แชร์

4 คำสัญญา

ผู้เขียน: รอรีวัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-10 19:32:48

ร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดของหนานรั่วซีถูกเขาพาไปส่งที่ตำหนักของนาง รอยแผลจากการถูกสุนัขป่ากัดที่แขนซ้ายของนาง สร้างความหวาดหวั่นแก่พระพี่เลี้ยง ทุกคนเกรงว่านางจะกลายผู้หญิงที่เสียโฉม เรียวแขนบอบบางขององค์หญิงมีรอยแผลฉกรรจ์ ร่างกายสตรีจะมีรอยแผลเป็นได้อย่างไร

คนที่เกี่ยวข้องรีบตามฮ่องเต้และพระชายามาในทันที หมอหลวงทั้งในวังและนอกวังถูกตามมาเพื่อยื้อชีวิตองค์หญิงหนานรั่วซี

หนานอันรั่วและหนานเจินหยางตามมาทีหลัง ผู้เป็นพี่กอดน้องสาวคนรองเอาไว้แน่น นางตัวสั่นหวาดกลัวราวกับลูกนก ตอนที่รั่วซีโดนผึ้งพิษต่อยก็ครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นสายตาหวาดกลัวของนาง ความกลัวที่จะสูญเสียเป็นบาดแผลที่คอยหลอกหลอนน้องสาวเขามาตลอด

ครั้งนั้นเป็นเพราะน้องสาวคนเล็ก วิ่งเข้ามาช่วยเหลือหนานอันรั่วผู้เป็นพี่ที่กำลังตกอยู่ในดงผึ้งพิษ จึงทำให้นางได้รับบาดเจ็บและส่งผลกระทบต่อร่างกายนางมาจนถึงปัจจุบัน

“หยวนอ๋องขอบใจท่านมากที่ช่วยเหลือนาง” หนานปาอี้ขอบคุณชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“โชคดีที่ข้าสังหรณ์ใจ วันที่พบนางวันแรก ข้าสังเกตเห็นรอยเท้าของฝูงหมาป่า และคิดว่านางอาจจะไปหาพวกมันอีก จึงตามไปดู” เขาพูดอย่างอดห่วงไม่ได้ ในขณะที่กำลังพูดถึงรั่วซี เขาก็มองแฝดอีกคนอย่างไม่วางตา นางกำลังร้องไห้ เขาเห็นน้ำตาของนาง หากอยู่กันเพียงลำพังเขาคงรั้งนางมากอดปลอบโยน

เขาเห็นน้ำตาของสตรีมาหลายคนแต่ไม่มีสตรีใดที่เขานึกอยากทะนุถนอมดังเช่นนาง

“หยวนอ๋องน่าจะเหนื่อยแล้วเชิญกลับไปอาบน้ำพักผ่อนดีกว่า” พระชายาหมีเฮ่อบอกผู้ที่มีศักดิ์เป็นหลาน

ทุกคนเห็นด้วยเช่นนั้น บนชุดของเขาเองก็มีเลือดของหมาป่าและรั่วซีเปรอะเต็มไปหมด

“งั้นข้าขอตัวก่อน” เมื่อเห็นสภาพร่างตัวเองเขาก็คิดว่าควรไปพักดีกว่า ต่อไปก็ให้เป็นเรื่องของคนในครอบครัวจัดการกันไป

อายงยืนมองความวุ่นวายอยู่ในมุมมืด เขากล่าวโทษตัวเอง หากไม่ตามใจนาง หากไม่ทิ้งนางไว้คนเดียว คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ ผิดที่เขาดูแลนางไม่ได้

หยวนไป๋เจียนเดินผ่านจุดที่อายงยืนอยู่

“เจ้าไม่เข้าไปหานาง” หยวนไป๋เจียนเห็นสายตาระคนความเจ็บปวดของชายผู้นั้นก็เข้าใจได้ว่าเขาเป็นห่วงและรู้สึกผิดขนาดไหน

“กระหม่อมเป็นเพียงองครักษ์ต่ำต้อย จะเข้าไปด้านในได้อย่างไร” เขาตัดพ้อ แต่สายตาก็ยังมองไปห้องของนาง

