Masuk| เชื่อก็โง่ |
"น้องแคร์ เมื่อกี้ใคร รู้จักหรือเปล่า" พี่คริสถามหลังจากที่เราสองคนพี่น้องเดินมาตรง Lobby ภายในตัวคอนโด
"เปล่าค่ะ"
"หรอ แต่หนุ่มคนนั้นมองเหมือนจะรู้จักน้องสาวพี่นะ"
"ไม่หรอกค่ะ เพิ่งจะเจอกันเมื่อกี้" ฉันพูดปด ปิดกั้นเพื่อไม่ให้พี่คริสมีคำถามต่อ แต่จะว่าไปฉันก็ไม่ได้รู้จักกับพี่คาร์เตอร์เป็นการส่วนตัวจริงๆนี่หน่า คิดแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย
"อืม เดี๋ยวพี่โทรหาอินทีเรียก่อน" จากนั้นพี่คริสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาอินทีเรียที่นัดไว้
"ครับ...ถึงแล้วหรอครับ ผมกับน้องสาวอยู่ตรง Lobby ครับ"
หลังจากพี่คริสวางสาย "ใกล้แล้วถึง เรารอเขาตรงนี้เลยแล้วกันนะ" ฉันพยักหน้ารับ
ยืนรอเพียงไม่นาน ผู้ชายตัวสูงร่างกายกำยำภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวเดินเข้ามาภายในคอนโด
ฉันสะกิดพี่คริส "ใช่คนนั้นไหมคะ" พี่คริสหันไปมอง "ใช่"
"สวัสดีครับ คุณคริส" เขาทักทายพี่คริสก่อนจะหันมามองหน้าฉัน "น้องสาวคุณคริสหรอครับ"
"ใช่ครับ น้องแคร์น้องสาวผม" พี่คริสแนะนำตัวฉันให้อินทีเรียรู้จัก
"สวัสดีครับน้องแคร์ ไม่ยักรู้เลยว่าคุณคริสจะมีน้องสาวน่ารักขนาดนี้" ในขณะที่เขาพูด เขามองหน้าฉันตลอดเลย
"สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้ เขาดูน่าจะอายุพอๆกับพี่ชายฉันนะ
"พี่ชื่อพอร์ชครับ" เขาแนะนำตัวเองให้ฉันรู้จัก แล้วนี่เขาจะจ้องหน้าฉันอีกนานไหม
อะแฮ่ม~ พี่คริสกระแอมแล้วมองหน้าพี่พอร์ช
"ขึ้นห้องกันดีกว่าครับ" พี่คริสโอบไหล่ฉันเดินไปที่ลิฟต์โดยมีพี่พอร์ชเดินตามหลัง
เราสามคนมายืนอยู่หน้าลิฟต์ "น้องแคร์อยู่มหาลัยอะไรครับ" เป็นพี่พอร์ชที่ถามขึ้น
"มหาลัยA" พี่คริสตอบแทนฉัน
"ปีไหนครับ"
"ปีหนึ่ง" พี่คริสก็ตอบแทนฉันอีก ทำหน้าที่พี่ชายได้ดีมาก พี่พอร์ชเขาถามฉันนะ ฉันเลยดูเหมือนคนเป็นใบ้ไปเลย แต่ดูจากอาการพี่ชายตอนนี้ ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิดพี่คริสคงกำลังหวงน้องสาวตัวเองใช่ไหม โอบไหล่ฉันไม่ปล่อยเลย
ติ๊ง~
"เชิญครับ" พี่พอร์ชผายมือเชิญให้ฉันกับพี่คริสเข้าลิฟต์ ก่อนที่พี่พอร์ชจะเดินตามเข้ามาทีหลัง
ในระหว่างที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดสนิท อยู่ ๆ ประตูลิฟท์ก็เปิดออกอีกครั้ง
"พี่คาร์เตอร์" ฉันตกใจอุทานชื่อพี่เขาออกมา บ้าจริง นั่นทำให้พี่คริสปล่อยแขนลงแล้วหันมามองหน้าฉัน
"ชั้นไหนครับ" พี่พอร์ชถาม เพราะพี่เขาอยู่ใกล้ปุ่มเลขลิฟต์
