พีราวัชรรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่เช้า เขานอนมองหน้าคนที่ซุกอยู่กับแผงอกของตนเองแล้วยิ้ม นานแต่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยร่วมรักกับใครจนหมดแรงแบบนี้มาก่อน ทุกครั้งเขาไม่เคยให้ใครนอนกับเขาถึงเช้า ผู้หญิงทุกคนของเรารู้ดี หลังจากพวกเธอจะมอบความสุขให้เขาแล้วพวกเธอก็จะหยิบเช็คที่เขาวางไว้และกลับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด มันทำให้เขาไม่เบื่อเพราะผู้หญิงแต่ละคนก็มีความหลากหลาย มีเพียงไม่กี่คนที่เขาจะเรียกใช้ซ้ำ แต่นั่นต้องเป็นคนที่เขาถูกใจจริงๆ หรือไม่ก็ตอนนั้นอยู่ใกล้กับเขาในเวลาที่เขาต้องการจนทนรอไม่ไหว
“อื้อ..ปวดหัวจัง” หญิงสาวเอามือกุมขมับแต่พอขยับจะลุกก็ถูกท่อนแขนใหญ่รั้งไว้ เธอหันกลับมาก็เจอกับผู้ชายตัวโตนอนยิ้มอยู่ข้าง
“คุณคงไม่เคยดื่มหนักแบบนั้นมาก่อน”
“คุณ...” สมองประมวลผลอย่างรวดเร็วจากนั้นใบหน้าสวยก็แดงซ่านเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเธอมองหน้าผู้ชายแปลกหน้าที่แขนยังกอดเอวเธอไว้ด้วยแววตาตื่นตระหนก
“อย่าบอกนะ ว่าเมื่อคืนเมาจนจำอะไรไม่ได้ “ พีราวัชรรู้ว่าเธอเมาแต่ก็ไม่ถึงกับจำอะไรได้
คนถูกถามหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม มันทำให้คนมองอดใจไม่ได้ ชายหนุ่มลุกขึ้นมากอดเธออย่างรวดเร็ว พิจิกายังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเขาจุมพิตอย่างดูดดื่มเป็นการต้อนรับวันใหม่ที่ทำเอาเธอใจเต้นแรง ร่างกายของทั้งสองยังเปลือยเปล่า นั้นยิ่งทำให้เธออายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
“ปล่อยค่ะ”
“เมื่อคืนยังขอให้กอดแน่น”
“ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นสักหน่อย” หญิงสาวเถียง
เรื่องแบบนั้นไม่ต้องพูดหรอก ผมรู้ว่าคุณชอบให้ผมกอด แล้วก็ชอบให้ผม..” เขาพูดคแค่นั้นมือเล็กก็รีบปิดปากอย่างรวดเร็ว
“ห้ามพูดแบบนั้นอีก และก็ห้ามบอกใครเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเด็ดขาด”
พีราวัชรพยักหน้า แต่พอหญิงสาวปล่อยมือออกเขาก็รวบมือเธอมากุมไว้ก่อนจะพูดต่อ
“ทำไมละ เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ เรื่องแบบนั้นใครๆ เขาก็ทำกัน”
“ใครๆ ที่ว่านั่นเขาอาจจะเป็นแฟน เป็นคนรักหรือครอบครัว แต่คุณกับฉันมันไม่ใช่ ฉันก็แค่คนเมา”
“คุณหาว่าผมขืนใจคนเมาเหรอ”
“เปล่าฉันไม่ได้หมายความว่าอยากนั้น ฉันแค่เปรียบเทียบว่าเรื่องเมื่อมันเกิดจากความเมา คนปกติที่ไหนเขาจะขึ้นเตียงกับคนอื่นที่เพิ่งรู้จักกันบ้างล่ะ”
“แทนตัวเองว่าผิงได้ไหมครับ”
“ทำไมคะ”
“ผมว่ามันน่ารักดีนะ”
“ไม่ดีกว่า ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราสนิทกัน” แม้ว่าที่นี่จะไม่มีคนรู้จักแต่เธอก็กลัวว่าเขาจะอาไปพูดที่อื่น
“แต่เราสนิทกันแล้วนะ ถ้าภาษาชาวบ้านก็คือผัวเมีย”
“โอ๊ย!... คุณจะพูดให้ฉันอายใช่ไหม”
“แทนตัวเองว่าผิงก่อนแล้วจะยอมทุกอย่าง”