“นางจะปลอดภัย ต่อไปเมื่อนางฟื้นจงดูแลนางให้ดี อย่าให้นางต้องเจ็บปวด ข้าจะไม่พูดเรื่องที่เจ้าบกพร่อง เมื่อนางฟื้นขึ้นคิดว่านางก็คงไม่พูดเช่นกัน”

คำพูดของหยวนไป๋เจียนยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด

“ข้าสัญญาจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อดูแลนาง”

หยวนไป๋เจียนมองชายผู้นั้น เรื่องของนางไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว เขาเดินลับหายไปในความมืด

หมอหลวงถูกระดมให้มารักษาอาการนาง หมอหลวงจากเป่ยฮั่นที่ร่วมขบวนมาด้วยกันกับคณะราชทูตก็ถูกเชิญร่วมรักษาอาการนางด้วยเช่นกัน

นับจากวันนั้นอายงก็คอยไปเฝ้านางไม่ห่าง ความผิดเป็นของเขาทั้งหมดโชคดีที่หยวนอ๋องไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเขา จึงทำให้เขารอดความผิดที่ปล่อยให้นางอยู่ลำพัง เขาเป็นองครักษ์ที่ฮ่องเต้ไว้ใจให้ดูแลองค์หญิง แต่ดันทำงานผิดพลาด เป็นเรื่องที่เขาทั้งโกรธและไม่ให้อภัยตนเอง

ร่างกายของสตรีไม่ควรมีรอยแผลเป็น เขาดันเป็นต้นเหตุให้นางเสียโฉม อายงตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะปกป้องนางไปตลอดชีวิตเพื่อชดเชยความผิดของตัวเขาเอง

ร่างแบบบางของหนานอันรั่วนั่งเหม่อมองทัศนียภาพอยู่บนเนิน เวลานี้นางไปนั่งตรงที่ที่ผู้เป็นน้องชอบนั่ง นางไม่เคยเข้าใจว่าทำไมรั่วซีถึงชอบที่ตรงนี้นัก พอได้มาลองนั่งด้วยตัวเองจึงเข้าใจนาง ที่นี่สามารถมองผู้คนได้ชัดเจนที่สุด เห็นทุกการเคลื่อนไหวทุกการกระทำ รั่วซีที่ร่างกายไม่แข็งแรง การนั่งเฝ้ามองผู้คนใช้ชีวิตแทนนาง นั่นเป็นความสุขอย่างหนึ่งของนางสินะ

เป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว แต่รั่วซีก็ยังไม่ฟื้น นางได้แต่ขอพรจากฟ้า ให้น้องสาวฝาแฝดของนางหายป่วยและลุกขึ้นมาพูดคุยกับนางได้แล้ว นางเคยได้ยินน้องสาวบ่นว่าอยากไปเที่ยวเป่ยฮั่น ถ้าฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่จะพานางไปให้ได้ ขอเพียงแค่นางตื่นขึ้นมา เพียงแค่นางตื่นมาเท่านั้นสิ่งใดก็ตามที่ฟ้าต้องการนางให้ได้หมด

“รั่วเอ๋อ” หยวนไป๋เจียนทักทายนาง

“หยวนอ๋อง” นางหันไปทางต้นเสียง

อยู่ด้วยกันสักพักจนเริ่มสนิทกัน ท่าทีของนางก็เปลี่ยนไปอันรั่วเห็นเขาเป็นมากกว่าสหายคนหนึ่ง วันนี้เขาสวมชุดสีครามน้ำเงินแบบผู้ชายชาวเป่ยฮั่น เขาเป็นบุรุษหน้าตาดี นับวันนางยิ่งเห็นว่าเขาหล่อเหลาขึ้น

“พี่ไป๋เจียน” เขาทวนชื่อตัวเอง เขาต้องการให้นางเรียกชื่อเขาเช่นนั้น

น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน คนตัวเล็กหน้าแดงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่นางหวั่นไหวต่อความใกล้ชิดจากเขา

