วันถัดมา
คุณหญิงวารีฉีกยิ้มกว้างด้วยความพออกพอใจเมื่อเห็นข่าวในเพจซุบซิบดาราบนสมาร์ตโฟนที่นางถืออยู่ มิเสียแรงที่นางเลี้ยงดูปูเสื่อนักข่าวอย่างดี ภาพเด่นเห็นชัดเจนอย่างนี้ช่างคุ้มค่าจริงๆ ในภาพนั้นมีบลูกชายนางกำลังตระกองกอดแพรวรุ้งแนบแน่นยามเดินออกมาจากผับไฮโซแห่งหนึ่ง ตามด้วยคำบรรยายใต้ภาพที่ถูกใจนางเหลือเกิน
‘หัวใจน้ำแข็งที่ว่าเย็นเยือกจับจิต ของบอสใหญ่แห่ง GB คงได้เวลาละลายจริงๆ แล้วคราวนี้ เพราะได้รับไฟรักที่อบอุ่นเข้าขั้นร้อนจัดของนางแบบสาวสุดเซ็กซี่นามว่า แพรวรุ้ง อิงแอบแนบชิดไม่ห่างกาย
เห็นทีว่าว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณหญิงวารี คงหนีไม่พ้นนางแบบสาวคนสวยแน่ๆ แต่งเมื่อไหร่อย่าลืมบอกกันบ้างนะคะ คุณแพรวรุ้งขา...’
“อ่านอะไรอยู่คะคุณหญิง อ้อ...ที่แท้ก็ข่าวลูกตัวเอง มิน่าล่ะถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รู้สึกยังไงบ้างละคะ เสียเงินเปย์นักข่าวไม่พอ ยังต้องมาเสียเวลาตามเช็กอีกว่ามีข่าวลูกชายหรือเปล่า มีความสุขมากไหมคะคุณหญิงเจ้าขา...”
ท้ายประโยคลากเสียงยาวจนคนฟังรำคาญ คนเป็นแม่ต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากบุตรสาว
“อย่ามาแขวะแม่แต่เช้าน้องวา ถึงยังไงวันนี้แม่ก็ไม่โกรธ เพราะว่าอารมณ์ดี”
คุณหญิงพูดแล้วอมยิ้ม คนแขวะเลยหน้ามุ่ยเพราะไม่ได้ดั่งใจ คุณน้องคนงามกะว่าจะได้เห็นหน้าเง้างอนของมารดาให้ได้ง้อแก้เซ็งเสียหน่อย เลยต้องมีอันพับเก็บความคิดนั้นไปโดยปริยาย
“หน้างออย่างนี้ยังหาเพื่อนไม่เจอใช่ไหมล่ะ...ให้กวินช่วยหาไหม เดี๋ยวแม่บอกพี่เขาให้” นางเสนอความคิด เพราะหากเป็นบุตรชายบุญธรรมของนางแล้วละก็ เรื่องเท่านี้ไม่เกินความสามารถของเขาแน่ๆ อีกอย่างนางชักรำคาญคุณน้องวาของบ้านเต็มทน เรียนจบตั้งแต่ปีที่แล้ว นางอุตส่าห์ผ่อนผันให้เที่ยวต่ออีกตั้งเกือบปี พอกลับมาแทนที่จะไปช่วยงานพี่ชายที่บริษัท แต่แม่ลูกสาวจอมขี้เกียจกลับลอยไปลอยมา อ้างว่าเหนื่อยบ้างละ ขอตามหาเพื่อนรักให้เจอเสียก่อนบ้างละ ไม่รู้ว่าแม่ตัวดีจะเล่นแง่ไปถึงไหน
“คุณแม่คะ รู้นะว่าแอบนินทาในใจ”