"ชั้นหก" ค่อยโล่งอก ฉันอยู่ชั้นเก้ายังดีที่ไม่ได้อยู่ชั้นเดียวกัน ฉันไม่กล้าสบตาไปมองเขา เลยแหงนหน้ามองตัวเลขลิฟท์ที่อยู่ด้านบน
2
3
4
5
6
ติ๊ง~
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด "แฟน?" อึก~ เสียงห้วนๆของพี่คาร์เตอร์เอ่ยถาม ทำไมเขาไม่ออกไปล่ะ จะหันมาถามฉันทำไม
ฉันจึงมองหน้าพี่คริสก่อน แต่พี่คริสมองกลับไปยังพี่คาร์เตอร์แล้วถามเสียงเข้ม "มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"แฟน?" เขาไม่ตอบคำถามพี่คริส แต่กลับจ้องหน้าฉันเพื่อเอาคำตอบ
"พี่ชายค่ะ"
"อืม" เขาตอบสั้นๆก่อนจะเดินออกจากลิฟต์
เมื่อประตูลิฟต์ปิดลงพี่คริสถามคำถามฉันทันที "ตกลงรู้จักกันหรือเปล่า" เพราะพี่คาร์เตอร์คนเดียวเลย พี่คริสถึงได้สงสัย
"ไม่รู้จักค่ะ" ฉันยังคงเลือกที่จะพูดโกหก
"แล้วเขาถามทำไม" พี่คริสถามเสียงแข็ง
"แคร์ไม่รู้"
อีกด้าน
คาร์เตอร์กลับขึ้นมารอช่างบนห้อง แต่ในขณะที่รอช่างไฟมา เขาหาสาเหตุของไฟที่ดับไปด้วย อยู่คอนโดมาตั้งหลายปีไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จริงๆมันไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าของห้องที่จะมานั่งหาสาเหตุ แต่ในตอนนี้เขารอช่างนานเกินไปแล้ว
ก่อนที่เขาจะลงไปสำนักงาน คาร์เตอร์เดินไปดูคัทเอาท์ก่อนอันดับแรกมันก็ไม่ได้เด้งตกลงมา คาร์เตอร์เลยหาสาเหตุด้วยตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ที่ลงไปที่สำนักงานยังไม่มีใครแจ้งว่าไฟดับ แล้วทำไมห้องเขาถึงดับได้ คนกำลังจะงีบหลับแท้ๆ แอร์ในห้องดับแบบนี้เขาจะหลับลงได้ยังไง
เพียงไม่นานเขาก็หาสาเหตุได้และไฟในห้องก็กลับมาติดอีกครั้ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เพิ่งจะมา นานฉิบ" ช่างไฟแน่ๆ ทำไมถึงเพิ่งมา เขาบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะเดินไปเปิดประตู
"ไฟติดแล้ว"
"อ่าว" ช่างไฟอุทานด้วยความงง
"กลับไปได้ละ ชักช้า" ช่างไฟยืนเกาหัวแกรกๆ ก่อนที่คาร์เตอร์จะปิดประตูใส่ช่างไฟ แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอนตัวเอง
ในขณะที่คาร์เตอร์ล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง ในหัวพลันให้เขานึกถึงหน้าหญิงสาวที่ชื่อแคร์ "พี่ชาย? เชื่อก็โง่" เขาพูดดูถูกหญิงสาวที่เพิ่งเจอกันในลิฟต์ทเธอมาพร้อมกับผู้ชายอีกสองคน ในสมองตอนนี้เขาคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ แล้วยังขึ้นคอนโดไปพร้อมกันอีก มันจะเป็นอะไรได้นอกจาก...