“แน่นะคะ”
“ครับ”
“คุณพีร์ขา เรื่องของเราผิงอยากให้มันเป็นความลับนะคะ คุณพีร์อย่าบอกใครเด็ดขาด นะคะผิงขอร้องนะคุณพีร์สุดหล่อ”
“แค่หล่อเองเหรอครับ ไม่มีคำชมอื่นแล้วเหรอ”
“อยากให้ผิงชมว่าอะไรล่ะคะ” เสียงหวานถามอย่างประจบ”
“เรื่องความหล่อใครเห็นเขาก็รู้ แต่เรื่องลีลาเด็ดล่ะจะไม่ชมให้ผมชื่นใจหน่อยเหรอครับ”
“วกมาเรื่องใต้สะดืออีกแล้ว ผิงไม่คุยด้วยแล้วค่ะ ผิงจะเข้าห้องน้ำ คุณพีร์กลับไปก่อนได้ไหมคะ”
“ใจร้ายจัง ได้ผมแล้วก็จะทิ้งเลยเหรอ” เขาทำหน้าเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายเสียหาย พีราวัชรนึกขำที่เขาพูดจาหยอกล้อกับพิจิกาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ถ้าลูกน้องมาเห็นคงได้คิดว่าเจ้านายมาดขรึมโดนผีเข้าแน่ๆ
“คุณค่ะ ฉันเป็นฝ่ายเสียหายนะคะ”
“ผมก็เสียหายนะ เสียให้คุณหลายน้ำเลย”
“คุณพีร์” หญิงสาวทั้งอายทั้งโมโหกับคำพูดของชายหนุ่ม ถ้าใครมาได้ยินก็คงคิดว่าเธอซื่อผู้ชายมานอนด้วย
“เอาล่ะๆ ผมไม่แกล้งแล้ว ผมจะกลับที่พักก่อน คุณนอนพักนะ เดี๋ยวผมสั่งอาหารมาให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการตัวเองได้”
“อย่าดื้อหน่อยเลย แล้วก็อย่าลืมทานยาด้วยนะ”เอามาให้”
“ทำไมต้องทานยาด้วยคะ”
“ไม่ได้บังคับให้ทาน แต่ผมว่าครั้งแรกของคุณคงจะเจ็บมาก เลยอยากให้ทานยาไว้สักหน่อย เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะมารับไปดินเนอร์นะ”
“ดินเนอร์เหรอคะ”
“ใช่สิ อยากไปไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะ” หญิงสาวรับปฏิเสธเพราะกลัวคนอื่นจะเห็นว่าเธออยู่กับผู้ชาย
“งั้นจะทำอะไร หรือเหมือนเมื่อคืน ผมยังไหวนะ”
“ไม่น่ะ”
“งั้นลองบอกมาว่าอยากทำอะไร”
“ฉันแค่อยากเดินเล่น ดูพระอาทิตย์ตกดิน”
“ได้สิ มีจุดชมวิว สายๆ เราเช่ารถมอร์ไซค์ไปกัน คุณซ้อนท้ายได้ใช่ไหม”
“อย่าว่าแต่ซ้อนท้ายเลยฉันขับได้สบายมาก”
“รอผมนะสักห้าโมงกว่า ผมจะมารับ”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับอย่างว่าง่าย
“ไปนะ”
“ค่ะ”
สิ้นเสียงตอบรับคนฉวยโอกาสก็กดจูบลงมาอีกครั้ง มันไม่ได้จาบจ้วงหรือเร่าร้อน แต่มันแฝงไว้ด้วยความหวานและอ่อนโยน
หลังจากเขาออกห้องไปแล้วพิจิกาก็ก้าวลงจากเตียง เธอรู้สึกเจ็บอย่างที่เขาบอก พอเขาไปในห้องน้ำก็ต้องตกใจกับผิวขาวของตนที่เต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบ ทั้งเนินอก เต้าคู่อวบลามไปถึงท้องน้อยและโคนขา
“ไปหิวมาจากไหน”
หญิงสาวยืนบ่นคนเดียวที่หน้ากระจก ยอมรับว่าเมื่อคืนเธอมีความสุข แต่คิดว่ามันถูกต้องเลย เธอเฝ้าทะนุถนอมตัวเองมาถึง 24 ปี แต่เพราะความเมาบวกกับความเสียใจเลยทำให้เธอยอมเป็นของชายแปลกหน้าที่รู้แค่ว่าเขาชื่อพีร์
เขาคงเป็นหนุ่มเพลย์บอยคนหนึ่งที่ช่ำชองกับเรื่องบนเตียงพอมาเจอเธอที่กำลังเมาก็เลยฉวยโอกาส เธอคิ้วขมวดมองหน้ากระจกอีกครั้งแล้วใบหน้าก็แดงไปจนถึงลำคอเมื่อความทรงจำกำลังย้อนกลับมาและมันก็ชัดเจนว่า เขาไม่ได้ขืนใจเธอ เป็นเธอที่ยอมโอนอ่อนไปกับลมปากของเขา
