เข้าสู่ระบบวันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้
เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด “วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ” บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้ “ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้” “หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ” “ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู” “แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ” เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที่บ้านแล้วอ้างว่านัดเจอเพื่อนที่บาร์เพื่อสังสรรค์กันนิดหน่อย แต่ที่จริงแล้วเขาแอบไปจอดรถไม่ไกลจากบ้านพ่อแล้วมายืนเกาะรั้วมองไปที่หน้าต่างห้องของเธอ “พี่ฟ้า บอกน้องพู่ได้มั้ยว่าผมอยู่ที่รั้วข้างบ้าน ขอแค่เห็นเธอก็ยังดี ช่วยผมหน่อยนะ” ฟ้าที่นั่งอยู่ในห้องของพรรณนาราเมื่อได้รับข้อความก็ได้กระซิบบอกทันที ทำให้เธอถึงกับทำหน้าเหวอ แล้วพูดถามเบาๆ “พี่ฟ้าทำไมติดต่อเขาโดยตรงได้น่ะ? ตั้งแต่เมื่อไหร่?” “ชู่วว..เอาน่าน้องพู่ ไปให้เขาเห็นสักหน่อย อย่าพึ่งถามตอนนี้” ฟ้ากระซิบตอบแล้วเดินไปนั่งซ่อนตัวตรงฉากกั้นสำหรับแต่งตัว พรรณนาราถอนหายใจกับตัวเองที่ทั้งอยากเจอเขาและยังเกลียดเขาที่โกหกว่าเลิกกับแฟนแล้ว เธอแง้มฟ้าม่านแล้วมองลงไป ธีทัตที่ชะเง้อดูเห็นว่าเธอมองลงมาทางเขา จึงยิ้มและโบกมือให้ ทั้งสองสบตากันอยู่ไกลๆแบบนั้น จนกระทั่งเสียงประตูเปิดเข้ามา พรรณนารายืนนิ่งเพื่อไม่ให้มีพิรุธก่อนจะหันหลังกลับไปยิ้มหวานให้ ธีทัตเห็นแบบนั้นจึงกลับไปหลบและแอบมอง เขาใช้กล้องจากโทรศัพท์ซูมดูจึงเห็นว่าพ่อของเขาหอมแก้มและใช้นิ้วมือลูบไล้ต้นคอเธออยู่ เขายืนตัวชา หัวใจเหมือนถูกบดขยี้ มือที่ลดโทรศัพท์ลงและกำมันไว้แน่น เหมือนกับที่พรรณนาราเองก็รู้สึกเศร้าเช่นกัน ดีแล้วล่ะ..ที่เขาเห็นแบบนี้..จะได้จบกันไปเสียที.. เธอหูอื้อไม่ได้ฟังที่ชรันพูดสักนิดได้แต่ก้มหน้า ฟ้าที่แอบดูอยู่ตรงฉากกั้นถึงกับสงสารจนน้ำตาซึม ก่อนจะพิมพ์บอกธีทัตให้กลับบ้านไปก่อน “คุณธี ไม่ต้องห่วงนะ พี่อยู่ช่วยน้องพู่มาตลอด ครั้งนี้ก็เหมือนกัน” พรรณนาราที่อายุครบสิบแปดแล้วและเข้ามหาวิทยาลัยปีแรก เธอได้ขอของขวัญจากพ่อคือคอนโด เพื่อจะทำให้เธอไม่ต้องไปๆมาๆระหว่างสองบ้านอีก “พ่อคิดว่าเด็กอายุแค่สิบแปด อย่าพึ่งไปเลยนะ รอขึ้นปีสองปีสามค่อยไป ดีมั้ย?” “ไม่สะดวกค่ะ ไกลมหาวิทยาลัย” “น้องพู่ก็ขับรถได้แล้วนี่คะ นอนสองบ้านเหมือนเดิมพ่อแม่ยังได้เจอหน้า” ปริมออกความเห็นด้วยท่าทางใสซื่อ แต่พรรณนารานั้นต้องการหนีจากพ่อเลี้ยงเต็มแก่ จึงโมโหขึ้นมา “โอเคค่ะ งั้นก็ได้” เธอลุกจากโต๊ะอาหารขึ้นไปร้องไห้ด้วยความเก็บกดในใจ พร้อมกับตั้งปณิธานว่าต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองให้ได้ พิชามญช์ที่พูดจาหว่านล้อมสามีให้จัดงานวันเกิดให้ธีทัตที่บ้านนี้จนได้ โดยที่ชรันเชิญให้แบมมาร่วมงานด้วย ซึ่งแน่นอนว่าแม่แท้ๆของธีทัตอย่างกชกรนั้นปฏิเสธการมาร่วมงาน “ก็ดีนะ ทุกคนจะได้รู้จักลูกชายคนใหม่ และประกาศเรื่องดีๆทีเดียวไปเลย” งานวันเกิดอายุครบ 25 ปีของธีทัตถูดจัดขึ้นในสวนข้างบ้านรวมถึงห้องรับแขกและห้องสันทนาการ เพื่อนฝูงของเขามากันมากมายรวมถึงคู่หมั้นอย่างแบมที่แต่งตัวแต่งหน้าได้สวยพริ้งเยี่ยงดารา แต่ในความคิดของพิชามญช์กลับมองว่า “หน้าตาดีแต่ไม่มีเสน่ห์” ธีทัตรู้ว่าพรรณนาราอยู่บ้านในวันนี้ด้วย สายตาเขาพยายามมองหาเธอแต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา นั่นเพราะชรันสั่งห้ามไม่ให้เธอลงมาเด็ดขาด ฟ้าเห็นใจพรรณนารามาก แม้กระทั่งตัวเธอเองก็ไม่มีสิทธิ์เสนอหน้าเข้าไปในงานเพราะพิชามญช์ไม่อนุญาตให้เธอมาบริการใครในงานนี้เช่นกัน “น้องพู่ จะไม่ให้ของขวัญคุณธีสักหน่อยหรือคะ พี่แอบเอาให้ได้นะ” ข้อความของฟ้า ทำให้เธอที่นั่งเงียบๆในห้อง ได้ยินแต่เสียงเพลง เสียงหัวเราะสนุกสนานของทุกคนแว่วมาเท่านั้น สุดท้ายเธอตัดสินใจหากระดาษสวยๆธรรมดาใบหนึ่ง เขียนข้อความอวยพรวันเกิด และส่งข้อความให้ฟ้านำไปให้ธีทัต ฟ้าที่ด้อมๆมองๆแล้วเห็นว่าทุกคนกำลังทานอาหาร ดื่มกินพูดคุยกันระงมไปหมด จึงแอบขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองของบ้านเพื่อเอากระดาษอวยพรจากพรรณนาราที่ฝืนยิ้มบางๆด้วยแววตาที่หม่นหมอง “น้องพู่..มีอะไรอยากฝากบอกกับเขามั้ย?” เธอส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วปิดประตูโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว ฟ้าทำได้แค่สงสารและเห็นใจ ก่อนจะเดินลงบันไดมาก็เจอพิชามญช์ที่ยืนกอดอกรออยู่ตรงกลางบันไดบ้าน “เอามาให้ฉันดูซิ” เธอกระชากเอากระดาษจากมือแม่บ้านสาวมาอ่าน พลางมองหน้าฟ้าที่ก้มหน้าด้วยความสิ้นหวัง พิชามญช์ยื่นมันคืนให้ฟ้าที่มีสีหน้าโล่งใจ “จงรักภักดีกับพู่กันจังเลยนะ ถึงกับยอมขึ้นมาบนนี้เพื่อมาเอาแค่เศษกระดาษโง่ๆนี่” เธอพูดจบก็เหลือบตามองไปชั้นบน ก่อนจะพูดกับฟ้าต่อ “หาทางให้คุณธีได้มาพบกับพู่กันบนนี้ ให้พวกเขาได้คุยกัน อยู่ด้วยกันในห้องได้ยิ่งดี เธออยากเห็นพวกเขารักกันไม่ใช่เหรอฟ้า? คุณธีจะได้เลือกลูกสาวฉันแทน ฉันเชื่อว่าลูกสาวฉันมีดีกว่าคู่หมั้นที่คุณรันหามาทุกอย่าง” ฟ้าพยักหน้าและหันหลังเดินลงไป