“รั่วเอ๋อ” เขาเรียกชื่อเล่นนาง

อันรั่วหน้าแดงด้วยความเขินอาย เวลานางเขินหูของนางจะแดงก่ำเป็นภาพที่หยวนไป๋เจียนชอบ

“พี่ไป๋เจียน” นางพูดเบา ๆ

“ข้าไม่ได้ยิน” เขาโน้มกายเข้าหานาง ใบหูของนางแดงแจ๋ หยวนไป๋เจียนเห็นแล้วก็ชอบใจ ยามที่นางเขิน ช่างน่ารักนัก

ที่เขามาหางนางในวันนี้เพื่อบอกว่าถึงเวลาที่เขาต้องกลับเป่ยฮั่นแล้ว    ราชกิจที่ได้รับมอบหมายเขาทำสำเร็จหมดแล้ว

นางซบไหล่เขา อยู่ด้วยกันมานับเดือน ใจของนางมอบให้เขาไปหมดแล้ว นางรู้ว่าอีกไม่นานเขาก็ต้องกลับไปยังที่ของเขา

“รั่วเอ๋อ ต้นเดือนหน้าข้าก็ต้องกลับเป่ยฮั่นแล้ว”

“เร็วขนาดนั้นเชียวหรือ”

“อื้ม”

หนานอันรั่วรู้สึกหวั่นใจ ความรู้สึกเหมือนจะเป็นการจากลาไปตลอดชีวิตอย่างไรก็ไม่รู้ ในใจพลันรู้สึกหวิว แบบที่นางเองก็บอกไม่ถูก

“พี่ไป๋เจียน” นางมองหน้าเขา

หยวนไป๋เจียนถือโอกาสนี้ดึงนางมากอดเอาไว้

“รอข้านะ อีกไม่นาน ข้าจะรับเจ้าไปอยู่ที่เป่ยฮั่นในฐานะฮองเฮา รอวันที่ข้าขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิเป่ยฮั่น ครอบครองดินแดนเป่ยฮั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่อับอายผู้ใด”

“ป่านนั้นข้าคงแก่พอดี” นางทุบเขาเบา ๆ หนานอันรั่วรู้ดีว่าเขาไม่ได้      พูดเล่น

นางเคยไปที่ค่ายทหารของหนานเจินหยาง ได้ยินบรรดาแม่ทัพพูดคุยกันเรื่องนี้ หยวนอ๋องเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของกระดานนี้ ไม่มีความสำคัญอะไร เป็นเพียงอ๋องแค่ในนามไม่มีอำนาจใดในมือ มีดีแค่มียศศักดิ์สูงส่ง เสด็จพ่อของหยวนอ๋องอดีตจักรพรรดิเป่ยฮั่นถูกลอบปลงพระชนม์ ผู้เป็นลุงทำพินัยกรรมปลอมขึ้นครองราชย์แทน หยวนอ๋องที่ตอนนั้นเป็นรัชทายาทยังเด็กและไร้อำนาจในมือ

เขาคงรอวันที่จะช่วงชิงของที่เป็นของเขาคืน นางเชื่อว่าเขาทำได้แน่นอน

หยวนไป๋เจียนโอบไหล่กลมมนของนาง

“รอข้า”

เขาจุมพิตหน้าผากของนางแผ่วเบา

คนทั้งคู่ทอดสายตามองพระอาทิตย์ที่กำลังคล้อยต่ำลงไปเรื่อย ๆ หนานอันรั่วรู้สึกหวั่นใจ นางกลัวว่าจะไม่ได้อยู่เห็นความสำเร็จของเขา ความกังวลในมากมายผุดขึ้นมาอย่างไม่รู้จบ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนางถึงมีความรู้สึกเช่นนี้

ทั้งหนานอันรั่วและหยวนไป๋เจียนต่างใช้เวลาที่เหลืออยู่ร่วมกันให้มากที่สุด ฮ่องเต้หนานปาอี้และพระชายาเองก็รับรู้ว่าเด็กทั้งคู่มีใจให้กัน แต่ข้อกำหนดและพิธีการมากมายล้วนเป็นเรื่องยากที่จะให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน

วันออกเดินทางของหยวนไป๋เจียนก็มาถึง กองอาชาของเขาเคลื่อนที่ลับหายไปเรื่อย ๆ หนานอันรั่วรู้สึกปวดร้าวในหัวใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่นางจะได้พบกับเขาอีกครั้ง ไม่รู้เลยว่านางจะมีโอกาสนั้นอีกครั้งหรือไม่ คนตัวเล็กควบม้าไปตามแนวสันเขา นางใช้เวลานี้อยากมองเขาให้นานที่สุด..