เรื่องนี้พิจิกาอยากให้มันเป็นความลับระหว่างเขาและเธอ ความลับเกาะเสม็ดที่ใครๆ มักจะพูดกันมาเสม็ดเสร็จทุกราย
พออาบน้ำเสร็จ เธอก็ออกมานั่งที่ห้องรับแขกของบ้านพัก ก็พอดีกับพนักงานของรีสอร์ตเอาอาหารเช้ามาให้ บนถาดอาหารมีถุงพลาสติกที่ติดชื่อร้านมาวางอยู่ด้วย
“ขอบคุณนะคะ”
พอพนักงานออกไปแล้วเธอก็ทานอาหารเช้าจนเกลี้ยงจากนั้นก็ทานยาแก้อักเสบตามที่เภสัชเขียนไว้ข้างซองยา ก่อนจะถือหนังสือเล่มโปรดเดินออกไปนั่งอ่านที่ริมสระน้ำ
อ่านไปได้สักพักก็รู้สึกง่วงจึงวางหนังสือลงแล้วหลับตาอย่างเหนื่อยล้า พิจิกากะว่าจะนอนแต่แป๊บเดียวแต่รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อากาศเริ่มร้อนขึ้น วันนี้เธอไม่มีแรงจะออกไปตามชายหาดเหมือนเมื่อวาน จึงโทรสั่งอาหารกลางวันมาทานที่ห้องพัก และรอเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกดินกับผู้ชายที่ชื่อพีร์
เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้พิจิกาและพีราวัชรก็แต่งงานกันได้หลายเดือนแล้ว คุณกิ่งแก้วที่ลาไปคลอดลูกก็ยังไม่กลับมาทำงานทำให้สองสามีภรรยามีเวลาหวานด้วยกันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน “ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราจะได้แต่งงานกัน” “ถ้าคืนนั้นผมไม่มาส่งผิงที่นี่ ผมคงเสียดายไปจนตาย” “ผิงไม่คิดเลยนะคะว่าความเมาจะทำให้ผิงได้สามีที่หล่อแบบนี้” “ผิงรู้ไหม ว่าผมแอบมองผิงตั้งแต่ผิงออกไปเต้นแล้ว” “เหรอคะ” “ครับ ผิงสวยสะดุดตาผมมาก ผมดีใจมากแค่ไหนรู้ไหมที่ผิงเดินกลับมาดื่มต่อที่บาร์” “แล้วคุณคิดจะมาส่งผิงแล้วกลับหรือคิดอย่างอื่น” “ผมสารภาพเลยครับว่าผมคิดไม่ซื่อกับผิงตั้งแต่ต้น ผมเคยเจอผู้หญิงในบาร์แล้วเราก็ไปต่อกันจากนั้นทุกอย่างก็จบภายในคืนเดียว ผมแทบไม่รู้ชื่อพวกเธอด้วยซ้ำ แต่พอเจอผิง ผมกลับลืมไม่ลง” “เพราะอะไรคะ จะว่าเพราะหน้าตาก็ไม่น่าจะใช่เพราะคนสวยกว่าผิงมีเยอะไปหมด” “ผมเองก็หาเหตุผลไม่ได้ ผมรู้แค่ต้องเป็นผิง ผมรู้แค
เริ่มงานวันแรกหลังจากหยุดยาว พิจิกาไม่ค่อยมีสมาธิทำงานเท่าไหร่เพราะเย็นนี้เธอจะต้องเข้าไปทานอาหารเย็นที่บ้านของพีราวัชร แม้จะเคยเจอบิดามารดาของเขาแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะเขาจะพาเธอเข้าไปในฐานะคนรักไม่ใช่ผู้ช่วยเลขาอย่างครั้งก่อน“ผิง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”“นิดหน่อยค่ะพี่กิ่ง”“เล่าให้พี่ฟังได้นะ”“ผิงก็อยากเล่าค่ะ แต่เรื่องนี้ผิงบอกใครไม่ได้จริงๆ ค่ะ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับผิงคนเดียว”“คงเป็นเรื่องสำคัญมากใช่ไหม”“ค่ะพี่กิ่ง”“พี่ไม่รู้นะว่าเรื่องไร เอาเป็นว่าพี่ให้กำลังใจผิงก็แล้วกันนะ ใช้สติให้มาก พี่ว่าปัญหาทุกอย่างจะผ่านได้ด้วยดี”“ขอบคุณค่ะพี่กิ่ง