พลางคิดว่าพิชามญช์เคยรักลูกสาวของตัวเองบ้างหรือไม่ แม่บ้านสาวส่งข้อความให้ธีทัตว่าพรรณนาราฝากกระดาษให้เขาใบหนึ่งและอยากเจอเขาแต่เธอลงมาไม่ได้ “คุณธีต้องเป็นฝ่ายไปหาน้องพู่ค่ะ คุณชรันไม่อนุญาตให้น้องลงมาเป็นอันขาด แต่คุณธีแอบขึ้นไปได้พักหนึ่งค่ะ แค่อย่านานจนทุกคนสงสัย คุณพิชาจะช่วยดึงความสนใจของคุณพ่อคุณไว้ก่อนค่ะ กระดาษใบนี้ฟ้าจะพับวางไว้ในกระถางต้นไม้ตรงบันไดนะคะ” ธีทัตใจเต้นรัวแต่เก็บอาการแล้วขอตัวไปห้องน้ำ เขารีบเดินเข้ามาในบ้าน หยิบกระดาษจากกระถางต้นไม้ที่ตีนบันไดใส่กระเป๋ากางเกง แล้ววิ่งขึ้นชั้นสองทันที พร้อมกับเคาะประตูรัวๆ นั่นทำให้พรรณนาราสะดุ้งตกใจว่าพ่อเลี้ยงมาทำไมตอนนี้ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจโดยไม่เปิดประตู “มาทำไมตอนนี้!? นี่มันอยู่ในเวลาปาร์ตี้วันเกิดลูกคุณอานะ” “พี่เองพู่ เปิดให้หน่อย” เธอตกใจจนตาเบิกกว้าง หายใจแรงจนตัวโยน “พี่กลับไปเถอะ คุณอาไม่ให้เจอหน้ากัน คู่หมั้นพี่ก็อยู่” “ไม่เปิดพี่จะพังประตูนะ” ประตูแง้มเปิดเพียงเล็กน้อย ใบหน้าเพียงครึ่งเดียวของเธอทำให้เขาตะลึงเพราะดูต่างจากเดิมเป็นสาวสวยไปแล้ว เธอตาโตกลมและหางตายาว คิ้วเรียวสวยเป็นระเบียบ ขนตาที่หนา ยาว ทำให้ดวงตาเธอสวยมาก ที่สำคัญดูสูงขึ้นจากเดิมจนรู้สึกได้ “สวยขึ้นเยอะเลย..สูงขึ้นด้วยนะ” แววตาของธีทัตที่ยังมั่นคงในรักกับเธอไม่เปลี่ยนแปลง แต่สำหรับพรรณนารา ความอ่อนโยนของเขาคือยาพิษ …………………………………💕🧳พิชามญช์กลับมาที่บ้านหลังจากทำผมทำหน้าเสร็จ และรีบขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านก็เจอลูกสาวกล่อมน้องชายอยู่ เธอยืนดูลูกสาวเงียบๆอยู่พักหนึ่ง พลางคิดแล้วว่าลูกสาวจะต้องเจอฤทธิ์เดชของชรันยังไง“พู่ มาคุยกับแม่ตอนนี้เลย เวลามีไม่มาก ไปที่ห้องคุณธี”พรรณาราทำหน้างง แต่ก็ตามออกไปโดยดี“เมียคุณธีมาที่นี่ใช่มั้ย? มันโทรไปฟ้องคุณรันว่าสงสัยเรื่องลูกมีอะไรกับผัวมันที่นี่ แล้วตอนนี้เขากำลังจะขึ้นเครื่องกลับ แม่มีคำถามจะถามอย่างหนึ่ง ก่อนจะบอกให้ลูกหนีไปจากที่นี่ หมายถึง..ไม่ต้องกลับมาอีก อย่าให้เขาตามหาลูกเจอ ดูแลตัวเองให้ดี”“แต่เขารู้ว่าหนูเรียนที่ไหน?”“แม่จะหาวิธีดึงเขาให้เลิกสนใจลูกเอง เอาล่ะ..บอกแม่สิ ลูกมีอะไรกับคุณธีหรือเปล่า?”“ไม่มีค่ะ เราแค่คุยกัน”พิชามญช์ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ถามต่อ “เขาจะช่วยลูกได้และลูกคือคนที่จะทำให้เขามีความสุข ต่อสู้เพื่อตัวเอง เราเป็นผู้หญิง ใช้มารยาหญิงให้เป็นประโยชน์”“แบบแม่น่ะเหรอคะ? หนูไม่ใจร้ายขนาดนั้น”“ไปเก็บของแล้วไปซะ ให้ฟ้ามาช่วยเก็บ”พรรณนาราให้ฟ้ามาช่วยเก็บของทั้งหมดที่จำเป็นรวมถึงกล้องที่ซ่อนไว้ในห้องที่กุมความลับทุกอย่างในห้องนี้เอาไว้มาหลายปี “น้องพู่ เด