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   บทส่งท้าย

    ความซุกซนขององค์ชายเฉินจื้อและองค์ชายเฉินจง เล่นเอาฝูกงกงแทบอยากจะบ้านตาย เด็กชายสองคนไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาวิ่งเล่นได้ทั้งวันเมื่อวันก่อนก็เกือบจะเผาวังหลวงของเป่ยฮั่น ดีฝ่าบาททรงมาเห็นเสียก่อน ไม่เช่นนั้นได้ย้ายวังหลวงแน่ ๆตั้งแต่รู้ว่าฝ่าบาทมีองค์ชายถึงสองพระองค์ในใจตอนแรกก็ปีติยินดีนัก เขารู้สึกเหมือนได้ผ่อนคลายความกังวลเท่าที่ทราบในวัยเยาว์ของฝ่าบาทและฮองเฮาก็ไม่ใช่ผู้ซุกซน ไม่รู้ว่าองค์ชายทั้งสองพระองค์ไปลอกเลียนนิสัยเช่นนี้มาจากไหน“องค์ชายเฉินจื้อกลับลงมาเถอะ อย่าปีนขึ้นไปมัน” ฝูกงกงหันไปอีกทีหยวนเฉินจื้อก็ปีนขึ้นไปเก็บผลไม้เสียแล้ว พอหันกลับมาทางขวา องค์ชายเฉินจงก็กำลังจับปลาในสระบัว “องค์ชายเฉินจง อย่าลงไปมันอันตราย”ฝูกงกงหันซ้ายทีขวาที ในที่สุดเขาก็เป็นลมจริง ๆเด็กชายเห็นสหายเป็นลมก็ปรี่เข้ามาช่วยเหลือ ร้องเรียกตะโกนให้คนในบริเวณนั้นช่วย ฝูกงกงถูกพาไปโรงหมอหลวง นอนซมอยู่หลายวันกว่าจะลุกขึ้นมากระฉับกระเฉงดังเก่าตอนนี้รั่วซีก็ไม่ได้มีแ

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   40 ขี้แยราวกับเด็ก

    หยวนไป๋เจียนแบกเด็กชายขึ้นหลัง พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ให้เขาคลายกังวล จนกระทั่งเสียงเจื้อยแจ้วเปลี่ยนเป็นเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ นั่นบ่งบอกว่าตอนนี้เด็กชายกำลังเข้าสู่ห้วงนิทรา ตอนนี้ก็ใกล้เข้าสู่ช่วงเวลาสนธยา อาจงคงเหนื่อยมาก หยวนไป๋เจียนนึกเอ็นดูบุรุษตัวสูงกระชับตัวเขาให้แน่นขึ้นจากนั้นเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงเรือนไม้ไผ่รั่วซีที่กำลังนั่งร้องไห้เศร้าสร้อย รอคอยข่าวอย่างมีความหวังตลอดทั้งวัน วันนี้ทั้งวันนางแทบไม่เป็นอันทำอะไร จนถึงเวลานี้อาจื้อเองก็ดูเหมือนจะหมดแรงรอคอยหลับไปล่วงหน้าแล้วเด็กชายผู้น้องเป็นห่วงพี่ชายไม่แพ้กันเขาเป็นกังวล หากพี่ชายไม่กลับมาเล่าเขาจะอยู่อย่างไร เล่นกับใคร ถ้าเขาโดนพวกเด็กในตลาดรังแกอีกเขาจะขอร้องให้ใครช่วยเหลือ เด็กชายเสียใจร้องไห้จนเหนื่อยและหลับไปข้าง ๆ ผู้เป็นแม่เสียงฝีเท้าของหยวนไป๋เจียนดังเข้ามาเรื่อย ๆ นางคลำทางไปหาเขาคนตัวเล็กกำลังจะส่งเสียงเพื่อพูดกับเขา แต่หยวนไป๋เจียนกลับร้องชู่ว์เบา ๆ ดักเอาไว้ก่อน“อาจงกำลังหลับ อย่าเพิ่งรบกวนเขา” หยวนไป๋เจียนบอกกับนางนางพยักหน้าหงึก