°°°°°°°°
ตอนพิเศษ [เฉพาะกิจ] 7จบบริบูรณ์อันดาขับรถกลับคอนโดด้วยหัวใจที่เต้นแรง เดมี่สาวน้อยที่เขาแอบชอบตอนนี้โตเป็นสาวมากแล้ว ถึงจะเห็นเธอไกลๆ เขาก็จำลักษณะและรูปร่างของเธอได้ร่างหนาเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว นึกถึงใบหน้าสวยหวานครั้งล่าสุดที่ได้เจอเธอก็หนึ่งปีที่ผ่านมา เพราะเธอต้องไปเรียนอยู่โรงเรียนประจำ ส่วนเขานั้นก็เตรียมตัวอ่านหนังสือสอบเพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย"พี่ชอบเดมี่" ปากหนาเปล่งเสียงบอกความรู้สึกในใจเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ห้วงแห่งความฝัน ฝันที่จะได้เป็นผู้ชายในฐานะคนรักของเธอ แต่ทว่าความฝันในจินตนาการของเขาก็ต้องดับลงด้วยเสียงของโทรศัพท์ที่ดังขึ้น"ใครโทรมาวะ" ปากหนาบ่นแล้วเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ"โทรมาทำไม" น้ำเสียงทุ้มหงุดหงิดพูดส่งไปยังปลายสาย..."เห็นแก่กินจริงๆเลย"..."เออๆรู้แล้ว เดี๋ยวซื้อเข้าไป"สายเมื่อครู่ที่โทรเข้ามาคือน้องสาวของอันดา เธอฝากซื้อขนมเค้กสตอเบอรี่ร้านโปรด"เค้กสตอเบอรี่สองชิ้นครับ" อันดายืนหน้าเคาน์เตอร์แล้วสั่งเค้กชิ้นโปรดให้กับฟ้าใสทว่าจู่ๆกลับมีเสียงซุบซิบนินทาของผู้หญิงหลุ่มหนึ่งกำลังนินทาเขาอยู่ในระยะใกล้อันดาได้ยินคำนินทาทุกคำ และเธอพวกนั
ส่วนฟ้าใสลูกสาวคนเล็กเธอเป็นสาวหน้าหวานเหมือนกับฉันไม่มีผิด แต่นิสัยกลับไม่เหมือนฉันเลยสักนิด ออกจะเอาแต่ใจเสียด้วยซ้ำไป แล้วก็ชอบทำอะไรที่มันท้าทายอย่างเช่น แข่งรถ อะไรที่เสี่ยงตายเขาชอบหมด แค่คิดก็เป็นห่วงกลัวเธอจะทำอะไรโลดโผน"พี่เตอร์คะ แคร์เป็นห่วงลูกจังเลยค่ะ""พี่เองก็เป็นห่วง เราตัดสินใจลองให้เขาได้ใช้ชีวิตกันเองไปสักพัก ให้ลูกๆของเราได้ดูแลตัวเอง ตัดสินใจอะรได้ด้วยตัวเอง พี่เชื่อว่าลูกของเราแกไม่ทำตัวเหลวแหลกแน่นอน คนเป็นพ่อเป็นแม่ทำได้แค่คอยดูพวกเขาเติบโตอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ แต่ถ้ามันไม่เวิร์คเราก็ค่อยคุยกับพวกเขาอีกที""ค่ะ"หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่กลับไป อันดา ฟ้าใส เปิดกระเป๋าเก็บของใช้ส่วนตัวไว้ห้องใครห้องมัน"ฟ้าใส เดี๋ยวพี่มา" อันดาเดินเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของน้องสาว"จะไปไหน นัดสาวไว้หรือไง คุณพ่อคุณแม่เพิ่งจะกลับไป จะหนีเที่ยวแล้วงั้นสิ""ไม่ได้เที่ยวไหนหรอกหน่า แค่จะไปทำธุระนิดหน่อย""พี่เนี่ยนะ ทำธุระ ธุระอะไร""เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่เกี่ยว""โห ดูพูดเข้า เกิดก่อนนาทีเดียว คิดว่าเป็นผู้ใหญ่อายุหกสิบหรือไง""เอาหน่า เดี๋ยวพี่มา ไม่ได้ไปเที่ยวไหนหรอกหน่า"อันดาบอกใ