ธีทัตที่โตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขาดูเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่น มั่นใจในตัวเองและดูเอาแต่ใจมากขึ้น “พี่ธี..อื้ออ..ปล่อย” เขาบังคับเอาจูบจากเธอ สองแขนที่กอดแน่น มือที่จับต้นคอเธอไม่ให้หนีหน้าไปจากเขา ไม่มีอะไรหยุดเขาจากความต้องการที่ปะทุขึ้นได้อีกแล้ว “เดี๋ยวค่ะ..พี่ธี เดี๋ยวก่อน..อ๊ะ” พรรณนาราถูกจับกดลงบนเตียง นั่นทำให้เธอกลัวมากเพราะยังไม่ได้ตั้งตัว “รออะไร? พี่รอมาสามปีแล้ว” เขาจูบอย่างหนักหน่วง ใช้น้ำหนักตัวกดทับเพื่อไม่ให้พรรณนาราดิ้นหนี มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นลูบไล้ต้นขาและสะโพกของเธอ ก่อนจะพยายามดึงกางเกงแต่อีกฝ่ายต่อต้านด้วยการยื้อไว้ไม่ให้เขาดึงออกไปได้ “พี่ธี…เดี๋ยว ให้หนูทำให้ดีกว่ามั้ยคะ?” ธีทัตมองเธอใกล้ๆด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเขาต้องการและต้องได้ตอนนี้ “ทำอะไร? ไม่ต้องทำ พี่จะเป็นฝ่ายทำ” เธอกลืนน้ำลายและคิดหาทางเอาตัวรอด จึงเอามือลูบและขยำแก่นกายเขาที่แข็งตัว รูดซิบลงแล้วเอามือล้วงเข้าไปจับข้างในกางเกงแทน “ทำไมไม่อยากให้ทำ ไม่รักพี่แล้วเหรอ? หนูบอกว่าพี่ได้ทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกัน นี่ไง..พี่ได้ทุกอย่างแล้ว” “อย่าพึ่งพูดเลย..ให้หนูทำก่อนนะ” เขาบรรจง
ธีทัตฝากของขวัญวันเกิดให้พรรณนาราที่อายุครบ 19 ปี ผ่านทางแม่บ้านสาวอย่างฟ้า เป็นสร้อยแพลตตินั่มจี้เพชรทรงหยดน้ำที่เขาตั้งใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อเธอ“น้องพู่ คุณธีฝากของขวัญวันเกิดไว้ให้นะคะ แกโทรมาให้พี่เดินออกไปเอาตั้งไกลแน่ะ สงสัยกลัวคนมาเห็น น้องพู่จะมานอนบ้านนี้อีกทีตอนไหนคะ?”“อาจจะวันศุกร์นี้ค่ะ อยู่บ้านพ่อก็เบื่อ เสียงเด็กร้องโวยวายตลอด ลูกสาวคนใหม่ของพ่อดื้อมาก อารมณ์ร้ายน่าดู ไม่พอใจอะไรก็ตะเบ็งเสียง”“ตายจริง ผิดกับน้องชายน้องพู่เลย ยิ้มเก่ง เริ่มพูดเก่งแล้วเนี่ย ถึงพี่จะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ แต่เห็นจากไกลๆ ป้าพูดให้ฟังว่าน่ารัก เลี้ยงง่ายมาก”“ไม่อยากเชื่อเลยเนอะ”“ยังไงคะ?”“ก็แม่น่ะ ตอนท้องชอบหงุดหงิดจับผิดไปหมด ชอบวางแผน อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่น้องชายหนูดันตรงข้ามเลย”“ช่วงนี้คุณชรันไม่ค่อยอยู่บ้านด้วยน่าจะงานยุ่ง คุณป้ามาบอกพี่ว่าคุณแม่น้องพู่บ่นทุกวัน แต่ก็ดีกับน้องพู่นะ”“ใช่ค่ะ แต่หนูว่าเขาน่าจะมีเด็กใหม่”“หึ..คนมักมาก สักวันโรคจะถามหา”“พี่ฟ้า..หนูอยากให้พี่ได้เจอคนดีๆเหมือนกันนะคะ”“ถ้าพี่ยังจน ความรู้น้อย คงไม่คิดมีแฟนหรอกค่ะ ที่ผ่านมานี่ก็สิ้นคิดพอแล้ว”“ไม่เอาน่า”วั