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   39 ความน้อยใจของเด็กชาย

    แม้นางจะไม่ตอบคำถามของเขาว่าอาจื้อเป็นใครแต่หยวนไป๋เจียนก็พอจะเดาได้ว่า เด็กคนนี้เป็นบุตรของเขาอย่างแน่นอนส่วนเด็กชายวัยสิบขวบอีกคนเล่าเป็นใครกัน?เด็กคนนี้มีความหมายเช่นไรกับพวกนาง?เขาจะต้องถามให้รู้เรื่องให้ได้ และถ้าหากไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไร เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องสนใจเด็กชายผู้นั้น หยวนไป๋เจียนดูออกว่าเด็กชายไม่ชอบหน้าตนส่วนตัวของเด็กชายผู้พี่ก็ไม่ชอบหน้าบุรุษคนนั้นเช่นกัน แตกต่างกับเด็กชายผู้น้องที่ดูเหมือนว่าจะถูกชะตากับคนเขาเป็นพิเศษ อีกทั้งตัวหยวนไป๋เจียนก็เอ็นดูหนานเฉินจื้อออกนอกหน้าแม้หนานเฉินจงจะเป็นเด็ก เขาก็รับรู้ได้ว่ามารดามีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับเขา หนานเฉินจงรู้ตัวดีว่าเป็นเพียงลูกเลี้ยง แม้จะไม่ชอบเขาขนาดไหนแต่ก็ยังมีความเกรงใจผู้เป็นแม่อยู่มาก เด็กชายรู้จักประมาณตนและรู้ว่าควรอยู่ตรงจุดใด“อาจง” เย่ลู่เห็นเด็กชายออกมานั่งซึมที่มุมหนึ่งของเรือนไม้ไผ่ จึงตามออกมาดู“ขอรับท่านหมอ”เด็กชายดูเซื่องซึมอย่างเห็นได้ชัด“ทำไมสองสามวันมานี้เจ้าถึงดูซึมนั

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   38 ทำทุกทางให้นางให้อภัย

    เขาฝัน!! เขาฝันว่าซีเอ๋อหนีเขาไปอีกครั้ง หยวนไป๋เจียนสะดุ้งตื่นในอีกวัน เขาพบว่าตอนนี้มีเด็กชายตัวเล็กกำลังนั่งจ้องมองเขาอยู่ข้างเตียง“ท่านลุงเคราเฟิ้ม ท่านมานอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” หนานเฉินจื้อทักทายชายที่นอนอยู่บนเตียงเด็กชายเห็นมารดาเดินเข้าออกจากห้องนี้ แถมยังสั่งห้ามไม่ให้เขาเข้ามาในห้องนี้เด็ดขาด แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ อาจื้อแอบเข้ามาตอนที่มารดาของตนเผลอ“เจ้าหนู เจ้าเป็นใคร” หยวนไป๋เจียนพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“ท่านลุงดื่มน้ำก่อน” เด็กชายส่งถ้วยน้ำให้เขาดื่มเมื่อเห็นว่าท่านลุงเคราเฟิ้ม เสียงแหบแทบไม่มีเสียงพูดพอได้ดื่มน้ำ หยวนไป๋เจียนจึงได้รู้สึกว่ามีแรงขึ้นบ้าง เขามองหน้าเด็กชายตรงหน้า ใบหน้าผุดผ่องสะอาดสะอ้าน จักรพรรดิหนุ่มรู้สึกถูกชะตากับเขาอย่างบอกไม่ถูก“เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่าเป็นใคร”“ข้ามีชื่อว่า หนานเฉินจื้อ อายุห้าขวบเป็นบุตรชายคนเล็กของท่านแม่” อาจื้อแนะนำตัวเสียงดังฟังชัด เด็กชายรู้สึกถูกใจชายคนนี้“เจ้าบอกว่าอ