ตอนพิเศษ 6 [เฉพาะกิจ]เด็กผมเปีย ฉันกับพี่เตอร์และลูกๆขึ้นมายังห้องคอนโดของเจ้าสองแฝดเพื่อมาตรวจความเรียบร้อยภายในห้องก่อนจะกลับถึงคราวที่ต้องปล่อยให้ลูกได้มีชีวิตอิสระ ถึงเขาสองคนจะโตพอที่ดูแลตัวเองได้ แต่คนเป็นแม่อย่างฉันกลับรู้สึกโหวงเหวงยามที่ต้องห่างลูก"ทุกอย่างครบนะลูก มีอะไรขาดเหลือก็บอกพ่อกับแม่นะ" คอนโดหรูใจกลางเมืองแห่งนี้เป็นคอนโดแบบสองชั้น ติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก และแน่นอนว่าคนที่จัดการก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสามีของฉันที่เป็นคนซื้อให้ตอนแรกอันดากับฟ้าใสจะขอแยกห้องอยู่ แต่ฉันค้าน ถึงเขาสองคนจะชอบทะเลาะกันแค่ไหน แต่ฉันเชื่อว่ายังไงลูกแฝดสองคนนี้จะต้องดูแลกันได้ แต่ทว่าความแสบเนี่ยสิ น่าจะกินกันไม่ลง คงไม่มีใครยอมใครภายในห้องคอนโดมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ลูกชายฉันชอบเล่นสนุ๊กเกอร์มาก ตอนอยู่ที่บ้านก็เล่นกับพ่อของเขาอยู่บ่อยๆ ลูกชายก็เลยขอโต๊ะสนุ๊กมาไว้เล่นที่ห้อง ส่วนลูกสาวเธอไม่ขออะไรมาก แค่อยากได้ทีวีหกสิบนิ้วเพื่อติดไว้ดูซีรีส์ตอนกลางคืนให้หนำใจทุกอย่างสะดวกสบายเหมือนได้อยู่บ้าน ห้องนอนก็มีสองห้อง อยู่ทางด้านชั้นบน แบ่งโซนของใครของมัน ต่างคนต่างอยู่ ข้าวของเครื่
ตอนพิเศษ 5 [เฉพาะกิจ]ท้องแฝดหลังจากวันที่เราสองคนแต่งงานกัน ฉันขอร้องพี่เตอร์ว่าขอทำงานที่โรงพยาบาลก่อนสักสองถึงสามปี แต่เขาต่อรองให้ฉันทำงานแค่หนึ่งปีเท่านั้น ตั้งแต่แต่งงานมาพี่เตอร์เอาแต่ใจมากๆ ถึงขนาดว่าฉันต้องเรียกเขามานั่งจับเข่าคุยกัน ถึงได้รู้สาเหตุว่าทำไมเขาถึงเอาแต่ใจไม่ฟังเหตุผล และไม่ยอมให้ฉันได้ทำงานในอาชีพที่ฉันรัก ร่ำเรียนมาหกปีขอใช้วิชาความรู้ได้ช่วยเหลือคนสักหน่อยเถอะและสาเหตุที่เขางอแงหนักขึ้นก็เพราะฉันเคยบอกเขาไว้ว่าจริงๆแล้วเสป็คของฉันชอบคนในเสื้อกาวน์ ขาวสะอาด ไม่ใช่เสื้อช็อป นั่นคือสิ่งที่ทำให้พี่เตอร์วิตกมาตลอดถึงได้คัดค้านไม่ให้ฉันมาทำงานที่โรงพยาบาลทำเอาฉันเกือบท้อเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมใจอ่อนทำตามคำขอของฉัน และแน่นอนว่าสิ่งที่เขาต่อรองทำเอาฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ระหว่างนี้เขายอมให้ฉันได้ทำงานอาชีพหมอตามที่วาดฝัน แต่ถ้าเกิดเขาเสกเด็กแฝดเข้าท้องได้เมื่อไหร่ ฉันต้องยุติบทบาทอาชีพหมอในทันทีหนึ่งปีผ่านไป ผลผลิตที่พี่เตอร์ตั้งใจทำตอนนี้มันออกดอกออกผลอย่างไม่น่าเชื่อ และฉันก็ต้องยุติบทบาทคุณหมอตามสัญญา เพราะฉันมีอาการเวียนหัวและอาเจียนหนักมากขึ้น ในคราแรกฉันคิ