“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย“อวยพรให้หน่อยสิ”“หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?”“ได้แล้ว แต่อยากได้อีก”สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น“ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร”ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้าพรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล“พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง”ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งน
วันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้ เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด“วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ”บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้“ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้”“หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ”“ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู”“แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ”เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที
ไม่นานนักปริมก็คลอดบุตรสาวที่มีน้ำหนักน้อยมากจนต้องเข้าตู้อบโดยมีแม่บ้านคนสนิทคอยดูแลอย่างใกล้ชิด สามีและลูกเลี้ยงสาวได้เดินทางมาเยี่ยม “พ่อคิดชื่อไว้แล้ว ชื่อจริง ปนิตา ชื่อเล่น น้องนิต้า ลูกว่าดีไหมพู่กัน?”พรรณนาราแค่ยิ้มรับตามมารยาทแล้วพยักหน้า“ขึ้นต้นคล้ายกับลูกชายของคุณแม่เลยค่ะ ชื่อ ปภาวิน น้องชายหน้าคล้ายหนูกับคุณแม่มาก”เธอพูดกับพ่อจบก็เดินมาที่ปลายเตียงของปริม “ยินดีด้วยนะ..ที่ได้..ลูกสาว อย่าอดอาหารเพราะห่วงจะหุ่นไม่สวยเกินไป ทำเอาน้องตัวนิดเดียวเอง .. พ่อคะ เดี๋ยวไปส่งหนูที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ได้มั้ย?”“หือ จะหัดขับแล้วเหรอ? อ้อ จริงสินะ อีกปีนึงลูกจะจบ ม.6 แล้ว งั้นพ่อจะซื้อรถให้”“ไม่ต้องซื้อค่ะ วันเกิดที่ผ่านมาหนูได้รถเป็นของขวัญแล้ว Porsche 911 Frozen Berry Metallic สีชมพูตามวันเกิด พ่อให้อย่างอื่นหนูก็ได้นะคะ หนูอยากได้ที่พักใกล้มหาวิทยาลัยค่ะ”“แล้วแม่ว่าไง? อนุญาตเหรอ?”“แม่โอเคอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง”“งั้นรอลูกเลือกมหาวิทยาลัยก่อนค่อยมาบอกพ่อแล้วกัน”ปริมที่ได้แต่นอนฟังอย่างไม่มีปากมีเสียง เธอผิดหวังที่มีลูกชายให้เขาไม่ได้ พอจะขอใช้วิธีทางการแพทย์ ณัฐวีย์กลับไ