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   37 เดินทางไปหานาง

    ข่าวจากเมืองทางใต้ถูกส่งไปยังเมืองหลวง นี่เป็นข่าวดีแรกในรอบหลายปีของหยวนไป๋เจียน เมื่อจดหมายมาถึง จักรพรรดิหนุ่มเร่งรีบออกเดินทางในทันทีม้าเร็วถูกจัดเตรียมไว้ยังหัวเมืองต่าง ๆ เขารีบร้อนเดินทางจนแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน พักผ่อนเพียงสองสามชั่วยาม หยวนไป๋เจียนก็ออกเดินทางต่อ เป็นเช่นนี้อยู่ทุกครั้งที่ถึงช่วงระยะทางหนึ่งใช้เวลาไม่นานหยวนไป๋เจียนก็ถึงเมืองทางใต้ บุรุษตัวสูงในชุดสีเทาสะบัดกายลงจากม้า ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดินสีแดงแถมหนวดเคราครึ้มอาคารหลังย่อมอยู่สุดทางของถนนในเมืองทางใต้ปรากฏขึ้น เขารีบลงจากม้าเข้าไปด้านในทันที“ถวายบังคมฝ่าบาท” นายกองและพลทหารประจำกองถวายความเคารพนายเหนือหัวของแผ่นดิน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามีโอกาสเข้าเฝ้า“ไม่ต้องมากความ รีบบอกมาว่าพบเจอนางที่ใด” หยวนไป๋เจียนรีบร้อนให้เขาบอกเรื่องที่พบเจอ“กราบทูลฝ่าบาท นับตั้งแต่วันที่เจอสตรีที่ใบหน้าละม้ายคล้ายกับฮองเฮา พวกเราก็คอยติดตามเฝ้าดู นางอาศัยอยู่ที่เรือนไม้ชายป่า&rdquo

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   36 สตรีที่สูญเสียการมองเห็น

    เพราะไม่ต้องการให้เขาหาตัวพวกนางแม่ลูกเจอ รั่วซีจึงหนีมาอยู่ไกลถึงชายแดนใต้ นางเคยอ่านหนังสือในห้องหนังสือของหยวนไป๋เจียน มีบางเล่มบรรยายว่าภูมิประเทศทางใต้นั้นอุดมสมบูรณ์ เมื่อถึงฤดูหนาวอากาศที่นี่ก็ไม่หนาวจนเกินไป เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบอากาศหนาว อาหารที่นี่ก็อร่อยนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นางมาอยู่ที่นี่ เพราะของกินของภาคใต้เยอะและอร่อยมาก ผู้เขียนบรรยายไว้เช่นนั้นวันนี้รั่วซีนึกอยากเดินตลาด สตรีเช่นนางไม่ค่อยได้มีโอกาสออกมาเที่ยวเล่นนอกบ้านสักเท่าใดนัก นางกลัวว่าตนจะเป็นภาระของผู้อื่น รั่วซีจึงถือโอกาสนาน ๆ ครั้งจะออกมาสักทีหนานเฉินจงและหนานเฉินจื้อสองพี่น้อง ขนาบข้างมารดาของตน คนพี่อยู่ซ้ายคนน้องอยู่ขวาคอยเป็นดวงตาให้มารดาในมือของรั่วซีมีไม้เท้าหนึ่งอัน ซึ่งเป็นของที่เย่ลู่สรรหามาให้ ที่ตัวไม้เท้ามีกระดิ่งกรุ้งกริ้งเป็นสัญญาณนำทางให้นาง“ท่านแม่ วันนี้ในตลาดคึกคักมากเลย” หนานเฉินจื้อผู้เป็นน้องชายพูดเจื้อยแจ้ว ผิดกับหนานเฉินจงที่ไม่ค่อยพูดจา แต่สายตาเขาคอยระแวดระวังภัยให้ผู้เป็นมารดาตลอดเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status