ตอนพิเศษ 4 [เฉพาะกิจ]คืนวิวาห์ วันสำคัญที่ฉันและพี่เตอร์รอคอยก็มาถึง พิธีวิวาห์ถูกจัดขึ้นตามฤกษ์ที่คุณแม่ของเราทั้งสองคนเป็นคนหามาให้สถานที่งานมงคลจัดขึ้นที่โรงแรมชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศไทยในเครือ pya ซึ่งเป็นโรงแรมของครอบครัวพี่เดลที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคท่ามกลางเสียงเพลงหวานเคล้าคลอจากวงดนตรีออเครสต้า ทำให้บรรยากาศในงานอบอวลไปด้วยความสุข แต่ทว่าเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ข้างๆฉันก็ยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่งตั้งแต่ลงจากเวทีพิธีทุกขั้นตอนของงานวิวาห์จบลงเป็นที่เรียบร้อย เราสองคนจึงเดินไปตามโต๊ะแขกเหรื่อเพื่อขอบคุณทุกคนที่มางานมงคลสมรสของเราในวันนี้"พอใจไหมเพื่อน" พี่เดลเอ่ยถามเจ้าบ่าวที่ยืนแสดงสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับตบลงบนบ่าของเจ้าบ่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพี่เดลภูมิใจมากกับผลงานของตัวเอง เขาเป็นคนเสนอสถานที่และเป็นคนเนรมิตห้องบอลรูมออกมาสวยงามและอลังการมากๆ"อืม""อืมของมึงนี่พอใจหรือไม่พอใจวะ""เออ ขอบใจมาก" เขาไม่ตอบกลับว่าพอใจหรือไม่พอใจ พี่เตอร์ออกอาการเซ็งๆที่เพื่อนของเขาเจ้ากี้เจ้าการจัดให้ทุกอย่าง ก็เจ้าบ่าวของฉันอยากคิดคอนเซปต์เนรมิตงานแต่งด้วยตัวเองเพราะเป็นงานมงคลที่มีแค่ครั้งเ
"แคร์ พี่เอง" เหมือนฉันจะได้ยินเสียงพูดจากคนที่อยู่ในตัวพี่หมี"อะไรนะคะ""พี่เอง" เสียงจากด้านในเอ่ยบอกก่อนที่พี่หมีจะชี้ไปที่พี่ๆกลุ่มวิศวะหลุดขำกันออกมาเสียงดัง ฉันที่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ขนาดว่าพี่มารีเธอเองก็ยังยืนงง"หัวเราะอะไรกันคะ"พรึ่บ~"แคร์~" เมื่อคนข้างในตัวมาสคอตถอดหัวก็ทำเอาฉันตกใจมาก"พี่เตอร์" พี่หมีมาสคอตสีขาวที่อยู่ตรงหน้าฉันคือเขางั้นหรอ ใบหน้าหล่อเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเต็มหน้า"พวกมึง" เขาหันไปชี้หน้าคาดโทษพวกกลุ่มพี่ๆวิศวะ"พี่เตอร์ไปอยู่ในนั้นทำไมคะ""ก็พวกแม่ง...ช่างมันเถอะ เพราะตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญกว่า""..."เขาวางหัวมาสคอตหมีลงแล้วนั่งคุกเข่า "เอาของมา" เขาหันไปบอกกับพี่เลโอด้วยน้ำเสียงติดห้วน คงเพราะยังรู้สึกเคืองที่โดนเพื่อนแกล้งฉันเห็นพี่เลโอหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องเล็กๆยื่นมาวางไว้ที่มือของเขาที่กำลังสวมใส่ชุดมาสคอตอยู่ฉันที่เห็นเหงื่อผุดเต็มใบหน้าหล่อก็เลยเดินไปหยิบทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะแล้วเอามาซับหน้าให้เขา"น่ารักจัง""แล้วจะบอกแคร์ได้หรือยังคะว่าใส่มาสคอตทำไม มันร้อนมากเลยนะ ดูสิ เหงื่อเต็มหน้าเลย" ฉันบอกในขณะที่กำลังซับเหงื่อบนใบหน้าให้ก







