ้าบอ”ใบหน้าสวยจืดเจื่อน เมื่อความหลังที่ว่ามันไม่ได้มีเพียงเรื่องชวนวาบหวิวเพียงเรื่องเดียว แต่มันมีทั้งคราบน้ำตาและวาจาที่เชือดเฉือนจิตใจให้เจ็บช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“โอ...ไม่นะวารินทร์ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นนะที่รัก ฉันไม่อยากให้เธอคิดถึงมันอีก ฉันขอโทษ ฉันสำนึกผิดแล้ว อย่าจมอยู่กับอดีตเลย ฉันขอร้อง ได้โปรดอยู่กับฉัน อยู่กับปัจจุบัน อย่าคิดถึงมันอีกเลย อย่าลงโทษฉั
[23]เพราะเรารักกัน______________วาคิมเร่งฝีเท้าเข้ามาด้านในเพียงเพื่อจะพบต้นตอที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่กำยำของบอดี้การ์ดหัวทองกำลังโอบประคองภรรยาของเขาอย่างถือสิทธิ์“วางเธอลงเดี๋ยวนี้โทนี่ คราวหน้าฉันจะตัดมือแกทิ้ง ถ้ากล้าแตะคุณหนูของแกอีก”เสียงกร้าวร้องสั่ง โทนี่ตีหน้าขรึมใส่ เขาอยากจะปล่อยร่างนายสาวลงเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็เกรงว่าสาวใช้ร่างบอบบางจะทานน้ำหนักไม่ไหวเลยต้องประคองเอาไว้“เกรงว่าตอนนี้คุณหนูคงอยากให้ผมแตะมากกว่าคุณ” โทนี่ประชดวาคิมตีหน้ายักษ์ใส่เพราะจนใจในการโต้เถียง เขาช้อนร่างอ่อนปวกเปียกให้พ้นจากวงแขนของบอดี้การ์ดมาดเข้ม ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของเกล็ดมุกช่างบีบคั้นหัวใจอย่างที่สุด หล่อนคงเสียใจที่เขาก้าวออกไปพร้อมๆ กับฟ้ารุ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาอยากให้หล่อนรับรู้เหตุผลที่เขาต้องทำอย่างนั้นว่าที่คุณพ่ออุ้มว่าที่คุณแม่ขึ้นห้องนอน เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างเบามือ สั่งสาวใช้ให้หาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้ ก่อนจะไล่ทุกคนออกไป ด้วยต้องการอยู่กับหล่อนตามลำพัง“ได้โปรดเถอะมุก ช่วยตื่นขึ้นมาฟังผมที ผมขอร้อง”วาคิมพึมพำขณะไล้ผ้าหมาดๆ เช็ดแก้มนวลอย่างทะนุถนอมครื
ฟ้ารุ่งเดินอ้อมโต๊ะไปหาเกล็ดมุก วาคิมมัวแต่นั่งอึ้งเมื่อเห็นอดีตแฟนเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เมื่อก่อนหล่อนออกจะเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ตอนนี้ทำไม...“โทนี่!” เกล็ดมุกร้องเรียกบอดี้การ์ดของบิดาที่ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆบอดี้การ์ดมาดเข้มวิ่งมาอย่างไว พริบตาเดียวก็ควักปืน .357 ออกมาวางใส่มือให้เจ้านาย เป็นจังหวะเดียวกับที่ฟ้ารุ่งกำลังจะฟาดฝ่ามือใส่แก้มของเกล็ดมุก ซึ่งผลของมันนั้นทุกคนย่อมรู้ดี แขนเรียวของเจ้าหล่อนค้างเติ่งกลางอากาศ เกล็ดมุกจ่อปืนเข้าที่กลางหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างคล่องมือวาคิมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขารู้ดีกว่าใครว่าเกล็ดมุกใช้ปืนเป็น!เกล็ดมุกยิ้มเยาะ รู้ว่าตัวเองเหนือกว่าเห็นๆ“มาหยามกันถึงถิ่นขนาดนี้ จะให้กลับไปแบบตอนขามามันก็ยังไงๆ อยู่ วันนี้ให้แกงจืดเป็นของฝาก ถ้ากล้ามาอีกละก็ ฉันจะให้ลูกตะกั่ว สนไหมล่ะ คุณฟ้ารั่ว!”“กรี๊ด! อีบ้า! อีโรคจิต! วา! ช่วยฟ้าด้วยเมียคุณจะฆ่าฟ้า ฮือออ...”ฟ้ารุ่งตะเบ็งเสียงแปดหลอดร่ำร้องขอความช่วยเหลือจากวาคิม ชายหนุ่มลุกมาหาสองสาว ใจคอไม่ดี ไม่อยากให้เกล็ดมุกถือปืน หล่อนท้องอยู่นะ ปืนผาหน้าไม้ไว้ใจได้ที่ไหนปัง!กระเบื้องปูพื้นลายสวยเป็นรูโบ๋ตรงกลา