พี่กิ่งจะกลับเลยก็ได้นะคะเดี๋ยวตรงนี้ผิงทำต่อเองค่ะ”“แล้วผิงไม่รีบกลับบ้านเหรอวันนี้เจ้านายไม่อยู่น่าจะรีบกลับนะ”“กลับตอนนี้รถเมล์แน่นค่ะพี่กิ่ง ผิงรออีกนิดดีกว่าค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ”“ค่ะพี่กิ่ง”พอเลขารุ่นพี่กลับไปแล้วพิจิกาก็จัดการงานตรงหน้าต่ออย่างไม่เร่งรีบเพราะพีราวัชรเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กว่าเขาจะขับรถมาถึงที่นี่ก็คงอีกนานเมื่อทำงานตรงหน้าเสร็จแล้วหญิงสาวก็เข้าห้องน้ำสำรวจความเรีย
เกือบสิบโมงเช้าของวันใหม่สองหนุ่มสาวก็ยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง ความสุขที่มีร่วมกันมันมากมายราวกับเป็นความฝัน พิจิกาตื่นตั้งนานแล้วแต่เธอยังไม่อยากขยับออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา เธอเงยมองใบหน้าหล่อที่ตอนเช้าไรหนวดเขียวเริ่มเห็นชัดเจนและมันเพิ่มเสน่ห์ในตัวเขาได้เป็นอย่างดี หญิงสาวไล้มือไปตามสันกรามอย่างแผ่วเบา และคิดว่าถ้าเขาเอาใบหน้านี้ซุกไซร้ไปตามลำตัวเธอมันจะจั๊กจี้หรือเสียวซ่านมากแค่ไหน เธอสำรวจใบหน้าของเขานานไปหน่อยตอนนี้เจ้าตัวก็เลยและทำให้คนที่แอบมองต้องรีบหลบตา“แอบมองแบบนี้คิดอะไรอยู่”“ผิงไม่ค่อยได้เห็นเวลาหน้าคุณพีร์มีหนวดเลย ปกติคุณพีร์โกนทุกวันเหรอคะ”“ครับ ผมต้องโกนทุกเข้า”“อยู่ที่นี่กับผิงไม่โกนได้ไหมคะ ผิงชอบนะคะ มันเซ็กซี่ดีค่ะ”“ผมไม่อยากให้มันทิ่มผิงเวลาที่ผมจูบผิงนี่ครับ”“นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอกค่ะ นะคะ”“ก็ได้ครับแล้วถ้าเจ็บอย่ามาบ่นก็แล้วกัน”“แล้วผิงเคยบ่นให้คุณพีร์ฟังไหมล่ะคะ”“ไม่เลย ผิงไม่เคยบ่นว่าเจ็บ ผมไม่รู้เพราะผิงไม่เจ็บหรือเพราะผิงทนเพื่อผม”“ถ้าบอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ถูกหรอกค่ะ ผิงเจ็บแต่มันไม่มากถึงขั้นทนไม่ไหว คุณพีร์ทำให้ผิง
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในสภาพเปลือยเปลา พีราวัชรขึ้นมาคร่อมทับตัวหญิงสาว เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนบดจูบลงบนริมฝปากบางอยางดูดดื่ม มือหนาทั้งสองข้างคลึงเคลาสองปทุมอวบอิ่มอย่างมันมือ ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถันปลุกเร้าจนเสียงหวานครางระงม“อื้อ....”จูบจนพอใจเขาก็ลากไล้ความเปียกชื้นไปตามซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มดูดดึงไปตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ผิวเนียนนุ่มขึ้นรอยแดงไปทั้งทุกจุดที่ปากร้อนเลื่อนผ่าน ลากไล้มาจนถึงร่องปทุมอวบอิ่ม ลิ้นร้อนลากปัดป่ายบนยอดสีสวย ก่อนจะส่งปากร้อนครอบครองด้วยความเสน่ห์หาหญิงสาวได้แต่ดิ้นพล่านเสียงหวานครางเพื่อระบายความเสียว เขาหยอกเย้าดูดกินจนอิ่มหนำก็เลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ จนหยุดกลางขาเรียวทั้งสองข้าง เธอชันเข่าขึ้นอย่างรู้งานไม่นานความสุขก็แตกกระจายเข้าสู่กายของพิจิกา หญิงสาวหอบสะท้านก่อนจะถูกเขาโน้มกายลงหาตัวเธอนอนคว่ำไปกับที่นอน ขณะที่ท่อนเอ็นของเขายังคงกระตุกอยู่ในกายเธออย่างยาวนาน ปากร้อนพรมจูบลงบนแผ่นหลังอย่างหลงใหล“ผมไม่เคยเจอใครที่สุดยอดเหมือนคุณมาก่อน ที่รัก ผมรักคุณนะผิง”“ผิงก็รักคุณพีร์ค่ะ”พิจิกายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อชายหนุ่มถอด