คุณหญิงค้อนวารินทร์ไปหนึ่งที นี่ละลูกสาวนางจริงแท้แน่นอนไม่มีหลอก รู้ทันนางตลอด
“น้องวาไม่อยากกวนพี่กวินนี่คะ รออีเมลจากเธออีกสักอาทิตย์ก็แล้วกันค่ะ ถ้าไม่เจอค่อยบอกคุณแม่อีกที”
“จะอะไรกันนักกันหนาลูก เพื่อนแค่คนเดียว”
“โธ่คุณแม่ขา...เพื่อนคนนี้รักมากๆ เลยนะคะ ตอนอยู่ที่อังกฤษถ้าไม่ได้เธอ น้องวาคงแย่ ทั้งซักผ้ารีดผ้าเอย ทำกับข้าวเอย ถ้าเธอไม่ช่วยสอน น้องวาจะทำเป็นที่ไหน คุณแม่ต้องรักเพื่อนคนนี้ของน้องวาให้มากๆ นะคะ เพราะว่าเธอช่วยทำให้สาวน้อยของคุณแม่ กลายเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมขนาดนี้” เยินยอเพื่อนสาวให้มารดาฟัง นัยน์ตาเป็นประกายวิบวับยามนึกถึงเพื่อนที่แสนดีอย่างเพิร์ล แม่เพื่อนรักสอนเธอจนชำนาญทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเข้าครัวทำกับข้าว หัวเธอมันไม่รับจริงๆ
“จ้าจ้ะ เชื่อแล้วว่าน้องวารับผิดชอบตัวเองได้ดีขึ้น ไม่ใช่เอะอะก็ร้องหาแต่พี่วาเหมือนแต่ก่อน แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ ภายในอาทิตย์นี้ถ้ายังหากันไม่เจอ ยังไงคุณน้องวาคนงามของแม่ ก็ช่วยย้ายหน้าสวยๆ กับสะโพกงอนๆ ของลูก เข้าออฟฟิศไปช่วยทำงานบ้างก็ดีนะคะ บางทีที่บริษัทลูกอาจจะได้พบเจ้าชายในฝันของลูกบ้าง ลูกค้าของพี่เขาหล่อๆ รวยๆ กันทั้งนั้น ลูกคงไม่อยากไปอยู่หมู่บ้านคานทองใช่ไหมลูก”
นางแขวะบุตรสาวคืน ในเรื่องที่เจ้าตัวขยาดสุดๆ นึกขอบคุณเพื่อนรักของบุตรสาวเป็นล้นพ้นที่ทำให้สาวน้อยจอมแก่นกลายเป็นสาวงามน่ารักน่าทะนุถนอมได้ถึงเพียงนี้
“โธ่...คุณแม่ เลิกพูดเรื่องนี้เลยนะ น้องวาจะอยู่กับพี่วากับคุณแม่ ไม่แต่งงานจริงๆ ส่วนเรื่องงานของบริษัท น้องวาก็ช่วยอยู่นะ ก็เพิร์ลเพื่อนน้องวา บ้านเธอทำเหมืองเพชรหรือว่าทำฟาร์มไข่มุกอะไรสักอย่างนี่แหละ น้องวาเลยอยากอุดหนุนเธอ แล้วคุณแม่คิดดูนะคะ บางทีน้องวาอาจจะซื้อเพชรพลอยดิบจากเพื่อนได้ถูกกว่าที่พี่วาซื้ออยู่ก็ได้ เห็นไหมคะ ว่าน้องวาทำงานอยู่”
คนสวยทำหน้าทะเล้นเมื่อยกแม่น้ำทั้งโลกมาหว่านล้อมมารดา แต่ใครเล่าจะรู้ว่า ความจริงก็คือคนสวยของบ้านขี้เกียจทำงานจริงๆ