คฤหาสน์หลังงามดูเงียบเหงาเมื่อเธอโดนคำสั่งข้ามประเทศจากเจ้าสัวว่าให้งดการเข้าบริษัท หากยังไม่หายแพ้ท้องดี นั่นทำให้เธอต้องมานั่งจับเจ่าอยู่บนเตียงกว้าง ทั้งนอนเกลือกกลิ้งมากว่าสองชั่วโมงแล้วก๊อกๆๆ“คุณหนูเล็กคะ อาหารเที่ยงเสร็จแล้วค่า”เสียงสาวใช้บอกมาที่หน้าประตู เกล็ดมุกลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เนื่องจากว่าเธอยังอยู่ในชุดนอนตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้สามีเจ้าปัญหาบอกว่าจะมาทานข้าวเที่ยงด้วย แต่ตอนนี้ปาเข้าไปจะบ่ายโมงแล้ว เธอคงจะหิ้วท้องรอหรอกเกล็ดมุกเดินลงมาชั้นล่างด้วยความกระปรี้กระเปร่า การได้อาบน้ำเย็นๆ ช่วยให้เธอสดชื่นขึ้นทันตา เธอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร วินาทีเดียวกันนั้น เสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านก็ทำให้เธอต้องชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างกระจกด้วยความใคร่รู้“เสียงรถใครน่ะ ไปดูทีซิ ใช่รถคุณวาหรือเปล่า”สาวใช้ยังไม่ทันได้ออกไปพ้นประตูดี เจ้าของรถยนต์เสียงแปลกหูก็เดินนวยนาดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ“สวัสดีค่ะคุณมุก แหมๆๆ กลับมาไม่บอกกันบ้างเลยนะคะ”เสียงหวานหยดเอ่ยถามแกมหยอกเย้า ราวกับว่าสนิทกันมาแรมปี เกล็ดมุกหน้าตึง นี่ถ้าเธอไม่รู้ว่าหล่อนคนนี้เป็นใคร ป่านนี้คงยังโดนหลอกไม่เลิก ก็สาว
[22]ปรับความเข้าใจ__________วาคิมใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงในการขับรถกลับจากหัวหิน และตอนนี้เขาก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลเฉินเป็นที่เรียบร้อย เขาพ่นลมหายใจทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกังวล ไม่รู้จะแก้ตัวเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี หรือว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดความจริงเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ สะกิดใจเกล็ดมุก เธออยู่ในห้องอาหาร มีสาวใช้คอยปรนนิบัติพัดวีราวเจ้าหญิง เธอเพิ่งกลับมาถึงที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงและยังไม่มีแก่ใจจะรับแขก“ไปดูทีว่าใครมา ถ้าแขกของป๊าบอกให้เขามาวันหลังนะ”เกล็ดมุกสั่งสาวใช้ ปากน้อยๆ กำลังแทะเล็มเม็ดมะม่วงที่ตอนนี้เหลือแต่แกนเปล่าๆ“ค่ะ คุณหนูเล็ก” สาวใช้ร่างผอมขานรับ รีบเดินแกมวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ แต่ยังไปไม่ถึงด้านหน้าดีด้วยซ้ำ ผู้มาเยือนก็เข้ามาถึงด้านในเสียก่อน“มีอะไรก็ไปทำเถอะ”คุณหนูเล็กสั่งอีกครั้ง สาวใช้รีบหลบฉากเข้าครัว“กลับมาทำไมไม่บอกผมบ้าง รู้หรือเปล่าว่าทำให้ผมเป็นห่วงแค่ไหน”เกล็ดมุกไม่อนาทรร้อนใจต่อคำกล่าวหานั้น ยังคงนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวานต่อไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว“ผมถามทำไมไม่ตอบ!” วาคิมขึ้นเสียง อารมณ์เดือดปุดๆ เขาอุตส่าห์เป็นห