เป็นครั้งแรกที่พี่จิกต้องนั่งเครื่องคนเดียวข้ามประเทศแต่พอลงจากเครื่องก็ได้เจอกับพีราวัชรที่รออยู่ตรงจุดรับกระเป๋า“บังเอิญจังเลยนะครับที่ได้เจอกันที่นี่”“ค่ะ บังเอิญมาก ว่าแต่จะบังเอิญพักที่เดียวกันด้วยไหมคะ” พิจิกาถามก่อนที่ทั้งสองจะเดินตามกันไปยังรถของโรงแรมที่จอดอยู่เที่ยวบินที่พวกเขาโดยสารมาเป็นเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิดึกที่สุดพอมาถึงสิงคโปร์และเข้าที่พักก็เกือบจะตีหนึ่ง โรงแรมที่ชายหนุ่มพาเธอมาพักเป็นโรงแรมหรูห้าดาวที่อยู่บริเวณอ่าวมารีนา สามารถมองเห็นวิวยามค่ำคืนรวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญอย่างสิงคโปร์ฟลายเออร์ได้อีกด้วย“สวยจังค่ะคุณพีร์ ผิงไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาพักโรงแรมหรูแบบนี้” พิจิกตื่นเต้นกับภาพความสวยตรงหน้า“ถ้าผิงชอบเราจะมากันทุกวันหยุด”“ไม่เอาหรอกค่ะ ราคาห้องมันคงแพงมาก”“แพงแค่ไหนผมก็ยอมจ่ายถ้าผิงชอบ” พีราวัชรเดินมาสวมกอดเธอด้านหลัง“ค่ะผิงชอบ แต่ถ้ามาบ่อยๆ ผิงกลัวว่าคุณพีร์จะหมดตัวเสียก่อน”“ถ้าผมหมดตัวผิงยังจะรักผมไหม”“รักสิค่ะ ผิงไม่ได้รักคุณพี่ที่เงิน”“ผมรู้ ผมถึงได้รักผิงมากยังไงล่ะ”“วิวสวยมากเลยนะคะ เหมือนอยู่บนสวรรค์”“เคยเห็นเหรอครับว่าสวรรค์เป
หลังจากเคลียร์เอกสารทุกอย่างเสร็จแล้วพีราวัชรก็เรียกกิ่งแก้วและพิจิกาเข้ามาในห้องทำงาน“นั่งก่อนทั้งสองคนนั่นแหละ”“ขอบคุณค่ะ/ ขอบคุณค่ะ” เลขาและผู้ช่วยเลขาพูดพร้อมกันก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะของรองประธาน“ผมอย่างจะถามคุณกิ่งว่าผ่านมาสองเดือนแล้วพิจิกาทำงานเป็นยังไงบ้าง”“น้องผิงทำงานเรียบร้อยดีค่ะ เรียนรู้ได้เร็วมากค่ะ”“แล้วคุณมั่นใจไหมว่าถ้าคุณหยุดงานไปหกเดือนงานทุกอย่างจะไม่มีปัญหาอะไร”“กิ่งมั่นใจค่ะ ที่ผ่านมาน้องผิงไม่เคยทำงานพลาดเลย เธอรอบคอบและมีไหวพริบมากกว่ากิ่งด้วยซ้ำ”“ถ้าอย่างนั้นช่วงที่คุณลางานผมคงไม่ต้องหาใครมาเพิ่มใช่ไหม”“ผิงคิดว่าไหวไหม” กิ่งแก้วหันมาถามผู้ช่วย“คิดว่าไหวค่ะพี่กิ่ง”“ถ้าไหวก็ดี เอาล่ะเรื่องงานผ่านไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเรื่องวันหยุดยาว”“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพีร์”“ผมอยากให้คุณกิ่งช่วยดูให้หน่อยว่าหลังวันหยุดผมต้องไปเจอลูกค้าหรือไปตรวจงานที่สาขาไหนหรือเปล่า”“สักครู่นะคะ” กิ่งแก้วเปิดตารางงานของเจ้านายขึ้นมาดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเขาอีกครั้ง“คุณพีร์ต้องไปร่วมงานเปิดสาขาใหม่คู่ค้าที่สิงคโปร์ค่ะ”“เดี๋ยวผมจัดการจองตั๋วเองนะ”“ได้ค่ะ ครั้งนี้คุณพีร์จะใ