“เหรอคะคุณลูก เหนื่อยบ้างไหมเวลาหาข้ออ้างเนี่ย เฮ้อ...ลูกสาวฉัน ว่าแต่บริษัทของเพื่อนลูกชื่ออะไรนะ”
“ชื่อ...คือว่า...ชื่อ...น้องวา น้องวาลืมถามค่ะคุณแม่” ตอบแล้วตีหน้าเศร้า
“เฮ้อ...แล้วเพื่อนลูกชื่ออะไรคะ เผื่อคุณหญิงคุณนายที่สมาคมจะพอรู้จัก”
“ชื่อเพิร์ลค่ะ ตัวเล็กๆ ขาวๆ ตาโตๆ นะคะคุณแม่”
คุณหญิงวารีส่ายหน้าทันทีที่ได้ฟัง นางหมายถึงชื่อที่มีนามสกุลห้อยท้ายด้วยต่างหาก เพราะถ้าเป็นนามสกุลของบรรดาคนรวยละก็ คุณหญิงคุณนายที่สมาคมช่วยได้แน่นอน
“แม่หมายถึงชื่อจริงค่ะลูก”
“อ๋อ...ชื่อเกล็ดมุกค่ะ เกล็ดมุกนามสกุล...นามสกุล? แหะๆ คือว่าน้องวาจำไม่ได้ค่ะ”
สุดท้ายวารินทร์ก็โดนมารดาค้อนให้วงเบ้อเร่อ โทษฐานเป็นยายแก่ขี้ลืมในเรื่องที่สมควรจำ
“โธ่...ลูกสาวแม่ สมองปลาทองไม่เคยเปลี่ยน ถามจริงๆ เถอะอย่าโกรธกันนะคะคุณลูกขา ปริญญาทั้งสองใบที่ได้มา พี่เขาแอบซื้อให้หรือเปล่าลูก แม่ละซึ้งใจจริงๆ งมเข็มในมหาสมุทรต่อไปก็แล้วกันนะคะ แม่ขอตัวไปหาว่าที่เจ้าสาวให้พี่เราก่อนก็แล้วกัน” พูดจบก็คว้าสมาร์ตโฟนติดมือเดินออกไป ทิ้งให้บุตรสาวนั่งหน้าเง้าอยู่เพียงลำพัง
วารินทร์ถอนหายใจอีกระลอกเมื่อลับร่างมารดา เธอไม่เถียงมารดาหรอกก็เธอมันสมองปลาทองจริงๆ นี่นา ถ้าตอนนั้นไม่ได้แม่พระผู้อารีอย่างคุณหนูเพิร์ลคนงามช่วยทำวิทยานิพนธ์ ป่านนี้เธอคงยังเรียนไม่จบ แต่เธอไม่มีทางบอกมารดาหรอก เพราะถ้าบอกไปคุณหญิงวารีคงได้ไล่เธอกลับไปเรียนอีกรอบแน่นอน
_________________
ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ก่อนถึงบริษัท GB
เกล็ดมุกปัดหน้าจอมือถือด้วยนิ้วอันสั่นระริก ภาพที่โชว์เต็มจอ แทบไม่ต้องเดาถึงความสัมพันธ์ของบุคคลทั้งสองในนั้น เธอเจ็บปวดกับความจริงที่ต้องเผชิญ เขาไม่เคยรักเธอเลย เธอมีค่าแค่ตอนที่อยู่บนเตียงเท่านั้น แค่คิดก็อยากจะอาเจียนให้กับความโง่งมของตัวเอง อยากจะหลอกตัวเองต่อไปอีกสักหน่อย แต่คงไม่มีวันนั้นแล้ว ในเมื่อเขาเปิดตัวผู้หญิงคนนั้นในฐานะสำคัญที่เธอไม่มีวันได้เป็น
โธ่เอ๋ย...ทำไมถึงเจ็บปวดอย่างนี้
วูบ!
“คุณมุก! คุณมุก! คุณมุกครับ!”
ร่างสูงใหญ่ของบอดี้การ์ดหนุ่ม พุ่งตัวเข้าไปรับร่างอรชรของหญิงสาว หล่อนเป็นลมล้มพับอยู่หน้าเคาน์เตอร์ในร้านกาแฟ ไม่รู้ว่าทันได้สั่งเครื่องดื่มหรือยัง เขารีบอุ้มผู้หญิงของนายกลับไปขึ้นรถ
“คุณมุกครับ คุณมุกครับ คุณ...” กวิน หยุดเรียกเมื่อเห็นดวงตาที่ปิดสนิทเริ่มขยับและเปิดขึ้นในที่สุด หล่อนยังคงนิ่งเงียบอยู่ที่เบาะหลัง เขาตัดสินใจจอดรถที่สวนสาธารณะใกล้บริษัท ให้หล่อนได้ผ่อนคลายสักนิด
“คุณกวิน มุก...มุก” เธอพูดไม่ออก รีบยันกายลุกขึ้นนั่งเมื่อรู้สึกถึงการปั่นป่วนในช่องท้อง
“น้ำครับ”
เมื่อเห็นอาการพะอืดพะอมของหญิงสาว บอดี้การ์ดหนุ่มก็รีบยื่นขวดน้ำส่งให้ ทว่าหล่อนไม่สนใจจะหยิบมัน แต่กลับเอื้อมมือไปผลักประตูรถออกอย่างแรง
“อุ๊บ! โอ้กกก!!!”
“คุณมุก!”
กวินรีบลงรถแล้วอ้อมมาดูอาการผู้หญิงของเจ้านาย หล่อนท่าทางไม่ดีเอาเสียเลย
เกล็ดมุกโก่งคออาเจียนอย่างไม่อายชายหนุ่มตรงหน้า ในใจก็เพียรถามตัวเองเป็นร้อยๆ ครั้งว่าป่วยด้วยสาเหตุอันใด ทำไมเป็นมาร่วมอาทิตย์แล้วจึงไม่หายสักที เธอเงยหน้าขึ้นมาสูดอากาศ เมื่อสิ่งที่รับประทานเข้าไปเป็นมื้อเที่ยง ถูกร่างกายขย้อนออกมาจนหมด
ทว่ากลับมีบางอย่างผิดปกติ เหตุใดสวนสวยที่อยู่รอบๆ จู่ๆ ก็หมุนคว้างเหมือนลูกข่างยักษ์ มันฉุดสติสัมปชัญญะเธอให้ดำดิ่งสู่หลุมอากาศดำมืด ไกลออกไป ณ ที่ใดสักแห่ง แว่วเสียงใครบางคนร้องเรียกชื่อเธอแต่มันช่างไกลเหลือเกิน ไกลมาก ไกลจนเธอไม่ได้ยินเสียงนั้นอีกแล้ว
“คุณมุก!”
บอดี้การ์ดหนุ่มร้องเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นตระหนก จับประคองหล่อนให้เข้ามานอนดีๆ บนเบาะ ก่อนจะรีบปิดประตูรถแล้วอ้อมมาที่นั่งคนขับ สตาร์ตเครื่องยนต์แล้วหมุนพวงมาลัยออกตัวไปด้วยความรวดเร็ว
ส่งท้ายบ่ายโมงวันอาทิตย์ฝนกำลังตกกระหน่ำอยู่นอกตัวตึกบริษัทเพิร์ล กวินถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย เฝ้ามองหยาดพิรุณที่ตกกระทบผนังกระจกอย่างเหนื่อยหน่าย เขาอยู่ในห้องทำงานของวาคิม กำลังรอการมาถึงของใครบางคนด้วยใจจดจ่อ เอกสารแฟ้มไม่หนาไม่บางกำลังรอลายเซ็นของคนสำคัญ เขาจะไม่เหนื่อยหน่ายหากว่าไม่ได้นั่งรอเจ้าหล่อนมาตั้งแต่เช้าถ้าเจ้านายที่เคารพไม่สั่งไว้ก่อนพาเจ้าสาวหมาดๆ ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันอีกรอบที่ต่างประเทศละก็ จ้างให้เขาก็ไม่มารอเจ้าหล่อนหรอก นี่มันวันอาทิตย์นะ เขาควรจะได้พาลูกกลับบ้านที่ ‘เกาะปันรัก’ ไม่ใช่มาอยู่โยงรอคนที่ไม่รักษาเวลา“ปะป๊า! มีนอยากกินชูชิ” หนูน้อยวัยสี่ขวบหน้าตาน่ารักน่าชังบอกบิดาด้วยสำเนียงที่คิดว่าชัดเจนที่สุด“ขออีกห้านาทีลูก ถ้าเธอยังไม่มาปะป๊าจะพาไป”กวินบอกบุตรชาย ‘มีนา’ ติดอยู่ที่นี่กับเขาตั้งแต่เช้า เขาน่าจะฝากลูกไว้กับคุณหญิงวารี ไม่น่าพามาด้วยเลย“ป๊าลอใค?” หนูน้อยถามอีก“รอคุณแพรวรุ้ง” กวินตอบวาคิมเห็นว่าฝ่ายแพรวรุ้งเสียหน้าที่เขาแต่งงานกับเกล็ดมุก ทั้งที่ข่าวก่อนหน้านั้นออกไปว่าเขาและแพรวรุ้งกำลังจะหมั้นกัน วาคิมเลยขอไถ่โทษด้วยการเสนอให้สาวเจ้ามาเป็
[24]ด้วยรักและเข้าใจ____________“นายเหมือง! อย่ามาผิดคำพูดนะ ไหนบอกว่าจะพาไปเที่ยวไง!”วารินทร์ค้อนฟ้าค้อนลมไปหลายยก เมื่อสามีผู้เอาแต่ใจผูกขาดการอยู่บนเตียงมาตั้งครึ่งค่อนวัน แทนที่วันหยุดจะได้เที่ยวบ้างอะไรบ้าง“อือ...ขอพักเหนื่อยหน่อยจ้ะเมียจ๋า เมื่อคืนนายเหมืองใช้แรงงานมากเกินไปเลยหมดแรง” ตอบกลับหน้าทะเล้น แต่ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ“จะไปไหนฮึ ท้องฟ้ามันเป็นใจให้น่านอนขนาดนี้” เขาว่าแล้วรวบร่างน้อยไปล้มตัวลงนอนอีกครั้ง“แดดเปรี้ยงอย่างนี้เหรอที่ว่าเป็นใจ อย่ามาล้างสมองนะ น้องวาอยากว่ายน้ำจะตาย มันร้อน น่านะ พาไปหน่อย”“ฮั่นแน่ เมียเราอยากไปรำลึกความหลังหรือจ๊ะ”เมฆาแกล้งเย้า“บ้า! ใครเขาจะอยากนึกถึงความหลังบ้าบอ”ใบหน้าสวยจืดเจื่อน เมื่อความหลังที่ว่ามันไม่ได้มีเพียงเรื่องชวนวาบหวิวเพียงเรื่องเดียว แต่มันมีทั้งคราบน้ำตาและวาจาที่เชือดเฉือนจิตใจให้เจ็บช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“โอ...ไม่นะวารินทร์ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นนะที่รัก ฉันไม่อยากให้เธอคิดถึงมันอีก ฉันขอโทษ ฉันสำนึกผิดแล้ว อย่าจมอยู่กับอดีตเลย ฉันขอร้อง ได้โปรดอยู่กับฉัน อยู่กับปัจจุบัน อย่าคิดถึงมันอีกเลย อย่าลงโทษฉั
[23]เพราะเรารักกัน______________วาคิมเร่งฝีเท้าเข้ามาด้านในเพียงเพื่อจะพบต้นตอที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่กำยำของบอดี้การ์ดหัวทองกำลังโอบประคองภรรยาของเขาอย่างถือสิทธิ์“วางเธอลงเดี๋ยวนี้โทนี่ คราวหน้าฉันจะตัดมือแกทิ้ง ถ้ากล้าแตะคุณหนูของแกอีก”เสียงกร้าวร้องสั่ง โทนี่ตีหน้าขรึมใส่ เขาอยากจะปล่อยร่างนายสาวลงเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็เกรงว่าสาวใช้ร่างบอบบางจะทานน้ำหนักไม่ไหวเลยต้องประคองเอาไว้“เกรงว่าตอนนี้คุณหนูคงอยากให้ผมแตะมากกว่าคุณ” โทนี่ประชดวาคิมตีหน้ายักษ์ใส่เพราะจนใจในการโต้เถียง เขาช้อนร่างอ่อนปวกเปียกให้พ้นจากวงแขนของบอดี้การ์ดมาดเข้ม ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของเกล็ดมุกช่างบีบคั้นหัวใจอย่างที่สุด หล่อนคงเสียใจที่เขาก้าวออกไปพร้อมๆ กับฟ้ารุ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาอยากให้หล่อนรับรู้เหตุผลที่เขาต้องทำอย่างนั้นว่าที่คุณพ่ออุ้มว่าที่คุณแม่ขึ้นห้องนอน เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างเบามือ สั่งสาวใช้ให้หาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้ ก่อนจะไล่ทุกคนออกไป ด้วยต้องการอยู่กับหล่อนตามลำพัง“ได้โปรดเถอะมุก ช่วยตื่นขึ้นมาฟังผมที ผมขอร้อง”วาคิมพึมพำขณะไล้ผ้าหมาดๆ เช็ดแก้มนวลอย่างทะนุถนอมครื
ฟ้ารุ่งเดินอ้อมโต๊ะไปหาเกล็ดมุก วาคิมมัวแต่นั่งอึ้งเมื่อเห็นอดีตแฟนเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เมื่อก่อนหล่อนออกจะเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ตอนนี้ทำไม...“โทนี่!” เกล็ดมุกร้องเรียกบอดี้การ์ดของบิดาที่ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆบอดี้การ์ดมาดเข้มวิ่งมาอย่างไว พริบตาเดียวก็ควักปืน .357 ออกมาวางใส่มือให้เจ้านาย เป็นจังหวะเดียวกับที่ฟ้ารุ่งกำลังจะฟาดฝ่ามือใส่แก้มของเกล็ดมุก ซึ่งผลของมันนั้นทุกคนย่อมรู้ดี แขนเรียวของเจ้าหล่อนค้างเติ่งกลางอากาศ เกล็ดมุกจ่อปืนเข้าที่กลางหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างคล่องมือวาคิมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขารู้ดีกว่าใครว่าเกล็ดมุกใช้ปืนเป็น!เกล็ดมุกยิ้มเยาะ รู้ว่าตัวเองเหนือกว่าเห็นๆ“มาหยามกันถึงถิ่นขนาดนี้ จะให้กลับไปแบบตอนขามามันก็ยังไงๆ อยู่ วันนี้ให้แกงจืดเป็นของฝาก ถ้ากล้ามาอีกละก็ ฉันจะให้ลูกตะกั่ว สนไหมล่ะ คุณฟ้ารั่ว!”“กรี๊ด! อีบ้า! อีโรคจิต! วา! ช่วยฟ้าด้วยเมียคุณจะฆ่าฟ้า ฮือออ...”ฟ้ารุ่งตะเบ็งเสียงแปดหลอดร่ำร้องขอความช่วยเหลือจากวาคิม ชายหนุ่มลุกมาหาสองสาว ใจคอไม่ดี ไม่อยากให้เกล็ดมุกถือปืน หล่อนท้องอยู่นะ ปืนผาหน้าไม้ไว้ใจได้ที่ไหนปัง!กระเบื้องปูพื้นลายสวยเป็นรูโบ๋ตรงกลา
คฤหาสน์หลังงามดูเงียบเหงาเมื่อเธอโดนคำสั่งข้ามประเทศจากเจ้าสัวว่าให้งดการเข้าบริษัท หากยังไม่หายแพ้ท้องดี นั่นทำให้เธอต้องมานั่งจับเจ่าอยู่บนเตียงกว้าง ทั้งนอนเกลือกกลิ้งมากว่าสองชั่วโมงแล้วก๊อกๆๆ“คุณหนูเล็กคะ อาหารเที่ยงเสร็จแล้วค่า”เสียงสาวใช้บอกมาที่หน้าประตู เกล็ดมุกลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เนื่องจากว่าเธอยังอยู่ในชุดนอนตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้สามีเจ้าปัญหาบอกว่าจะมาทานข้าวเที่ยงด้วย แต่ตอนนี้ปาเข้าไปจะบ่ายโมงแล้ว เธอคงจะหิ้วท้องรอหรอกเกล็ดมุกเดินลงมาชั้นล่างด้วยความกระปรี้กระเปร่า การได้อาบน้ำเย็นๆ ช่วยให้เธอสดชื่นขึ้นทันตา เธอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร วินาทีเดียวกันนั้น เสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านก็ทำให้เธอต้องชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างกระจกด้วยความใคร่รู้“เสียงรถใครน่ะ ไปดูทีซิ ใช่รถคุณวาหรือเปล่า”สาวใช้ยังไม่ทันได้ออกไปพ้นประตูดี เจ้าของรถยนต์เสียงแปลกหูก็เดินนวยนาดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ“สวัสดีค่ะคุณมุก แหมๆๆ กลับมาไม่บอกกันบ้างเลยนะคะ”เสียงหวานหยดเอ่ยถามแกมหยอกเย้า ราวกับว่าสนิทกันมาแรมปี เกล็ดมุกหน้าตึง นี่ถ้าเธอไม่รู้ว่าหล่อนคนนี้เป็นใคร ป่านนี้คงยังโดนหลอกไม่เลิก ก็สาว
[22]ปรับความเข้าใจ__________วาคิมใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงในการขับรถกลับจากหัวหิน และตอนนี้เขาก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลเฉินเป็นที่เรียบร้อย เขาพ่นลมหายใจทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกังวล ไม่รู้จะแก้ตัวเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี หรือว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดความจริงเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ สะกิดใจเกล็ดมุก เธออยู่ในห้องอาหาร มีสาวใช้คอยปรนนิบัติพัดวีราวเจ้าหญิง เธอเพิ่งกลับมาถึงที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงและยังไม่มีแก่ใจจะรับแขก“ไปดูทีว่าใครมา ถ้าแขกของป๊าบอกให้เขามาวันหลังนะ”เกล็ดมุกสั่งสาวใช้ ปากน้อยๆ กำลังแทะเล็มเม็ดมะม่วงที่ตอนนี้เหลือแต่แกนเปล่าๆ“ค่ะ คุณหนูเล็ก” สาวใช้ร่างผอมขานรับ รีบเดินแกมวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ แต่ยังไปไม่ถึงด้านหน้าดีด้วยซ้ำ ผู้มาเยือนก็เข้ามาถึงด้านในเสียก่อน“มีอะไรก็ไปทำเถอะ”คุณหนูเล็กสั่งอีกครั้ง สาวใช้รีบหลบฉากเข้าครัว“กลับมาทำไมไม่บอกผมบ้าง รู้หรือเปล่าว่าทำให้ผมเป็นห่วงแค่ไหน”เกล็ดมุกไม่อนาทรร้อนใจต่อคำกล่าวหานั้น ยังคงนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวานต่อไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว“ผมถามทำไมไม่ตอบ!” วาคิมขึ้นเสียง อารมณ์เดือดปุดๆ เขาอุตส่าห์เป็นห